คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #71 : Login 68: ผู้รุกรานไร้ขีดจำกัด
Login 68: ผู้รุกรานไร้ขีดจำกัด
มีนากับเมษากำลังมุ่งหน้าไปที่กำแพงไอจิส
ดูเบ
ดูเบ
มีแต่ดูเบเต็มไปหมดพวกมันลอยละล่องอยู่ทุกหนทุกแห่ง
ราวกับพวกเขากำลังวิ่งอยู่ในทะเลที่รายล้อมไปด้วยฝูงแมงกะพรุนโชคดีที่พวกมันไม่มีพิษเหมือนหน้าตา
กระนั้นก็ยังไม่อาจวางใจได้หากพวกมันเพียงแค่ตัวเดียวเล็ดลอดเข้าไปถึงในเมืองแล้วล่ะก็ความวินาศสันตะโรที่จะเกิดขึ้นนั้นร้ายแรงยิ่งกว่าพิษของแมงกะพรุนเป็นร้อยเป็นพันเท่า
เนื่องจากเมืองและศูนย์บัญชาการตั้งอยู่บนพื้นที่หากินของสัตว์เทวะระดับสูงมากมายย้อนกลับไปตั้งแต่สมัยที่เริ่มก่อตั้งเพื่อแลกกับเนื้อที่มหาศาลรวมถึงระบบอำนวยความสะดวกในการก่อสร้างและทรัพยากรอันเหลือล้นจนกลายมาเป็นรากฐานให้กับเมืองในปัจจุบันทำให้ต้องแบกรับความเสี่ยงหากสูญเสียที่มั่นหลักไปแล้วเมืองทั้งเมืองจะถูกปกคลุมด้วยสัตว์เทวะตัวฉกาจที่จะพากันผุดขึ้นมาราวกับดอกเห็ดผู้คนคงจะพากันล้มตายเป็นใบไม้ร่วง
หลังจากวิ่งสวนกับทหารหลายนายที่ออกไปเป็นกำลังเสริมให้กับพลเอกสิงห์ที่กำลังต่อสู้กับเพคด้าและเมเกรซ
มีนากับเมษาก็มาถึงหน้ากำแพงไออัสและวิ่งผ่านไปจนถึงกลางช่องว่างก่อนจะถึงแนวกำแพงไอจิส
มองเห็นม่านแสงสีทองอร่ามซึ่งเป็นกำแพงชีพจรมังกรตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหลังคอยสกัดพวกดูเบที่เล็ดลอดไม่ให้ผ่านเข้าไป
ทว่า...
เมื่อต้องเจอกับจ่าฝูงสองตัว อาริออทที่มีรูปร่างเหมือนปลาหมึกยักษ์ที่ปล่อยหยดหมึกพิษซึ่งระเหยเป็นไอกับมิซาร์สัตว์เทวะรูปแบบปะการังทะเลที่เคลื่อนที่ด้วยการแตกหน่อแบ่งจำนวนเพิ่มได้อย่างไร้ขีดจำกัดแค่หน่ออ่อนของมันเพียงเล็กน้อยก็สามารถกลายเป็นมิซาร์อีกตัวได้ในช่วงไม่กี่อึดใจ กำแพงมากมายเหล่านี้ก็หมดความหมายไปในทันที
Heraldic Beast Deity: Alioth Lv.70
[/////267000:267000/////]
Heraldic Beast Deity: Mizar Lv.70
[/////5000:5000/////]
มิซาร์ที่ข้ามกำแพงไออัสมาด้วยการแบ่งตัวเริ่มถมช่องว่างระหว่างกำแพงไออัสและไอจิสด้วยชั้นปะการังหนาหลายเมตรซึ่งจะกลายเป็นบันไดให้อาริออทไต่ข้ามมา
ขนาดตัวของพวกมันทำให้กำแพงอันแสนภาคภูมิใจของพวกเขาดูเป็นของเล่นไปเลย
ตอนนี้เองบนกำแพงไอจิสก็เริ่มโจมตีใส่ปะการังมิซาร์ด้วยไฟซึ่งเป็นจุดอ่อนของมัน
มีทั้งธนูไฟ มหิงสาเพลิง หอกไฟ
ไปจนถึงลำพระเพลิงและธารลาวาที่ไหลบ่าลงบนชั้นปะการังจนเกิดความเสียหายอย่างรุนแรง
มิซาร์ตัวที่หนึ่งตาย
Heraldic Beast Deity: Mizar Lv.70
[.....0:5000.....]
มิซาร์ตัวที่สองตาย
Heraldic Beast Deity: Mizar Lv.70
[.....0:5000.....]
