ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Apocalypse Online เกมโกงวันโลกาวินาศ

    ลำดับตอนที่ #293 : Extra Log 289: ความตั้งใจที่จะก้าวเดินต่อไป

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 94
      4
      30 ธ.ค. 61

    Extra Log 289: ความตั้งใจที่จะก้าวเดินต่อไป

     

                ขณะเดียวกัน

                อิงศรที่มุ่งหน้าไปยังก้นบึ้งของโพรงลึกที่ใจกลางเมืองก็เดินทางคืบหน้ามาได้ซักพักแล้ว

                ไม่มีใครรู้ว่าเส้นทางนี้จะทอดยาวไปถึงไหนไม่รู้ว่าคืบหน้ากันมาเกินครึ่งทางแล้วหรือยัง

                ทัศนียภาพที่มองเห็นได้มีแต่ความมืดมิดกับแสงระยับเหมือนกับดวงดาวในอวกาศ แสงไฟซึ่งประดับรอบผนังทางเดินกว้างพอให้คนสามคนบินเรียงแถวไปพร้อมกันได้

                ดูคล้ายกับอวกาศ

                แต่ที่นี่ไม่ได้กว้างขวางขนาดเรียกว่าอวกาศแต่น่าจะเรียกว่าท้องฟ้าจำลองได้ใกล้เคียงกว่า แสงระยับที่ติดอยู่ตรมผนังมืดทึบพวกนั้นเป็นผงเรืองแสงที่ใช้ไซเบอร์อายยูนิทวิเคราะห์ออกมาได้ว่าพวกมันมีส่วนประกอบของอมฤตอยู่ในปริมาณสูงแล้วยังมีความคล้ายคลึงกับ ‘Awakening Unit’ ที่สะสมไว้ใช้สกิลหรือท่าไม้ตายด้วย

                ดังนั้นจึงคาดเดาเอาว่าราหูเตรียมที่นี่เป็นสถานที่สู้ตัดสินอย่างแน่นอน บางทีดวงดาวพวกนี้อาจจะเป็นแหล่งพลังงานสำหรับการใช้สกิลของพวกมัน

                ถ้าเป็นแบบนั้นพวกเราก็สามารถใช้ประโยชน์จากมันได้เหมือนกัน

                แฟรนเซียมให้ความเห็นไว้แบบนั้นแล้วพวกเขาก็มุ่งหน้าต่อไปโดยเก็บเอาความคิดที่ว่าจะใช้ประโยชน์จากสภาพแวดล้อมของศัตรูเอาไว้ เพราะถ้ายังต้องเสียเวลาไปมากกว่านี้ร่างไฮพีเรี่ยนอาจจะหมดเวลาก่อนจะได้เจอราหู

                ตอนนั้นเองเสียงตะโกนของแฟรนเซียมที่บินนำอยู่หน้าแถวก็ดังมา

                ศัตรูมากันแล้ว!

                คนอื่นๆ ที่ตามหลังมาหยุดบินโดยพร้อมกันต่างคนต่างก็ชักอาวุธออกมายกเว้นอิงศรที่บินล่วงไปข้างหน้า เขาบินอยู่ตรงกลางระหว่างแฟรนเซียมกับออร์ฟี่

                ที่เบื้องหน้านั้นมีศัตรูมาขวางอยู่สองคน เป็นเด็กหนุ่มสวมชุดผู้รุกรานที่มีใบหน้าเหมือนกวินทร์กับมิ่งขวัญอย่างกับแกะ

                เจ้าพวกนั้นมันมนุษย์ต่างดาวงั้นเรอะ

                นั่นคือข้อสรุปเท่าที่พอจะนึกออกได้ว่าตัวตนของสิ่งนั้นคืออะไรจากประสบการณ์ที่ผ่านมา

