ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    มัดใจคุณ...อย่างเป็นทางการ : Officially be Yours

    ลำดับตอนที่ #12 : 4 ในค่ำคืนท้องฟ้าสีชมพูตุ่นๆ 2/3

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.87K
      3
      21 มี.ค. 67

    “อาทับทิมขา”

    “คิดถึงจังเลยค่ะคนสวยของอา”

    สองอาหลานกอดกันกลมกลางชานบ้าน ผลัดกันหอมแก้มบ้าง จุ๊บหน้าผากบ้าง ธีรดาแทบพุ่งออกจากรถตั้งแต่เคลื่อนใกล้บ้านพี่ชายแล้วเห็นเปรี้ยวหวานโบกมือหย็อยๆ ความเครียดหลากหลายที่สะสมมาตลอดหลายวันพลันปลิวหายติดตามคนขับรถกลับกรุงเทพมหานครไปด้วย เพียงแค่เธอเห็นเจ้าซาลาเปายิ้มอวดฟันน้ำนม ไหนจะเสียงเล็กๆ ที่เรียก อาทับทิมขาเหมือนพลังที่เติมเข้ามาให้ใจหายล้า

    “เปรี้ยวหวานก็คิดถึงค่ะ”

    “อาซื้อของมาฝากเยอะแยะเลยค่ะ อยู่ในกระเป๋านั่นแน่ะ ของเปรี้ยวหวานหมดเลยนะ น่ารักๆ ทั้งนั้น”

    “ขอบคุณค่ะ”

    เด็กหญิงปั้นดาวยกมือไหว้ ก่อนกระโดดกอดหอมขอบคุณจนแก้มธีรดาเปื้อนน้ำลาย ทว่าหญิงสาวผู้ที่เนี้ยบทุกกระเบียดนิ้วกลับไม่ยี่หระว่าเครื่องสำอางเคาน์เตอร์แบรนด์ราคาแพงที่ตนแต่งแต้มปกปิดความหมองคล้ำจากการนอนน้อยมาหลายคืนจะหลุดลอกออก

    ธรณ์ส่ายหน้าตั้งแต่เห็นกระเป๋าเดินทางใบใหญ่สองใบที่คนขับรถยกลงมาวางให้ตรงชานบ้านก่อนขับรถออกไปแล้ว หากแต่ต้องพ่นลมหายใจอีกรอบเมื่อกระเป๋าใบที่ธีรดาบอกเปรี้ยวหวานว่ามีของฝากคือใบที่ใหญ่กว่าอีกใบ ตามใจกันเข้าไป ลูกสาวเขาได้เป็นพวกวัตถุนิยมกันพอดี

    “ยุ่งแบบไหน ถึงได้มีเวลาซื้อของฝากหลาน”

    “โธ่ ! พี่ธรณ์ก็ เปรี้ยวหวานน่ะเป็นหลานคนเดียวของตระกูลเรา เป็นหลานรักของทับทิม เพราะงั้นต่อให้งานยุ่งแค่ไหนทับทิมก็แบ่งเวลาได้ค่ะ เปรี้ยวหวานมาก่อนอะไรทั้งหมด”

    น้องสาวคุยจ้อ ธรณ์จึงคลายกังวล เจ้าตัวดูผ่อนคลายลงมากหากเทียบกับตอนคุยทางโทรศัพท์กับเขาเมื่อช่วงเช้า

    “ซื้ออะไรมาเยอะแยะ”

    “จำไม่หมดหรอกค่ะ เยอะเกิน”

    “พี่หวังว่าคงไม่มีกระโปรง”

    “อืม ไม่มี...” ทายาทพ่อมดอสังหาริมทรัพย์ยิ้มกริ่ม เป็นน้องพี่ธรณ์มาทั้งชีวิต ไหนเลยจะไม่รู้ว่าพี่ชายชอบอะไรหรือไม่ชอบอะไร แต่น่าเสียดายที่เธอดันเป็นน้องสาวประเภทชอบแหย่พี่ “ไม่มี...ได้ยังไงล่ะคะ เป็นผู้หญิงก็ต้องใส่กระโปรงสิ”

    “เรานี่มัน...”

