ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    #รอยสักจอน [JUNGKOOK X YOU] *tattoo Jeon*

    ลำดับตอนที่ #15 : Chapter Jeon : 14 [ 100% ]

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 8.09K
      582
      15 ก.ย. 62

    B
    E
    R
    L
    I
    N





    Chapter 14
















        เพราะคำว่ารักหรือขอโทษ เขาไม่เคยพูดมันเลยสักครั้ง...ฉะนั้น ฉันแน่ใจแล้วว่าเขาต้องการแค่นี้จริงๆ เขาคงไม่ต้องการที่อยากจะอยู่กับฉันไปตลอดชีวิตหรอก










        YOU




        ในที่สุด ท้องฟ้าของวันก็มืดดับลง ทิ้งไว้แต่แสงสลัวจากดวงจันทร์ที่ส่องประกายไปทั่วเกาะ...กลางดึกซึ่งไร้ผู้คนในหมู่บ้านออกมาเดินเร่ให้เห็น เพราะตอนนี้ทุกคนต่างพากันนอนหลับเพื่อเก็บพลังงานเอาไว้ทำงานต่อพรุ่งนี้


        แต่ผิดกับฉัน..ฉันนอนไม่หลับทั้งคืน



     
        ร่างเล็กพลิกตัวไปมาอยู่บนเตียง ก่อนจะใช้เท้าเตะผ้านวมผืนหนาออกแล้วลุกขึ้นนั่งท่ามกลางความมืดภายในตัวห้องนอน...ร่างบางกวาดสายตามองไปรอบๆห้อง เห็นแล้วก็เกลียด เกลียดตัวเองชะมัดที่กลับมาที่นี่ ทั้งๆที่ตั้งใจจะหนีกลับบ้านแท้ๆ เห้อ! ให้ตายเถอะ ตั๋วรถไฟ ฉันทิ้งไว้ที่บ้านของคุณโดยูง จะกลับไปเอาก็ไม่กล้า...สงสัยคงทำหายแล้วล่ะมั้ง





        "แค่2เดือน..ฉันขอเวลาแค่2เดือน ก่อนที่จะกลับ อยู่กับฉันแค่2เดือน หลังจากนั้นฉันจะปล่อยเธอไป" 






        "บ้าเอ้ย...."    แล้วทำไมฉันต้องคิดถึงประโยคบ้าๆนั่นด้วย มันดีอยู่แล้วไม่ใช่หรอที่จองกุกพูดแบบนั้น เพราะเมื่อเวลาแค่2เดือนจบไป ฉันก็ต้องกลับไปเรียนและกลับไปใช่ชีวิตตามปกติ เพียงแต่ว่าฉันท้องก็แค่นั้น..แล้วฉันจะบอกเพื่อนกับพ่อยังไงดีล่ะเนี่ย!


        "โอ้ยเคลียด!!!"    เสียงเล็กๆร้องโวยขึ้นอย่างลืมตัวว่านี่มันดึกมากแล้ว เสียงของฉันดังลั่นบ้าน และลืมไปว่าจองกุกนอนอยู่อีกฝั่งของห้อง..ให้ตายเถอะ ขืนหมอนั่นตื่นขึ้นมา ย่อมมีเรื่องแน่ๆ





        ตึก...




        ยังไม่พูดไม่ทันขาดคำ..เสียงฝีเท้าจากด้านนอกก็ดังเข้ามาใกล้เรื่อยๆ ร่างเล็กเบิกตากว้างก่อนจะค่อยๆขยับตัวถอยจนแผ่นหลังชนกับหัวเตียง ตอนนี้หัวใจของฉันเต้นรัวไม่เป็นจังหวะ ในหัวสมองคิดฟุ้งซ่านไปหมดแล้วว่าเขาจะเข้ามาด่าฉันมั้ย


        อึก! ไม่สิ!..ครั้งนี้ฉันไม่ยอมโดนด่าแน่!!...ฉันต้องสู้สิ!




        แอด...



        "ขะ..เข้ามาทำไม!?"    ดูเหมือนฉันจะร้อนตัวจนออกหน้าออกตา เมื่อเห็นจองกุกเปิดประตูออก เขาขมวดสงสัยก่อนที่จะเดินเข้ามาในห้องแล้วปิดประตูลง ส่วนฉันเองดันปิดปากเงียบก่อนจะพาร่างของตัวเองลงจากเตียงและยืนขึ้นเต็มความสูง


        ดึกๆแบบนี้ฉันไม่อยากเจอหรือเห็นหน้าเขา ฉันยังอยากอยู่คนเดียว..เราคุยเรื่องนี้กันไปแล้วหนิ



        "ฉันได้ยินเสียงเธอร้อง..."    จองกุกเอ่ยด้วยน้ำเสียงตื่นๆเล็กน้อย พลางเดินเข้ามาจับตัวร่างเล็กออกห่างจากขอบเตียง มือหนาบีบแขนอวบเล็กเบาๆ ก่อนที่จะโน้มตัวลงมาใกล้


        "ไม่ต้องมายุ่ง!"    คนตัวเล็กย่นคอหนีพลางเบือนหน้าไปทางอื่น แต่ตองกุกก็กลับเอาหน้าเข้ามาใกล้แล้วตามมาไม่เลิก


        "ทำไม ถามแค่นี้มันจะตายรึไง!"


        "อึก! อย่ามาขึ้นเสียงกับฉันนะ! ก็เราคุยกันแล้วไม่ใช่รึไงว่าอย่าเข้ามายุ่งเรื่องส่วนตัวน่ะ!"    ร่างเล็กสะบัดแขนออกจากมือของจองกุก แล้วถอยห่าง



        ก็มันจริงหนิ เราคุยกันแล้วไม่รึไงว่าอย่าเข้ามายุ่งเรื่องส่วนตัวกันอีกน่ะ เพราะรู้ไปมันก็ไม่มีประโยชน์เพราะยังไงซะเราสองคนก็ไม่ได้เป็นอะไรกัน เพราะฉะนั้นต่างคนต่างไม่ควรรู้เรื่องส่วนตัวของกันและกัน มันจะดีกว่า..แล้วที่สำคัญ เหตุผลนี้มันอาจเป็นเหตุผลที่ดีที่จะทำให้ฉันลืมความรู้สึกดีๆก็เป็นได้



        "เดี๋ยว...ทำไมฉันจะรู้เรื่องของเธอไม่ได้..มานี่!"    ร่างสูงพุ่งเข้ามากระชากร่างเล็กเบาๆก่อนที่จะดึงตัวฉันเข้าไปใกล้ ฉันพยายามที่จะดิ้นให้หลุด แต่จองกุกก็ดันยืดแขนเข้ามาโอบเอวเล็กๆพร้อมดึงเข้าไปแนบชิดกับลำตัว


        "อ๊ะ! นี่ปล่อยนะจองกุก..ทำไมไม่เคยมีเหตุผลกันบ้างเลยห้ะ!"    กำปั้นเล็กทุบตีที่ต้นแขนของร่างสูง จองกุกไม่ฟัง ทำหูทวนลม ก่อนที่จะล้มตัวลงบนเตียงโดยที่มีฉันนอนทับอยู่บนตัวของเขา


        เอาอีกแล้วนะ! ทำไมชอบทำเรื่องแบบนี้อยู่เรื่อย ฉันล่ะไม่เข้าใจอารมณ์นายจริงๆเลยจองกุก!!


        "ฉันบอกไปแล้วหนิว่าฉันไม่เคยมีเหตุผลต้องบอกเธอ..เธอนั่นแหละที่คิดไปเอง เลิกมโนได้แล้วยัยบ้า ฉันไม่ทำอะไรเธอหรอก"


        "โกหก..ฉันเชื่อนายไม่ได้หรอก!"    ฉันยังคงปฏิเสธเต็มปาก จนกระทั่งได้ยินเสียงถอนหายใจเฮือกใหญ่ของจองกุกจรดลงบนหัวของฉัน ก่อนที่เขาจะค่อยๆพลิกร่างของฉันให้นอนลงบนเตียง ล้มลงนอนข้างๆตัวเขาแต่ยังคงถูกกอดอยู่ในอ้อมแขน



        เอาอีกแล้ว..ความรู้สึกพวกนี้มันกลับมาเล่นงานฉันอีกแล้ว



        นายจะมาไม้ไหนอีกล่ะจองกุก..ทำดีกับฉันทำไม



        "บอกให้ปล่อย!"


        "เงียบ!! หนวกหู..."


        "หนวกหูสิดี นายจะได้ออกไปจากห้องฉันสักที!!"    ฉันตะโกนใส่หูจองกุก จนเขาต้องโยกตัวหนีแล้วกลับเข้ามาใกล้ฉันอีกครั้ง


        บ้าเอ้ย!..


        "นายนี่มัน...."


        "ชู่ว! เงียบ เธอมัาคุยไม่รู้เรื่อง นอนไป รำคาญ"    จองกุกบ่นขึ้นพลางปิดตาลง ขณะที่กอดรัดตัวฉันไว้ในวงแขน



        ร่างกายปฏิเสธการกระทำ แต่ทำไมความรู้สึกของฉันยังคงตอบสนองความต้องการอยู่ตลอดเวลา ฉันเองไม่เข้าใจความรู้สึกตัวเองจริงๆเลยว่าทำไมถึงได้ตัดใจยากเย็นขนาดนี้....บอกได้เต็มปากว่า 'รัก' แต่รักไปมันก็ไม่ได้ประโยชน์ สู้เก็บความรู้สึกนี้ไว้จะดีกว่า



        บรรยากาศบนเตียงเงียบสงัด ลมหายใจของจองกุกจรดลงต้นคอของฉันระหว่างที่เขานอนหลับไปเสียดื้อๆ หลับยังไม่พอยังนอนดิ้นแล้วมากอดฉันไว้อีก..แบบนี้มันอึดอัดนะ หายใจลำบากชะมัด



        "เห้อ!.."    คนตัวเล็กพ้นลมหายใจออกมาอย่างหมดปอดก่อนจะตัดสินใจพลิกตัวนอนหันหลังให้จองกุก ขณะที่แขนใหญ่ของจองกุกกอดตัวฉันไว้หลวมๆ..ง่วงแล้ว ไม่อยากคิดให้ปวดหัว



        ฉันว่าฉันควรนอน...






