ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Apocalypse Online เกมโกงวันโลกาวินาศ

    ลำดับตอนที่ #43 : Login 41: แอพที่ทำให้บิน

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 950
      50
      14 ธ.ค. 59

    Login 41: แอพที่ทำให้บิน

     

                สัตว์เทวะระดับจ่าฝูงซึ่งมีรูปลักษณ์อันถือกำเนิดขึ้นจากตำนานของสัตว์เทพพิทักษ์จตุรทิศ

                อัลบิโน่วคลอว์ (Albino Claw) ชื่อของสัตว์เทวะเสือขาวหุ้มเกราะซึ่งหันปลายกระบอกปืนใหญ่ที่ชาร์จอนุภาคแสงจำนวนมากเพื่อจะยิงกวาดล้างกองทัพขององค์กรเมตไตรยที่ขวางทางให้สิ้นซาก

                แผนการจู่โจมด้วย อิงศรฟอร์เมชั่นล้มเหลว

                กวินทร์ วชิระ ติดกับจนขยับตัวไม่ได้และถูกใช้เป็นตัวประกัน

                นั่นคือสถานการณ์ทั้งหมดในตอนนี้

                “ชาร์จบีมเนี่ยมันเป็นสกิลแบบไหนเหรอ

                อิงศร โรจน์จุฬา ได้ยินเสียงถามของเมษา ธุวดารกะ ท่ามกลางความวุ่นวายนี้

                เบื้องหน้าของเขาเมษากำลังพูดคุยกับมีนา ธุวดารกะ ที่มีสถานะเป็นพี่สาวฝาแฝดร่วมสายเลือดตระกูลธุวดารกะซึ่งเป็นตระกูลผู้นำองค์กรเมตไตรยที่เขาสังกัดอยุ่ในตอนนี้

                “จำไม่ผิดรู้สึกจะเป็นสกิลที่ต้องติดตั้งบิลด์คลาสสเปเชียลลิสต์(Specialist) ของอาชีพเรนเจอร์เหมือนคุณพี่ข้าวหลามก็จะมีสกิลนี้นะ

                มีนาตอบคำถามให้น้องชาย

                แล้วจากทางด้านหลังของอิงศรนั่นเอง นรินทร์ก็พูดแทรกเข้ามา

                “ชาร์จบีมเป็นสกิลโจมตีกวาดล้างเป้าหมายด้านหน้าแบบเป็นเส้นตรงพลังทำลายน่ะถ้าโดนเข้าไปคงได้เจ็บหนัก แถมคนใช้ยังเป็นสัตว์เทพระดับนั้นอีกมีหวังได้ตายในการโจมตีทีเดียวแน่

                เด็กหนุ่มพูดทั้งที่ยังสวมแว่นตาปีศาจเอาไว้ยังคงวิเคราะห์ข้อมูลของศัตรูออกมาเรื่อยๆ

                “ถ้าอย่างนั้นหลบออกด้านข้างก็พ้นแล้วสิเจ้านั่นตัวมันยังเป็นน้ำแข็งอยู่หันตามมายิงไม่ได้หรอก

                เมษาพูดอย่างตรงไปตรงมา ซึ่งมันก็ควรจะทำแบบนั้นจริงๆ นั่นล่ะ แต่ว่า...

                แล้วกวินทร์ล่ะ?

                จะให้ทิ้งไปเลยเหรอ?

                ตอนนั้นเองมีนาก็ตะหวาดใส่น้องชาย

                “แล้วจะให้ทิ้งคุณกวินทร์เหรอ

                พลางชี้ไปยังรุ่นน้องที่ติดสภาวะ อัมพาตจนยืนตัวค้างอยู่เบื้องหน้ากระบอกปืนของสัตว์เทวะ

                “เออ ลืมไปเลยเจ้ากวินทร์มันขยับตัวไม่ได้นี่นะ

                สรุปได้ว่ามีสองสาเหตุนั่นคือ...

                ลืมเพราะความทึ่มที่สมองมีแต่กล้าม

                ลืมเพราะความใจดำอำมหิต

                อิงศรสรุปว่ามันเป็นแบบแรกโดยไม่นึกสงสัย

                “ยังไงก็เถอะต้องช่วยคุณกวินทร์ก่อนล่ะค่ะเดม่อนแอพ

                เด็กสาวพูดแล้วตั้งท่าเงื้อเคียวในมือแต่อิงศรก็พูดขัดไว้ซะก่อน

                “แต่ตอนนี้เจ้ากวินทร์มันพูดไม่ได้ไม่ใช่เหรอแล้วจะพามันกลับมายังไง

                เพียงแค่นั้นเด็กสาวก็หยุดชะงักทันที

                “อ...อุ้ย จริงด้วย

                ดูเหมือนว่าไม่ใช่แค่คนน้องแต่คนพี่เองก็ยังขี้ลืมด้วยเหมือนกัน

                อย่างไรก็ตามนี่ไม่ใช่เวลาที่จะมาพูดล้อเล่นไร้สาระกันเลยแท้ๆ เท่าที่รู้มา ชาร์จบีมเป็นสกิลที่ใช้เวลาในการรวบรวมพลังนานเป็นพิเศษ เดิมทีแล้วมันเป็นท่าสำหรับทำลายปราการไม่ได้มีไว้พิชิตศัตรู แต่สัตว์เทวะกลับใช้มันเล็งมาที่พวกเขาจะว่ามันโง่หรือเย่อหยิ่งจนดูถูกความสามารถของมนุษย์เกินไปดีล่ะ

                ตอนนั้นเองเสือขาวก็พูดมาว่า

                “ยืนรอกันสบายเชียวนะมนุษย์เอ๋ยถึงมันพอจะมีเวลาอยู่บ้างก็เถอะแต่พวกเจ้าไม่มีทางทิ้งตัวประกันอยู่แล้วใช่ไหมล่ะเพราะข้าเห็นมาทั้งหมดแล้วจากดวงตาของเซลูลีนอายส์พวกเราทั้งสี่คือหนึ่งเดียวกันจึงเชื่อมถึงกันและรับรู้ได้ด้วยกันการเคลื่อนไหวของพวกเจ้าน่ะข้า ไม่สิถูกพวกเราคาดการณ์ไว้ทั้งหมดแล้ว

                หรือที่จริงแล้วฝ่ายที่โง่จะเป็นมนุษย์เสียเอง โง่พอจะลังเลที่จะเคลื่อนไหวเพื่อรักษาชีวิตส่วนมากไว้ก่อนชีวิตส่วนน้อย

                ถ้าว่ากันตามตรงแล้วก็ควรจะทิ้งกวินทร์แล้วระดมโจมตีไปเลยแต่ต้องใช้การโจมตีระยะไกลเท่านั้นเพราะในรัศมีรอบตัวเสือมีแต่สนามไฟฟ้าที่ทำให้เป็นอัมพาตปล่อยเอาไว้ซึ่งจะทำให้หลีกเลี่ยงไม่ให้กวินทร์โดนลูกหลงไปด้วยนั้นเป็นเรื่องที่ยากจนเป็นไปไม่ได้

                ควรจะทิ้งกวินทร์ไปซะ...

                ถ้าเป็นตัวเขาคนก่อนก็คงจะคิดแบบนั้น ถ้าเป็นตัวเขาก่อนที่จะได้สนิทกับทุกคนล่ะก็...

                “ก็คงทำไม่ได้อยู่ดีนั่นแหละ

                เพราะหากทำได้ตอนที่โลกล่มสลายเมื่อสี่ปีก่อนตนเองคงเลือกจะทิ้งมิ่งขวัญที่เป็นน้องชายตอนอยู่ในห้างไปนานแล้วรวมถึงคงไม่นึกเสียใจที่ปกป้องใครไว้ไม่ได้เมื่อสามปีก่อนนั้นด้วย

                ปิ๊บๆๆ

                เสียงเมล์เข้า

                มันมาแล้ว... มาจนได้เจ้าตัวเร่งให้การตัดสินใจต้องเด็ดขาดและรวดเร็วยิ่งขึ้น

                อิงศรเปิดเมล์อ่าน

     

    ======================

    Subject: @Clipius Death Timing Delivery

    Form: GM

    Detail:

    ตัวจับเวลาตายของเพื่อนคุณมาถึงแล้ว!

