คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #293 : Extra Log 289: ความตั้งใจที่จะก้าวเดินต่อไป
Extra
Log 289: ความตั้งใจที่จะก้าวเดินต่อไป
ขณะเดียวกัน
อิงศรที่มุ่งหน้าไปยังก้นบึ้งของโพรงลึกที่ใจกลางเมืองก็เดินทางคืบหน้ามาได้ซักพักแล้ว
ไม่มีใครรู้ว่าเส้นทางนี้จะทอดยาวไปถึงไหนไม่รู้ว่าคืบหน้ากันมาเกินครึ่งทางแล้วหรือยัง
ทัศนียภาพที่มองเห็นได้มีแต่ความมืดมิดกับแสงระยับเหมือนกับดวงดาวในอวกาศ
แสงไฟซึ่งประดับรอบผนังทางเดินกว้างพอให้คนสามคนบินเรียงแถวไปพร้อมกันได้
ดูคล้ายกับอวกาศ
แต่ที่นี่ไม่ได้กว้างขวางขนาดเรียกว่าอวกาศแต่น่าจะเรียกว่าท้องฟ้าจำลองได้ใกล้เคียงกว่า
แสงระยับที่ติดอยู่ตรมผนังมืดทึบพวกนั้นเป็นผงเรืองแสงที่ใช้ไซเบอร์อายยูนิทวิเคราะห์ออกมาได้ว่าพวกมันมีส่วนประกอบของอมฤตอยู่ในปริมาณสูงแล้วยังมีความคล้ายคลึงกับ
‘Awakening Unit’ ที่สะสมไว้ใช้สกิลหรือท่าไม้ตายด้วย
ดังนั้นจึงคาดเดาเอาว่าราหูเตรียมที่นี่เป็นสถานที่สู้ตัดสินอย่างแน่นอน
บางทีดวงดาวพวกนี้อาจจะเป็นแหล่งพลังงานสำหรับการใช้สกิลของพวกมัน
”ถ้าเป็นแบบนั้นพวกเราก็สามารถใช้ประโยชน์จากมันได้เหมือนกัน”
แฟรนเซียมให้ความเห็นไว้แบบนั้นแล้วพวกเขาก็มุ่งหน้าต่อไปโดยเก็บเอาความคิดที่ว่าจะใช้ประโยชน์จากสภาพแวดล้อมของศัตรูเอาไว้
เพราะถ้ายังต้องเสียเวลาไปมากกว่านี้ร่างไฮพีเรี่ยนอาจจะหมดเวลาก่อนจะได้เจอราหู
ตอนนั้นเองเสียงตะโกนของแฟรนเซียมที่บินนำอยู่หน้าแถวก็ดังมา
“ศัตรูมากันแล้ว!”
คนอื่นๆ
ที่ตามหลังมาหยุดบินโดยพร้อมกันต่างคนต่างก็ชักอาวุธออกมายกเว้นอิงศรที่บินล่วงไปข้างหน้า
เขาบินอยู่ตรงกลางระหว่างแฟรนเซียมกับออร์ฟี่
ที่เบื้องหน้านั้นมีศัตรูมาขวางอยู่สองคน
เป็นเด็กหนุ่มสวมชุดผู้รุกรานที่มีใบหน้าเหมือนกวินทร์กับมิ่งขวัญอย่างกับแกะ
“เจ้าพวกนั้นมันมนุษย์ต่างดาวงั้นเรอะ”
นั่นคือข้อสรุปเท่าที่พอจะนึกออกได้ว่าตัวตนของสิ่งนั้นคืออะไรจากประสบการณ์ที่ผ่านมา
เหตุการณ์ที่เจอคนหน้าเหมือนตัวเองหรือพวกพ้องมักจะเป็นมนุษย์ต่างดาว
แต่ออร์ฟี่ก็พูดขัด
“ไม่ใช่หรอก”
แล้วก้าวล้ำหน้าแถวออกไปเล็กน้อย
“นั่นคือคาอินกับอาเบลพวกพ้องของอดัมน่ะ”
อิงศรเลื่อนสายตาไปที่ออร์ฟี่พยายามมองว่าตอนนี้กำลังทำสีหน้าแบบไหนอยู่
แต่ออร์ฟี่ไม่ได้แสดงสีหน้าออกมา ใบหน้าเขาเรียบนิ่งทั้งที่พูดเรื่องของอดัมอยู่
