ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Apocalypse Online เกมโกงวันโลกาวินาศ

    ลำดับตอนที่ #297 : Extra Log 293: มังกรแห่งความว่างเปล่าทั้งเก้า

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 192
      4
      21 ม.ค. 62

    Extra Log 293: มังกรแห่งความว่างเปล่าทั้งเก้า

     

                โซเดียเดลต้าเกเซอร์!!

                อิงศรร่ายสกิลพร้อมกับลั่นไกปืนหน้าไม้

                กระบอกปืนใหญ่ที่ไหล่ทั้งสองส่งเสียงคำรามกึกก้อง ถึงปืนจะไม่ได้พาดลงบนไหล่ตรงๆ แต่แรงกระชากก็ดึงลำตัวตัวไปด้านหลังเล็กน้อย

                ลำแสงสีแดงชาดพุ่งทะยานไปข้างหน้าราวกับทะลักออกมา ความร้อนแผ่ซ่านไปทั่วบริเวณนั้น เม็ดเหงื่อจำนวนมากผุดขึ้นรอบใบหน้า เป็นผลมาจากความร้อนของพลังงานที่ปลดปล่อยออกมา ปืนหน้าไม้ก็ปลดปล่อยลำแสงเช่นเดียวกัน ลำแสงทั้งสามสายไปประสานเป็นหนึ่งเดียวกันข้างหน้าแล้วพุ่งใส่มังกรขาว

                ทว่า มันเองก็เริ่มเคลื่อนไหวตอบโต้การโจมตีของเขาเหมือนกัน

                มังกรขาวยกแขนทั้งสองยื่นมาข้างหน้า

                เมอบิอุสบลาสเตอร์ (Mobius Blaster)”

                แล้วพูดเหมือนร่ายสกิล จากนั้นตรงกึ่งกลางระหว่างกรงเล็บทั้งสองของมันก็ปรากฏกังหันไฟสีดำหมุนกวัดแกว่ง พ่นลำแสงสีดำออกมาจากตรงกลางของกังหัน ยิงต่อเนื่องหลายสิบครั้งติดๆ กันทุกครั้งที่ยิงจะเกิดเสียงดัง ซู่ เหมือนเสียงน้ำพุ

                ลำแสงดำปะทะกับลำแสงสีแดง

                ตูม!!

                เกิดระเบิดขึ้นแล้วการโจมตีแบบทุ่มสุดตัวของอิงศรถูกทำให้ไร้ผลไปเรียบร้อย....

                หมด

                เวลาได้หมดลงแล้ว

                ร่างไฮพีเรี่ยนมาถึงขีดจำกัด นอกจากออร์ฟี่แล้วทุกคนต่างคืนสู่ร่างปกติ

                ทว่า

                ราหูก็คืนร่างด้วยเหมือนกัน มังกรขาวหายไป แล้วเทพมารสีดำก็ปรากฏตัวขึ้นอีกครา

                ร่างไฮพีเรี่ยนหมดเวลาแล้วสินะน่าเสียดายที่ยังเก็บข้าตามแผนไม่ได้นะ

                เจ้านั่นกำลังเยาะเย้ยเรื่องแผนโจมตีสายฟ้าแลบของพวกเขาที่เพิ่งจะเละไม่เป็นท่าไป

                สถานการณ์เป็นแบบ เจ็ดต่อหนึ่ง แต่ดูอย่างไรฝ่ายที่ได้เปรียบก็เป็นราหูที่มีแค่คนเดียวอยู่ดี

                พลังมันยังห่างชั้นกันเกินไป

                ก่อนหน้านี้ที่เผชิญหน้ากันตรงๆ เป็นครั้งแรกพวกเขาตามปกติสู้มันไม่ได้เลยแล้วสถานการณ์ตอนนี้ก็เหมือนย้อนกลับไปเป็นแบบนั้น

                สถานการณ์ที่ไม่มีพลังที่จะกอบกู้อะไรได้เลย

                ราหูเพิ่มไพ่ขึ้นมาบนมือของมันอีก

                รอบของข้าดรอว์

                ดูเหมือนจะมีกฎสำหรับตัวของมันเองที่จะเพิ่มไพ่อาคานาร์บนมือ

                อาคานาร์ พลังแห่งโชคชะตาจนถึงตอนนี้ยังจะเรียกสิ่งที่มันใช้ว่าอาคานาร์ได้อีกหรือ?

                มันไม่เหมือนอาคานาร์ที่เขารู้จักอีกต่อไปแล้วสิ่งที่ราหูทำมาตั้งแต่เริ่มสงครามคราวนี้มันแปลกประหลาดเกินทำความเข้าใจ

                นี่ จะไม่ใช้ไพ่ของพวกพ้องจริงๆ น่ะเหรอ

                ราหูพูด

                มันกำลังหมายถึงพวกพ้องของเขาที่โดนทำให้เป็นอาคานาร์แล้วก็ส่งอาคานาร์ชุดนั้นมาให้เขาอีกที หากทำเหมือนกับที่มันทำ เพียงแค่ใช้ไพ่ที่ว่าก็จะเรียกทุกคนออกมาได้แต่ว่าถูกจำกัดจำนวนเอาไว้ที่ห้าคนเท่านั้นเนื่องจากพวกเขาเพิ่งจะเสียข้าวหลามไปทำให้มีช่องว่างเพิ่มขึ้นมา

                “….”

                อิงศรเหลือบสายตามองชุดไพ่ที่กำไว้ในมือ

                ควรจะเรียกพวกพ้องออกมาเพิ่มดีไหมนะ

                แต่การส่งพวกพ้องที่เคยแพ้ให้กับมันไปแล้วออกมาก็เหมือนส่งให้ทุกคนออกไปตายไม่ใช่เหรอ

                ตอนนั้นเองราหูก็

                ถ้าไม่ทำล่ะก็จะไม่รอแล้วนะ

                ส่งไพ่บนมือลงมา

                ถ้าหากว่าสมุนที่พวกเขากำจัดไปก่อนหน้านี้เป็นเงื่อนไขเดียวกับพวกเขาด้วยล่ะก็เท่ากับว่าเจ้านี่ไม่ได้สนใจว่าพวกเดียวกันจะเป็นอย่างไรเลย

                กล้าใช้งานได้เหมือนกับเป็นเบี้ยตัวหนึ่งแม้แต่การเอาตัวตนของพวกเขาจากโลกคู่ขนานมาใช้งานแบบเดียวกับที่ว่าก็ตาม ตรงข้ามกันโดยสิ้นเชิง อิงศรยังคงลังเลว่าควรจะทำหรือไม่

                ไม่

                ไม่ได้

                ไม่ได้แน่ๆ

                ถึงจำเป็นขนาดไหนแต่จะให้ใช้ทุกคนเป็นเหมือนเบี้ยอย่างที่เจ้านั่นใช้มันก็เกินไป

                ออกมา เวิร์สแอกเกรเซอร์แห่งการตกผลึก เนออน

                สมุนตนใหม่เพิ่มขึ้นมาหลังจากที่พวกเขาเพิ่งจะทำลายทั้งหมดไปเองแท้ๆ

                ผู้รุกรานคนใหม่คือเด็กผู้หญิงตัวเล็ก อายุของเธอดูคร่าวๆ แล้วน่าจะประมาณสิบห้าเท่าดันกับเน็กส์จากโลกคู่ขนานที่ถูกเรียกด้วยชื่อใหม่ว่าเซนจิน และเธอคนนี้ก็คือนิวที่มาจากโลกคู่ขนานนั้นด้วยกันอย่างแน่นอน แล้วตอนนี้เธอก็ถูกเรียกด้วยชื่อ เนออน

                เด็กสาวใส่ชุดของผู้รุกรานและสวมผ้าคาดตาสีดำเหมือนคนก่อนๆ เธอมาตัวเปล่าในขณะที่คนอื่นๆ ที่ตามออกมาจากไพ่ที่ราหูเพิ่งจะส่งลงมาเพิ่มนั้นแบกอาวุธประจำตัวมากันครบมือ

                เวิร์สแอกเกรเซอร์แห่งค้อนอัสนีฟูมอล

                ผู้รุกรานเด็กหนุ่มที่คล้ายกับฟูแบกค้อนแบบเดียวกับเจ้าตัว

                เวิร์สแอกเกรเซอร์แห่งคมกระสุนไมเซอร์

                ผู้รุกรานที่เหมือนกับมิกซ์และใช้ปืนพกเป็นอาวุธเหมือนๆ กัน

                เวิร์สแอกเกรเซอร์แห่งท่วงทำนองศักดิ์สิทธิ์กฤษณะ

                ถึงจะเป็นกฤษณะเหมือนกันกับคนก่อนหน้าแต่คราวนี้คือนรินทร์ที่มาในชุดผู้รุกรานรวมถึงบรรยากาศรอบตัวก็แตกต่างออกไปจากคนก่อนอย่างชัดเจน

                ทั้งสี่คนที่ถูกเรียกออกมานั้นท่าทางแข็งทื่อราวกับเป็นตุ๊กตา

                แค่พริบตาเดียวความได้เปรียบเรื่องจำนวนก็กลายเป็นเรื่องตลกไปเลย

                ใช้เวลาแค่เสี้ยววินาทีก็สามารถเรียกกำลังเสริมที่พึ่งพาได้ออกมาได้ ที่ผ่านมายังไม่เคยเจอศัตรูแบบไหนทำอย่างนี้มาก่อน ต่อให้เป็นเครื่องทำสวนก็ตาม มันก็ยังมีขั้นตอนและคุณภาพของสมุนที่สร้างขึ้นมาด้วยโซเดียมิราจที่ยังเทียบไม่ติด

                ราหูไม่ได้หยุดเพียงแค่นั้น

                ส่วนตัวข้าจะเขียนทับด้วยร่างนี้

                มันใข้ไพ่ใบสุดท้ายบนมือกับตัวเองวาวไพ่ทับลงบนหน้าผาก ไพ่เปลี่ยนแปลงร่างกายของมัน

                ร่างกายหดเล็กลงเหลือขนาดเท่าๆ กับมนุษย์คนหนึ่ง

                เป็นผู้รุกรานเด็กหนุ่มที่ค่อนข้างคุ้นตาอีกคนหนึ่ง

                ไรท์เป็น เวิร์สแอกเกรเซอร์แห่งการแก้แค้น การ์เวน

                ผู้รุกรานคนนั้น

                นั่นมัน

                กวินทร์พูดด้วยความตกใจ นั่นก็เพราะผู้รุกรานที่ราหูเปลี่ยนร่างไปคือตัวกวินทร์นั่นเอง

                กวินทร์จากโลกคู่ขนานจากรูปร่างแล้วน่าจะอายุมากกว่าฝั่งนี้ราวๆ สองปีเหมือนกับกรณีของมิ่งขวัญ

                นอกจากชุดเกราะรัดรูปเหมือนชุดอวกาศแบบผู้รุกรานแล้ว การ์เวนก็ไม่ได้พกอาวุธมาแต่มีอุปกรณ์คล้ายปลอกแขนสวมมาที่แขนทั้งสองข้างมีใบมีดขนาดเล็กยื่นออกมาจากอุปกรณ์

     

                ราหูที่อยู่ในร่างการ์เวนพูด

                สกิลของกฤษณะทำงานเมื่อไรท์จะได้จั่วไพ่เพิ่ม

                ไพ่ใบใหม่ปรากฏขึ้นมาที่ด้านหน้าการ์เวน

                สกิลของไมเซอร์ทิ้งไพ่ไปใบหนึ่งทำลายไพ่ที่เพลย์ลงมาในสนามหนึ่งใบ

                พอพูดแบบนั้นไพ่ที่เพิ่งจะเพิ่มขึ้นมาก็แตกสลายไปจากนั้น ผู้รุกรานที่เหมือนกับมิกซ์

                เวิร์สแอกเกรเซอร์แห่งคมกระสุนไมเซอร์ ก็เริ่มเคลื่อนไหว

                ทำลายไทเทเนียม

                เป้าหมายของมันคือพี่สาวของกวินทร์

     

                พี่!

                กวินทร์หันไปทางที่หล่อนอยู่

                คุ้มกันเธอเร็ว!

                อิงศรตะโกน

                กวินทร์กับมิ่งขวัญวิ่งไปหาหล่อนแล้วเอาตัวขวางทางปืนศัตรู

                สิงห์!

                อิงศรพูดพร้อมกับดึงโก่งสายธนูสร้างลูกศรเล็งจะยิงไปที่ไมเซอร์ตรงนี้จะต้องให้คนที่แข็งแกร่งพอไปไล่ต้อนหรือรบกวนศัตรูที่กำลังเล็งเป้ามาที่นี่เพื่อจะซื้อเวลาและหาจังหวะสังหาร

                อย่าให้พลาดก็แล้วกัน

                แฟรนเซียมตอบรับอย่างเข้าใจแล้วพุ่งตัวออกไปทันที

                ลีลีสสเตจ สุซาคุ

                ร่ายสกิลแล้วตวัดดาบ อัญเชิญปีศาจจากเดม่อนแอพที่อยู่ในดาบออกมา ตัวดาบถูกปกคลุมด้วยเพลิงไฟ ต่อมาไฟนั่นก็แยกออกจากดาบแล้วก่อรูปร่างเป็นวิหกเพลิง

                จากตรงนี้ไปถึงตัวไมเซอร์ยังมีระยะห่างอีกพอสมควร

                แต่เส้นทางเปิดกว้างไม่มีสิ่งกีดขวาง เป้าหมายก็ยังสนใจแต่ไทเทเนียมถ้าหากเข้าถึงตัวได้ก็จะฆ่าได้ทันทีนอกจากนี้ข้างหลังยังมีอิงศรช่วยยิงคุ้มกันในกรณีที่มันหันปืนมาเล่นงานทางนี้แทน

                เมื่อวิ่งไปได้ราว 70% ของเส้นทาง

                ฟูมอลก็ปรากฏตัวขึ้นที่กลางทาง

                ชิ

                แฟรนเซียมสบถแล้วแทงดาบไปข้างหน้า

                จัดการ

                สั่งให้วิหกเพลิงพุ่งใส่ผู้รุกรานหวังให้เผาทั้งแบบนั้นไปเลย

                ทว่า

                สกิลของผมทำงานเมื่อสมุนต่อสู้กับอีกฝ่ายจะเลือกเทิร์นออฟศัตรูได้หนึ่งคน

                การ์เวนก็พูดขัดขึ้นมาแล้วชี้ไปที่มิ่งขวัญ

                พลิกกลับไปซะ ขวัญ....เทิร์นออฟ!

                พริบตาถัดมามิ่งขวัญก็กลายเป็นไพ่และถูกกังหันสีดำล็อกเอาไว้

                พลังสำหรับปกป้องไทเทเนียมลดลงทั้งที่ฝ่ายบุกคือพวกเขาแต่ยังสามารถทำให้กำลังรบเปลี่ยนแปลงได้ตามใจชอบ

                บ้าเอ้ย!

                อิงศรยิงธนูไปที่ไมเซอร์สองดอกติดกัน

                ป้องกันด้วยกฤษณะ

                ด้วยคำสั่งของการ์เวน กฤษณะเอาตัวพุ่งเข้ามารับลูกศรทั้งหมดแล้วแตกสลายไป

                การ์เวนพูด

                ทีนี้พอมีไพ่ในสนามออฟ ฟูมอลก็จะได้พลังเพิ่มล่ะ

                หลังจากที่พูดแล้ว ฟูมอลก็เคลื่อนไหวได้รวดเร็วกว่าเดิมจนแฟรนเซียมเองก็ตอบโต้การเคลื่อนไหวนั่นไม่ทัน วิหกเพลิงถูกค้อนซึ่งปกคลุมด้วยคลื่นไฟฟ้าทุบจนสลายหายไปหมดในการโจมตีเพียงครั้งเดียว

                เท้าของแฟรนเซียมหยุดลง

                พลังอะไรกันเนี่ย

                ต้องตกใจเป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว ก็ปีศาจที่อัญเชิญออกไปนั้นเป็นถึงระดับสัตว์เทพและยังเป็นวิหกเพลิงที่มีจุดเด่นเรื่องความทรหดไม่มีทางที่จะเสียท่าให้การโจมตีพื้นๆ แบบนั้นในครั้งเดียวแน่

                คำตอบที่มีคือคำพูดของราหูที่พูดผ่านการ์เวนก่อนที่ฟูมอลจะลงค้อน

                ด้วยสกิลที่พวกเขาเองก็ยังไม่เข้าใจว่ามันเป็นสกิลของเกมหรือสกิลอะไรกันแน่แต่เพราะสิ่งที่เรียกว่าสกิลพวกนั้นทำให้ค่าพลังเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดถึงขนาดนั้น

                แต่ยังมีกวินทร์อยู่ตรงนั้นคงช่วยปกป้องไทเทเนียมเอาไว้ได้

                อิงศรแหงนหน้าขึ้น มองตรงไปที่เมอร์คาบาห์ซึ่งเอาแต่ดูอยู่เฉยๆ โดยไม่ทำอะไรมาซักพักแล้ว

                เมอร์คาบาห์!

                เขาตะโกนเรียก

                “….”

                แต่ปีศาจกลับเพิกเฉย ปีศาจที่เรียกได้ว่าเป็นครึ่งหนึ่งของตัวเองเมินเฉยต่อเสียงเรียกร้อง

                หรือว่าเมอร์คาบาห์จะเปลี่ยนไปอยู่ฝ่ายซูลวานแล้วกันล่ะ

                ชิ

                อิงศรเดาะลิ้น

                ตอนนี้มีแต่ต้องเดิมพันกับสายสัมพันธ์ที่น่าจะมีเหลืออยู่น้อยนิดเพราะว่าตนยังรู้สึกถึงเมอร์คาบาอยู่

                ถึงจะเบาบางมากก็ตาม

                วินด์ช็อก

                อิงศรร่ายสกิลพลางเผากระดาษยันต์อาคมแล้วขึ้นลูกศรเล็งไปที่ไมเซอร์อีกครั้ง

                จงคำรามดาวอัสนี จูปิเตอร์สไตรค์!

                แล้วแผลงศรอาคมออกไป ลูกศรระเบิดเมื่อพุ่งไปได้ครึ่งทาง

                วงเวทแสงสีม่วงขยายออกมาและปลดปล่อยสายฟ้าจู่โจมไปที่เป้าหมาย

                การโจมตีนี้ทำให้ถึงตายไม่ได้ก็จริงแต่ยังหวังให้ติดผลอัมพาตได้

                สายไปแล้วล่ะ

                การ์เวนพูด ก่อนที่สายฟ้าจะทันฟาดใส่ไมเซอร์ก็ลั่นไกปืนยิงกระสุนไปแล้วจากนั้นจึงโดนสายฟ้าฟาดใส่

                กระสุนมุ่งหน้าไปหาไทเทเนียม ส่วนไมเซอร์ก็ล้มพับลงเพราะเกิดสภาวะอัมพาตจากการโจมตีของเขา

                แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่เล็งเอาไว้ตั้งแต่แรก

                อิงศรไม่ได้คิดว่าจูปิเตอร์สไตรค์จะหยุดยั้งได้ทันอยู่แล้วที่ต้องการก็คือยูนิทที่ได้จากการใช้สกิลต่างหาก

                เมอร์คาบาห์ใช้เมสไซอาบัสเตอร์ทำลายกระสุนนั่นที

                เพื่อจะหยุดกระสุนลูกนิดเดียวที่ดูไร้พิษสงมากสำหรับพวกเขาที่เผชิญวันโลกาวินาศมานานแต่เพราะอีกฝ่ายที่ลั่นไกปืนคือผู้รุกรานที่มีพลังที่ไม่รู้จักอยู่มากดังนั้นจะปล่อยให้การโจมตีที่ดูไร้พิษภัยนั่นไปถึงตัวพวกพ้องไม่ได้

                คำสั่งที่เหมือนกับอ้อนวอนของอิงศรดูเหมือนจะได้ผล เมอร์คาบาห์ยอมรับยูนิทที่เขาส่งให้แล้วขว้างใบมีดที่แขนออกไปทำลายหัวกระสุน และไม่ใช่แค่นั้น แต่ใบมีดยังหมุนควงเลี้ยวเปลี่ยนทิศทางหลังจากทำลายกระสุนแล้วก็มุ่งหน้าไปหาผู้ที่ยิงมัน

                ไมเซอร์ที่ขยับตัวไม่ได้ถูกใบมีดตัดร่างออกเป็นสองส่วนแล้วร่างกายก็แตกสลายไป

                การรุกรับหนนี้พวกเขาเป็นฝ่ายกำชัย

                แต่ราหูไม่ยอมให้เป็นแบบนั้น

                ถ้างั้นไปฆ่าเองกับมือก็ได้

                ได้ยินมันพูดออกมาว่าแบบนั้นก่อนที่ร่างกายจะเลือนหายไป

                หายไปไหนแล้วน่ะ

                อิงศรกวาดตามองหาแต่ไม่พบ

                จู่ๆ กวินทร์ที่อยู่ด้านหลังก็ร้องออกมา

                อ๊ากก!

                เกิดอะไร...ขึ้น

                ทันทีที่หันกลับไปก็พบว่าการ์เวนมาโผล่อยู่ตรงนั้นแล้ว ใบมีดอันเล็กที่ปลอกแขนของมันสร้างใบดาบขึ้นด้วยแสงสีแดงที่ดูคล้ายกับดาบอมฤตในร่างไฮพีเรี่ยนของเขาไม่มีผิด

                ดาบข้างซ้ายเสียบท้องกวินทร์อยู่ ส่วนอีกข้างชี้ไปที่ไทเทเนียม

                กวินทร์!

                อิงศรเก็บไพ่ลงกระเป๋าเสื้อแล้วชักดาบพร้อมกับพุ่งตัวออกไป

                อะ

                แต่ก็ต้องชะงักเท้าเพราะจับสัมผัสมุ่งร้ายกำลังตรงมาที่ตัวเอง อิงศรหันกลับไป

                ค้อนที่ปกคลุมด้วยสายฟ้ากำลังบินมาที่นี่

                วูฟล์เมอแรง

                อิงศรเหวี่ยงดาบออกไปเหมือนบูมเมอแรงและด้วยพลังของสกิลที่ร่ายเสริมเข้าไปทำให้ดาบถูกปกคลุมด้วยไฟสีฟ้าคราม ไฟก่อตัวเป็นหมาป่าและปะทะกับค้อนสายฟ้า ผลของการปะทะทำให้ทั้งค้อนและดาบกระเด็นไปตกคนละทิศละทาง

                ฟูมอลที่ขว้างค้อนนำมาก่อนตามมาทีหลังแล้วเหวี่ยงกำปั้นชกมาทางนี้แต่อิงศรอ่านทางแล้วหลบมัน

                อย่างไรก็ตามการถูกขัดขวางทำให้เข้าไปช่วยกวินทร์กับไทเทเนียมไม่ทันแล้ว

                ออร์ฟี่ช่วยที

                เข้าใจแล้ว

                ออร์ฟี่ซึ่งยังคงอยู่ในร่างไฮพีเรี่ยนบินตรงไปทางการ์เวน

                ถ้าเป็นพลังของหมอนั่นตอนนี้น่าจะหยุดได้

                ตัวยุ่งยากอย่างแกเนี่ยถึงจะเทิร์นออฟไม่ได้แต่มันก็ยังมีวิธีจัดการอยู่ล่ะนะ

                การ์เวนกล่าว

                ทันใดนั้นก็มีไพ่ปรากฏขึ้นมาสามไพ่หลังจากที่ใช้ไปหมดแล้ว

                ไพ่ที่ทิ้งเป็นค่าให้ไมเซอร์คือแอคชั่นการ์ด คัมภีร์เวทปีศาจ ไนอะลาโทเทป 4:3’ ถ้าถูกทิ้งไปและบนมือไม่มีไพ่จะจั่วได้สามใบ

                การ์เวนเลือกไพ่หนึ่งในนั้นแล้วใช้มันกับออร์ฟี่

                แอคชั่น! เวทมนตร์เคลื่อนย้ายต่างมิติ ’4HL1’ ทรัคซัง ไปเที่ยวต่างโลกซักแปบหนึ่งแล้วกัน

                ไพ่ส่งเสียงดังฟุ่บแล้วหายไป ต่อมามิติเบื้องหน้าก็ฉีกออกและมีเสียงคำรามของเครื่องยนต์ 150 แรงม้าดังกระหึ่มออกมาจากรอยแยกมิตินั่น

                หา...

                ออร์ฟี่ชะงักเอากลางทางเพราะไม่อย่างนั้นจะทะลุเข้าไปในรอยแยกมิติแต่กลับมีบางอย่างพุ่งออกมา

                รถบรรทุกนั่นเอง

                อุบ

                ออร์ฟี่ถูกรถบรรทุกชนใส่จากนั้นมิติด้านหลังก็แยกตัวออกเป็นรอยแยกเหมือนกับที่รถบรรทุกพุ่งออกมา ออร์ฟี่ถูกรถบรรทุกดันหายเข้าไปในรอยแยก

                ออร์ฟี่!

                อิงศรมองด้วยสายตาเหลือเชื่อ แต่ว่าออร์ฟี่ที่เป็นความหวังเดียวหายไปแล้ว

                ภายหลังจากนั้นก็มีหน้าจอระบบปรากฏขึ้นมา หน้าจอลอยอยู่ตรงจุดที่ออร์ฟี่หายไปและมันกำลังฉายภาพของออร์ฟี่

                สถานที่ในหน้าจอนั่นคือห้องโถงในพระราชวัง

                ในฉากคล้ายกับเกมผจญภัยแบบสมมติบทบาท

                ที่พระราชากับพวกขุนนาง จอมขมังเวทย์ที่ปรึกษา มารวมตัวกันรอต้อนรับผู้กล้าที่ถูกอัญเชิญมาช่วยกอบกู้อาณาจักร

                และออร์ฟี่ก็คือผู้กล้าคนที่ว่า

                ออร์ฟี่ถูกห้อมล้อมด้วยสถานการณ์ประหลาดจนตอบสนองและทำตัวไม่ถูก

                การ์เวนพูด

                ขอตั้งชื่อเรื่องว่าเครื่องทำสวนเกิดใหม่เป็นผู้กล้าหน้าตายที่ต่างโลกก็แล้วกันถ้าเคลียเนื้อเรื่องปราบจอมมารไม่ได้ก็จะไม่ได้กลับมาคงถ่วงเวลาได้ซักพักเนอะ

                แล้วหันไปเพื่อจะฆ่าไทเทเนียม

                อิงศรคิดจะยิงเพื่อสกัดแต่ก็ถูกขัดขวางโดยฟูมอล

                โธเว้ย ขืนเป็นแบบนี้

                จะต้องเสียพวกพ้องไปอีกโดยที่ทำอะไรไม่ได้เลยอย่างนั้นเหรอ

                ในตอนนั้นเอง

                คู่ต่อสู้ของแกคือฉันไม่ใข่รึไง

                แฟรนเซียมก็พุ่งเข้ามาจากทางด้านหลังใช้ดาบเสียบท้องฟูมอลแล้วดันออกไปให้ห่าง

                มัวเหม่ออะไรอยู่อิงศร

                พลางพูดเรียกสติเขา

                พอตั้งสติได้ก็พบว่าเส้นทางเปิดแล้วแถมไทเทเนียมก็ไม่ได้อยู่เฉยรอให้การ์เวนฆ่า

                มีดเงาจำนวนสามสิบว่าเล่มหล่นเกลื่อนพื้นรอบตัวเธอนั่นน่าจะใช้เวลาช่วงที่พวกเขาขัดขวางศัตรูทำขึ้นมา

                คงไม่ได้คิดว่าฉันจะอยู่เฉยมองนายรังแกน้องฉันหรอกนะ

                ไทเทเนียมพูดด้วยสีหน้าจริงจัง หล่อนแสดงออกอย่างตรงไปตรงมาจนนีกภาพของเธอคนก่อนที่เคยเคียดแค้นกวินทร์ไม่ออกเลย

                ไทเทเนียมกำลังโกรธที่กวินทร์ถูกเล่นงาน

                ถ้าใช้ความรู้สึกนั่นของหล่อนก็อาจจะรวมพลังกันขับไล่ราหูออกไปได้

                อย่างไรก็ตามหล่อนเป็นคนที่เก่ง

                เก่งมากๆ

                อิงศรรู้ว่าแทบจะไม่ต้องเข้าไปช่วยหล่อนก็คุมสถานการณ์ได้หมด

                นายบอกว่าที่นี่ไม่ต้องใช้ยูนิทก็ใช้ท่าไม้ตายได้สินะแต่ว่าสกิลของฉันมันติดเงื่อนไขทำลายอาวุธอยู่

                หืม จะใช้ไอ้นั่นน่ะเหรอ

                การ์เวนพูด

                เอนแชนท์รีชาร์จ ทำลายอาวุธเสริมพลังทั้งหมดแล้วเปลี่ยนเป็นยูนิทธาตุตามอาวุธ

                ไทเทเนีนมร่ายสกิล

                วินาทีถัดมามีดเงาบนพื้นก็แตกสลาย ยูนิทสีดำจำนวนสามสิบดวงลอยออกมาจากตรงนั้น บินมาโคจรรอบตัวหล่อนเหมือนเป็นดาวบริวาร

                เหล่าดาราที่สูญเสียแสงแห่งชีวิตจะก่อกำเนิดโมงยามแห่งความมืด

                ด้วยคำร่ายสกิลที่ไทเทเนียมกล่าว ยูนิททั้งหมดที่เป็นเหมือนกับดาวบริวารจึงเริ่มเคลื่อนไหว

                ไม่ให้ทำได้หรอก

                การ์เวนพูดแล้วดึงดาบที่เสียบท้องกวินทร์ออก กวินทร์ทรุดตัวลงคุกเข่ากับพื้น

                ไม่ได้ผลหรอกน่าสกิลนี้ตอนที่ร่ายจะไม่ถูกขัดขวาง

                เป็นไปตามที่ไทเทเนียมพูด

                เมื่อการ์เวนขยับเข้าไปใกล้ก็ถูกขวางโดยกำแพงที่มองไม่เห็นซึ่งสร้างขึ้นด้วยพลังคุ้มครองจากเครื่อวทำสวนที่เรียกออกมาตอนร่ายสกิลนี้ เครื่องทำสวนศักดิ์สิทธิ์เซปทรูสตาร์ในร่างมนุษย์ครึ่งวิหกปรากฏตัวรางๆ ที่ด้านหลัง

                ประวัติศาสตร์จะหยุดนิ่ง ราตรีจะเยือกแข็ง ป่าวประกาศเวลาแห่งการสูญสิ้น

                ยูนิทจับตัวรวมกันสองดวงกลายเป็นโดรนสีดำ

                ชุดของไทเทเนียมถูกเปลี่ยนด้วยพลังของสกิลและ นี่คือสกิลท่าไม้ตายที่เคยทำพวกเขาหืดขึ้นคอมาแล้ว

                รวมร่างเกราะมาร เวพ่อนไนซ์ แวริเอเบิลไนท์!

     

    [Weaponize! Variable Night  Lv(1/1)

    Element: Dark

    Attribute: Ultimate, Transform, Shadow, Awakening

    (Cast Cost) ทำลายอาวุธเงาตั้งแต่ 30 ชิ้นขึ้นไป , ร่าย เหล่าดาราที่สูญเสียแสงแห่งชีวิตจะก่อกำเนิดโมงยามแห่งความมืด ประวัติศาสตร์จะหยุดนิ่ง ราตรีจะเยือกแข็ง ป่าวประกาศเวลาแห่งการสูญสิ้นรวมร่างเกราะมาร’;

    ขณะร่ายสกิลนี้จะไม่ถูกขัดขวางและไม่ได้รับดาเมจ , ล้างสถานะทั้งหมดออกแล้วTransform (Transform: ไม่ถือเป็นสถานะ ไม่มีระยะเวลาคงอยู่ ไม่สามารถถูกล้างได้ ไม่ถูกยกเลิกหรือทำให้ไร้ผล) ทุก Awakening Black Unit 2 หน่วยจะกลายเป็น Shadow Arm; รับพลังจากอวตารแห่งกลุ่มดาวพรหมจรรย์ ทรงฉลองพระองค์เป็นเจ้าหญิงแห่งดวงดาวผู้หยุดยั้งประวัติศาสตร์]

     

                ทันทีที่ร่ายสกิลไม้ตายเสร็จหล่อนก็สั่งให้เดม่อนแอพทำงานทันที

                เดม่อนแอพมาสเทม่าทำให้ฉันไม่รับความเสียหายจากการโจมตีปกติแต่จะรับความเสียหายจากสกิลเป็นสองเท่า

                ผลของเดม่อนแอพทำให้มีปีกเหมือนทูตสวรรค์กางออกมาจากแผ่นหลังของหล่อน

                ปีกสีดำสนิทโบกกระพือสลัดขนนกหล่นกระจายไปทั่วบริเวณแล้วหายไป

                เท่านี้คอมโบผสานระหว่างเดม่อนแอพกับสกิลไม้ตายก็เสร็จสมบูรณ์

                แต่ด้วยพลังของแวริเอเบิลไนท์ทำให้ยับยั้งการใช้สกิลได้เท่ากับจำนวนของโดรนที่มีและการคูลดาวน์สกิลที่ใช้ไปแล้วต่อหน้าฉันจะถูกแช่แข็ง

                ไทเทเนียมพูด

                คอมโบของไทเทเนียมถูกนำออกมาใช้ในสถานการณ์นี้นับว่าพึ่งพาได้มากทีเดียว

                ด้วยการผสานระหว่างแวริเอเบิลไนท์ที่หยุดยั้งสกิลและมาสเทม่าเดม่อนแอพที่ทำให้ไม่รับการโจมตีตามปกติ ทำให้หล่อนแทบจะเป็นอมตะ

                ทว่า

                นี่สินะ มาสเทม่าแวริเอเบิลเอนด์ ก็ไม่เห็นจะเท่าไหร่เลยนี่

                การ์เวนกลับพูดออกมาอย่างง่ายดาย น้ำเสียงก็ไม่เหมือนกับว่าจะเป็นการบลัฟด้วยคำพูดด้วย

                แค่ทำให้เดม่อนแอพหรือสกิลใบ้การไม่ได้อย่างใดอย่างหนึ่งก็จบแล้วนี่

                การ์เวนกล่าวอย่างมั่นใจ

                เนออน สละตัวเองทำให้เดม่อนแอพหยุดการทำงานทั้งสนามซะ

                แต่ถ้าใช้สกิลล่ะก็ทางนี้ก็สามารถยับยั้งได้น่ะ ไปเลย มาสเตอร์โพรเทคชั่น

                เฮ้ยๆ ลืมอะไรไปรึเปล่าพลังยับยั้งของเธอมันไม่ใช่การห้ามใช้สกิลซักหน่อยแค่ทำให้ความเสียหายกับผลของสกิลที่จะเกิดกับตัวเองไร้ผลไม่ใช่เรอะ แบบที่อิงศรใช้เดม่อนสกิลทำลายความทนทานอาวุธของเธอไงสกิลของเนออนไม่ได้เล็งเป้าไปที่เธอแต่เป็นสนามนี้ทั้งหมดต่างหาก

                ว่าไงนะ!

                ไทเทเนียมทำหน้าเชื่อที่พูดมาไม่ลง

                แต่อิงศรคิดว่านั่นอาจจะเป็นความจริงเพราะตัวเขาเองก็ใช้วิธีนั่นล้มคอมโบของหล่อนมาก่อน

                หนีเร็วเข้า!

