ตอนที่ 71 : ตอนที่ 71
“เปล่า ผมหมายถึง ผมชอบคิง ไม่สิ หมายถึงอินชอบพี่มาร์ค” พูดจบก็ปล่อยรอยยิ้มกว้างจนเกือบจะกลายเป็นหัวเราะออกมาเมื่อเห็นสายตาที่เบิกกว้างขึ้นอย่างไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่เขาพูดของมาร์ค
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นหน้านิ่งเป็นหินอย่างพี่มาร์คเสียอาการขนาดนี้
อืม เขาชอบพี่มาร์คที่เป็นอย่างนี้ไม่น้อยเลยจริง ๆ
“ฮะ ๆ อุ๊บ” อินทัชส่งเสียงขำในลำคอออกมาได้ไม่ทันไรก็เป็นอันต้องดูดกลืนเสียงของตัวเองกลับไป เพราะคนที่นั่งแข็งค้างหมดมาดคนเย็นชาเมื่อไม่กี่วินาทีที่แล้วลุกขึ้นเต็มความสูง ก้าวเพียงสองก้าวก็สามารถรวบตัวอินทัชเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดได้
มาร์ครวบตัวคนร่างสูงโปร่งเข้าไว้ในอ้อมกอด แขนขวาโอบรัดรอบเอวจนลำตัวแนบชิดไร้ช่องว่างให้อากาศได้แทรกผ่าน แขนซ้ายจับเข้าที่ต้นคอขาว กดหน้าตัวเองลงต่ำ ประทับจูบแนบแน่นลงบนฝีปากที่ทำเขาไปไม่เป็นไปหลายลมหายใจ เค้นคลึงหยอกเย้าเอาแต่ใจสลับกับอ่อนโยนจนหัวใจของคนที่โดนประทับจูบแทบจะหลอมละลาย ดูดดุนริมฝีปากล่างอยู่ชั่วขณะก่อนจะสอดลิ้นร้อนชื้นเข้าไปหาความหวานจากโพรงปาก
คนที่โดนประทับจูบไม่ทันตั้งตัวเบิกตากว้างอย่างตกใจอยู่เพียงครู่เดียว ก่อนจะหลับตาพริ้ม เอียงใบหน้าให้ได้องศาที่พอเหมาะ ให้ความร่วมมือแต่โดยดี
นี่ไม่ใช่จูบแรกของพวกเขา แต่เป็นจูบแรกหลังจากที่ตกลงเป็นแฟนกัน
อืม หลังจากเป็นแฟนกันได้ไม่ถึงนาที
ตักตวงความหวานล้ำจากริมฝีปากของกันและกันจนพอใจ มาร์คก็ถอนจูบออกมาก่อน เขาเช็ดคราบน้ำลายที่ไหลจากมุมปากของอินทัชด้วยท่าทางอ่อนโยน แววตาทอประกายรักใคร่ เปิดเปลือยความรู้สึกของตัวเองมากกว่าที่ผ่านมา มากกว่าช่วงเวลาไหน ๆ
มากกว่าเมื่อชีวิตที่แล้ว
“พูดอีกครั้งสิ พูดประโยคก่อนหน้านี้อีกครั้ง” มาร์คพูดเสียงที่คิดว่าปกติที่สุด แต่คนฟังกลับสัมผัสได้ถึงความเว้าวอนในน้ำเสียงนั้น
อินทัชคลี่ยิ้มหวาน เขาเงยหน้าสบตากับดวงตาคู่คมที่เขาคราวนี้เขารู้สึกว่ามันสวยที่สุด มันไม่เหมือนหุบเหวลึกอันไร้ก้นบึ้งเหมือนเมื่อครั้งแรกเจอกัน มันเหมือนกับฟากฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว
“อินชอบพี่มาร์ค” เขาพูดดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นจริงใจที่สุด
สิ้นสุดประโยค ริมฝีปากที่ปลดปล่อยถ้อยคำอันทำให้หัวใจดวงแกร่งเต้นระรัวก็ถูกทาบทับอีกครั้งจากคนคนเดิม
มันร้อนแรงสลับกับนุ่มละมุนชวนให้ลุ่มหลงจนยากจะถอนตัวกลับมา
เวลาผ่านไปหลายนาทีกว่าที่คนสองคนจะยินยอมผละออกห่างจากกัน สีหน้าของคนตัวโตกว่ามีความเสียดาย อาลัยและไม่อยากจะห่าง แต่คนร่างสูงโปร่งกับถูกแต่งแต้มด้วยสีแดงระเรื่อ เมื่อความรู้สึกเขินอายกลับมาเยือนอีกครั้ง
อินทัชที่ยังคงอยู่ในอ้อมแขนแกร่งทิ้งหัวลงซบที่ลาดไหล่หนา แขนสองข้างที่ไม่รู้ว่าเลื่อนขึ้นไปโอบรัดเอวสอบตั้งแต่เมื่อไหร่ออกแรงกระชับแน่นขึ้น
“เต้นรำกันไหม” มาร์คถาม เมื่อนึกขึ้นได้ถึงอีกหนึ่งวิธีเดทใต้แสงเทียบแบบโรแมนติก
“อื้อ” อินทัชพยักหน้ารับกับไหล่แกร่งโดยที่ไม่เงยหน้าขึ้นมา
มาร์คคลี่รอยยิ้มที่มุมปาก ยกมือขึ้นสั่งการกับนักดนตรีที่ยังคงยืนรอรับคำสั่ง แต่สายตากับหลบมุมไปทางอื่นเมื่อเห็นเจ้านายเข้าสู่ช่วงเวลาส่วนตัวที่ชวนให้สะท้านไหวแทนเมื่อครู่นี้
สมกับเป็นมืออาชีพ เพียงแค่ได้รับสัญญาณ ท่วงทำนองแสนโรแมนติกก็ดังขึ้นอีกครั้ง
ร่างสองร่างที่กอดกันแนบแน่นไม่ได้ผละออกจากกันเพื่อตั้งท่าอย่างสามัญ อินทัชยังคงซุบซบอยู่แนบอกของมาร์ค ขาขยับก้าวตามการก้าวเท้านำของร่างสูง
อินทัชปล่อยตัวปล่อยใจเต็มที่
เขาทำตามคำพูดของมาดามนิลาอย่างเคร่งครัด
ฟังเสียงหัวใจของตัวเอง
ทำตามคำสั่งของหัวใจ ลืมเลือนถ้อยคำถามที่มีอยู่ในสมองไปจนสิ้น
ระหว่างเขากับพี่มาร์คจะเป็นยังไงต่อไป เรื่องระหว่างพิทักษ์ดำรงกุลและโอ คอนเนอร์จะไปจบลงตรงไหน
และพี่มาร์ครักเขาได้ยังไง อะไรที่ทำให้คนอย่างมาร์ค เมธัส โอ คอนเนอร์ รักเขาด้วยทั้งหมดของหัวใจและจิตวิญญาณ
“พี่อิ่มแล้ว” ร่างสูงแกร่งที่ยืนประชิดติดข้างหลังพูดเสียงทุ้มแนบใบหูใส่คนที่ยืนอยู่หน้าเตา
“ดื่มแต่แชมเปญจะไปอิ่มได้ยังไงครับ” อินทัชเถียงกลับน้ำเสียงเอือม เบื่อที่จะบอกให้คนถอยห่างออกไปเมื่อเขาขยับตัวทำอะไรไม่ถนัด
ถ้าคนจะทำตามที่เขาบอก ก็ทำตามตั้งแต่ที่เขาบอกให้นั่งรออยู่ข้างนอกแล้ว
ปากพูดมือที่ถือตะหลิวอยู่ก็ขยับพลิกไข่สีเหลืองทองในกระทะให้เป็นอีกด้าน
อือ เขาทานอาหารเมืองผู้ดี ส่วนพี่มาร์คก็ทานไข่เจียวไปแล้วกัน ใครใช้ให้เจ้าตัวไม่ยอมทานอะไรตั้งแต่แรกล่ะ
“อิ่มใจ” ไม่เพียงแค่พูดเปล่ายังเอื้อมมือไปปิดเตาแก๊สก่อนจะรั้งร่างสูงโปร่งให้หันมาหาตัวเอง โอบรั้งเข้าแนบชิด จับมือเรียวสวยของแฟนหมาด ๆ มาสัมผัสที่บริเวณหัวใจของตัวเอง
“เฮ้อ ลิเกมาก” อินทัชถอนหายใจแล้วพูดเสียงหน่าย ปกปิดความเขินอาย สะกดกลั้นรอยยิ้มเอาไว้
ไหน ใครเอาคิงผู้แสนจะเย็นชาคนนั้นไปที่ไหนแล้ว ทำไมเขาเห็นแต่พระเอกลิเกอยู่ตรงหน้าเขาเท่านั้น
มาร์คก้มจูบเบา ๆ ที่ริมฝีปากที่เอ่ยล้อคำพูดของเขา แล้วหัวเราะเบา ๆ เมื่อคิดว่าตัวเองเลี่ยนเป็นพระเอกลิเกไม่ต่างจากที่อินทัชพูดจริง ๆ
