คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #201 : Login 198: พงศาวดารแห่งเทวาสุรสงคราม (เปิดฉาก)
Login
198: พงศาวดารแห่งเทวาสุรสงคราม (เปิดฉาก)
คมเคียวฟันใส่ร่างของอิงศร
แต่ร่างนั้นกลับหายไป
มีนามองทันเพียงแค่ว่าร่างของอิงศรที่จูงมือเธออยู่เริ่มกลายเป็นหมอกก่อนจะตวัดเคียวเข้าไปแล้ว
หมอกกลับมารวมตัวกันอีกครั้ง
ที่เบื้องหน้าและได้ละทิ้งรูปลักษณ์ของอิงศรไป
ตอนนี้คือโฉมหน้าที่แท้จริงของศัตรู
หญิงแก่สวมเสื้อคลุมสีดำทั้งตัว
ใบหน้าเหี่ยวย่นตกกระเล็กน้อย กำลังยิ้มหวานอย่างชั่วร้าย
“เป็นคุณจริงๆ
ด้วยสินะคะที่เห็นในป่าตรงชายหาดเมื่อวาน”
“…”
หญิงแก่ยังคงไม่เคลื่อนไหว
แต่เพื่อความไม่ประมาท…
มีนาจับเคียวด้วยสองมือให้กระชับมากยิ่งขึ้น
เตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้
“คงไม่ใช่มนุษย์สินะคะเพราะว่ามองเห็นการเคลื่อนไหวของเวตาลที่ฉันปลดปล่อยออกมาได้นี่นะ”
ตอนนั้นเองที่ด้านหลังของมีนาก็มีชายร่างกำยำและมีเขาโง้งอันโดดเด่นปรากฏขึ้นมาอย่างเลือนราง
ชายคนนั้นคือปีศาจ
คือเวตาล
ชายผมสั้นสีดำ
ผิวเข้มเล็กน้อย ร่างสูงใหญ่ ใหญ่กว่ามีนาเกือบสามเท่า
สวมแจ็กเก็ตดำไม่รูดซิปเผยช่วงอกกับลำตัวที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามกับกางเกงยีนส์สีดำ
มีปีกค้างคาวงอกออกมาจากกลางหลัง
“ในที่สุดก็ปลดปล่อยข้าสู่โลกจริงได้แล้วสินะมีนา”
เวตาลกล่าว
“ค่ะต้องขอบคุณคุณซีเซียมแล้วสิที่ช่วยลดเลเวลขั้นต่ำของสกิล
ลีลีส สเตจให้เพราะงั้นถึงเลเวลจะไม่ถึงเก้าสิบก็ใช้งานได้เหมือนกัน”
มีนา Lv. 68 [/////6000:6000/////]
เวตาลพูด
“โอ๊ะโอ
ดูเหมือนว่าเพื่อนเจ้าจะพร้อมแล้วนะมีนา”
นิวกับพลอยแทรกตัวผ่านช่องแคบที่เกิดจากร่างอันใหญ่โตของเวตาลเข้ามาสมทบกับมีนา
ทั้งสองมาพร้อมกับอาวุธในมือและสวมชุดรบโทนสีขาวน้ำเงิน
ชุดประจำกองกำลัง ‘ซี’ ที่คุณอิงศก่อตั้งโดยให้ขึ้นตรงกับผู้ถูกลืมเลือนซีลอร์ดราวกับรู้อยู่ก่อนว่าจะต้องต่อสู้
“นี่ชุดค่ะพี่มีนา”
พลอยพูดพร้อมกับส่งแจ็คเก็ตของชุดรบแบบเดียวกัน
ที่อิงศรเพิ่งจะให้มาวันนี้
มีนารับมาสวมทับชุดเดิม
สาเหตุที่สามารถเตรียมพร้อมได้ขนาดนี้เป็นแบบนั้นเพราะมีนาคาดการณ์เอาไว้แล้วว่าคืนนี้ศัตรูน่าจะมาโจมตี
