คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #288 : Extra Log 284: Grand God Beast 3
Extra
Log 284: Grand God Beast 3
ภายในเขตแดนของมหาเทพสัตย์เทวะเบฮีมอท
ตามข้อมูลที่ได้มาภายในเขตแดนนี้จะเป็นผืนป่าที่ต้นไม้ขนาดใหญ่โตมโหฬารเหมือนหลุดมาจากยุคไดโนเสาร์ขึ้นปกคลุมเมืองที่เคยอยู่ในเขตแดนนี้มาก่อน
เน็กส์กับนิวบินมาถึงส่วนยอดของโดมหมอกสีดำ
หากทะลวงผ่านหมอกตรงนี้ไปก็จะเป็นเขตแดนที่ว่า
ตัวหมอกที่เห็นก็เป็นแค่ไอควันสีดำสนิทซึ่งอาจจะมีพิษ
พวกเขาคงระแวงแบบนั้นแน่ถ้าไม่ได้มีคนมาตรวจสอบให้ก่อน
แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยังดูน่ากลัวอยู่ดี
พวกที่บุกไปก่อนหน้านั้นผ่านตรงนี้ไปด้วยเวทเคลื่อนย้ายของซากิริเลยไม่ได้เจอกับสิ่งกีดขวางนี้
ที่จริงแล้วถ้าเวทเคลื่อนย้ายไม่ได้จำกัดจำนวนคนและจำนวนครั้งการใช้งานแล้วล่ะก็พวกเขาคงขอให้เธอช่วยส่งตัวเข้าไปด้วย
แต่สนามรบของเขากับนิวไม่ได้มีอยู่แค่ที่นี่
ถ้านัดการสัตย์เทสะที่นี่แล้วก็ต้องย้ายไปเขตแดนอื่น
“นิว”
เน็กส์พูดพร้อมกุมมือเพื่อนเด็กหญิงวัยเดียวกัน
เขาเป็นห่วงว่าเธอจะกลัว
แต่เมื่อสบตาหล่อนแล้ว
ดูเหมือนว่าจะคิดไปเอง
นิวไม่ได้มีท่าทีลังเลหรือแสดงความหวาดกลัวออกมาเลย
กลับกันพอถูกเขากุมมือแน่นนิวก็ส่งสายตากลับมาด้วยความเป็นห่วง
ถูกเป็นห่วงคืนแทนซะแล้วสิ
”…”
ถ้าอย่างนั้นพวกเขาก็คงพร้อมจะกระโจนเข้าสู่สนามรบแล้ว
“ไปกันเถอะ”
“จ้ะ”
เด็กทั้งสองพุ่งทะลุผ่านเมฆหมอกนั้นไป
ภายในดำสนิท
ดำ
ดำ
มีแต่หมอกสีดำเต็มไปหมด
มองไม่เห็นหนทางข้างหน้า
พวกเขาดำดิ่งเป็นเส้นตรงไปเรื่อยๆ
จนกระทั่งผ่านไปครึ่งนาทีจึงพ้นออกจากหมอก
ทัศนวิสัยชัดเจนขึ้นมาในทันที
ทั้งสว่างไสวแล้วก็ร้อนเป็นอย่างมาก
อุณหภูมิเพิ่มสูงขึ้นอย่างผิดปกติ
มีบ่งอย่างบอกเขาว่าที่นี่ไม่ปกติเสียแล้ว
ที่พื้นเบื้องล่างก็เช่นกัน
ตามที่ได้ข้อมูลมาควรจะมีป่าผืนใหญ่และรกชันรออยู่
แต่ที่นี่กลับไม่เห็นต้นไม่ซักต้นเดียว
มีแต่ทรายเต็มไปหมด
ท้องฟ้าปลอดโปร่งแสงจากดววอาทิตย์แผดเผาใส่พื้นดินโดยตรง
ทุกสิ่งทุกอย่างแห้งผากไปหมด
ที่นี่มันทะเลทรายดีๆ
นี่เอง แล้วก็เป็นทะเลทรายที่กว้างเอามากๆ
จากความสูงที่พวกเขาอยู่กันยังมองเห็นแต่แผ่นดินที่จรดติดกับเส้นขอบฟ้า
มองไม่เห็นอะไรอื่นอีกแม้แต่กำแพงของเขตแดนก็ไม่มี
ราวกับว่าหลุดมาอยู่อีกโลก
“พวกพี่เมษาน่าจะอยู่แถวๆ
นี้นะลองหาดูกันเถอะ”
“เน็กส์ดูนั่นสิ”
เน็กส์มองตามที่นิวชี้ไป
“นั่นมัน!”
ถึงจะมองเห็นได้ลำบากเพราะพายุทรายที่พัดอยู่ด้านล่างนั่น
แต่เพราะภูเขาทั้งลูกกำลังเคลื่อนไหวอยู่จึงสังเกตเห็นได้ง่าย แล้วรอบๆ
ภูเขานั่นก็มีคนวิ่งตามพยายามโอบล้อมมันอยู่
“ต้องเป็นพวกพี่เมษาแน่ไปกันเถอะนิว”
เด็กชายจับมือเด็กสาวแล้วดิ่งลงไปในพายุทราย
นิวยกผ้าพันคอขึ้นมากำบังดวงตาแล้ว
“เน็กส์”
“ไม่เป็นไรจับมือผมไว้นะนิว
ผมจะนำทางให้เอง”
“แล้วเน็กส์มองเห็นเหรอ”
แน่นอนว่าทรายก็เข้าตาเขาเหมือนกัน
“ไซเบอร์อายยูนิทแอคทิเวท”
ถึงแม้จะเป็นแว่นคาดตาที่โผล่ออกมาเหมือนกับภาพโฮโลแกรมแต่มันก็พอจะมีสสารอยู่ในระดับที่ปัดเม็ดทรายที่เข้ามาออกไปได้
รายละเอียดของภูเขาเคลื่อนที่ได้ทยอยฉายขึ้นมาบนไซเบอร์อายยูนิท
รายละเอียดของสัตว์เทวะ
มหาเทพสัตว์เทวะเบฮีมอทก็คือภูเขาลูกนั้นน่ะเอง
ยิ่งเข้าใกล้มากเท่าไหร่ภูเขาลูกนั้นก็ดูใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ
นี่คงเป็นสัตว์เทวะที่ตัวใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยเจอมา
มองเห็นแถบพลังชีวิตลอยอยู่เหนือภูเขาแล้ว
Grand
God Beast: Behemoth Lv. 400
[/////15860:20000//…]
แถบพลังชีวิตขนาดใหญ่ที่มีไว้ให้เห็นได้อย่างเด่นชัดแต่ถ้ามองขึ้นมาจากด้านล่างคงจะถูกร่างกายอันใหญ่โตบดบังจนมิด
“เราช่วยโจมตีจากตรงนี้ก็แล้วกัน”
เน็กส์ปล่อยมือจากเด็กสาวแล้วชักไม้เท้าทั้งสองอันที่เหน็บหลังมา
เวอร์โกรูสตาฟ(VIRGOROO-STAFF)
ไม้เท้าเวทมนต์ที่ไฮพีเรียลซ์มาจากไม้เท้าอันเดิมที่มีอยู่เพียงหนึ่งอันกลายเป็นสองอันที่มีพลังกับคุณสมบัติแตกต่างกัน
ไม้เท้าอันแรกมีสีฟ้าคราม
อัญมณีประดับคือ ‘อาเมทิส’ สีม่วง
ตัวด้ามเย็นราวกับน้ำแข็งแต่ความเย็นนั้นก็ไม่ได้ทำร้ายมือของเขาที่จับมัน
ที่จริงแล้วความเย็นนั่นคือพลังที่มันแผ่ส่งมาให้เป็นพลังที่คอยปกป้องร่างกาย
ขณะที่อีกด้ามตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิงตัวด้ามนั้นร้อนวูบวาบเกิดจากการดูดพลังออกไปจากร่างกาย
ไม้เท้าสีดำสนิทราวกับถ่านมีแสงของพลังเวทส่องประกายสีแดงเหมือนกับไม้เท้าถ่านกำลังปะทุไฟอัญมณีประดับคือหิน
‘ออบซิเดียน’ ไม้เท้าอันนี้จะดูดพลังไปเพื่อขยายพลังโจมตีทางเวทในตอนที่ใช้สกิลออกไปนั่นเอง
เน็กส์เล็งไม้เท้าสีดำไปยังร่างภูเขาที่เดินอุ้ยอ้ายนั่น
“วาโยราโอ”
แล้วปลดปล่อยลำแสงสีเขียวที่เป็นพลังธาตุลม
แต่ทว่า...
