ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Apocalypse Online เกมโกงวันโลกาวินาศ

    ลำดับตอนที่ #299 : Extra Log 295: พี่ – น้องมังกรแห่งโศกนาฏกรรม

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 187
      5
      28 ม.ค. 62

    Extra Log 295: พี่ – น้องมังกรแห่งโศกนาฏกรรม

     

                ร่างของอิงศรถูกเขียนทับด้วยพลังที่บิดเบือนความเป็นจริง

                บิดเบือนกฎแห่งกาล-อวกาศ

                กฏแห่งสรรพสิ่งซึ่งแอดมินิสเทรเตอร์อย่างลูนาริส และ โซลาริส เคยพยายามจะธำรงเอาไว้

                กฎสูงสุดที่เป็นดั่งสัจธรรมนั่นถูกแหกอย่างง่ายดายต่อหน้าพลังของผู้รุกราน

                ราหูลาริสทำให้กรอบที่เคยมีอยู่ของโลกใบนี้หายไปหมดสิ้น

                และการแหกกรอบนั่นก็แพร่ลามมาถึงพวกเขาด้วย แต่หากไม่ทำเหมือนกับที่มันทำล่ะก็จะไม่มีพลังพอจะเอาตัวรอดได้เลย

                อิงศรกลายเป็นฟูในร่างไฮพีเรี่ยน

                น้ำหนักของชุดเกราะเต็มตัวกดทับและดึงไหล่ทั้งสองข้างถ้าเป็นตัวเองคงจะขยับตัวแทบไม่ได้ แต่เพราะร่างกายเป็นของฟู ด้วยพลังเสริมจากสายอาชีพที่แข็งแรงที่สุดอย่าง โคลสเซอร์กับพลังกล้ามเนื้อของเด็กหนุ่มวัยสิบห้าและพลังกายของเดโมนอยด์จึงเพียงพอจะหอบชุดเกราะหนักไปบนร่างกายแล้ววิ่งตะลอนไปทั่วทั้งสนามรบได้พร้อมๆ กับควงค้อนเหล็กอันเขื่องกับโล่ที่หนักเกือบสิบกิโลไปด้วยกัน

                ขณะเดียวกันนั้นเอง

                มังกรนินจาก็คืนสภาพกลับเป็นร่างมนุษย์

                มิธริลซึ่งก็คือมิ่งขวัญในอนาคตจากโลกคู่ขนานที่ถูกล้างสมองไปกลับมายืนประจันหน้าพวกเขา

                โดยมีแฟรนเซียมกับเมษาที่มาจากโลกฝั่งนั้นยืนอยู่ด้านหลัง

                ตอนนี้ไพ่ในมือของมิธริลเหลืออีกแค่ใบเดียวนั่นหมายความการป้องกันอ่อนแอลงเป็นโอกาสที่จะโจมตีเพื่อจบเรื่องในคราวนี้ ตัดสินใจแล้วว่าจะทุ่มหมดตัวเดิมพันกับการโจมตีคราวนี้

                อิงศรเลือกไพ่อาคานาร์ออกมาสองใบเพื่อเติมเต็มช่องว่างของนรินทร์กับเน็กส์ที่เสียไป

                ซีเซียม โพแทสเซียม

                ราชครูลำดับสองที่มีใบหน้าเหมือนกับตัวเอง และ ราชครูลำดับสี่โพแทสเซียมผู้มีรอยยิ้มอยู่เสมอ

                แม้แต่ในเวลาแบบนี้โพแทสเซียมก้ยังทำหน้ายิ้มแย้มพูดจาไม่เข้าหูอยู่เหมือนเคย

                อุหวาๆ ถูกเรียกออกมาในสถานการณ์ที่แย่ที่สุดเลยนะครับเนี่ย

                มิธริลพูด

                อืม อืม อืม บังเอิญรึเปล่านะเพราะมิ่งขวัญกลายเป็นมนุษย์ต่างดาวในรูทนี้ตอนนี้การ์เดี้ยนรอบตัวเธอเลยเป็นมนุษย์ต่างดาวอย่างเดียวไปเลยเน้นประสิทธิภาพสินะ

                เพราะเป็นการโจมตีครั้งสุดท้ายไงล่ะ

                ไปเลย!”