จากเอกสารที่เคยอ่านมาตอนที่เรียนวิชาปีศาจศาสตร์ในชั่วโมงเรียนของเมตไตรยเนื่องด้วยตัวเธอที่เข้าร่วมโครงการเปลี่ยนอาชีพเป็นซัมมอนเนอร์ช่วงก่อนที่อาชีพนี้จะเปิดเป็นสาธารณะหลังจากแพทซ์อัพเดท
จึงได้รับการศึกษาเรื่องของปีศาจทุกประเภทเป็นพิเศษและหนึ่งในบทเรียนนั้นก็มีพูดถึง
‘อสูร’ เอาไว้ด้วย
‘อสูร’ คือมนุษย์ที่ถูกพลังของ
‘อสุรา’ เข้าครอบงำโดยสมบูรณ์จึงไม่สามารถเป็น
‘อสุรา’ ได้
เมื่อก่อนมีนาไม่เคยเข้าใจเนื้อหาที่ว่านั่นเลยจนถึงเมื่อครู่นี้เองที่เวตาลเล่าให้ฟังระหว่างที่ตกอยู่ในอาคมของศัตรูช่วงที่หาจังหวะจะใช้
เวตาลปัญจวิงศติ นั้นก็ได้แลกเปลี่ยนบทสนทนากันนิดหน่อย
การพูดคุยกับปีศาจที่อยู่ในแอพพลิเคชั่นซึ่งมีระบบป้องกันการครอบงำจากปีศาจอยู่นั้นเป็นสิทธิพิเศษสำหรับซัมมอนเนอร์เท่านั้น
แต่คงยกเว้นคุณอิงศรเอาไว้คนหนึ่ง
คุณอิงศรเล่าให้ฟังว่าสามารถคุยกับเอลิกอร์ได้และถูกจ้องจะชิงร่ายกายอยู่ตลอดตอนแรกคิดว่าเป็นเพราะเขาเป็นคนพิเศษที่เรียกว่า
‘ผู้ถูกฟันเฟืองเลือก’ แต่ก็เพิ่งจะมาทราบในภายหลังว่าคุณกวินทร์
กับ คุณมิ่งขวัญ
ก็เป็นผู้ถูกเลือกเหมือนกันแต่ก็บอกว่าไม่เคยมีเหตุการณ์แบบนั้นเกิดขึ้นเลย
ดังนั้นสาเหตุน่าจะเป็นเรื่องอื่น
ดังนั้นจึงบอกกับคุณอิงศรให้เตรียมเอลิกอร์เอาไว้และบอกกับทุกคนตอนที่กำหนดรหัสลับกันที่ล็อบบี้ก่อนจะแยกย้ายกันเข้านอน
เพื่อให้เตรียมพร้อมรบสำหรับคืนนี้เพราะจากบทเรียนที่เพิ่งจะมาเข้าใจเอาตอนนี้ได้ระบุสถานการณ์เอาไว้เป็นฉากๆ
เลยว่าพวกมันเคลื่อนไหวกันอย่างไร
“ถึงจะลำบากในการวางแผนไปนิดหน่อยเพราะคุณอิงศรเกิดหัวร้อนจะออกไปตามหาคุณนรินทร์กับเน็กส์ก็เถอะแต่ก็แอบบอกแผนซุ่มโจมตีคืนนี้สำเร็จล่ะนะ”
แล้วก็เป็นไปตามแผน
ก่อนหน้านี้เพียงแค่หลอกให้ศัตรูคิดว่าเธอตกหลุมพรางจนถูกฉุดเข้าไปในมิติอาคมที่มันสร้างขึ้นมา
นั่นก็เพื่อประวิงเวลาให้พลอยกับนิวที่อยู่ข้างหลังได้เตรียมพร้อม
“พี่มีนาคะเมื่อกี้เห็นยืนค้างอยู่หน้าประตูตั้งนานนึกว่าจะเป็นอะไรไปแล้วซะอีก”
พลอยพูดด้วยความเป็นห่วง
ดูเหมือนว่าสำหรับคนอื่นแล้วจะมองเห็นเธอที่ถูกลากเข้าไปในมิติอาคมแค่ยืนตัวแข็งทื่ออยู่เท่านั้นเองสินะ
“แค่โดนผีอำเอาน่ะค่ะแต่มีเวตาลอยู่ก็เลยรอดมาได้”
ป่านนี้ที่ห้องนอนของคนอื่นคงกำลังต่อสู้กันชุลมุนอยู่เหมือนกัน
อาคารพักอาศัยแทบจะกลายเป้นนรกไปแล้วเมื่อลองสังเกตสถานการณ์แล้ว...
ทั้งเสียงหอนซึ่งเป็นอาคมประเภทเสียงรบกวนมีผลทำให้จิตใจของผู้ฟังอ่อนแอลงซึ่งก็ดังระงมไปทั้งอาคาร
ระเบียงทางเดินของทุกชั้นมืดสนิทคงเป็นผลจากพลังของพวกมันที่ไปรบกวนพลังงานไฟฟ้าเป็นลักษณะเฉพาะของ
‘อสูร’ ที่จะคอยดึงพลังงานรอบๆ
มารวมที่ตัวทำให้ไฟดับ
เสียงต่อสู้เสียงโหวกเหวกดังมาจากชั้นล่างพวกผู้ชายคงกำลังรับมือศึกหนักอยู่เหมือนกัน
ในขณะเดียวกันนั่นเอง....
เมื่อเห็นว่าตัวเองถูกซ้อนแผนเข้าหญิงแก่ก็หุบยิ้มแล้วกัดฟันขบเขี้ยวเคี้ยวกรามอย่างโกรธเคืองพลางสบถว่า
“พวกมึงไม่ใช่คน
พวกมึงเป็นใคร มายุ่งอะไรกับที่ของกู”
มีนาพูด
“อุหวา
ภาษาพ่อขุนหลุดมาเป็นพรวนเลยล่ะค่ะแล้วแบบนี้จะไม่โดนเซนเซอร์ตอนเอาต้นฉบับลงเว็บเหรอคะเนี่ย”
พลอยพูด
“เอ่อ
พูดถึงเรื่องอะไรอยู่เหรอคะพี่มีนา”
”ช่างเถอะค่ะตอนนี้ต้องช่วยกันดัดนิสัยของคุณยายปากเสียคนนี้ซะก่อนค่ะ
ถึงจะเพิ่งเคยเจอตัวเป็นๆ
ก็เถอะแต่นี่คืออสูรแบบโบราณเลยล่ะค่ะเรียกอีกอย่างก็ปอบไม่ก็ผีเฝ้าสมบัติปู่โสมนั่นแหละค่ะ”
พลอยทำหน้าตกใจ
“ผ…ผีเหรอแล้วแบบนี้พวกเราจะสู้ได้เหรอ”
“ไม่ต้องห่วงค่ะ
ถ้าเทียบกับโลกก่อนจะล่มสลายเมื่อก่อนเจอแบบนี้พวกเราคงต้องหนีหัวซุกหัวซุนกันแล้วล่ะแต่ตอนนี้พวกเราคือมนุษย์ที่มีพลังของเกมโลกาวินาศอยู่เพราะงั้นเจอแบบนี้อีกเป็นสิบก็ไหวค่ะ”
พูดจบมีนาก็พุ่งออกไปพร้อมกับเงื้อเคียวตวัดใส่หญิงแก่
แต่ด้วยสายอาชีพกับพลังของตัวเธอเองไม่ได้เอื้อให้กับการต่อสู้มากนัก
หญิงแก่เพียงแค่ก้าวถอยหลังเร็วๆ ก็หลบพ้นได้ฉิวเฉียด
มีนาพูด
“แล้วก็ที่ว่าไม่ใช่คนน่ะผิดไปนิดหน่อยค่ะฉันคนเดียวที่เป็นมนุษย์ส่วนสองคนข้างหลังน่ะไม่ใช่”
สิ้นคำก็มีเส้นด้ายจำนวนมากพุ่งอ้อมเธอตรงไปมัดแขนขาของหญิงแก่
“สตริงไบน์ !! (String Bind)”
สกิลของนิวที่มีบิลด์คลาสเป็นมาริโอเน็ทใช้เส้นด้ายที่สร้างขึ้นด้วยพลังของสกิลตรึงศัตรูไว้
หญิงแก่พยายามสลัดด้ายให้หลุด
หล่อนสะบัดทั้งแขนขาด้วยเรี่ยวแรงเกินมนุษย์
ท่อนแขนที่ฟาดไปโดนรั้วระเบียงซึ่งทำจากเหล็กถึงกับหักงอ
พอกระทืบเท้าเพื่อจะสะบัดด้ายที่มัดขาก็ทำเอาระเบียงทางเดินสั่นไปทั้งแถบ
แต่เพราะการทำงานของ
สตริงไบน์
นั้นตรึงเป้าหมายโดยอาศัยพลังเวทส่งผ่านเส้นด้ายแทนการใช้แรงกายของผู้ร่าย
ด้วยเหตุนั้นเองหญิงแก่ที่ท่าทางมีเรี่ยวแรงมหาศาลเกินคนถึงได้ถูกนิวที่เป็นเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ
ตรึงอยู่กับที่ได้
“จัดการเลยพี่พลอย”
เด็กหญิงกล่าวโดยที่ดึงเส้นด้ายทั้งสิบเส้นด้วยนิ้วแต่ละข้างยื้อไม่ให้หญิงแก่ขยับตัว
จังหวะนั้นเองพลอยก็อ้อมมีนาไปพร้อมกับเปลี่ยนไม้คฑาในมือให้กลายเป็นดาบแห่งไฟชำระ
“เทคนิคัลเวพ่อน
เพิร์กเรเควี่ยม!”
พลอยพุ่งเข้าหาเป้าหมายที่ถูกตรึงแล้วตวัดดาบใส่
แต่ร่างของหญิงแก่ก็กระจัดกระจายกลายเป็นหมอกสีดำไปซะก่อนทำให้ดาบฟันไม่โดน
หลุดรอดไปได้แม้แต่เส้นด้ายของนิวที่ตรึงเอาไว้
หมอกกลับมารวมตัวเป็นหญิงแก่อีกครั้ง
สภาพนั้นไร้ซึ่งรอยขีดข่วนดูเหมือนจะหลบได้อย่างสมบูรณ์แบบแต่กลับแสดงอาการหอบหายใจราวกับเพิ่งวิ่งเป็นระยะทางนานๆ
มาอย่างไรอย่างนั้น บางทีการกลายเป็นหมอกอาจจะเปลืองพลังงานเป็นอย่างมากก็ได้
พลอยดึงดาบกลับมาตั้งบนหลังมือหันคมชี้ใส่หญิงแก่พร้อมกับพูดให้สัญาณนิวที่อยู่ข้างหลัง
“ตอนนี้แหละนิว!”
“ค่ะ!”
เด็กหญิงสะบัดมือแรงๆ
เพียงครั้งเดียวเส้นใยด้ายที่พันนิ้วทั้งสิบก็หลุดออก
“สตริงโทเค่น! (String Token)”
เส้นด้ายเหล่านั้นยืดยาวขึ้นและมัดพันเข้าด้วยกันจนกลายเป็นตุ๊กตาหมีตัวเล็กๆ
หล่นตุบลงบนพื้นข้างๆ ที่พลอยยืน
“ดาร์คแซคคริไฟซ์”
พลอยร่ายสกิลพร้อมกับตวัดดาบอย่างรวดเร็ว
ฟันตุ๊กตาหมีที่ทำจากเส้นด้ายขาดสะบั้นในพริบตาและทำให้ลูกไฟยูนิทสีดำสองลูกลอยห้อมล้อมใบดาบ
“จ่ายสองยูนิท
จงขับขานออกมาเพลงสวดแห่งแดนชำระเพอกาทอรี่ฮิมท์เดียโบล! (Purgatory Hymn Diablo)”
ลูกไฟยูนิททั้งสองลูกกลายเป็นปีกค้างคาวสวมเข้าที่กลางหลัง
ด้วยอำนาจของมันทำให้สามารถปฏิบัติการทางอากาศได้และยังมีผลช่วยย่นระยะเวลาฟื้นฟูสกิลธาตุความมืดทั้งหมดหรือก็คือนี่เป็นร่างต่อสู้ที่แท้จริงของฮอสปิทัลเลอร์ที่ติดตั้งอาวุธเทคนิคัลแบบพิเศษเพิร์กเรเควี่ยมนั่นเอง
พลอยบินทะยานออกไปพร้อมกับแทงดาบไปข้างหน้า
ดาบมุ่งเข้าหาจุดเสียบตรงหน้าอกด้านซ้ายซึ่งเล็งหัวใจ
พลอยเข้าใจดีว่าอีกฝ่ายไม่ใช่มนุษย์ธรรมดาดังนั้นจึงต้องเล็งโจมตีจุดตายตรงๆ ไปเลย
แต่หญิงแก่เปลี่ยนร่างกายตรงช่วงนั้นให้กลายเป็นหมอกดาบจึงทะลุผ่านไปพร้อมกับร่างของพลอยที่บินข้ามราวกั้นระเบียง
ร่างของหญิงแก่ยิ่งกระจัดกระจายกลายเป็นหมอกจนแทบจะเลือนหายไป
ใช่อย่างที่คิด
ดุเหมือนว่าหญิงแก่จะไม่มีร่างเนื้อที่แท้จริง
บางทีร่างนั้นอาจจะเป็นแค่หมอกที่มารวมกันคงรูปร่างเป็นร่างมนุษย์
ร่างกายเป็นเพียงแก๊สเหมือนกับวิญญาณอะไรทำนองนั้น
ทว่า...
พลอยหันกลับมาพร้อมกับแกว่งดาบ
“เพอกาทอรี่เบลด!
(Purgatory Blade)”
และร่ายสกิลทำให้ตัวดาบเปล่งแสงสีม่วงอ่อนๆ เมื่อพลอยแกว่งดาบ
แสงก็แผ่พุ่งออกเหมือนใบดาบกำลังยืดตรงไปหาหญิงแก่ที่กำลังจะเลือนหาย
แล้วก็เกิดระเบิดขึ้น
การโจมตีด้วยพลังพิเศษน่าจะใช้ได้ผลกับร่างกายที่เป็นหมอก
หลักฐานคือหญิงแก่กำลังกรีดร้อง
“อ๊ากก!!”
ร่างกายที่เป็นหมอกโดนระเบิดเป่าจนยิ่งกระจัดกระจาย
ท่าทางว่าจะเกินจากความควบคุมของหล่อนหากโดนระเบิดเป่ามากกว่านี้บางทีร่างกายอาจจะสุญสลายหายไปเลยก็เป็นได้
มีนาตะโกน
“อย่าเพิ่งฆ่านะคะทำให้ขยับตัวไม่ได้ก็พอเดี๋ยวฉันจะใช้สกิลผนึกเป็นเดม่อนแอพแล้วเอามารีดข้อมูลค่ะ”
พลอยพยักหน้าให้ครั้งหนึ่งแทนคำตอบแล้วดันมือข้างที่ว่างออกพลางร่ายสกิล
“อาร์เคนไบน์!”
สกิลสำหรับตรึงเป้าหมายเป็นสกิลพื้นฐานของบิลด์คลาสฮอสปิทัลเลอร์เหมือนที่เห็นกวินทร์ใช้มาก่อน
สกิลสร้างวงแหวนแสงล้อมหมอกที่กระจัดกระจายขึ้นมาสามวงเรียงซ้อนกันจากบนลงล่างแล้วทยอยบีบอัดหมอกเหล่านั้นให้รวมกันเป็นก้อน
หญิงแก่เริ่มคืนสภาพให้กับร่างกายที่ถูกบีบอัดเข้ามาโดยอัตโนมัติ
คงเป็นระบบป้องกันไม่ให้ร่างกายสูญเสียการควบคุมในกรณีที่โดนบีบอัดมวลเข้ามารวมกัน
เมื่อหญิงแก่ถูกจับตัวเอาไว้แล้วมีนาก็เริ่มทำหน้าที่ของเธอ
“ต่อไปก็ตาฉันล่ะนะคะ”
มีนาเปิดหน้าจอจัดการสกิลแล้วลากนิ้วควานหาสกิลสำหรับผนึกซึ่งถูกแบ่งออกเป็นสองชนิดคือ
‘ผนึกสัตว์เทวะ’ กับ ‘ผนึกปีศาจ’
อันที่จริงก่อนจะมีการอัพเดทแพทซ์ล่าสุดที่ทำให้ซัมมอนเนอร์กลายเป็นอาชีพทั่วไปนั้นสกิลผนึกมีแค่แบบผนึกสัตว์เทวะให้เป็นแอพพลิเคชั่นปีศาจเท่านั้น
แต่หลังจากอัพเดทแล้วกลับมีสกิลผนึกปีศาจเพิ่มขึ้นมา จนถึงตอนนี้ก็เป็นครั้งแรกที่ได้ลองหยิบสกิลนี้มาใช้
“ถึงจะไม่รู้ว่าใช้กับอสูรได้รึเปล่าก็เถอะแต่ขอลองก่อนละกัน”
เด็กสาวกล่าวพร้อมกับชักแผ่นยันต์อาคมจำนวนหนึ่งออกมาจากหน้าจอคลังแล้วเงื้อเคียวเตรียมจะฟาดลงพื้นเพื่อสร้างวงเวทผนึก
จากนั้นก็จะโปรยยันต์เพื่อผนึกซ้ำอีกทีเหมือนกับเวลาผนึกสัตว์เทวะ
ทุกอย่างดำเนินไปตามขั้นตอนโดยที่มีเสียงก่นด่าและสาปแช่งจากหญิงแก่ดังตลอดเวลาพิธี
“ปล่อยกู ปล่อยกู
พวกมึง กูจะฆ่าพวกมึง พวกมึงไม่ได้ตายดีแน่ ปล่อยกู”
แล้วเมื่อพิธีดำเนินมาถึงขั้นสุดท้ายมีนาก็เตรียมจะโปรยยันต์ออกไป
ในตอนนั้นเอง...
“ขวัญ! เดี๋ยวจะทำอะไรน่ะ”
จู่ๆ
พลอยก็ส่งเสียงเอะอะเหมือนตกใจกับอะไรบางอย่าง
เธอเรียกชื่อขวัญด้วย
หรือว่าคุณมิ่งขวัญกำลังจะมาที่นี่
มีนาเงยหน้าที่ก้มมองดูอสูรกำลังจะโดนผนึกขึ้น
มองตรงไปที่นอกระเบียงซึ่งพลอยบินอยู่แถวนั้น
“อ๊ะ คุณมิ่งขวัญ”
เด็กหนุ่มผู้งดงามสวมเพียงเสื้อยืดคอกลมกับกางเกงขาสั้นทะยานขึ้นมาจากตรงส่วนไหนก็ไม่อาจทราบได้เพราะตัวอาคารที่ไฟดับนั้นค่อนช้างมืด
แต่มิ่งขวัญก็ลงเหยียบบนพื้นระเบียงทางเดินแล้ว
“….”
มองตรงมาทางนี้
มองมาที่อสูรซึ่งถูกมัดด้วยวงแหวนแสงแล้วเดินตรงเข้ามา
“อะ เดี๋ยวนะคะอย่าเพิ่งเข้ามาค่ะรอให้ผนึกเสร็จ...”
ทว่า...มิ่งขวัญไม่ได้ฟังคำเตือนนั่นและเข้ามาผลักเธอจนล้มลง
“ว้าย!”
เพราะถูกขัดจังหวะผิธิผนึกจึงหยุดไปด้วย
มิ่งขวัญเดินไปอุ้มร่างของหญิงแก่แล้วกระโดดลงไปจากระเบียง
หายลับไปในความมืดมิดของสวนที่อยู่ข้างล่างอาคารแห่งนี้
“เมื่อกี้มันอะไรกันน่ะ”
มีนายังคงสับสนอยู่ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่
แต่มีอยู่เรื่องหนึ่งที่คิดว่าไม่ได้ตาฝาดแล้วก็ดูไม่ผิดแน่นอน
มิ่งขวัญเข้ามาขัดขวางเธอแล้วจงใจพาหญิงแก่คนนั้นหนีไป
แต่ทำไมล่ะ....
ตอนนั้นเองคนที่น่าจะให้คำตอบได้ก็มาถึงพอดี
“เฮ้! เป็นไงกันบ้าง”
“คุณอิงศร...”
***เลทไปสองวันเลยบทนี้พอดีคอมมันมีปัญหามาตั้งแต่คืนวันอาทิตย์ที่แล้วจนทำเอาใช้ไม่ได้เกือบทั้งอาทิตย์เลยมีส่วนของตอนวันอังคารเท่านั้นเองที่ลงไปได้เฮ้อ~ ยังดีที่ลงครบโควตาในอาทิตย์นี้พอดี
ว่าแล้วก้ขอแจ้งกำหนดการอัพเดทใหม่เลยละกันครับเนื่องจากช่วงนี้ไรท์พอจะจับเค้าได้แล้วว่าจะหาเวลาเขียนต้นฉบับได้ช่วงไหนบ้างเลยจะเปลี่ยนกำหนดการอัพใหม่ให้สอดคล้องกันซะหน่อยเพราะดูเหมือนแบบเดิมจะไม่ค่อยได้ผลแล้วเนื่องจากสุดสัปดาห์ไรท์มีธุระเพิ่มขึ้นมาทำให้ไม่มีเวลาปั่นเลยจะเลื่อนกำหนดอัพเป็นแบบนี้แทนคือใน
สัปดาห์ที่อัพสามตอนจะเปลี่ยนเป็นอัพวัน อังคาร พฤหัส เสาร์
ในส่วนของสัปดาห์สองตอนจะยังคงเดิมคือ อังคารกับพฤหัส ครับ
เพราะฉะนั้นแล้วอาทิตย์หน้าเจอกันวันอังคาร พฤหัส และวันเสาร์เน่อ****
ความคิดเห็น