ตอนที่ 1 : ไม่ปลื้ม
ตอนที่ 1
สะใภ้ ไม่ปลื้ม
“ทุเรศ...ทุเรศนัยน์ตาที่สุด ใครเป็นคนเอาหนังสือเล่มนี้มาวางไว้บนโต๊ะนี่?”
คำถามด้วยน้ำเสียงและวาจาเกรี้ยวกราดของประมุขแห่งมหาดำรงค์กิจในช่วงสายของวันหยุด ทำให้คนที่ได้ยินพากันพุ่งตรงมายังห้องนั่งเล่นอย่างรวดเร็ว
เป็นที่รู้กันดีว่า เจ้าสัววิชาญ มหาดำรงค์กิจนั้นเป็นคนอารมณ์ดี ถ้าไม่ใช่เรื่องธุรกิจหรือเรื่องงานการแล้วล่ะก็ น้อยนักที่จะมีเรื่องไหนทำให้ท่านหัวเสียได้ขนาดนี้
“นี่นะหรือผู้หญิงที่ใครๆ ว่าจะมาเป็นหลานสะใภ้ของฉัน นั่งแหกแข้งแหกขา นุ่งเสื้อนุ่งผ้าเหมือนกับไม่ได้นุ่ง อวดนมล้นออกมาจนจะเห็นหมดทั้งเต้า กล้าถ่ายรูปอย่างนี้อวดสายตาคนทั้งประเทศเหมือนไม่มียางอาย ฉันไม่มีทางยอมให้ผู้หญิงอย่างนี้มาใช้นามสกุลของฉันเด็ดขาด”
พูดจบก็ขว้างหนังสือในมือทิ้งลงพื้นอย่างไม่ไยดี
คนที่เข้ามาทีหลังหน้าซีดเผือด เมื่อได้เห็นว่า บนหน้าปกนิตยสารแนวเซ็กซี่ฉบับนั้น คือภาพของ เวสิตา ทิพพากุล ดาราสาวคนดัง ที่มีชื่อเสียงและผลงานแนวเซ็กซี่ เรียกเสียงฮือฮาและเป็นขวัญใจหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ทั่วประเทศ และเป็นที่รู้กันว่าเจ้าหล่อนกำลังควงอยู่กับหลานชายคนโตของท่าน...วิศรุต มหาดำรงค์กิจ
“กล้วยหอม เก็บสิ”
คุณฤดีนาถขึงตาใส่สาวใช้พร้อมออกคำสั่งให้รีบเก็บทันทีที่เห็นว่าอะไรเป็นต้นเหตุให้พ่อสามีเม้งแตกแต่เช้า พร้อมกับต้องหาต้นตอให้ได้ว่าใครเป็นคนเอาหนังสือฉบับนี้มาวางไว้ที่นี่
เด็กรับใช้นามกล้วยหอมรีบหยิบเอาหนังสือเล่มนั้นขึ้นมาด้วยท่าทางกล้าๆ กลัวๆ เพราะไม่ค่อยได้เห็นเจ้าสัวโมโหจนหน้าดำหน้าแดงอย่างนี้มาก่อน
“เดี๋ยวหนูจะเอาไปเก็บที่ห้องหนังสือนะคะ”
“เอามันไปทิ้งไกลๆ แล้วอย่าได้มีใครเอาภาพอัปรีย์อย่างนี้เข้ามาในบ้านฉันอีกนะ ไม่ว่าจะเป็นหนังสือ หรือละครที่แม่นั่นแสดง ก็ห้ามใครเปิดดูเด็ดขาด”
ประกาศิตของผู้เป็นใหญ่ที่สุดในบ้าน ถือว่าเป็นคำขาดที่ทุกคนต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด
“ค่ะ คุณพ่อ”
ฤดีนาถรีบรับคำทันที พร้อมกับที่กล้วยหอมรีบหายตัวไปเพื่อทำลายหลักฐานความขุ่นใจนั่นทิ้งเสีย
“แล้วนี่เจ้ารุตมันหายหัวไปไหน?”