                เหตุการณ์ที่เจอคนหน้าเหมือนตัวเองหรือพวกพ้องมักจะเป็นมนุษย์ต่างดาว

                แต่ออร์ฟี่ก็พูดขัด

                ไม่ใช่หรอก

                แล้วก้าวล้ำหน้าแถวออกไปเล็กน้อย

                นั่นคือคาอินกับอาเบลพวกพ้องของอดัมน่ะ

                อิงศรเลื่อนสายตาไปที่ออร์ฟี่พยายามมองว่าตอนนี้กำลังทำสีหน้าแบบไหนอยู่ แต่ออร์ฟี่ไม่ได้แสดงสีหน้าออกมา ใบหน้าเขาเรียบนิ่งทั้งที่พูดเรื่องของอดัมอยู่

                ออร์ฟี่พูดต่อไปว่า

                ฉันอยากจะปกป้องพวกเขาทั้งหมดแม้จะต้องแลกด้วยทุกอย่างก็ตาม ยังจำวลีนี้ได้อยู่สินะอิงศร

                พูดกับเขาแต่ไม่หันมา

                อิงศรตอบกลับไปด้วยคำพูดอีกคำพูดหนึ่ง

                มนุษย์จะถูกกอบกู้โดยมนุษย์เท่านั้น

                ทั้งคำพูดที่เขาพูดและออร์ฟี่พูดต่างก็เป็นคำพูดที่อดัมเคยกล่าวไว้

                ออร์ฟี่พยักหน้ารับคำตอบนั้น

                เมื่อกลายเป็นซูลวานลอร์ดผมถึงได้ความทรงจำที่แท้จริงคืนกลับมา วันที่อดัมถูกขับไล่จากสวนนั่นน่ะแท้จริงแล้วคือวันที่อดัมเผยตัวว่าเป็นสปายและเปิดทางให้ราหูเข้ามาโจมตี คาอิน อาเบล และอีฟก็ด้วยทั้งหมดนั่นคือผู้รุกราน

                คำพูดนั่นหมายถึงศัตรูที่อยู่ตรงหน้าแต่สายตาของออร์ฟี่กลับหันมาทางนี้

                ข้อมูลของ มิ่งขวัญ กวินทร์ แล้วก็รูบิเดียมที่ไม่ได้อยู่ที่นี่มีต้นแบบมาจากผู้รุกราน

                พูดจนสองคนที่ถูกกล่าวถึงและอยู่ที่นี่แสดงสีหน้าประหลาดใจออกมา

                แล้วพริบตานั้นเอง

                แค่พริบตาเดียวๆ จริงที่อิงศรตอบสนองต่อความเคลื่อนไหวของออร์ฟี่ก่อนจะหายตัวไปแล้วไปปรากฏอยู่ด้านหลังของศัตรูทั้งสอง

                “…”

                ได้แต่จ้องมองร่างของศัตรูถูกฉีกเป็นชิ้นๆ โดยไม่ทราบวิธีการ ซากศพของผู้รุกรานแตกสลายไปเมื่อพวกมันตาย

                ออร์ฟี่หันใบหน้ากลับมาเพียงครึ่งเดียว

                ถึงจะเป็นศัตรูก็ตามเฉพาะ อดัมเท่านั้นที่ผมจะต้องช่วยให้ได้ จะต้องช่วยนายจากราหูให้ได้

                คำพูดนั่นเป็นสารที่ส่งมาถึงพวกเขา

                มันเป็นการแสดงความตั้งใจอันแน่วแน่ในแบบของออร์ฟี่

                นี่คือการก้าวไปข้างหน้าของนายงั้นสิ

                อิงศรพูด

                ก้าวไปข้างหน้าเพราะยึดติดกับอดีตน่ะเหรอขัดแย้งกันแบบนี้คือมนุษย์สินะ

                ใช่สิ ก็ตอนนี้นายเป็นมนุษย์

                แล้วก็เป็นพระเจ้าด้วย

                อิงศรพูด

                ออร์ฟี่ตอบรับด้วยการพยักหน้า

                ถ้าอย่างนั้นจะติดตามมารึเปล่าล่ะพระเจ้าที่ย้อนแย้งแบบผมเนี่ย

                พูดจบก็มุ่งหน้าต่อไปทันทีโดยไม่รอฟังคำตอบ

                แต่ไม่จำเป็นต้องฟังอยู่แล้ว พวกเขาไล่ตามไปทันทีโดยที่ไม่มีคำพูดใดๆ ไม่มีคำถามหรืออะไรทั้งสิ้น