                แต่มันสายเกินไป

                ตอนที่รู้ตัวว่าอีกฝ่ายเตรียมแก้ทางไม้นี้ไว้ตั้งแต่แรกมันก็สายเกินไปแล้ว

                น่าจะรู้ตั้งแต่ตอนที่มันเล็งเป้ามาที่ไทเทเนียมแล้วนั่นหมายความว่าจะต้องเตรียมรับมือกับคอมโบที่แก้ได้ยากของหล่อนเอาไว้ด้วย

                ร่างของเนออนที่อยู่ไกลออกไปแตกสลายลง

                เดม่อนแอพทั้งหมดหยุดการทำงานอย่างที่การ์เวนบอก อิงศรที่คิดจะเรียกเอลิกอร์ให้ไปขัดขวางก็ทำไม่ได้

                ปีศาจเพียงตัวเดียวที่ยังลอยหน้าบอยตาอยู่ในสนามรบนี้มีแค่เมอร์คาบาห์ที่ไม่รู้ทำไมถึงไม่ได้รับผลกระทบนั้น

                แต่ต้องฝากความหวังแล้ว

                เมอร์คาบาห์ใช้เมสไซอาร์บัสเตอร์

                เรื่องยูนิทฉันจัดการเอง

                แฟรนเซียมส่งเสียงบอก เนื่องจากในสนามรบไม่มียูนิทเหลือให้เมอร์คาบาห์ดูดไปเป็นพลังงาน พลางก็แทงดาบใส่ฟูมอลแต่อีกฝ่ายหลบได้

                เอเลเมนทัลชาร์จ (Elemental Charge)”

                จากนั้นจึงร่ายสกิลพร้อมกับไถลมือไปบนตัวดาบทำให้พลังแห่งธาตุทั้งห้า ดิน น้ำ ไฟ ไม้ ทอง ห่อหุ้มตัวดาบจนเกิดเป็งแสงสีทั้งห้าเปล่งประกายออกมา

                นี่เป็นสกิลเสริมพลังอาวุธเหมือนกับพวกเวพอนเอนแชนท์เตอร์แต่มันเป็นสกิลของบิลด์คลาสอาร์คชาแมนและการเสริมพลังนี้ก็มีผลต่อการโจมตีเพียงครั้งเดียว

                แฟรนเซียมงัดดาบขึ้นทั้งท่านั้น การแทงก่อนหน้าเป็นการปิดทางหนีเพื่อปูเส้นทางให้ดาบนี้

                พลังของสกิลล้วนๆ ไม่รุนแรงพอจะปลิดชีวิตได้แต่ถ้ารวมกับพลังของราชามนุษย์ต่างดาวแล้วล่ะก็

                ย้าก

                หลังเสียงคำรามดาบของแฟรนเซียมก็ผ่าร่างฟูมอลออกเป็นสองส่วนศัตรูตายในทันที พลังธาตุที่เคลือบอยู่บนตัวดาบจึงกระจายออกมาเป็นยูนิทจำนวนห้าอันอันละธาตุ

                นี่คือจุดประสงค์แต่แรกของแฟรนเซียม ทีนี้ในสนามรบก็จะมียูนิทให้เมอร์คาบาห์แล้ว

                แต่ทว่า

                เฮ้ เมอร์คาบาห์

                แต่เทวทูตของอิงศรกลับไม่ยอมตอบสนองต่อเสียงเรียก

                แล้วการ์เวนก็พูดขึ้นมา

                เมอร์คาบาห์ก็โดนสกิลของเนออนด้วยนะเพราะวั้นถึงขยับตัวไม่ได้ไงล่ะ

                ในตอนที่มันลงมือกับไทเทเนียมไปแล้ว

                อ๊า!!

                ไทเทเนียมกรีดร้อง หล่อนถูกเสียบจากด้านหลังทะละออกมาที่หน้าอก ใบดาบลำแสงเผาทำลายอวัยวะภายในของเธอ

                อั่ก อึก

                หล่อนกระอักเลือดจากนั้นก็ทรุดตัวลงพลังขีวิตลดลงอย่างฮวบฮาบ

     

    Titanium Lv. 100

    [//...9800:27000.....]

     

                ต่อหน้าต่อตากวินทร์

                การ์เวนมันจงใจให้เป็นแบบนั้นหลังจากเสียบทะลุร่างหล่อนก็จัดแจงหันตัวเธอให้ใบหน้าที่แสดงความเจ็บปวดทรมานจนดูไม่ได้หันไปทางกวินทร์พอดิบพอดี

                การ์เวนเริ่มพูด

                อา รู้สึกนึกถึงวันเก่าๆ ขึ้นมาเลย

                พูดด้วยใบหน้าของกวินทร์ที่มาจากโลกคู่ขนาน

                นายเองก็เคยฆ่าเธอมาแล้วนี่นะผมเองก็เหมือนกันฆ่าเธอแล้วย่ำยีหัวใจเธอนายมันเลวประมาณนั้นเลยล่ะ

                พูดว่าตัวเองฆ่าพี่สาวลูกพี่ลูกน้องเหมือนกับกวินทร์

                บอกว่ากวินทร์เป็นเหมือนกับมัน

                ไม่รู้ว่าในโลกที่แตกต่างไปจากตอนนี้ใบนั้นเกิดอะไรขึ้น

                กวินทร์จากโลกใบนั้นบิดเบี้ยวไปจากตอนนี้ถึงขั้นไหน

                แต่ความเป็นจริงก็คือมันกำลังจี้จุดกวินทร์ด้วยข้อเท็จจริงที่เคยฆ่าไทเทเนียมไปในคราวที่บุกวัดอารย-สนธยา

                หยุดนะ

                อิงศรพูดแทนกวินทร์ที่ไม่สามารถพูดได้เพราะบาดแผลโดนแทงที่ท้อง

                ต้องหยุดไม่ให้มันฆ่าไทเทเนียมไม่อย่างนั้นกวินทร์คงได้เสียสติแน่

                เทคนิคัลเวพ่อน

                อิงศรเปลี่ยนธนูเป็นหน้าไม้แล้วระดมยิงใส่การ์เวนหวังให้มันถอยจากไทเทเนียมแต่ก็ถูกมองออกว่าเป็นการยิงขู่และนัดที่จะยิงโดนตัวมันจริงๆ ก็ถูกปัดออกไปอย่างง่ายดาย

                ทำอะไรไม่ได้แล้ว

                ไม่ทันแล้ว

                วินาทีที่การ์เวนเงื้อดาบอีกข้างขึ้น ปากของไทเทเนียมก็ขยับและส่งเสียงอย่างแผ่วเบา

                เขาไม่ได้ยินที่หล่อนพูดแต่พออ่านปากได้

                ขอโทษ

                มันเป็นข้อความที่ส่งถึงกวินทร์ หล่อนขอให้ยกโทษ

                ไม่ว่าจะขอโทษเรื่องที่เคยทำเอาไว้ก่อนจะมาเป็นพวกเดียวกันหรือขอโทษที่ไม่สามารถมีชีวิตรอดทั้งที่พวกเขาทุ่มตัวปกป้องเธอก็ตามคำพูดนั้นก็ได้เผาฟางเส้นสุดท้ายไปแล้ว

                ฉัวะ เสียงน่ารังเกียงดังขึ้น

                ใบดาบลำแสงของการ์เวนตัดผ่านร่างของเธอในแนวทแยงทำให้พลังชีวิตกลายเป็นศูนย์

                ร่างกายของหล่อนแตกสลายกลายเป็นฝุ่นละอองลอยไปหากวินทร์

                ราวกับจะบอกลา

                พี่

                กวินทร์พยายามจะจับฝุ่นละอองเหล่านั้นไว้แต่มันก็หายไปเสียก่อน

                และแล้ว

                อึกอะ…”

                มันก็ได้ปลุกปีศาจในตัวของเด็กหนุ่มขึ้นมา

                ปีศาจที่กวินทร์พยายามข่มเก็บมันไว้

                ปีศาจที่ชื่อว่าความโกรธนั่นกำลังจะทำให้เขาเสียสติ

                ว้ากกกกกกกกกกก!!!!!!!

                กวินทร์!

                อิงศรพยายามจะเรียกสติรุ่นน้องกลับมาแต่กวินทร์ไม่ฟัง

                รุ่นน้องถีบตัวกระดอนออกไปจากท่านั่งคุกเข่าโดยลืมความเจ็บปวดจากบาดแผลที่ท้องไปทั้งหมด

                นี่คือพันธะสัญญาว่าจะร่วมเคียงบ่าเคียงไหล่ไปสู่เส้นทางทำลายล้าง

                พลางกล่าวร่ายสกิลไม้ตาย

                เพราะที่นี่เป็นมิติที่ช่วยให้ใช้สกิลได้โดยไม่เกี่ยงเงื่อนไขของยูนิทดังนั้นจึงร่ายได้ทันทีแต่กวินทร์ที่เสียสติอยู่จะคิดได้ถึงขนาดนั้นเลยหรือ?

                ไม่สิ เสียสติไปแล้วจริงๆ นั่นแหละแต่เพราะความแค้นทำให้สมองเค้นหาวิธีการที่ดีที่สุดที่จะฆ่าตัวเองจากโลกคู่ขนานคนนั้นออกมาอย่างแยบยลที่สุดต่างหาก

                จงกู่ร้องดาบที่ใช้ปลดพันธนาการสวรรค์!!'

                ท้องฟ้าด้านบนที่เป็นกระดานแสดงภาพสะท้อนของสนามรบเป็นเกมไพ่ถูกบดบังโดยเมฆที่ไม่รู้ที่มา

                เมฆค่อยๆ แหวกตัวออก เครื่องทำสวนศักดิ์สิทธิ์รูปกระต่าย จูลลับบิทตาร์ตกลงมาจากที่นั่น

                กีก้าสลาฟแรคน่าบัสเตอร์!!!

     

    [Giga Slave, Ragna-Buster Lv(1/2)

    Element: -

    Attribute: Ultimate , Physical Attack  , Special Attack ,  Awakening

    (Cast Cost) 4 Awakening Unit (สีต้องไม่ซ้ำกัน), ร่าย 'นี่คือพันธะสัญญาว่าจะร่วมเคียงบ่าเคียงไหล่ ไปสู่เส้นทางทำลายล้าง จงกู่ร้องดาบที่ใช้ปลดพันธนาการสวรรค์!!'; อัญเชิญอวตารแห่งนักษัตรกระต่าย จู่โจมด้วยดาบแห่งการทำลายล้าง ความเสียหายจะเกิดแก่เป้าหมายเดี่ยว หากความเสียหายทำให้ถึงตายจะไม่สามารถหักล้างความตายนั้นได้ (สามารถร่ายสวนกลับ Ultimate Skill ได้โดยจะเกิดผลก่อน)]

     

                จูลลับบิทตาร์เปลี่ยนตัวเองเป็นดาบแล้วพุ่งใส่การ์เวน

                จู่ๆ เจ้านั่นก็คืนร่างเป็นราหูแล้วหยิบไพ่ใบใหม่ขึ้นมา

                กำลังรออยู่เลยจังหวะที่ใช้สกิลท่าไม้ตายใส่ข้าคนนี้

                ว่าแล้วเชียวเจ้านั่นมันเล็งเก็บกวินทร์ไปพร้อมกันตั้งแต่แรก

                หยุดนะกวินทร์!