    เวลาชีวิตที่เหลือของ กวินทร์ วชิระ คือ

    [00:00:30]

    ======================

     

                สามสิบวิ...น้อยขนาดนั้นเชียว

                เวลาที่ต้องตัดสินใจกับลงมือทำมีเพียงแค่สามสิบวินาที

                แค่เวลาจะเปิดภาพใบหน้ายามสิ้นชีพเพื่อคาดเดาเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นยังมีไม่พอเลยด้วยซ้ำ

                “บ้าชะมัดเลย

                เด็กหนุ่มสบถแล้ววิ่งออกไป

                เมษา มีนา และนรินทร์ต่างก็ส่งเสียงเรียกเขาไว้

                “เฮ้เดี๋ยวจะทำอะไรน่ะศร

                “คุณอิงศร

                “อิงศรจะไปไหนน่ะ

                พวกนั้นไม่เข้าใจสถานการณ์ในตอนนี้แต่กวินทร์เองก็ไม่เหลือเวลาแล้วเช่นกัน

                ดังนั้นช่วยกวินทร์ก่อนแล้วค่อยมาอธิบายกับเจ้าพวกนั้นอีกที ถือเป็นการคิดและวางตัวอย่างสมเหตุสมผลที่สุด แต่ขณะเดียวกันมันก็ไร้เหตุผลสิ้นดีเหมือนกันเพราะเขาก้าวเท้าออกมาโดยที่ยังไม่รู้เลยว่าจะช่วยยังไง

                รู้เพียงแค่ว่ากวินทร์กำลังลำบาก กำลังต้องการความช่วยเหลือ

                ด้วยเหตุผลแค่นั้นทำให้เขาเคลื่อนไหวโดยไร้ซึ่งการคิดทบทวนมีแต่การเตรียมใจราวกับเป็นคนโง่

                อีกไม่ถึงสิบก้าวน่าจะเหยียบเข้าไปในระยะที่สัตว์เทวะปล่อยสนามไฟฟ้าออกมา

                อีกไม่ถึง 20 วินาทีกวินทร์จะตาย

                อีกไม่นาที่ปืนของสัตว์เทวะก็จะชาร์จเสร็จ

                เวลามีไม่พอ พลังมีไม่พอ แต่ทว่า....

                “เจ้าสร้างข้า ข้าคือเจ้า

                เสียงปริศนาที่เคยดังขึ้นเมื่อตอนที่เข้าตาจนเพราะถูกมังกรในร่างของมีนาไล่ต้อนกลับดังขึ้นมาตอนนี้

                มีแสงแยงตาลงมาจากทางด้านบนอิงศรเงยหน้าขึ้น มองไปยังต้นกำเนิดแสง ไพ่ใบหนึ่งกำลังหมุนและร่วงหล่นลงมา

                แล้วก็เหมือนมีปาฏิหาริย์หลั่งไหลเข้ามาในสมอง

                อยู่ๆ ก็นึกวิธีช่วยกวินทร์ขึ้นมาได้แบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย ราวกับเป็นปาฏิหาริย์ ไม่สิมันคือปาฏิหาริย์จริงๆ นั่นแหละ

                “อาคานาร์ฟอร์ซ

                ไพ่ตอบรับต่อเสียงเรียกของอิงศรและเปล่งแสงสว่างเจิดจ้ายิ่งขึ้น

                หน้าจอเด้งเปิดขึ้นมาเองมีข้อความเขียนเอาไว้

                ‘การติดตั้งเดม่อนแอพพลิเคชั่นเสร็จสิ้น

                แอพพลิเคชั่นปีศาจอันใหม่ถูกติดตั้งลงในดาบสั้นที่เอวเด็กหนุ่มชักมันออก

                “สเลปเนียร์!!

                ทันใดนั้นก็รู้สึกว่าร่างกายเบาขึ้น เบาเป็นอย่างมาก เบาจนรู้สึกว่าจะลอยหวิวไปได้เลยถ้าหากโดนสายลมพัด

                อาชาแห่งราชันย์เทพสเลปเนียร์มีความสามารถที่พอใช้งานแล้วจะทำให้ผู้ใช้ตัวเบาเหมือนลอยได้และบินได้ในระยะเวลาหนึ่งอีกทั้งยังมีสรรพคุณรักษาและป้องกันสถานะผิดปกติรวมถึงยังส่งผลของคุณสมบัติให้กับคนที่สัมผัสร่างกายของผู้ใช้ด้วย

                เวลาในเมล์เหลืออีก 10 วินาที

                10

                9

                8

                7

                อิงศรกระโดด

                ร่างกายเริ่มลอยขึ้น เท้าไม่ติดพื้นอีกแล้ว

                6

                5

                เด็กหนุ่มบินตรงไปข้างหน้า บินเหมือนพุ่งตัวไป เหมือนกำลังเหาะอยู่ประหนึ่ง 'ปีเตอร์แพน' ในนิทาน

                "กวินทร์!"

                4

                3

                อิงศรเหาะมาถึงตัวกวินทร์ เขาใช้มืออีกข้างที่ไม่ได้จับดาบซึ่งถือคันธนูอยู่สอดแขนลงไปในสายดีดเพื่อสะพายคันธนูแล้วจึงใช้มือข้างนั้นจับมือของเด็กหนุ่ม

                2

                1

                “ตายซะเถอะมนุษย์

                เสือคำรามปืนของมันเล็งตรงมายังทั้งสอง

                หลบไม่ได้

                ไม่สิยังหลบทันอยู่ถ้าทิ้งกวินทร์ไปก็จะสามารถหลบได้ แต่แบบนั้น..

                บ้าเอ้ย

                อิงศรพูดสบถและไม่ยอมปล่อยมือจากกวินทร์ดังนั้นเขาจึงต้องตายที่นี่ ตายพร้อมกับคนที่ช่วยเอาไว้ แต่ทว่า

                “เมื่อได้ยินเสียงแตรแว่วมาโลกจักถึงคราล่มสลายฤดูหนาวจะโหมกระหน่ำถึงสามปีหายนะจะกลืนกินโลกทั้งใบ

                เสียงร่ายสกิลก็ดังขึ้นมาในตอนนั้นเอง เป็นเสียงของนรินทร์

                กิอัลลาร์ฮอร์นฟิมบูลวินเทอร์ (Gjallarhorn Fimbulwinter)

                จากทางด้านหลังอิงศรรู้สึกถึงสายลมที่เข้ามาปะทะรู้สึกได้ว่าแผ่นหลังเย็นวาบขึ้นมา ผงละอองสีขาวลอยผ่านหน้าเขาไป

                หิมะ?”

                มันคือเศษผงของหิมะ จากนั้นผลึกหิมะจำนวนมากก็โถมซัดใส่ร่างของอิงศรกับกวินทร์รวมถึงเสือขาว นี่เป็นสกิลที่นรินทร์ร่ายออกมา

                พวกเขาไม่ได้รับความเสียหายดูเหมือนจะไม่ใช่สกิลสำหรับโจมตี ถ้างั้นก็เป็นสกิลสำหรับตรึงเป้าหมายหรือไม่ก็ลดสมรรถภาพ

                ท่ามกลางพายุหิมะที่โหมกระหน่ำมามีเพียงเสือที่กลายเป็นน้ำแข็ง ดังนั้นก็จะเข้าเงื่อนไขแรกนี่เป็นสกิลสำหรับตรึงเป้าหมายแต่การที่พวกเขาไม่ถูกลูกหลงไปด้วยคงเป็นเพราะได้แพพลิเคชั่นปีศาจคุ้มครองเอาไว้จากสภาวะผิดปกติ

                บนหน้าจอแสดงพลังชีวิตของเสือปรากฏสถานะผิดปกติ

     

    Heraldic Beast Deity: Albino Claw Lv. 50 (Ragnarok)

    [///..18600:55000.....]

