ตอนที่ 20 : เป็นห่วงเป็นใย
“คงกินน้ำพริกไปไม่ได้อีกหลายวันเลยนะคะนี่”
ดวงตาสวยทอดมองอย่างเป็นกังวล นิ้วเรียวยาวแตะขี้ผึ้งปิดแผลลงอย่างเบามือดูใส่ใจ ห่วงใย
ช่วยไม่ได้ที่ระยะใกล้ขนาดที่มองเห็นความเนียนใสของผิวแก้มเธอชัดๆ ยังจะกลิ่นกายหอมกรุ่นอ่อนๆ จะปั่นป่วนประสาทของเขาจนล่องลอยไปไกล อารมณ์บุรุษเพศที่นอนสงบนิ่งอยู่ในเบื้องลึกของร่างกาย กำลังแปรปรวนขึ้นมาราวกับคลื่นในทะเลคลั่งที่พร้อมจะกลายเป็นสึนามิโถมเขาหาฝั่ง
“เสร็จแล้วค่ะ”
ร่างบางผละห่าง แต่ใบหน้าเขายังค้างงันอยู่
บัวชมพูเห็นเขาตาลอยๆ
“คุณฤทธิ์...คุณฤทธิ์คะ”
เสียงหวานปลุกเขา คนหน้าค้างได้สติ นึกหงุดหงิดตัวเองที่เขาเป็นบ้าอะไรขึ้นมา รีบชะโงกหน้าไปดูบาดแผลที่มุมปากผ่านกระจกมองหลังในรถ ก่อนจะรู้สึกเป็นกังวลนิดๆ มันไม่ได้เขียวช้ำอะไรชัดเจนนัก แต่รู้สึกเจ็บหน่วงๆ แบบน่ารำคาญ พอปิดขี้ผึ้งสมานแผลแล้วถ้าไม่สังเกตดีๆ ก็แทบจะมองไม่เห็นเลย
“คุณจะกลับไปทำงานจริงหรือคะ?”
คำถามฟังดูไยดี
“ไปสิ มีงานรออยู่ตั้งเยอะ แล้วไม่ต้องบอกเรื่องนี้กับป้าแจ่มหรือใครหรอกนะ แผลมันแทบไม่เห็นเสียด้วยซ้ำ”
เขาเลือกที่จะไม่กลับไปทำแผลที่บ้าน เพราะไม่อยากถูกป้าแจ่มซักไซ้ไล่เลียง บัวชมพูจึงรับอาสาลงไปซื้อยาที่ร้านสะดวกซื้อมาทำแผลให้เขา
แม้จะบอกตัวเองว่าไม่ควรจะไปรู้สึกอะไรกับผู้หญิงคนนี้ แต่ภูวฤทธิ์ก็อดเผลอที่มองไม่ได้ ในเมื่อเธอเป็นคนสวย ผู้ชายที่ไหนก็ชอบผู้หญิงสายทั้งนั้นหรือไม่จริง
บัวชมพูมือนิ่ม ใจเย็น เอาใจใส่เป็นห่วงเป็นใยในการทำแผลให้เขา นั่นคงจะเป็นเพราะเธอรู้สึกผิด ที่มีส่วนให้เขาได้บาดแผลนี้มา
“คิดแล้วน่าเจ็บใจชะมัด โดนต่อยแถมยังต้องเสียเงินค่าปรับอีก”
“อย่าเอามาใส่ใจเลยค่ะ เพราะถ้าจะว่าไปตามจริง คุณก็เป็นฝ่ายผิดที่ไปชนรถเขา”
“ผมผิดงั้นหรือ? คุณต่างหากล่ะที่เป็นฝ่ายผิด เพราะถ้าคุณไม่ชวนผมทะเลาะ ผมก็คงไม่ขับรถไปเสยท้ายรถคันนั้นเข้าหรอก”
เขาใช้ความหงุดหงิด ข่มอารมณ์ที่ปั่นป่วน ซึ่งไม่ควรเกิดระหว่างเธอกับเขา
ดวงตาหวานเบิ่งโตขึ้นมา หัวคิ้วเรียวขมวดนิดๆ
“นี่คุณโทษว่าเป็นความผิดของฉันหรือคะ?”
“แล้วไม่จริงหรือไง?”
