ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    บัญชารักจอมเถื่อน

    ลำดับตอนที่ #49 : บทที่ 11 (3)

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 7.99K
      46
      31 ส.ค. 64


    “ไม่ต้องรอรัตน์นะคะ กลับก่อนได้เลย” พอถึงที่หมายรัตน์วลีก็บอกพร้อมพงศ์ ก่อนจะคว้ากระเป๋าขึ้นคล้องไหล่ แล้วเปิดประตู ก้าวลงจากรถทันที...

              “ลุงรอได้นะครับ เดี๋ยวให้นังทรายมันดูยายเอียดไปก่อนก็ได้” แต่คนที่ทำหน้าที่ขับรถให้ก็ยังเลื่อนกระจกลง แล้วตะโกนบอก ตั้งใจจะทำตามหน้าที่ของตนทั้งๆ ที่การดูแลคนเจ็บก็สำคัญเช่นกัน

    “ไม่ต้องหรอกค่ะ ลุงไปเถอะต้องไปเอาของที่บ้านแล้วก็ต้องกลับไปโรงพยาบาลอีก ดึกเลย เดี๋ยวรัตน์ให้โอมไปส่งเอง” พอบอกพร้อมพงศ์เสร็จหญิงสาวก็เดินตรงไปที่ประตูทางเข้าผับอย่างร้อนใจ

    เพราะภูศิลป์ส่งข้อความมาบอกตำแหน่งโต๊ะที่นั่งอยู่แล้ว พอยื่นบัตรประจำตัวประชาชนให้การ์ดหน้าผับเช็ค เธอก็เดินเข้าผ่านประตูเข้าไปพบกับแสงสีวิบวับ ส่ายไปมาจนตาลาย และเสียงเพลงดังกระหึ่มทันที

     เพราะวันพรุ่งนี้ไม่ใช่วันหยุด คนในผับจึงไม่เยอะมากนัก การหาโต๊ะที่ภูศิลป์กับยลดานั่งจึงไม่ใช่เรื่องยาก พอเข้าไปถึงโต๊ะภูศิลป์ก็ก้มลงกระซิบบอกคนข้างกาย ซึ่งจากใบหน้าที่หันมามองที่เธอ เดาได้ไม่ยากว่าภูศิลป์คงบอกว่าเธอมาถึงแล้ว

    “ราตตตต”

    เสียงลากยาวที่ฟังเกือบไม่ออกว่าอีกฝ่ายกำลังเรียกชื่อเธอ ดวงตาฉ่ำเยิ้มที่หันมองมา บอกได้ชัดเจนว่ายลดาดื่มไปมากเพียงใด

    “กลับคอนโดกัน”

    คำถามที่ถามออกไปไม่ได้รับการตอบรับใดๆ ทั้งสิ้น ยลดาทำเพียงจับคอขวดแล้วเทเหล้าลงในแก้วก่อนจะยกแก้วขึ้นแล้วเทของเหลวในนั้นลงคอรวดจนหมด

    “ไหนว่าฉันมาแล้วจะยอมกลับไง มาแล้วเนี่ย กลับกัน”

    รัตน์วลีตะโกนแข่งกับเสียงเพลง พร้อมกับเดินเข้าไปประคองเพื่อน แต่อีกฝ่ายกลับสะบัดออกแล้วรั้งเธอเข้ามาชิดโต๊ะทรงสูงที่ตัวเองนั่งอยู่แทน

    “พอแล้ว”

     “มันมีคนอื่นว่ะ ทามได้ไงวะ สี่ปีที่คบกันมามันไม่มีความหมายเลยใช่ม้ายยย” ยลดาพรั่งพรูสิ่งที่อัดอั้นอยู่ในใจออกมาด้วยน้ำเสียงอ้อแอยานคาง ทว่าอัดแน่นไปด้วยอารมณ์หลากหลาย ทั้งโกรธ เจ็บปวด และผิดหวัง