        เมื่อหญิงสาวหลับไป ชายหนุ่มก็ลืมตาขึ้น...จองกุกรู้สึกตัวตื่นขึ้นพลางขยับตัวเข้าใกล้แผ่นหลังบางๆจนกระทั่งร่างกายของทั้งสองนอนแนบชิดเข้าหากันใกล้ ก่อนที่มือหนาอีกข้างของเขาจะยกขึ้นดึงผ้านวมผืนหนาห่มร่างบางเอาไว้ถึงต้นแขน

        จองกุกตัดสินใจลุกออกจากเตียง สายตาคมมองไปที่ลิ้นชักข้างตัวเตียงก่อนจองกุกจะเอื้อมมือออกไปดึงลิ้นชักไม้ออกปรากฏให้เห็นสมุดจดเล็กๆเล่มเก่าที่ถูกเก็บเอาไว้เป็นเวลานาน...



        "จอน จีฮเย..."    ริมฝีปากบางขยับขึ้นลงช้าๆ น้ำเสียงทุ่มพูดออกมาอย่างแผ่วเบาเพราะไม่อยากเสียงดังทำให้คนข้างๆตื่น...ตอนนี้ไดอารี่เล่มเล็ก แม่ของจองกุก อยู่ในมือของผู้เป็นลูกเป็นที่เรียบร้อย...เมื่อหลายวันก่อน ก่อนที่(ชื่อคุณ)จะหนีออกไปจากบ้าน จองกุกบังเอิญเข้ามาในห้องนอนของแม่แล้วค้นเจอไดอารี่ เรื่องรางของแม่ที่จดเอาไว้ คือเรื่องราวต่างๆที่ท่านพบเจอเป็นพิเศษ แต่จองกุกไม่เคยเปิดอ่านมัน แต่ตอนนี้มันถึงเวลาที่เขาต้องเปิดอ่านเสียที เพราะทุกอย่างทำให้ชายหนุ่มอยากรู้กับสิ่งที่พ่อของตนนั้นพูดมานั้นเป็นความจริงหรือไม่ แม่กับ(ชื่อคุณ)เคยรู้จักกันจริงๆรึเปล่า ?



        พอตัดสินใจได้ จองกุกก็เริ่มเปิดอ่านหน้าแรก ช่วงแรกมันยังไม่มีเรื่องที่น่าตื่นเต้นอะไรมาก เขารู้สึกเฉยๆกับเรื่องที่เจอตอนนี้...จองกุกยังคงอ่านไปเรื่อยๆ จนเผลอไปสะดุดกับเรื่องต่อมา มันเป็นบันทึกเป็นปีที่เขาขึ้นชั้นมัธยมครั้งแรกที่โซล แต่ว่าแม่จองกุกไม่อยู่ เขาจำได้ว่าตอนนั้น จอน จีฮเย ไปเที่ยวพักร้อนที่ อิตาลี




        ' เด็กน้อยของฉัน


        เรื่องราวมันเกิดขึ้นเมื่อฉันได้ไปพบกับคนพิเศษ เธออายุน้อยกว่าฉันหลายปี แต่เธอสวยมากและเป็นคนดังในย่านชานเมืองสุดแสนเงียบสงบของเมืองอิตาลี วันแรกที่เรารู้จักกัน ฉันคิดว่าเธอยังสาวและสวยแต่น่าทึ่งเมื่อฉันได้รู้ว่าเธอมีลูกน้อยอายุเพียง3ขวบ เด็กสาวน่าตาน่ารัก ฉันหลงรักเธอตั้งแค่แรกเห็น เราได้รู้จักกัน สนิทกันมากขึ้นภายในเวลาแค่5วันก่อนที่ฉันจะกลับ และแล้วมันก็มีเหตุการณ์วันนึงหลังจากที่ฉันกลับมาบ้าน ฉันก็ล้มป่วยและพยายามที่จะเขียนไดอารี่นี้ให้จบ 


        เด็กน้อยของฉัน........




        '





        ทำไมหน้าต่อไปกระดาษมันขาด..เหมือนมีคนฉีกมันออกไป จองกุกต้องหยุดชะงักเมื่อตัวหนังสือนั้นมันหยุดตรงหน้าถัดมาและมีอีกส่วนหนึ่งที่โดนฉีกออกไป ชายหนุ่มพ้นลมหายใจออกมาอย่างเบื่อหน่ายเมื่อไดอารี่ของแม่นั้นหายไปครึ่งนึง เขาจึงอ่านต่อไม่ได้แล้วตัดสินใจเก็บสมุดนั้นลง


        "รู้จักกันได้ยังไงกัน?"   ชายหนุ่มทวนความสงสัยของตนอีกรอบ แล้วล้มตัวลงนอน 


        จองกุกพลิกตัวหันเข้ามองร่างบางด้วยแววตาที่เรียบนิ่ง อดที่จะยอมรับไม่ได้เลยว่าใจหายแปลกๆเมื่อรู้ว่า(ชื่อคุณ)นั้นหนีไปจริงๆ แม้แต่เยจินก็ไม่อยากนึกถึงเพราะเขารู้สึกว่าทางนั้นไม่สำคัญ...เพียงเพราะเป็นห่วงเลยรีบกลับไปหา แต่เชื่อสิ เยจินไม่ได้เจ็บอย่างที่จีมินขู่ไว้แน่ๆ เพราะจองกุกรู้ดีว่าพี่ชายของเขาไม่ทำให้ผู้หญิงคนเดียวต้องมาเจ็บปางตาย และจีมินไม่มีทางรู้แน่ๆว่าจองกุกทำกับ(ชื่อคุณ)ไว้มากขนาดไหน แล้วเยจินก็รู้แค่ส่วนนึงในตัวของจองกุกในด้านดีเท่านั้นเธอไม่เคยรู้และรับไม่ได้ว่าจองกุกไม่ได้นิสัยดีอย่างที่คิด เพราะฉะนั้นช่วงเวลาที่ผ่านมาจองกุกเพียงทำดีมาโดยตลอดและปกปิดนิสัยที่แท้จริงเอาไว้ เก็บกดเพียงคนเดียว


        ต่างจาก(ชื่อคุณ)ที่รู้ว่าตัวตนของเขานั้นแย่มากขนาดไหน ทั้งพูดทำร้ายจิตใจและร่างกาย แต่หล่อนก็ยังคงทนอยู่จนมาถึงทุกวันนี้...หากว่าเขาไม่รั้งเธอไว้ (ชื่อคุณ)คงหนีไปแล้วไม่กลับมาให้เห็นอีก



        แต่ทำไม..จองกุกถึงอยากให้(ชื่อคุณ)อยู่ข้างๆ




        เพราะความรู้สึกนี้รึเปล่า...ที่เขาเรียกว่า 'คิดถึง'








        1 เดือนแรก


        เปลือกตาหนาของชายหนุ่มเปิดขึ้นด้วยความหนักอึ้ง ร่างหนาขยับตัวอย่างเชื่องช้าพลางซุกใบหน้าลงที่เนินอกของคนตัวเล็กพร้อมซุกไปมาอย่างัวเงีย..เป็นอีกวันที่จองกุกนอนอยู่แบบนี้มาตลอด1เดือนเต็ม 1เดือนที่อยู่กับ(ชื่อคุณ)และนอนด้วยกัน จนลืมเหตุการณ์ที่ผ่านมาไปเลยสนิท จองกุกลืม (ชื่อคุณ)เองก็ลืมว่าในอดีตมันเคยเกิดอะไรขึ้นบ้าง เพียงแต่มีอีกอย่างที่ไม่เคยลืม นั่นก็คือความรู้สึก..ความรู้สึกที่ไม่มีวันเลือนลางและการทำใจไว้ของแต่ล่ะฝ่าย หากมีเรื่องเกิดขึ้นอีกข้างหน้าในอนาคต...ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นอีกครั้งหน้า จงจำไว้ว่าเราจะไม่ได้อยู่ด้วยกันแบบนี้อีก อย่าลืมสัญญาล่ะ จอน จองกุก




        ตึก ตัก ตึก ตัก


        "อ๊ะ...."   ชายหนุ่มสะดุ้งตัวเล็กน้อยเมื่อได้ยินเสียงเต้นของหัวใจที่ออกมาจากตัวของ(ชื่อคุณ) แต่ที่น่าแปลก จองกุกขมวดคิ้วเพราะรู้สึกว่าในกายของคนร่างบางนั้นมีเสียงอัตราการเต้นของหัวใจถึง2ดวง


        หัวใจ2ดวง...


        ใช่สิ ตอนนี้เราไม่ได้อยู่ด้วยกันแค่2คนหนิ..มีอีกชีวิตที่ยังไม่ออกมาลืมตาดูโลก แถมจองกุกลืมไปเสียสนิทว่า(ชื่อคุณ)ท้องกับตน เพราะที่ผ่านมาเขาไม่เคยสนใจใยดีเด็กในท้องเลยสักนิด แต่พอเมื่อเวลาผ่านไป ท้องของ(ชื่อคุณ)เริ่มนูนขึ้นเรื่อยๆแม้ว่ามันจะนูนไม่มากเท่าไหร่ก็ตาม แต่ทว่าตอนนี้ความรู้สึกของเขาเปลี่ยนไป เขากลับรู้สึกตื่นเต้นกับสิ่งมีชีวิตที่อยู่ในท้องของคนตัวเล็ก..สงสัยคงเป็นเพราะท้องกำลังป่องล่ะมั้ง จองกุกถึงได้ตื่นตาตื่นใจแปลกๆ



        "1เดือน..."    จองกุกขยับปากเล็กน้อย มือใหญ่เลื่อนลงจับท้องน้อยๆของ(ชื่อคุณ) เขาดึงมือกลับสักพักแล้วเอาวางลงอีกครั้ง


        ไออุ่นจากมือสัมผัสแตะลงเนินท้องสาว แล้วลูบวนไปมาช้าๆ ตอนนี้จองกุกรู้สึกดีชะมัด เพียงแค่สัมผัสเบาๆเขาก็รู้สึกได้ถึงความอ่อนโยนที่ถูกส่งออกมาจากข้างใน..นี่เป็นครั้งแรกที่จองกุกได้จับท้องของ(ชื่อคุณ)นานๆแบบนี้ อยากรู้จังว่าในนั้นจะเป็นยังไง จะเหมือนเด็กที่เขาดูที่โรงพยาบาลวันนี้รึเปล่านะ ?



