ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    บัญชารักจอมเถื่อน

    ลำดับตอนที่ #51 : บทที่ 11 (5)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 7.8K
      46
      1 ก.ย. 64

             

              ภูศิลป์มองตามร่างเล็กที่ถูกรั้งให้เดินไปที่ประตูผับอย่างหมดแรง ความรู้สึกผิดหวังสาดซัดไปทั่วทั้งใจทั้งๆ ที่ยังไม่ได้พูดความรู้สึกของตัวเองออกไปให้เธอได้รับรู้...

    เพราะรัตน์วลีบอกกับทุกคนที่เข้ามาจีบว่าเธอไม่อยากคบกับใครระหว่างเรียน ถ้าเข้ามาแบบเพื่อน แบบพี่น้อง เธอยินดี แต่ถ้าเข้ามาเพื่อจีบ เธอขอไม่ต้องรู้จักกันดีกว่า ซึ่งเขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าความรู้สึกของเขาเปลี่ยนจากเพื่อนมาเป็นมากกว่าเพื่อนตอนไหน แต่เพราะถ้อยคำที่เธอใช้บอกทุกคนที่เข้ามาเพื่อหวังจะเป็นมากกว่าเพื่อน เขาจึงจำใจต้องอยู่ในสถานะเพื่อนต่อไป

    จนมาถึงวันนี้ วันที่เธอกับเขาเรียนจบแล้ว เขาก็อยากขอคบกับเธออยากบอกความรู้สึกที่ได้เพียงแต่เก็บมันไว้ในใจมาเนิ่นนานให้เธอรู้ อยากเปลี่ยนสถานะเพื่อนให้เป็นคนรัก

    แต่ดูเหมือนว่ามันจะสายเกินไป ไม่ใช่เพราะนัยน์ตาเรียบเฉย ที่ดุดันขึ้นทุกครั้งที่เขาเข้าใกล้รัตน์วลีของผู้ชายคนนั้น แต่เป็นเพราะนัยน์ตากลมโตที่มองไปยังผู้ชายที่เธอบอกกับเขา บอกกับเพื่อนว่าไม่ถูกกันมามาตั้งแต่เด็กต่างหากที่ทำให้เขารู้ว่ามันสายเกินไปแล้วที่จะสารภาพกับเธอ ซึ่งเขารู้ดีถ้าเขาไม่อยากให้เธอรู้สึกอึดอัดใจทุกครั้งที่เจอกัน ถ้าเขายังอยากอยู่ข้างๆ เธอ คอยดูแลห่างๆ เขาต้องเก็บความรู้สึกของตัวเองเอาไว้ แล้วอยู่ข้างเธอในสถานะเพื่อนต่อไป...

             

              ทั้งๆ ที่ตอนแรกตั้งใจว่าพอออกมาจากผับจะเรียกแท็กซี่กลับเอง และคิดว่าจากเรื่องในวันนั้น เขาคงยินยอมแต่โดยที แต่กลับไม่เป็นอย่างที่คิด แลเพราะอาการมึนที่ทำให้สมองเชื่องช้าลง อีกทั้งแรงที่น้อยกว่าหลายเท่าก็ทำให้เธอต้องขึ้นรถมากับเขาอย่างขัดขืนไม่ได้

    ตอนแรกก็เข้าใจว่าตัวเองไม่เมา ซึ่งคงเป็นเพราะแอลกอฮอล์ที่ไหลลงคอแก้วต่อแก้วในเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมงยังไม่ออกฤทธิ์เธอถึงได้เข้าใจว่าตัวเองยังสบายๆ อยู่ แต่ที่ไหนได้พอขึ้นมาบนรถ เหล้าที่กินเข้าไปก็เริ่มเล่นงานจนสมองมึนไปหมดจนต้องหลับตาลง พอหลับตาก็กลายเป็นเผลอหลับไปซะงั้น มารู้ตัวอีกทีก็ตอนที่อยู่ในอ้อมแขนแกร่งที่กำลังก้าวตรงไปยังบันไดที่ใช้ขึ้นชั้นสองของบ้านแล้ว

              “ปล่อยรัตน์ลงนะ จาเดินเอง”

              “เดินไม่ไหว”

              “ไหว ปล่อย”

              “เป็นผู้หญิงใครบอกให้กินเหล้าเยอะแบบนั้น ไม่ระวังตัวอยากถูกผู้ชายฉุดหรือไง”เอริคตอบกลับอย่างไม่สนใจอาการดื้อดึงของหญิงสาว ซึ่งเขาก็ไม่รู้ว่าใครที่รั้นกว่ากัน

              “เรื่องของรัตน์ ไม่เกี่ยวอะไรกับพี่ ปล่อย” รัตน์วลีดีดขาไปมา พร้อมกับผลักอกกว้างของคนที่ทำหน้าที่เป็นขาสองข้างทั้งๆ ที่ไม่ต้องการให้ออกห่าง

              “ไม่ปล่อย”

              “บอกให้ปล่อยไง”

              “หยุดดิ้นเดี๋ยวตกบันได” ไม่ใช่เรื่องยากที่เขาจะอุ้มผู้หญิงที่ตัวเล็กกว่าเท่าตัวขึ้นบันได แต่ไม่ใช่ตอนเขาดื่มมามาก ส่วนเธอก็เมามาย แล้วดิ้นสุดแรงแบบไม่กลัวตกลงไปคอหักตายแบบนี้

              “ถ้าพี่กลัวตกบันไดก็ปล่อยสิ”

              “เดี๋ยวถึงห้องแล้วจะปล่อย”

              “ไม่เอา ปล่อยตอนนี้”

              “...”

