ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    บัญชารักจอมเถื่อน

    ลำดับตอนที่ #28 : บทที่ 7 (2)

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 8.53K
      31
      12 ส.ค. 64

     

    “กานต์ว่าเราเลื่อนวันเที่ยวไปก่อนดีไหมคะ รัตน์เป็นแบบนี้กานต์ไม่อยากปล่อยหลานไว้คนเดียว กานต์เป็นห่วง” การโต้เถียงเรื่องแผนการฮันนีมูนที่วางล่วงหน้าไว้ถูกหยิบขึ้นมาถกเถียงกันอีกครั้งเมื่อน้าสาวเห็นเฝือกที่ข้อมือของเธอ

    “ไม่ต้องหรอกค่ะน้ากานต์ ไปเที่ยวกันเถอะนะคะ แค่กล้ามเนื้ออักเสบเอง ไม่กี่วันก็ได้เอาออกแล้ว”

    “ไม่กี่วัน นี่กี่วัน”

    “สองอาทิตย์” เสียงของรัตน์วลีเบาแสนเบา เธอไม่อยากตอบคำถามข้อนี้เลยสักนิด แต่จะให้เธอโกหกว่าแค่สองสามวัน เธอก็รู้ดีว่าคงไม่มีใครเชื่อเธอ

    “งั้นอีกสองอาทิตย์น้าค่อยไปก็ได้”

    “ถ้าแบบนั้นมันก็เลยวันครบรอบวันแต่งกันกับวันเกิดของน้ากานต์แล้วน่ะสิคะ ไปเถอะค่ะ ไม่ต้องห่วงรัตน์หรอก บ้านนี้ก็มีทั้งทราย ป้าเอียด ไหนจะลุงพร้อมอีก รัตน์ไม่ได้อยู่คนเดียวเสียหน่อย” 

    “มะรืนทรายก็จะย้ายออกไปอยู่หอพักแล้ว”

    “จริงสิ รัตน์ลืมไปเลย” รัตน์วลีร้องขึ้น เธอลืมไปว่าปาลิตาเพิ่งเรียนจบมัธยมและสอบติดในมหาลัยที่ค่อนข้างไกลจากบ้านหลังนี้ หากยังอยู่ที่นี่ ถ้าวันไหนมีเรียนเช้า คงต้องตื่นแต่ตีห้า และหากวันไหนเลิกเย็นกว่าจะถึงก็คงดึก ยิ่งปีหนึ่งมีกิจกรรมที่ต้องมากมาย การเดินทางคงทั้งลำบากและอันตราย การย้ายออกไปอยู่หอพักจึงเป็นทางเลือกที่ดีกว่า 

    ตัวเธอเองไม่เคยมีโมเม้นต์แบบนี้เพราะถึงจะได้เลือกสาขาวิชาที่อยากเรียนเอง แต่มหาลัยก็ถูกผู้เป็นน้าขอร้องให้เลือกมหาลัยที่ใกล้กับคฤหาสน์หลังนี้มากที่สุด เพราะท่านไม่อนุญาตให้เธอออกไปพักที่อื่น เธอรู้สึกอิจฉาปาลิตาอย่างบอกไม่ถูก เธอเองก็อยากลองใช้ชีวิตที่เป็นอิสระแบบนั้นบ้าง แต่เธอก็เข้าใจว่าที่กานต์สินีขอก็เพราะความเป็นห่วง 

    “แต่ก็ยังมีลุงพร้อมกับป้าเอียดนี่คะ อีกอย่างรัตน์ก็ไม่ใช่เด็กๆ แล้วนะคะ เจ็บแค่นี้สบายมาก” 

    “...”

    “คุณลุงช่วยพูดกับน้ากานต์หน่อยสิคะ” 

    เมื่อผู้เป็นน้าไม่ยอมตอบ แต่ยังมีสีหน้าไม่เห็นด้วย รัตน์วลีจึงหันไปอ้อนขอความช่วยเหลือจากโรเจอร์

    “เอาน่าคุณ ทุกปีรัตน์ยังอยู่ได้เลย”

    “แต่ปีนี้มันไม่เหมือนกันนี่คะ หลานเจ็บอยู่ กานต์เป็นห่วง”

    “มีอะไรหรือเปล่าทราย” โรเจอร์กำลังจะช่วยพูดกับกานต์สินีอีก แต่ท่าทางที่ไม่รู้จะแทรกตอนไหนของปาลิตาก็ทำให้เขาต้องถามขึ้น

    “เออ...ยาคุณรัตน์ค่ะ คุณเอริคให้เอามาให้”

    “ขอบใจนะทราย” รัตน์วลีรับถุงยาจากเด็กสาว พร้อมกับเอ่ยขอบใจเบาๆ

    “ยารัตน์ไปอยู่ที่เอริคได้ยังไง”

    “ไม่ทราบค่ะ” 

    พอปาลิตาไม่สามารถตอบความข้องใจได้ นัยน์ตาสีนิลของกานต์สินีจึงหันไปทางรัตน์วลีตรงๆ เพื่อขอคำตอบ

    “พี่เอริคเป็นคนพารัตน์ไปโรงพยาบาลค่ะ”

    “อ้าวไปหาหมอก่อนแล้ว ไปสัมภาษณ์งานทันเหรอ” โรเจอร์เลิกคิ้วถามอย่างแปลกใจ

    “ทันค่ะ ก็ลูกชายคนดีของคุณลุงสิคะ จุ้นจ้านโทรไปสั่งให้ทางบริษัทเลื่อนการสัมภาษณ์ไปเป็นตอนบ่ายโมง ตัวเองเป็นเจ้าของบริษัทก็ไม่ใช่”

    “พี่เขาเป็นห่วง” 

    รัตน์วลีทำหน้างอใส่น้าสาวที่ช่วยแก้ต่างให้ลูกเลี้ยงที่ไม่เคยนับถือตนเป็นแม่เลี้ยงเลยสักวินาทีเดียว

    “หวังดีกับผีสิคะ” รัตน์วลีทำหน้าเหยเมื่อถูกผู้เป็นน้าส่งตาตาดุๆ มาให้ “ขอโทษค่ะ แต่ก็จริงนี่คะ เขาต้องการแกล้งรัตน์มากกว่า”

    “แต่เราก็ได้ไปสัมภาษณ์ไม่ใช่หรือไง แล้วยังจะหาว่าพี่เขาแกล้งอีก” 

    เสียงดุๆ ของผู้เป็นน้าทำให้หน้าของรัตน์วลีหงิกงอลงกว่าเก่า

    “แล้วผลเป็นไงบ้างล่ะ ตกลงได้งานไหม” โรเจอร์พลางคลี่ยิ้มอย่างเอ็นดูให้กับใบหน้าหงิกๆ ของเด็กสาว

    “เขารับค่ะ แต่รัตน์ไม่ทำหรอก”

    “เอ้า ทำไมล่ะ”

    “ก็เขารับรัตน์ก็เพราะคิดว่ารัตน์ต้องช่วยให้บริษัทของเขาได้ทำงานร่วมกับแกรนด์เอนเตอร์ไพรส์นี่คะ เขาไม่ได้รับรัตน์ เพราะเห็นว่ารัตน์จะทำผลงานให้กับบริษัทเขาได้ พูดแล้วยังโมโหไม่หายเลยค่ะ แต่โมโหลูกชายคุณลุงมากกว่า โอ้ย! ไม่พูดถึงแล้วค่ะ ยิ่งพูดถึงยิ่งโมโห ว่าแต่น้ากานต์จัดกระเป๋าเสร็จหรือยังคะ ให้รัตน์ช่วยไหม”

    “คิดจะช่วยดูสภาพตัวเองก่อน”

    คำพูดที่มาพร้อมค้อนโครมเบ้อเร่อทำให้รัตน์วลีคลี่ยิ้มกว้าง “ถึงจะเหลือข้างเดียวแต่ก็ยังทำงานได้นะคะ ตกลงไม่ยกเลิกแล้วเนอะ”

    “อื้อ” กานต์สินีครางตอบในลำคอพร้อมกับส่ายหน้าอย่างระอาให้กับท่าทางกะโปโลของหลานสาว

    “เย้! รักน้ากานต์ที่สุดเลย” เสียงตอบรับพร้อมกับใบหน้าที่พยักพเยิดด้วยท่าทีระอาทำให้รอยยิ้มบนริมฝีปากจิ้มลิ้มกว้างขึ้นอีกเท่าตัว

    “แล้วนี่เอาชุดใครมาใส่เนี่ย ไม่ใช่ชุดที่ใส่ออกไปเมื่อตอนเช้านี่”

    “ก็ลูกเลี้ยงของน้านั่นแหละ ตัวดีเลย”

    “พี่เขาทำอะไรให้อีกล่ะ”

    “ช่างมันเถอะค่ะ รัตน์ไม่อยากพูดถึงมันแล้ว กำลังอารมณ์ดี ไม่อยากโมโห ไปค่ะ รัตน์ช่วยจัดกระเป๋า” รัตน์วลีว่าพลางสอดมืดเข้าไปคล้องแขนของผู้เป็นน้า แล้วแนบแก้มลงกับต้นแขนอย่างออดอ้อน

    “นิสัยเด็กแบบนี้จะไม่ให้น้าห่วงได้ยังไง” กานต์สินีบ่นด้วยน้ำเสียงกึ่งระอากึ่งดุ แต่ก็ยอมเดินตรงไปยังห้องนอนของตัวเองตามที่รัตน์วลีอ้อนแต่ด้วยดี

    กำลังเร่งปั่นนิยายเรื่อง “แสนใคร่” ฝากกดติดตามหน่อยค่ะ

    ไปหน้านิยาย >>>คลิกเลย<<<

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×