ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ฎีการักจากพระชายาบ้านนอก

    ลำดับตอนที่ #53 : 53. นั่นหรือพระชายาบ้านนอกของท่านอ๋องเจ็ดน่ะ!

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 10.02K
      628
      25 พ.ย. 63

    "..อย่างไรเสียพี่สาวก็จะให้เจ้าอยู่ค้างที่นี่ด้วยสักคืนสองคืนให้จงได้!"

    "ธุระอะไรนางจะต้องไปค้างที่วังของเจ้าด้วย!?"

    จ้าวฝูหมิงเอ่ยขึ้นอย่างอดไม่ได้ ดวงตาสีเข้มเจือด้วยโทสะฉายฉาน หากเมื่อขยับจะเอ่ยตำหนิสตรีจุ้นจ้านออกไปเพิ่มเติม..ก็กลับรู้สึกได้ถึงมือที่เกร็งขึ้นของหม่าชิงอี๋ที่ยังอยู่ในมือตนยามนี้จึงจำต้องเอ่ยตัดบทราวกับมิได้ไยดี 'ผู้ใด' อีกครั้ง

    "แต่ก็ช่างเถอะ! ระวังหน่อยก็แล้วกัน..นางมิได้คุ้นเคยกับชีวิตเยี่ยงเราๆนัก เจ้าอาจจะต้องเหนื่อยหน่อยล่ะ!"

    แม้เจตนาที่แท้จริงเพียงต้องการส่งสารเตือนถึงสหายวัยเยาว์ให้ช่วยดูแลหวางเย่หลิงให้รอบคอบรัดกุมขึ้น แต่ด้วยข้อจำกัดบางอย่างก็ทำให้จ้าวฝูหมิงเอ่ยอะไรออกมาไม่ได้มากนัก และนั่นก็ดูเหมือนจะกลายเป็นเรื่องผิดพลาดอีกประการหนึ่งของเขาในวันนี้ เพราะเพียงวาจาที่ตีความนัยได้หลายอย่างนั้นจบลง.. สีหน้าของหวางเย่หลิงก็กลับหมองลงอีกครั้ง...

    "ขอประทานอภัยเพคะ... หม่อมฉันจะพยายามไม่ทำให้พระองค์หรือใครๆต้องเดือดร้อนหรืออับอายอีก..." เสียงหวานกล่าวคำยืดยาวออกมาอย่างที่จ้าวฝูหมิงต้องการแล้วจริงๆ... แต่น้ำเสียงนั้นกลับเจือด้วยความหม่นเศร้าอย่างที่เขามิอยากได้ยินเลยสักนิด!

    "เรา..."

    "ไม่เป็นไรหรอกเย่หลิง! เดือดร้อนอับอายอะไรกัน!? ดูสิ! ตรงนี้เจ้ายังมีพี่สาวอยู่อีกคนมิใช่หรือไร!?"

    ฃสหลิวฉานเหยาเอ่ยแทรกขึ้นอย่างนึกโมโหแทนน้องสาวคนงามของตนพลางเข้ามากุมมือเล็กไว้อย่างถือสนิท

    "เหยาเอ๋อร์..นั่น..."

    "จริงอย่างที่ฉานเหยาว่ามานั่นล่ะพ่ะย่ะค่ะ!" จ้าวฝูหมิงรีบตัดบทเมื่อเห็นเสด็จพี่ของตนเริ่มมีท่าทีว่าจะเผลอเอ่ยอะไรออกมา... ดวงตาสีเข้มจับจ้องมองใบหน้างามที่ก้มต่ำลงอย่างลึกซึ้งแวบหนึ่งก่อนจะหันกลับไปเอ่ยคำด้วยสีหน้ายิ้มแย้มกับสตรีข้างกาย "นางอยู่กับเหยาเอ๋อร์ของพระองค์เช่นนั้นแล้วก็ดีเหมือนกัน หม่อมฉันกับชายารักจะได้เข้าไปนั่งคุยในงานกันก่อน"

    "ชายารักอย่างนั้นหรือฝูหมิง!? นี่เจ้ากล้าเอ่ย..."

    "เหยาเอ๋อร์..." องค์รัชทายาทพลันตรัสเรียกไท่จื่อเฟยของพระองค์ขึ้นอีกครั้งในฉับพลัน "พวกเราพาเย่หลิงไปพบเสด็จแม่สักครู่หนึ่งก่อนเถิด"

    องค์ไท่จื่อจ้าวจื่อหานตรัสด้วยน้ำพระสุรเสียงอ่อนโยนขณะทอดพระเนตรมาเป็นเชิงขอร้องแกมบังคับจนพระชายาต้องยอมสงบคำลง จ้าวฝูหมิงจึงได้กุมมือหม่าชิงอี๋เดินไปยังลานจัดงานพิธีอีกทางด้วยท่าทางชิดเชื้อเสียจนจูชุนลี่น้อยที่ติดตามมาด้านหลังอย่างสงบเสงี่ยมเรียบร้อยโดยตลอดเริ่มออกอาการกระสับกระส่ายแทนเจ้านายของตน

    "พระชายาเพคะ..."

    "ลี่เอ๋อร์..อย่าได้เสียมารยาท"

    หวางเย่หลิงเอ่ยปรามสาวใช้ตัวน้อยก่อนจะค่อยๆก้าวเดินตามจ้าวจื่อหานและหลิวฉานเหยาเข้าสู่ตัวตำหนักอีกด้านไปอย่างเงียบๆ แต่นางคงไม่รู้ว่าน้ำเสียงเศร้าสร้อยและดวงตาหม่นหมองคู่นั้นทำให้ไท่จื่อและไท่จื่อเฟยทั้งสองพระองค์ต่างลอบสบเนตรกันด้วยความไม่สบายพระทัยเพียงใด... และทุกอากัปกิริยาของนางที่เกิดขึ้นนั้นได้ถูกเงาร่างหนึ่งนำความไปกราบทูลท่านอ๋องพระองค์เดียวของแคว้นเยว่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว!


    ----------------------------------------------------


    "นั่นหรือพระชายาบ้านนอกของท่านอ๋องเจ็ดน่ะ! ดูกิริยามารยาทก็งดงามดีอยู่นี่นา..."

    "งามก็งามจริงอยู่หรอก... แต่ก็เป็นเพียงบุตรีนายอำเภอเล็กๆเองนะ..จะสู้คุณหนูตระกูลหม่าผู้นั้นได้อย่างไรกัน!?"

    "นั่นสิ! ข้ายังได้ยินมาว่านางมิรู้ถ้อยธรรมเนียมใดๆที่พึงปฏิบัติเลยด้วยซ้ำ... ไม่รู้ว่าอยู่ที่บ้านนอกนั่นนางจะได้ร่ำเรียนหนังสือมาบ้างหรือไม่ด้วยสิ!"

    "ตายล่ะ! ถ้าเช่นนั้นจะมิเสื่อมเสียไปกันแย่หรือ? หรือว่าเดี๋ยวนี้มีแต่เพียงรูปโฉมงดงามอย่างเดียวก็เข้าสู่ราชวงศ์ได้แล้ว! ช่างโชคดีเสียจริง!"

    "โชคดีหรือร้ายก็มิรู้สินะ! ดูเหมือนว่าจะป่วยออดๆแอดๆอยู่เป็นนิจจนต้องตามหมอหลวงไปรักษาอยู่บ่อยๆ แถมท่านอ๋องก็มิโปรดเสียด้วย! มิเห็นหรือว่านางนั่งเงียบเชียบหน้าตาซีดเซียวอยู่คนเดียวอย่างนั้น"

    "เช่นนั้นก็แย่ล่ะสิ... แต่จะว่าไปก็ควรอยู่หรอก..คุณหนูหม่าออกจะพรั่งพร้อมเสียขนาดนั้น... ไหนจะมีท่านรองเจ้ากรมหม่าหนุนหลังอีกเล่า"

    "ไม่ได้..ไม่ได้... จะเรียกเช่นนั้นได้อย่างไรกัน? ต้องเรียกว่าพระชายารองสิ! ส่วนท่านหม่าก็เป็นพระสัสสุระไงเล่า!"

    "จริงด้วย! แล้วอีกคนนั่นล่ะ..เราควรจะเรียกอย่างไรดี?"

    "ก็พระชายาบ้านนอกไงล่ะ!" จากนั้นก็มีเสียงหัวเราะตามมาอย่างครึกครื้น...
    ........

    "พระชายาเพคะ..."

    จูชุนลี่ที่ยืนอยู่ด้านข้างเริ่มส่งเสียงเครืออีกแล้ว ถ้อยคำแสลงหูจากกลุ่มสตรีชั้นสูงพวกนั้น... แม้แต่ตนที่เป็นเพียงบ่าวยังรู้สึกทั้งโมโหทั้งเสียใจขนาดนี้..แล้วพระชายาเองเล่า...

    "พระชายา..อย่าสนพระทัยคนพวกนี้เลยเพคะ" หลัวจิ้งหยี่ที่ยืนอีกด้านก้มลงเอ่ยคำ "พวกนางมิน่าจะกล้าเอ่ยวาจาเช่นนี้ออกมาเอง เห็นได้ชัดว่ามีคนยุยงอยู่เบื้องหลัง..."

    "ไม่เป็นไรหรอก... เราก็เป็นอย่างที่เขาว่าจริงๆนี่นา" หวางเย่หลิงพยายามฝืนยิ้มขณะเอ่ยคำด้วยเสียงเบา

    "ใช่ที่ไหนกันล่ะเพคะ! พวกนั้นบอกว่าพระชายามิได้ร่ำเรียนหนังสือมาเสียด้วยซ้ำ..ทั้งๆที่พระองค์..."

    "ลี่เอ๋อร์..เจ้ามิใช่รับปากเราแล้วหรือไรว่าจะยอมสงบคำเชื่อฟังเรา เราถึงได้ยอมให้เจ้ามาด้วย"

    หวางเย่หลิงเอ่ยอีกครั้งทั้งที่ดวงตายังมืดหม่น หลังจากไปเข้าเฝ้าฮองเฮามาเมื่อก่อนหน้า..ทั้งองค์ไท่จื่อและไท่จื่อเฟยเสด็จร่วมทางมากับนางระยะหนึ่งก็ต้องทรงปลีกตัวไปที่อื่นก่อน หลัวจิ้งหยี่จึงได้พานางมานั่งอยู่ตรงนี้..ที่ที่ถูกจัดเตรียมไว้สำหรับบรรดาเชื้อพระวงศ์ทั้งหลาย... เพียงแต่บัดนี้..มีนางที่เป็นพระชายาบ้านนอกนั่งอยู่เพียงผู้เดียว... กับสายตารอบข้างที่จับจ้องมองมาอย่างเวทนาระคนเย้ยหยัน..แม้แต่ดูแคลนถึงปานนั้น... แล้วเขาเล่า..อยู่ที่ไหนกัน...?

    "พี่หญิงเพคะ..มาประทับอยู่ตรงนี้นี่เอง... นี่เพื่อนๆของหม่อมฉันเพคะ พวกนางอยากรู้จักพระองค์ หม่อมฉันเห็นว่างานยังมิทันเริ่ม..จึงได้พาพวกนางมาคุยด้วยเพคะ"
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×