“ปล่อยได้แล้วครับ” อินทัชพูดเมื่อมาร์คดึงใบหน้าของตัวเองกลับไป เขาขยับขืนตัวออกห่างจากอ้อมอกที่อบอุ่นนั่น
มาร์คคลายอ้อมแขนให้อินทัชเป็นอิสระ ขยับตัวไปนั่งรอที่โต๊ะอาหารในห้องครัว
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาจะได้ทานข้าวในนี้
อินทัชตักไข่เจียวสีเหลืองทองที่ส่งกลิ่นหอมลงบนจานข้าวสวยร้อน ๆ ก่อนจะนำไปวางไว้ตรงหน้าของมาร์ค หลังจากนั้นจึงเดินไปเปิดตู้เย็นรินน้ำเย็น ๆ ใส่แก้วมาส่งให้
มาร์คมองตามการกระทำของอินทัชด้วยรอยยิ้ม แววตาทอประกายความสุข เขารักความรู้สึกในตอนนี้มากจริง ๆ มันเป็นความรู้สึกดี ให้อารมณ์เหมือนภรรยาที่คอยดูแลสามีที่เพิ่งกลับจากทำงาน หรือเตรียมมื้อเช้าเอาไว้ให้
“ยิ้มทำไมครับ ทานสิจะได้ไปอาบน้ำพักผ่อน” อินทัชที่นั่งลงฝั่งตรงข้ามพูดกับคนที่มีรอยยิ้มแตะแต้มริมฝีปาก ไม่ยอมลงมือทานข้าวที่อยู่ตรงหน้าเสียที
มาร์คไม่ตอบอะไร แต่ลงมือทานข้าวแต่โดยดี
สองคนภายในห้องครัวไม่รู้ว่าการกระทำของตัวเองตกอยู่ภายในสายตาของคนกลุ่มหนึ่งมาโดยตลอด
“ตามาร์คนี่ลูกคุณจริง ๆ นะคะ” มาดามนิลาที่นั่งยิ้มอยู่หันไปพูดกับผู้เป็นสามีที่กำลังอ้าปากหาวอยู่ข้าง ๆ
“รู้ ๆ แต่เราควรจะไปนอนได้แล้ว” คุณมิคาเอลพูดเสียงทุ้มต่ำ เขาไม่ได้นอนมาตั้งแต่คืนก่อน วันนี้ก็ประชุมทั้งวัน เจ้าลูกชายตัวดีที่ควรจะมาช่วยงานก็เอาเวลาไปเตรียมตัวทำดินเนอร์เพื่อเซอร์ไพรส์ลูกสะใภ้ของเขาจนทิ้งให้เขาทำงานอยู่คนเดียว เขาเองก็เพิ่งกลับมาก่อนหน้าเจ้าลูกชายตัวดีไม่กี่นาทีเท่านั้นเหมือนกัน
“วิชน์คิดว่าฉันควรเตรียมงานแถลงข่าวดีไหม ป่าวประกาศไปเลยว่าฉันมีลูกสะใภ้แล้ว” มาดามนิลาเลิกสนใจผู้เป็นสามีหันไปหาคนสนิทของลูกชายที่ยืนอยู่ในห้องนี้ด้วย
อัศวินทั้งสี่ของคิงอยู่ในห้องนี้ตามที่ถูกเรียกมาทันทีที่กลับมาถึงบ้าน ยืนดูเจ้านายและเจ้านายอีกคนที่เพิ่งเป็นหมาด ๆ พลอดรักกันอยู่ในครัวผ่านกล้องวงจรปิดตามคำชักชวน (บังคับ) ของมาดามนิลา นั่นทำให้พวกเขาได้เห็นมุมที่ยากจะเห็นของคิงอีกครั้ง
แต่ว่าหลังจากนี้พวกเขาคงจะได้เห็นมันบ่อย ๆ
อืม เหมือนได้เจ้านายคนใหม่ในร่างเจ้านายคนเดิม
ทั้งสี่คนลอบคิดในใจเหมือนกัน แต่ไม่มีใครดีใจเท่าโฬมอีกแล้ว ที่วันนี้คิงอารมณ์ดีเกินกว่าจะมาเอาโทษกับเขาที่ทำแผนเสียหาย ไม่สามารถปิดตาอินทัชเพื่อสร้างเซอร์ไพรส์ก่อน
“พรุ่งนี้มีงานเลี้ยงครับมาดาม” คำพูดของเจตวิชน์นั้นแปลได้สองความหมาย หนึ่งคือเป็นการตอบคำถามของมาดามว่าใช้โอกาสเปิดตัวอินทัชวันพรุ่งนี้ที่งานเลี้ยงเอาก็ได้ และสอง พรุ่งนี้เจ้าตัวต้องไปงานเลี้ยง รีบไปนอนได้แล้ว
