ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ประวัติผู้เข้าสมัคร Survivors School {ss1}

    ลำดับตอนที่ #4 : ผู้เข้าสมัครหมายเลข 04 : เนตรนภิศ ศิริมาลากุล {เนตร}

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 159
      0
      17 พ.ย. 59

    ใบสมัครเรียน


    รูปภาพที่เกี่ยวข้อง


    -Skill- 

     

    - Bra. : 45

    Def. :  45

    - Pan. :  25

    Psy. :  35

    Atk. :  15

    - Moo. : 35

     

     

    ชื่อ-นามสกุล : เนตรนภิศ ศิริมาลากุล

     

    ชื่อเล่น : เนตร

     

    อายุ : 16 ปี

     

    ส่วนสูง : 162 เซนติเมตร

     

    น้ำหนัก : 49 กิโลกรัม

     

    วันเกิด : 18 สิงหาคม พ.ศ. 2543


    สิ่งที่ชอบ : เพื่อน , ท้องฟ้าในยามเช้า , ก้อนเมฆ , อัญมณี , คำชม , รอยยิ้มที่จริงใจ , วิวทิวทัศน์ของธรรมชาติ , เสียงหัวเราะของคนที่ตนรัก , ชัยชนะ , การเป็นจุดสนใจ 


    สิ่งที่เกลียด : คนที่แย่งเพื่อนไปจากตนเอง , คนที่ยึดตัวเองเป็นใหญ่ , หมอ , การอยู่คนเดียว , เพื่อนที่ไม่จริงใจ , ผู้ชายขี้หลีที่จีบสาวไปวันๆ

     

    ความสามารถพิเศษ : อ่านความรู้สึกในแววตาของคนอื่น , แก้ปริศนาเล่นคำ , จำแนกชนิดและประเภทของแร่อัญมณีได้อย่างถูกต้อง ( เพราะที่บ้านทำอาชีพเกี่ยวกับเพชรพลอย )


    ประวัติทางการแพทย์ : เป็นโรค Zelophobia ( โรคกลัวที่เกิดจากความริษยาและความหึงหวง ) ไม่มีประวัติการแพ้ยา


    คำพูดติดปาก : " อย่าสิ้นหวังไปเลยนะคะ ลองมองตามนิ้วที่เนตรชี้ไปสิ... ที่จุดสิ้นสุดของท้องฟ้าสีฟ้าตรงนั้นน่ะ... ยังมีความหวังอยู่นะคะ เพราะฉะนั้น เธอเองก็จะต้องเข้มแข็งให้ได้นะ... "

    * คำพูดนี้มักจะพูดกับตัวเองที่กำลังอ่อนแอ แต่ก็พูดให้กำลังใจคนอื่นได้เช่นกัน*



    นิสัยคร่าว ๆ : 'เนตรนภิศ ศิริมาลากุล' หรือ 'เนตร' เป็นเด็กสาวที่มีจุดเด่นอยู่ที่ดวงตาดังชื่อ เธอมีดวงตาสีฟ้าใสที่เหม่อลอยอยู่ตลอดเวลาราวกับท้องฟ้า นั่นทำให้เธอชอบมากเวลาที่ได้จ้องมองไปยังท้องฟ้าสีฟ้าไกลๆ  อีกทั้งยังชอบแสดงอารมณ์ความรู้สึกทางดวงตาเสมอ เธอเป็นคนไม่ค่อยพูดเท่าไรจนคนอื่นคิดว่าเธอเป็นใบ้ เพราะมักจะพกกระดาษจดและปากกาไว้ติดตัวเพื่อเขียนแสดงคำที่ตนต้องการสื่อ เธอจะเอ่ยปากพูดกับเพื่อนสนิทหรือเอ่ยปากพูดเวลาที่คับขันจริงๆ เท่านั้น ค่อนข้างขี้อาย หน้าตาน่ารัก มีรอยยิ้มอบอุ่นประดับใบหน้า รอยยิ้มนั้นมีพลังเป็นยาฟื้นชีวิต ใครที่มองไปแล้วจะรู้สึกสบายใจขึ้นมาทันที เนตรนั้นเป็นเด็กสาวที่รักและหวงเพื่อนมากๆ และจะไม่มีวันให้ใครมาพรากเพื่อนสนิทไปจากตนเด็ดขาด หากใครที่เป็นเพื่อนสนิทกับเธอแล้วอย่าไปมีเพื่อนสนิทอีกคนล่ะ เพราะว่าขีดระดับความริษยาของเนตรจะพุ่งสูงขึ้นมาก หากใครที่เป็นเพื่อนสนิทกับเธอแล้วอย่าไปมีเพื่อนสนิทอีกคนล่ะ เพราะว่าขีดระดับความอิจฉาริษยาของเนตรจะพุ่งสูงขึ้นมาก รับรองว่านางฟ้าคนนี้จะเปลี่ยนเป็นมารซาตานในทันที และเพื่อนคนนั้นก็จะไม่มีวันมีชีวิตสงบสุข เนตรเป็นคนจิตใจดี มีน้ำใจ เรียบร้อยน่ารักและรับฟังปัญหาอยู่เสมอ สนิทกับผู้หญิงง่ายกว่าผู้ชาย เพราะมีอคติเล็กน้อยว่าผู้ชายมักเป็นคนขี้หลีซึ่งเธอไม่ชอบเอาเสียเลย แต่ถ้าหากว่าหมั่นไส้ใคร อย่าหวังว่าคนๆ นั้นจะรอดไปได้ เพราะเธอจะหาวิธีกล่าวหา กลั่นแกล้งสารพัดราวกับนางร้ายในละคร  แต่ก็นะ เธอไม่หมั่นไส้ใครง่ายๆ หรอก มีความพยายามและใจเย็น เป็นจอมวางแผน มักจะคิดแผนที่แยบยลและใช้เวลานาน แต่กลับสมบูรณ์แบบผิดคาด รักการได้รับความสนใจและการเป็นศูนย์กลางของเพื่อนในกลุ่ม และนอกจากนั้น รอยยิ้มของเธอนอกจากจะเป็นยาฟื้นชีวิตแล้ว ยังสามารถเป็นยาพิษที่น่าหมั่นไส้ได้อีกด้วย ไม่ชอบพูดคำหยาบ แต่เมื่อโกรธจัดขึ้นมาจริงๆ ก็จะสามารถพูดออกมาได้โดยไม่คิดถึงเรื่องมารยาทอะไรนัก ไม่ชอบให้ใครมาเห็นนิสัยที่เลวร้ายในใจของเธอ 

      

    ประวัติส่วนตัว : ลูกสาวคนเล็กของครอบครัวกิจการเพชรพลอยชื่อดังแห่งหนึ่ง เธอถูกเลี้ยงดูมาอย่างอบอุ่นและรักใคร่ดีกับครอบครัวเสมอมา แต่ที่เป็นปัญหาคือเรื่องสังคมที่โรงเรียน เธอถูกเพื่อนที่โรงเรียนรังเกียจมาตลอด เพราะหมั่นไส้นิสัยของเธอที่เรียบร้อยและค่อนข้างประหลาดเพราะเขียนกระดาษโน้ตแทนการพูดอยู่เสมอ ซึ่งแน่นอนว่าเธอก็เกลียดพวกที่มองคนอื่นแบบนั้นมากเช่นกัน วันหนึ่ง มีคนที่ยอมเข้าหาเธอ คนๆ นั้นเป็นเพียงเด็กสาวร่างเล็ก...

    ชื่อของเธอคือ ' อำพัน' เธอคนนั้นมอบทั้งความสุข ความสนุก และความไว้ใจ เนตรติดเพื่อนคนนี้อย่างที่สุด เธอจึงรัก และดูแลอำพันอย่างดีสมกับความสุขที่เธอได้รับมา แต่แล้ววันหนึ่งก็เกิดเหตุการณ์จำฝังใจเกิดขึ้น มีเด็กผู้หญิงกลุ่มหนึ่งซึ่งเป็นดาวเด่นประจำห้องแย่งอำพันไปเป็นเพื่อนในกลุ่มของพวกเธอ ซึ่งเหตุผลที่ดึงอำพันเข้าไปคงจะมีข้อเดียวเท่านั้นคือ 'ความสามารถรอบด้าน' แน่นอนว่าเนตรเกลียดเหล่าเด็กผู้หญิงพวกนั้นมาตลอด โดยเฉพาะตอนที่อำพันแทบจะไม่มีเธอในจิตใจอีกแล้ว นั่นทำให้เธอเริ่มอิจฉาริษยาและยอมรับไม่ได้ หากแต่เมื่อเห็นหน้าเหล่าเด็กสาวพวกนั้นเดินเคียงข้างกับอำพัน เธอก็ทำได้เพียงยิ้มและนั่งมองอย่างสงบ เพียงเท่านี้ก็มากเกินพอแล้ว แต่เรื่องราวยังคนไม่จบสิ้น เมื่ออำพันหายตัวไปในวันก่อนปิดเทอมเพียงไม่กี่วัน เนตรเสียใจมากจนแทบบ้า เธอเฝ้าตามหาเพื่อนคนนั้นอย่างสุดความสามารถ ...แต่สุดท้ายก็ไม่พบ เธอปักใจเชื่อว่ากลุ่มเพื่อนใหม่ของอำพันเป็นคนทำแน่ๆ เพราะก่อนหน้านี้เกิดการทะเลาะกัน แต่เมื่อไปถาม เด็กสาวพวกนั้นก็ได้แต่พูดว่า ' ไม่รู้เรื่องอะไรเลยสักนิด ' เนตรทำได้เพียงกัดฟันยิ้มแล้วเขียนกระดาษโน้ตเป็นคำพูดว่า

     ' ไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณที่ช่วยตอบคำถามของเนตรนะคะ... ' ความกลัวและว้าเหว่ของเธออยู่ในจุดที่ย่ำแย่อย่างที่สุด

    สุดท้ายเธอก็ล้มเลิกความพยายาม บาดแผลในวันนั้นฝังใจมาตลอด และเธอไม่อยากให้ใครมาหายไปเพราะเธออีก แต่อนิจจา นับตั้งแต่เทอมแรกแห่งความฝัน ก็ไม่มีใครมาเป็นเพื่อนกับเธออีกเลย และความซึมเศร้านี้ก็ถูกกลบด้วยรอยยิ้มไปจนหมด ปัจจุบันเธอทำตัวปกติ มีชีวิตสงบสุขอยู่กับพ่อแม่โดยที่พยายามลบความทรงจำส่วนนั้นออกไป และหวังว่าสักวันจะมีเพื่อนดีๆ เข้ามาในชีวิตเธอ ดังเช่นที่อำพันเคยทำไว้

     

     

    Primary Question

     

    1.เหตุผลที่สมัครร่วมโครงการนี้? 

        เด็กสาวดวงตาสีฟ้าครามเขียนประโยคยาวด้วยปากกาเจลสีดำลงบนกระดาษโน้ตเล็กๆ

        " เนตรเคยเห็นผ่านๆ ทางอินเตอร์เน็ตน่ะค่ะ ซึ่งเนตรค่อนข้างจะสนใจมันมากๆ เป็นโรงเรียนที่ท้าทายและมีบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความแปลกใหม่ นอกจากนั้น เนตรต้องการที่จะรู้ค่ะว่าความตายที่แท้จริงมันเป็นอย่างไร เนตรสงสัยมานาน แล้วค่ะว่าการที่เห็นคนตายหรือตัวเนตรเองได้ตายจากไปจริงๆ มันจะเจ็บปวด ทรมาน หรือสงบสุขกว่าการที่เห็นคนที่ตัวเองรักหายไปมากสักแค่ไหน ส่วนเหตุผลข้อสุดท้าย...เนตรขอเพียงเพื่อนใหม่ที่จริงใจสักคนในที่แห่งนี้  หากเจอคนๆ นั้นแล้ว เนตรก็ยอมตายหรือมีจุดจบอย่างไรก็ได้ค่ะ เพราะเพื่อนแท้เป็นสิ่งที่หายากยิ่งกว่าเข็มที่จมอยู่ใต้มหาสมุทรเสียอีก "       ดวงงตาของเนตรนภิศกำลังยิ้ม หากแตริมฝีปากยังคงนิ่งสงบเป็นเส้นตรง


    2.ในบรรดาบ้านทั้ง 3 หลังจงบอกบ้านที่อยากอยู่พร้อมกับเหตุผล

        ปลายปากกาจรดลงบนกระดาษอีกครั้งอย่างแผ่วเบา

        " บ้านม่านดวงจันทร์ค่ะ... จากที่ฟังแล้วค่อนข้างชอบชื่อของบ้านที่ฟังดูอบอุ่นและสงบเงียบ อีกนัยหนึ่งคือดวงจันทร์เป็นสัญลักษณ์ที่ให้ความรู้สึกพึ่งพาอาศัยกันในความคิดของเนตร เปรียบเหมือนแสงของดวงจันทร์ที่ไม่ได้ส่องสว่างในตัวเอง ทว่าสามารถยืนหยัดส่องแสงในยามกลางคืนอย่างโดดเด่นและงดงามอย่างที่สุดได้ค่ะ อันที่จริงเนตรก็ไม่ได้ไม่ชอบบ้านหลังอื่นนะคะ เพียงแต่ว่าชอบบ้านหลังนี้มากกว่าเท่านั้นเอง " เธอยิ้มบาง

     

    3.คิดว่าโฮสต์แต่ละคนเป็นอย่างไร?

        คราวนี้เธอพูดออกมาเองด้วยเสียงเล็กเหมือนระฆังกังวานใสเบาๆ และเนิบช้า ทว่าคำพูดกลับชัดเจนทุกถ้อยคำ

       " เริ่มจาก...คุณนักรบจากบ้านแสงพระอาทิตย์ ฟังชื่อแล้วให้ความรู้สึกกล้าหาญค่ะ น่าจะเป็นคนตรงๆ เข้มแข็งพอตัวเลย......ต่อมาคุณเบญจากบ้านม่านดวงจันทร์ เนตรรู้สึกว่าอาจจะเป็นผู้หญิงที่ให้ความรู้สึกสงบเงียบและมีเหตุผลน่ะค่ะ สุดท้ายคุณมิราจจากบ้านดาวตก ชื่อของคุณโฮสต์ค่อนข้างมีอะไรบางอย่างค่ะ อ่า...จากที่เนตรเคยอ่าน 'มิราจ' คือปรากฏการณ์ภาพลวงตาที่เกิดจากการหักเหแสง...และเกิดการสะท้อนกลับออกมาสินะคะ ซึ่งบางทีชื่อของคุณมิราจอาจจะไม่มีอะไรแอบแฝง แค่เป็นชื่อธรรมดาๆ เฉยๆ ค่ะ แต่ส่วนตัวติดใจอยู่...เอ่อ เนตร...ไม่มีอะไรจะพูดแล้วล่ะค่ะ... "

        เนตรนภิศเกาแก้มตัวเองเล็กน้อย

     

    -----------------------------------------------


    1.รับได้ไหมถ้าลูก ๆ ของตัวเองต้องตาย

    -รับได้แน่นอนค่ะ

     

    2.ถ้าได้รับเลือก สามารถเข้ากรุ๊ปไลน์ของบ้านแต่ละหลังได้ไหม?

    -เอ่อ อันนี้ก็พูดยากนะคะ เอาเป็นว่ายังไม่แน่ใจแล้วกันค่ะ

     

    3.มีเวลาสัก 2-3 ชั่วโมงใน 1 อาทิตย์เพื่อเข้ามาส่งงานใช่ไหมอ่า

    -แน่นอนค่ะ


      



    O W E N TM.
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×