ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    คิดถึงคุณ...อย่างเป็นทางการ : Officially Missing You

    ลำดับตอนที่ #8 : 3 ‘ปราบศึก’ ชื่อนี้มีแต่ความคิดถึง 1/3

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 7.67K
      4
      17 มี.ค. 67

    เก้าอี้ไม้ตัวยาวตรงชานบ้านตุ๊กตาได้ต้อนรับคนสำคัญอย่างปราบศึก เจ้าพลูโตกระโดดขึ้นนั่งบนที่ว่างข้างๆ มองแขกของเจ้านายตาไม่กะพริบ ส่วนทะเลจันทร์พุ่งเข้าตัวบ้านแล้วกลับออกมาพร้อมน้ำดื่มเย็นเฉียบและคุกกี้ธัญพืชฝีมือทรายรุ้งในขวดโหล

    “ไม่เห็นต้องพิธีรีตอง”

    “แขกมาบ้านอย่างน้อยๆ ก็ต้องยกน้ำมาเสิร์ฟสิ มันเป็นมารยาททางสังคม” ถึงจะเป็นมารยาทที่เธอมีน้อยนิดก็เถอะ “ชิมนี่หน่อย”

    ปราบศึกรับโหลคุกกี้มาพิจารณา หมูพลูโตเห็นเข้าก็ตาวาว ร้องงึดๆ ทำจมูกยื่นเขี่ยข้อศอกชายหนุ่ม

    “หมูหรือหมา”

    “พ่อกับพี่ซันบอกว่าซีเลี้ยงจนเสียหมูไปแล้ว พลูโตก็คงลืมไปเหมือนกันว่าตัวเองเป็นหมู”

    ร่างเล็กนั่งลงบนที่ว่างอีกข้าง กลายเป็นว่าปราบศึกถูกขนาบด้วยหมูและแม่หมู

    “พลูโตกินคุกกี้ได้หรือเปล่า” เห็นหมูมองตาละห้อยปราบศึกก็นึกสงสาร เสียหมูไปแล้วจริงๆ แม้แต่แมวของพ่อกับแม่เขายังไม่ขี้อ้อนเท่า

    ทะเลจันทร์รู้ว่าอาหารพวกนี้ไม่เหมาะกับหมูสักเท่าไร แต่พอเธอหรือคนอื่นๆ กินอะไร เจ้าพลูโตก็มักคลอเคลียขอกินด้วย ร้อยทั้งร้อยเป็นต้องใจอ่อน พ่ายแพ้ให้กับความเป็นหมาขี้อ้อนในคราบหมูแคระ เพราะสาเหตุนี้เจ้าพลูโตจึงเป็นหมูเสียนิสัย กินอะไรเหมือนคนตั้งแต่เด็กๆ อาหารหมูเล็กหมูใหญ่อย่างที่ให้หมูตัวอื่นในฟาร์มกินก็พานไม่ถูกจริตไปเสียอย่างนั้น

    “ของชอบเขาละ”

    ปราบศึกเปิดโหลแก้ว หยิบคุกกี้ออกมาชิ้นหนึ่ง บิออกเป็นชิ้นเล็กสองชิ้นแล้ววางลงบนเก้าอี้ให้

    “กินดีๆ สิ ตะกละจริงๆ กินมูมมามไม่ไว้หน้าฉันเลย”

    เจ้านายดุ ทว่าพลูโตที่ใครๆ ต่างลงความเห็นว่าแสนรู้นักหนากลับทำหูทวนลม ไม่สนใจฟังคำสั่ง ซ้ำยังขอคุกกี้ชิ้นที่สองจากเจ้านายคนใหม่

    “มันชอบพี่ปราบแล้วแหละ ปกติพลูโตไม่กินอะไรจากคนแปลกหน้าเลยนะ”

    “ท่าทางจะชอบคุกกี้มากกว่าพี่”

    “อุตส่าห์เอามาให้พี่ปราบลองชิม กลายเป็นเจ้าพลูโตกินไปเสียได้ แต่ยังมีในครัวอีกหนึ่งโหล เดี๋ยวพี่ปราบเอากลับไปกินที่บ้านพักแล้วกัน ส่วนโหลนี้” หญิงสาวเคาะนิ้วกับโหลแก้วผูกโบสีชมพูหวานแหวว “อย่ากินเลย พลูโตป้ายน้ำลายจองไว้แล้ว”

    “ซีทำหรือ”

    “ประเมินซีสูงเกินไปแล้ว”

    “คิดว่าห้าปีฝีมือจะพัฒนาขึ้นบ้าง”

    “เคยลองทำอยู่ครั้งหนึ่งแต่กินไม่ได้ ไหม้หมดทั้งถาดเลย” ไม่ใช่แค่ขนมที่ไหม้ เตาอบก็พลอยพังไปด้วย วันนั้นเธออยากทำขนมเป็นของขวัญวันเกิดครบรอบสองขวบของเปรี้ยวหวาน แต่พลาดไปหน่อย เตาอบดังปุๆ ก่อนจะหยุดทำงาน กลิ่นไหม้ฉุนจมูก ควันคลุ้งห้องครัวบดบังทัศนวิสัยตั้งแต่ระยะหนึ่งเมตร

    แม่กับพ่อรีบวิ่งมาดูยกใหญ่ พวกท่านส่ายหน้าแล้วถอนหายใจด้วยความชินหรือด้วยไม่มีคำจะพูดหญิงสาวก็เดาไม่ออก คุณการุณย์เปรยเบาๆ ว่า

    ซีไม่เป็นอะไรก็ดีแล้วลูก

    ดูออกหรอกน่าว่าพ่อแค่พูดให้เธอสบายใจ หลังจากนั้นเธอก็ไม่คิดจะเป็นแม่บ้านแม่เรือนอีกเลย ถ้าได้ลงครัวอีกสักครั้ง คราวนี้ไม่ใช่แค่เตาอบ แต่อาจเสียหายทั้งครัว ร้ายไปกว่านั้นอาจกลายเป็นมือวางเพลิงบ้านตัวเอง

    “อะไรที่ทำครั้งแรกพลาด ก็ไม่ได้หมายความว่าครั้งที่สองจะพลาด”

    “พูดเป็นปรัชญาจัง” ทะเลจันทร์หน้ายู่

    “ฝึกไว้ อีกหน่อยต้องออกเรือน”

    “อย่างซีจะมีใครมาชอบกัน คงนั่งแกว่งขาบนคานคอกหมูไปจนแก่” ดวงตาดำขลับมองแปลงแก้วมังกรเบื้องหน้า ชีวิตนี้หัวใจเธอไม่อาจเหลือไว้รักใครอีกแล้ว “ผู้ชายชอบผู้หญิงทำอาหารเก่งหรือ”

    “ส่วนมากเข้าข่ายนั้น”

    ทะเลจันทร์พยักหน้า ทรายรุ้งเก่งงานบ้านงานเรือน อาหารคาวหวานก็ทำคล่องทุกเมนู พี่เขยแอบชมให้ฟังบ่อยๆ ว่าติดรสมือ สำนวนที่ว่า เสน่ห์ปลายจวัก สามีรักสามีหลงยังใช้ได้ผลตั้งแต่สมัยโบราณยัน พ.ศ. นี้

    “อย่างซีเป็นแม่บ้านแม่เรือนไม่ได้หรอก แต่ถ้าเป็นแม่ผีบ้านผีเรือนอาจจะพอได้” หญิงสาวหันมองคนข้างๆ พบว่าเขามองอยู่ก่อนแล้ว “พี่ปราบก็ชอบผู้หญิงทำกับข้าวเก่งใช่ไหมล่ะ”

    “เก่งเรื่องอื่นดีกว่าเก่งเรื่องทำกับข้าว”

    ใบหน้ากลมแดงซ่าน คิดอะไรของเขากัน ทำไมพี่ปราบกลายเป็นอีกคนไปแล้ว

    “ละ...ลามก”

    “คิดลึกไปได้เรา พี่หมายถึงผู้หญิงทำงานเก่ง ไม่ต้องเป็นแม่บ้านแม่เรือน แค่ขยันและเข้าใจพี่ก็พอ”

    ได้ฟังเช่นนั้นทะเลจันทร์ค่อยโล่งอก ทำไมไม่อธิบายตั้งแต่แรกเล่า ปล่อยให้เธอคิดเป็นตุเป็นตะอยู่ได้

    หากแต่ซอกหลืบหัวใจที่ยังปฏิพัทธ์ต่อปราบศึกกลับเข้าข้างตัวเองว่าพอมีหวัง อย่างน้อยๆ เธอก็เป็นหัวเรือใหญ่ของฟาร์มหมูการุณย์กาญจ์ ดูแลแม่หมูหลายร้อยตัว บุกเบิกไร่แก้วมังกรหลายสิบไร่ ทำงานหัวเป็นเกลียวตัวเป็นนอตทุกวี่ทุกวัน

    ไม่ ! อย่าคิดบ้าๆ สิไอ้ซี ถ้าพี่ปราบจะจีบเขาจีบแกตั้งแต่ห้าปีก่อนโน่นแล้ว

    “เคยมีแฟนหรือเปล่า”

    หญิงสาวส่ายหน้า และก็ต้องหลบวูบด้วยไม่ปรารถนาให้อีกฝ่ายเห็นว่าเขินอาย

    “ห้าปีที่ผ่านมา...” ชายหนุ่มเว้นช่วงเล็กน้อย มือหนาเชยคางมนขึ้นให้ใบหน้าประสานกัน ดวงตาแข็งกล้าอันฉาบทับด้วยความอ่อนโยนซ่อนความรู้สึกบางอย่างเอาไว้เต็มเปี่ยม “ช่วงเวลาที่พี่ไม่อยู่ ซีคิดถึงพี่บ้างหรือเปล่า”

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×