แต่ยังมีมิซาร์ตัวที่ สาม สี่ ห้า
หก ที่พร้อมสร้างตัวที่ เจ็ด แปด เก้า สิบ
ออกมาอีกพวกมันแต่ละตัวเชื่อมติดกันเป็นร่างเดียวแต่แพปะการังแต่ละก้อนถือว่าเป็นคนละตัวกัน
เคยมีการคำนวณโดยหน่วยวิจัยสัตว์เทวะว่ามิซาร์สามารถแบ่งตัวจนปกคลุมโลกได้ภายในเวลาเจ็ดวันแต่มนุษย์จะสูญพันธุ์ไปตั้งแต่วันที่สี่เพราะออกซิเจนบริสุทธิ์จำนวนมหาศาลที่มิซาร์ปล่อยออกมาจะฟอกอากาศจนมนุษย์ไม่สามารถหายใจเข้าไปได้และออกซิเจนที่ว่าก็เริ่มส่งผลบ้างแล้ว
มีนารู้สึกมึนหัวเล็กน้อย
เมษาเริ่มหอบหายใจทั้งที่เพิ่งวิ่งมาได้ไม่เท่าไหร่ แต่วิกฤตเพิ่งจะเริ่มต้น...
อาริออทที่ไต่แนวปะการังข้ามกำแพงไออัสมานั้นยืดหนวดออกแล้วปล่อยหยดหมึกพิษลงบนแนวปะการัง
บนพื้นทราย และบนกำแพงเมื่อหมึกตกลงบนสิ่งต่างๆ
มันก็เริ่มระเหยเป็นไอสร้างหมอกพิษขึ้นมา พวกทหารที่อยู่บนกำแพงพอสูดไอพิษเข้าไปก็เกิดสถานะพิษปรากฏข้างชื่อและไม่นานพวกมีนาก็พลอยติดพิษไปด้วย
มีนา Lv.
60 (พิษ)
[/////4200:4300////.]
เมษา Lv.
61 (พิษ)
[/////7300:7400////.]
"แค่ก
อย่าสูดเข้าไปนะเมษาชุดของพวกเรากันพิษพวกนี้ไม่ได้"
มีนาพูดขณะที่สำลักไอพิษไปด้วย
"รู้แล้วน่า"
เมษาตอบแต่น้ำเสียงของเขาแหบแห้งกว่าทุกทีคงเป็นเพราะสูดเอาไอพิษเข้าไป
พิษของอาริออทเป็นแบบพิเศษที่ทำความเสียหายทันทีเมื่อเข้าสู่ร่างกายดังนั้นถ้ากลั้นหายใจไว้ก็จะช่วยป้องกันได้แต่ตอนที่หายใจเข้าครั้งใหม่ก็จะต้องถูกพิษอีกอยู่ดี
พวกเขาวิ่งไปพลางกลั้นหายใจไปพลางกว่าจะไปถึงจุดนัดพบด้านหลังกำแพงไอจิสที่นัดกับพวกกวินทร์ไว้พลังชีวิตก็เหลือไม่ถึงครึ่ง
มีนา Lv.
60 (พิษ)
[////.1100:4300.....]
เมษา Lv.
61 (พิษ)
[////.3250:7400…..]
ตอนนี้ด้านหลังกำแพงยังไม่มีไอพิษลอยเข้ามาพวกเขาจึงพักหายใจรอจนกระทั่งพิษที่ติดตัวสลายไปก่อน
เมษาถามขึ้นว่า
“แล้วพวกกวินทร์ล่ะ”
เขามองหาทั่วแล้วแต่ไม่พบกวินทร์หรือใครรออยู่แถวนี้จึงถามเช่นนั้น
มีนาตอบว่า
“ไม่รู้สิคงติดพันอยู่ข้างบนล่ะมั้งเอาเป็นว่า...”
แล้วชักเคียวออกจากหน้าจอคลังเก็บของพร้อมกับหันไปทางขวามือ
“สะสางงานทำความสะอาดกำแพงครั้งใหญ่นี่กันแค่พวกเราสองคนเถอะ”
เมษาหันตามที่มีนาหัน บนกำแพงไอจิสเริ่มมีแพปะการังของมิซาร์ปกคลุมล้นจนย้อยลงมาถึงด้านหลัง แม้ว่าถัดไปจะมีม่านพลังชีพจรมังกรขวางอยู่อีกชั้นแต่มันก็เคยแสดงให้เห็นแล้วว่าสามารถข้ามม่านพลังไปได้และถัดไปจานั้นก็คือที่พักทหารแล้วก็ตัวเมืองดังนั้นต้องหยุดมันลงที่นี่เท่านั้น
เมษากำหมัดแน่นหลังจากประเมินสถานการณ์เป็นที่เรียบร้อยก็เริ่มโจมตีโดยมีกันแค่สองคน
ลืมเรื่องกำลังเสริมไปได้เลยไม่มีใครในสนามรบแห่งนี้มือว่าง ไม่รู้ว่าทำไมสมาชิกในทีมของอิงศรถึงได้ถูกเลือกให้มาป้องกันแนวสุดท้าย
‘เพราะได้รับความไว้วางใจจากผลงานที่ค่ายกรุงเทพ ?’