ลำแสงกลับสะท้อนออกจากผิวของสัตว์เทวะ
“ไม่ได้ผลงั้นเหรอ”
หรือไม่ก็จุดที่โจมตีไปนั่นอาจเป็นส่วนที่ป้องกันตัวอย่างเปลือกหรือกระดอง
เน็กส์ตัดสินใจบินอ้อมไปด้านหน้าของมันเพื่อให้เห็นตัวสัตว์เทวะอย่างเต็มตา
ส่วนหัวมีงวงยาวและเขี้ยวล่างโง้งขึ้นมาเหมือนกับงาช้างใบหูกว้างปกคลุมไปด้วยขนของนก
ขาหน้าปกคลุมด้วยขนมีกรงเล็บเหมือนเสือ ขาหลังเป็นกีบเท้า
ร่างกายกำยำมีมัดกล้ามเนื้อเด่นชัดปูดขึ้นมาจากผิวหนังที่หยาบแห้งเหมือนกับดินทราย
นี่คือมหาเทพสัตว์เทวะเบฮีมอท
ร่างกายน่าเกรงขามสมชื่อจ้าวแห่งพิภพ
เด็กชายตัวสั่นเล็กน้อยเมื่อเผชิญหน้ากับมัน
“ถ้าโจมตีตรงนี้น่าจะได้ผล”
บริเวณหัวเป็นจุดสำคัญของสิ่งมีชีวิตทั้งที่รู้เรื่องนั้นอยู่แล้วแต่ก็ยังลังเล
นั่นเก็เพราะว่าจนถึงตอนนี้สัตว์เทวะก็ยังไม่เห็นเขาอยู่ในสายตานั่นเอง
มันเอาแต่ไล่ตามใครบางคนที่วิ่งล่อมันอยู่ข้างล่าง
ความรู้สึกที่ถูกเมินกันแบบนี้ทำให้เกิดความลังเลว่าควรจะโจมตีออกไปรึเปล่า
ถ้าโจมตีไปแล้วจะทำให้เกิดผลที่ตามมาได้สามอย่าง
อย่างแรกคือสัตว์เทวะจะหันมาสวนเขาที่ทำมันเจ็บ
ต่อมาถ้าพวกพี่เมษามีแผนอยู่ล่ะก็เขาจะทำมันพังเอาได้และอย่างสุดท้ายคือการโจมตีของเขาไม่ได้ผลและเสียเปล่า
ตอนนั้นเองก็มีเสียงตะโกนเรียกดังมา
“เน็กส์”
พลอยนั่นเอง
เธอสวมเสื้อเกราะที่ไฮพีเรียนทับลงบนเครื่องแบบเดิมและถือดาบซึ่งมีปีกนกสีขาวยื่นออกมาจากโกร่งกั้นดาบ
พลอยบินเข้ามาหา
“มาช่วยพวกพี่สินะว่าแต่นิวล่ะ”
“อยู่ตรงนี้ค่ะพี่พลอย”
นิวเพิ่งจะบินตามมาถึง
จากนั้นพลอยก็พูด
“ดูเหมือนว่าการโจมตีประเภทพลังพิเศษจะใช้กับเจ้านี่ไม่ได้ผลน่ะ”
นั่นคือสาเหตุที่เวทมนต์ของเขาสะท้อนออกนั่นเอง
“ตอนนี้กำลังใช้แผนล่อมันอยู่”
เธอบอกแผนทั้งหมดกับพวกเขาแล้วนำทางเพื่อให้ไปร่วมในแผนโจมตีที่ว่า
ตอนนี้ราชครูมนุษย์ต่างดาวรูบิเดียมกำลังวิ่งหลอกล่อเบฮีมอทไปยังจุดเตรียมโจมตี
เพราะว่ามันมีร่างกายที่ทนทานต่อการโจมตีที่มีคุณลักษณะ
‘Special Attack’ ทำให้การโจมตีที่ได้ผลกับมันเหลือเพียงการโจมตีกายภาพเท่านั้น
แต่พลังป้องกันด้านนี้ของมันก็สูงมากจนทหารมนุษย์ที่พวกเขาพามาจู่โจมเขตแดนนี้โจมตีมันไม่เข้า
ผิวหนังของมันยังมีจุดที่แข็งเหมือนกระดองเต่าหุ้มจากหลังลงมาถึงด้านข้างท้องอีก
การโจมตีที่หวังผลสังหารมันจึงตกเป็นภาระของผู้ที่มีพลังระดับเครื่องทำสวนศักดิ์สิทธิ์อย่างพวกเขาที่ประกอบด้วย
เมษา พลอย เน็กส์และนิว
สี่คนนี้เท่านั้นที่จะโจมตีมันได้
สัตว์เทวะกำลังจะเดินมาถึงจุดที่พวกเขาสี่คนซุ่มรอ
แต่ถึงอย่างนั้นแล้วก็ต้องบอกว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่จะซ่อนตัวไม่ให้สัตว์เทวะมองเห็น
เพราะที่นี่มันไม่มีอะไรเลยนอกจากทรายกับลมพายุ
พื้นที่ต่อสู้ผิดแผกไปจากข้อมูลจนทำให้กระบวนทัพที่จัดมาเพื่อต่อสู้แบบซุ่มโจมตีแต่แรกแทบไม่มีความหมาย
สำหรับเรื่องนั้นพวกเขากำลังฟังคำอธิบายผ่านหน้าจอสื่อสารจากซากิริที่อยู่บนเรือซึ่งได้รับการติดต่อเรื่องพื้นที่ไม่ตรงกับข้อมูลจากเขตแดนอื่นๆ
ด้วย
‘ดูเหมือนว่าช่วงไม่กี่ชั่วโมงก่อนที่จะเริ่มแผนโจมตี
มหาเทพสัตว์เทวะคงจะเปลี่ยนแปลงพื้นที่ในอาณาเขตของพวกมันอยู่ตลอดน่ะ
ถ้ายังไงช่วยส่งข้อมูลที่ไซเบอร์อายยูนิทเก็บจากพื้นที่ของแต่ละเขตแดนมาให้หน่อยสิ’
ที่เขตแดนนี้มีแต่เน็กส์ที่มีไซเบอร์อายยูนิท
ดังนั้นเขาจึงหมุนตัวเพื่อกวาดสายตาไปรอบๆ
ดินแดงแห่งนี้ให้ไซเบอร์อายได้เก็บข้อมูลแล้วส่งกลับไปที่เรือ
ซากิริใช้ข้อมูลจากอีกสองเขตส่งมารวมกันแล้วเริ่มทำการวิเคราะห์
‘ดูเหมือนเบฮีมอทจะอยากสร้างพันเจียขึ้นมาล่ะมั้งนะ’
“แป๊ะเจี้ยเหรอ…มันคือไรอ่ะ”
เมษาถาม
‘ไม่ใช่แป๊ะเจี้ย
แต่เป็นพันเจียต่างหากล่ะชื่อของแผ่นดินยุคแรกเริ่มของโลกซึ่งเป็นผืนเดียวกันมาก่อนและต่อมามันก็แตกออกจากกันเกิดเป็นประเทศยังไงล่ะ’
‘แล้วทำไมมันถึงทำแบบนั้นล่ะ’
‘ถามได้ดีฉันเองก็ไม่รู้คำตอบที่แน่ชัดนักหรอกนะแต่ว่ามันคงพยายามสร้างสภาพแวดล้อมที่มันคุ้นชินขึ้นมาด้วยสัญชาตญาณ
ซึ่งสภาพที่ว่าก็คือโลกในอดีตเมื่อหลายร้อยล้านปีก่อนที่แผ่นทวีปรวมกันเป็นหนึ่ง
ถ้าจะให้ฉันพูดในฐานะเทวทูตที่อยู่มาก่อนมนุษยชาติแล้วล่ะก็คงพูดว่าสัตว์ร้ายตัวนั้นเป็นต้นเหตุที่ทำให้แผ่นทวีปที่เคยเป็นหนึ่งเดียวกันแตกออกจากกันนั่นแหละนะ’
“ถ้างั้นไอ้เจ้านั้นก็เคยมีอยู่บนโลกมาก่อนเหรอ”
‘ไม่รู้สิ
ข้อมูลเรื่องนี้มาจากความทรงจำส่วนเทวทูตซาคคิเอลในตัวฉันถึงมันจะเป็นความจริงจึ้นมายังไงซะความจริงที่ว่านั่นก็คงเป็นบทละครที่เขียนขึ้นภายในโลกแห่งข้อมูลนี้อย่างที่พวกเธอบอกฉันมาล่ะมั้ง”
เมษาชกมือตัวเอง
“ถ้ามันเป็นสัตว์โบราณอย่างที่ว่ามา…”
แต่เพราะมือที่ไฮพีเรี่ยนอยู่สนับสือปืนกลเอาไว้ทำให้เกิดเสียงโลหะแหลมสะท้อนดัง
แก๊งๆ แทน
”งั้นใช้วิธีแบบล่าช้างแมมมอธก็เหมาะดีแล้วนี่”
“แต่ช้างแมมมอธมันไม่ได้ตัวบักเอ้กแบบนี้นะฮะ”
เน็กส์พูดด้วยความละเหี่ยใจ
พลางแหงนหน้ามองภูเขาสัตว์เทวะที่เคลื่อนที่ใกล้เข้ามาทุกขณะที่พวกเขาพูดกันอยู่นี่
ตอนนั้นเองก็มีคนวิ่งอ้อมมาทางนี้
“จะเริ่มโจมตีแล้วอีกห้าวินาที”
วิเชียรมาศนั่นเอง
หล่อนกำไม้เท้ามาด้วย
ตามมาสมทบกับพวกเขาทั้งสี่คนที่เตรียมโจมตีด้วยพลังทั้งหมดของร่างไฮพีเรี่ยน
วิเชียรมาศเริ่มนับถอยหลัง
“สี่”
“สาม”
เน็กส์ยื่นไม้เท้าทั้งสองอันตรงไปข้างหน้า
จะร่ายสกิลโจมตีพร้อมกันสองสกิล นั่นคือความสามารถของอาวุธไฮพีเรี่ยนของเขา
การจะทำได้นั้นต้องร่ายสกิลด้วยความรวดเร็วเป็นอย่างมากและจะต้องออกเสียงไม่ให้ผิดด้วย
ดังนั้นเขาจึงร่ายสกิลตั้งแต่ตอนนี้
“ข้าขอวิงวอนต่อจิตแห่งดวงดาว
เศษเสี้ยวแห่งร่างที่แตกสลายจงสดับรับฟัง จงมายังที่แห่งนี้ สตาร์ดัสชาวเวอร์ (Stardust Shower) ”
สกิลโจมตีกายภาพเพียงไม่กี่สกิลที่เขามี
แล้วก็อีกสกิลหนึ่ง
“คมมีดแห่งลม…”
“สอง”
เมื่อเสียงนับถอยหลังของวิเชียรมาศดังขึ้นอีก
นิวก็เตรียมการโจมตี
”สตริงมิสไซล์ (String Missile) “
เมื่อร่ายสกิลแล้วสะบัดมือ
เส้นใยเวทสำหรับโจมตีก็พุ่งทะยานไปข้างหน้า
ที่เวลาหนึ่งวินาทีก่อนเริ่มโจมตีทุกคนเลือกตั้งท่าและร่ายสกิลขึ้นตอนนี้
แพคหลังที่บรรจุมิสไซล์พลังอมฤตของเมษาเปิดฝาออกรอเวลา
พลอยรวบรวมพลังไว้ที่ดาบของเธอจนเปล่งแสงสว่างเจิดจ้า
วิเชียรมาศให้สัญญาณสุดท้าย
“โจมตี”
จากนั้นหล่อนก็ร่ายสกิลตามไปทันที
“ข่ายเวทคณิตศาสตร์ปิทาโกรัส”
ประกายเวทมนต์พุ่งจากไม้เท้าแยกเป็นสองสายเดินหน้าไปในทิศตรงข้ามกัน
เกิดเป็นเส้นตรงล้อมด้านหลังคนอื่น เส้นแสงหักเลี้ยวทำมุมประมาณหกสิบองศาแล้วเบี่ยงเข้าหากันกลายเป็นสามเหลี่ยมที่โอบล้อมทั้งสัตว์เทวะทั้งพวกเดียวกัน
นี่คือสกิลที่จะเพิ่มพลังโจมตีเป็นสองเท่าเมื่อโจมตีจากฝั่งเส้นตรงข้ามมุมหนือก็คือจุดที่พวกเขายืนเผชิญหน้าสัตว์เทวะกันอยู่นั่นเอง
เน็กส์ร่ายสกิลที่ค้างไว้จนเสร็จ
“…วาโยเบลด!”
เมื่อร่ายสกิลครบทั้งสองสกิลแล้วจึงปลดปล่อยสกิลแรก
สตาร์ดัสชาวเวอร์โดยชูไม้เท้าสีฟ้าขึ้นไปเหนือศรีษะ
แล้วหมุนตัวทั้งท่านั้นเหวี่ยงไม้เท้าสีดำปล่อยคลื่นพลังเวทที่เหมือนกับดาบออกไป
การโจมตีของเน็กส์เข้าถึงตัวสัตว์เทวะก่อน
ปรากฏวงเวทรูปดาวหกแฉกขึ้นเหนือตัวสัตว์เทวะ
สะเก็ดดาวลุกโชนด้วยเพลิงไฟจากการเสียดสีกับชั้นบรรยากาศร่วงลงมาจากวงเวทถมทับใส่มัน
Grand
God Beast: Behemoth Lv. 400
[/////14700:20000..…]
ถึงการโจมตีจะทำให้พลังชีวิตของมันลดลงก็ตามแต่สัตว์เทวะกลับไม่มีทีท่าว่าจะสะทกสะท้านเลยแม้แต่น้อย
แม้ว่าคมดาบเวทที่ไล่ตามมาจะฟาดใส่หน้าของมันและฝากรอยแผลถูกฟันจนเหวอะเอาไว้ก็ตาม
Grand
God Beast: Behemoth Lv. 400
[////.14000:20000.....]
จากนั้นสกิลของนิวก็เข้าเป้า
เส้นใยพิเศษที่มีความคมเป็นอย่างมากจนเหมือนกับซัดด้วยหอกทะลวงใส่ต้นขามัน
แต่เส้นใยกลับสะท้อนออกถึงแม้มันจะถูกเสริมพลังจากร่างไฮพีเรี่ยนและสกิลข่ายเวทของวิเชียรมาศแล้วก็ยังมีพลังไม่พอจะเจาะทะลวงพลังป้องกันกายภาพที่สูงมากได้
ตอนนั้นเองพลอยก็ฟันดาบออกไปด้วยท่าที่ตวัดจากล่างขึ้นบน
“โซเดียเซเบอร์ฮอร์น!!”
แล้วใบดาบที่เปล่งประกายด้วยแสงสีแดงจากอมฤตที่สะสมไว้ก็ยืดตัวแทงทะลวงพื้นลงไป
มันยังยืดต่อไปอีกและคว้านพื้นดินเป็นทางตามท่าฟันดาบของพลอย
ดาบแสงอมฤตตวัดขึ้นจากใต้ดินผ่ากลางร่างของสัตว์เทวะ
แต่ความอึดของมันยังน่าเหลือเชื่อ
“ไม่จริงน่า”
พลอยร้องเหวอ
คนอื่นๆก็ไม่อยากเชื่อสายตาเช่นกัน
ไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆ
ว่าถูกดาบสับเข้าไปจนร่างแทบจะขาดสะพายแล่งแล้วยังทนยืนอยู่ได้
ยังเคลื่อนที่ต่อไปได้อีก
Grand
God Beast: Behemoth Lv. 400
[///..13000:20000.....]
ขยับเข้ามาใกล้จนเงาทาบทับลงบนพื้นที่พวกเขายืนกันอยู่
รูบิเดียมที่คอยล่อมันไว้ถูกเมินไปตั้งแต่ที่ดาบของพลอยฟันถูก
มันก็เบนเป้าจู่โจมาที่นี่แทน
“โซเดียอิมแพคลิเบอเรชั่นบลาส!!”
ตอนนั้นเอง
เมษาก็ปล่อยการโจมตีแบบทุ่มสุดตัว
ถ้านี่ยังฆ่ามันไม่ได้อีกพวกเขาจะถูกสวนกลับโดยที่หลบไม่ได้
เมษาต้องฆ่ามันให้ตายในการโจมตีหนนี้
หัวรบมิสไซล์ในตู้คอนเทนเนอร์ถูกปล่อยออกไปทั้งหมด
ปืนใหญ่ที่อยู่ภายในนั้นก็ลั่นเสียงคำรามดังกึกก้องปลดปล่อยลำแสงอมฤตบ้าง
กระสุนไฟบ้าง ทั้งหมดพุ่งเข้าใส่สัตว์เทวะ
ตูม ตูม ตูม เสียงระเบิดกัมปนาทดังระรัวปนกลั้วไปกับเสียงร้องคำรามของสัตว์เทวะ
มันคำรามเสียงแหลมคล้ายเสียงช้างขณะที่ร่างกายเอนเอียงไปตามแรงระเบิดจากการยิงของเมษา
เมื่อกระสุนและหัวรบหมดลง
เมื่อเสียงกึกก้องดับลง
พื้นที่เบื้องหน้าก็ตลบอบอวลไปด้วยควันและทราย
รวมถึงซากร่างของสัตว์เทวะก็ร่วงหล่นลงมาตามที่ต่างๆ
มันถูกระเบิดจนร่างกายแตกกระจายเป็นชิ้นๆ
เศษซากร่างของสัตว์เทวะกลายเป็นทรายไปทั้งหมดแล้วเริ่มพังทลายกลับคืนสู่ดิน
ทีนี้ก็จัดการมหาเทพสัตว์เทวะไปได้ตัวหนึ่งแล้วขั้นต่อไปของแผนก็คือตามหาเสาเขตแดนที่ส่งพลังงานไปเลี้ยงกำแพงด้านนอกแล้วทำลายมัน
เนื่องจากเป็นงานที่ไม่ต้องพึ่งพาพลังต่อสู้มากนักดังนั้นกลุ่มโรมมิ่งของเน็กส์จะย้ายไปยังอีกเขตแดนเพื่อสนับสนุนในการต่อสู้กับมหาเทพสัตว์เทวะตัวอื่น
“งั้นพวกเราไปกันก่อนนะฮะ”
เน็กส์พูดแล้วจูงมือนิว
“อื้ม
ระวังตัวด้วยล่ะ”
เมษาพูด
จากนั้นเด็กทั้งสองก็บินออกไป
***เมื่อวันอาทิตย์จู่ๆ ก็น็อกไประหว่างเขียนเลยล่ะฮะ TwT สงสัยโหมงานหนักไปพอเช้าวันจันทร์แล้วยุ่งรัวๆ
เพิ่งจะได้วันหยุดวันนี้มาลงแอ่ววว ถ้าวันนี้ปั่นทันพรุ่งนี้จะลงวันพฤหัสให้นะงับ
โอเมก้า ฮรืออ งานท่วมหัวจริงๆ****
ความคิดเห็น