เอ่ยถามถึงหลานชายคนโปรด แต่พักหลังๆ ชักจะไม่ค่อยโปรดเสียแล้ว ก็เพราะว่าไม่ชอบอกชอบใจว่าที่หลานสะใภ้ที่เจ้าตัวกำลังควงอยู่นี่แหละ
“คงจะนอนค้างที่คอนโดน่ะค่ะคุณพ่อ ตอนนี้ก็ใกล้สรุปงานประจำไตรมาสแล้ว ตารุตคงอยู่ทำงานจนดึกจนดื่นเลยไม่ได้กลับมานอนที่บ้าน”
คนเป็นแม่รีบแก้ต่างให้ลูกชาย
“สมบูรณ์บอกฉันว่ามันออกจากบริษัทตั้งแต่ห้าโมงเย็น แล้วไม่ได้กลับเข้าไปอีก เธออย่ามาแก้ตัวแทนไอ้ตัวดีหน่อยเลยแม่นาถ นี่ก็คงไม่พ้นไปนอนกกแม่ดารานั่นหรอก หายหัวไปอย่างนี้ ตั้งแต่ที่มันควงแม่นี่ ฉันก็แทบจะไม่ได้เห็นหน้ามันในบ้านนี้อีกเลย”
คนเป็นแม่ที่ออกรับหน้าแทนลูกชายหน้าเผือดสีลงไปอีก เพราะหล่อนก็คาดเดาไว้ว่าเช่นนั้นเหมือนกัน วิศรุตหลงเสน่ห์เวสิตาหัวปักหัวปำ บ้านช่องแทบไม่กลับ โทรศัพท์ยังไม่ค่อยจะยอมรับเลย
“นี่ดีนะ ที่มันยังรับผิดชอบงานการอยู่บ้าง แต่ฉันขอบอกเธอไว้ตรงนี้เลยนะ ว่าถ้าเจ้ารุตเอาแม่ดาราแก้ผ้านี่มาเป็นเมียจริงล่ะก็ ขอให้มันเปลี่ยนนามสกุลซะ แล้วพากันออกไปอยู่ที่อื่น”
คนเป็นแม่ถึงกับสะดุ้ง เมื่อได้ฟังคำขาดของพ่อสามีว่าไม่มีวันยอมรับว่าที่หลานสะใภ้คนนี้แน่นอน
“คงไม่ถึงขนาดนั้นหรอกค่ะคุณพ่อ ตารุตเป็นผู้ชาย เรื่องชอบผู้หญิงสวยเป็นเรื่องธรรมดา แต่กับเวสิตานี่ก็คงแค่คบ ควงกันเล่นๆ ไม่คิดจริงจังก็อย่างคนอื่นๆ ที่ผ่านมานั่นแหละค่ะ อีกอย่างตารุตเพิ่งจะอายุยี่สิบเก้าปี คงยังไม่คิดลงหลักปักฐานกับใครในเร็ววันนี้หรอกค่ะ”
หล่อนรีบแก้ต่างให้ลูกชายชุดใหญ่
“แต่ฉันอยากอุ้มหลาน เธอก็รู้นะแม่นาถ ปีนี้สุขภาพฉันมันย่ำแย่ลงไปมาก ปีหน้าคงได้เวลาวางมือจากบริษัท ส่วนว่าใครจะได้ขึ้นมาอยู่ตำแหน่งไหน มันก็อยู่ที่ว่า ลูกหลานคนไหนจะทำให้ฉันไว้วางใจได้นั่นแหละ”
นั่นถือเป็นคำขู่กลายๆ ว่าตำแหน่งใหญ่ในบริษัท ก็อาจจะชวดหลุดมือลูกชายหล่อนที่เป็นถึงหลานชายคนโต และทายาทสืบสกุลคนแรกของมหาดำรงค์กิจด้วย
เจ้าสัววิชาญมีหลานชายทั้งหมดสามคน คือวิศรุต บุตรชายของหล่อน วาคิมลูกที่เกิดจากวิไลเลขาภรรยานอกสมรสของนายวสันต์สามีของหล่อนซึ่งเป็นบุตรชายคนเดียวของเจ้าสัววิชาญ และ อีกคนก็คือวัชเรศที่เป็นหลานตา แต่ทั้งสามคนก็ได้ใช้นามสกุล มหาดำรงค์กิจ และถือเป็นหลานของท่านเหมือนๆ กัน
ฤดีนาถหน้าเคร่งขึ้นมาเมื่อคิดครวญเรื่องนี้ แต่ยังไม่ทันที่จะได้คิดหาวิธีแก้ไขสถานการณ์ตึงเครียดในบ้านว่าจะทำยังไงดี ตัวแปรสำคัญอีกคนก็โผล่หน้าเข้ามาร่วมสมทบ
“สวัสดีครับคุณปู่”
ชายหนุ่มฉกรรจ์ร่างสูงใหญ่ ใบหน้าคมคายในชุดเสื้อโปโลสีขาวกางเกงสแล็คสีครีมเดินเข้ามาในห้องนั่งเล่น พร้อมกับยกมือไหว้เจ้าสัว ก่อนจะหันมายิ้มให้และไหว้หล่อนอย่างนอบน้อม ฤดีนาถยกมือรับไหว้ตามมารยาท หากสายตากลับจับจ้องมองอย่างจับผิด
“อ้าว! เจ้าคิม มาแต่เช้าเลย”
คนแก่ที่ยังหายใจหอบด้วยความโมโหทิ้งก้นนั่งลงบนโซฟาหลุยส์แพงระยับสั่งนำเข้าจากยุโรป และวาคิมก็ตามไปนั่งด้วยที่ชุดรับแขกเดียวกันอย่างสนิทสนม
ตั้งแต่กลับมาเมืองไทย และได้เข้าไปเรียนรู้งานในบริษัทของครอบครัว ก็ดูเหมือนว่าวาคิม และเจ้าสัวจะสนิทชิดเชื้อกันมากขึ้น
“ไม่เช้าแล้วนะครับคุณปู่ นี่มันเก้าโมงแล้ว”
ชายหนุ่มเอ่ยแย้งอย่างอารมณ์ดี
“เออๆ ขี้เกียจเถียงกับคนหนุ่ม ว่าแต่นั่นแกแต่งตัวจะไปไหนล่ะ?”