        "อื้อ..อืม ทำอะไรของกุกเนี่ย?"    ร่างเล็กรู้สึกตัว ลืมตาขึ้นแล้วก้มมองการกระทำของชายหนุ่ม จองกุกชักมือกลับ อ้ำอึ้งไปอยู่นานแล้วยันตัวลุกขึ้นนั่ง..เจอแบบนี้เขาก็ทำตัวไม่ถูกน่ะสิ


        แล้วอีกอย่างอารมณ์คนท้องคงห้ามไม่ได้..ยิ่งอยู่ด้วยกันนานพฤติกรรมของร่างเล็กก็เริ่มเปลี่ยนไป ทั้งอารมณ์และคำพูด จนถึงขั้นเปลี่ยนจากคำว่า 'นาย' กลายเป็นเรียกสั้นๆว่า 'กุก' แทน



        "เปล่า...ตื่นแล้วก็ดี ไปอาบน้ำเถอะ"


        "ห้ะ?"


        "ไป อาบ น้ำ"


        "เดี๋ยวก่อน...!"    ร่างเล็กพึ่งตื่นได้ไม่นานก็ถูกอุ้มขึ้นท่าเจ้าสาวแล้วพาเดินหายเข้าไปในห้องน้ำ





        1เดือนเต็มที่ผ่านมา ฉันยอมรับว่าเราสองคนอยู่ด้วยกันโดยที่ไม่มีปากเสียงหรือทำร้ายร่างกายกัน ฉันแปลกใจไม่หายเมื่อจองกุกดูเปลี่ยนไป เขาดูควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้ ใจเย็นลง แต่ก็ยังคงความเกรี้ยวกราดไม่เลิก ชอบอารมณ์เสีย แต่ไม่บ่อยมากนัก..ฉันเองไม่รู้หรอกว่าเขาไปโดนอะไรมาทำไมถึงได้ดูเปลี่ยนไปมากขนาดนี้ แต่ฉันยอมรับนะว่ารู้สึกดีจริงๆที่เขาดีแบบนี้ด้วย สักครั้งในชีวิตอะเนาะ

        ซึ่งด้วยกาลเวลาที่เปลี่ยนไป ฉันก็บ้าดันเผลอไปเรียกเขาว่ากุกจนได้ พูดแล้วมันก็ติดปาก ทำไงดีฉันเอาคำนี้ออกจากปากไม่ได้ อย่าว่ากันเลยนะฮือT^T





        ซ่าาาา~


        เสียงน้ำกระทบลงอ่างเล็กๆ ห้องน้ำเล็กๆที่จองกุกอุส่าห์เบียดเข้ามาพร้อมกับฉัน..ตอนนี้เราสองคนนั่งอยู่ในอ่าง โดยที่ฉันโดนจองกุกจับแก้ผ้าทั้งๆที่ไม่เต็มใจเลยสักนิด

        "แยกกันอาบก็ได้มั้ง-_-"    ร่างบางมุ้ยปากพลางนั่งหันหลังให้จองกุก


        "ไม่...ปล่อยให้เธออาบคนเดียว ขืนล้มมาจะทำไง..."    จองกุกพูดพลางบีบครีมอาบน้ำกลิ่นหอมลงมือแล้วละเลงลงแผ่นหลังบางและลูบวนจนเกิดฟองสีชมพูอ่อน


        "เหอะ เป็นห่วงฉันหรอยะ?"


        "...."


        "เงียบ..."    ร่างเล็กยกคิ้วกวน พลางขยับตัวแล้วหันหน้าไปมองจองกุก..เขายักไหล่หนึ่งทีและไม่ยอมตอบคำถามของฉัน


        เหอะ อะไรวะ เลี่ยงคำถามอีกแล้ว-_-


        "อยู่เฉยๆ"


        "อ๊ะ! นี่!-*-"     



        แล้วงานนี้จะอาบน้ำเสร็จตอนไหน!?








        16 : 00 น.


        ร่างเล็กเดินปะทะลมทะเลเย็นๆในยามฟ้าเริ่มมืดลงทีละนิด ชายกระโปรงบางๆพลิ้วไปตามแรงลมไปอย่างน่าหลงใหล หญิงสาวหยุดเดินก่อนจะตัดสินใจนั่งลงบนผืนทรายช้าๆ


        ช่วงเวลานี้ ผีเข้าสิงจองกุก เขาพาฉันออกมานอกบ้านแล้วเดินเล่นจนฟ้าใกล้มืด...หึ นี่มันบ้าชะมัด เกิดอะไรขึ้นกับฉันเนี่ย^^



        "อ๊ะ!.."


        "อ่ะ ดื่มซะเดี๋ยวก็บ่นว่าร้อนอีก"    ขวดน้ำส้มเย็นๆชนเข้ามาที่เนินแก้มของคนตัวเล็ก ก่อนที่ชายหนุ่มจะโผล่มานั่งลงข้างๆแล้วขยับเข้ามาใกล้แทบจะสิงร่างกัน


        "ขะ..ขอบใจ กุกหายไปไหนมา?"    มือบางรับขวดน้ำส้มมาก่อนที่จะเปิดดื่ม


        "ก็ไปซื้อน้ำให้เธอไง เอ่อ แล้วหิวรึยัง?"


        "อื้อ นิดหน่อยอ่ะ..ฉันอยากกินข้าวผัดปู พาไปกินหน่อย"    ร่างเล็กทำเสียงอ้อนหน่อยๆเพื่อให้ได้ของกิน อยากกินอะไรก็ต้องได้กิน ฉะนั้นห้ามขัดใจ


     จองกุกพยักหน้าตอบรับคำขอ แล้วจู่ๆเขาก็ยืดแขนมารั้งเอวร่างเล็กเข้าไปใกล้ก่อนที่จะยกมือขึ้นประคองใบหน้าหวานแล้วบดริมฝีปากลงโดยที่ไม่ให้หญิงสาวตั้งตัวเลยแม้แต่น้อย คนตัวเล็กถูกฉวยริมฝีปากเอิบอิ่มและบดจูบลงอย่างต่อเนื่อง ริมฝีปากของชายหนุ่มประกบจูบอย่างโหยหากว่าทุกๆครั้ง จองกุกดันลิ้นเข้ามาใต้โพลงปากของหญิงสาวพร้อมลิ้นเล็กตวัดเข้าหาชายหนุ่มไม่ต่างกัน...ร่างบางเคลิ้มไปกับจูบที่จองกุกมอบให้ จนร่างกายอ่อนระทวยไปหมด


       
        "อึก!..พอแล้ว มันมากเกินไปแล้ว!"    ไม่นานนักจองกุกก็ผละจูบออก ให้ตายเถอะ! นี่ฉันทำอะไรของฉันเนี่ย!?..แล้วจูบตอบเขากลับทำไมกัน!-^-


        "หึ:)"


        "ยะ..ยิ้มอะไร! ปล่อยเลย! กุกทำมากเกินไปแล้ว!!"


        "พูดมาก! จับกดแมร่งตรงนี้เลยมั้ยห้ะ!?"


        "อย่า!!.."





        นี่มันอาจไม่ใช่ความฝัน แต่มันคือความจริงที่ฉันได้พบเจอ...เพียงแค่ช่วงเวลาสั้นๆ พระเจ้าได้กำหนดเอาไว้ คงเป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อเมื่อเราสองคนอยู่ด้วยกันมาถึงทุกวันนี้ แม้จะไม่มีสถานะใดๆเป็นตัวกำหนดเลยก็ตาม และฉันมั่นใจว่าฉันยังเป็นคนรักเขาอยู่ฝ่ายเดียว แอบยิ้มทั้งน้ำตามาโดยตลอด...แต่ตอนนี้เรื่องแบบนี้คงไม่มีอีกแล้ว ความสุขที่ไม่ได้มาจากความรักของอีกฝ่ายมันก็เจ็บ แต่คงเจ็บได้อีกไม่นานเพราะ...คำสัญญา
















        2 เดือนต่อมา...




        คำสัญญาที่จองกุกเคยพูดเอาไว้...


        เขาต้องปล่อยฉันไป..ปล่อยฉันให้เดินไปตามทางของตัวเอง และเขาก็ต้องกลับไปหาคนรัก อย่างถูกต้อง






        บรรยากาศภายในรถปกคลุมไปด้วยเงียบอย่างอึดอัด ขณะที่ตัวรถคันหรูของจองกุกกำลังติดไฟแดง ก็ไม่มีใครปริปากพูดเลยสักคำ..ตอนนี้ แค่ผ่านเส้นนี้ไปก็จะถึงคอนโด คอนใจกลางกรุงโซล สถานที่ที่เราอาศัยอยู่ แม้ว่าเราจะต้องเดินจากรถแล้วแยกทาง แต่ทว่าห้องฉันและห้องของจองกุกยังคงอยู่ตรงข้ามกันเสมอ..ซึ่งมันทำให้ฉันลังเลอยู่ไม่น้อยว่าเราจะมีโอกาสเจอหน้ากันอีกครั้ง


        ฉันควรทำยังไงดี...เคลียดชะมัด แล้วยังเรื่องลูกอีก


        "นะ..นี่...ฉันขอยืมโทรศัพท์หน่อยสิ"    เสียงของฉันพูดขึ้นอย่างลังเลใจ ฉันรวบรวมความกล้าออกไปเพื่อขอยืมโทรศัพท์เขา..ฉันตัดสินใจแล้วว่าจะไม่กลับบ้านหรือคอนโดไปสักพักใหญ่ๆ


        ตอนนี้ฉันต้องการที่พึ่ง...เพื่อรักษาอาการด้านจิตใจสักหน่อย



        จองกุกเงียบและหยิบสมาร์ทโฟนเครื่องบางมาให้ฉัน..ตั้งแต่ที่ปูซานจนมาถึงโซล เขาก็ยังไม่มองหน้าฉันอย่างตรงๆ พูดด้วยเป็นบ้างคำและเมินหนี แต่ก็ดีแล้วล่ะที่ทำแบบนี้ คงเป็นการตัดสินใจที่ดีที่สุดเท่าที่เคยเจอมา


        "ขอบใจนะ"


        "อืม..."



        ฉันคิดว่าฉันจะไปอยู่ที่อื่น โดยที่ไม่บอกใคร....
        
        
























    [ 50% ]












        YOU



        ระหว่างนั้นที่ร่างเล็กกำลังคุยโทรศัพท์ แต่ชายหนุ่มกลับเหลือบมองอยู่ตลอดเวลาขณะที่รถติดไฟแดง..จองกุกถอนหายใจหน่วงๆเล็กน้อยก่อนจะรีบเบือนหน้าหนีเพราะร่างเล็กคุยโทรศัพท์เสร็จก็หันกลับมาคืนให้กับเจ้าของทันที


        "ไม่ต้องส่งฉันลงคอนโดนะ ถึงป้ายรถเมล์ข้างหน้าจอดลงตรงนั้นแหละ..."    ร่างบางพูดออกไปด้วยน้ำเสียงนิ่งๆหลางเบือนหน้าออกไปมองวิวนอกรถ


        ตอนนี้เราไม่มีพันธะต่อกันแล้ว..ฉันไม่ควรไปใส่ใจกับคำพูดที่พูดออกไป จองกุกอาจต้องการแบบนั้นก็ได้


        "ทำไม...?"   เมื่อได้ยินเช่นนั้น ชายหนุ่มเป็นอันต้องคิ้วขมวดขึ้นมาทันที จองกุกอยากรู้ทำไมต้องไปส่งที่นั่น ทำไมไม่กลับคอนโด


        "เรื่องของฉัน"


        "ไม่..."


        "จองกุก!! มันเรื่องของฉันนายไม่ต้องมายุ่ง!!!"


        "(ชื่อคุณ)!..เธอเห็นฉันเป็นอะไรห้ะทำไมถึงได้พูดแบบนี้?"


        "นายไม่จำเป็นต้องรู้เรื่องของฉัน นี่มันชีวิตฉัน...ฉันจะไปไหนมันก็เรื่องของฉัน!"

        ฉันพยายามที่จะข่มอารมณ์ไม่ให้เดือดออกมามากกว่านี้ ฉันรู้ว่าคนท้องอารมณ์มักจะแปรปรวนเสมอฉะนั้นฉันยังไม่อยากมีเรื่องกับใครตอนนี้โดยเฉพาะจองกุก เขาน่าจะรู้ตัวดีว่าไม่ควรยุ่งเรื่องของฉัน เราไม่ได้เป็นอะไรกันแล้วฉันต้องสนด้วยหรอ ฉันต้องแคร์ความรู้สึกเขาหรอ ไม่..ไม่เลยสักนิด


        ในเมื่อเขาไม่เคยสนใจในความรู้สึกของฉัน..เขาก็ไม่สมควรที่จะรับมันเหมือนกับฉันที่เคยเจอมา



        "เธอคงตัดสินใจแล้วสินะ...."


        "ใช่ เมื่อก่อนฉันยอมรับว่าโง่มาก..โง่ที่รักคนเห็นแก่ตัวอย่างนาย แต่ตอนนี้คงไม่แล้วล่ะ ฉันไม่อยากกลับไปรู้สึกแบบนั้นอีก ฉันตัดสินใจแล้วว่าจะออกไปจากชีวิตนาย..ทำแบบนี้นายคงมีความสุข"    ฉันฝืนยิ้มบางๆแต่ก็ยังหลบหน้าเขาไม่ห่าง 


        ใช่ ฉันไม่อยากกลับไปรู้สึกแบบนั้นอีก ความรู้สึกที่ไร้ค่าและเจ็บปวด ทรมารแม้ยังรัก...ไม่มีใครอยากเจ็บแบบนั้นไปตลอดชีวิตหรอก ทุกคนก็ต่างคว้าหาความสุขเข้าหาตัวเองใช่มั้ยล่ะ ฉันเองก็เป็นแบบนั้น อยากมีความสุขไปตลอดชีวิตเหมือนกัน



        "..."


        "เลิกพูดเถอะ...เรารู้จักกันแค่นี้แหละ"




        เราคงมาถึงได้แค่นี้จริงๆ เราไม่ควรคาดหวังไปมากกว่านี้...







        ฉันต้องทนอึดอัดมาตลอดทาง จองกุกยอมขับรถมาจอดตรงป้ายรถเมล์อย่างที่ฉันบอก หลังจากนั้นเขาก็จากไปและนั่นเป็นสุดท้ายที่เราได้เห็นหน้ากัน


        ร่างบางเดินอ่อนแรงมาถึงเก้าอี้แถวๆข้างทางก่อนจะนั่งลงด้วยสีหน้าที่เหม่อลอย..ไม่นึกไม่ฝันว่าตัวเองจะมาถึงจุดๆนี้ได้ ถึงขั้นวิกฤตจนตัวเองมีลูกและไม่กล้าบอกใคร แม้กระทั่งพ่อแม่และคนที่รู้จัก แล้วชีวิตจะเป็นยังไงต่อ..ควรเดินหน้าและยอมรับความจริงสินะ



        ถึงอย่างนั้น..ฉันก็ต้องบอกทุกคนอยู่ดีว่าฉันท้อง




        "เมื่อไหร่จะมานะ..."    เสียงเล็กบ่นพึมพำก่อนจะมองไปรอบๆ ปรากฏว่าตอนนี้ยังไม่มีใครมา ฉะนั้นฉันต้องนั่งรออยู่คนเดียวไปสักพัก





         สิ่งที่ฉันกำลังทำอยู่ตอนนี้มันคงถูกแล้วล่ะ ขอหาที่พักตัวคนเดียวสัก2-3วันก่อนที่มหาลัยจะเปิด...







        เวลาผ่านไป10นาที ในที่สุดคนที่ฉันนัดเจอก็มาถึง นั่นก็คือคนรู้จักของฉันเองนานๆทีจะได้เจอกัน และหล่อนเป็นผู้หญิงไม่มีอะไรที่ฉันจะต้องกลัวหรอก...


        "มาแล้วๆ รอนานมั้ย โทษทีพอดีว่ารถติดน่ะ^^" เมื่อมาถึงหล่อนก็ตรงมาที่ฉันทันที ก่อนจะวิ่งมาหยุดตรงที่ฉันนั่งอยู่

        "ไม่ค่ะ" ร่างเล็กลุกขึ้นยืนก่อนจะส่งยิ้มบางๆให้กับหญิงสาวตรงหน้า

        "งั้นดีเลย ฉันเช็คให้เธอแล้วนะ มีห้องว่างพอดี ไปกันเถอะ!"

        "คะ ขอบคุณนะคะที่หาที่พักชั่วคราวให้กับฉัน"

        "ไม่เป็นไรหรอก แต่ว่าเธอจะไม่ให้ฉันบอกกับพ่อเธอจริงๆหรอเรื่องที่จะไปพักที่นั่นน่ะ?"

        "ไม่ค่ะ ฉันอยากอยู่คนเดียวสักพัก ไว้พร้อมเมื่อไหร่ฉันจะกลับไปเอง"

        "อื้ม ตามใจเธอก็แล้วกัน หน้าที่ของฉันก็มีแค่นี้ฉันไม่ควรไปก้าวก่ายชีวิตเธอมากกว่านี้...อ่ะ! ถึงแล้วๆ"





        เราสองคนคุยกันไประหว่างเดินทางไปที่พัก เผลอแปปเดียวก็มาถึง...ตากลมมองผ่านกระจกใจภายในตัวรถออกไปส่องบรรยากาศรอบกาย หมู่บ้านเล็กๆแถบชานเมืองห่างจากตัวเมืองไม่กี่กิโล แต่ว่ากลับมีสภาพแวดล้อมที่สดใส เต็มไปด้วยต้นไม้และสนามเด็กเล่นตั้งอยู่ใจกลางหมู่บ้าน...มีบ้านพักเพียงไม่กี่หลังให้ซื้อหรือเช่า





















































        ตัวรถขับมาจอดถึงบริเวณหน้าบ้านหลังหนึ่ง หญิงสาวทั้งสองเดินลงจากรถพร้อมกับข้าวของในเมื่อไม่มากนัก..ร่างเล็กเงยหน้ามองตัวบ้านชั้นเดียว ตกแต่งน่าอยู่ พื้นที่ใช้สอยเพียบ แถมยังมี Deck กว้างให้นั่งเล่นรับแขกสวย อ่า..ที่นี่ถูกใจฉันมากๆเลย^^


        "ลักษณะบ้านชั้นเดียว 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ พร้อมห้องพักผ่อน ห้องรับแขก ห้องครัว รับประทานอาหาร และระเบียง...พื้นที่ใช้สอย  172  ตร.ม. ราคาประมาณ 2.06 ล้านวอน...แต่ฉันให้เธออยู่ฟรีไปก่อน หากติดใจก็ซื้อให้นะหึๆ"


        "ได้เลยค่ะ เงินมันไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับฉันอยู่แล้ว^^"


         "จ้าแม่คนรวย~"


        รวยเงิน..ไม่ใช่ว่าจะมีความสุขเสมอไปนะ แต่เรื่องนี้มันเกี่ยวกันมั้ย ฉันชอบบ้านหลังนี้จริงๆหากอยู่แล้วติดใจฉันก็จะซื้อเอาไว้เป็นที่พักผ่อนชั่วคราว หรือบ้านหลังนี้เอาไว้มาพักผ่อนกับลูกกันแค่สองคน...คงอบอุ่นมากน่าดู













        18 : 00 น.


        การจัดการหาทุกอย่างให้เรียบร้อยนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ฉันต้องยืมโทรศัพท์ของหล่อนมาโทรบอกให้ลูกน้องคนสนิทเอาข้าวของมาให้ ทั้งเงินและรถ และแล้วเรื่องที่ฉันกะว่าจะอยู่ตามลำพังมันก็ไม่เป็นความลับอีกต่อไปเพราะพ่อฉันรู้เรื่องแล้ว รู้เรื่องตอนที่โทรไปขอเงินนั่นแหละ แต่ท่านไม่ว่าอะไรนะ ท่านออกจะดีใจด้วยซ้ำที่ได้รู้ว่าฉันยังมีชีวิตอยู่..ฉันอธิบายเรื่องทั้งหมดให้ท่านฟังด้วยความเชื่อใจ แต่ทว่ามีอยู่เรื่องหนึ่งที่ฉันไม่ได้บอกท่านก็คือเรื่อง 'ท้อง' ฉันยังไม่พร้อมจริงๆ..ขอหาทางออกให้ได้ก่อนนะคะคุณพ่อ ขอโทษนะคะที่ทำให้ผิดหวัง


        "เห้อ!!!" ร่างบางถอนหายใจออกมาด้วยความเหนื่อยกายอยู่ไม่น้อยหลังจากที่พึ่งกลับมาจากห้าง..ตอนนี้ฉันได้โทรศัพท์ใหม่แล้ว ที่นี้เหลือแค่ต้องนึกเบอร์ของคนอื่นๆให้ออกก็เท่านั้น





         เวลาล่วงเลยผ่านไป ร่างเล็กยังคงนอนพิมพ์ข้อมูลเข้าสมาร์ทโฟนเครื่องหรูไม่หยุด จนในที่สุดความเมื่อยล้าก็เล่นงานจนทำให้ร่างกายหยุดทำงานและเผลอหลับเข้าสู่ห้วงนิทราไปอย่างไม่รู้ตัว

















        JEON


        เป็นวันแรกที่ต้องกลับมาเปิดร้านสัก มือหนาปลดล็อคประตูร้านก่อนจะเดินเข้าไปสำรวจความเรียบร้อยที่ห่างหายไม่ได้ดูแลมานับ2เดือน สายตาคมกวาดมองทั่วร้านก่อนที่จะเริ่มลงมือจัดอุปกรณ์ต่างๆเพื่อเริ่มทำงานในอีกไม่กี่ชั่วโมง

        ไม่ใช่ว่าปิดร้านแล้วลูกค้าจะหาย แต่กลับมีลูกค้าเพิ่มขึ้นจนรับมือไม่ทัน..แต่ก็นะ งานเป็นงานหนิ ไม่ทำก็คงไม่ได้



        Rrrrrr


        ระหว่างที่กำลังจัดร้าน เสียงสมาร์ทโฟนเครื่องหรูก็ดังขึ้น ร่างสูงหยุดชะงักก่อนจะตัดสินใจวางของในมือลงและล้วงโทรศัพท์ขึ้นมากดรับสายทันที




        "จองกุก..แกกลับมาแล้วใช่มั้ย?" เสียงจากปลายสายเอ่ยขึ้น น้ำเสียงแบบนั้นก็ไม่ใช่ใครที่ไหนนอกจากพี่ชายของผม..จีมิน..



        "ฮยองรู้ได้ยังไง..."


        "ฉันรู้ก็แล้วกัน..."


        "แล้วโทรมามีเรื่องอะไร?"


        "เห้อ..เอ็งนี่มันจริงๆเลยจองกุก กลับมาแล้วก็ดี ตอนนี้ว่างมั้ยออกมาเจอกันหน่อยสิ" คำขอจากพี่ชายทำให้ผมหยุดคิดไปสักพัก ว่างหรอ ตอนนี้คงไม่ ผมยังมีเรื่องต้องทำอีกเยอะแยะ






        "ไม่ว่าง..."


        "ทำไม ไม่อยากได้แฟนเอ็งคืนรึไง"


        ประโยคและน้ำเสียงที่ได้ยิน ทำให้ผมชะงักและเริ่มทำตัวไม่ถูกขึ้นมาเสียดื้อๆ นั่นสิ ถ้าจีมินฮยองไม่พูดผมคงลืมเยจินไปแล้ว..ทำยังไงดี ตอนนี้ผมยังไม่อยากเจอเธอ เพราะจากที่เคยต้องการเธอตอนนี้มันไม่ใช่แบบนั้นอีกต่อไปแล้ว






        ผมรักเยจินไม่ได้อีกต่อไป...







        "ฝากเธอด้วย ตอนนี้ผมไม่ว่าง..."





        ไม่รู้ว่านี่มันเกิดอะไรขึ้น สิ่งที่เสนอมาผมปฏิเสธไปเสียหมด เป็นเพราะผมไม่ต้องการอะไรทั้งนั้น แม้แต่แฟนก็ไม่อยากเจอ ไม่อยากได้อีกต่อไปเพราะผมรู้ว่าผมไม่ได้ต้องการเยจิน ฉะนั้นไม่ควรยื้อเธอเข้ามาในชีวิตอีก...คิดแล้วก็ปวดหัว ทำไมมันต้องเป็นแบบนี้วะ! ชีวิตช่วงนี้วุ่นวายชะมัด ทำอะไรก็ผิดพลาดไปเสียหมด ผิด..ผิดจนต้องมานั่งอยู่ตามลำพังแบบนี้โดยที่ไม่มีใคร


        ผมตัดสินใจแล้วว่าจะไม่ตามเยจิน แต่จะปล่อยเธอไปแม้ว่าเธอจะไม่ต้องการก็ตาม...ตอนนี้ ผมขอเวลา ขอเวลาคิดทบทวนอะไรสักหน่อย






        ร่างหนาเอนตัวลงนอนบนโซฟาภายในร้านสัก..และตัดสินใจเลื่อนนัดลูกค้าออกไปเป็นวันพรุ่งนี้เพราะตอนนี้กระจิตกระใจของผมไม่หยุดนิ่ง สมาธิแทบจะไม่มี ขอนอนพักสักหน่อยคงทำให้ดีขึ้นได้..หวังว่าแบบนั้น


        "....." ภายในร้านยังคงเงียบสนิท ด้านนอกของร้านเริ่มมืดลงเรื่อยๆแต่ก็ยังคงไม่เปิดไฟ อยู่มืดๆแบบนี้สิดี มันสงบและอยู่แล้วรู้สึกสบายใจมากกว่าอยู่ข้างนอก

        ไม่รู้ว่ามันสายเกินไปหรือเปล่าที่พึ่งหามันเจอตอนนี้ มือใหญ่ล้วงสมาร์ทโฟนอีกเครื่องขึ้นมาเปิดดูซึ่งเจ้าของเครื่องไม่ได้ทำการล็อครหัสเอาไว้..ผมเปิดโทรศัพท์ของ(ชื่อคุณ)ดูและพบว่ามีสายโทรเข้ามาตลอดสองเดือยเกือบพันกว่าสาย ส่วนมากจะเป็นเบอร์ของฮยองและคุณปีเตอร์...ให้ตายเถอะ โทรเข้ามาได้ยังไง


        "เหอะ...ยัยนี่เก็บอะไรไว้เยอะแยะ" สายตาคมไล่มองรูปภาพในแกลเลอรี่นับหมื่นรูปที่ถูกถ่ายและเก็บบันทึกเอาไว้..นับถือสกิลการถ่ายรูปของแม่นี่จริงๆเลยว่าสวยทุกรูป


        "หึ:)"ริมฝีปากยกยิ้ม นิ้วเรียวกดไปตามรูปต่างๆอย่างหยุดไม่ได้...เอาล่ะในเมื่อมันมาถึงขนาดนี้แล้ว สัก3-4รูปคงไม่เสียหายหรอกชีวิต













        YOU


        ย่านชานเมืองเล็กๆ หมู่บ้านแสนสุขที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความสงบสุขที่ใครๆต่างใฝ่หา ตามบ้านเรือนเปิดไฟสว่าง ครอบครัวแต่ละครอบครัวเริ่มทานมื้อค่ำพร้อมหน้าพร้อมตากัน..ต่างจากบ้านหลังหนึ่งที่มีคนอาศัยอยู่ตามลำพัง มีแค่เสียงทีวีเปิดรายกายโทรทัศน์พลางแก้เหงา ร่างบางนั่งทานสลัดผักพร้อมดูรายการทีวีไปด้วย รอยยิ้มน้อยๆประดับบนใบหน้าเพราะอยู่ๆก็รู้สึกมีความสุขมาทีละนิดที่เริ่มเกาะกุมหัวใจ เวลาผ่านเหมือนร่างกายได้เยียวยาและสามารถอยู่ได้โดยที่ไม่ต้องอ่อนแอ...


        อยู่ไม่ถึงวันฉันก็เริ่มปรับตัวได้แล้ว เหลือแค่ต้องรอให้เวลามันเดินเข้ามาหาและยอมรับความจริง...





        กริ๊ง..กริ๊ง..




        ร่างเล็กสะดุ้งขึ้นเล็กน้อยเมื่อจู่ๆเสียงกดกริ่งหน้าบ้านก็ดังขึ้น คิ้วสวยกระตุกสงสัยว่าใครมา มีคนรู้จักด้วยหรอ ?

        ในช่วงค่ำๆแบบนี้เนี่ยนะ...


        "ใครมา?" ฉันพึมพำกับตัวเองก่อนจะตัดสินใจลุกออกไปเปิดประตูบานสวย..พอเปิดออก ร่างเล็กก็หยุดนิ่งพร้อมเบิกตากว้างอย่างประหลาดใจ


        "พะ..พี่จีมิน!?"