                อิงศรตะโกน

                พวกเขาพุ่งออกไปพร้อมกัน พอวิ่งไปได้ประมาณหนึ่งแฟรนเซียมกับลิเธียมก็แยกออกไปทางกาบซ้าย ซีเซียมกับโพแทสเซียมวิ่งเบี่ยงออกไปทางกาบขวาจากนั้นก็หยุดวิ่งแล้วเริ่มโจมตีจากตรงนั้นด้วยปืนพกกับธนู

                อิงศรที่ใช้ร่างของฟูกับออร์ฟี่กับมิ่งขวัญพุ่งตรงไปข้างหน้าตรงๆ อิงศรนำอยู่ข้างหน้าสุดใช้แขนซ้ายยกโล่ขึ้นกำบังมือขวาควงค้อนในมือ

                ทอร์แฮมเมอร์

                พอวิ่งไปได้อีกเล็กน้อยจึงขว้างค้อนที่สะสมพลังไฟฟ้าจากสกิลที่ร่ายออกไป ค้อนหมุนติ้วตรงดิ่งไปหามิธริล

                ถึงตรงนี้สองคนข้างหลังคงจะออกมากันให้อิงศรเดาเอาไว้แบบนั้น

                แต่มิธริล...ราหูกลับปรามทั้งสองคนนั้นไว้แล้วยืนพูดด้วยท่าทีสบายๆ

                อา แบบนี้นี่เองพยายามเก็บพวกที่ไฮพีเรียลไลซ์เอาไว้สินะแล้วการ์เดี้ยนที่เป็นมนุษย์ต่างดาวก็แข็งแกร่งไม่ถูกฆ่าตายง่ายๆ เลยเป็นตัวเลือกสำหรับการยืนในระยะยาว เริ่มเล่นเกมนี้เป็นแล้วนี่ถ้างั้นทางนี้จะลุยต่อเหมือนกัน

                พูดจบก็ใช้ไพ่ใบสุดท้ายออกมา

                เพลย์ (Play)... เวิร์สแอกเกรเซอร์แห่งการดับสูญไมนาเซป

                ผู้รุกรานที่เหมือนกับมีนาปรากฏออกมาจากไพ่พร้อมกับเคียวสีดำอันใหญ่

                สกิลของไมนาเซปสังเวยการ์เดี้ยน

                ด้วยคำพูดของราหู คมเคียวจึงเหวี่ยงเข้าหาพวกเดียวกัน โมนาชหรือเมษาจากโลกคู่ขนานถูกคมเคียวตวัดใส่

                มองเห็นร่างกายนั้นขาดสองท่อนและแตกสลายไป

                จากนั้นไมนาเซปจึงแทงตัวเองด้วยเคียวของตัวเองตายตามน้องชายฝาแฝดไป

                เป็นโชว์โศกนาฏกรรมของพี่น้องที่เจ๋งใช้ได้เลยใช่ไหมล่ะ

                นี่แก!”

                อิงศรสบถ

                แต่ราหูเมินแล้วพูดต่อไปว่า

                จากนั้นเอาไพ่เท่ากับในจำนวนนั้นขึ้นมาไว้บนมือ

                ไพ่ที่ใช้ไปหมดแล้วเพิ่มขึ้นมาสองใบ

                เป็นแบบนี้มาสามครั้งแล้ว ทุกครั้งที่คิดว่าอีกฝ่ายจะไม่มีไพ่เหลือให้ใช้ก็มักจะมีวิธีเพิ่มไพ่ขึ้นมาอยู่เรื่อย

                งั้นก็จัดการก่อนที่จะใช้ไพ่พวกนั้นซะเลยสิ

                ออร์ฟี่พูดพลางส่งแส้ใบมีดพร้อมกับชูไม้เท้าไปข้างหน้า

                โซเดียราโอ

                ปลดปล่อยลำแสงทำลายออกไป

                คนอื่นๆ ก็โจมตีตามไปด้วย

                รวมพลังยิงมาอีกแล้วเหรอไม่รู้จักเข็ดเอาซะเลยนะเป็นพวกย้ำคิดย้ำทำหรือไง

                มิธริลหยิบหนึ่งในสองไพ่ที่ลอยอยู่ตรงหน้าแล้วใช้มัน

                ไฮพีเรียลไลซ์!”

