ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Apocalypse Online เกมโกงวันโลกาวินาศ

    ลำดับตอนที่ #303 : Extra Log 299: The Root Opposite Messiah

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 106
      7
      18 ก.พ. 62

    Extra Log 299: The Root Opposite Messiah


    ***ขอแก้วิธีสะกด ‘ซูลวาน’ ใหม่เป็น ‘ซรูวาน’ แทนไรท์สะกดผิดเพราะไม่ชินกับวิธีออกเสียงต้นฉบับมันออกเสียง สะ-ลู-วาน ต้องควบกล้ำเสียง ซรู ด้วยแต่ตัวอักษร Zurvan เทียบเป็นตัวอักษรไทยแล้ว มันต้องใช้ ซร แทน TwT’ ก็งงกันไปแอ่ววว ตังแต่ ยฮวฮ ที่เลี่ยงบาลีมาตลอดแล้วนะเนี่ยโอเมก้า***

     

                มาทำให้พวกมันเห็นกันเถอะอิงศร”

                เออ ฉันจะไปกับนายให้ถึงนรกเลย”

                อิงศรตอบรับเด็กหนุ่มชุดขาวอย่างมั่นใจ เขาให้ความไว้เนื้อเชื่อใจกับเด็กหนุ่มเป็นอย่างมาก ระหว่างทั้งสองคนนั้นมีสายสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นถึงขนาดนั้น สนิทชิดเชื้อจนเลี่ยนเหมือนกับคำพูดสวยหรูอย่าง ‘สายสัมพันธ์นี่จะเป็นพลังให้’ อย่างไรอย่างนั้น

                เจ้าพวกบ้าสองตัวนั่นมันยังคิดว่าจะทำอะไรในสถานการณ์แบบนี้ได้อีกรึ

                ถูกต้อนจนมุม

                ไม่มีไพ่เหลือบนมือ

                โดนโจมตีอีกครั้งเดียวก็แพ้การดวลนี้แล้ว

                แต่พวกมันก็ทำ

                เทิร์นของฉันดรออออออว์ !!!! (Draw)”

                ไพ่ใบสุดท้ายที่จะได้จั่วจากสำรับคือไพ่ที่จะกำหนดโชคชะตาของพวกมัน

                การจั่วแห่งปาฏิหาริย์อะไรนั่นน่ะไม่มีอยู่จริงหรอกหรือต่อให้มีจริงเมื่ออยู่ต่อหน้า ‘สถานการณ์อันสมบูรณ์แบบ’ ที่มังกรแก่นสสารเต๋าตี้อาจารย์ของเราเป็นผู้สร้างขึ้นมามันย่อมไร้ความหมาย เป็นได้แค่การดิ้นรนสุดท้ายของหมาจนตรอกก็เท่านั้น

                แต่แล้ว…

                อิงศรจะขอยืมพลังของนายล่ะนะ”

                เจ้าเด็กหนุ่มนั่นกลับเผยรอยยิ้มออกมา

                ไม่ใช่ยิ้มสู้เสือเสียด้วย แต่เป็นความมั่นใจว่าจะพลิกกลับมาจากวิกฤตครั้งนี้ได้

                มันจั่วได้ไพ่อะไรกันน่ะ”

                ใจเย็นก่อนไนท์แมร์โซดิแอกการดิ้นรนของพวกมันทำอะไรไม่ได้อีกแล้ว”

                ท่านอาจารย์ยังคงรับมือด้วยความสงบนิ่งอยู่ แต่ตัวข้ากลับรู้สึกว่ามีบางอย่างเปลี่ยนไป

                บางอย่างที่แตกต่างไปจากก่อนหน้านี้

     

                เด็กหนุ่มชุดขาวพูด

                ไฮพีเรียลไลซ์ที่เหนือขึ้นไปอีกขั้นจะแสดงให้พวกแกได้เห็นเอง”

                แล้วชูไพ่ขึ้นสุดแขน แสงตะวันทาบทับลงบนหลังไพ่นั่น

                นี่คือพลังของซรูวานกับไฮพีเรียลไลซ์”