     

                มีนาซึ่งยืนดูสถานการณ์โดยสีหน้าไม่เปลี่ยนแปลงเหมือนคนอื่นๆ ในกองร้อยที่ตอนนี้พากันแตกตื่นก็พูดขึ้น

                กิอัลลาร์ฮอร์นฟิมบูลวินเทอร์ เป็นสกิลเลเวลหกสิบที่เงื่อนไขแค่เป็นอาชีพสเปลเลอร์ก็สามารถติดตั้งได้แล้วแต่ระยะเวลาในการร่ายสกิลนั้นนานมากเป็นสกิลที่การใช้งานยากพอๆ กับมหาเขตแดนไกลนิลพ์ของคุณอิงศรเลย ไม่อยากเชื่อว่าคุณนรินทร์เองก็จะบิลด์สกิลแบบนั้นไว้นะคะเนี่ย

                แล้วหล่อนก็หันกลับไปมองด้านหลังซึ่งเด็กหนุ่มผู้ร่ายสกิลสร้างพายุหิมะยืนอยู่

                นรินทร์ที่ยื่นมือขวาซึ่งปลดปล่อยพายุหิมะออกไปด้านหน้าส่วนมือซ้ายกำไม้เท้าไว้ก็พูด

                ผมกะเวลาให้ร่ายออกมาเร็วที่สุดเลยใช้มันแค่เลเวลหนึ่งเพื่อลดเวลาร่ายแต่ระยะเวลาแสดงผลอยู่ได้ไม่นานหรอกนะรีบบอกให้อิงศรหนีออกมาเถอะครับ

                แล้วฝากฝังมีนาไว้แบบนั้น แต่อิงศรที่อยู่ห่างจากเขาไปเสียไกลกลับพยักหน้าให้ราวกับได้ยินเรื่องที่ทางนี้พูดกันอยู่แล้วกึ่งหอบกึ่งลากตัวกวินทร์ออกมา แต่น้ำแข็งที่ผนึกร่างของสัตว์เทวะไว้กลับกะเทาะแตก

                นรินทร์ตะโกน

                เร็วเข้าเหลือเวลาไม่ถึงสามวิแล้ว

                ตอนนั้นเองจุดที่เมษายืนอยู่ก็เด่นชัดขึ้นมาด้วยแสงสีดำที่เปล่งออกมาจากลูกบอลพลังซึ่งถูกอังไว้ด้วยมือทั้งสองข้างของเจ้าตัว ลูกบอลพลังเป่งตัวขยายจนใหญ่เท่าลูกฟุตบอล

                จากนั้นเมษาก็เล็งมันไปที่เสือซึ่งยังไม่หลุดออกมาจากน้ำแข็ง

                วอยด์บลาส

                ลูกบอลพลังหดตัวเล็กลงในชั่วพริบตาก่อนจะระเบิดแล้วปลดปล่อยลำแสงทำลายพุ่งออกไปข้างหน้า จู่โจมบดขยี้ทำลายร่างของสัตว์เทวะที่อยู่ภายในน้ำแข็งจนแตกเป็นเสี่ยงแรงระเบิดทำให้น้ำแข็งป่นเป็นผงจนบริเวณโดยรอบอบอวลไปด้วยหมอกน้ำแข็ง แต่หน้าจอแสดงพลังชีวิตของเสือก็….

     

    Heraldic Beast Deity: Albino Claw Lv. 50

    […..0:55000.....]