                ไพ่เปล่งแสงกลืนร่างของมิธริลเข้าไป

                จากนั้นมังกรยักษ์ก็ปรากฏกายขึ้นมาแทนที่

                ดาราจุติธาตุมังกรสัตยาบันสงัดซวนหนี่ (Star-Vatar Vowing Silent Dragon Elemental Suanni)”

                ร่างกายอันเกิดจากการเรียงตัวกันของวัตถุขนาดเล็กที่แยกด้วยตาเปล่าไม่ออก

                คือมังกรกึ่งมนุษย์หุ้มด้วยเกราะเหล็กทั้งตัว

                มันแบกดาบใหญ่ซึ่งมีใบดาบกว้างและพันทับด้วยวัสดุคล้ายกับผ้าสีเหลืองอร่ามถักเป็นผืนยาวลงลวดลายอักขระสีแดงคล้ายกับผ้ายันต์

                ตั้งแต่หัวจรดหางล้วนเป็นสีขาวพิสุทธิ์ราวกับสัตว์ศักดิ์สิทธิ์แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยังห้อยกังหันทมิฬเอาไว้ตามร่างกาย ตรงหัวไหล่และที่แผ่นหลังรวมถึงบนศีรษะ

                กังหันดำเหล่านั้นเปล่งออร่าอันชั่วร้ายและน่าเกรงขามเป็นอย่างมาก

                เพียงแค่มันปรากฏตัวออกมาการโจมตีของพวกเขาก็สลายหายไปหมด ค้อนกับแส้ใบมีดพากันกระเด็นออกมา

                อิงศรกระโดดขึ้นไปรับค้อน ออร์ฟี่ดึงแส้กลับมา

                ตอนนั้นเอง

                "ไม่ว่าจะความหวังหรือความสิ้นหวังท้ายที่สุดจะเหลือแต่เพียงความว่างเปล่าวงโคจรจินตนาการของเจ้าได้ถูกปิดลงแล้ว ออร์บิทัลออฟ! (Orbital Off)

                มังกรก็คำราม

                เพียงแค่นั้นพวกพ้องทั้งหมดก็..

                อิงศรตะโกน

                ทุกคน!”

                ถูกเปลี่ยนเป็นไพ่

                ถูกพันธะนาการไว้ด้วยกังหันสีดำ

                แม้แต่แฟรนเซียมของฝ่ายนั้นก็โดนด้วยเหมือนกัน เหลือแค่เขากับออร์ฟี่แล้วก็มังกรเท่านั้น

                สกิลของซวนหนี่การ์เดี้ยนทั้งหมดไม่ว่าของฝ่ายไหนก็จะถูกปิดทั้งหมด

                ทำกระทั่งพวกเดียวกันด้วยเหรอ

                ออร์ฟี่ถาม

                .....

                มังกรไม่ตอบ มันใช้มือบรรจงดึงผ้ายันต์ที่พันทับตัวดาบออก

                หน้าที่ของข้าเสร็จแล้วจากนี้จะส่งต่อให้ท่านพี่ของข้า ไฮพีเรียลไลซ์!”

                ใบดาบซึ่งถูกผนึกไว้ใต้ผ้ายันต์พอถูกปลดผนึกก็เปล่งแสงสว่าง มีตัวอักขระที่ไม่รู้จักสลักอยู่บนนั้นและปลดปล่อยความมืดสีดำสนิทออกมา

                ความมืดราวกับคำสาปของอสูรคืบคลานออกมาจากตัวอักษรนั่น กลืนกินร่างมังกรทั้งหมดแล้วก่อรูปลักษณ์อันใหม่ขึ้นมา

                รูปลักษณ์ของมังกรกึ่งมนุษย์เฉกเช่นเดียวกับร่างเดิมแต่มีกายเนื้อสีดำสนิท

                ตั้งแต่หัวจรดปลายหางดำมืดไปหมด

                มังกรแยกเขี้ยวพลางส่งเสียงคำรามอย่างกึกก้อง

                ข้าคือความสิ้นหวังสุดท้ายของเจ้า ดาราจุติธาตุมังกรคลั่งสงครามหยาจื้อ (Star-Vatar Berserking Break Dragon Elemental Yazi)

                กังหันอันชั่วร้ายหมุนควงอยู่ที่อุ้งมือข้างหนึ่งของมัน กังหันนั้นแยกตัวออกจากกันแล้วประกอบขึ้นใหม่เป็นเคียวที่มีหัวเกี่ยวสองด้าน

                "คมดาบของข้าไม่อาจสลักสิ่งใดทิ้งไว้นอกจากความว่างเปล่า

                มังกรควงเคียวนั่นอย่างคล่องแคล่วและคำราม

                ไฮพีเรียลไลซ์ซ้อนงั้นเหรอ

                ออร์ฟี่พูด

                แถมพลังต่างกับครั้งก่อนๆ ลิบลับเลยด้วย

                อิงศรรู้สึกหวาดระแวง บรรยากาศรอบๆ เปลี่ยนแปลงไปอย่างมากตั้งแต่มังกรตัวนี้ปรากฏตัวขึ้น

                ทั้งสุรเสียงของมัน ทั้งการคงอยู่ และ ออร่าอันชั่วร้ายที่มันแผ่ออกมาล้วนสัมผัสได้แต่ความอันตราย

                นี่คือ สิ่งที่อันตรายที่สุดสัญชาตญาณกำลังบอกกับร่างกายแบบนั้นและทำให้สั่นสะท้านไปทั้งตัว

                มังกรชี้มาที่อิงศร

                เจ้ามีน้องชายด้วยสินะ

                ....

                ข้าก็เป็นพี่คนเฉกเช่นเดียวกับเจ้าข้าถูกเรียกมายังที่แห่งนี้ด้วยพลังของน้องชายแต่ไหนแต่ไรมาแล้วพี่น้องคือสายสัมพันธ์ที่พิเศษมันทั้งรุนแรงและบอบบาง แค่น้องชายคนเดียวยังปกป้องเอาไว้ไม่ได้นี่จะกลายเป็นความรู้สึกผิดบาปของเจ้าและจะเป็นความรู้สึกที่ยิ่งใหญ่ซึ่งพร้อมจะเปลี่ยนเจ้าให้เป็นเครื่องจักรทำลายล้างแต่สิ่งที่เจ้าจะทำลายก็มีแต่ตัวเองเท่านั้น ฮะฮะฮะ

                .....

                อิงศรไม่เข้าใจว่ามันกำลังพูดถึงอะไรแต่ว่าไม่ใช่เรื่องดีแน่

                ลุยกันอีกครั้งเถอะออร์ฟี่จนกว่าทุกคนจะกลับมา

                อืม

                พวกเขาเตรียมจะก้าวขาออกไป แต่ทว่า

                หมดเวลาพอดีเอ้ายิ้มต้อนรับพวกพ้องหน่อยสิ

                มังกรพูด

                จู่ๆ ผนึกทั้งหมดก็คลายออกพร้อมกันอย่างไม่รู้สาเหตุ

                ไม่สิ มันคลายออกเพราะเวลาผ่านไปครบกำหนดแล้วต่างหาก เพราะเจ้ามังกรนั่นเอาแต่พูดถ่วงเวลา

                แต่ไม่มีเวลาให้มัวมายินดียินร้ายกับการกลับมาหนนี้หรอกตอนนี้นี้เป็นโอกาสที่จะโจมตี

                ทุกคน...

                อิงศรตั้งใจจะสั่งให้โจมตีอีกครั้ง

                จงเตรียมใจไว้ซะเพราะสกิลของข้าทำงานไปแล้ว คาออสเบรก! (Chaos Break)"

                มังกรกลับพูดแทรกมา

                เมื่อการปิดผนึกคลายออกสิ่งเหล่านั้นจะถูกทำลาย

     

                อึก...