                ไพ่หายไปจากมือ แล้วที่ด้านหลังเด็กหนุ่มก็เกิดรอยแยกมิติขึ้น

                มีรถสกู๊ตเตอร์พุ่งออกมาจากรอยแยกมิตินั่นก่อนที่มันจะปิดตัวลง

                เป็นรถสกู๊ตเตอร์เด็กเล่นที่ใช้แค่แรงขาไถในการขับเคลื่อนไปข้างหน้าเท่านั้น เด็กหนุ่มคว้าแฮนด์ของสกู๊ตเตอร์ที่กำลังจะเคลื่อนผ่านตัวเขาไปไว้แล้วกระโดดขึ้นขี่มันพลางไสเท้ากับพื้นเร็วๆ ไถรถให้ไปข้างหน้าได้เร็วขึ้น

                เล่นปาหี่ปัญญาอ่อนหนีความจริงอยู่รึไง”

                ตัวข้าในตอนนั้นยังไม่รู้จักกับสิ่งนั้นได้ปล่อยการโจมตีที่หมายเอาชีวิตไปถึงตัวเด็กหนุ่ม

                ทว่า

                อะไรกันน่ะ!”

                ลำพระเพลิงซึ่งทะยานออกจากปากตรงหน้าอกกลับทะลุผ่านทั้งสกู๊ตเตอร์และตัวเด็กหนุ่มไป ดูเหมือนว่าการไถรถเด็กเล่นนั่นจะเป็นส่วนหนึ่งของพิธีกรรมที่ขึ้นตรงกับกฎของเกมที่กำลังดวลกันในตอนนี้เพราะเหตุนั้นเลยทำให้เข้าไปแทรกแซงไม่ได้

                สกู๊ตเตอร์ค่อยๆ เร็วขึ้นทีละเล็กทีละน้อย ถึงแม้เด็กหนุ่มเลิกไสเท้าแล้วมันก็ยังคงวิ่งต่อไปและเพิ่มความเร็วมากขึ้น

                เร็วมากขึ้น

                เร็วมากขึ้น

                จนกระทั่งมันขับเคลื่อนด้วยความเร็วเท่ากับรถจักรยานยนต์และยังรักษาความเร็วเอาไว้ที่ระดับนั้น

                เส้นทางที่สกู๊ตเตอร์ขับผ่านไปก็จะทิ้งไฟเอาไว้ เด็กหนุ่มขับวนไปวนมา วาดเส้นทางแห่งไฟเกิดเป็นวงแหวนราวกับกระถางเพลิงที่ใช้ในพิธีกรรม...

                พิธีกรรมที่ใช้สัญลักษณ์กระถางไฟซึ่งเป็นสัญลักษณ์บูชาต่อเทพมารแห่งกาล-อวกาศ

                ผู้นำพาการไฮพีเรียลไลซ์มาสู่มนุษย์เมื่อนานมาแล้วตำนานว่าเอาไว้อย่างนั้น

                เทพมารนามว่า ‘ซรูวาน’

                ตัวเราเองก็ไม่ค่อยรู้เกี่ยวกับพื้นเพของเหยื่อที่เข้าทำการรุกรานซักเท่าไหร่ เพราะที่ผ่านมาทุกรายก็ถูกทำลายย่อยยับ สูญเสียทั้งตัวตนและประวัติศาสตร์ไปทั้งหมด กลายเป็นความว่างเปล่า กลายเป็นเทิร์นบริงเกอร์และทำให้จักรวรรดิยิ่งใหญ่เช่นทุกวัน

                ในขณะเดียวกันนั่นเอง

                บนท้องฟ้าก็ปรากฏวงจรแสงที่วาดขึ้นด้วยเส้นตรงกับวงกลมสิบสองวงด้วยกัน วงจรนั้นจัดเรียงคล้ายกับคับบาลาห์แต่มีจำนวนวงกลมเกินมาสองวง

                วงแหวนเพลิงที่วาดไว้ลอยขึ้นไปหาวงจรนั่น โดยที่ตัววงแหวนจะหดขนาดเล็กลงจนเท่ากับวงกลมวงหนึ่งในแผนผังนั้น และสวมเข้าไปยังวงจร

                เด็กหนุ่มวาดวงแหวนเพลิงขึ้นใหม่อีก วาดและส่งวงแหวนลอยขึ้นไปสามครั้งด้วยกัน

                เมื่อวงจรแสงมีวงแหวนไฟสวมครอบอยู่สามวงแล้ว วงจรก็ขมวดตัวเข้าหากันแล้วระเบิดออก

                ท่ามกลางแสงสว่างเจิดจ้าของการระเบิดนั่นได้เส้นทางแห่งแสงทอดสายลงมายังเบื้องล่าง เส้นทางขดตัวเป็นเกลียววงแหวนคล้ายสปริง

                ราวกับเป็นเส้นทางที่มุ่งไปยังอนาคต

                ไปเลยอิงศร!”