พยักพเยิดใบหน้าถาม
“ไม่ไปไหนครับ วันนี้ผมว่างทั้งวัน ก็เลยมาหาเผื่อว่าคุณปู่จะอยากได้เพื่อนเล่นหมากรุก หรืออาจจะใช้ไหว้วานไปไหนไงครับ”
เอ่ยเสนอตัวยิ้มแย้มในใบหน้าอย่างอารมณ์ดี
‘ประจบ...เอาหน้า’
ฤดีนาถก่นว่าในใจ พร้อมกับปรายตาจับจ้องบุตรชายจากภรรยาอีกคนของสามีอย่างระแวง
วาคิมเพิ่งกลับจากอเมริกาได้สามเดือนหลังเรียนจบและได้เข้าทำงานในไทย ไอออน อินดัสตี้ บริษัทผลิตและส่งออกเหล็กอุตสาหกรรมรายใหญ่ของประเทศ ก็ดูเหมือนว่าหลานปู่จากภรรยารองคนนี้ กำลังพยายามทำคะแนนเอาอกเอาใจ และใกล้จะเขี่ยลูกชายของหล่อนตกกระป๋องในไม่ช้า
ยิ่งตอนนี้ วิศรุตไปควงกับผู้หญิงที่เจ้าสัววิชาญไม่ชอบหน้าด้วยแล้ว ตำแหน่งใหญ่ในบริษัทก็อาจจะเปลี่ยนมือไปได้ แต่หล่อนก็ไม่มีทางยอมเด็ดขาด เพราะเมื่อครั้งอดีตยัยวิไลเลขามารดาของวิศรุตเคยแย่งสามีไปทีหนึ่งแล้ว นั่นทำให้หล่อนต้องเจ็บช้ำน้ำใจ หวานอมขมกลืนมาตลอดหลายปี และตอนนี้ ลูกชายของผู้หญิงหน้าด้านคนนั้น ก็ยังจะมาแย่งสิ่งที่ควรจะเป็นของลูกชายของหล่อนไปอีก หล่อนไม่มีวันยอมเด็ดขาด
“ฉันไม่เล่นกับแกหรอก พวกมือไม่ถึง แต่แกมาก็ดีแล้ว ปู่นัดทานน้ำชา คุยกันประสาคนแก่กับเจ้ายุทธมันไว้ ไปกับแกดีกว่า จะได้แนะนำให้รู้จักหนูแพรวด้วย กลับมาเมืองไทย ยังไม่ค่อยมีเพื่อนที่ไหนไม่ใช่หรือ?” พยักพเยิดหน้าถาม เพราะตั้งแต่กลับมาวาคิมก็มุ่งมั่นทำงานอย่างแข็งขันจนท่านรู้สึกพึงพอใจอย่างมาก
“ครับ คุณปู่ ดีเลย ผมก็อยากมีเพื่อนใหม่ๆ”
รีบรับลูกอย่างเอาใจคนแก่
แววริษยาฉายชัดในดวงตาของฤดีนาถ เพราะหนูแพรวที่เจ้าสัวเอ่ยถึง คือหลานสาวของเพื่อนสนิทที่ท่านรักใคร่เอ็นดูนักหนาและโปรดปรานถึงขนาดหมายมั่นปั้นมือจะเอามาเป็นหลานสะใภ้ แต่วิศรุตก็ไม่ได้ตอบสนองความต้องการของผู้เป็นปู่เลยแม้แต่น้อย
หล่อนเคยเห็นหนูแพรวอะไรนั่นแล้ว...แพรวพิชชาเป็นคุณครูอนุบาล และตอนนี้ก็รับสืบทอดกิจการดูแลโรงเรียนอนุบาลต่อจากครอบครัว
เด็กสาววัยยี่สิบต้น แต่งตัวเรียบๆ ไม่แต่งหน้าทาปาก ซื่อใสไร้จริต จะเรียกว่าจืดชืดก็คงได้ ซึ่งเป็นผู้หญิงคนละแนวกับกับที่ลูกชายหล่อนชอบโดยสิ้นเชิง และเพียงแค่เปรยๆ ให้ฟังว่าเจ้าสัวกำลังคาดหวังอะไรอยู่ วิศรุตถึงกับเบ้หน้าปฏิเสธลั่นทีเดียว