                อ๊ากกกก

                พวกพ้องที่กลับมาพากันส่งเสียงร้องและกรีดร้องด้วยความทรมาน

                เป็นอะไรไปน่ะ

                ออร์ฟี่พูด

                ขวัญญญ

                อิงศรตะโกนแล้ววิ่งเข้าไปหาน้องชายก่อน

                อึก..ศ..ศร

                มิ่งขวัญพูดใบหน้าแสดงความเจ็บปวด มันกำลังเกิดอะไรขึ้นกันแน่

                เจ้ามังกรนั่นบอกว่าสกิลของมันจะทำลายสิ่งที่อยู่ในผนึกที่ถูกปลดออกถ้าอย่างนั้นขวัญก็..

                ทุกคนก็...

                อ๊ากกกกก

                ขวัญกรีดร้อง

                ขวัญ

                อิงศรพยายามดึงตัวน้องชายไว้

                แต่ร่างนั้นก็แหลกสลายคามือเขาไป ทุกคนก็ด้วย ทุกคนแตกสลายไปพร้อมกันทั้งหมด

                แม้แต่แฟรนเซียมของฝั่งนั้นก็ถูกทำลายไปพร้อมๆ กัน

                นี่ก็คือพลังของผู้ทำลายล้างแห่งความวุ่นวาย คาออสเบรก ยังไงล่ะ

                เสียงหัวเราะของมังกรดังก้อง

                เสียงหัวเราะโหยหวนแบบที่ไม่เคยได้ยินสิ่งมีชีวิตใดส่งเสียงพรรค์นั้นมาก่อน

                ดังก้องและหมุนวนไปกับสายลมที่พัดพาเศษธุลีของพวกพ้องที่จากไป

                “….”

                อิงศรหยุดนิ่ง ร่างของฟูที่เขาใช้จู่ๆ ก็รู้สึกหนักอึ้งขึ้นมา

                จิตใจกำลังจะพังทลายทั้งที่รู้ว่าทุกคนยังไม่ได้ตายเพียงแค่ถูกส่งไปยังที่ๆ หนึ่งเท่านั้น

                แต่ว่า

                แต่ว่า

                และ แต่ว่า การได้เห็นมิ่งขวัญหายไปต่อหน้าต่อตามันไปกระตุ้นบาดแผลในจิตใจขึ้นมา

                มโนภาพของสถานีรถไฟเมื่อสามปีก่อนเหมือนจะผุดขึ้นมาอีก ความกลัวและความสับสนผุดขึ้นในอกและขยายพองตัวไม่หยุด

                มังกรพูด

                สกิลของน้องชายข้าที่ไม่อยู่แล้วทำงานเจ้าจะต้องสิ้นหวังมากขึ้น มากขึ้นไป และ มากยิ่งขึ้นไปอีกเอาไพ่บนมือเจ้าไม่เกินจำนวนที่ถูกทำลายไปเมื่อกี้ลงมาในสภาพเทิร์นออฟ

                ทันใดนั้นเองไพ่ทั้งหมดที่เหลือเพียงแค่สี่ใบ เหลือแต่พวกผู้หญิงก็ลอยออกไปจากมือเอง

                อะ...ไพ่มัน

                อิงศรพยายามคว้าเอาไว้แต่ก็ไม่ทัน ไพ่ทั้งหมดกระจายตัวกันแล้วปลดปล่อยคนที่ผนึกไว้ออกมา

                ตอนนั้นเอง เสียงกรีดร้องของทุกคนที่ออกมาก็ดังขึ้น

                อ๊า!!”

                พลอย!”

                จ....เจ็บ..

                นิว!”

                อิงศรหันสลับไปมาระหว่างทั้งสองคน เขาทำตัวไม่ถูก ไม่รู้ว่าจะไปช่วยใครก่อนดี แต่ก็ไม่รู้ว่าช่วยอย่างไรด้วย ทำอะไรไม่ได้เลย

                ทำอะไรไม่ได้เลยซักอย่าง

                ทุกคนกำลังทรมานด้วยพลังที่ไม่อาจเข้าใจของศัตรูตัวใหม่

                ฮะ ฮะ ฮะ

                เสียงหัวเราะของมังกรดังระเรื่อ เสียงหัวเราะรื่นรมย์ที่เสพสรรความทุกข์ของศัตรูดังก้องไม่หยุด

                อึก...ไม่..ไหวแล้ว

                ซากิริพูด

                ท่าน....แฟรนเซียม

                วิเชียรมาศพูด

                ค...คุณอิงศร

                มีนาพูด

                มีนา!”

                อิงศรหันไปแต่แล้ว

                ฟุ่บ ฟุ่บ ฟุ่บ เสียงดังขึ้นอย่างต่อเนื่องแล้วแต่ละคนก็ถูกเปลี่ยนเป็นไพ่

                ถูกเปลี่ยนเป็นไพ่ทั้งหมด ความมืดสีดำทะมึนเข้ามาห้อมล้อมและหมุนกวัดแกว่งเป้นกังหันทมิฬพันธะนาการพวกเธอ

                นี่ก็คือพลังของน้องชายข้าผู้ที่มีพลังจิตแก่กล้าพลังจิตที่ก้าวข้ามกาลเวลา

                แกกกกกกกก

                อิงศรในร่างฟูพุ่งตัวออกเงื้อค้อนเตรียมจะขว้าง

                อิงศรอย่าเพิ่งวู่วาม

                เสียงของออร์ฟี่ที่พูดเกลี้ยกล่อมมาจากข้างๆ นั้นฟังราวกับดังมาจากที่ห่างไกล จิตใจกำลังโหมไปด้วยความโกรธจนแทบไม่ได้ยินเสียงอื่นอีก

                ร่างของฟูตอบสนองต่อความรู้สึกได้ง่าย อิงศรรู้สึกว่าตัวเองถูกปั่นหัวอย่างง่ายดายแต่ต่อให้ตอนนี้เป้นร่างตามปกติของตัวเองเขาก็ไม่คิดว่าจะทนยืนดูอยู่เฉยๆ ได้หรอก

                หึ หึ หึ แบบนั้นแหละ แบบ .นั้น . ไง . ล่ะ

                มังกรพูด

                และพริบตานั้น

                เพียงแค่กะพริบตา

                มังกรก็หายตัวไปจากตรงหน้าแล้ว

                หายไปไหนแล้ว

                อยู่ตรงนี้

                เสียงของเจ้ามังกรดังมาจากด้านหลัง อิงศรหันกลับไป

                พยายามหันอย่างสุดกำลังแต่คมเคียวของมันเร็วกว่า

                อ๊ากกก

                เขาถูกคมเคียวเกี่ยวเข้าที่เอว รู้สึกเหมือนสัมผัสที่ท่อนล่างกำลังจะฉีกขาดออกไป

                แต่ความเจ็บปวดก็พลันหายไปซะก่อน

                เพราะว่าร่างของเขาในตอนนี้คือร่างของฟูที่ขอยืมมา คนที่รับเอาความเจ็บปวดนั่นไปแทนตัวเขาก็คือฟูที่กำลังจะหายไปในตอนนี้

                ฟู

                อิงศรยื่นมือไปข้างหน้า พยายามจะคว้าไพ่ของฟูที่เด้งหลุดออกมาจากร่างของตัวเองที่คืนสภาพ

                ไพ่แตกสลายไปคามือที่เกือบจะจับได้อยู่แล้ว

                อิงศร

                เสียงของออร์ฟี่ดังมา เสียงนั่นบอกให้รู้ว่าศัตรูโจมตีเข้ามาอีก

                อิงศรถีบตัวกระดอนถอยห่างออกมา เขาหลบคมเคียวนั่นได้หวุดหวิดเกือบจะถูกฟันซ้ำแล้ว

                ถ้าถูกฟันทั้งร่างนี้ก็คงจะตายจริงๆ

                ทีนี้ก็ไม่มีไพ่เหลือแล้วสินะ

                มังกรพูด จากนั้นไพ่ก็ถูกเพิ่มขึ้นมาเองใบหนึ่งทำให้กลายเป็นสองใบ

                ถึงเทิร์นจั่วแล้วเหรอแถมยังจั่วได้ไพ่ใบนั้นซะทีพวกเวิร์สแอกเกรเซอร์จากโลกคู่ขนานก็ลงหลุมไปครบหมดทุกคนแล้วด้วย

                มันหยิบไพ่ที่เพิ่งจั่วขึ้นมาดู

                จงสิ้นหวังให้มากขึ้นไปอีกข้าน่ะไม่ได้ใจดีเหมือนพวกพี่น้องตนอื่นหรอกนะสำหรับข้าแล้วหลักการหักล้างแห่งความว่างเปล่ามันไร้สาระทำไมจะต้องทำให้เหยื่อที่สู้อุตส่าห์ฝังมันลงไปในความสิ้นหวังแล้วลุกขึ้นมามีความหวังอีกกันเล่าข้านี่แหละคือผู้ที่แหกบัญญัติข้อนั้นข้าจะฝังเจ้าลงไปในความสิ้นหวังที่ลึกไร้ก้นจะส่งเจ้าดำดิ่งลงไปยังความสิ้นหวังจนกว่าจะแตกสลายและกลายเป็นความว่างเปล่าเอง สกิลของข้าไม่ได้หมดแค่นั้นหรอกนะ

                แล้วแกว่งเคียวเล่นสองสามทีก่อนจะตวัดฟันใส่อากาศที่ว่างเปล่าซึ่งห่างเยื้องออกไปทางซ้ายเล็กน้อย

                เอาวิญญาณจากเพลนัลตี้บ็อกซ์ในจำนวนที่เท่ากับไพ่ของเจ้าที่ถูกข้าทำลายไปมาไว้ที่ตัวข้าด้วย โซลแสตก! (Soul Stack)

                พื้นที่ว่างซึ่งถูกคมเคียวฟันเข้าไปเกิดแยกตัวเป็นโพรงมิติ ลูกไฟสีขาวลอยอ้อยอิ่งออกมาจากโพรงนั้นห้าลูกด้วยกันแล้วโพรงก็ปิดตัวลง

                มังกรชูไพ่ที่มันเลือกมาเมื่อกี้

                 จงเขียนทับตัวข้าอีกครั้งแล้วลงมาดึงโลกใบนี้ไปสู่จุดจบ ไฮเปอร์แมททีเรียลไลซ์ (Hyper Materialize)  เวิร์สแอกเกรเซอร์แห่งจุดจบอินโดร่า!”

                ไพ่เปล่งแสงสว่างกลืนร่างของมันให้หายเข้าไป

                กายอันใหญ่โตนั้นกำลังหดเล็กลง หดจนเหลือขนาดเท่ากับเด็กผู้ชายตัวสูงคนหนึ่ง

                ขนาดตัวพอๆ กับอิงศร

                ลูกไฟวิญญาณที่ออกมาก่อนหน้านี้พากันเปลี่ยนร่างเป็นเหล่าพวกพ้องในโลกคู่ขนานที่กลายเป็นผู้รุกราน

                มิ่งขวัญ กวินทร์ เมษา มีนา นรินทร์

                และคนสุดท้ายที่ยังไม่เคยเผยตัวออกมาจนถึงบัดนี้

                คนที่อยู่ในโลกซึ่งแตกพ่ายให้กับราหูและตกเป็นเชลยของความเปล่า

                อิงศรในสภาพผู้รุกราน

                เมื่อตัวฉันถูกเรียกออกมาก็เท่ากับว่า...

                ข้อมือและข้อเท้าถูกจองจำไว้ด้วยกังหันสีดำ

                อุปกรณ์ติดใบมีดซึ่งสวมติดกับแขนคล้ายกับของเมอร์คาบาห์ในร่างก่อนนั้นตัวเขาที่เป็นผู้รุกรานสวมมันอยู่ด้วย

                นี่คือจุดจบ คือตอนอวสานยังไงล่ะ

     

    ****

    ยัง!

    ยังไม่อวสานตอนนี้ว้อยยย อย่ามาตัดหน้าคนเขียนพูดนะโอเมก้า!!! เจอกันวันพฤหัสเน่อหรือไม่ก็วันศุกร์ถ้างานเข้าน่ะนะฮะ TwT แอ่ววว

    ***

     

    Star-Vatar Vowing Silent Dragon Elemental Suanni

    ดาราจุติธาตุมังกรสัตยาบันสงัดซวนหนี่

    "ไม่ว่าจะความหวังหรือความสิ้นหวังท้ายที่สุดจะเหลือแต่เพียงความว่างเปล่า วงโคจรจินตนาการของเจ้าได้ถูกปิดลงแล้ว ออร์บิทัลออฟ! (Orbital Off)

    มังกรสมองกล(Cyber Dragon) มังกรเทียมซึ่งเทิร์นบริงเกอร์สร้างขึ้นมาใช้เป็นอาวุธสำหรับแนวหน้าการรุกราน มังกรที่เกิดจากนาโนแมชชีนขนาดเล็กจำนวนมหาศาลทำให้การคงอยู่ของพวกมันเป็นอมตะ ซวนหนี่คือหนึ่งในผลงานชั้นยอดนั่น มันถือกำเนิดขึ้นพร้อมกับมังกรอีกตนที่ได้ชื่อว่า ตัวตลกแห่งสนามรบแต่ซวนหนี่นั้นตรงข้ามกับพี่ชายของมัน มันมีสติปัญญาที่เฉียบคมไม่ได้ด้อยไปกว่าเต๋าตี้ที่เป็นผู้บัญชาการของพี่น้องมังกรทั้งเก้า ซวนหนี่นั้นสงบนิ่งและแทบจะไม่พูดหากไม่จำเป็นว่ากันว่าพลังสมาธิของมันสูงมากและมีพลังจิตที่ลึกล้ำ อย่างไรก็ตามไม่มีรายงานว่าความสัมพันธ์ของมันกับพี่ชายฝาแฝดนั้นเป็นอย่างไร ผู้ต่อต้านทั้งหมดสูญหายก่อนจะได้ทันส่งข้อมูลกลับมา มีเพียงข้อมูลว่าเมื่อฝาแฝดแห่งนาโนดราก้อนปรากฏกายสมรภูมินั้นจะสูญสิ้น

     

    Star-Vatar Berserking Break Dragon Elemental Yazi

    ดาราจุติธาตุมังกรคลั่งสงครามหยาจื้อ

    " คมดาบของข้าไม่อาจสลักสิ่งใดทิ้งไว้นอกจากความว่างเปล่า Chaos Breaker!"

    มังกรสมองกล(Cyber Dragon) มังกรเทียมซึ่งเทิร์นบริงเกอร์สร้างขึ้นมาใช้เป็นอาวุธสำหรับแนวหน้าการรุกราน มังกรที่เกิดจากนาโนแมชชีนขนาดเล็กจำนวนมหาศาลทำให้การคงอยู่ของพวกมันเป็นอมตะ หยาจื้อคือหนึ่งในผลงานสุดยอดนั่น เป็นมังกรที่สร้างขึ้นเพื่อการสงครามอย่างแท้จริง มันไม่ได้คลั่งการต่อสู้อย่างชื่อของมันแต่หยาจื้อนั้นเป็นโรคจิตโดยสมบูรณ์ มันชื่นชอบการทำลายล้างแบบที่ให้เหยื่อทำลายตัวเอง มันไม่ได้เจ้าเล่ห์อย่างเต๋าตี้ แต่มันเป็นบ้าจนไม่อาจคาดเดาความคิดได้ ในช่วงเวลาที่ถือกำเนิดขึ้นได้มีมังกรอีกตนที่ถือกำเนิดขึ้นพร้อมกับมันซึ่งเป็นเหมือนพี่น้องและด้านตรงข้ามของมันด้วย มังกรทั้งสองเป็นเหมือน หยินกับหยางของกันและกัน

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×