“คุณต่างหากที่เป็นฝ่ายหาเรื่องฉันก่อน”
“ผมนี่นะ...ไม่เคยมีนิสัยอย่างนั้น”
คนไม่รู้ความผิดตัวเองปฏิเสธเสียงแข็ง
บัวชมพูนึกอยากขยายบานกระจกที่ชายหนุ่มส่องให้มันใหญ่ขึ้น เผื่อเขาจะได้มองเห็นว่าตัวเองเป็นคนกวนประสาทแค่ไหน...แต่เธอก็ไม่อยากต่อความยาวสาวความยืดกับเขาอีก เห็นแก่บาดแผลที่กำลังระบมบอบช้ำบนใบหน้าของเขาหรอก
“ส่งฉันที่หน้าบ้านก็พอค่ะ”
“ก็คงต้องเป็นอย่างนั้น เพราะนี่ก็เลยเที่ยงวันแล้ว ถ้าไม่ต้องไปเสียเวลาที่โรงพัก และก็รอคุณรื้อฟื้นความหลังกับกิ๊กเก่า ก็คงจะเสร็จธุระไปตั้งนานแล้ว”
คนว่าดึงบานประตูปิด
ดวงตาหวานจ้องเขาอย่างขุ่นเคืองใจ อะไรๆ ผู้ชายคนนี้ก็ไม่ผิดสักอย่าง โทษแต่เป็นความผิดของเธอคนเดียวทุกครั้ง
นิสัยเสียๆ อย่างนี้ ยังมาอวดโอ่จะเป็นแบบอย่างให้ลูกชายของเธออีก ตอนนี้บัวชมพูเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่า จะไว้ใจให้เขาอยู่ใกล้ภีรภัทรดีจริงหรือ? กลัวลูกชายจะติดนิสัยแย่ๆ มาจากพี่ชายที่โตแต่ตัวของแกเสียจริง
“ฉันก็บอกตั้งแต่แรกแล้วว่าไม่รบกวน แต่คุณนั่นแหละที่ยืนยันจะมาด้วยให้ได้”
“ถ้าหมายถึงเรื่องของนายภีม ในฐานะที่เขาเป็นน้องชายผม ผมอยากมีส่วนรับผิดชอบเขาทุกอย่างไม่ว่าเรื่องอะไร ไม่งั้นคุณก็จะมาว่าได้อีกว่าผมทอดทิ้งไม่ดูดำดูดี”
“งั้นฉันก็ไม่รบกวนดีกว่า คุณจะได้รีบไปทำงาน” มือบางทำท่าจะเปิดประตูลงไป แต่ภูวฤทธิ์ก็คว้าหมับเข้าที่เรียวแขนนุ่มรวดเร็วเช่นกัน
“ไหนๆ ก็เสียเวลาแล้ว อีกสักนิดจะเป็นไร ผมอยากแน่ใจว่าส่งคุณให้ถึงบ้าน”
ยื่นมือไปสตาร์ทเครื่องยนต์
“หรือว่าที่อยากกลับเองเพราะอยากแวะไปหาใคร หรือนัดผู้ชายไว้ที่ไหนอีกหรือเปล่าล่ะ?” คำถามชวนหาเรื่องขึ้นมาอีก
บัวชมพูถอนใจอย่างเหนื่อยหน่ายคนที่โตแต่ตัว หากว่านิสัยกลับเหมือนเด็กชอบเอาชนะ คอยแต่จะชวนเธอทะเลาะไม่เลิกลา
“มันก็สิทธิ์ของฉันไม่ใช่หรือคะ?”
“รอให้นายภีมโตก่อนเถอะนะค่อยพูดคำนี้”
เขาหันมาว่าใส่หน้า
ก่อนขับรถออกไปจากบริเวณปั๊มน้ำมัน และอีกไม่ถึงสิบนาที รถของภูวฤทธิ์ก็จอดนิ่งอยู่ที่ประตูหน้าบ้านอัครเดชาชาญใบหน้าสวยที่บึ้งตึงมาตลอดห้านาที รีบเปิดประตูก้าวขาเรียวลงจากรถ เธอว่าจะไม่ดูดำดูดีเขาแล้วเชียว แต่ก็อดไม่ได้
“ฉันซื้อคัพโจ๊กกับนมถั่วเหลืองมาให้ด้วย ถ้าอยากทานก็อยู่ที่เบาะด้านหลังนะคะ”
น้ำเสียงกระด้าง แต่ยังเจือความสนใจไยดี ก่อนที่ร่างบางจะก้าวลงไปยืนเต็มตัว แล้วเดินฉับๆ เข้าบ้านไป
ดวงตาคมในแว่นกันแดดสีชาเหลียวไปมองที่เบาะด้านหลังก็เห็นถุงจากร้านสะดวกซื้อวางอยู่
ภูวฤทธิ์หันกลับมามองตามร่างเพรียวระหงนั่นไป อดไม่ได้ที่ยิ้มออกมานิดๆ โล่งใจที่หญิงสาวไม่ได้โกรธเขาจนถึงกับจะไม่เจรจาพาทีกันอีก ทั้งที่ไม่น่าจะแคร์อะไร แต่เขาก็อดใจหายไม่ได้ เมื่อบัวชมพูไม่พูดไม่จาใดมาตลอดทางจากปั๊มน้ำมันจนถึงบ้าน
มือหนาเข้าเกียร์ออกรถเพื่อจะกลับไปทำงาน ในช่วงบ่ายของวันนี้ แปลกที่เขาไม่รู้สึกหงุดหงิดหรือหัวเสียเท่าที่ควร กับแผลที่ได้มาตรงมุมปาก
ชอบก็อย่าลืมกดหัวใจด้านล่าง
และคอมเม้นต์เป็นกำลังใจให้คนเขียนด้วยนะจ๊ะ
กดติดตามผลงานของนักเขียนได้ที่เพจนี้นะจ๊ะ
จะได้ไม่พลาดการติดตามน๊า ^^
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ
