คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #51 : บทที่ 11 (5)
ภูศิลป์มองตามร่างเล็กที่ถูกรั้งให้เดินไปที่ประตูผับอย่างหมดแรง
ความรู้สึกผิดหวังสาดซัดไปทั่วทั้งใจทั้งๆ
ที่ยังไม่ได้พูดความรู้สึกของตัวเองออกไปให้เธอได้รับรู้...
เพราะรัตน์วลีบอกกับทุกคนที่เข้ามาจีบว่าเธอไม่อยากคบกับใครระหว่างเรียน
ถ้าเข้ามาแบบเพื่อน แบบพี่น้อง เธอยินดี แต่ถ้าเข้ามาเพื่อจีบ
เธอขอไม่ต้องรู้จักกันดีกว่า
ซึ่งเขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าความรู้สึกของเขาเปลี่ยนจากเพื่อนมาเป็นมากกว่าเพื่อนตอนไหน
แต่เพราะถ้อยคำที่เธอใช้บอกทุกคนที่เข้ามาเพื่อหวังจะเป็นมากกว่าเพื่อน
เขาจึงจำใจต้องอยู่ในสถานะเพื่อนต่อไป
จนมาถึงวันนี้ วันที่เธอกับเขาเรียนจบแล้ว
เขาก็อยากขอคบกับเธออยากบอกความรู้สึกที่ได้เพียงแต่เก็บมันไว้ในใจมาเนิ่นนานให้เธอรู้
อยากเปลี่ยนสถานะเพื่อนให้เป็นคนรัก
แต่ดูเหมือนว่ามันจะสายเกินไป
ไม่ใช่เพราะนัยน์ตาเรียบเฉย ที่ดุดันขึ้นทุกครั้งที่เขาเข้าใกล้รัตน์วลีของผู้ชายคนนั้น
แต่เป็นเพราะนัยน์ตากลมโตที่มองไปยังผู้ชายที่เธอบอกกับเขา
บอกกับเพื่อนว่าไม่ถูกกันมามาตั้งแต่เด็กต่างหากที่ทำให้เขารู้ว่ามันสายเกินไปแล้วที่จะสารภาพกับเธอ
ซึ่งเขารู้ดีถ้าเขาไม่อยากให้เธอรู้สึกอึดอัดใจทุกครั้งที่เจอกัน ถ้าเขายังอยากอยู่ข้างๆ
เธอ คอยดูแลห่างๆ เขาต้องเก็บความรู้สึกของตัวเองเอาไว้ แล้วอยู่ข้างเธอในสถานะเพื่อนต่อไป...
ทั้งๆ ที่ตอนแรกตั้งใจว่าพอออกมาจากผับจะเรียกแท็กซี่กลับเอง
และคิดว่าจากเรื่องในวันนั้น
เขาคงยินยอมแต่โดยที แต่กลับไม่เป็นอย่างที่คิด แลเพราะอาการมึนที่ทำให้สมองเชื่องช้าลง
อีกทั้งแรงที่น้อยกว่าหลายเท่าก็ทำให้เธอต้องขึ้นรถมากับเขาอย่างขัดขืนไม่ได้
ตอนแรกก็เข้าใจว่าตัวเองไม่เมา ซึ่งคงเป็นเพราะแอลกอฮอล์ที่ไหลลงคอแก้วต่อแก้วในเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมงยังไม่ออกฤทธิ์เธอถึงได้เข้าใจว่าตัวเองยังสบายๆ
อยู่ แต่ที่ไหนได้พอขึ้นมาบนรถ เหล้าที่กินเข้าไปก็เริ่มเล่นงานจนสมองมึนไปหมดจนต้องหลับตาลง
พอหลับตาก็กลายเป็นเผลอหลับไปซะงั้น มารู้ตัวอีกทีก็ตอนที่อยู่ในอ้อมแขนแกร่งที่กำลังก้าวตรงไปยังบันไดที่ใช้ขึ้นชั้นสองของบ้านแล้ว
“ปล่อยรัตน์ลงนะ จาเดินเอง”
“เดินไม่ไหว”
“ไหว
ปล่อย”
“เป็นผู้หญิงใครบอกให้กินเหล้าเยอะแบบนั้น
ไม่ระวังตัวอยากถูกผู้ชายฉุดหรือไง”เอริคตอบกลับอย่างไม่สนใจอาการดื้อดึงของหญิงสาว
ซึ่งเขาก็ไม่รู้ว่าใครที่รั้นกว่ากัน
“เรื่องของรัตน์
ไม่เกี่ยวอะไรกับพี่ ปล่อย” รัตน์วลีดีดขาไปมา
พร้อมกับผลักอกกว้างของคนที่ทำหน้าที่เป็นขาสองข้างทั้งๆ ที่ไม่ต้องการให้ออกห่าง
“ไม่ปล่อย”
“บอกให้ปล่อยไง”
“หยุดดิ้นเดี๋ยวตกบันได”
ไม่ใช่เรื่องยากที่เขาจะอุ้มผู้หญิงที่ตัวเล็กกว่าเท่าตัวขึ้นบันได แต่ไม่ใช่ตอนเขาดื่มมามาก
ส่วนเธอก็เมามาย แล้วดิ้นสุดแรงแบบไม่กลัวตกลงไปคอหักตายแบบนี้
“ถ้าพี่กลัวตกบันไดก็ปล่อยสิ”
“เดี๋ยวถึงห้องแล้วจะปล่อย”
“ไม่เอา
ปล่อยตอนนี้”
“...”
“พี่เอริค
ปล่อยรัตน์ลงนะ”
“...”
“ไอ้พี่บ้า คนสับปลับ”
“...”
ไม่มีเสียงตอบจากชายหนุ่มอีกไม่ว่ารัตน์วลีจะพูดอะไร
ด่าทอเขา หรือดิ้นรนแรงแค่ไหน
“ถึงแล้ว
ไปอาบน้ำ แล้วนอนซะ”
ทว่าเมื่อถึงห้องของหญิงสาวเอริคก็วางร่างเล็กลงบนพื้น
แล้วเดินไปเปิดไฟ แต่แทนที่หญิงสาวจะทำอย่างที่เขาบอก
หญิงสาวกับสาวเท้าเข้ามาใกล้ด้วยใบหน้าโกรธขึง
“ไหนบอกให้อยู่ห่างๆ
ไงล่ะ คนบ้า แล้วมายุ่งด้วยทำไม จะทำร้ายกันไปถึงไหน”
พูดไปมือเล็กก็ผลักอกกว้างไปด้วยแรงทั้งหมดที่มี
และคงเป็นเพราะเขาก็มึนๆ อยู่เหมือนหัน เขาจึงก้าวถอยหลังทุกครั้งที่ถูกผลัก
จนกระทั่งล้มลงไปบนเตียงนุ่มสีขาว ส่วนคนที่ผลักอกกว้างอย่างไม่ลืมหูลืมตาก็สะดุดเท้าตัวเองล้มลงมาทับร่างของเขาเอาไว้
นัยน์ตากลมโตปรือมองไล่ตั้งแต่ทรวงอกกว้าง
ปลายคางครึมหนวดเครา ริมฝีปากได้รูป จมูกโด่งเป็นสัน
ก่อนจะสบเขากับดวงตาของเขาอย่างมึนๆ ก่อนจะซบหน้าลงไปกับแนบแก้มกับอกกว้างฟังเสียงหัวใจที่เต้นเป็นจังหวะหนักๆ
อย่างลืมตัว
“ต่อไปอย่าดื่มจนเมาแบบนี้อีก มันอันตราย
เข้าใจไหม”
“...” รัตน์วลีไม่ได้ตอบคำถามเขา
ถ้าเป็นไปได้เธอก็อยากจะหยุดเวลาไว้แค่ตรงนี้
แต่เมื่อเป็นมันไปไม่ได้เธอจึงดันมือกับที่นอน เพื่อลุกออกจากร่างหนา
แต่เพราะการควบคุมร่างกายถูกแอลกอฮอล์เล่นงานจึงเป็นไปอย่างทุลักทุเล
“ถามทำไมไม่ตอบล่ะ” เพราะยังไม่ได้คำตอบหรือเพราะอะไรเอริคก็ไม่แน่ใจที่ทำให้เขาจึงยกมือรั้งร่างบางที่กำลังถอยห่างออกไปไว้
แล้วรัดเอวขอดของคนที่ดิ้นขยุกขยิกเหนือร่างไว้แน่น
“รัตน์ไปกับเพื่อน อันตรายตรงไหน”
“เพื่อนเธอนั่นแหละอันตราย”
“โอม กับน้ำตาลไม่อันตราย”
“เป็นเพื่อนหรือเป็นคนอื่นก็เป็นผู้ชายเหมือนกัน
หรือว่าเธอชอบมัน คบกันเหรอ”
“ถ้าชอบแล้วจะทำไมคะ ถ้าจะคบแล้วจะทำไม
เกี่ยวอะไรกับพี่ไม่ทราบ” คงเป็นเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ผสมกับความโมโหที่ทำให้เธอการประชดประชันออกไปอย่างนั้น
“ห้ามชอบ ไม่ให้คบด้วย” เพราะคำว่า ‘ถ้าจะคบ’ ทำให้เอริครู้ได้ว่ารัตน์วลีกับภูศิลป์ยังไม่ได้คบหากันมากกว่าเพื่อน
แล้วถ้าต่อไปพวกเขาคบกันล่ะ?
เขาไม่อยากให้เธอเข้าใกล้เพราะไม่อยากให้ความรู้สึกของตัวเองดำเนินต่อไป
แต่เขาก็ไม่อยากให้เธอมีใครที่เธอจะรักและอยู่ข้างๆ เธอด้วยเหมือนกัน ความคิดแรกกับความคิดที่สองมันขัดแย้งกันและก็ไม่มีทางเป็นไปได้เลยที่เขาจะได้ทั้งสองอย่างที่ต้องการ
ถ้าให้เลือก...
“ทำไมคะ เป็นห่วง หรือว่าหวง”
_______________________________
อัปอีบุ๊กลงเว็บให้แล้วนะคะ รอ Meb เอาขึ้นหน้าเว็บเลยจ้า
ความคิดเห็น