     

                แล้วเมษาก็ยิ้มแต่สีหน้ายังคงเค้าลางแห่งความตกตะลึงไว้

                “โว๊ะ! ทั้งที่กะยิงให้กระเด็นจะได้เบี่ยงเป้าเฉยๆ ดันตายซะงั้น

                พอได้ยินแบบนั้นมีนาก็เริ่มอธิบาย

                เดิมทีวอยด์บลาสมันก็แรงอยู่แล้วล่ะแถมสถานะแช่แข็งที่สกิลของคุณนรินทร์ปล่อยใส่ก่อนหน้านี้ก็ไม่ใช่แค่แช่แข็งธรรมดาแต่เป็นแร็คนาร็อคที่ทำให้ความเสียหายกลายเป็นสามเท่าได้ครั้งหนึ่งด้วยนี่นา

                ขณะเดียวกันอิงศรก็เพิ่งจะพาตัวกวินทร์กลับมารวมกลุ่ม

                เด็กหนุ่มตัวสั่นงกๆ

                หนาว~~”

                แล้วถูกปล่อยตัวลงไปนั่งกับพื้น ส่วนอิงศรเก็บดาบลงฝักเพื่อให้แอพพลิเคชั่นปีศาจหยุดทำงานและกลับมายืนบนพื้นอีกครั้ง

                สถานการณ์เหมือนจะคลี่คลายแต่อิงศรกลับปักใจเชื่อไม่ลง

                เขามองไปยังกลุ่มหมอกควันที่เกิดจากน้ำแข็งซึ่งสัตว์เทวะเคยยืนอยู่จนถึงเมื่อครู่

                แล้วหันกลับมามองนรินทร์พร้อมทั้งสั่งว่า

                นรินทร์ตรวจสอบเจ้านั่นที

                กำลังทำอยู่ผมเองก็คิดเหมือนกันแหละว่ามันไม่น่าจบง่ายๆ แบบนี้ก็ตอนมังกรน่ะยังเล่นเราซะแทบแย่เลยนี่

                พอนรินทร์พูดมาแบบนั้น มีนาก็รู้สึกเย็นสันหลังวาบแล้วยืนกอดอกตัวสั่นเล็กน้อย

                พอคิดถึงตอนนั้นแล้วยังรู้สึกหนาวไปถึงกระดูกอยู่เลยล่ะค่ะ

                ยัยนี่ก็ยังกล้าพูดเล่นแบบนั้นได้อีกทังที่ตัวเองเกือบจะตายไปหนหนึ่งแท้ๆ

                ระหว่างที่พวกเขากำลังสนทนากันอย่างเย็นใจอยู่นั่นเอง

                เสียงหัวเราะของเสือกดังขึ้น

                “ฮะฮะฮะ ขอชื่อชมในฝีมือของพวกเจ้าที่ทำให้เทพเจ้าอย่างพวกเราต้องล้มถึงสองครั้งสองคราแต่ว่าความสิ้นหวังที่เกิดจาการมาลบหลู่เทพนั้นพวกเจ้าจะรับมันไหวรึเปล่านะ

                ร่างของเสือที่อยู่ในหมอกน้ำแข็งเปล่งแสงออกมา แสงสว่างนั้นทยอยเจิดจ้าขึ้นเรื่อยๆ

                นี่มัน

                นรินทร์พูดน้ำเสียงหวาดผวาจนน่ากลัว

                อิงศรถามหาสาเหตุทันที

                อะไรอีกล่ะ

                เจ้านี่ก็มีพลังพิเศษที่จะทำงานตอนตายเหมือนกันมันจะระเบิดตัวเองเป็นความเสียหายที่รุนแรงมากแล้วพวกเราก็ยังยืนอยู่ในรัศมีของมันอีกด้วย
               
    อีกนานแค่ไหนกันมันถึงจะระเบิด

                สิ้นคำอิงศร ก็เกิดเสียงระเบิดดังตูม แสงสว่างวิ่งตัดหมอกน้ำแข็งอาบย้อมทุกอย่างจนราวกับโลกทั้งใบกลายเป็นกลายเป็นสีขาวโพลน

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×