    “กลับไปคุยกันที่คอนโดเถอะ”

    “แม่ง สันดานผู้ชาย ความซื่อสัตย์แม่งไม่เคยมี”

    น้ำตาที่ทะลักออกมาจากดวงตาที่กรีดไอไลน์เนอร์ฃไว้อย่างประณีต จนสีดำเริ่มซึมเลอะใต้ตา ทำให้รัตน์วลีเลิกเซ้าซี้ที่จะชวนอีกฝ่ายกลับบ้าน

    ยลดาเป็นคนร่าเริง แจ่มใส คิดแต่ด้านบวก เป็นคนที่ไปที่ไหนก็นำพาเสียงหัวเราะไปที่นั้นด้วย ตั้งแต่คบกันมา ครั้งเดียวที่เธอเห็นเพื่อนรักร้องไห้ คือตอนที่ถูกพ่อตัดขาด อีกครั้งก็เป็นตอนนี้นี่แหละ เพื่อนคงทุกข์ใจมากจริงๆ น้ำตาหยดแล้วหยดเล่าจึงไหลออกมาไม่หยุดแบบนี้ และเธอก็ทนไม่ไหวจนต้องคว้าตัวเพื่อนเข้ามากอดปลอบ

    “อาจจะเป็นเรื่องเข้าใจผิดก็ได้”

    “ฉันเห็นกับตาตัวเองเลยนะ เห็นมันเอากันกับตาเลยในคอนโด บนเตียงที่ฉันเคยนอนกับมัน แล้วมันแก้ตัวว่าไงรู้ไหม อารมณ์พาไป สถานการณ์เป็นใจ  พาไป เป็นใจเหี้ยอะไร ไม่ได้รักมัน รักแค่กูคนเดียว กูไม่ใช่ควายนะโว้ยถึงจะมาหลอกกันแบบนี้” ยลดาตะโกนลั่น แต่เพราะเพลงในผับเสียงดังมาก เสียงนั้นจึงถูกกลบไปเกือบหมด

    แต่เชื่อไหมเสียงนั้นเกือบจะไม่ได้ยินด้วยซ้ำ แต่มันกลับกระแทกใจเธอเต็มๆ และก้องซ้ำไปซ้ำมา ซ้อนทับกับเสียงทุ้มเรียบของคนที่บอกให้เธออยู่ห่างจากเขาไม่หยุด

    “โคตรจ็บเลยอะ ทำไงดีวะรัตน์ ทำยังไงถึงจะลืมมันได้วะ” ยลดาที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ทรงสูงซบหน้าลงกับไหล่ของเธอที่ยืนอยู่ข้างกายแล้วพร่ำเพ้อออกมาไม่หยุด

    “งั้นดื่ม เดี๋ยวฉันดื่มเป็นเพื่อน” รัตน์วลีดันตัวเพื่อนออกห่าง ลากเก้าอี้มาใกล้ แล้วขึ้นนั่งบนเก้าอี้ทรงสูง ก่อนจะคว้าแก้วเปล่ามาวางไว้ตรงหน้า เทเหล้าลงทั้งแก้วตัวเองและแก้วของเพื่อนอย่างละครึ่งแก้ว

    “รัตน์ ให้มาพามันกลับ ไม่ใช่ให้มาดื่มเป็นเพื่อนมัน”

    ภูศิลป์ที่ตอนแรกนั่งขนาบข้างยลดาคนละฝั่งกับเธอ ลุกเดินมายืนข้างกายแล้วพูดขึ้น เพื่อจะได้ไม่ต้องตะโกน

