ตอนที่ 3 : ทวงสิทธิ์ - 2
ทวงสิทธิ์(2)
แต่ในตอนนี้ เธอต้องทำยังไงก็ได้ ทุกวิถีทาง เพื่อที่จะเอาตัวเองให้รอดจากไอ้พวกเจ้าหนี้หน้าเลือดที่ส่งไอ้พวกทวงหนี้นอกระบบมาข่มขู่ไม่เว้นแต่ละวัน
ดวงตางามกะพริบไล่ความรู้สึกเสียใจนั่นให้หายไป และวาวโรจน์กร้าวกล้าขึ้นมาใหม่ เพื่อจะต่อกรกับคนบ้าระห่ำตรงหน้า เพราะถึงยังไงตามกฏหมายและความถูกต้องชอบธรรมเธอเองงมีสิทธิ์มีเสียง มีส่วนได้ในพินัยกรรมของผู้เป็นปู่อยู่แล้ว
“ฉันต้องการห้าสิบล้าน...เงินห้าสิบล้านบาทของฉัน นายได้ยินไหม?”
ฟ้าครามเจ็บจี๊ดไปถึงกระดองใจ ที่เขาพูดไปจนขนาดนี้ ผู้หญิงตรงหน้าก็ยังไม่สำนึกสำเหนียก ไม่รู้สึกรู้สาใดๆ อีก จนด้วยคำที่จะหามาพูดหรือด่าทอต่อว่าเพื่อเปิดสมองคนอย่างนี้จริงๆ
สิ่งที่เขาทำได้ก็แค่ฮึดฮัดฮึ่มฮั่มอย่างหัวเสียเพียงคนเดียว
“หรือว่านายตั้งใจจะโกงฉัน?” หล่อนถามเมื่อเขาไม่ตอบ ดวงตางามเบิ่งโตเอาเรื่อง จิ้มนิ้วชี้เรียวขาวมาแทบทิ่มหน้า
“โกง ผมนี่นะไปโกงอะไรคุณ” เขาปัดมือเล็กนั่นออกให้พ้นจากใบหน้า แต่ว่ายัยเผือกก็เอามันกลับมาชี้หน้าเขาอีกจนได้
“ที่ดินผืนนี้มันเป็นของฉันครึ่งหนึ่ง และฉันก็ควรจะได้” หล่อนว่าฉอดๆ หน้าไม่อาย
“ได้อะไร? คุณจะเอาอะไร? หรือนึกเฮี้ยนอยากจะลุกมาลองทำไร่ไถนาในส่วนของคุณก็เอาสิ...ถ้าทำไหวนะ” เขาผายมือเปิดไปรอบๆ ตัว แล้วดวงตาคมกล้าตวัดกลับมากวาดมองหล่อนหัวจรดเท้า...เท้าจรดหัวอีกครั้งอย่างดูแคลน
“แต่ดูจากสารรูปของคุณ คงจะทำอะไรไม่ไหว อย่าว่าแต่ที่ดินสองร้อยไร่เลย แค่จับจอบจับเสียมจะทำเป็นหรือเปล่าก็ไม่รู้?”
“แน่ล่ะสิ ฉันไม่ได้เกิดมาถึกทนเป็นพวกชอบใช้แรงวัวแรงควายเหมือนนายนี่ ฉันถึงต้องการจะขายที่ดินในส่วนของฉัน” เจ้าหล่อนว่าพร้อมกับกอดอกหน้าเชิดอีกแล้ว
“ใสเจีย...เสียใจด้วยนะคุณเผือก ถึงที่ดินผืนนี้จะมีราคา แต่ว่าผมไม่ขาย” ประกาศหนักแน่นก้องชัดเต็มสองรูหู
“และเมื่อไม่ขาย ก็ไม่ได้เงิน...เมื่อไม่ได้เงินก็เลยไม่มีเงินที่ไหนมาให้คุณ” เขาลอยหน้าลอยตาตอบกลับไปอย่างกวนโทสะ
“แต่ที่ดินนี้มันเป็นของฉันครึ่งหนึ่ง นี่นายคิดจะฮุบสมบัติของฉันหรือไงฮะ”
“มันไม่ใช่ของคุณคนเดียว...พินัยกรรมของลุงเล็กระบุเอาไว้ชัดเจนว่าผมมีสิทธิ์ทำมาหากินบนที่ดินผืนนี้โดยชอบธรรม และมันจะเป็นของเราคนละครึ่ง ก็ต่อเมื่อหลังจากท่านเสียชีวิตไปแล้วยี่สิบปี”
ยี่สิบปี...ไม่มีทางแน่...ถึงเวลานั้นเธอกับแม่คงถูกพวกทวงหนี้จับฆ่าหมกกลายเป็นปุ๋ยย่อยอยู่ในดินเรียบร้อยแล้ว
“หรืออีกวิธีก็คือ เราจะต้องแต่งงานกันสถานเดียวเท่านั้น” เขาแจ้งให้หล่อนทราบตามทุกถ้อยความที่ระบุไว้ในพินัยกรรมนั้นอย่างไม่ผิดเพี้ยนสักคำ แม้พูดไปแล้วก็รู้สึกจี๊ดหัวใจฉิบ เมื่อเห็นสีหน้าขยะแขยงและสายตาที่มองมาอย่างรังเกียจเดียดฉันท์เหมือนเห็นเขาเป็นกิ้งกือไส้เดือนจากเฟื่องลดา