จะเป็นเพราะสาเหตุนั้นหรือเปล่าเมษาก็ไม่อาจเข้าใจความคิดของพลเอกสิงห์ได้
เขาเป็นพี่ชายที่เพียบพร้อมด้วยพลังและปัญญาไหวพริบอย่างเหลือล้นบางทีการที่แยกตัวกวินทร์กับนรินทร์มาอยู่ที่แนวสุดท้ายก็อาจจะเป็นแผนที่วางไว้แต่แรก
คนที่น่าจะอ่านสถานการณ์นี้ออกเท่าที่เขารู้จักคงมีแค่อิงศรกับอีกคนซึ่งเป็นพี่ใหญ่ในวงศ์วานตระกูลธุวดารกะ
ระหว่างนี้เองมีนาก็เรียกมังกรกระดูกหลังหนาม
‘สเตโกซอมบี้’ กับ
มังกรกระดูกขนาดเล็กอีกสองตัวคือ ‘เวโรซอมบี้แรพเตอร์’
หล่อนเรียกออกมาพร้อมกันเพื่อจะใช้พวกมันเป็นเครื่องสังเวย
“เนโครดราก้อนทีแรนโนซอมบี้”
มีนาฟันเคียวลงไปบนพื้นแล้วมังกรกระดูกทั้งหมดก็สลายกลับลงดินไปก่อนจะมีตัวใหม่ผุดขึ้นมาแทน
มังกรกระดูกยักษ์ยืนด้วยสองขาความสูงไล่ๆ กับอาริออท
เธอสั่งให้มันโจมตีใส่ปะการังมิซาร์ที่ล้นลงมาจากกำแพง
“ทีร่าจังยิงดราโกนิกเอ็กซ์ทินชั่นเลยจ้ะแต่อย่าให้โดนกำแพงเข้าล่ะ”
มังกรกระดูกอ้าปากกว้างไอควันร้อนสีขาวพวยพุ่งออกมาจากข้อต่อกระดูก
กระดูกทั้งหมดเปลี่ยนเป็นสีแดงเข้มเมื่อรวบรวมพลังงานได้เต็มที่ก็พ่นลำแสงเพลิงยิงกราดใส่ปะการังที่อยู่ในระยะจนมอดไหม้หมดในพริบตา
แต่ก็ได้เท่านั้น....
มิซาร์ที่ยังหลงเหลืออยู่บนกำแพงซึ่งเป็นจุดที่ยิงไปไม่ได้เพราะจะโดนพวกเดียวกันก็เริ่มแตกหน่ออีกจนมีเท่ากับจำนวนที่ทำลายไปมิหนำซ้ำยังเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม
ไม่ทันไรมิซาร์ก็รุกล้ำมาถึงแนวป้องกันชีพจรมังกร
เมษาชนสนับมือเข้ากับฝ่ามืออีกข้างแล้วร่ายสกิล
“โพรมิทีอุสบังเกอร์!! (Prometheus Bunker)”
พลันมือข้างที่สวมสนับอยู่ก็ถูกห้อมล้อมด้วยเปลวไฟ
เด็กหนุ่มวิ่งตะลุยไปข้างหน้าแล้วกระแทกฝ่ามือเพลิงใส่แพปะการังก่อนที่มันจะแตกหน่อไปถึงม่านพลัง
การโจมตีได้ผลดีเพียงแค่กระแทกสองครั้งก็พอจะฆ่ามิซาร์ได้ตัวหนึ่ง
เมษาจึงเดินหน้าเจาะทะลวงแนวปะการังอย่างฮึกเหิม
แต่แล้ว...
“อะ...เฮ้ย”
พอหยุดมือแล้วมองรอบตัวเองก็พบว่าถูกล้อมโดยมิซาร์ที่แตกหน่อแยกเป็นสองทางอ้อมมาล้อมเอาไว้
เมษาจึงทะลวงพวกมันด้วยฝ่ามือเพลิงอีกแต่กลับตามความเร็วในการเพิ่มจำนวนไม่ทันจนกระทั่งผลของสกิลหมดลงหน่อของมิซาร์ก็เริ่มเบียดเข้ามาพวกมันจะหลอมรวมร่างของเขาเข้าไปในแพปะการังเพื่อให้ขาดอากาศตาย
ในตอนนั้นเอง
“เมษาร้องเหมียวๆ ทุกเช้าใช่ไหม!”
เสียงของมีนาดังมาอย่างนั้น
“มาพูดบ้าอะไรตอนนี้...”
เมษาตอบกลับไปโดยไม่ทันคิดแล้วในวินาทีนั้นร่างของเขาก็ถูกย้ายออกมาจากวงล้อมของมิซาร์มาโผล่เคียงข้างมีนาที่ปักด้ามเคียวไว้บนวงเวทที่วาดบนพื้นด้วยพลังของแอพพลิเคชั่นปีศาจเวตาล ทำให้เขารอดชีวิตมาได้
“เรื่องขอบคุณเอาไว้ทีหลังเถอะรีบหนีก่อนจะโดนล้อมดีกว่า”
หลังฟังที่มีนาพูด มิซาร์ที่แตกหน่อมาจากอีกทางก็เริ่มตีกรอบล้อมฟากที่ติดกับม่านพลัง
ทั้งคู่จึงรีบถอยกลับมาที่ทางเข้าแต่มิซาร์ก็อ้อมมาดักล้อมไว้เสียก่อน
สกิลธาตุไฟที่ใช้ได้ต่างก็อยู่ในช่วงฟื้นฟูจึงไม่มีทางเลือกนอกจากต้องทำลายด้วยมือกับอาวุธเปล่าๆ
แต่มิซาร์ที่ปิดล้อมประตูกลับไม่ได้ลดลงซ้ำยังเพิ่มความหนาขึ้น
จู่ๆ วงล้อมของมิซาร์ก็แยกออกด้วยไฟ ผู้ที่ปรากฏตัวหลังซากปะการังที่ถูกเผาไหม้ก็คือกวินทร์
“รีบมาทางนี้ก่อนครับ”
เมษากับมีนาตอบรับคำพูดนั้นแล้วหนีออกจากกำแพงไอจิสได้ทันก่อนจะถูกปิดล้อมอีก
ที่ด้านนอกมีคนที่เคยอยู่บนกำแพงไอจิสหลายคนรออยู่ดูเหมือนว่าพวกเขาจะสละกำแพงหนีลงมาเพราะถูกมิซาร์ปกคลุมพื้นที่ทั้งหมด
สถานการณ์บนพื้นดินก็ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันไอพิษของอาริออท กระจายไปทั่วทุกหนทุกแห่ง...
สถานการณ์วิกฤตเต็มขั้น
นรินทร์วิ่งมาสมทบพอเห็นพลังชีวิตของเมษากับมีนาเขาก็พูดว่า
“จะฟื้นพลังให้นะ”
แล้วเริ่มทำการฟื้นฟูพลังชีวิตแต่อย่าไรเสียถ้าไม่จัดการกับอาริออทก่อนพลังชีวิตที่ฟื้นฟูจนเต็มจะถูกลดลงไปอยู่ดี
ทันใดนนั้น....
เกิดเสียงกระชากตามมาด้วยเสียงฉ่าเหมือนกำลังย่างเนื้อ
มิซาร์ที่อยู่หลังกำแพงคงพยายามจะทะลวงม่านพลังชีพจรมังกรเพราะมองเห็นควันไหม้ลอยขึ้นมาจากทิศทางที่ว่า ไม่นานนักก็มองเห็นหน่ออ่อนที่แตกตัวซ้อนกันขึ้นไปด้านบนของมิซาร์ที่คิดจะข้ามม่านพลังไปเหมือนตอนที่มันเข้ามา
“ต้องรีบหยุดมันแล้ว”
นายทหารคนหนึ่งกล่าวจากนั้นคนที่เหลือก็เริ่มโจมตีโดยเล็งไปที่หน่อบนยอดสูงสุดและหยุดมันไว้ที่ตรงนั้น
ซากิริเดินมายืนข้างนรินทร์โดยที่ตามองดูแต่หน้าจอที่กำลังวิเคราะห์ข้อมูลของสัตว์เทวะ
“ไม่ไหวๆ แบบนี้โดนข้ามไปได้แน่”
คำพูดของหล่อนที่เป็นนักวิจัยสัตว์เทวะยิ่งตอกย้ำว่าพวกเขาจะต้องทำอะไรซักอย่างเพื่อหยุดหายนะนี้แต่...จะทำยังไงดีล่ะ
ไม่ใช่แค่เมษาที่ไม่รู้ว่าจะทำอะไรคนอื่นๆ
ก็คงกำลังคิดหัวแทบแตกอยู่เหมือนกัน
ในระหว่างที่คิดกันอยู่นั่นเอง
พื้นใต้เท้าของมีนาก็ยุบตัวลง
“ว้าย!!”
หล่อนจมหายลงไปในทรายท่ามกลางความตื่นตระหนกของทุกคน
ความคิดเห็น