ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Apocalypse Online เกมโกงวันโลกาวินาศ

    ลำดับตอนที่ #258 : Extra Log 254: Fall to void

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 113
      2
      21 ก.ย. 61

    Extra Log 254: Fall to void

     

                จู่ๆ เรือสำเภาลำมหึมาก็โผล่พรวดออกมาจากช่องว่างของมิติ แถมยังบินได้อีกต่างหาก

    ในชีวิตนี้ที่ได้ทำแทบทุกอย่างไปจนถึงกำราบพระเจ้ามาแล้วไม่เคยคิดเลยว่าจะได้มาเห็นอะไรที่มันเกินคำบรรยายได้ขนาดนี้

                อิงศรคิดอย่างนั้นขณะที่แหงนหน้าจ้องมองเรือสำเภาลำที่ว่า รู้สึกทึ่งไปกับมันจริงๆ แล้วก็ยิ่งทึ่งมากขึ้นไปอีกเมื่อเห็นคนที่น่าจะบังคับเรือลำนั้นอยู่บนดาดฟ้าเรือ บังคับเรือสำเภาให้ชนพวกเทิร์นบริงเกอร์กระเด็นกระดอนเหมือนเป็นเพียงแค่หยดคลื่นที่สาดกระเซ็นใส่เรือ

                บัลลิสต้าพันนิชเชอร์

                รูบิเดียมที่ยืนอยู่บนเรือสำเภาร่ายสกิลทำให้เครื่องทำสวนผลึกปรากฏขึ้น เครื่องทำสวนรูปร่างรถเทียมม้าที่ติดตั้งเครื่องยิงหลาว

                แทนที่หลาว สิ่งที่ขึ้นบนเครื่องทำสวนคือหอกเพลิงที่ไฟลุกโชน เมื่อยิงมันใส่กลุ่มของศัตรูที่กระจุกกันปอดล้อมพวกเขา

                ตูม!!!!!!

                ทุกอย่างที่ขวางอยู่เบื้องหน้าอิงศรถูกเป่าหายไปในพริบตา ซึ่งน่าแปลกที่บัลลิสต้าพันนิชเชอร์นั้นเป็นท่าไม้ตายแบบโจมตีเป้าหมายเดี่ยวแต่กลับสร้างความเสียวงกว้างกับทัพของศัตรูได้ นี่คงเป็นพลังของรูบิเดียม พลังของอาวุธติดตั้งอสุราที่มอบความแตกต่างบางอย่างให้กับท่าไม้ตายที่แหกคอกใช้ได้โดยไม่สนใจเงื่อนไขของสายอาชีพ

                ตอนนั้นเองก็มีอีกคนที่อยู่บนเรือกับรูบิเดียมส่งเสียงตะโกนลงมา

                โชเน็นถอยทัพก่อนขึ้นมาบนเรือ

                อิงศรจำเสียงนั้นได้

                นั่น ซากิริงั้นเรอะ

                เมื่อเพ่งสายตามองขึ้นไปบนเรือให้ชัดเจนอีกครั้ง ก็เห็นนักวิจัยสาวชาวญี่ปุ่นในเสื้อกาวน์สีขาวกำลังโบกมือให้โดยที่อีกมือจับพวกมาลัยเรือเอาไว้ ซากิริร่างทรงของเทวทูตซาคคิเอลหนึ่งในเหล่าที่คอยบงการตระกูลธุวดารกะซึ่งหล่อนน่าจะตายไปแล้วตอนที่พวกเขาปะทะกับเดมิอุกรุสที่อารย-สนธยา ออร์ฟี่คงจะฟื้นคืนชีพให้หล่อนเหมือนกัน

                แล้วจะขึ้นไปบนนั้นยังไง

                อิงศรถาม

                มาอยู่ใต้เรือสิเดี๋ยวจะลงไปรับ

                เรือสำเภาหยุดบินแล้วลอยโคลงเคลงอยู่ด้านหลังห่างจากพวกเขาไปราวสิบเมตร ดูเหมือนจะทิ้งระยะไว้เพื่อไม่ให้ศัตรูลอบขึ้นเรือได้จึงปักหลักอยู่นอกวงแล้วคอยยิงต่อต้านแทนโดยอาศัยรูบิเดียมที่เป็นเหมือนป้อนปืนใหญ่สำหรับยิงสกิลท่าไม้ตายไปแล้ว

     

                ดูเหมือนว่ารูบิเดียมกับซากิริที่ถูกเรียกมานั้นจะเป็นฝีมือของออร์ฟี่

                สำหรับตอนนี้ต้องถอยก่อน

                อิงศรเห็นด้วยกับความคิดนั้น ซึ่งเขาเองก็เคยเสนอให้ตีฝ่าออกไปก่อนหน้านั้นมาได้ซักพักแล้วแต่ออร์ฟี่ก็ยังไม่ตอบเสียที

                ออร์ฟี่

                หมอนั่นยืนเหม่ออยู่เหมือนไม่ได้ยินเสียงเรียกของเขา

                ออร์ฟี่!

                อิงศรเร่งเสียงให้ดังขึ้นแต่ออร์ฟี่ก็ยังคงเหม่อ เอาแต่แหงนหน้ามองขึ้นไปข้างบน เขาจึงไล่ตามสายตานั้นไป ออร์ฟี่กำลังจ้องมองอดัม

                อดัมที่กลายเป็นผู้รุกราน ตัวตนที่แท้จริงของสหายแห่งปฐมกาล เหตุผลเพียงหนึ่งเดียวที่ออร์ฟี่สู้มาโดยตลอดกลับกลายเป็นเบี้ยตัวหนึ่งบนกระดานหมากของราหู

                มหาเทพราหู

                เวิร์สแอกเกรสเซอร์ไนท์แมร์โซดิแอก

                ฝันร้ายแห่งจักรราศี

                ตัวตนที่มีชื่อทั้งหมดนั่นทำให้ออร์ฟี่ใจสลาย

                ในขณะที่ออร์ฟี่เอาแต่จดจ้องอดัม อดัมก็จ้องตอบกลับมาทั้งคู่เอาแต่มองหน้ากันโดยที่ไม่มีใครเข้าไปแทรกกลางไม่ว่าจะฝ่ายพวกเขาหรือฝ่ายศัตรูราวกับว่าโลกทั้งใบเหลือแค่เจ้าพวกนั้น

                นี่เป็นแผนที่จะตรึงกำลังรบหลักของพวกเขาอย่างนั้นสินะ แค่จู่โจมจิตใจให้เป็นแผลก็ทำให้ตัวตนอันแข็งแกร่งและแข็งกระด้างสมัยที่เป็นเครื่องทำสวนของออร์ฟี่สั่นคลอนมาจนถึงร่างของมนุษย์ในปัจจุบันได้เลย ราหูมันชื่นชอบการทำแบบนี้อย่างเห็นได้ชัดจากการกระทำที่ผ่านมา

                มันจงใจยื่นเอาความหวังให้แล้วเปลี่ยนเป็นความสิ้นหวัง

                ที่ๆ ความหวังและความสิ้นหวังมาบรรจบกัน ณ ที่แห่งนั้นคือความว่างเปล่า

                เหมือนกับว่ามันจะเคยพูดอะไรแบบนี้เอาไว้ด้วย แล้วตอนนี้ออร์ฟี่ก็เป็นแบบนั้น

                ถูกอดัมที่เป็นทั้งความหวังและผู้รุกราน สตอรี่เบรกเกอร์นามของอดัมที่กลายเป็นผู้รุกรานซึ่งเป็นความสิ้นหวัง ดังนั้นออร์ฟี่ที่ถูกประกบทั้งสองสิ่วที่ต่างขั้วเข้าด้วยกันก็เลยกลายเป็นว่างเปล่าไปแล้ว

                การรับรู้ต่อความเป็นจริงได้หายไปจากตัวของออร์ฟี่

                ชิ

                ต้องเรียกกลับมาให้ได้ ตอนนี้หมอนั่นไม่ได้มีแค่อดัมแล้ว ต้องทำให้รู้สึกตัวถึงเรื่องนั้น

                อิงศรวิ่งไปหาออร์ฟี่วางมือลงที่หัวไหล่พยายามเขย่าให้รู้สึก

                เฮ้ย ตื่นได้แล้วตอนนี้เราต้องถอยกันแล้วนะ

                แต่ออร์ฟี่ก็ยังเหม่อลอยอยู่

                ออร์ฟี่!!

                เขาเร่งเสียงจนกลายเป็นตะคอกแต่ก็ยังไม่ได้ผล

                ทำแบบนั้นเสียเวลาเปล่าน่า

                แฟรนเซียมพูด หมอนั่นเพิ่งจะตวัดดาบผ่าร่างของสัตว์อสูรจักรกลที่ขวางทางมาที่นี่ไป

                ถ้าจะปลุกเจ้าคนนอนละเมอนั่นมันต้องทำแบบนี้ ซัมมอนซอร์ดเทคนิก

                แล้วกล่าวพร้อมกับเรียกหน้าจอระบบขึ้นมาจากดาบ เลือกแอพพลิเคชั่นปีศาจให้ติดตั้งเป็นแอพฯหลักแล้วร่ายสกิล

                วิหกไฟชำระ

                ดาบลุกโชน แฟรนเซียมตวัดดาบนั่นปลดปล่อยคลื่นเพลิงรูปนกพุ่งขึ้นไป

                อดัมตอบโต้การโจมตีนั้นด้วยดาบที่มีแค่ด้ามกับใบดาบเพียงครึ่งเดียวแต่เมื่อตวัด ดาบพิการนั่นก็มีลำแสงดำทะมึนพุ่งออกจากใบดาบ ยืดออกมาทดแทนส่วนที่ขาดไปกลายเป็นดาบลำแสงฟันวิหกเพลิงของแฟรนเซียมจนแตกกระตัดกระจายได้ในการฟันเพียงครั้งเดียว

                ในขณะเดียวกัน

                อะ

                ออร์ฟี่ก็รู้สึกตัว อิงศรพูดต่อทันที

                เราต้องถอยกันแล้วนะใช้พลังของนายตีฝ่าไปทางเรือของซากิริที

                อา

                แม้จะทำหน้ามึนอยู่บ้างแต่ดูเหมือนออร์ฟี่จะทำความเข้าใจต่อสถานการณ์ได้เร็ว ทันทีที่ที่เขาเห็นเรือสำเภาลอยลำอยู่กลางอากาศก็ตะโกนเสียงดังเพื่อบอกทุกคนให้ถอยทัพ

                ถอยไปที่เรือ

                ออร์ฟี่พูดแล้วบุกนำไปก่อนใคร ใช้หอกแห่งเมสสิยาห์ปลดปล่อยลำแสงกวาดพวกศัตรูที่ขวางทางออกไป ขณะเดียวกันพวกราชครูมนุษย์ต่างดาวก็ช่วยกันต้านทางด้านหลังแล้วต้อนอิงศรกับคนอื่นๆ ให้เข้าไปอยู่ตรงกลางเส้นทางวิ่งตามออร์ฟี่ที่ลุยเปิดทางไปก่อน

                แต่หนทางก็ไม่ได้สะดวกขนาดนั้น ก่อนจะไปถึงใต้เรือสำเภาเส้นทางที่ไล่ตามออร์ฟี่ถูกพวกศัตรูจำนวนหนึ่งเข้ามาขวางหลังจากที่ออร์ฟี่วิ่งเลยไปแล้ว ทำให้พวกอิงศรที่ไล่ตามมาตกอยู่ในวงล้อมทันที

                ทุกคน

                ออร์ฟี่ทำท่ายื่นหอกมาจะช่วยแต่ก็นึกขึ้นได้ว่าถ้าปล่อยการโจมตีออกไปก็จะโดนพวกเดียวกันไปด้วยเลยชะงักอยู่แค่นั้น ก่อนจะต้องประมือกับฝูงผู้รุกรานที่แห่กันเข้าไปรุมกินโต๊ะไม่ให้พัก

                ซึ่งอีกเดี๋ยวพวกเขาก็จะโดนแบบเดียวกัน

                โธ่เว้ย

                อิงศรสบถใส่หน้าผู้รุกรานตนหนึ่งที่เข้ามาเงื้อดาบลำแสงจะฟัน แต่เขาแผลงศรตัดคอได้เสียก่อน ร่างที่หัวกับตัวแยกกันไปคนละทิศเลยสลายหายไปตั้งแต่ตรงนั้น

                พวกผู้รุกรานที่มีจำนวนมหาศาลพวกนี้อาจจะเป็นแค่ทหารปลายแถวที่พวกเขาสามารถต่อกรได้แต่ความไม่กลัวตายและสภาพที่เหมือนกับไร้ความรู้สึกไม่แยแสต่อความเจ็บปวดหรืออะไรเลยราวกับเป็นตุ๊กตานั่นก็ทำเอาหืดขึ้นคออยู่

                ต่อให้ตัดแขนตัดขาไปพวกมันก็ยังรุดหน้าเข้ามา ต่อให้เสียบท้องจนทะลุหรือยิงทำลายดวงตาพวกมันก็ไม่หยุด มีแต่ต้องฆ่าให้ตายในครั้งเดียว ซึ่งพวกราชครูทำกันอยู่แต่พวกพ้องของเขามีอยู่แค่ไม่กี่คนที่ทำแบบนั้นได้ นอกไปจากนั้นแล้วก็แค่ปล่อยการโจมตีที่ผลักไสหรือถ่วงเวลาให้พวกมันเข้ามาถึงตัวช้าลงกับคอยป้องกันธนู กระสุน  ลำแสง และ พวกอาวุธระยะไกลอื่นๆ ทั้งหมดได้เหล่านักเวทอย่างนรินทร์ พลอย และ เน็กส์ ช่วยยิงสกัดให้อีกที

                แต่จำนวนศัตรูที่แห่กันเข้ามาทำให้อิงศรแทบจะหมดหวังในการตีฝ่าออกไป

                ตอนนี้แค่ป้องกันอย่างเดียวก็เต็มกลืนแล้ว

     

                ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงแหวกอากาศจากทางด้านหลังของพวกผู้รุกรานที่เขามองไม่เห็นเพราะพวกมันแห่กันมามืดฟ้ามัวดินไปหมด

     

                ตูม!!!

     

                เสียงระเบิดกัมปนาทดังขึ้นพอดีกับที่พวกผู้รุกรานที่อยู่ตรงหน้าเขาถูกอะไรบางอย่างพัดกระเด็น

                เบื้องหลังพวกมันนั้น คือกลุ่มควันสีดำลอยโขมงขึ้นมาจากพื้นถนนที่กลายเป็นแอ่งกว้าง ดาบยักษ์มหึมาปักคาอยู่กลางแอ่งนั้น

                แรคน่าบัสเตอร์เรอะ

                อิงศรรู้ในทันทีว่าใครเป็นเจ้าของดาบนี้ เพราะตัวดาบนั้นเป็นผลึกทั้งหมด ดาบ แรคน่าบัสเตอร์จากสกิลท่าไม้ตาย กีก้าเสลฟ แรคน่าบัสเตอร์ก็คือเครื่องทำสวนจูลลับบิทตาร์ ที่อยู่ในโหมดดาบนั่นเอง และการที่มันปรากฏในลักษณะของผลึกเท่ากับว่าคนที่ใช้ก็คือรูบิเดียม

                อิงศรแหงนหน้ามองอ้อมดาบไปก็เห็นเรือสำเภา เห็นรูบิเดียมที่ยืนอยู่บนดาดฟ้าเรือยื่นมือมาทางนี้เป็นการสั่งให้ดาบตกลงในทิศทางที่ชี้ ส่วนอีกมือก็เรียกดาบผลึกสำหรับใช้สกิล เอ็กคาลิเบอร์ ที่ไว้เตรียมใช้ท่าไม้ตายอื่นขึ้นมาแล้วหล่อนก็หันไปจัดการกับทัพบนฟ้าของผู้รุกรานต่อโดยไม่ให้พวกมันเข้าใกล้เรือได้แม้แต่คนเดียว

                เส้นทางด้านหน้าก็เปิดโล่งไปด้วยผลกระทบจากดาบ อิงศรตะโกนบอกทุกคนให้วิ่งฝ่าไป

                วิ่งฝ่าแอ่งข้างหน้าไปเลย

                แล้วออกวิ่งนำไปลงในแอ่ง ใช้แขนเสื้อปิดจมูกกันไม่ให้สูดหายใจเอาควันเข้าไป โดยมีคนอื่นๆ ตามหลังมา ภายในแอ่งนั้นทัศนวิสัยมืดมิดมีแต่ฝุ่นควันบดบังจนมองทางด้วยตาเปล่าแทบไม่ได้ ดังนั้นอิงศรจึงจดจำเส้นทางวิ่งตรงไปข้างหน้าอย่างเดียวแล้วปิดตาลง

                จนเมื่อวิ่งพ้นขึ้นมาจากแอ่งแล้วเปิดตาก็เห็นออร์ฟี่กำลังต่อสู้กับผู้รุกราน พวกมันถูกจัดการลงไปมาก จำนวนดูบางตากว่าตอนที่เห็นก่อนที่ดาบแรคน่าบัสเตอร์จะตกลงมา

                เมื่อฆ่าศัตรูคนสุดท้ายลง พื้นที่เบื้องก็ว่างเปล่า เพราร่างกายของพวกผู้รุกรานจะไม่เหลือซากศพทิ้งเอาไว้และพวกมันก็ไม่มีเลือด

                รีบไปกันเถอะ

                ออร์ฟี่พูด แต่แล้วก็มีเสียงดังมาจากทางด้านหลังฝั่งอิงศร

                เสียงคำรามของสัตว์จักรกลที่ไล่ตามมา ผู้รุกรานแห่กันขึ้นมาจากแอ่งทางด้านหลัง

                จะขึ้นไปโดยที่ปล่อยเจ้าพวกนั้นตามมาแบบนี้ไม่ได้

                อิงศรพูดพลางตั้งคันธนูเป้นนัยบอกให้ทุกคนสู้เพื่อขับไล่ศัตรูออกไปก่อน

                ทว่า...

                ทุกคนวิ่งไปก่อนเลยครับตรงนี้ผมจัดการเอง

                กวินทร์กลับพูดอย่างนั้นแล้วใช้มือกดคันธนูที่ของเขาลง

                นายมีแผนอะไรรึไง

                กวินทร์ยิ้มให้เขา ยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์

                ก็มีน่ะสิครับ

                อิงศรเชื่อมั่นในรอยยิ้มนั่น ดังนั้นจะปล่อยให้กวินทร์จัดการ

                ถ้างั้นก็ไปกันต่อให้กวินทร์จัดการที่นี่

                พอพวกเขาวิ่งออกไปกันแล้ว กวินทร์ก็เรียกอาคานาร์ออกมา ปีศาจจากอาคานาร์มหาโชคชะตาของกวินทร์ แจ็ค สปริกกินส์

                กวินทร์ให้แจ็คเปลี่ยนร่างเป็นพายุหมุนลอยขึ้นไปข้างบนแล้วกลายเป็นมือยักษ์พุ่งลงมาจับที่ด้ามดาบที่แรคน่าบัสเตอร์เหลือเอาไว้ ถอนดาบขึ้นมาแล้วฟาดลงไปกวาดล้างศัตรุที่ขึ้นมาจากแอ่งหายไปในพริบตา

                กวินทร์อาศัยช่วงที่แจ๊คยังพอจะสกัดพวกศัตรูไว้ได้ตามไปสมทบกับคนอื่นๆ

                ซากิริพวกเรามาถึงแล้ว

                อิงศรตะโกนขึ้นไป

                อยู่นี่แล้ว

                หลังเสียงพูดนั้นดังขึ้นก็มีแสงสว่างพุ่งลงมาจากเรือ ซากิรินั่นเองหล่อนบินลงมาด้วยร่างของเทวทูต ร่างของ ซาคคิเอลเทวัญชั้นเซราฟิมที่มีเพียงใบหน้ากับปีกหกคู่ที่งอกออกมาจากใบหน้า

                ซาคคิเอลใช้พลังเปล่งแสงสว่างจากตัวออกมาโอบล้อมพวกเขาทั้งหมดแล้วพายกขึ้นไปบนดาดฟ้าของเรือสำเภา

                บนเรือนั้นผู้รุกรานบนว่อนกันไปมาราวกับฝูงแมลงบินตอมโดยที่มีรูบิเดียมจัดการสอยตัวที่คิดจะขึ้นมาบนเรือ ในตอนที่พวกเขามาถึงนี้เองรูบิเดียมก็เปลี่ยนมาใช้สกิลท่าไม้ตาย เวพ่อนไนท์ แวริเอเบิลไนท์ สกิลที่ไทเทเนียมหรือฟ้ากมล วชิระ พี่สาวของกวินทร์ที่กลายเป็นมนุษย์ต่างดาวเคยใช้มาก่อน

                สกิลที่เปลี่ยนร่างของผู้ใช้เป็นนักรบแห่งดวงดาวที่ควบคุม โดรนซึ่งเรียกว่า ชาโดว์อาร์มเท่ากับครึ่งหนึ่งของจำนวนยูนิทที่จ่ายให้เป็นค่าใช้สกิล

                โดรนมีทั้งหมด 20 อันเท่ากับว่ารูบิเดียมจ่ายยูนิทไป 40 ลูก ซึ่งการที่งัดเอาสกิลนี้ออกมาใช้คงเพราะไม่เหลือยูนิทมากพอจะใช้สกิลท่าไม้ตายสำหรับต้านยันทัพศัตรูอีกแล้วหรือก็คือเป็นไม้ตายก้นหีบแล้วนั่นเอง

                โดรนแต่ละเครื่องจะปล่อยลำแสงออกมาจากปลายแล้วคงรูปไว้เหมือนกับมีด รูบิเดียมสั่งให้พวกมันพุ่งออกไปยันกับผู้รุกรานที่คิดจะขึ้นมาบนเรือ

                แล้วใช้จังหวะนั้นหันมาบอกซาคคิเอลให้กลับไปบังคับเรือ

                รีบออกจากที่นี่ได้แล้วฉันไม่มียูนิทพอให้ต้านพวกมันได้นานกว่านี้แล้วนะ

                ซาคคิเอลคืนร่างกลับเป็นซากิริแล้ววิ่งไปที่พวงมาลัย

                แต่ก็เป็นจังหวะเดียวกับที่เรือโคลงอย่างแรงและเอียงข้าง จนทุกคนที่อยู่บนเรือโดนเทกระจาดไหลลงไปตามการเอียงของเรือ

                นี่มันเกิดอะไรขึ้น

                อิงศรพยายามเกาะพื้นเรือแต่นั่นก็เพียงแค่ช่วยชะลอการตกลงไปเท่านั้น เขามองไปยังทางที่ตัวเขากำลังจะร่วงไป ก็เห็นมือจักรกลอันใหญ่ทำจากสำริดกำลังคว้ากาบเรือเอาไว้ นั่นเป้นสาเหตุที่ทำให้เรือเอียง

                สมุนของราหู เจ้าหุ่นยนต์สำริดนั่นกำลังดึงเรือของพวกเขาลงไป

                ซากิริวิ่งไปถึงพวงมาลัยพอดีก่อนที่เรือจะเอียงจึงงัดพวงมาลัยบังคับเรือให้ลอยขึ้นสู้กับแรงดึงของอีกฝ่าย แต่ดูเหมือนจะมีพลังไม่พอ เรือเอียงมากขึ้นจนไม่สามารถยึดพื้นเรือไว้ได้อีก

                เหวอ

                เสียงของฟูดังขึ้น แล้วก็เมษา นิวกำลังร่วงลงไป

                ทุกคน!

                อิงศรก็กำลังจะร่วงเหมือนกัน แต่เขาปักดาบลงกับพื้นเรือเพื่อทำเป็นที่ยึดแล้วเอาธนูไปสะพายไว้เพื่อให้มีมือเหลือหาที่ยึดจับเพิ่มก่อนจะคิดหาวิธีช่วยคนอื่นที่ร่วงลงไป

                ทว่า เรือก็โคลงเคลงอย่างรุนแรงขึ้นมาอีกเพราะสมุนของราหูพยายามจะดึงเรือลงไปจนองศาการลาดเอียงแทบจะตั้งฉาก มือของอิงศรลื่นหลุดจากด้ามดาบและร่วงหล่น

                หวา...

                แต่ก็มีมือเอื้อมมาคว้ามือเขาไว้ก่อน

                พี่ศร

                มิง่ขวัญจากอนาคตนั่นเอง เพราะพลังของหอกเมสสิยาห์ทำให้มิ่งขวัญจากอนาคตบินได้และเข้ามาช่วยเขาไว้

                ขณะเดียวกัน คนอื่นๆ ที่ร่วงลงไปก่อนหน้าก็ได้ออร์ฟี่ที่ลอยได้อยู่แล้วปล่อยแส้ใบมีดจากแผ่นหลังออกไปคว้าตัวขึ้นมาไว้ทันการพอดี

                แต่ปัญหาไม่ได้มีแค่เรือที่โดนดึงอยู่เท่านั้น พวกผู้รุกรานใช้อากสนี้บุกโจมตีอย่างหนักหน่วงยิ่งกว่าครั้งไหนๆ

                ท่ามกลางสภาพเช่นนี้คนที่ยังสู้อยู่ได้มีแค่ลิเธียมกับแฟรนเซียมที่ไม่แยแสว่าเรือจะเอียงกะเท่เร่หรือตั้งฉากแต่ก็ยังอาศัยเพียงแค่พลังกายล้วนๆ ไต่ไปตามพื้นเรือที่ลาดชันพร้อมกับกวัดแกว่งดาบฟาดผู้รุกรานร่วงลงไปจากเรือตัวแล้วตัวเล่า

                อย่างไรก็ตามสถานการณ์โดยรวมก็ยังไม่ดีขึ้น หากไม่หาทางทำอะไรกับเจ้าตัวที่ดึงเรือพวกเขาไว้

                นี่....เอ่อ ขวัญพาฉันไปตรงข้างบนหัวเจ้ายักษ์นั่นทีสิจะได้จัดการกับมัน

                มิ่งขวัญพยักหน้ารับแล้วเปลี่ยนมาเป็นท่าอุ้มเอวพาบินเรียบพื้นเรือไปจนถึงจุดที่ว่า

                เมื่อมาถึงอิงศรก็ดึงธนูที่สะพายเอาไว้ออกมาเตรียมจะยิงสอย

                เหวอ

                จู่ๆ มิ่งขวัญที่อุ้มเขาบินอยู่ก็ร่วงลงข้างล่าง อิงศรที่ตั้งสติไหวตัวทันจึงซัดคันธนูที่มีใบมีดติดอยู่เข้าที่พื้นเรือ ใช้ธนูปักทำเป็นหลักยึดเอาไว้ ตอนนี้มิ่งขวัญก็เลยมาห้อยต่องแต่งอยู่กับเขาแทน

                เฮ้ เกิดอะไร...

                แต่ยังไม่ทันที่อิงศรจะถามจบ

                ก่อนจะเป็นดิวินิแดดผมเคยเป็นนรินทร์มาก่อนนะครับเพราะงั้นสกิลของฮอสปิทัลเลอร์ก็เลยยังใช้ได้ด้วย

                กัลกีนั่นเอง เจ้านั่นยืนอยู่บนหัวไหล่ของหุ่นสำริดและกำลังใช้ อาร์เคนไบน์สกิลประจำคลาสฮอลปิทัลเลอร์ สร้างวงแหวนแสงมัดขาของมิ่งขวัญแล้วดึงลงไป

                ขวัญส่งมือมา

                อิงศรยื่นมือให้น้องชายจากโลกคู่ขนาน อำนาจดึงของสกิลที่กัลลกีใช้นั้นถ้าเวลาผ่านไปมันจะหายไปเองถ้างั้นก็ต้องดึงมิ่งขวัญที่กอดเอวเขาขึ้นมาแล้วยื้อรอไปจนถึงตอนนั้น

                แต่มิ่งขวัญยังไม่ยื่นมือมาจับมือเขาแต่กลับจ้องมองลงไปข้างล่าง มองไปยังหุ่นสำริดนั่น

                พี่ศรจากนี้ไปไม่ว่าจะเลวร้ายแค่ไหนก็ห้ามยอมแพ้ที่จะมีชีวิตไปกับทุกคนนะ

                มิ่งขวัญหันกลับมาพูดแบบนั้น แววตาเป็นประกาย

                ...

                เขาเคยเห็นแววตาแบบนี้มาก่อนเลยพูดไม่ออก เขาเดาความคิดของขวัญได้ในทันที

                ไม่ ถึงนายจะไม่ใช่ขวัญที่ฉันรู้จักแต่ฉันไม่ยอมรับเรื่องแบบนั้นเด็ดขาด

                แต่มันเป็นความจริงสำหรับตอนนี้ที่จะต้องมีใครซักคนลงไปจัดการกับหุ่นสำริดแล้วปลดปล่อยเรือ ซึ่งตอนนี้ก็มีแค่พวกเขาที่ห้อยกันอยู่เหนือหัวของมันพอดี คนอื่นๆ กำลังติดพันกับพวกผู้รุกราน แล้วถ้าปล่อยไว้นานกว่านี้เรือของพวกเขาได้จมแน่ อย่างน้อยก็ไม่มีเวลาเหลือพอให้ยื้อกับสกิลของกฤษณะแล้ว

                แต่ว่า...

                มันยังพอมีทางอื่นอยู่น่ารีบส่งมือนายมาซะ

                คำพูดของเขาไม่มีน้ำหนักเอาเสียเลยนั่นก็เพราะเรือกำลังลอยต่ำลง ดูเหมือนจะถึงที่สุดแล้วจริงๆ นั่นแหละ

                ไม่รู้ทำไมแต่ตอนนั้นมิ่งขวัญก็ยื่นมือขึ้นมาจับมือเขา

                แบบนั้นแหละเดี๋ยวค่อยหาทางจัดการพวกมันทีหลัง

                นี่คือเจตจำนงของพี่ศรผมขอคืนมันให้พี่ที่นี่

                หา?”

                มือของมิ่งขวัญที่จับเข้ามาที่มือนั้นได้ยัดของบางอย่างเข้ามาในมือเขาแทน แล้วมิ่งขวัญก็ปล่อยแขนจากเอว

                ขวัญ!”

                สิ่งที่ยัดมาให้เขานั้นคือหอกแห่งเมสสิยาห์และเพราะแบบนั้นชุดของมิ่งขวัญคนนั้นก็เลยเปลี่ยนเป็นชุดทหารของเมตไตรย ดูเหมือนว่าที่โลกคู่ขนานฝั่งนั้นทั้งเขาทั้งมิ่งขวัญจะเข้าร่วมกับเมตไตรยเพราะที่ฝั่งนั้นไม่มีมนุษย์ต่างดาว....เพราะว่ามนุษย์ต่างดาวก็คือคนจากโลกคู่ขนานอื่นนั่นแหละ

     

                ว้ากก!!!”

                มิ่งขวัญแห่งโลกคู่ขนานพุ่งลงไปข้างล่างพร้อมกับชักเรเปียออกมา เขาเหยียบลงบนหัวของหุ่นสำริด

                รอยัลเซเบอร์

                ไถลมือลงไปที่ตัวของเรเปียทำให้แสงห่อหุ้มมันแล้วแทงลงหัวของหุ่นสำริด

                เกิดระเบิดขึ้นที่หัวของเจ้าหุ่นทำให้มันแน่นิ่งไปรวมถึงมือยักษ์ที่ดึงเรือเอาไว้สูญเสียพลังที่จะเหนี่ยวรั้ง เรือจึงงัดลอยกลับขึ้นไปอย่างแรงจนแทบจะตีลังกาหากซากิริไม่หักพวงมาลัยทันเสียก่อน

                อิงศรที่อยู่บนเรือพอตั้งหลักได้ก็ถอนธนูขึ้นจากพื้นเรือแล้ววิ่งไปที่กาบ ชะเง้อหน้ามองลงไปข้างล่าง

                มิ่งขวัญกำลังสู้กับกัลกีอยู่บนตัวของหุ่นสำริดที่แน่นิ่งแล้ว ขณะที่เรือของพวกเขาลอยห่างออกไป

                ขวัญ...

                เขาอยากจะให้ลงไปช่วยแต่ผู้รุกรานก็ไล่ตามขึ้นมา ถ้าลงไปตอนนี้คงจะไม่มีโอกาสถอยอีกแล้ว อิงศรได้มองมิ่งขวัญที่สู้อยู่ข้างล่างสลับกับหอกแห่งเมสสิยาห์ในมือ แล้วตัดสินใจออกมา

                ตัดสินใจว่าจะไม่ให้ความตั้งใจของมิง่ขวัญสูญเปล่า

                ไป! ไป!! ไป!!!”

                เขาตะโกนบอกซากิริ หล่อนพยักหน้าให้แล้วเริ่มหมุนพวงมาลัยหันเรือออกไปยังทิศที่มีผู้รุกรานกระจุกกันอยู่น้อยที่สุด

                ครั้งนี้พวกเขาพ่ายแพ้แล้ว แต่เพราะได้มิ่งขวัญช่วยเอาไว้จึงยังรอดชีวิต ถ้ายังมีชีวิตอยู่ก็สามารถกลับมาเอาคืนพวกมันได้ดังนั้นตอนนี้จะหันหลังกลับไม่ได้เด็ดขาด

                อิงศรกำราวกั้นกาบเรือแน่นจนไม้นั้นปริแตก เขาต้องทนข่มตัวเองให้ยอมรับข้อเท็จจริงอันเจ็บปวดนี้

                ข้อเท็จจริงที่จำต้องยอมเสียสละพวกพ้องเพื่อให้ตัวเองได้รอดชีวิต เพื่อการก้าวเดินต่อไปข้างหน้า

                พวกเราจะกลับมาเอาคืนแน่

                อิงศรปฏิญาณกับตัวเองเช่นนั้น

                ในตอนนั้นเองท้องฟ้าด้านหน้าของเรือสำเภาก็เกิดหลุมมิติขนาดใหญ่ขึ้นเป็นมิติสำหรับให้เรือลำนี้หลบหนีไปยังฐานที่มั่นซึ่งก็คงจะเป็นอาคาชิกแซงทัวรี่

     

                เมื่อเรือสำเภาหนีหายเข้าไปแล้วรูมิติก็ปิดลง

                มิ่งขวัญซึ่งแอบเหลือตามองอยู่ก็ผ่อนลมหายใจอย่างโล่งอก

                ดีใจอะไรมิทราบ

                กัลกีถาม

                พวกฉันชนะแล้วน่ะเซ่!”

                มิ่งขวัญตวาด จังหวะนั่นก็พุ่งตัวออกไปพร้อมกับตวัดเรเปีย

                หนอย

                กัลกีสบถใส่เรเปียอาบแสงที่หวิดจะฟันเข้ามาที่ท้องของตนแต่ก็สามารถดันดาบของตัวเองออกไปต้านรับไว้ทัน

                บริโอแน็กส์!!”

                มิ่งขวัญร่ายสกิลปลดปล่อยหอกลำแสงออกจากเรเปีย แล้วจับด้ามเรเปียด้วยสองมือแล้วงัดฟันทั้งดาบทั้งตัวกัลกีไปพร้อมกัน

                อ้ากกกก!!!!”

                หอกแห่งแสงไม่ได้ผ่าแค่ร่างของกัลกีแต่ยังทำลายซากหุ่นสำริดที่พวกเขายืนอยู่จนมันถล่มลงไปพวกเขาจึงตกลงมาด้วย

                กัลกีบาดเจ็บสาหัสกลิ้งหลุนๆ ไปสองสามตลบก่อนจะนอนแผ่หลาอยู่กับพื้น

                บัดซบเอ้ยเจ้าเด็กนั่น

                กัลกีตั้งใจจะหยัดตัวลุกแต่บาดแผลที่ถูกฟันลำตัวจนแทบขาดสะพายแล่งทำให้ร่างกายไม่ตอบสนองอย่างที่คิด

                มันจบแล้ว

                มิ่งขวัญกล่าวแล้วเหยียบเท้าลงบนอกของกัลกี

                อึก ก...แกอย่าคิดนะว่าข้าผู้นี้จะตาย...

                กัลกีพูดถึงแค่ตรงนั้น มิ่งขวัญก็ตวัดเรเปียตัดคอ ดับลมหายใจอีกฝ่ายไป แต่นั่นยังไม่ใช่ชัยชนะที่แท้จริงอยู่ดี

                สำหรับมิ่งขวัญตอนนี้มีแต่ความพ่ายแพ้และความตายเท่านั้นที่รออยู่เบื้องหน้า

                พวกผู้รุกรานที่ไล่ตามเรือสำเภาไปไม่ทันก็หันเป้าลงมาที่เขานอกจากนี้ยังมีราหูยืนรอ อยู่อีก

                ราหูพูด

                ส่งหอกนั่นให้อิงศรไปแล้วสินะคิดจะทำให้มันจบลงแบบรอบที่แล้วอีกน่ะเหรอ

                มันไม่มีทางเหมือนกันหรอก

                เหรอ...ถ้างั้นตอนนี้เจ้าก็พร้อมจะมาเป็นคอลเลคชั่นอาวุธอันสุดท้ายของข้าแล้วสินะ

                ฝันไปเหอะ รอยัลเซเบอร์

                มิ่งขวัญตวาดกลับแล้วไถลมือไปกับเรเปีย ทำให้แสงที่เคยปลดปล่อยไปด้วยบริโอแน็กส์กลับมาห้อมล้อมดาบอีกครั้ง

                ย้ากกกก!!!!”

                แล้วพุ่งตัวออกไปข้างหน้าโดยไม่เกรงกลัวต่อจำนวนของศัตรูที่ยืนขวางเส้นทางไปถึงราหู

                ผู้รุกรานดาหน้ากันเข้ามาหวังจะหยุด หวังจะฆ่า แต่พวกมันถูกมิ่งขวัญตวัดเรเปียฆ่าไปอย่างง่ายดาย

                ศัตรูตัวที่ 1

                ตัวที่ 2

                ตัวที่ 3 , 4 , 5 , 6…

                ผู้รุกรานล้มลงตัวแล้วตัวเล่าแต่ยิ่งเดินหน้ามากขึ้นจำนวนของพวกมันที่บุกเข้ามาก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้นแล้วยังมาจากทุกทิศทาง

                มิง่ขวัญสามารถฆ่าและป้องกันด้านหน้ากับด้านข้างได้ แต่เมื่อมีนกอสูรจักรกลตัวหนึ่งโฉบลงมาที่หัวใช้กรงเล็บจิกศีรษะจนเกิดบาดแผลเหวอะ

                กรอด...

                มิ่งขวัญกัดฟันข่มความเจ็บปวดแล้วแทงเรเปียเสียบท้องนกจักรกลตัวนั้นร่วงลงมาก่อนมันจะทันบินหนีไป บาดแผลนั่นทำให้เขาเชื่องช้าลงจนถูกผู้รุกรานสองคนที่บุกเข้ามาจาทางด้านหลังเสียบหอกแทงทะลุมาถึงอกกับหน้าท้อง

                ดาบเรเปียร่วงหลุดจากมือ มิ่งขวัญถูกพลหอกสองนายด้านหลังดันหอกกดร่างล้มลงคุกเข่าต่อหน้าราหูที่เดินเข้ามาหา

                ราหูใช้นิ้วดันคางมิ่งขวัญให้เชิดหน้าขึ้น

                ตอนนี้ฝันข้าก็เป็นจริงแล้ว

                มิ่งขวัญยิงฟันใส่อีกฝ่ายด้วยความเจ็บแค้น แต่เขาขัดขืนไม่ได้อีกแล้ว

                แกไม่มีวันชนะ

                จึงได้แต่พูดคำพูดเพื่อแสดงว่าเขาจะไม่ยอมจำนนแม้ต้องตาย ทว่าราหุก็แค่นเสียงหัวเราะอย่างยินดีตอบรับต่อคำพูดอันดื้อดึงนั่น

                ช่างน่ารักอะไรแบบนี้นะ

                ราหูกล่าวจากนั้นก็ร่างของมันก็เปลี่ยนไป ร่างกายมหึมาหดเล็กลงจนเหลือตัวเท่ากัน

                ทีนี้นายก็จะมาอยู่เคียงข้างฉัน....ขวัญ

                อิงศรย่อตัวลงให้ระดับสายตาเสมอกันกับมิ่งขวัญ

                ....

                มิ่งขวัญจ้องหน้าอีกฝ่าย หน้าของพี่ชายตัวเองแล้วสีหน้าก็เปลี่ยนไปตามอารมณ์ที่หวั่นไหว

                นี่คือพี่ชายที่อยู่ที่โลกคู่ขนานเดียวกับตน คืออิงศรคนนั้นจริงๆ

                อิงศรมาพร้อมกับที่สวมข้อมือติดตั้งใบดาบที่หันไปด้านหลัง ใบดาบสามารถพับมาด้านหน้าได้ ชุดที่สวมอยู่คือชุดของผู้รุกราน สวัสติกะสีดำทะมึนหมุนพัดกวัดแกว่งอยู่บนแผ่นหลังส่งเสียงหึ่งๆ ออกมาราวกับจะเยาะเย้ยต่อนักโทษแห่งความว่างเปล่าผู้นี้ที่ถูกมันจองจำเอาไว้

                ใบดาบพับมาด้านหน้า อิงศรแทงดาบใส่ท้องของน้องชาย ดันดาบเข้าไปจนมิดด้าม

                อั่ก

                มิ่งขวัญกระอักออกมาเป็นเลือด

                กำลังจะตาย...เขารู้สึกแบบนั้นแต่ว่า

                สิ้นหวังแล้วใช่ไหมล่ะหลังจากที่มีความหวังมาก่อนตอนนี้นายว่างเปล่าแล้วยินดีด้วยเวิร์สแอกเกรเซอร์คนใหม่

                อิงศรกล่าวแล้วถอนดาบออกจากร่างน้องชาย พลหอกก้ถอกหอกออกจากร่างด้วยเหมือนกัน

                มิ่งขวัญล้มฟุบลงไป รูที่โดนแทงทะลุมาถึงแผ่นหลัง จู่ๆ ก็มีเลือดพุ่งขึ้นมา เลือดกระจายตัวออกและคงรูปร่างเป็นสวัสติกะ สีเปลี่ยนโทนเข้มขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งกลายเป็นดำสนิท

                มิ่งขวัญยังคงมีสติอยู่ครบถ้วนแต่ความรู้สึกเหมือนกับใกล้ตายนั้นกำลังเจือจางลงอย่างไม่ทราบสาเหตุ

                รู้เพียงแค่ว่าตอนนี้ตัวเองจะไม่ตาย

                แต่กำลังจะเกิดใหม่...

                อ....อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

                อิงศรถาม

                ตอนนี้นายเป็นใคร

                อ....อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

     

                ทุกสิ่งทุกอย่าง

                ทุกสิ่งทุกอย่าง

                กำลังจะหายไป ทั้งความปรารถนา ความกระหาย ความหวัง ความสิ้นหวัง

                สิ่งทั้งหมดนั้นหมุนวน หมุนวน ดั่งสวัสติกะบนแผ่นหลัง

                เจตจำนง อัตตาตน ภายในกายนี้ถูกลบหายและกำเนิดใหม่

                ...

                มิ่งขวัญหยุดแผดเสียงร้อง ความทรมานมันได้หายไปแล้ว

                มิ่งขวัญยันร่างกายขึ้น

                ไม่ใช่มิ่งขวัญอีกแล้วแต่...

                เป็นผู้รุกราน

     

    ***อาทิตก่อนติดภารกิจวันแม่โดยบังเอิญเลยไม่ได้ลงยาวจนวันนี้เลยฮะ สำหรับตอนต่อไปคิดว่าจะลงวันพฤหัสแล้วอีกตอนในวันเสาร์ครับ คิดว่าซักสามวันน่าจะพอปั่นทัน เพราะในตอนนี้ Act เผชิญหน้าราหู Part แรกก็จบลงแล้ว Part ต่อไปคือเริ่มศึกตัดสินอย่างจริงจังแต่คงต้องให้พวกอิงศรเตรียมกองทัพกันก่อนล่ะน้า ฝ่ายโน้นไม่ได้มาแบบแอดมินิสเทรเตอร์มาโชว์เดี่ยวเป็นบอสให้เพลยเยอร์ไปรุมตีลูทของ แต่ยกทัพมาเป็นโขยงเลยทีเดียว***


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×