“ฝันไปเถอะย่ะ...เพราะฉันไม่มีวันแต่งงานกับคนป่าคนดอยอย่างนายเด็ดขาด”
“แล้วนึกว่าผมอยากได้ผู้หญิงอย่างคุณมาทำเมียนักหรือไง?” โต้กลับไปอย่างดุเดือดเลือดพล่านไม่น้อยไปกว่า หน้าต่อหน้าประจันกันจนแทบติด
คนฟังปรี๊ดแตกขึ้นมา หมอนี้กล้าดียังไงสะเออะมาพูดจาแบบนี้
“ถึงอยากได้ก็ไม่มีทางได้หรอกย่ะ...คนอย่างฉัน เฟื่องลดา เภตานันท์ เป็นถึงลูกสาวอดีตปลัดกระทรวง จะให้มาแต่งงานกับผู้ชาย...” หล่อนละคำพูดนั้นเอาไว้ สองแขนกอดอกแน่นหน้าเชิด พร้อมกับปรายสายตากวาดมองผู้ชายตรงหน้าแบบ หัวจรดเท้า และเท้าจรดหัวอีกครั้ง ไม่ว่ามองยังไง นอนคว่ำนอนหงายตีลังกามอง ไอ้นายฟ้าครามก็ช่างห่างไกลภาพผู้ชายในฝันในสเป็กที่เธอตั้งไว้ไปหลายปีแสงชนิดที่ไม่ต้องเสียเวลาคิดให้เปลืองสมองเลยสักนิด
“ทำไม? คนอย่างผมมันเป็นยังไงเหรอ?” คนตัวโตที่กำลังถูกท้าทายจากผู้หญิงที่สูงแค่ปลายจมูกพยักพเยิดใบหน้าถามอย่างอยากฟังเช่นกัน
“คนเถื่อน ไร้การศึกษา อยู่ป่าอยู่ดอยคลุกดินคลุกโคลนอย่างนายนี่นะไม่มีวันแน่ๆ” ทำหน้าตารังเกียจเดียดฉันท์ไม่ปิดบัง
“หึๆ” ฟ้าครามแค่นหัวเราะออกมา แม้ว่าข้างในใจมันจะเจ็บจี๊ด เหมือนมีคนเอาเข็มทิ่มเข็มตำซ้ำแล้วซ้ำเล่า แล้วเทราดซ้ำด้วยทิงเจอร์ไอโอดีนก็เหอะ “คิดว่าตัวเองสวยตายล่ะ ต่อให้คุณมาแก้ผ้านอนแบแผ่หราอ้าซ่ากระดิกนิ้วยิกๆ ขยิบตา ส่งจูบเรียก ผมยังต้องคิดดูก่อนเลย” ว่าพร้อมกับมองมาด้วยสายตาดูแคลนสุดๆ
คนฟังอ้าปากค้าง ความโกรธพุ่งปรี๊ดขึ้นถึงขีดสุด ด้วยถ้อยคำหยาบคายระคายหูที่เขาพ่นใส่ จนไม่อาจจะควบคุมตัวเองให้เจรจากับผู้ชายถ่อยตรงหน้าได้อีกต่อไปแล้ว
เผียะ!
เสียงฝ่ามือบางฟาดเข้าที่ข้างแก้มคร้ามกร้านแดดนั่น ดังชัดถนัดเต็มสองหู จนหน้าหันและยังส่งผลให้การได้ยินอื้ออึ้งอลไปในบัดดล
‘ซี้ดดด....แม่ม! ตัวเล็กๆ แต่มือหนักชะมัด’ ฟ้าครามคำรามซี้ดซ้าดอยู่ในอก กัดฟันกรอดอย่างโกรธที่สุด
ใบหน้าคร้ามหันขวับกลับมา ถลึงตาเข้าใส่ สันคอแกร่งถึงกับกระตุกยิกๆ ด้วยความโกรธที่พุ่งพรวด มองผู้หญิงตรงหน้าจนดวงตาลุกวาวแทบถลนล้นเบ้าออกมา
“อย่ามาหยาบคายทำชั้นต่ำกับฉัน” เฟื่องลดาเองก็โกรธหน้าดำหน้าแดงไม่ต่างกัน จมูกโด่งรั้นงามหายใจพรวดๆ ด้วยความโมโหโกรธาถึงขีดสุดจนตัวสั่นเทิ้มไปหมด
“น้ำหน้าคนอย่างนาย ต่อให้ขาอ่อนฉันก็ไม่มีวันได้เห็นหรอกย่ะ” ว่าแล้วก็สะบัดหน้าเชิดจนน่ากลัวว่าคอเรียวเล็กนั่นจะหลุดจริงๆ พั่บผ่าสิน่า
*เจอเฟื่องลดาด่าเป็นชุดอย่างนี้...ฟ้าครามจะใช้วิธีไหน สยบความปากดีของหญิงสาวกัน...อยากรู้จัง...*
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ
