ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC INUYASHA] Destiny พิชิตชะตา สัญญารัก

    ลำดับตอนที่ #12 : ♣ Destiny ♣ Chapter 11

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 362
      22
      17 พ.ค. 63

     Destiny  Chapter 11

     

    “...ต้องมารับแน่”

    ชายหนุ่มดีดตัวลุกขึ้นจากพื้นเสื่อทาทามิที่เขาเผลอหลับไปด้วยสีหน้าตื่นตระหนก ใบหน้าของเขามีเหงื่อเต็มไปหมด เสื้อของเขาชื้นเหงื่อจากฝันเดิมๆที่คอยหลอกหลอนเขามาหลายปี แต่ที่ทำให้เขาร้อนใจก็คือในฝันครั้งนี้ไม่ใช่ท่านพ่อ ท่านแม่ หรือคิเคียว แต่เป็น...

     

    “ย่าชิมาดะ”

     

    อินุยาฉะไม่รอช้า เขาลุกขึ้นด้วยหัวใจที่เต้นรัวอย่างหวาดหวั่นขณะที่ก้าวเท้าตรงไปยังห้องครัว ภายในห้องครัวที่มีแสงแดดยามเช้าฉายผ่านหน้าต่างเข้ามาบนโต๊ะอาหาร กลิ่นหอมของปลาย่างและซุปมิโซะที่อบอวลไปทั่วทั้งห้อง ให้ความรู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก ดวงตาของอินุยาฉะจับจ้องแผ่นหลังคุ้นตาของหญิงชราที่ยืนอยู่หลังครัว ไม่รู้ว่าหัวใจของเขามันรู้สึกโล่งมากขนาดไหนที่ได้เห็นแผ่นหลังที่แสนอบอุ่นนั้นอีกครั้ง


    มันก็แค่ความฝัน...สินะ


    ถึงจะรู้สึกว่าไม่เหลือใคร...


    แต่ตอนนี้เราก็ไม่ได้อยู่คนเดียว.....


     “ผมขอโทษเรื่องเมื่อวานนะ” เด็กหนุ่มเอ่ยแผ่วเบา ย่าชิมาดะสะดุ้งเล็กน้อย ก่อนระบายยิ้มอ่อนโยน เมื่อรู้ว่าเป็นเสียงของใคร หญิงชราหันหน้ามาทางคุณหนูของเธอ รอยยิ้มอันแสนอ่อนโยนที่ช่วยปลอบประโลมจิตใจที่ไม่มั่นคงของเด็กหนุ่ม


    “คุณหนูตื่นแล้วเหรอคะ มาค่ะ นั่งที่โต๊ะเดี๋ยวดิฉันตักข้าวให้นะคะ” อินุยาฉะยิ้มตอบ ก่อนนั่งลงที่โต๊ะอย่างว่าง่าย ย่าชิมาดะเดินออกจากครัวมาที่โต๊ะอาหาร


    “ทานเยอะๆนะคะคุณหนู” ย่าชิมาดะเอ่ยบอกพร้อมยกอาหารมาให้เขาบนโต๊ะ อาหารที่พิถีพิถันและเต็มไปด้วยความอบอุ่น อย่างน้อยตอนนี้เราก็ไม่ได้อยู่คนเดียว....


    ดวงตาสีอำพันจับจ้องอาหารเช้าตรงหน้า ความอบอุ่นและใส่ใจที่สัมผัสได้ ทำให้น้ำใสรื้นขึ้นมาคลอที่ตาคู่นั้น ก่อนเด็กหนุ่มจะระบายยิ้มออกมา

    “ทานละนะครับ”


    ชิมาดะมองดูอินุยาฉะที่กินอาหารที่ทำด้วยรอยยิ้ม แล้วพลันนึกถึงเด็กสาวคนหนึ่งในความทรงจำ


    ท่านอิซาโยยเจ้าคะ....ดิฉันอยากให้ท่านได้เห็นคุณหนูตอนนี้เหลือเกินเจ้าค่ะ...


    “ทานเยอะๆนะคะคุณหนู” หญิงชราเอ่ยพร้อมยกมือขึ้นซับน้ำใสที่หางตา


    ดิฉันสัญญาว่าจะดูแลคุณหนูให้ดีที่สุดนะเจ้าคะ.....

     


    ...........

     

    “เฮ้! อินุยาฉะ นายเหม่ออะไรอยู่เนี่ย”มือของเพื่อนรักยกขึ้นโบกไปมาเบื้องหน้าของเด็กหนุ่ม ทั้งคู่สวมชุดยูนิฟอร์มของนักเรียนม.ปลายสีดำ


    “เปล่านี่” อินุยาฉะตอบ พวกเขานั่งกันอยู่บริเวณใต้ต้นไม้ใหญ่หลังอาคารเรียน เพื่อนนักเรียนมากมายเดินผ่านไปมาในสวนของโรงเรียนชวนให้นึกรำคาญไม่น้อย


    “เหม่ออยู่ชัดๆ”อีกฝ่ายยืนยัน พร้อมใช้นิ้วจิ้มดันที่หน้าผากอีกคน อินุยาฉะยกมือขึ้นลูบหน้าผากตัวเองเบาๆ ก่อนทำหน้างอตอบ


    “ฉันแค่นึกถึงเรื่องต่างๆ.....อยู่น่ะ”


    “เรื่องอะไร?” มิโรคุถามสีหน้าจริงจัง พวกเขาเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่นานจนตอนนี้ม.ปลายปีสอง พวกเขาก็ยังคงสนิทกัน แต่ไม่ว่ากี่ครั้งอินุยาฉะก็ไม่เคยเล่าเรื่องของตัวเองให้เขาฟังสักเท่าไหร่ เขาไม่ค่อยชอบหรอก ที่เห็นหมอนี่เก็บเรื่องนั่นนี่มาคิดมาก


    “ช่างมันเถอะ มิโรคุ มีงานพิเศษแนะนำมั้ย?” และเป็นอีกครั้งที่อินุยาฉะเปลี่ยนเรื่อง มิโรคุจึงทำได้เพียงเก็บความสงสัยเอาไว้  และทำตัวปกติเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายไม่สบายใจ เขาไม่อยากคาดคั้นให้อีกฝ่ายเล่า เพราะแค่เห็นอินุยาฉะทำสีหน้าเศร้า เขาก็รู้สึกผิดขึ้นมาแล้ว


    แต่แล้วเขาก็รู้สึกตัวเมื่อคิดถึงคำถามที่อีกฝ่ายถามขึ้นเมื่อครู่


     “หะ? เกิดอะไรขึ้น นายอยากทำงานพิเศษเหรอ?” มิโรคุร้องขึ้นอย่างประหลาดใจ


    “เออ ทำไม ฉันจะทำไม่ได้หรือไง แปลกมาก?” อินุยาฉะค้อนสายตาใส่ มิโรคุกระพริบตาปริบๆ มันก็ไม่แปลกเท่าไหร่สำหรับวัยอย่างพวกเขา แต่แบบเขาคิดภาพเพื่อนเขาทำงานพิเศษไม่ค่อยจะออกล่ะนะ เพราะหมอนี่ออกจะขี้รำคาญ นอกจากเก่งเรื่องต่อสู้ อย่างอื่นเขาก็ไม่ค่อยจะเคยเห็นซะด้วยสิ


    “โอ๋ๆ เปล่าครับเพื่อนนน ฉันแค่แปลกใจนิดหน่อย” มิโรคุใช้มือบีบไหล่เพื่อนให้ใจเย็น แต่ก็เอาเถอะ ถือซะว่าช่วยให้หมอนี่ได้ลองทำอะไรใหม่ๆด้วยล่ะมั้ง


    “อืม ก็พอมีอยู่ ไว้เลิกเรียนพาไปแล้วกัน”


    หวังแต่ว่าเจ้าเพื่อนตัวดีจะไม่ไปอัดใครเข้าล่ะนะ.... มิโรคุส่ายหน้าในใจ


    “ว่าแต่นายกับซังโกะไปถึงไหนกันล่ะ”อินุยาฉะถามขึ้นเมื่อเขาเห็นช่วงนี้เจ้าเพื่อนตัวดีชอบไปก่อกวนเพื่อนสาวคนสนิทสักพักใหญ่แล้ว


    “ฉันกับซังโกะน่ะนะ? หื้ม...นายสนใจด้วยเหรอ”มิโรคุหันมองเพื่อนก่อนยิ้มเจ้าเล่ห์ ร้อยวันพันปีไม่เคยสนใจเรื่องเขาสักหน่อยนี่


    “ไม่อ่ะ ถามไปงั้นแหละ” คำตอบยียวนของอินุยาฉะเรียกความหมั่นไส้จากเพื่อนรักได้อย่างดี แต่ก่อนที่มิโรคุจะทันได้ตอบโต้อีกฝ่าย เขาก็นึกบางอย่างขึ้นมาได้เสียก่อน


    “อ่ะ! พูดถึงฉันต้องไปห้องสมุดแล้วสิ!”มิโรคุเอ่ยอย่างนึกขึ้นได้ เมื่อเห็นหอนาฬิกาบอกเวลานัดของเขา เขาลุกขึ้นก่อนตัดสินใจเอ่ยลาเพื่อนและวิ่งจากไป


    “งั้นฉันไปก่อนนะ นายก็รีบพักให้เต็มที่ก่อนเรียนคาบบ่ายล่ะ”


    อินุยาฉะส่ายหน้าไปมา เมื่อมองตามหลังเพื่อนรักจนอีกฝ่ายที่วิ่งไม่ดูตาม้าตาเรือชนเข้ากับต้นไม้ร้องเสียงโอ้ยซะดังลั่น ก่อนหันมายิ้มแห้งๆอย่างเขินอายให้เขาแล้ววิ่งหายเข้าไปในอาคาร อย่างเจ้าเพื่อนคนนี้ของเขาไปห้องสมุด คงไม่ใช่ไปอ่านหนังสือ แต่ไปเหล่สาวซะมากกว่าล่ะนะ


    “เฮ้อ”อินุยาฉะถอนหายใจ ทิ้งตัวลงนอนเหยียดบนพื้นหญ้า มองดูแสงระยิบระยับของดวงอาทิตย์ที่ส่องผ่านกิ่งไม้ที่ตวัดขัดกันไปมาสะท้อนสีเขียวของใบไม้ดูสบายตา แต่ในใจก็ยังคงคิดย้อนถึงสิ่งที่ฝันในตอนเช้าอยู่ดี


    ไม่ได้ฝันแบบนั้นมาสักพักแล้วแท้ๆนะ.....


    ขออย่าให้มีอะไรเกิดขึ้นเลย...



    ....

     

     

    “นี่อินุยาฉะ ทำไมนายถึงอยากทำงานอ่ะ? มีของที่อยากซื้องั้นเหรอ?” มิโรคุพูดขณะที่พวกเขาเดินออกจากโรงเรียนหลังจากแยกกับซังโกะและคาโงเมะที่มีกิจกรรมชมรม ถึงจะบอกว่าไม่แปลกใจ แต่เขาก็ยังอยากรู้เหตุผลของเจ้าตัวอยู่ดีล่ะนะ


    “เอาเป็นว่านายไม่ต้องรู้หรอก” อินุยาฉะบอกปัด ทำเอาคุณเพื่อนถึงกับหรี่ตามองจับพิรุธอีกคน จะไม่ให้เขาอยากรู้ได้ยังไงก็ได้ยินว่าอีกไม่นานจะเกิดคาโงเมะจังแล้วนี่นา เพื่อนเขานี่ยังจะมาปกปิดอะไรเขาอีกเนี่ย


    “แหมมม... จ้าพ่อคุณณ อยากจะแหมให้ถึงดาวพลูโตไปเลย” มิโรคุหัวเราะร่ากับความปากแข็งของเพื่อน ก่อนวาดแขนขึ้นคว้าคอเพื่อนมาใกล้ๆพลางหัวเราะอย่างอารมณ์ดี อยากจะหาเงินไปจีบสาวบอกกันดีๆก็ได้แท้ๆเลยน้า


    “เลิกเล่นสักทีเหอะ แล้วงานอะไรที่นายจะพาฉันไป” อินุยาฉะว่า ก่อนยกแขนของมิโรคุออก ก่อนจะหัวเราะร่าแล้วเดินนำเขาไป


    “เดี๋ยวก็รู้เอง”

    ........


    “แท่นแท๊นนน ที่นี่ไง”มิโรคุตั้งท่าพายมือไปทางคอนวิเนี่ยนสตอร์ธีมฟ้าขาว ที่ตั้งอยู่ใต้ตึกอพาร์ทเมนท์หรูตรงหน้าพวกเขา ป้ายร้านชื่อ คาเซะช็อป


    อืมม.....ก็ดูท่าทางไม่เลว


    “ฉันโทรมาบอกแล้ว....” มิโรคุเอ่ยเสียงร่าขณะเดินนำเขาเข้าไปในร้าน


    “มากันแล้วเหรอ” ชายหนุ่ม มีดวงตาคมกริบและเรือนผมสีดำที่ถักไว้อย่างเรียบร้อยเอ่ยทักพวกเขา อินุยาฉะหันมองร่างสูงในชุดยูนิฟอร์มและผ้ากันเปื้อนสีดำของร้าน หน้าตาคมเข้มที่คงทำให้หัวใจของลูกค้าคงละลายไปตามกันๆ กลางหน้าผากของร่างสูงมีปานรูปดาวสี่แฉกขนาดใหญ่ ที่อกของอีกฝ่ายติดป้ายชื่อเอาไว้ บังคตซึ’ ‘ผู้จัดการร้านดูแล้วออกจะให้ความรู้สึกน่าหวั่นใจ เมื่อคิดว่าอีกฝ่ายก็ดูท่าทางแข็งแกร่ง


    “ครับบังคตซึซัง นี่เพื่อนผม อินุยาฉะ” เจ้าเพื่อนตัวดีเอ่ยแนะนำตัวเขาด้วยท่าทางดี๊ด๊า อืม สนิทกันสินะ ถ้ารู้จักคนแข็งแกร่งขนาดนี้ ก็คงไม่แปลกที่บางทีเจ้าเพื่อนของเขาจะถูกพวกคนแปลกๆอย่างยากูซ่าอะไรแบบนั้นตามรังควานละนะ


    “สวัสดีครับ ผมอินุยาฉะ” เขาเอ่ยแนะนำตัวอย่างสุภาพ


    “ฉันก็หลงนึกไปว่าสาวใหม่เจ้ามิโรคุซะอีก” บังคัตซึเอ่ยแซวขึ้น เมื่อเห็นว่าท่าทางของอีกคนดูน่าแกล้งสุดๆ แม้ว่าเขาจะเผลอคิดแบบนั้นจริงๆก็เถอะ หน้าสวยซะขนาดนั้นนี่นะ


    “บังคตซึซัง!” มิโรคุร้องเสียงหลง ก่อนเหลือบตามองคุณเพื่อนที่ระบายยิ้มกว้าง แต่หางคิ้วกระตุกตุบๆ เจ้าหมอนี่เกลียดการถูกทำว่าเป็นเด็กผู้หญิงสุดๆเลยล่ะ


    “ฮ่าๆ ล้อเล่นน่า เพื่อนแกผมยาวสวยขนาดนี้ มองแวบแรกก็เข้าใจผิดกันได้ทั้งนั้นแหละน่า” บงคัตซึปรายตามองอินุยาฉะ ก่อนเผยแววตาหยาดเหยิ้ม พร้อมวิ๊งตาให้ทีนึงอย่างน่าหมั่นไส้


    ยังกับตัวเองผมไม่ยาวเลยนะเจ้าบ้านี่.... อินุยาฉะคิด


    “พอเลยๆ  หยอกมันมากๆระวังเหอะโดนจับทุ่มเอวหักไม่รู้ด้วย” มิโรคุเอ่ยปรามด้วยรอยยิ้ม


    “งั้นเราเอาใบสมัครไปกรอกนะ เสร็จแล้วเอามาให้พี่”บังคตซึหยิบใบสมัครออกมาก่อนยื่นให้เด็กหนุ่ม อินุยาฉะรับไปพร้อมตอบ “ครับ” ด้วยรอยยิ้มฝืนให้สดใส แล้วเดินไปนั่งที่ที่นั่งติดกระจกหน้าต่างของร้านกับมิโรคุ


    อย่าคิดว่าแก่กว่าแล้วฉันจะไม่กล้าตั๊นหน้านายนะ.....


    “อย่าไปใส่ใจบังคตซึซังเลย พี่เขาก็แบบนี้แหละ”มิโรคุเอ่ยขำๆ เมื่อเห็นเจ้าเพื่อนตัวดีเขียนใบสมัครไปขมวดคิ้วเป็นปมไป รู้แหละว่าไม่ชอบ ถ้าไม่ใช่เพราะลูกค้าในร้านอีกฝ่ายคงทุ่มรุ่นพี่ออกหน้าต่างไปแล้ว


    “ช่างเถอะ”อินุยาฉะตอบปัดเหมือนไม่ใส่ใจ


    “งั้นก็ดีแล้ว.....” มิโรคุยกมือข้างขวาขึ้นค้ำคางแล้วมองดูเพื่อนตัวดีของเขาอย่างพิจารณา ใบหน้าขาวเนียนราวกับผู้หญิง ดวงตาสีอำพันสวยกับจมูกสูงที่คมชัด เรือนผมสีดำยาวที่เจ้าตัวบอกว่าไม่รู้ทำไมตัดไปกี่ครั้งๆมันก็ยาวเร็วเสียจนน่าโมโห ถึงจะรำคาญ แต่ก็เหนื่อยที่จะตัดแล้วเลยปล่อยๆไป อาจารย์เองก็ไม่ได้ว่าอะไรด้วยล่ะนะ


    “นายเลิกจ้องฉันสักที” อินุยาฉะเอ่ยเสียงเข้มเมื่อสัมผัสได้ถึงสายตาเจ้าเพื่อนตัวดีที่มองเขาแปลกๆ


    “อ่าๆ” มิโรคุเอ่ยพร้อมยิ้มทะเล้นใส่เพื่อน “งั้นฉันไปเดินดูอะไรกินดีกว่า เขียนเสร็จแล้วนายก็เอาให้บังคตซึซังล่ะกันนะ” มิโรคุว่าพลางลูบท้องตัวเองให้เพื่อนรู้ ก่อนลุกเดินไปสำรวจของกินในร้าน


    อินุยาฉะส่ายหัวเบาๆ เขาอยากจะตบหัวเจ้าเพื่อนตัวดีตอนมองเขาแปลกๆจริงๆให้ตายเถอะ อินุยาฉะหันไปมองที่เคาร์เตอร์แคชเชียร์ที่บังคตซึกำลังคิดเงินให้กับลูกค้าคนหนึ่งอยู่ เมื่อเห็นว่าเสร็จแล้วเขาจึงลุกเดินเข้าไปแล้วยื่นใบสมัครของตัวเองให้อีกฝ่าย


    “เสร็จแล้วเหรอ”บังคตซึรับไปก่อนยิ้มร่า “งั้นพรุ่งนี้มาทำงานได้เลยนะ”


    อินุยาฉะแทบไม่เชื่อหูตัวเอง “รับผมเข้าทำงานแล้ว?”


    “อืม รับแล้ว ใบสมัครก็ส่งแล้วนี่” บังคตซึพูดด้วยรอยยิ้มระรื่น อินุยาฉะมองดูอีกฝ่ายด้วยความประหลาดใจ นี่ปกติเขารับคนเข้าทำงานกันง่ายๆแบบนี้เลยเหรอ หรือเป็นเพราะอีกฝ่ายเป็นคนแบบไม่ชอบเรื่องยุ่งยาก หรือคิดอะไรง่ายๆ กันแน่


    “พี่เขารับแล้วก็ขอบคุณสิ นายนี่น้า”มิโรคุที่หอบของกินเดินมาถึงก็เอ่ยแซวเพื่อนทันที


    “แล้วส่วนยูนิฟอร์มไว้พรุ่งนี้พี่เอาให้อีกทีนะ อิ-นุ-ยา-ฉะ-คุง”รอยยิ้มระรื่นของบังคตซึทำเอาอินุยาฉะทำตัวไม่ถูก ก็ดีใจอยู่หรอกที่ได้งาน แต่ท่าทีของอีกฝ่ายต่อเขานี่มันก็ออกจะน่าขนลุกไปหน่อยนะ


    “งั้นขอบคุณ...ครับ”อินุยาฉะเอ่ยขอบคุณ ก่อนจะเดินตรงออกจากร้าน


    “หมอนั่นน่ารักดีนะ” บังคตซึมองตามหลังอินุยาฉะที่ฝึดฝัดออกไป ก่อนเอ่ยขึ้น


    “อย่าไปพูดให้เจ้าตัวได้ยินเชียว เตือนแล้วไม่ฟังนะบังคตซึซังเนี่ย” มิโรคุเอ่ยเตือนอีกครั้ง ขณะที่อีกฝ่ายกำลังคิดเงินแล้วหยิบขนมปังแกงกะหรี่สองชิ้นใส่ถุงให้เขา


    “ก็ดูน่าแกล้งดีนี่ หรือจะบอกว่านายไม่ชอบแกล้งเพื่อน”


    “ชอบอยู่แล้วสิ ฮ่าๆ” มิโรคุตอบแบบไม่ต้องคิด ก่อนทั้งคู่จะหัวเราะร่าออกมา

     

    อินุยาฉะที่ยืนรอมิโรคุอยู่หน้าร้านมองดูเพื่อนที่หัวเราะดีใจในร้านก็อดหมั่นไส้ไม่ได้ เจ้าเพื่อนเขาคนนี้นี่คบแต่คนโรคจิตๆเหมือนตัวเองสินะ ไม่นานเจ้าเพื่อนตัวดีก็เดินออกมาพร้อมหยิบขนมปังแกงกะหรี่ที่ซื้อเมื่อครู่ให้เขา


    “เอ้า นายก็คงหิวล่ะ กินสักหน่อยเหอะ”


    “ขอบใจ”อินุยาฉะรับไป ก่อนฉีกกินทันที

     

    “นี่ก็เย็นมากล่ะ เดี๋ยวแยกกันตรงนี้แล้วกัน” มิโรคุเอ่ยขึ้น พวกเขาทั้งคู่เดินมาจนถึงหัวมุมถนนที่ไม่ไกลจากอพาร์ทเมนท์เมื่อครู่นัก ถ้าสังเกตดีๆ ที่นี่ไม่ไกลจากบ้านของอินุยาฉะสักเท่าไหร่

    “โอเค วันนี้ยังไงก็ขอบใจนะ” อินุยาฉะเอ่ยตอบ


    “อืม กลับบ้านดีๆล่ะ”มิโรคุเอ่ย ก่อนพวกเขาจะแยกกันตรงนั้น

     

    ทำอะไรใหม่ๆ บ้าง ก็อาจจะดีก็ได้ล่ะนะ.....

    ........

    TBC.

    …………………………………………………………………………………………………………………

     มาต่อแล้วนะจ๊าาา รวดเร็วทันใจช่วงนี้มีไฟก็ต้องรีบปั่น ~(。≧3≦)ノ⌒☆

    หวังว่ารีดเดอร์จะชอบนะ อดใจรอหน่อย เดี๋ยวน้องก็ได้เจอพี่แล้ววว

    ไรท์เองแต่งไปก็จะขาดใจเมื่อไหร่อิพี่จะได้เจอน้อง ///กัดผ้าเช็ดหน้า

    ยังไงก็ขอบคุณติดตามกัน และขอบคุณสำหรับกำลังใจที่มีให้นะจ๊าาา //โค้งงามๆ

    เจอกันตอนหน้าจ้าาา


    SNAP
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×