        ฉันตกใจมาก จนทำตัวไม่ถูก อะไรกันนี่เขามาได้ยังไง ฉันจำได้ว่าฉันไม่ได้บอกอะไรกับเขานะ!

        "(ชื่อคุณ)..พี่คิดถึงเราจัง" ใบหน้าหล่อของเขายิ้มจนตาหยี่ ก่อนที่พี่เขาจะถือวิสาสะแทรกตัวเข้ามาในบ้านโดยที่ไม่ขอฉันเลยสักคำ


        "อ๊ะ! เดี๋ยวก่อนสิค่ะ!.."

        "อื้ม คุณปีเตอร์บอกว่าเราพักอยู่ที่บ้านหลังนี้ ไม่ยักกะรู้ว่าบ้านที่นี่สวยมาก แถมน่าอยู่อีก^^"    เสียงของพี่จีมินพูดร่ายยาวไม่หยุด แถมไม่เปิดโอกาสให้ฉันได้พูดเลยสักคำ บ้าจริง! นี่มันอะไรกันเนี่ย!-_-









        "เห้อ! นี่พ่อบอกพี่จริงๆสินะคะ..." เสียงหวานเอ่ยขึ้นด้วยความเหนื่อยใจ แก้วน้ำในมือถูกวางลงตรงหน้าของชายหนุ่มอย่างมีมารยาท คนตัวเล็กตัดสินใจเดินอ้อมมานั่งลงโซฟาด้านข้างอย่างระมัดระวัง


        พี่จีมินจะสังเกตมั้ยนะว่าตอนนี้ท้องของฉันมันป่อง...


        "อืม ใช่...เราไม่ควรปิดเรื่องนี้กับพี่นะ เราไม่ไว้ใจพี่หรอ(ชื่อคุณ)"


         "อ่อ..ไม่ใช่อย่างนั้นนะคะ ฉันแค่ยังไม่พร้อม" ฉันยกมือโบกปฏิเสธก่อนจะเริ่มนั่งไม่ติด


        "ยังไม่พร้อม?"


        "เอ่อ...คือว่า.." ทำไงดีๆ ฉันควรพูดอะไรต่อดีT^T


        ถ้าพี่จีมินรู้ว่าฉันท้องกับจองกุก เขาจะเกลียดฉันมั้ย


        "ไม่ต้องปิดเรื่องกับพี่หรอก(ชื่อคุณ)..พี่รู้เรื่องหมดแล้ว"


        "ห้ะ?" ไม่รู้อะไรดลใจให้ร่างกายของฉันแข็งทื่อราวกับว่าโดนสาป หูของฉันคงไม่ได้เพี้ยนไปใช่มั้ย ฉันฟังไม่ผิดใช่มั้ยที่พี่จีมินพูดน่ะ...เขารู้ความจริง รู้แล้วจริงๆหรอ ?

        รู้ได้ยังไงกัน อุส่าห์ไม่พูดและเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับเพียงฉันกับจองกุกเท่านั้นแล้วนะ..ไม่จริงน่ะ


        "...พะ..พี่รู้จริงๆ..หรอคะ?"    ร่างเล็ก
    ตะกุกตะกักอย่างที่จะโดนจับผิดได้ง่ายด้วยตาเห็น ความร้อนตัวนั้นส่งผลทำให้อุณหภูมิในร่างกายสูงและเกิดเหงื่อเป็นเม็ดๆซึมออกมาตามผิวหนัง

         บ้าเอ้ย อาการแบบนี้เดี๋ยวก็ตายหรอก!

        "มีเรื่องอะไรที่พี่ไม่รู้บ้างล่ะ..แต่พี่แค่ทำเป็นไม่สนใจเฉยๆ"


        "พี่จีมิน...ไม่ได้หลอกกันใช่มั้ย พี่รู้เรื่องของฉันจริงๆแล้วใช่มั้ย"


        "ใช่..."


        "ไม่นะT^T" ในเมื่อพี่จีมินรู้ พ่อก็ต้องรู้น่ะสิ!?


        "แล้วคุณพ่อ...รู้มั้ยอ่ะ?" ฉันยกยิ้มแหย่ๆก่อนจะค่อยๆเดินไปนั่งลงข้างๆพี่จีมินแล้วเอามือเขย่าแขนเขาเบาๆ


        "ไม่หรอก พี่ไม่อยากให้ท่านรู้ว่าตอนนี้สถานะของเรากับจองกุกมันเลยเถิดไปไกลถึงไหน..."

        ได้ยินแบบนั้นฉันก็สบายใจขึ้นเยอะเลยแหละ ให้ตายสิทำไมมันลุ้นระทึกมากขนาดนี้ อ้าก!!




         "เห้อ ขอบคุณนะคะที่ไม่บอกคุณพ่อน่ะ..ถ้าท่านรู้ฉันคงแย่มากแน่ๆ" ฉันถอนหายใจโล่งอกอย่างบอกไม่ถูก ตั้งแต่คุยมาพึ่งรู้สึกสบายใจมากก็ตอนนี้แหละ

        ขอบคุณนะที่ไม่เอาท้องไปบอกคุณพ่อ

        "แต่!!...ในเมื่อพี่รู้เรารู้ ฉะนั้นเราสองคนต้องไปบอกพวกท่านนะ เพราะยังไงซะ(ชื่อคุณ)ก็ไม่มีวันปกปิดเจ้าท้องป่องๆนี้ได้หรอก^^" ร่างหนายิ้มด้วยความอ่อนโยนก่อนที่จะเอานิ้วมาจิ้มท้องของฉันเบาๆ


        เอาแล้วไง ทำฉันคิดหนักอีกแล้วนะพี่จีมิน-_-

        "ยะ..ยังไงหรอคะ?"


        "หึ พรุ่งนี้เลยเป็นไง:)"

        "ห้ะ!!"

        "ไม่มีห้ะ เอาตามนั้น"



        ไม่จริง!!!! มันเร็วเกินไปแล้ว!!!








        ถึงยังไงก็เถอะ ฉันควรไล่เขากลับไป..แต่ว่าใครมันจะไปทราบล่ะว่าพี่จีมินก็หยาบและดื้อไม่ต่างอะไรกับจองกุกเลย!!! เขาฉวยโอกาสค้างที่นี่เพื่อรอให้ถึงพรุ่งนี้เช้าแล้วบังคับให้ฉันกลับไปที่บ้านหลังใหญ่-_-


        ตอนนี้ฉันจัดการยัดตัวเขาให้เดินเข้าไปนอนอีกห้องที่อยู่ข้างๆ แน่ล่ะฉันไม่ยอมให้เขามานอนด้วยแน่ๆ มาแล้วก็กวนไม่เลิก..ฉันอยากพักผ่อนอยากนอนคนเดียวแบบสบายๆ!



        "ให้พี่นอนกอดเราสักคืนไม่ได้หรออออ~" พี่จีมินเบ้ปากพร้อมโผล่หัวออกมาจากประตู ส่วนฉันได้แต่เตรียมตัวจะปิดประตูใส่หน้าเขาอย่างเอาจริงเอาจัง(?)


        "ไม่ได้ค่ะ ตอนนี้คุณแม่ต้องการความเป็นส่วนตัว..ฝันดีนะคะ!!!"


        "เดี๋ยวก่อน!!" ขณะที่กำลังจะปิดประตู มือใหญ่และเรี่ยวแรงอันมหาศาลของพี่เขาก็ดันประตูเอาไว้ก่อนที่จะพูดประโยคนึงออกมาจากปากของเขาเอง...


        "พี่ดีใจนะที่เรากลับมาอย่างปลอดภัย..ฝันดีครับ^^" ว่าจบเขาก็จัดการปิดประตูเองอย่างว่าง่าย...ฉันได้แต่ยืนนิ่งพร้อมฉุกคิดได้ว่า เขารู้หรอว่าที่ฉันหายไป ก็คือไปกับจองกุกน่ะ แล้วหากรู้ทำไมไม่ไปช่วยฉัน! เอ๊ะ!? หรือว่าเขาไม่รู้ หรือพึ่งรู้เมื่อกี้..อะไรวะ! โอ้ย! งงไปหมดแล้ว!


        "โว้ย! ไม่อยากคิดแล้วนอนๆๆ!"











        เช้าวันใหม่...


        เข้าสู่ช่วงเช้าของอีกวัน เพียงรอนับเวลาถอยหลังวันเปิดภาคเรียนก็ใกล้จะมาถึง และนั่นมันก็คือชะตากรรมอีกอย่างที่ฉันต้องพบเจอ..แบกท้องป่องๆเข้าไปเรียน เยี่ยม-_-


        โดนนินทาทั้งม.แน่-^-


        ตอนนี้ฉันพึ่งแต่งตัวเสร็จและพร้อมที่จะออกไปเผชิญกับสิ่งที่กำลังรออยู่ที่บ้านหลังใหญ่..ฉันไม่เข้าใจ ทำไมพี่จีมินถึงได้ดูรีบร้อนมากนัก เขามีแผนอะไรรึเปล่า ทำไมถึงไม่บอกอะไรฉันเลยสักคำ...และฉันก็ได้แต่เก็บความสงสัยนั้นไป นั่งอยู่บนรถแล้วปิดปากเงียบเพราะไม่อยากเปิดประเด็นให้มันวุ่นวาย อีกหน่อยเดี๋ยวก็รู้เองแหละ หน้าที่ของฉันก็คือหุบปากเข้าไว้>*<






        ใช้เวลานานพอสมควร ในที่สุดก็มาถึงบ้านหลังใหญ่สักที นั่งรถจนเมื่อยตูด รู้งี้ขับรถมาเองซะดีกว่าเหอะ-___-

        "เชิญครับ~" ดูเหมือนเช้านี้ชายหนุ่มอารมณ์ดีผิดปกติ ร่างสูงวิ่งอ้อมมาอีกฝั่งก่อนที่จะเปิดประตูรถให้ร่างเล็กพร้อมประคองร่างน่องแน่งที่กำลังอุ้มท้องอยู่ใต้วงแขนอย่างเบามือ..ร่างสูงเหลือบสายตามองรถอีกคันพร้อมยิ้มมุมปากพร้อมนึกถึงเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตอีกไม่กี่นาทีนี้ คงมาแล้วสินะ..จองกุก..



        ทั้งสองเดินเข้ามาในบ้านพร้อมสายตาของทุกคนจับจ้องมาที่ฉันและพี่จีมิน นาทีแรกที่ฉันเห็น ฉันแทบอยากจะร้องไห้ออกมาเป็นสายเลือดเมื่อเจอคุณพ่อที่กำลังนั่งมองอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล..ตกลงฉันดีใจหรือเสียใจกันแน่ ทำไมถึงได้รู้สึกร้อนๆแบบนี้


        "ผมพาน้องมาแล้วครับคุณปีเตอร์^^" พี่จีมินพูดขึ้นก่อนที่จะพาฉันไปนั่งลงข้างๆท่านทั้งสอง ไม่ใช่ว่าตอนนี้มีแค่เราสามคนแต่มีคุณพ่อของพี่จีมินด้วย


        "มาตรงเวลาดีหนิ..มานี่สิ(ชื่อคุณ) ขยับมาหาพ่อใกล้ๆหน่อยเร็ว^^"


        "ค่ะ..."


        "อ่า ลูกสาวพ่อคิดถึงจัง คงเหนื่อยมากสินะที่อยู่ที่นั่น...ไหนดูซิเด็กน้อยของพ่อยังน่ารักเหมือนเดิมเลย:)" ฉันขยับเข้าไปใกล้คุณพ่อ ก่อนจะโดนท่านดึงลำตัวเข้าไปกอดอย่างเบามือพร้อมเสียงอันอ่อนโยนเอ่ยขึ้นปลอบใจและทำให้ฉันรู้สึกอบอุ่นขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก หลังจากที่กอดกันได้สักพักท่านก็ผลักตัวฉันออกพร้อมมือตบบไหล่ทั้งสองข้างฉันไว้แน่น


         ฉันดีใจจังที่ท่านยังคงยิ้มให้เสมอ^^


         "คุณพ่อไม่โกรธ(ชื่อคุณ)หรอคะที่...หายไป.."


        "ไม่..พ่อไม่มีเรื่องที่จะต้องโกรธหนู คนผิดก็น่าจะรู้ตัวดีอยู่แล้ว..." อยู่ๆคุณพ่อก็พูดเว้นช่องพลางเบือนหน้าไปมองอีกทางจึงทำให้ฉันหันไปมองตามท่าน


        ตากลมเบิกกว้างสักแปปก่อนที่จะฉายแววความหม่องลงอย่างเห็นได้ชัด..มือบางบีบเข้าหากันพร้อมหัวใจที่เต้นรัวไม่เป็นจังหวะ ความรู้สึกนั้นมันกำลังทำให้ฉันกลัว..กลัวจนอยากร้องไห้ออกมา แต่ทว่าฉันต้องกักกลั้นน้ำตาตัวเองเอาไว้ ฉันจะมาอ่อนแอต่อหน้าคนอื่นไม่ได้

        ฉ้นเลือกที่จะไม่มองหน้า'จองกุก'เมื่อเขาเดินเข้ามาพร้อมกับเยจินที่สภาพร่างกายเปลี่ยนไปต่างจากเมื่อก่อน..แต่เรื่องนั้นฉันไม่สนใจหล่อน จงจำไว้ ฉันเกลียดเธอ แม้จะมาดีหรือไม่ดีก็ตาม!




        "คนพวกนั้นมาทำอะไรที่นี่คะ..." ร่างเล็กกระซิบข้างหูคุณพ่อก่อนที่ท่านจะหันมายิ้มให้แต่กลับไม่ตอบคำถามที่เอ่ยถามออกไป


        "หึ...รอดมาได้นี่บุญเยอะเนาะ^^"


        ได้ยินเสียงของจีมินพูดฉันก็หันไปมองหน้าพี่เขา อะไรกัน คำพูดแปลกๆแบบนั้น..เหมือนพี่จีมินจงใจพูดใส่เยจิน


        "ก็ไม่ถึงกับตาย..."

        "สมควรตาย"

        "ฮยอง!"


        "นี่!! ถ้าจะมาแล้วสร้างความวุ่นวายก็ออกไปจากบ้านฉัน!" ไม่รู้ว่าอะไรทำให้ผีเข้าทำให้ฉันพูดแรงๆออกไปจนลืมตัวว่าตอนนี้มีผู้ใหญ่กำลังนั่งมองอยู่..แล้วไง ก็คนมันโกรธหนิ! จะมาทำไมไม่รู้ เห็นแล้วเกลียดขี้หน้า เรื่องตายๆอะไรที่พูดน่ะ ก็สมควรตาย!

        แม้จะไม่รู้เรื่องอะไรก็ชั่งเถอะฉัน-_-


        "ใจเย็นก่อนสิ เราเป็นเจ้าบ้านนะลูก"


        "ก็!!"


        "หยุด!"


        "ชิล์..." นิ้วจากคุณพ่อชี้มาที่หน้าพลางออกคำสั่งให้เงียบ ร่างเล็กมุ้ยปากงอนเล็กน้อยก่อนที่จะสะบัดตัวหนีไปทางอื่น ซึ่งทว่าฉันดันไปปะทะหน้ากับพี่จีมินเข้าจังๆ

        "ไม่ต้องมายิ้มเลย-_-"

        "^_^"


        ดูเหมือนพี่จีมินจะทำให้ฉันสงบลงก่อนที่เราสองคนจะไม่สนใจคนพวกนั้น ปิดหูปิดตาที่จะไม่รับฟังทุกอย่าง และไม่อยากรับรู้ด้วยว่าจองกุกกับเยจินมาทำไม..


        "..." ชายหนุ่มที่พึ่งเดินกลับเข้ามาในบ้านไม่พูดอะไรต่อ ได้แต่เหลือบมองคนตัวเล็กเป็นช่วงๆจนแทบไม่มีสมาธิฟังผู้ใหญ่เขาคุยกัน เยจินสะกิดจองกุกอยู่ตลอดเวลาเมื่อหล่อนรู้ตัวว่าแฟนหนุ่มของเธอไม่สนใจเธอเลย จองกุกเอาแต่นั่งเงียบและมองไปอีกทาง ซึ่งปฏิกิริยาของจองกุกทำให้เยจินหงุดหงิดขึ้นมาเสียดื้อๆ




        
    "ผมไม่รู้ว่าจะขอโทษยังไงดี มันเกินกว่าจะให้อภัย..คุณปีเตอร์อยากทำอะไรกับจองกุกมันก็ตามสบายเลยครับ ผมจะไม่ขัดเลยสักคำ" คำพูดของผู้เป็นพ่อของฝ่ายชายเอ่ยอย่างไม่มีข้อแม้ในข้อความจำกัด จองกุกมองหน้าพ่อของ(ชื่อคุณ)ด้วยแววตาที่แอบหวั่นอยู่ไม่น้อย...ก็แน่ล่ะ รู้สึกกลัวนิดหน่อยว่าทางนั้นจะทำอะไรกับเขาบ้าง เล่นพาลูกสาวของเขาหายไปตั้ง2เดือน จะโดนฆ่าก็คงไม่แปลกใจ


        "หืม..ผมไม่ทำอะไรเด็กมันหรอก ถือว่าเป็นประสบการณ์เรียนรู้ก็แล้วกัน จองกุกก็จำ ยัยหนูก็คงต้องจำไปจนวันตายเหมือนกัน โชคดีแล้วล่ะที่ไม่ได้แต่งงานกับจองกุก ไม่งั้นผมคงนอนไม่หลับทั้งคืนแน่ๆ:)" ฟังเหมือนชายแก่จะพูดติดตลก แต่สำหรับจองกุกเขาไม่รู้สึกแบบนั้น ที่พูดมาเท่ากับว่าคุณปีเตอร์กำลังสื่อให้ทุกคนในบ้านรับรู้ว่าเขาไม่ต้องการให้จองกุกมีส่วนร่วมในครอบครัวนี้อีกต่อไป มีสถานะแค่คนรู้จักและไม่มีคำมั่นสัญญาที่อดีตเคยกำหนดไว้อีกแล้ว


        "...ละ..แล้วผมควรทำไงต่อล่ะเนี่ย" พ่อของจองกุกเอ่ย


        "อยู่สิ อยู่ทานข้าวเที่ยงกันก่อน แม่บ้านกำลังเตรียม อีกไม่กี่นาทีคงเสร็จ"


        "งั้นก็รบกวนด้วนนะครับ"



        "หนูขอตัวออกไปเดินเล่นข้างนอกสักพักนะคะ.." บรรยากาศภายในห้องรับแขกชักจะอึดอัดไปกันใหญ่ คนตัวเล็กจึงตัดสินใจหลีกหนีปัญหาพวกนั้นเพื่อออกไปเดินเล่น ณ สวนหลังบ้าน


        ร่างบางในเสื้อตัวโคร่งเดินออกมาที่สวนหลังบ้านบรรยากาศผ่อนคลาย ดีไซน์สวนหย่อม มีน้ำตกเล็กๆ ในสวนก็ช่วยสร้างบรรยากาศธรรมชาติไปอีกแบบ พื้นที่นั่งเล่นเรียบง่ายที่ทำไว้สำหรับความเป็นส่วนตัว สร้างความน่าสนใจด้วยสวนสีเขียว วางโต๊ะเก้าอี้สำหรับวันสบายๆ เปลี่ยนมุมรกๆ ให้กลายเป็นมุมสวย...ประตูไม้ที่กลั้นไว้ถูกปิดลงอย่างเบามือ ที่นี่มันคือสวนย่อมส่วนตัวของฉันเอง นานๆทีถึงจะได้กลับมา คิดถึงจังไม่ได้อยู่นั่งเล่นแบบนี้มานานพอสมควร



         "อ่า...อากาศเย็นดีชะมัด:)" ร่างบางยกยิ้มอย่างมีสุข สบายใจและกาย เหมือนตัวเองเป็นขนนกที่กำลังปลิวไปตามแรงลมพัดเบาๆ สดชื่นเมื่อได้อยู่คู่กับต้นไม้ในสวน กายบางเอนลงเก้าอี้เดี๋ยวพร้อมทิ้งตัวลงนั่งอย่างปล่อยเนื้อปล่อยตัวสุดๆ...เห้อ วันนี้มันวันบ้าอะไรเนี่ย เคลียดตั้งแต่เช้าเลยฉัน เรื่องพ่อแล้วยังต้องมาเจอจองกุกกับยัยเยจินอีก!-_-



        อะไรมันจะดวงซวยขนาดนั้น!



        "คิดอะไรอยู่..."


        "อ๊ะ!?"

        ระหว่างที่นั่งคิดอะไรเพลินๆ อยู่ๆเสียงบุคคลที่สองก็แทรกเข้ามาในความคิดก่อนร่างเล็กจะสะดุ้งตัวโหยงพร้อมเงยหน้าขึ้นมองคนตรงหน้า


        "จองกุก..." ฉันรีบลุกขึ้นยืนเต็มความสูงพลางเผลอเรียกชื่อคนตรงหน้าอย่างลืมตัว..ฉันรีบตัดสินใจแล้วเดินผ่านตัวเขาไปเพื่อหนี และแล้วยังไม่ทันพ้นประตูร่างของฉันก็โดนจองกุกรั้งกลับเข้ามาในสวนย่อมตามเดิม


         "ปะ..ปล่อย!!"

        "ไม่ หลบหน้าฉันทำไม.."

        "ใครหลบ ฉันไม่ได้หลบ ปล่อย!!" ฉันยังคงดื้อดึงผลักตัวจองกุกออก แต่ปรากฏว่าเขาดันดึงร่างฉันเข้าไปใกล้ก่อนที่แขนของเขาจะโอบรอบตัวฉันไว้ไม่ให้หลุดหนี


        "ไอ้บ้า! ปล่อย!!"

        "(ชื่อคุณ)หยุด พอเถอะนี่ฉันเหนื่อยกับเธอมากแล้วนะ!"

        "งั้นกุกก็ปล่อยสิ!!" ว่าจบ ฉันก็ดันตัวออกจนสำเร็จ ให้ตายเถอะทำไมมันวุ่นวายแบบนี้ หนีไม่พ้นจริงๆเลย!



        คนตัวเล็กดันร่างออกห่างพร้อมยกมือขึ้นปัดป่ายไล่ให้จองกุกออกไปไกลๆ อุส่าห์หนีมาตั้งนานแต่สุดท้ายต้องกลับมาเจอกันอีก ทั้งๆที่รู้ว่าเราไม่มีความสัมพันธ์แบบนั้นอีกแล้ว แม้ว่าฉันยังต้องการเขาแต่เขาไม่ต้องการฉัน..ฉันจะอยู่ให้เขาเจอหน้าทำไมล่ะ เดี๋ยวก็มีเรื่องให้เสียแรงเปล่า

        แต่ทำไมพอเจอหน้าเขาฉันต้องอยากร้องไห้ออกมาด้วยเนี่ย...เกลียดตัวเองชะมัด


        "ฉันบอกไปแล้วหนิว่าเรารู้จักกันเพียงเท่านี้..แล้วกุกตามฉันมาทำไม น่ารำคาญชะมัด" ฉันพูดออกไปเพื่อให้เขาได้รับรู้ว่าตอนนี้ฉันยังไม่อยากเจอหน้าเขา ต้องบอกว่าเกลียดกี่ครั้ง ต้องบอกว่ารำคาญกี่ครั้ง ต้องบังคับตัวเองสักกี่ครั้งเขาถึงจะสำนึกสักทีว่าฉันเจ็บมามากพอแล้ว นี่ต่างคนต่างอยู่แล้วจริงๆใช่มั้ย


        "รำคาญก็เรื่องของเธอ..แต่ฉันไม่..."     ร่างเล็กนิ่งเงียบ จองกุกพูดจบก็เบี่ยงตัวออกไปเด็ดดอกชบาฮาวายสีชมพูดที่เกาะกำแพงอยู่ด้านข้างก่อนที่จะเอามาทัดให้คนตัวเล็กช้าๆ



        ไม่..อย่าทำแบบนี้ ได้โปรดอย่าทำให้ฉันเผลอใจ



        ร่างบางๆสั่นระริก ความรู้สึกถูกบีบบังคับเพราะการกระทำของชายหนุ่ม และด้วยเพราะหญิงสาวไม่เคยได้รับการกระทำอันอ่อนโยนแบบนี้มาก่อนเลยทำให้รู้สึกกลัว..กลัวจนทำตัวไม่ถูกอย่างที่เห็น ในเมื่อเขาทำอย่างนั้น อยากจะตัดปัญหาหัวใจให้มันพ้นๆไปซะ มือเล็กยกขึ้นดึงดอกไม้ออกจากหลังหูก่อนที่จะกำดอกไม้แสนสวยจนกลีบช้ำและปาใส่หน้าจองกุกอย่างไม่ใยดี


        "ไปให้พ้น อย่ามายุ่งกับฉัน!!!!" เสียงเล็กตวาดเป็นครั้งสุดท้ายพร้อมวิ่งหนีออกไปจากสถานที่ที่คิดควรได้รับความสงบ ร่างเล็กวิ่งเข้ามาในบ้านอย่างระมัดระวัง หลังมือบางยกขึ้นเช็ดคราบน้ำตาน้อยๆที่ไหลออกมาไม่มากจนหมด ก่อนที่จะทำตัวให้ดูปกติแล้วเดินไปที่ห้องอาหาร







        ทุกคนที่กำลังรออยู่ต่างจับจ้องมาที่ฉัน ฉันหยุดเดินแล้วมองพ่อและพี่จีมิน..ฉันรู้สึกเกรงไปเสียหมด เหมือนรู้สึกว่ากำลังจะมีเรื่องบางอย่างเกิดขึ้น


        "พ่อคะ...."


        "(ชื่อคุณ)..ทำไมเราไม่บอกพ่อล่ะ"


        "ค่ะ..คะ?" ร่างเล็กขมวดคิ้วด้วยความไม่เข้าใจเมื่อเดินมาถึงห้องอาหาร ฉันแค่ไม่อยู่แปปเดียว พี่จีมินบอกอะไรกับพ่ออีกล่ะ


        "หนูท้องจริงๆใช่มั้ย?"


        " !!! " ตากลมเบิกกว้างด้วยความตกใจ อยู่ๆก็รู้สึกกลัวขึ้นมาอีกครั้งเมื่อพ่อพูดเรื่องท้อง พ่อรู้..รู้แล้วสินะ ฉันคงปิดบังเรื่องนี้กับท่านไม่ได้


        "ค่ะ...พ่อคะฮึก (ชื่อคุณ)ขอโทษฮือ!"



        ในเมื่อรู้ความจริง ฉันก็ไม่รู้ว่าจะเก็บมันไว้ทำไม ความรู้สึกกลัวทั้งหมดถูกปล่อยโฮออกมากลายเป็นความรู้สึกผิด ท่านจะเสียใจมากขนาดไหนในเมื่อฉันปล่อยให้ตัวเองโดนกระทำจนมีลูก แถมพ่อแท้ๆของมันก็ไม่ยอมรับ แล้วฉันจะเอาหน้าไปไว้ไหน ฉันจะบอกกับแม่ยังไง..พวกท่านคงเกลียดฉัน


        "อะไรกัน ทำไมต้องร้องไห้...ยังไงพวกเธอต้องแต่งงานกันอยู่แล้วหนิ^^"
     
        ฉันชะงักเล็กน้อยก่อนจะเงยหน้ามองท่านพร้อมน้ำตา..หมายความว่ายังไง 'แต่งงาน' ฉันกับจองกุกเนี่ยนะ ?


        "ใช่ครับ(ชื่อคุณ) จะร้องทำไม นี่ลูกของเรานะ:)"


        "พี่จีมิน..." รู้สึกตัวอีกที ฉันก็โดนแขนของพี่จีมินดึงเข้ามากอดไหล่ไว้หลวมๆ เขายิ้มออกมาอย่างไม่คิดมาก ต่างกับฉันที่ตอนนี้ทั้งร้องไห้และยืนงงเป็นไก่ตาแตก...อ่า รู้แล้ว แบบนี้เองสินะวิธีแก้ปัญหาของพี่จีมินน่ะ


        "ผมขอโทษนะครับคุณลุง คืนนั้นผมพลาดเอง นี่ก็ผ่านมา2เดือนกว่าแล้ว เราพึ่งพร้อมที่จะมาบอกทุกคนตอนนี้..ใช่มั้ย(ชื่อคุณ)^^"

        "อึก..ค่ะ ใช่ค่ะ (ชื่อคุณ)ท้องกับพี่จีมิน" ไม่ใช่แค่พูดเปล่า นัยต์ตาสวยก็เหลือบมองไปที่จองกุกที่พึ่งเดินตามเข้ามา เหอะ คงได้ยินหมดแล้วสินะ จอน จองกุก...ได้ ในเมื่อนายไม่ต้องการลูก ฉันก็จะทำตามในสิ่งที่นายต้องการ
























    [ 100% ]




    To be continued





        #TALK



         แง๊ จะเริ่มแก้แค้นจองกุกแล้วนะคะ หึๆ คราวนี้แหละจะทำให้หนักๆเลยไอ้คนนิสัยไม่ดี คนปากแข็ง ไม่บอกรักสักทีมันก็ต้องเจอแบบนี้แหละ!!//อิน//


    เม้นแล้วกดใจให้รัวๆ
    ไรท์มาช้าขอโทด~

    เย้ คนติดตาม800+ ขอความกรุณาคนติดตามให้ถึง1000เร็วๆด้วยน้า~



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×