                เด็กหนุ่มบอกให้สหายร่วมรบลอดผ่านวงแหวนสปริงพวกนั้น คิดจะทำอะไรกันแน่?

                ทะยานผ่านเส้นทางแห่งการก้าวเดินไปข้างหน้านั่นเลย!”

                โอ้!!!”

                อิงศรตอบรับแล้วกระโดดเอาตัวเองเข้าไปอยู่กลางเส้นทางแห่งนั้น

                พลังของซรูวานจะหลอมรวมเข้ากับการไฮพีเรียลไลซ์…”

                ในตอนนั้นตัวเราได้แต่ตั้งสมมติฐานแบบนั้น

                ซรูวานยังมีความหมายว่า ‘ปัจเจก’ อยู่ด้วยถ้าอย่างนั้นแล้ว

                ซรูวาน (Zurvan) ซิงกูลาริตี้(Singularity ) ยูทิลไลซ์(Utilize)

                คำเหล่านั้นที่ใช้เรียกกระบวนการนี้จึงควบรวมกันเป็น ซิงกูลาไลซ์(Zingulalize) พลังที่ทำให้ความเป็นไปได้อันมากมายรวมกันเป็นปัจเจกหนึ่งเดียวขึ้นมา…

                แล้วก็คิดว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่จะทำ

                เคยคิดว่ามันเป็นแค่เรื่องเพ้อฝันเท่านั้นซะอีก

                ในตอนนั้นเอง

                เด็กหนุ่มนั้นก็เอ่ยกล่าว คำพูดที่เหมือนกับบทร่ายแห่งเวทมนตร์

                เหล่าธงชัยที่แตกพ่ายจงมาร้อยเรียงกันถักทอเป็นผ้าผืนใหม่”

                คำพูดนั่นกล่าวถึงความเป็นไปได้นับร้อยพันที่ต่างก็แตกพ่ายไปแล้วตั้งแต่การต่อสู้นี้เริ่มขึ้นมาหรือก็คือหากตีความคำพูดนั่นด้วยกฎของเกมที่กำลังดวลกันอยู่เด็กหนุ่มได้เรียกไพ่ที่แพ้และถูกส่งไปยังเพลนัลตี้บ็อกซ์กลับมาใช้เป็นสื่อทำพิธีกรรม

                ไพ่จำนวนสามใบเท่ากับจำนวนวงแหวนก็คือเส้นทางแห่งอนาคตของเจ้าพวกนั้น

                แล้วอิงศรที่เข้าไปในเส้นทางนั่นก็กำลังจะมุ่งหน้าไปคว้า ‘ความเป็นไปได้’ อันใหม่ที่เกิดจากการควบรวม ‘ความเป็นไปได้’ ที่มากกว่าหนึ่งเข้าด้วยกัน

                ความเป็นไปได้’ ก็คือ ‘ไฮพีเรี่ยน’

                นี่คือพิธีกรรมที่ทำเพื่อเรียก ‘ความเป็นไปได้’ ที่เหนือกว่า ‘ความเป็นไปได้’ ใดๆ ออกมาไฮพีเรียลไลซ์ ที่เหนือขึ้นไปอีกขั้นหนึ่ง

     

                ในตอนนั้นเอง

                เด็กหนุ่มก็ประกาศ

                ลาสแฟลกซ์(Last Flag) นี่คือธงสุดท้ายที่ความแตกแยกจะรวมกันกลมเกลียวและเป็นหนึ่ง ซิงกูลาไลซ์! (Zingulalize)”

                เส้นทางแสงกลืนอิงศรเข้าไป ทั้งหมดหลอมรวมกันเป็นหนึ่ง

                ทั้งซรูวาน

                ทั้งไฮพีเรียบไลซ์

                ว่ากันว่าในสงครามที่ความแตกแยกอุบัติไปจนถึงขีดสุดธงชัยที่ยกขึ้นเพื่อแบ่งแยกและฟาดฟันกันจะอุบัติขึ้นมากมายและในตอนสุดท้ายธงชัยที่เกิดขึ้นเป็นธงสุดท้ายก็คือธงสีขาวพิสุทธิ์เป็นอันสัญลักษณ์แห่งการจบความบาดหมางทั้งปวง

                โดยผิวเผินแล้วมันอาจจะเหมือนกับธงแห่งความปราชัย

                แต่สิ่งนี้มันต่างออกไปโดยสิ้นเชิงมันไม่ใช่ความปราชัยแต่มันคือ ‘การจำยอมที่สยบทุกชัยชนะ’ คือ ‘ลูซเซอร์ที่แท้จริง’

                เด็กหนุ่มตะโกน

                จงโบกสบัด อีโวลูซเซอร์เซอร์เรนเดอร์ดราก้อนนนนนนนนน!!!!!! (Evo-Loser Surrender Dragon)”

                สิ่งที่ออกมาจากการหลอมรวมนั่น

                มันทั้งเปล่งประกาย ทั้งงดงาม ไร้ซึ่งความรู้สึกที่จะคุกคาม มันเป็นตัวตนที่เหมาะสมกับความว่างเปล่ายิ่งกว่าจักรวรรดิอันเกรียงไกรอย่างเทิร์นบริงเกอร์เสียอีก

                มังกรไร้ปีก ร่างกายเป็นสีขาวพิสุทธิ์ สะบัดผ้าคลุมสีขาวบนหลังของมัน

                ดาบแสงสีขาวที่งอกออกมาจากข้อมือทั้งสองตวัดไปมาจนเห็นเป็นภาพติดตาราวกับมันกำลังโบกธงชัยแห่งการจำยอมตามนามเรียกขาน

                มังกรแห่งการจำยอม’ ของ ‘ผู้พ่ายแพ้’

     

                “……..”

                ไม่รู้ทำไม

                แต่พอได้เห็นอิงศรในตอนนี้แล้วความทรงจำแบบนั้นถึงได้ผุดขึ้นมา

                สังหรณ์ไม่ดีอันแสนคุ้นเคยราวกับเรื่องราวในความทรงจำกำลังจะเกิดขึ้นมาอีก

                นี่มันอะไรกัน ทำไมถึงรู้สึกเหมือนกับว่าเกร กีก้าสเลฟ มายืนอยู่ตรงนี้”

                ราหูพึมพำชื่อของเด็กหนุ่มชุดขาวในความทรงจำออกมา

                “….”

                ในยามนี้ที่ อดัมหักหลังตนและไปเข้าร่วมกับอิงศร ทั้งยังทำให้เกิดอาคานาร์ชนิดใหม่ขึ้นมา

                อาคานาร์ที่ก้าวไปอีกขั้นหนึ่งจาก เดอะ เวิร์ล ซึ่งเป็นอาคานาร์ที่สมบูรณ์ที่สุดแล้วกลายเป็น เดอะ อิออน

                “…..”

                ราหูส่ายหน้า พยายามปฏิเสธความฟุ้งซ่านที่ไม่มีแก่นสารออกไปจากหัว

                ไร้สาระสิ้นดีเจ้านั่นไม่มีตัวตนอยู่ในข้อมูลของโลกนี้สักหน่อย ข้าจะจัดการเรื่องนี้ให้มันจบเสียที

                เมื่อคิดได้ดังนั้นปากของใบหน้าตรงหน้าอกก็อ้าเผยอขึ้นปลดปล่อยเพลิงนรกออกมา

                ดาร์คเนสเซโร่เบลสเซอร์!”

                ลำพระเพลิงมุ่งตรงไปข้างหน้าไปหาอิงศร ออร์ฟิอูคูมันนาร์ และเจ้าคนทรยศอดัม

                จะมาแล้ว!”

                อดัมตะโกนแล้วตั้งดาบในมือเตรียมจะป้องกันการโจมตี แต่ทำแบบนั้นไปก็เท่านั้นเพราะก่อนหน้านี้อดัมใช้พลังทั้งหมดป้องกันท่านี้ไปครั้งหนึ่งแล้วจึงทำแบบนั้นไม่ได้อีก

                ฉันจัดการเอง”

                อิงศรก้าวออกมาข้างหน้าพลางยื่นไพ่นำออกมา

                เดอะ อิออน ส่งเสียงของแกออกมาซะ เสียงที่จะผูกโลกทั้งหมดเข้าไว้ด้วยกัน เสียงประสานแห่งพหุโลก....มัลติเวิร์สจูนนิ่ง! (Multiverse Tuning)”

                ในตอนนั้นเอง

                ไฟเพลิงก็เข้าปะทะ เกิดระเบิดขึ้นและไฟก็ลุลามไปทั่วจนมองไม่เห็นอะไรอีก

                ถ้าไม่มีปาฏิหาริย์เกิดขึ้นทั้งสามคนนั่นก็จะกลายเป็นตอตะโกอยู่ภายใต้ทะเลไฟแห่งนั้น

                แต่ว่าแบบนั้นน่ะ....

                มันจะไม่เป็นไปตามบทอย่างนั้นเหรอ....จะจบแค่นี้สินะ”

                ราหูพูดราวกับไม่อยากให้มันลงเอยแบบนี้

                “‘บท’ ยังมีอยู่อีกแต่ทั้งหมดนั่นจะไม่ถูกนำมาแสดงบนเวที มันเป็นความเสียดายอย่างสุดซึ้ง.....อะ”

                แต่กลับมีบางอย่างเคลื่อนไหวอยู่ในเปลวเพลิง

                “....นั่นมัน”

                วินาทีถัดมา อิงศรก็พุ่งออกมาจากทะเลเพลิงพร้อมกับไถรถสกู๊ตเตอร์มาด้วย

                ขณะเดียวกับอดัมก็พาออร์ฟิอูคูมันนาร์อ้อมหนีออกมาจากอีกทาง อิงศรคงจะทำอะไรบางอย่างทำให้ไฟชะลอตัวตอนเข้าปะทะไม่อย่างนั้นสองคนนั่นไม่มีทางหนีออกมาได้ทันอยู่แล้ว

                อะไรบางอย่างที่ว่านั่นก็คือเจ้ารถสกู๊ตเตอร์เจ้าปัญหากับ...

    .

                ชุดสีขาวแบบนั้นมัน”

                ชุดของอิงศรที่พุ่งออกมาจากทะเลเพลิงเปลี่ยนเป็นชุดสีขาวแดงเหมือนกับชุดของเด็กหนุ่มในความทรงจำ

                เครื่องแบบฟิคชั่นไมสเตอร์เรอะ”

                ถึงจะไม่ได้สั่งแต่มังกรทั้งห้าก็เคลื่อนไหวเองเพราะรับรู้ได้ความคุกคามจากเรื่องที่เกิดขึ้น เพราะว่าได้เห็นความทรงจำอันนั้นเหมือนๆ กันแล้วบางทีอิงศรเองก็อาจจะเห็นเช่นเดียวกันเพราะกำลังทำย้อนรอยเดียวกับความทรงจำนั่น

                อิงศรเริ่มวาดวงแหวนเพลิงไว้ตามทางที่สกู๊ตเตอร์วิ่งผ่าน

                พวกมังกรที่เข้าไปจะขัดขวางก็ทำอะไรไม่ได้เพราะอิงศรกับสกู๊ตเตอร์ทะลุผ่านตัวพวกมันไป

                จงปรากฏออกมาวงจรที่นำทางไปสู่อนาคตที่แท้จริง ซรูดราซิล! (Zurdrasil)”

                อิงศรพูดแล้ววงจรแผนผังต้นไม้ที่เหมือนกับในความทรงจำก็ปรากฏขึ้นบนท้องฟ้าเหนือสนามรบแห่งนี้

                นอกจากนี้บนภาพสะท้อนที่อยู่เหนือวงจรนั่นขึ้นไปซึ่งฉายภาพสะท้อนของสนามรบเป็นเกมไพ่ก็ได้ปรากฏช่องว่างใหม่ขึ้นมาช่องหนึ่งตรงด้านหน้าไพ่ของอิงศร สิ่งที่จะถูกอัญเชิญมาจากพิธีกรรมจะปรากฏลงในช่องว่างนั่น

                อิงศรพูด

                ยืนยัน ไฮพีเรี่ยนเซอร์เคิล (Hyperion Circle) คือสิบสอง!”

                สิบสองเหรอ?

                ไฮพีเรี่ยนเซอร์เคิลก็คือวงกลมในวงจรนั่นซึ่งมีทั้งหมดสิบสองวงพอดี หมายความว่าจะเอา ‘ความเป็นไปได้’ ใส่ลงไปทั้งหมดเลยอย่างนั้นหรือ

                สิบสองเซอร์เคิลงั้นเรอะเธอจะไปเอาความเป็นไปได้มากมายพวกนั้นมาจากไหนกันอิงศร”

                ราหูถาม

                จากความทรงจำนั่นเด็กหนุ่มทำพิธีกรรมโดยใช้ไพ่จากเพลนัลตี้บ็อกซ์หรือก็คือหากอิงศรจะทำพิธีกรรมเดียวกันที่นี่ก็จะต้องใช้ร่างไฮพีเรี่ยนที่แพ้ไปตั้งแต่เริ่มสู้ซึ่งพวกพ้องของอิงศรมีสิบเอ็ดคนเท่านั้นที่มีร่างไฮพีเรี่ยน

                แต่อิงศรก็ตอบว่า

                ฉันให้พวกพ้องทั้งหมดในเพลนัลตี้บ็อกซ์เติมเต็มวงจร”

                พูดจบอิงศรก็กดเท้าข้างหนึ่งให้สกู๊ตเตอร์เอียงไปด้านหน้าและยกล้อหลังขึ้น สกู๊ตเตอร์เริ่มหมุนเหวี่ยง จากนั้นจึงกดล้อหลังกระแทกพื้น เกิดการเสียดสีและทำให้ไฟลุกติดขึ้นมาตามเส้นทางที่วิ่งผ่าน

                อิงศรเริ่มวาดวงแหวนเพลิงด้วยสกู๊ตเตอร์ที่หมุนเหวี่ยง วงแหวนไฟวงเล็กๆ ขนาดประมาณฝ่ามือคนได้ลอยขึ้นไปเติมเต็มวงจร

                โดยที่คนอื่นๆ ทำได้เพียงแค่ยืนมองพิธีกรรมดำเนินต่อไปโดยที่เข้าไปขัดขวางอะไรไม่ได้

                เมื่อวงจรเติมเต็มถึงสิบเอ็ดครั้งแล้ว แต่ยังขาดไปอีกหนึ่งวงจรจึงจะสมบูรณ์

                แต่อิงศรไม่มีพวกพ้องที่มีร่างไฮพีเรี่ยนเหลือ อยู่ในเพลนัลตี้บ็อกซ์อีกแล้ว

                ผมจะไปเองถ้าเป็นร่างไฮพีเรี่ยนของผมล่ะก็อิงศรจะใช้มันทำพิธีกรรมได้”

                ออร์ฟี่อาสาตัวเอง นั่นหมายความว่าที่นี่ตอนนี้หมอนั่นจะฆ่าตัวตายเพื่อให้วิญญาณไปอยู่ในเพลนัลตี้บ็อกซ์

                แต่อดัมห้ามเอาไว้

                ไม่ได้”

                แต่ว่า”

                นายก็เห็นใช่ไหมความทรงจำที่ผุดขึ้นมาตอนที่อิงศรจับอาคานาร์เดอะ อิออนนั่นน่ะ”

                ออร์ฟี่พยักหน้า

                “….”

                อดัมพูดต่อ

                มีแต่อิงศรเท่านั้นที่รู้ว่าเงื่อนไขสำหรับเติมเต็มวงจรนั่นคืออะไรและนั่นคงไม่ใช่นาย”

                ถ้าอย่างนั้นมันก็จะล้มเหลวงั้นเหรอ”

                เชื่อสิ เชื่อในตัวเพื่อนของนายให้ถึงที่สุดสิออร์ฟี่ เหมือนกับที่นายเชื่อมั่นในตัวผม”

                อึก”

                เพราะคำพูดขงอดัมออร์ฟี่ถึงยอมยืนดูต่อไปโดยไม่หุนหันทำอะไรไปเสียก่อน

                การสนทนาทั้งหมดอยู่ในสายตาอิงศร

                “….”

                และนึกขอบคุณอดัมที่ช่วยห้ามออร์ฟี่เอาไว้เพราะว่าเขาไม่ได้กำลังทำเรื่องที่สูญเปล่าหรอก

                มันจะต้องสำเร็จอย่างแน่นอนแม้จะไม่มีหลักประกันอะไรเลยก็ตาม

                ฉันจะขอใช้ความเป็นไปได้ของตัวเองเพื่อเติมเต็มวงจรแห่งอนาคตเอง”

                อีกนัยหนึ่งของคำพูดนั่นเข้าใจได้ว่าอิงศรจะทำลายตัวเองเพื่อกลายเป็นวัตถุดิบสำหรับพิธีกรรม

                มันทำให้ราหูหัวเราะออกมา

                เฮอะ แต่ถ้าตัวเธอลงไปอยู่ในเพลนัลตี้บ็อกซ์ซะตอนนี้พิธีกรรมก็จะสูญเปล่ามันเป็นไปไม่ได้หรอก”

                แต่อิงศรก็ยังยืนยันคำพูดเดิม

                ต้องได้อยู่แล้วเพราะว่าความเป็นไปได้ที่ฉันจะใช้ก็คือเวิร์สแอกเกรเซอร์แห่งจุดจบอินโดร่าที่อยู่ในเพลนัลตี้บ็อกซ์ยังไงล่ะ”

                อะ...หา นี่คิดจะใช้ไพ่ของข้าอย่างนั้นเรอะ!”

                ใช่ เพราะอินโดร่าที่แกเรียกมานั่นเป็นไพ่อีกใบที่เตรียมเอาไว้ดังนั้นในเพลนัลตี้บ็อกซ์ก็น่าจะมีอินโดร่าที่ถูกส่งไปเพราะแกใช้ไพ่ที่หักล้างพลังของหอกแห่งผู้กอบกู้ไปตอนนั้นอยู่ด้วย”

                เมื่ออิงศรพูด วงแหวนไฟวงที่สิบสองก็วาดเสร็จพอดีโดยที่ไม่ใช่วงแหวนเล็กๆ แบบก่อนหน้านี้แต่เป็นวงแหวนที่เกิดจากการขับสกู๊ตเตอร์วิ่งไปรอบๆ สนามรบ

                ในตอนนั้นเอง

                ก่อนที่วงแหวนจะลอยขึ้นไป

                ถึงจะแค่เลือนรางก็ตาม

                อินโดร่าซึ่งก็คืออิงศรจากความเป็นไปได้ที่พ่ายแพ้ให้กับราหูในโลกคู่ขนานอื่นปรากฏให้เห็นเพียงแวบเดียวท่ามกลางวงแหวนนั่น

                เพียงแวบเดียวจริงๆ ก่อนจะหายไป

                นี่จะเป็นสิ่งตอกย้ำคำพูดของอิงศรว่าพวกเขาในทุกความเป็นไปได้จะไม่ยอมสยบให้กับราหูอย่างเด็ดขาด

                ตอนนี้วงจรแห่งอนาคตก็ถูกเติมเต็มทั้งหมด

                อิงศรชูกำปั้นขึ้นไปข้างบนแล้วตะโกน

                กลุ่มก้อนความหวังที่แตกกระจายไปในอดีตจงมารวมกันแล้วเปิดหนทางไปสู่อนาคต”

                วงจรยุบตัวลงแล้วกลายเป็นเส้นทางเกลียววงแหวนร้อยเรียงทอดตัวลงมากือบจรดพื้น

                ไปเลยเมอร์คาบาห์ ไปคว้าอนาคตนั่นมาฉันจะทำให้ซรูวานคืนชีพอย่างที่นายต้องการเอง”

                เมื่ออิงศรออกคำสั่ง เทวทูตผู้ที่รับใช้ซรูวานซึ่งหลังจากที่หอกแห่งผู้กอบกู้แตกไปแล้วก็เอาแต่ยืนดูมาโดยตลอดก็รับฟังและเข้ามามีส่วนร่วมในพิธีกรรม

                เมอร์คาบาห์ฮันเซลลัชช่าบินทะยานลอดเข้าไปในเส้นทางแห่งนั้น

                นี่คือการก้าวเดินต่อไปข้างหน้าของพวกเรา คือความตั้งใจที่จะทำลายขวากหนามที่ขวางทางไปให้หมด ซิงกูลาไลซ์!”

                ทันทีที่เมอร์คาบาห์ลอดผ่านเกลียววงแหวนทั้งหมดไปจนถึงปลายทาง เส้นทางก็หลอมรวมกันจนกลายเป็นเสาแสงที่ทะยานจากพื้นสู่สรวงสวรรค์

                แล้วก็ถือกำเนิดขึ้น

                หรืออาจะคืนชีพขึ้นมาอีกครั้ง

                เทพมารผู้มีร่างอันเรือนรองไปด้วยแสงสว่างที่เอ่อล้น

                ดวงตาเปล่งประกาย แววตาอ่อนโยน

                เส้นผมสีทอง ใบหน้าของอิงศรประทับอยู่บนหน้าของเทพมารในชุดกรุยกรายสีขาว

                ในมือขวาคือดาบใหญ่เล่มหนึ่ง และ ในมือซ้ายถือคันศร

                นามแห่งเทพมารนั้นคือ....

                ผู้ปลดล็อกเส้นทางสู่อนาคต ออฟโพสิทเมสสิยาห์เมอร์คาบาห์ซรูวานนนนนน!! (Opposite Messiah,  MERKABAH ZURVAN) ”

     


     

    ****ตอนหน้าตอนที่ 300 พอดีเลขสวยเลย ยกส่วนกระทืบราหูไปไว้ตอนหน้าละกัน....เอาความจริงก็ด้ายยย ที่จริงคือเขียนไม่ทันเพราะโดนทั้งงานทั้งอีเวนท์เกมที่จู่ๆ ก็จัดให้ฟาร์มResource กันนรกแตกแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย เลยเขียนได้แค่นี้ซะงั้น แอ่ววว แต่พรุ่งนี้ก็เป็นไทจากอีเวนท์แบ้ว วันอังคารได้หยุดวันหนึ่งอาจจะลงวันพฤหัสตอนแรกแล้วลงอีกตอนวันอาทิตย์ฮะ

    แล้วก็ภาคผนวกอธิบายว่า ซิงโครโชวคัง เอ้ย ซิงกูลาไลซ์ นี่คืออะไรอยู่ข้างล่างฮับยาวไปหน่อยและอาจชวนมึนแต่ไหนๆ ก็เล่นกับความจริงโลกเป็นเซิฟเวอร์เก็บข้อมูลไปแล้วงั้นลากไปเรื่อง AI ด้วยซะเลยโอเมก้า ว่าแต่เรื่องนี้มันถีบจากศาสนา ปีศาจ เวทมนต์มาจบที่ Sci-Fi กับการ์ดเกมได้ยังไงเนี่ย โทษเทิร์นบริงเกอร์ละกันแอ่ววว (โดนเหล่ารีดรุมตบ)****

     

    Zingulalize (Zurvan + Singularity+ Utillize)

    - Technological Singularity หรือ “ภาวะเอกฐานทางเทคโนโลยี” คือสมมติภาพในอนาคตที่อัตราความก้าวหน้าของเทคโนโลยีเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจนปัญญาประดิษฐ์ (AI) มีศักยภาพเหนือกว่ามนุษย์ในทุกๆ ด้าน กลายเป็น Artificial Super Intelligence (ASI สุดยอดปัญญาประดิษฐ์) และเกิด Intelligence Explosion หรือ “การระเบิดทางสติปัญญา” ที่จะทำให้ ASI ฉลาดขึ้นถึงขีดสุดจนมนุษย์ไม่อาจควบคุมหรือเข้าใจมันได้อีกต่อไป

    - จากที่กล่าวไว้ข้างต้น Zingulalize ก็คือภาวะเอกภาพที่เกิดขึ้นโดยซรูวาน

    ซึ่งเปรียบให้ซรูวานคือ ASI ที่เทิร์นบริงเกอร์พัฒนาขึ้นมาและก้าวไปไกลกว่าภาวะ TS ตามที่กล่าวไว้ด้านบนแล้ว ซรูวานคือ ASI ที่พัฒนาตัวเองถึงขีดสุดมีการ ‘รู้สำนึกถึงตัวตน’ ของตัวเองหรือก็คือมี ‘เจตจำนงเสรี’ ขึ้นมาตามราหูบอกเอาไว้ในบทก่อนๆ

    ข้างบนที่อ่านไปนั่นคือแนวคิดของซรูวานที่ไรท์คิดเอาไว้นั่นเอง(รีดเขาจะเข้าใจกันไหมเนี่ยโอเมก้า) แล้วซิงกูลาไลซ์ในแง่การเปลีย่นร่าง

    ฟิคชั่นไมสเตอร์นั้นมีพลังที่จะแทรกแซงความเป็นไปได้ในรูปแบบต่างๆ Hyperealize คือตัวอย่างความสำเร็จในการนำความเป็นไปได้ที่อยู่นอกเหนือปัจจุบันกลายเป็นจริงขึ้นมา Zingularize ก็คือการที่ซรูวานถูกรวมกับร่างทรงเหมือนกรณี Hyperealizeขยายขอบเขตความเป็นไปได้จนสามารถกลายเป็นความจริงได้นั่นเอง

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×