              “พี่เอริค ปล่อยรัตน์ลงนะ”

              “...”

    “ไอ้พี่บ้า คนสับปลับ”

    “...”

    ไม่มีเสียงตอบจากชายหนุ่มอีกไม่ว่ารัตน์วลีจะพูดอะไร ด่าทอเขา หรือดิ้นรนแรงแค่ไหน

              “ถึงแล้ว ไปอาบน้ำ แล้วนอนซะ”

    ทว่าเมื่อถึงห้องของหญิงสาวเอริคก็วางร่างเล็กลงบนพื้น แล้วเดินไปเปิดไฟ แต่แทนที่หญิงสาวจะทำอย่างที่เขาบอก หญิงสาวกับสาวเท้าเข้ามาใกล้ด้วยใบหน้าโกรธขึง

              “ไหนบอกให้อยู่ห่างๆ ไงล่ะ  คนบ้า แล้วมายุ่งด้วยทำไม จะทำร้ายกันไปถึงไหน”

    พูดไปมือเล็กก็ผลักอกกว้างไปด้วยแรงทั้งหมดที่มี และคงเป็นเพราะเขาก็มึนๆ อยู่เหมือนหัน เขาจึงก้าวถอยหลังทุกครั้งที่ถูกผลัก จนกระทั่งล้มลงไปบนเตียงนุ่มสีขาว ส่วนคนที่ผลักอกกว้างอย่างไม่ลืมหูลืมตาก็สะดุดเท้าตัวเองล้มลงมาทับร่างของเขาเอาไว้

              นัยน์ตากลมโตปรือมองไล่ตั้งแต่ทรวงอกกว้าง ปลายคางครึมหนวดเครา ริมฝีปากได้รูป จมูกโด่งเป็นสัน ก่อนจะสบเขากับดวงตาของเขาอย่างมึนๆ ก่อนจะซบหน้าลงไปกับแนบแก้มกับอกกว้างฟังเสียงหัวใจที่เต้นเป็นจังหวะหนักๆ อย่างลืมตัว

    “ต่อไปอย่าดื่มจนเมาแบบนี้อีก มันอันตราย เข้าใจไหม”

    “...” รัตน์วลีไม่ได้ตอบคำถามเขา ถ้าเป็นไปได้เธอก็อยากจะหยุดเวลาไว้แค่ตรงนี้ แต่เมื่อเป็นมันไปไม่ได้เธอจึงดันมือกับที่นอน  เพื่อลุกออกจากร่างหนา แต่เพราะการควบคุมร่างกายถูกแอลกอฮอล์เล่นงานจึงเป็นไปอย่างทุลักทุเล

    “ถามทำไมไม่ตอบล่ะ” เพราะยังไม่ได้คำตอบหรือเพราะอะไรเอริคก็ไม่แน่ใจที่ทำให้เขาจึงยกมือรั้งร่างบางที่กำลังถอยห่างออกไปไว้ แล้วรัดเอวขอดของคนที่ดิ้นขยุกขยิกเหนือร่างไว้แน่น

    “รัตน์ไปกับเพื่อน อันตรายตรงไหน”

    “เพื่อนเธอนั่นแหละอันตราย”

    “โอม กับน้ำตาลไม่อันตราย”

    “เป็นเพื่อนหรือเป็นคนอื่นก็เป็นผู้ชายเหมือนกัน หรือว่าเธอชอบมัน คบกันเหรอ”

    “ถ้าชอบแล้วจะทำไมคะ ถ้าจะคบแล้วจะทำไม เกี่ยวอะไรกับพี่ไม่ทราบ” คงเป็นเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ผสมกับความโมโหที่ทำให้เธอการประชดประชันออกไปอย่างนั้น

    “ห้ามชอบ ไม่ให้คบด้วย” เพราะคำว่า ถ้าจะคบทำให้เอริครู้ได้ว่ารัตน์วลีกับภูศิลป์ยังไม่ได้คบหากันมากกว่าเพื่อน

    แล้วถ้าต่อไปพวกเขาคบกันล่ะ?

    เขาไม่อยากให้เธอเข้าใกล้เพราะไม่อยากให้ความรู้สึกของตัวเองดำเนินต่อไป แต่เขาก็ไม่อยากให้เธอมีใครที่เธอจะรักและอยู่ข้างๆ เธอด้วยเหมือนกัน ความคิดแรกกับความคิดที่สองมันขัดแย้งกันและก็ไม่มีทางเป็นไปได้เลยที่เขาจะได้ทั้งสองอย่างที่ต้องการ ถ้าให้เลือก...

    “ทำไมคะ เป็นห่วง หรือว่าหวง”

    _______________________________

    อัปอีบุ๊กลงเว็บให้แล้วนะคะ รอ  Meb เอาขึ้นหน้าเว็บเลยจ้า

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×