แน่นอนว่าความหมายที่สองนั้นไม่ใช่ความในใจของเจตวิชน์แต่เป็นความในใจของคุณมิคาเอลที่อยากจะอุ้มเมียตัวเองกลับเข้าห้องนอนเต็มแก่แล้ว แต่ติดที่ยังคงเกรงใจ
อืม นี่ก็อาจจะเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่สองพ่อลูกมีความคล้ายกัน ซึ่งเหตุการณ์ในวันข้างหน้าจะเป็นเครื่องพิสูจน์ได้ว่ามาร์คนั้นเหมือนพ่อของเขาตามที่ผู้เป็นแม่พูดหรือไม่
เก่งมาจากไหน ก็เกรงใจเมียอยู่ดี
“นอนด้วย” ประตูห้องนอนที่กำลังจะถูกปิดลงถูกยับยั้ง ผลักดันโดยคนที่พูดประโยคเดิมมาเป็นครั้งที่สามแล้ว และก็ได้รับการปฏิเสธกลับไปเหมือนเดิมเช่นกัน
“ไม่ครับ กลับห้องตัวเองไปได้แล้ว ผมง่วง ผมอยากนอนแล้ว” คราวนี้น้ำเสียงของอินทัชหนักขึ้นมาในระดับหนึ่ง
“นอนด้วย” มาร์คไม่ยอมกลับห้องไปตามที่บอก เขายังคงพูดคำเดิมอย่างดื้อด้านในความรู้สึกของอินทัช
อินทัชกลอกตาไปมาก่อนจะเลิกดึงดันที่จะปิดประตู เขาขยับเท้าเดินเข้าไปแนบชิดคนที่จับประตูของเขาเอาไว้แน่นไม่ยอมให้เขาปิดประตูห้อง ขยับไปใกล้ เขย่งปลายเท้ายกมือขึ้นโอบที่รอบคอแกร่ง แนบชิดริมฝีปากตัวเองลงบนริมฝีปากสีคล้ำ ขยับเคล้นคลึงเบา ๆ
ดวงตาคู่คมเบิกกว้างขึ้นนิดหน่อยเมื่ออินทัชทำอย่างนั้นก่อนที่มือที่ยื้อประตูเอาไว้จะถูกดึงมาโอบรัดที่รอบเอวคอดโดยอัตโนมัติ เขาขยับริมฝีปากตอบโต้ และเมื่อรับรู้ถึงแรงบดเบียดช่วงล่าง ในลำคอแกร่งก็มีเสียงครางต่ำเล็ดรอดออกมา
ริมฝีปากของคนสองคนตอบโต้กันอยู่ช่วงเวลาหนึ่ง คนตัวโตถูกมอมเมาด้วยรสจูบที่ไร้เดียงสาและเงอะงะของอินทัช
คนไร้ประสบการณ์ที่พยายามจะเป็นผู้นำและมอมเมาคนมีความทรงจำจากชาติก่อน
สัมผัสกันจนอากาศที่ใช้หายใจไม่เพียงพอแล้ว อินทัชถึงได้เป็นฝ่ายถอดถอนจูบออกมาท่ามกลางความไม่พอของมาร์ค
มาร์คขยับมือจะรวบคนที่ตัวบางเข้าอ้อมกอดของตัวเองอีกครั้งแต่อินทัชที่วางแผนการเอาไว้อยู่แล้วขยับตัววูบเดียวก็พาตัวเองเข้าไปอยู่ใกล้ประตูห้องนอน กว่ามาร์คจะตั้งตัวได้ประตูห้องนอนก็ปิดดังปังหลังจากเสียงหวานที่มาพร้อมการกลั้วหัวเราะจบลง
“ฝันดีนะครับ”
นี่เป็นครั้งแรกที่เสือร้ายอย่างมาร์คพ่ายแพ้ให้กับลูกแมวอย่างอินทัช
ส่วนแมวตัวร้ายที่เอาชนะเสือร้ายมาได้ก็ยืนจับบริเวณหัวใจของตัวเองอยู่หลังประตู
หากเขาให้พี่มาร์คเข้ามานอนในห้องด้วยกัน เขาก็ไม่รู้ว่ามันจะหยุดแค่จูบเหมือนเมื่อครู่หรือเปล่า
เพราะหากพี่มาร์คเริ่มจริง ๆ เขาเองก็ไม่คิดว่าถึงตอนนั้นตัวเองจะปฏิเสธ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

สปอยน้องเก่งมากจ้า
อินทัช!
ถ้าเธอไม่รักชั้นจะรักแล้วนะ อบอุ่นอะไรเบอนี้
พากันสปอยน้องจ๊นนน