    “ดื่มเป็นเพื่อนมันนิดเดียว ไม่เป็นไรหรอก” พูดเสร็จเธอก็ยกแก้วขึ้นกระดกรวดเดียวหมด แอลกอฮอล์เพียวๆ ที่สัมผัสปลายลิ้นให้รสชาติข่มปร่าจนเธอต้องเบ้หน้า และเมื่อมันไหลลงคอความแสบร้อนก็ลามเลียลงไปจนถึงกระเพาะอาหาร ร่างกายของเธอรู้สึกแย่ แต่ความรู้สึกที่มันอัดแน่นแสนทรมานอยู่ในใจกลับเหมือนได้ถูกปลดปล่อย

     ตอนแรกที่มาที่นี่เธอก็นึกโมโหยลดาที่คิดจะใช้เหล้าลืมความทุกข์ แต่พอถูกคำพูดของอีกฝ่ายสะกิดใจ เธอก็เข้าใจอีกฝ่ายขึ้นมาทันทีว่าทำไมถึงอยากดื่ม แม้ว่าเหล้ามันไม่ได้ช่วยให้ลืมทุกอย่างได้ แต่มันก็ทำให้ลืมไปชั่วขณะ

    “เฮ้ย กระดกหมดแก้ว นิดเดียวตรงไหน เดี๋ยวก็เมาหรอก สองคนเราพากลับไม่ไหวนะ”

    “เพื่อนเฮิร์ตไง”

    “ทำเหมือนเฮิร์ตเองมากกว่า”

    “เพื่อนเสียใจก็เหมือน เราเสียใจ” รัตน์วลีว่าพลางเทเหล้าลงในแก้วอีก แล้วยื่นไปชนกับแก้วของยลดา “แกยังมีฉัน ฉันก็มีแก เจ็บแค่นี้ไม่ตายหรอก เดี๋ยวก็หาย”

    “ดื่มเลยเพื่อนร้าก วันนี้เราจะมาว...ปายด้วยกาน” เสียงอ้อแอดังขึ้น ก่อนที่ยลดาจะยกแก้วขึ้นดื่มรวดเดียวจนหมด และเธอก็ยกขึ้นดื่มตามจนหมดแก้วเช่นกัน

    แก้วที่สองไม่ได้รู้สึกแย่เหมือนแก้วแรก แก้วที่สาม สี่ ก็ยิ่งคล่องคอเข้าไปใหญ่ แต่พอจะยกแก้วที่ห้าขึ้นดื่ม สายตาของเธอก็ไปปะทะกับใครบางคนที่เบนหน้ามาทางนี้เสียก่อน

    เขามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?เอริคนั่งหันข้างให้เธอซึ่งถ้าเขาไม่เบนหน้ามาทางนี้ เธอกับเขาก็คงไม่สบตากัน แต่มือของใครบางคน ที่เธอไม่รู้ว่าเป็นใครเพราะร่างของเอริคบังเธออยู่ แต่ถึงอย่างนั้นก็พอมองออกว่าเป็นผู้หญิง ทำให้คำถามที่ผุดขึ้นในใจถูกปัดทิ้งไปทันควัน

    “ผู้ชายถ้าอยาก กับใครก็ได้ทั้งนั้นจริงๆ สินะ”

    “ช่ายยยยยย สารเลว”

    “เฮ้ย! ไม่ใช่ผู้ชายทุกคนนะ”

    สียงอ้อแอ้ที่ตะโกนอย่างโมโห และเสียงแย้งจากภูศิลป์ทำให้รัตน์วลีรู้ตัวว่าตัวเองพูดสิ่งที่คิดอยู่ในใจออกไปดังๆแต่เธอก็ไม่ได้พูดอะไร หรือตอบใครกลับไปอีกนอกจากรินเหล้าแล้วยกขึ้นดื่ม แก้วแล้วแก้วเล่า จนไม่รู้ว่าเป็นแก้วที่เท่าไรแล้ว...

    _____________________

    ตรวจอาร์ตรอบสุดท้ายแล้วค่ะ E-book น่าจะไม่เกินวันที่ 5 กันยายนนี้

    ฝากโหลดเพื่อนเอริคระหว่างรอหน่อยนะคะ

                                           



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×