                แต่คำพูดของอิงศรหยุดอะไรไม่ได้อีกแล้ว

                ไรท์เป็น เวิร์สแอกเกรเซอร์แห่งแสงจรัสมิทธริล

                ราหูใช่ไพ่แล้วเปลี่ยนร่างเป็นผู้รุกรานคนใหม่

                ผู้รุกรานมิ่งขวัญ

                สกิลเคาท์เตอร์อัลติเมททำงานใช้สวนท่าไม้ตายของอีกฝ่าย รับไปซะหอกสังหารที่ทะลวงข้ามเหตุและผล เกโบล์กแนก!!

                มิทธริลแทงดาบที่ถือติดมาไปข้างหน้า ใบดาบเป็นแบบสามใบซ้อนทบกันกางออกเหมือนตรีศูลแล้วปลดปล่อยลำแสงอันแหลมคมเหมือนหอกพุ่งออกไป

                ทั้งที่มันยังอยู่ในขอบเขตหยุดเวลาของมิติท่าไม้ตายของกวินทร์แต่หอกสังหารนั่นก็พุ่งเสียบทะลุหน้าอกซ้ายของกวินทร์และทำลายหัวใจ

     

    กวินทร์ Lv.144 [.....0:82200…..]

     

                กวินทร์!!!

                อิงศรตะโกน

                ร่างกายของรุ่นน้องกำลังจะสลายไป

                ในตอนนั้นเอง

                มิ่งขวัญที่ถูกทำให้กลายเป็นไพ่ก็หลุดจากพันธนาการ

                ออร์ฟี่ที่โดนส่งไปเป็นผู้กล้าที่ต่างโลกก็จบเนื้อเรื่องหลังจากสังหารจอมมารลงได้และหวนคืนสู่สนามรบ

                ทันเห็นวาระสุดท้ายของกวินทร์ที่เกิดขึ้นเพราะความไม่เอาไหนของตัวเอง

                อิงศรตำหนิตัวเองที่นึกลังเล

                ถ้าหากว่าใช้อาคานาร์ของพวกพ้องเรียกใครซักคนออกมาก็อาจจะเปลี่ยนแปลงความจริงที่แสนเลวร้ายนี่ได้

                ทั้งหมดนี่เป็นความผิดของพี่

                มิทธริลหรือมิ่งขวัญจากโลกคู่ขนานพูด

                อิงศรจ้องมองเจ้านั่น

                “….”

                แล้วคิดว่าค่อนข้างคล้ายกัน...

                ไม่สิ นั่นคือมิ่งขวัญจากโลกคู่ขนานที่เคยสละตัวเองช่วยพวกเขาเอาไว้ก่อนหน้านี้อย่างแน่นอน

                เสียงของราหูพูดแทรกออกมาจากตัวของมิทธริล

                ได้ตายด้วยมือของมิ่งขวัญที่เคยช่วยเอาไว้แบบนี้รู้สึกสิ้นหวังจนว่างเปล่าขึ้นมาเลยใช่ไหมล่ะกวินทร์แต่มันยังไม่สายเกินไปที่จะแค้นหรอกนะเพราะเธอจะถูกส่งไปที่เพลนัลตี้บ็อกซ์เหมือนกับพี่สาวไงล่ะ และถ้าจะแค้นก็จงไปแค้นอิงศรที่ลังเลไม่ยอมเรียกพวกพ้องออกมานั่นแหละบ๊ายบาย

                ร่างของกวินทร์ที่สิ้นใจแล้วแตกสลายลงพร้อมๆ กับไม้ตายดาบเครื่องทำสวนที่หายไปเมื่อผู้ใช้ไม่อยู่อีกต่อไป

                ตอนนี้ในสนามรบเหลือ ออร์ฟี่ มิ่งขวัญ แฟรนเซียมและตัวเอง

                ส่วนฝั่งราหูเหลือแต่เจ้าตัวที่ใช้ร่างของมิ่งขวัญจากอนาคตอยู่

                มิทธริลพูด

                หลังจากที่พวกเธอหลบหนีไปแล้วมิ่งขวัญคนนี้ก็สู้จนตัวตายแต่ข้าได้มอบความหวังให้ในวาระสุดท้ายทำให้ได้เกิดใหม่มาอยู่กับครอบครัวและพวกพ้องแบบนี้อีกไงล่ะข้าใจดีใช่ไหมล่ะนี่แหละนโยบายของเทิร์นบริงเกอร์ กิฟแอนด์เทค ให้มาเราก็ให้ตอบแล้วสุดท้ายเราก็จะเทคโอเวอร์ทั้งหมดไปจนว่างเปล่า ฮะฮะฮะ

                แล้วก็หัวเราะ

                หัวเราะเยาะเย้ยโชคชะตาของผู้มีพระคุณต่อพวกเขาที่กลายมาเป็นนักโทษหุ่นเชิดของกังหันสีดำอันชั่วร้าย

                มิทธริลนั้นมีรูปร่างเหมือนกับผู้รุกรานคนอื่นที่เป็นตัวตนจากโลกคู่ขนานของพวกเขา

                แต่กลับมีสภาพที่น่าเวทนากว่ามาก

                มีปีกเหมือนพังพืดงอกออกมาจากแผ่นหลัง

                กังหันสีดำที่เป็นตัวแทนของการจองจำนั้นล็อกติดกับข้อมือทั้งสองข้างและมีอีกหนึ่งอันใหญ่กว่าอันอื่นๆ หมุนกวัดแกว่งอยู่เหนือศีรษะราวกับกงจักรพัดบนหัวเปรต

                น่าเบื่อเหลือเกินถ้าอิงศรไม่ยอมเรียกพวกพ้องออกมาให้ทำร้ายเพิ่มงั้นก็ไม่มีความหมายที่จะเล่นเกมต่อไปอีกแล้วจะทำให้จบด้วยมังกรแห่งความว่างเปล่าตนนี้แหละ

                ราหูกล่าวและหยิบไพ่ใบสุดท้ายบนมือมาใช้

                ไฮพีเรียลไรซ์

                แสงสว่างจากไพ่ห่อหุ้มร่างของมิทธริลเหมือนตอนที่ราหูกลายร่างเป็นมังกรครั้งแรก

                เงาร่างขยายใหญ่ขึ้นจนผิดรูปผิดร่าง กำลังเคลื่อนไหวอย่างพริ้วไหวอยู่ภายในแสงสว่างนั่น

                ดาราจุติมังกรคัดสรรต้นกำเนิดกงฟู่ (Star-Vatar Original Selection Dragon Gongfu)

                สิ้นคำแสงสว่างที่ปกปิดร่างของมันก็มอดหายไป

                กายเนื้อสีแดงฉานส่องสว่างเหมือนคบไฟเปล่งประกายอย่างน่าขนลุกขนพองปรากฏต่อสายตา

                ท่ามกลางมิติอันมืดมิดคล้ายห้วงอวกาศนี้มันเป็นเหมือนกับดาวยักษ์แดงดวงมหึมา

                ร่างกายยาวดั่งงูและมีปีกหกคู่ด้วยกัน

                กังหันสีดำแสดงความชั่วร้ายหมุนพัดอยู่ตรงปลายของแต่ละปีกและบนศีรษะ

                ราวกับเป็นทูตสวรรค์แห่งจุดจบ

                มังกรแดงร้องคำรามราวกับผู้ประกาศวจนะว่า

                "การสูญพันธ์คือต้นทุนของวิวัฒนาการ ความว่างเปล่าคือต้นทุนของทุกสรรพสิ่ง พวกเจ้าจงวิวัฒนาการเป็นเทิร์นบริงเกอร์"

                รูปร่างของมังกรที่แตกต่างกันมากกว่าหนึ่งเริ่มจะทำให้อิงศรนึกเป็นกังวลขึ้นมา

                ในขณะเดียวกันก็ฉุกคิดขึ้นมาด้วยว่าเหมือนเคยเห็นรูปลักษณ์อย่างนี้มาก่อน

                “….”

                ที่ไหนนะ

                เคยเห็นที่ไหนมาก่อนกันนะ

                เมื่อพยายามบีบเค้นความทรงจำมโนภาพหนึ่งก็ลอยขึ้นมา

                มโนภาพที่เคยเห็นมาแล้วนิมิตซึ่งเมอร์คาบาห์แสดงให้เห็นที่แชงกริล่า

                มังกรดำทั้งเก้าตนที่เผาสวนศักดิ์สิทธิ์

                นี่หรือว่าพวกแกคือมังกรเก้าตัวนั่นน่ะ

                เพิ่งจะมานึกออกเอาป่านนี้เรอะ ใช่นี่คือร่างของแม่ทัพทั้งเก้าแห่งแนวหน้าการรุกรานของจักรวรรดิเทิร์นบริงเกอร์ข้าใช้ไฮพีเรี่ยนเหล่านี้สู้กับซูลวานมาก่อนยังไงล่ะ

                .....

                ดังนั้นคงจะรู้ตัวแล้วสินะว่าไม่มีทางเอาชนะได้เพราะแม้แต่ซูลวานก็ยังต้องหนีหัวซุกหัวซุนเลยนี่แล้วพวกเจ้าที่เป็นเหมือนเบี้ยของซูลวานก็ไม่อาจเอาชนะได้อย่างแน่นอน

                “….”

                ไม่มีอะไรจะพูดแล้วสินะถ้างั้น

                “….”

                สกิลของมิทธริลที่ถูกไฮพีเรียลไลซ์ทับทำงานเทริ์นออฟไพ่หนึ่งใบ แฟรนเซียมหงายหน้าคว่ำไปซะ

                ชิ อีกแล้ว...

                แฟรนเซียมพูดก่อนจะกลายเป็นไพ่และถูกขังเอาไว้ในกังหันดำโดยที่ขัดขืนไม่ได้

                ราหูพูดต่อ

                ตามด้วยสกิลของกงฟู่ มิ่งขวัญเธอก็เทิร์นออฟไปด้วยอีกคนซะ

                ศร!”

                มิ่งขวัญพยายามจะพูดบางอย่างแต่ก็ถูกขังในไพ่เสียก่อนเพลิงดำก่อตัวเป็นกังหันล็อกไพ่ไว้อีกชั้นหนึ่ง

                ตอนนี้ในสนามรบเหลือแค่เขากับออร์ฟี่เท่านั้น

                อิงศร

                ออร์ฟี่เรียกเขา

                “….”

                ต้องทำอะไรซักอย่างแล้วนะ

                จะทำอะไรได้อีกล่ะสถานการณ์แบบนี้แล้ว

                มองไม่เห็นทางชนะเลย

                อิงศร....นี่เธอหมดกำลังใจไปแล้วเหรอ

                ดูเหมือนจะถูกออร์ฟี่อ่านใจไปแล้ว

                ก็อย่างที่เห็นนั่นแหละนะออร์ฟิอูคูมันนาร์มันจบแล้วเกมนี้ข้าคือผู้ชนะ

                ราหูพูด

                เมื่อตัวข้าโจมตีสกิลทำงานเทิร์นออนไพ่ทุกใบในสนาม

                กังหันที่ขังมิ่งขวัญกับแฟรนเซียมหายไปทั้งสองคนกลับคืนสภาพ

                ...เรอะ

                แฟรนเซียมยังคงลั่นคำพูดที่ค้างไว้ก่อนหน้า

                ศร! อะ...

                มิ่งขวัญตระหนักว่าสภาพรอบๆ เปลี่ยนไปเหมือนกับสติวูบไปช่วงหนึ่ง

                จากนั้นจั่วไพ่เท่ากับจำนวนนั้นจั่วสองใบแล้วก็....

                ไพ่ของราหูเพิ่มขึ้นมาสองใบ

                เทิร์นออฟอีกครั้งหนึ่งแฟรนเซียมหงายกลับไปซะ

                อะไรนะอีกแล้วเรอะ!”

                แฟรนเซียมกลับไปเป็นไพ่อีกครั้ง

                เหมือนกับโดนเล่นตลกอยู่อย่างไรอย่างนั้น

                ใช่ สำหรับราหูพวกเขาก็เป็นแค่หมากตัวหนึ่งบนกระดานที่จะทำตามใจชอบอย่างไรก็ได้ ทันทีที่เข้าใจความแตกต่างของพลังนี้ก็รู้สึกมืดมนขึ้นมา

                รู้สึกเหมือนสายตามืดบอดมองไม่เส้นเห็นทางใดๆ จะให้ก้าวเดินต่อไปแล้ว

                "จงสูญสิ้นเพื่อวิวัฒนาการจงดับสูญเพื่อเป็นหนึ่งเดียวกับความว่างเปล่า  อีโวลูชั่นเอ็กทิงค์ชั่น! (Evolution Extinction)"

                มังกรแดงสยายปีกทั้งหกออก กังหันดำที่ปลายปีกขดตัวเป็นก้อนกลม เริ่มเปล่งแสงและร้อนมากขึ้นกลายเป็นลูกปืนใหญ่ที่พร้อมจะยิง มังกรอ้าปากของมันแล้วพ่นไฟ

                ลำแสงทำลายหกสายกับลำธารไฟ การโจมตีกวาดล้างชนิดหลบไม่พ้นนั่นเล็งมาที่อิงศร

                มิ่งขวัญขยับตัว

                ศร!”

                พยายามจะเข้ามาป้องกันให้ แต่ทำแบบนั้นไปก็ไม่มีความหมายการโจมตีของศัตรูกินพื้นที่กว้างมากแล้วก็ยังดูรุนแรงมากด้วย

                อิงศรยิงสกัดก่อนเถอะ

                ออร์ฟี่เสนอความคิดและทำทันทีโดยไม่รอคำตอบใช้ทั้งลำแสงอมฤตและแส้ใบมีด

                เห็นด้วยกับความคิดนั้นเป็นอย่างยิ่ง มันไม่มีเวลากับที่ให้หลบแล้วมีแต่ต้องยิงสกัดไม่ให้การโจมตีมาถึงตัว

                แต่พลังของมังกรมีมากเกินไปแล้วก็ไม่รู้ทำไมเหมือนกันแต่มือที่จับหน้าไม้ถึงได้สั่นตลอดเวลา แทบจะเล็งเป้าไม่ได้เลย

                อิงศรใช้มืออีกข้างจับมือที่ถือหน้าไม้ไว้มันสั่นไม่ยอมหยุดหัวใจของเขากำลังหวาดกลัว

                กำลังกลัวว่าจะสูญเสียพวกพ้อง

                กลัวว่าจะแพ้

                กลัว

                กลัว

                กลัวไปหมดทุกอย่าง

                ลำแสงที่จะพุ่งมาที่นี่ถูกสกัดไว้หมดแต่ลำพระเพลิงที่มังกรพ่นออกมายังไม่ถูกยิงร่วงและมีแต่อิงศรที่อยู่ในทางไฟ

                วะ...เหวอออ!!”

                รู้สึกกลัวจนต้องกรีดร้องออกมา ไม่รู้ทำไมความกลัวถึงได้พองโตถึงขนาดนี้

                เขาเป็นไอ้ขี้ขลาดถึงขนาดนี้เลยเหรอ

                กลัวจนขยับเท้าไม่ได้ด้วยซ้ำ

                ไฟเคลื่อนที่เข้ามาใกล้จนแทบโลมเลียเส้นผม

                อิงศร

                ศร

                ออร์ฟี่กับมิ่งขวัญพยายามจะเข้ามาช่วยแต่มันสายเกินไป

                ไม่ทันแล้ว

                ทว่า ในตอนนั้นเอง

                ก็มีไพ่อาคานาร์ใบหนึ่งพุ่งออกไปจากกระเป่าเสื้อ ไพ่เปลี่ยนเป็นเมษา

                เมษาที่ออกมาเองชักแผ่นยันต์อาคมขึ้นมาใบหนึ่ง

                จักระโฮล (Chakra Hole)

                แล้วร่ายสกิลสร้างวงแหวนเหมือนกงจักรขึ้นที่ฝ่ามือพลางยื่นมันออกไป

                นั่นเป็นสกิลสำหรับย้ายเป้าการโจมตีมาที่ตัวเองเป็นสกิลที่ใช้ทำจังหวะใน อิงศรฟอเมชั่น รุ่นที่หนึ่ง

                อะ....เมษา!”

                เปลวเพลิงหักลำกะทันหันย้ายไปที่เมษาแทน

                ศร

                เมษาตะโกนมาพลางถีบตัวเพื่อลากไฟออกไปให้ห่างมากขึ้น

                ....

                นึกให้ออกเซ่ สัญญาที่ให้ไว้ก่อนจะมาที่นี่น่ะ!”

                ไฟครอกร่างเมษาเสียงกรีดร้องทรมานดังลั่นออกมาจากกองเพลิง

                เมษา!!”          

                ไฟไหม้อยู่ครู่หนึ่งก็ดับมอดสลายไปเหลือไว้แต่เมษาที่บาดเจ็บสาหัส

                อิงศรวิ่งเข้าไปรับร่างนั้นไว้ช่วยพยุงไม่ให้ล้ม

                เมษา!”

                แถบพลังชีวิตของเมษาว่างเปล่าไปแล้วร่างกายก็เริ่มจะแตกสลายแล้วด้วย   

     

    เมษา Lv. 144

    [.....0:77000.....]

     

                ย....อย่า.....

                เมษาเค้นแรงฝืนพูดออกมา

                อย่าเอาแต่เห็นหัวชาวบ้านสิฟระ...หัดมองหัวตัวเองบ้างเสะ...ไอ้บ้า

                หลังจากสั่งเสียแล้วร่างกายของเมษาก็แตกสลายไปทั้งหมด

                ยังไม่ตาย

                เมษายังไม่ตายแค่ถูกส่งไปที่เพลนัลตี้บ็อกซ์เท่านั้น

                เขาพร่ำบอกตัวเองเช่นนั้น ถ้าเอาชนะราหูได้ก็จะพาทุกคนกลับมาได้ ...แต่ว่า

                แต่ว่ามองไม่เห็นทางชนะเลย ถ้าอย่างนั้นทุกคนก็ต้องตายกันหมด

                ทั้งที่ต้องให้พวกพ้องมาปกป้องให้ ทั้งที่สูญเสียไปมากขนาดนี้

                แต่กลับไม่รู้สึกเศร้าโศกเลยภายในหัวใจมีแต่ความขลาดกลัวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

                อีกฝ่ายพูดเรื่องสัญญาที่ให้ไว้ก่อนหน้านี้แล้วก็....

                คำพูดที่บอกว่าอย่าเอาแต่เห็นหัวคนอื่น นั่นหมายถึงให้เลิกเกรงใจที่จะใช้พวกพ้องได้แล้ว เขาเองก็คิดว่ามันถึงเวลาที่จะต้องทำแบบนั้นเพราะไม่สามารถยื้อการต่อสู้ไปด้วยจำนวนเพียงแค่นี้มากไปกว่านี้ได้อีก

                แล้วก็...

                มองหัวตัวเองบ้าง...เหรอ

                อิงศรพยายามขบคิดว่าคำพูดนั้นหมายถึงอะไร

                หัวตัวเอง

                ให้มองหัว

                บนหัวเราเองเรอะ

                อิงศรเงยหน้าขึ้น แหงนหน้ามองขึ้นไปมองเห็นแถบพลังชีวิตของตัวเอง

     

    อิงศร Lv.144 (หวาดกลัว)

     [/////48000:48000/////]

     

                แล้วก็เจอสถานะผิดปกติที่ไม่รู้ว่าติดมาตั้งแต่เมื่อไหร่และเพราะตัวหนังสือของสถานะเป็นสีดำสนิททำให้แทบจะกลืนไปกับสภาพแวดล้อมรอบๆ จนไม่มีพวกพ้องคนไหนสังเกตเห็น

                ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน

                เป็นเพราะสถานะผิดปกตินี่เองทำให้เขาไม่เป็นตัวของตัวเอง

                มันเริ่มขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่กัน

                ตั้งแต่ตอนไหนกันที่เริ่มกลัวจนหัวหดแบบนี้

                ตอนนั้นน่ะเอง

                ที่ฆ่ากฤษณะที่เอาตัวเข้ามากันไมเซอร์ที่เล็งยิงไทเทเนียม

                จากนั้นก็มีเสียงดังมาจากด้านหน้า

                ความแตกแล้วก็ช่วยไม่ได้ล่ะนะ

                เป็นฝีมือแกสินะราหู

                อิงศรมองไปทางมังกรแดง

                ฝีมือของกฤษณะหรอกเจ้านั่นมีสกิลติดตัวเมื่อถูกทำลายจะสร้างสภาวะหวาดกลัวที่ทำให้ความสามารถโดยรวมลดลง

                ตอนนั้นเอง ผนึกที่ขังแฟรนเซียมไว้ก็คลายออก

                ชิ เป็นถึงขนาดนี้แล้วเหรอเนี่ย

                ราชามนุษย์ต่างดาวทำความเข้าใจต่อสถานการณ์หลังจากที่ตัวเองถูกผนึกไปได้อย่างรวดเร็ว อันที่จริงแล้วสถานการณ์มันแทบไม่ต่างจากเดิมพวกเขายังคงเสียเปรียบศัตรูทุกทาง

                ทั้งจำนวนและพลัง

                อิงศรนายคงไม่ได้คิดอยู่หรอกนะว่าจะใช้คนเพียงแค่นี้โค่นเจ้านั่นได้จริงๆ น่ะ

                “....”

                อิงศร!!!

                เขารู้มาตั้งแต่แรกแล้ว

                รู้มาตั้งแต่ที่เตรียมใจจะเหยียบเท้าลงสู่สนามรบสุดท้าย

                รู้อยู่แล้วว่าทุกคนอาจจะไม่ได้กลับไปพร้อมกันทั้งหมดในการต่อสู้คราวนี้

                แต่ถึงจะทำใจแข็งอย่างไร ถึงจะกัดฟันทำเป็นเข้มแข็งก็ตาม

                ฉันไม่อยากเสียพวกนายไป!

                อิงศรตะโกนแล้วลุกขึ้น

                แต่ถ้าไม่เดินหน้าออกไปในตอนนี้อาจจะต้องสูญเสียหมดทุกอย่าง

                บ้าเอ้ย

                บ้าเอ้ย

                ทั้งที่รู้เรื่องนั้นดีอยู่แล้วแท้ๆ

                เพราะงั้นแล้วช่วยมาเป็นพลังให้ฉันด้วยทุกคน!!

                แล้วล้วงมือลงไปในกระเป่าเสื้อหยิบไพ่ทั้งหมดกางออก

                เรียกพวกพ้องออกมายังสนามรบ

                นรินท์ เน็กส์ ลิเธียม ออกมา!”

     

    ***ตอนที่ต้องลงเมื่อวันพฤหัสรู้สึกว่าถ้าลงไปแล้วอารมณ์มันจะไม่ต่อเนื่องกันเลยจับรวบกับตอนของวันอาทิตย์ซะเลยอาจจะยาวไปบ้าง สำหรับตอนนี้พยายามตัดทอนส่วนที่รู้สึกว่าเวิ้นเว้อ ออกไปพอสมควรแล้วแต่ก็ยังเยอะอยู่ดี =w=’ ตัวละครมันเยอะล่ะนะก็พยายามจะให้บทให้ครบทุกตัวแล้วไหนยังจะเสียเวลาไปนั่งหาข้อมูลมาทำสกิลบ้าๆบอๆ ให้ราหูอีกแอ่ววว เลยลากมาลงซะวันนี้เลยโอเมก้า เลยกะว่าจะแปะภาคผนวกเกี่ยวกับข้อมูลที่ใช้ในตอนนี้แต่ทำไม่ทันซะแล้วสิ =w=’ เลยสรุปย่อแทนละกันฮะ อ่านที่ข้างล่างนี่เลยเน่อ****

     

    คัมภีร์เวทปีศาจ ไนอะลาโทเทป 4:3 :

    ไพ่ที่ราหูใช้ใบนี้ เป็นการเอาชื่อจากตำนานคธูลูมาผนวกกับวรรคตอนของพระคัมภีร์ เป็นธีมสกิลที่คิดขึ้นมาไว้ให้ผู้รุกรานใช้ซึ่งคอนเซปแต่แรกคือ คธูลู อย่างเดียวครับส่วนวรรคตอนที่เลือกมา 4:3 นั้นมาจาก

    มาระโก 4:3 “จงฟังเถิด มีคนหนึ่งออกไปหว่านเมล็ดพืช

    ความสามารถที่ทิ้งไปแล้วได้ไพ่เพิ่มเลยเหมือนเป็นการหว่านเมล็ดพืชแล้วเก็บเกี่ยวผลในภายหลังนั่นเอง แต่เอาจริงๆ ในวรรคตอนของพระคัมภีร์นั้นเป็นการอุปมาเรื่องการเผยแพร่พระวจนะเพราะงั้นตรงนี้ไม่ได้เอาความเชื่อมโยงมาใช้อะไรเลยนอกจากท่อนที่ว่าแค่วรรคเดียวเลยฮะ

     

    เวทมนตร์เคลื่อนย้ายต่างมิติ ’4HL1’ ทรัคซัง :

    คิดว่ารีดหลายๆ ท่านน่าจะรู้จักมุกนี้มาบ้างกับการข้ามไปต่างโลกจากนิยายหลายๆ เรื่องในนี้เองหรือจะมาจากอนิเมะ หรือสื่อใดๆ ก็ตาม มุกการไปต่างโลกที่มักจะถูกพูดถึงหรือใช้พูดแซวอยู่ตลอดมักจะเป็นมุกโดนรถบรรทุกชนตายเลยไปเกิดใหม่เป้นอะไรต่อมิอะไรที่ต่างโลกบ้าง ซึ่งส่วนมากจะพบเจอแนวนี้จากสื่อญี่ปุ่นซะเยอะก็เลยเรียกรถบรรทุกที่พาไปต่างโลกกันแบบขำๆ ว่า ทรัคซัง นั่นเองส่วน 4HL1 นั้นเป็นชื่อรุ่นของเครื่องยนต์รถบรรทุกยี่ห้อหนึ่งครับ

     

    ดาราจุติมังกรคัดสรรต้นกำเนิดกงฟู่ :

    "การสูญพันธ์คือต้นทุนของวิวัฒนาการความว่างเปล่าคือต้นทุนของทุกสรรพสิ่งพวกเจ้าจงวิวัฒนาการเป็นเทิร์นบริงเกอร์"

    "จงสูญสิ้นเพื่อวิวัฒนาการ แล้วจงดับสูญเพื่อเป็นหนึ่งเดียวกับความว่างเปล่า Evolution Extinction"

    หนึ่งในเก้าแม่ทัพVoid Dragon แห่งกองกำลังดาราจุติ หรือที่เรียกขานกันว่า Nano Dragon(มังกรด้านลบทั้ง9) กงฟู่ควบคุมปัจจัยในการพัฒนาหรือวิวัฒนาการได้ ว่ากันว่ามันมีพลังฟื้นตัวที่วิวัฒนาการแล้วทุกครั้งที่มันถูกกำจัดก็จะฟื้นคืนชีพกลับมาแล้ววิวัฒนาการ จนกว่าจะโค่นล้มศัตรูได้

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×