                เพราะว่าเป้าหมายของพวกเขาทุกคนชัดเจนและเป็นหนึ่งเดียวกัน

                ไม่ว่าจะเป็นศัตรูกันมาก่อน

                ไม่ว่าจะเป็นพวกพ้องที่อ่อนแอหรือเข้มแข็งก็ตาม

                จุดมุ่งหมายเพียงหนึ่งเดียวที่มีให้ก้าวเดินต่อไปข้างหน้าได้ก็มีเพียงแค่

                ไปจัดการราหูกัน

     

                @@@@

     

                ราหู

                รูบิเดียมพูดด้วยสีหน้าหวาดกลัวอย่างถึงที่สุด

                เป็นความรู้สึกที่เพิ่งเคยเกิดขึ้นเป็นครั้งแรก

                ครั้งแรกเลยที่รู้สึกหวาดกลัวถึงขนาดนี้เมื่อราหูปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าพวกเธอที่ยังอยู่ในเขตแดนทะเลทรายของสัตว์เทวะ พวกพ้องที่แข็งแกร่งทยอยถูกจัดการไปทีละคนๆ ทุกคนถูกทำให้กลายเป็นไพ่จนกระทั่งเหลือแค่เธอคนเดียว

                อะอะอะ

                เธอพูดไม่ออก เนื้อตัวสั่นสะท้านไปด้วยความกลัวจับขั้วหัวใจแม้ว่าตอนที่รู้สึกตัวเมื่อหลุดจากภวังค์ความกลัวได้แล้วก็ยังต้องใช้เวลาอีกซักเล็กน้อยถึงจะรู้ว่าเธอถูกใครบางคนที่แทรกเข้ามาขัดขวางราหูช่วยเอาไว้และพาหนีออกมาจากที่นั่น

                อะอะดะ…”

                อดัม แค่คำสั้นๆ แค่นั้นก็ยังบังคับปากให้หยุดสั่นไม่ได้เลย

                รูบิเดียมย่อตัวลงและเพราะความกลัวทำให้ขาเริ่มจะไม่มีเรี่ยวแรงยืนทำให้เสียหลักจนล้มก้นคะมำพื้น

                “….”

                สถานที่คือบนดาดฟ้าของอาคารที่ไหนซักแห่งในรากอาคาชิก

                บริเวณขอบตึกถูกล้อมด้วยรั้วเหล็กสูงราวสองเมตรครึ่ง

                สายตาแห่งความกลัวจับจ้องไปที่เด็กหนุ่มผู้ช่วยเธออกมาจากสถานการณ์เป็นตายที่ต่อต้านไม่ได้

                ถ้าไม่ใช่เด็กหนุ่มก็เป็นพวกศัตรูด้วยความหวาดกลัวควจะบรรเทาลงกว่านี้

                ทำไมอดัมถึงช่วยเธอออกมาจากเงื้อมือของเจ้านายตัวเอง

                ทำไมถึงต้องเป็นเธอด้วย

                แม้อยากจะถามออกไปแต่ปากก็ยังไม่ยอมหยุดสั่นเสียที

     

                และแล้ว

                อีฟ ไม่สิ เอวา

                อดัมก็เป็นฝ่ายที่เริ่มพูดก่อน เขาเรียกเธอด้วยชื่อของมนุษย์ผู้หญิงในตำนานของคัมภีร์ไบเบิล

                ดูเหมือนว่า อีฟที่เป็นการอ่านชื่ออีกแบบหนึ่งของผู้หญิงคนนั้นจะใช้สำหรับเรียกเป็นชื่อเล่นเพราะเมื่อเปลี่ยนคำเรียกเป็น เอวาใบหน้าของเด็กหนุ่มก็ดูจริงจังขึ้นมา

                เพราะว่าออกห่างจากราหูมาได้ซักพักแล้วหรือเพราะคำพูดของอดัมก็ไม่รู้แต่ว่าความกลัวเหมือนจะเบาบางลงเหมือนถูกกลบด้วยบรรยากาศบางอย่าง เป็นบรรยากาศที่รู้สึกคุ้นเคยอย่างน่าประหลาด

                รู้สึกเหมือนกับว่ารู้จักกับอดัมคนนี้มาก่อน

                นาย...ต้องการอะไรจากฉัน ไม่สิ

                รูบิเดียมก้าวถอยไปข้างหลังเพียงเล็กน้อย ไม่ใช่ว่ากลัวแต่เพราะรู้สึกเหมือนถูกดึงให้เข้าไปหาสัญชาตญาณจึงพยายามรั้งตัวเองไว้นั่นเอง

                ทำไมนายถึงช่วยฉัน

                แล้วก็ถามคำถามไป

                เพราะว่าผมมีแต่เธอที่ผมจะสามารถฝากฝังได้

                อดัมพูด

                ฝากอะไร

                ความหวังสุดท้ายที่จะพลิกกระดานหมากของฝันร้ายนี้

     

                @@@@@@@

     

                ตอนที่นั่งรออยู่ที่เก้าอี้ของตัวเองก็นึกออกขึ้นมา

                นี่คือใครกันนะ?

                ข้าได้คิดขึ้นมาแบบนั้นเมื่อตอนที่การรุกรานของจักรวรรดิแห่งความว่างเปล่าเดินหน้าไปยังที่ไหนสักแห่งหนึ่ง

                เทิร์นบริงเกอร์คือร่างอวตารของเจตจำนงที่อยากจะกลับคืนสู่ความว่างของจักรวาลทั้งหมดด้วยเหตุนั้นพลังของผู้รุกรานจึงไม่เคยมีใครที่ต่อต้านมันได้

                ตัวข้าที่เคยคิดว่านี่เป็นเพียงกระบวนการที่ดำเนินไปตามกฎของความเป็นไปได้มาโดยตลอด จู่ๆ ก็เกิดความสงสัยขึ้นมาในวันหนึ่ง

                ไม่รู้ว่าที่นั่นเป็นยุคสมัยใด เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นมานานแล้วหรือว่าเป็นอนาคตหลังจากนี้ไม่ว่าทางใดก็เป็นไปได้เพราะว่ามันคือ ความเป็นไปได้ ถ้าให้พูดแบบเข้าใจง่ายก็คือ

                ข้อมูลจากตัวข้าที่อยู่ข้างนอกนั่นยังคงส่งมาที่เซิฟเวอร์หรือว่ามันเป็นแค่ของที่ถูกบันทึกเก็บไว้ก็ไม่รู้สินะ

                ราหูพูดโดยที่ยังหลับตาสนิท

                เขากำลังนั่งรำลึกความหลังหรืออาจจะเป็นความฝันก็ไม่อาจจะรู้ได้

                ความนึกคิดสิ่งที่ก่อให้เกิดการจดจำและการกระทำของแบบนั้นยังไม่รู้เลยว่าที่นี่จะมีอยู่รึเปล่า

                ที่ในโลกแห่งนี้ซึ่งเป็นเพียงชุดคำสั่งและข้อมูลปริมาณมหาศาลหมุนเวียนกันอยู่ภายในเครื่องเซิฟเวอร์นี่กำลังมีสิ่งที่เรียกว่า ความตั้งใจ เกิดขึ้นมา

                มโนภาพซึ่งรบกวนราหูและกำลังผุดแล่นอยู่ในหัวของเขาคือเรื่องราวที่ทำให้ตัวตนที่แท้จริงซึ่งเป็นผู้สร้างตัวเองขึ้นมา ไนแมร์โซดิแอก ผู้ที่สร้างเซิฟเวอร์นี้ขึ้นมามีสิ่งที่เรียกว่า ความตั้งใจ เกิดขึ้นเป้นครั้งแรก