‘คุณครูอนุบาลนี่นะครับแม่ คงจะเชยระเบิดระเบ้อ แต่งตัวไม่เป็น เนื้อตัวคงมีแต่ขี้มูกขี้ตาเด็กๆ ทำอะไรช้าๆ เนิบนาบ พูดทีดอกพิกุลจะร่วงจากปาก ผมขอผ่านดีกว่าครับ’
เพียงแค่ได้ยินว่าหญิงสาวทำอาชีพอะไร ลูกชายหล่อนก็คัดค้านเสียงหลงและหลีกเลี่ยงสุดชีวิตที่จะไปทำความรู้จักกับหนูแพรวเสียแล้ว
หากว่าวาคิมเกิดชอบพอกับแพรวพิชชา จนได้ตกร่องปล่องชิ้นกันขึ้นมาจริง ลูกเมียน้อยของสามีคงได้เลื่อนขั้นขึ้นแท่นรับตำแหน่งหลานรักคนโปรดแทนลูกชายของหล่อนเป็นแน่แท้
“งั้นก็ไปกันเลยไป สายแล้ว”
ว่าแล้วสองปู่หลานก็ชักชวนพาเดินออกจากห้องนั่งเล่นไปยังหน้าตึกที่ตอนนี้เจ้าจ๊อดคนขับรถคู่ใจเจ้าสัวจอดรถรออยู่ เพื่อจะไปเยี่ยมเพื่อนเก่าเพื่อนแก่ของเจ้าสัวที่คบหากันมานาน
ท่าทางสนิทสนมที่แสดงออกระหว่างทั้งสองคน ทำให้ฤดีนาถถึงกับร้อนรุ่มอยู่ไม่เป็นสุขขึ้นมา
“ไม่ได้การแล้ว ต้องทำอะไรสักอย่าง ขืนปล่อยไว้อย่างนี้ ลูกชายยัยวิไลเลขาได้หยิบชิ้นปลามันไปกินแทนแน่”
และหล่อนยอมให้เป็นอย่างนั้นไม่ได้เด็ดขาด
มือขาวอวบอูมตามวัยรีบกดโทรศัพท์หาลูกชายหัวแก้วหัวแหวนทันที ไม่ว่าตอนนี้วิศรุตจะทำอะไรอยู่ เขาควรได้รู้ไว้ว่า หน้าที่สำคัญที่สุดยิ่งกว่าการนอนกกสาวๆ ที่เจ้าตัวพอใจ คือต้องเร่งกลับมาทำคะแนนกับท่านเจ้าสัว ไม่ให้ใครมาคว้าเอาหน้าที่การงานตำแหน่งใหญ่ในบริษัทไปแทนได้ หล่อนไม่มีวันยอมเจ็บใจและเสียหน้าซ้ำสอง ปล่อยให้ลูกของเมียรองสามี ขึ้นมามีอภิสิทธิ์เหนือกว่าลูกของหล่อนเป็นอันขาด
ชอบก็อย่าลืมกดหัวใจด้านล่าง
และคอมเม้นต์เป็นกำลังใจให้คนเขียนด้วยนะจ๊ะ
กดติดตามผลงานของนักเขียนได้ที่เพจนี้นะจ๊ะ
จะได้ไม่พลาดการติดตามน๊า ^^
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

4 ความคิดเห็น
-
#1 ondara (จากตอนที่ 1)วันที่ 5 พฤษภาคม 2561 / 12:59คราวนี้มาจริงป่ะเนี่ย,อย่าหลอกให้อ่านเล็กน้อยแล้วก็หายไปไหนก็ไม่รู้อีกล่ะ, จะกดแฟ๊บไว้ก่อนถ้าหายอีกมีเรื่อง#12
-
#1-1 รัชริล(จากตอนที่ 1)5 พฤษภาคม 2561 / 13:00นักเขียน จะลงให้อ่าน ประมาณ 70-80 % ของเรื่องค่า ^^#1-1
-