ออร์ฟี่พูดต่อไปว่า
“ฉันอยากจะปกป้องพวกเขาทั้งหมดแม้จะต้องแลกด้วยทุกอย่างก็ตาม
ยังจำวลีนี้ได้อยู่สินะอิงศร”
พูดกับเขาแต่ไม่หันมา
อิงศรตอบกลับไปด้วยคำพูดอีกคำพูดหนึ่ง
“มนุษย์จะถูกกอบกู้โดยมนุษย์เท่านั้น”
ทั้งคำพูดที่เขาพูดและออร์ฟี่พูดต่างก็เป็นคำพูดที่อดัมเคยกล่าวไว้
ออร์ฟี่พยักหน้ารับคำตอบนั้น
“เมื่อกลายเป็นซูลวานลอร์ดผมถึงได้ความทรงจำที่แท้จริงคืนกลับมา
วันที่อดัมถูกขับไล่จากสวนนั่นน่ะแท้จริงแล้วคือวันที่อดัมเผยตัวว่าเป็นสปายและเปิดทางให้ราหูเข้ามาโจมตี
คาอิน อาเบล และอีฟก็ด้วยทั้งหมดนั่นคือผู้รุกราน”
คำพูดนั่นหมายถึงศัตรูที่อยู่ตรงหน้าแต่สายตาของออร์ฟี่กลับหันมาทางนี้
“ข้อมูลของ
มิ่งขวัญ กวินทร์ แล้วก็รูบิเดียมที่ไม่ได้อยู่ที่นี่มีต้นแบบมาจากผู้รุกราน”
พูดจนสองคนที่ถูกกล่าวถึงและอยู่ที่นี่แสดงสีหน้าประหลาดใจออกมา
แล้วพริบตานั้นเอง
แค่พริบตาเดียวๆ
จริงที่อิงศรตอบสนองต่อความเคลื่อนไหวของออร์ฟี่ก่อนจะหายตัวไปแล้วไปปรากฏอยู่ด้านหลังของศัตรูทั้งสอง
“…”
ได้แต่จ้องมองร่างของศัตรูถูกฉีกเป็นชิ้นๆ
โดยไม่ทราบวิธีการ ซากศพของผู้รุกรานแตกสลายไปเมื่อพวกมันตาย
ออร์ฟี่หันใบหน้ากลับมาเพียงครึ่งเดียว
“ถึงจะเป็นศัตรูก็ตามเฉพาะ
อดัมเท่านั้นที่ผมจะต้องช่วยให้ได้ จะต้องช่วยนายจากราหูให้ได้”
คำพูดนั่นเป็นสารที่ส่งมาถึงพวกเขา
มันเป็นการแสดงความตั้งใจอันแน่วแน่ในแบบของออร์ฟี่
“นี่คือการก้าวไปข้างหน้าของนายงั้นสิ”
อิงศรพูด
“ก้าวไปข้างหน้าเพราะยึดติดกับอดีตน่ะเหรอขัดแย้งกันแบบนี้คือมนุษย์สินะ”
ใช่สิ
ก็ตอนนี้นายเป็นมนุษย์…
“แล้วก็เป็นพระเจ้าด้วย”
อิงศรพูด
ออร์ฟี่ตอบรับด้วยการพยักหน้า
“ถ้าอย่างนั้นจะติดตามมารึเปล่าล่ะพระเจ้าที่ย้อนแย้งแบบผมเนี่ย”
พูดจบก็มุ่งหน้าต่อไปทันทีโดยไม่รอฟังคำตอบ
แต่ไม่จำเป็นต้องฟังอยู่แล้ว
พวกเขาไล่ตามไปทันทีโดยที่ไม่มีคำพูดใดๆ ไม่มีคำถามหรืออะไรทั้งสิ้น
เพราะว่าเป้าหมายของพวกเขาทุกคนชัดเจนและเป็นหนึ่งเดียวกัน
ไม่ว่าจะเป็นศัตรูกันมาก่อน
ไม่ว่าจะเป็นพวกพ้องที่อ่อนแอหรือเข้มแข็งก็ตาม
จุดมุ่งหมายเพียงหนึ่งเดียวที่มีให้ก้าวเดินต่อไปข้างหน้าได้ก็มีเพียงแค่
“ไปจัดการราหูกัน”
@@@@
“ร…ราหู”
รูบิเดียมพูดด้วยสีหน้าหวาดกลัวอย่างถึงที่สุด
เป็นความรู้สึกที่เพิ่งเคยเกิดขึ้นเป็นครั้งแรก
ครั้งแรกเลยที่รู้สึกหวาดกลัวถึงขนาดนี้เมื่อราหูปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าพวกเธอที่ยังอยู่ในเขตแดนทะเลทรายของสัตว์เทวะ พวกพ้องที่แข็งแกร่งทยอยถูกจัดการไปทีละคนๆ
ทุกคนถูกทำให้กลายเป็นไพ่จนกระทั่งเหลือแค่เธอคนเดียว
“อะ…อะ…อะ”
เธอพูดไม่ออก
เนื้อตัวสั่นสะท้านไปด้วยความกลัวจับขั้วหัวใจแม้ว่าตอนที่รู้สึกตัวเมื่อหลุดจากภวังค์ความกลัวได้แล้วก็ยังต้องใช้เวลาอีกซักเล็กน้อยถึงจะรู้ว่าเธอถูกใครบางคนที่แทรกเข้ามาขัดขวางราหูช่วยเอาไว้และพาหนีออกมาจากที่นั่น
“อะ…อะ…ดะ…”
อดัม
แค่คำสั้นๆ แค่นั้นก็ยังบังคับปากให้หยุดสั่นไม่ได้เลย
รูบิเดียมย่อตัวลงและเพราะความกลัวทำให้ขาเริ่มจะไม่มีเรี่ยวแรงยืนทำให้เสียหลักจนล้มก้นคะมำพื้น
“….”
สถานที่คือบนดาดฟ้าของอาคารที่ไหนซักแห่งในรากอาคาชิก
บริเวณขอบตึกถูกล้อมด้วยรั้วเหล็กสูงราวสองเมตรครึ่ง
สายตาแห่งความกลัวจับจ้องไปที่เด็กหนุ่มผู้ช่วยเธออกมาจากสถานการณ์เป็นตายที่ต่อต้านไม่ได้
ถ้าไม่ใช่เด็กหนุ่มก็เป็นพวกศัตรูด้วยความหวาดกลัวควจะบรรเทาลงกว่านี้
ทำไมอดัมถึงช่วยเธอออกมาจากเงื้อมือของเจ้านายตัวเอง
ทำไมถึงต้องเป็นเธอด้วย
แม้อยากจะถามออกไปแต่ปากก็ยังไม่ยอมหยุดสั่นเสียที
และแล้ว…
“อีฟ ไม่สิ เอวา”
อดัมก็เป็นฝ่ายที่เริ่มพูดก่อน
เขาเรียกเธอด้วยชื่อของมนุษย์ผู้หญิงในตำนานของคัมภีร์ไบเบิล
ดูเหมือนว่า
‘อีฟ’ ที่เป็นการอ่านชื่ออีกแบบหนึ่งของผู้หญิงคนนั้นจะใช้สำหรับเรียกเป็นชื่อเล่นเพราะเมื่อเปลี่ยนคำเรียกเป็น
‘เอวา’ ใบหน้าของเด็กหนุ่มก็ดูจริงจังขึ้นมา
เพราะว่าออกห่างจากราหูมาได้ซักพักแล้วหรือเพราะคำพูดของอดัมก็ไม่รู้แต่ว่าความกลัวเหมือนจะเบาบางลงเหมือนถูกกลบด้วยบรรยากาศบางอย่าง
เป็นบรรยากาศที่รู้สึกคุ้นเคยอย่างน่าประหลาด
รู้สึกเหมือนกับว่ารู้จักกับอดัมคนนี้มาก่อน
“นาย...ต้องการอะไรจากฉัน
ไม่สิ”
รูบิเดียมก้าวถอยไปข้างหลังเพียงเล็กน้อย
ไม่ใช่ว่ากลัวแต่เพราะรู้สึกเหมือนถูกดึงให้เข้าไปหาสัญชาตญาณจึงพยายามรั้งตัวเองไว้นั่นเอง
“ทำไมนายถึงช่วยฉัน”
แล้วก็ถามคำถามไป
“เพราะว่าผมมีแต่เธอที่ผมจะสามารถฝากฝังได้”
อดัมพูด
“ฝากอะไร”
“ความหวังสุดท้ายที่จะพลิกกระดานหมากของฝันร้ายนี้”
@@@@@@@
ตอนที่นั่งรออยู่ที่เก้าอี้ของตัวเองก็นึกออกขึ้นมา
นี่คือใครกันนะ?
ข้าได้คิดขึ้นมาแบบนั้นเมื่อตอนที่การรุกรานของจักรวรรดิแห่งความว่างเปล่าเดินหน้าไปยังที่ไหนสักแห่งหนึ่ง
เทิร์นบริงเกอร์คือร่างอวตารของเจตจำนงที่อยากจะกลับคืนสู่ความว่างของจักรวาลทั้งหมดด้วยเหตุนั้นพลังของผู้รุกรานจึงไม่เคยมีใครที่ต่อต้านมันได้
ตัวข้าที่เคยคิดว่านี่เป็นเพียงกระบวนการที่ดำเนินไปตามกฎของความเป็นไปได้มาโดยตลอด
จู่ๆ ก็เกิดความสงสัยขึ้นมาในวันหนึ่ง
ไม่รู้ว่าที่นั่นเป็นยุคสมัยใด
เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นมานานแล้วหรือว่าเป็นอนาคตหลังจากนี้ไม่ว่าทางใดก็เป็นไปได้เพราะว่ามันคือ
‘ความเป็นไปได้’ ถ้าให้พูดแบบเข้าใจง่ายก็คือ
“ข้อมูลจากตัวข้าที่อยู่ข้างนอกนั่นยังคงส่งมาที่เซิฟเวอร์หรือว่ามันเป็นแค่ของที่ถูกบันทึกเก็บไว้ก็ไม่รู้สินะ”
ราหูพูดโดยที่ยังหลับตาสนิท
เขากำลังนั่งรำลึกความหลังหรืออาจจะเป็นความฝันก็ไม่อาจจะรู้ได้
‘ความนึกคิด’ สิ่งที่ก่อให้เกิดการจดจำและการกระทำของแบบนั้นยังไม่รู้เลยว่าที่นี่จะมีอยู่รึเปล่า
ที่ในโลกแห่งนี้ซึ่งเป็นเพียงชุดคำสั่งและข้อมูลปริมาณมหาศาลหมุนเวียนกันอยู่ภายในเครื่องเซิฟเวอร์นี่กำลังมีสิ่งที่เรียกว่า
‘ความตั้งใจ’ เกิดขึ้นมา
มโนภาพซึ่งรบกวนราหูและกำลังผุดแล่นอยู่ในหัวของเขาคือเรื่องราวที่ทำให้ตัวตนที่แท้จริงซึ่งเป็นผู้สร้างตัวเองขึ้นมา
ไนแมร์โซดิแอก ผู้ที่สร้างเซิฟเวอร์นี้ขึ้นมามีสิ่งที่เรียกว่า ‘ความตั้งใจ’ เกิดขึ้นเป้นครั้งแรก
ในตอนนั้นเป็นช่วงที่การรุกรานของจักรวรรดิแห่งความว่างเปล่านี้รุดหน้าไปถึงโลกแห่งหนึ่งซึ่งผู้คนในโลกใบนั้นมีพลังพอที่จะต่อต้านได้แต่มันก็เป็นแค่การศึกที่ยืดยื้อกว่าครั้งไหนๆ
เท่านั้นในไม่ช้าที่นั่นจะพังทลายอย่างแน่นอนเพราะว่าไม่มีสิ่งใดที่จะต่อต้านผู้รุกรานได้
ในเวลาเช่นนั้นแหละที่ตัวของไนท์แมร์โซดิแอกผู้ที่น่าจะว่างเปล่าเหมือนดั่งเช่นสโลแกนของจักรวรรดิกลับนึกสงสัยในตัวของผู้ที่ต่อต้านขัดขืนขึ้นมาเป็นครั้งแรก
เด็กหนุ่มคนนี้เป็นใครกัน?
คำถามนี้ผุดขึ้นมาพร้อมกับมโนภาพเจ้าปัญหาที่ว่า
ภาพของอิงศรที่ต่อสู้ร่วมกับเด็กหนุ่มที่ไม่รู้จักอีกคน
เด็กหนุ่มสวมเสื้อโค้ทสีขาวมีลวดลายสีแดงแซมเล็กน้อยชายเสื้อเป็นแบบกระโปรงผ่าขาลากยาวเกือบถึงพื้นและสวมกางเกงยีนส์สีดำ
ทีแรกความสงสัยมันก็ไม่ได้พุ่งเป้าไปที่ตัวเด็กหนุ่มคนนั้นหรอก
แต่เป็นอาจารย์ของไนท์แมร์โซดิแอก
คนๆ นั้น...ไม่สิ
มังกรแห่งความว่างเปล่าตนนั้นถูกเรียกว่า มังกรแก่นสสาร
เพราะมีพลังที่ควบคุมสสารทุกประเภทได้แล้วก็ยังเป็นผู้บัญชาการฝ่ายวางแผนที่มีเล่ห์เหลี่ยมมากที่สุดเรียกได้ว่าการรุกรานของจักรวรรดินั้นคืบหน้าไปได้ด้วยความสามารถของเขา
เหยื่อของการรุกรานไม่มีรายไหนที่จะต่อต้านแผนการอันสมบูรณ์แบบของเขาได้ที่ผ่านๆ
มาการรุกรานจึงเป็นของที่ง่ายจนน่าเบื่อแทบจะกลายเป็นชีวิตประจำวันก็ว่าได้
แต่อาจารย์ผู้ที่สมบูรณ์แบบคนนั้นกลับให้ความสนใจในตัวเด็กหนุ่มที่ต่อต้านพวกเขา
นั่นเองที่ทำให้ไนท์แมร์โซดิแอกใคร่รู้ในตัวของเด็กหนุ่มไปด้วยจึงเก็บข้อมูลกลับมาแล้วเริ่มสร้างเซิฟเวอร์นี้ขึ้นมาเพื่อวิเคราะห์ข้อมูล
“นี่คงเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมดสินะ”
เด็กหนุ่มคนนั้นเป็นใครกัน?
ไม่รู้เลยไม่มีข้อมูลของเด็กคนนั้นเก็บเอาไว้ไม่ว่าจะในซอกหลืบใดก็ตาม
รู้แค่ว่าในมโนภาพเจ้าปัญหานี่คนที่คอยหิ้วปีกเด็กคนนั้นให้ยืนหยัดต่อต้านทั้ง
ความหวังและความสิ้นหวัง ที่จักรวรรดิยัดมอบให้คือ อิงศร โรจจุฬาน์ ผู้ซึ่งมีตัวตนจริงๆ
ในโลกภายนอกหรืออาจจะมีชื่ออื่นก็ได้
เพราะที่นี่ก็มีอิงศรตั้งหลายคนหลายแบบกระจายอยู่ตามโลกคู่ขนานที่เป็นข้อมูลทดสอบในรอบแต่ละรอบของการทดสอบนับไม่ถ้วนที่เกิดขึ้นภายในเซิฟเวอร์แห่งนี้
อย่างไรก็ตามทุกคนมีชื่อว่าอิงศรเหมือนๆ
กันหมดถ้าอย่างนั้น อิงศร ที่ตั้งให้กับข้อมูลของเด็กหนุ่มในโลกนี้ที่คล้ายกับเด็กหนุ่มคนนั้นก็คงจะเป็นชื่อจริงๆ
ล่ะมั้ง
มีเสียงบางอย่างดังแว่วมาราหูจึงเปิดเปลือกตาออก
มีผู้บุกรุกเข้ามา
“มากันแล้วเหรอกำลังรออยู่พอดีเลย”
ภาพตรงหน้าตัวเองซ้อนทับกับมโนภาพที่กำลังคิดอยู่
“เธอเองก็เป็น ‘อิงศร’ สินะ”
อีคริปส์พูดแล้วลุกจากเก้าอี้บัลลังก์ที่สร้างขึ้นมาจากก้อนหินและมีรูพรุนไปทั่วเหมือนกับหินอุกกาบาต
ตอนนี้เขาอยู่ในร่างของชายเจ้าของร้านกาแฟที่เคยทำงานอยู่ที่ศูนย์บัญชาการของเมตไตรยก็เพื่อคอยติดตามดูอิงศร
อิงศรผู้ที่ขับเคลื่อนเซิฟเวอร์นี้
กุญแจไขปริศนาสุดท้ายได้มาอยู่ที่นี่แล้วจากนี้ไปปริศนาที่รออยู่ก็คือเด็กหนุ่มปริศนาคนนั้นคือใคร
จะต้องรู้ให้ได้
ราหูสาบานไว้เช่นนั้นเพราะถ้ารู้แล้วงานค้นคว้าของที่นี่ก็จะเสร็จสมบูรณ์
เพื่อการนั้นแล้วจะต้องทำพิธีกรรมสุดท้ายที่จะทำให้อิงศรกลายเป็นกุญแจไขความลับนี้
พิธีกรรมนั้นคือ.....
โปรดติดตามตอนต่อไป
***ลากยาวมาถึงสิ้นปีจริงๆ จนได้ = =’ โลกจะล่มสลายรอบที่สี่หรือไม่(ครบรอบสี่ขวบ)
ไรท์จะปั่นให้ตายไปข้างแล้วจบภายในสี่วันนี่แหละโอเมก้า!!
อย่างไรก็ดีบทส่งท้ายตอนอวสานอาจจะต้องเลื่อนไปถึงปีหน้าหยุดสี่วันนี้คงได้แค่สู้กับราหูจบนี่แหละนะ
=w=’ อ้อแล้วก็ไม่ต้องกลัวว่าจะมีภาคต่อนะฮะภาคนี้สุดท้ายแล้วจริงๆ
ไม่ได้โมเมแล้วเน่อถึงมันจะดูเหมือนยังมีปริศนาให้คลายต่อก็เถอะ แต่เนื้อเรื่องหลังจากนั้นเป็นสปินออฟไปอยู่ในเรื่องอื่นแทนซึ่งไม่เกี่ยวข้องอะไรกับ
อาโพออนไลน์ แล้วล่ะฮะเป็นการยืม อาโพออนไลน์ไปใช้มากกว่า ซึ่งก็คือไอ้ที่ราหูบ่นๆ
ในตอนนี้นั่นแหละแต่ปมของอาโพออนไลน์เท่านั้นที่ไรท์คิดไว้และพยายามให้เป็นจะเฉลยออกมาในการต่อสู้กับราหูนี่แหละ
พวกโยงไปสปินออฟนั่นแค่คิดไว้ยังไม่ได้เขียนจริงจังแต่อย่างใดนะ โอเมก้า!!!***
ลืมไปเลย ตอนต่อไปน่าจะลงภายในช่วงวันหยุดนี่แหละแต่ไม่แน่ใจว่าวันไหนนะฮะตามแต่จะปั่นทันน่ะโอเมก้า!!
ความคิดเห็น