                ในตอนนั้นเป็นช่วงที่การรุกรานของจักรวรรดิแห่งความว่างเปล่านี้รุดหน้าไปถึงโลกแห่งหนึ่งซึ่งผู้คนในโลกใบนั้นมีพลังพอที่จะต่อต้านได้แต่มันก็เป็นแค่การศึกที่ยืดยื้อกว่าครั้งไหนๆ เท่านั้นในไม่ช้าที่นั่นจะพังทลายอย่างแน่นอนเพราะว่าไม่มีสิ่งใดที่จะต่อต้านผู้รุกรานได้

                ในเวลาเช่นนั้นแหละที่ตัวของไนท์แมร์โซดิแอกผู้ที่น่าจะว่างเปล่าเหมือนดั่งเช่นสโลแกนของจักรวรรดิกลับนึกสงสัยในตัวของผู้ที่ต่อต้านขัดขืนขึ้นมาเป็นครั้งแรก

                เด็กหนุ่มคนนี้เป็นใครกัน?

                คำถามนี้ผุดขึ้นมาพร้อมกับมโนภาพเจ้าปัญหาที่ว่า ภาพของอิงศรที่ต่อสู้ร่วมกับเด็กหนุ่มที่ไม่รู้จักอีกคน

                เด็กหนุ่มสวมเสื้อโค้ทสีขาวมีลวดลายสีแดงแซมเล็กน้อยชายเสื้อเป็นแบบกระโปรงผ่าขาลากยาวเกือบถึงพื้นและสวมกางเกงยีนส์สีดำ

                ทีแรกความสงสัยมันก็ไม่ได้พุ่งเป้าไปที่ตัวเด็กหนุ่มคนนั้นหรอก แต่เป็นอาจารย์ของไนท์แมร์โซดิแอก

                คนๆ นั้น...ไม่สิ มังกรแห่งความว่างเปล่าตนนั้นถูกเรียกว่า มังกรแก่นสสาร เพราะมีพลังที่ควบคุมสสารทุกประเภทได้แล้วก็ยังเป็นผู้บัญชาการฝ่ายวางแผนที่มีเล่ห์เหลี่ยมมากที่สุดเรียกได้ว่าการรุกรานของจักรวรรดินั้นคืบหน้าไปได้ด้วยความสามารถของเขา เหยื่อของการรุกรานไม่มีรายไหนที่จะต่อต้านแผนการอันสมบูรณ์แบบของเขาได้ที่ผ่านๆ มาการรุกรานจึงเป็นของที่ง่ายจนน่าเบื่อแทบจะกลายเป็นชีวิตประจำวันก็ว่าได้

                แต่อาจารย์ผู้ที่สมบูรณ์แบบคนนั้นกลับให้ความสนใจในตัวเด็กหนุ่มที่ต่อต้านพวกเขา นั่นเองที่ทำให้ไนท์แมร์โซดิแอกใคร่รู้ในตัวของเด็กหนุ่มไปด้วยจึงเก็บข้อมูลกลับมาแล้วเริ่มสร้างเซิฟเวอร์นี้ขึ้นมาเพื่อวิเคราะห์ข้อมูล

                นี่คงเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมดสินะ

                เด็กหนุ่มคนนั้นเป็นใครกัน?

                ไม่รู้เลยไม่มีข้อมูลของเด็กคนนั้นเก็บเอาไว้ไม่ว่าจะในซอกหลืบใดก็ตาม

                รู้แค่ว่าในมโนภาพเจ้าปัญหานี่คนที่คอยหิ้วปีกเด็กคนนั้นให้ยืนหยัดต่อต้านทั้ง ความหวังและความสิ้นหวัง ที่จักรวรรดิยัดมอบให้คือ อิงศร โรจจุฬาน์ ผู้ซึ่งมีตัวตนจริงๆ ในโลกภายนอกหรืออาจจะมีชื่ออื่นก็ได้

                เพราะที่นี่ก็มีอิงศรตั้งหลายคนหลายแบบกระจายอยู่ตามโลกคู่ขนานที่เป็นข้อมูลทดสอบในรอบแต่ละรอบของการทดสอบนับไม่ถ้วนที่เกิดขึ้นภายในเซิฟเวอร์แห่งนี้

                อย่างไรก็ตามทุกคนมีชื่อว่าอิงศรเหมือนๆ กันหมดถ้าอย่างนั้น อิงศร ที่ตั้งให้กับข้อมูลของเด็กหนุ่มในโลกนี้ที่คล้ายกับเด็กหนุ่มคนนั้นก็คงจะเป็นชื่อจริงๆ ล่ะมั้ง

                มีเสียงบางอย่างดังแว่วมาราหูจึงเปิดเปลือกตาออก

                มีผู้บุกรุกเข้ามา

                มากันแล้วเหรอกำลังรออยู่พอดีเลย

                ภาพตรงหน้าตัวเองซ้อนทับกับมโนภาพที่กำลังคิดอยู่

                เธอเองก็เป็น อิงศรสินะ

                อีคริปส์พูดแล้วลุกจากเก้าอี้บัลลังก์ที่สร้างขึ้นมาจากก้อนหินและมีรูพรุนไปทั่วเหมือนกับหินอุกกาบาต

                ตอนนี้เขาอยู่ในร่างของชายเจ้าของร้านกาแฟที่เคยทำงานอยู่ที่ศูนย์บัญชาการของเมตไตรยก็เพื่อคอยติดตามดูอิงศร

                อิงศรผู้ที่ขับเคลื่อนเซิฟเวอร์นี้

                กุญแจไขปริศนาสุดท้ายได้มาอยู่ที่นี่แล้วจากนี้ไปปริศนาที่รออยู่ก็คือเด็กหนุ่มปริศนาคนนั้นคือใคร

                จะต้องรู้ให้ได้ ราหูสาบานไว้เช่นนั้นเพราะถ้ารู้แล้วงานค้นคว้าของที่นี่ก็จะเสร็จสมบูรณ์

                เพื่อการนั้นแล้วจะต้องทำพิธีกรรมสุดท้ายที่จะทำให้อิงศรกลายเป็นกุญแจไขความลับนี้

                พิธีกรรมนั้นคือ.....

     

                โปรดติดตามตอนต่อไป

     

    ***ลากยาวมาถึงสิ้นปีจริงๆ จนได้ = =’ โลกจะล่มสลายรอบที่สี่หรือไม่(ครบรอบสี่ขวบ) ไรท์จะปั่นให้ตายไปข้างแล้วจบภายในสี่วันนี่แหละโอเมก้า!! อย่างไรก็ดีบทส่งท้ายตอนอวสานอาจจะต้องเลื่อนไปถึงปีหน้าหยุดสี่วันนี้คงได้แค่สู้กับราหูจบนี่แหละนะ =w=’  อ้อแล้วก็ไม่ต้องกลัวว่าจะมีภาคต่อนะฮะภาคนี้สุดท้ายแล้วจริงๆ ไม่ได้โมเมแล้วเน่อถึงมันจะดูเหมือนยังมีปริศนาให้คลายต่อก็เถอะ แต่เนื้อเรื่องหลังจากนั้นเป็นสปินออฟไปอยู่ในเรื่องอื่นแทนซึ่งไม่เกี่ยวข้องอะไรกับ อาโพออนไลน์ แล้วล่ะฮะเป็นการยืม อาโพออนไลน์ไปใช้มากกว่า ซึ่งก็คือไอ้ที่ราหูบ่นๆ ในตอนนี้นั่นแหละแต่ปมของอาโพออนไลน์เท่านั้นที่ไรท์คิดไว้และพยายามให้เป็นจะเฉลยออกมาในการต่อสู้กับราหูนี่แหละ พวกโยงไปสปินออฟนั่นแค่คิดไว้ยังไม่ได้เขียนจริงจังแต่อย่างใดนะ โอเมก้า!!!***

    ลืมไปเลย ตอนต่อไปน่าจะลงภายในช่วงวันหยุดนี่แหละแต่ไม่แน่ใจว่าวันไหนนะฮะตามแต่จะปั่นทันน่ะโอเมก้า!!

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×