    “ทำเป็นหวงไปได้ พี่ธรณ์ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ เปรี้ยวหวานน่ะเรียบร้อย เนอะเปรี้ยวหวานเนอะ” ธีรดาเริ่มหาพวก ถึงอย่างไรหลานก็อยู่ทีมเดียวกับเธออยู่แล้ว รวมถึงพี่แซนเธอก็จะดึงมาเป็นพวกให้หมด

    เปรี้ยวหวานพยักหน้าหงึกหงัก พอมารดาจ้องตาและกระแอมเบาๆ เป็นโค้ดลับที่รู้กัน เจ้าตัวจึงตอบว่า ค่ะแล้วส่งยิ้มพิมพ์ใจ

    “ว้าว ! วันนี้เปรี้ยวหวานใส่กระโปรงที่อาซื้อให้ด้วย ซ้วยสวย อานี่เลือกของเก่งจริงๆ เลย” หญิงสาวแกล้งพูดตื่นเต้นให้พี่ชายร้อนใจเล่นๆ เดี๋ยวคงได้เดือดกว่านี้หากรู้ว่าในกระเป๋าเดินทางใบใหญ่มีทั้งกระโปรงทั้งเดรสน่ารักๆ รวมกันมากกว่าห้าตัว ไม่รู้ละ เธอซื้อมาแล้ว อย่างไรเสียเปรี้ยวหวานก็ต้องใส่ให้ครบทุกตัว

    “พี่ควรจัดการกับเรายังไงดี เรียกคนขับรถให้วกรถกลับมารับดีไหม”

    นอกจากลอยหน้าลอยตาไม่สนใจคำขู่นั่นแล้ว ธีรดายังตั้งข้อสงสัยแบบทะเล้นตามประสาน้องสาวคนเล็กของบ้าน ราวกับเป็นคนละคนกับคุณธีรดาของพนักงานใต้ปกครองกว่าหนึ่งพันชีวิต

    “ทับทิมอยากรู้จริงๆ ว่าถ้าพี่แซนใส่กระโปรงบ้าง เอ่อ หมายถึงกระโปรงสั้นๆ พี่ธรณ์จะหึงหรือเปล่า”

    สิ้นประโยคยาวๆ ทุกอย่างก็เงียบกริบจนธีรดาได้ยินเสียงนกกระจอกเทศร้องอยู่ไกลๆ ธรณ์สอดมือเข้ากระเป๋ากางเกงแล้วหันหน้าไปทางอื่น ส่วนทรายรุ้งก้มลงมองปลายเท้าตัวเอง ทว่ากิริยาเหล่านั้นกลับทำให้คนไม่รู้อีโหน่อีเหน่คิดไปว่าเป็นอาการเขิน

    “แหม แต่งงานกันมาตั้งหลายปี ไม่ต้องเขินหรอกค่ะ คิดถึงพี่แซนจังค่ะ” ธีรดาคลายอ้อมกอดจากหลานสาวแล้วตรงเข้ากอดพี่สะใภ้ “ขอโทษที่เพิ่งทักทายนะคะ พี่ธรณ์น่ะสิเอาแต่ชวนทับทิมทะเลาะ”

    “คิดถึงก็อยู่ด้วยกันนานๆ นะจ๊ะ”

    “รอบนี้ได้อยู่นานแน่ค่ะ ทั้งเดือนยังได้ ทับทิมจัดการมอบหมายงานทางโน้นไว้เรียบร้อยแล้ว เวลาจะประชุมหรือสั่งงานลูกน้องก็วิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์เอาเนอะ เทคโนโลยีสมัยนี้ล้ำจะตายไป”

    ทั้งเดือนยังได้...

    ธรณ์หวังว่าธีรดาจะพูดเล่น ไม่ได้อยู่ฟาร์มนกกระจอกเทศนานทั้งเดือนดังว่า เพราะปกติอยู่ได้มากสุดแค่หนึ่งอาทิตย์ ซึ่งในหนึ่งอาทิตย์นั้นเลขานุการของน้องสาวหอบเอกสารมาให้เซ็นถึงที่ไม่ต่ำกว่าสามครั้ง วอแวจนคนลาพักร้อนเกิดหงุดหงิดเลยตัดสินใจนั่งรถกลับบริษัทไปพร้อมกับฝ่ายที่เดินทางข้ามจังหวัดมาหลายชั่วโมง

    “ไม่หวงพ่อแล้วหรือ”

    “หวงค่ะ แต่ก็เบาใจ เพราะทับทิมเตรียมการทุกอย่างไว้หมดแล้ว” เพราะเป็นเรื่องของผู้ใหญ่และเด็กไม่ควรได้ยิน ธีรดาจึงกระซิบกระซาบสองคนกับพี่ชาย “บัตรต่างๆ ที่พ่อทำไว้ให้แม่นั่นเอาไปผลาญ ทับทิมสั่งอายัติไปหมดแล้วค่ะ และทับทิมก็มั่นใจว่ายายแม่มดในคราบแม่ชีไม่กล้าฟ้องพ่อ ไม่กล้าเรียกร้องอะไรด้วยเพราะกำลังทำคะแนน แสร้งทำว่าเป็นแม่เลี้ยงที่ดีเลิศ หึ ไม่มีใครรู้ดีไปกว่าทับทิมหรอกว่าจริงๆ น่ะร้ายกาจสุดๆ”

    “เรามันร้าย”

    “สถานการณ์บังคับให้ต้องร้ายค่ะ หรือถ้าร้ายกว่าทับทิมก็คาร์เมน[1] แล้วละ”

    ดวงตาคู่คมแข็งกร้าว ทว่าธรณ์มองออกว่าลึกๆ แล้วหญิงสาวหวั่นไหวมากแค่ไหน ถึงจะโกรธพ่อ แต่ไม่มีวินาทีไหนเลยที่น้องสาวไม่ห่วงใยท่าน พ่อมีผู้หญิงเข้ามาในชีวิตหลายคน เขากับธารณ์รู้พอๆ กับที่ธีรดารู้ แต่ที่ลูกสามคนเอาหูไปนาเอาตาไปไร่มาตลอดเพราะท่านไม่เคยพาผู้หญิงเหล่านั้นเข้าบ้าน มีเพียงพักหลังที่พยายามหาแม่เลี้ยงให้พวกเขา โดยที่คนคัดค้านหัวชนฝาคือคนตรงหน้าเขา

    พ่อจะมีผู้หญิงสักกี่คนทับทิมไม่เคยว่า แต่การที่พ่อพาผู้หญิงเข้ามาในบ้านและนอนทับรอยแม่ ทับทิมยอมไม่ได้

    ธีรดาเคยโทรมาร้องไห้ระบายให้เขาฟังตอนตีสองด้วยน้ำเสียงที่บ่งบอกว่าทะเลาะกับพ่อมาอย่างหนัก

    “พี่ธรณ์ช่วยยกกระเป๋าไปไว้ข้างบนให้หน่อยได้ไหมคะ มันหนัก”

    เจ้าของฟาร์มนกกระจอกเทศที่ถูกเปลี่ยนตำแหน่งให้เป็นพนักงานยกกระเป๋าชั่วคราวขมวดคิ้ว

    “ไม่นอนบ้านธารณ์หรือ”

    “ไม่ค่ะ ทับทิมตั้งใจว่าจะนอนกับเปรี้ยวหวานที่นี่”

     



    [1] ตามตำนานปีศาจของชาวไอริช คาร์เมน (Carman) คือเทพนักรบหญิงผู้ใช้เวทมนตร์ดำในการเข้ารุกรานแผ่นดินไอร์แลนด์ในยุคของมนุษย์ พร้อมกับลูกทั้งสาม ได้แก่ Dub (ความมืด) Dother (ปีศาจ) และ Dian (ความรุนแรง) โดยทำลายพืชไร่ต่างๆ รวมถึงสิ่งมีชีวิตทุกชนิดที่ขวางทางเธอและลูก

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×