คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #142 : Login 139 : Hero Verse
Login
139 : Hero Verse
อิงศรจ้องมองชายผู้ที่เพิ่งจะขยี้เวตาลตายคามือไป
ชายคนนั้น… เด็กหนุ่มคนนั้น
เมษา ธุวดารกะที่ตอนนี้น่าจะถูกจับเป็นตัวประกันอยู่ที่เมตไตรย
นั่นคือเหตุผลที่เขาต้องตะลอนไปทั่วอารย-สนธยาแล้วเสี่ยงตายอยู่อย่างนี้ทั้งที่น่าจะเป็นแบบนั้น
แต่หมอนั่นก็มาอยู่ตรงนี้แล้ว
จากที่เห็นน่าจะเป็นตัวจริง
“อย่าจ้องกันแบบนั้นสิเฟ้ย
มันชวนขนลุกว่ะ”
เมษาแกล้งพูดติดตลกพลางทำหน้าแขยง
“ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะ”
อิงศรถาม
“พี่กุมภา…”
เมษาชะงักคำพูดไปแค่นั้นราวกับกำลังคิดหาเหตุผล
จากนั้นก็พูดมันออกมา
“เอ่อ…ให้มาเป็นกำลังเสริมน่ะ”
ด้วยท่าทางที่มีแต่พิรุธให้จับนั่นหลอกเขาไม่ได้เลยแม้แต่น้อย
เมษายิ้มแห้งๆ
ทั้งที่ไม่ควรจะยิ้มเพราะมันจะทำให้ดูเหมือนฝืนทำแต่แล้วหมอนั่นก็ยังทำราวกับอยากจะบอกใบ้อะไรบางอย่าง
แน่นอนว่าอิงศรไม่เชื่อเรื่องที่กุมภาจะยอมส่งตัวประกันมาเป็นกำลังเสริมหรอก
แต่มีนาก็ไม่ได้มาที่นี่… ถ้าอย่างนั้นเรื่องคงเป็นแบบนี้
กุมภาใช้มีนาเป็นตัวประกันเพื่อส่งเมษามาทำอะไรบางอย่าง
แต่อะไรล่ะ?
“แล้วมีนาล่ะ”
อิงศรลองถามดู
“…”
แต่เมษาไม่ตอบ
เด็กหนุ่มได้แต่เม้มริมฝีปากล่าง
ดังนั้นอิงศรจึงเข้าใจ
…ว่าคงจะมีการดักฟังเมษาอยู่แล้วถ้าทำอะไรไม่เข้าท่ามีนาก็จะ…
“เข้าใจแล้วไม่ต้องพูดอะไรหรอกไว้จัดการที่นี่เสร็จไว้พวกเราไปช่วยยัยนั่นกัน”
“เอ้อ
ก็กะแบบนั้นแหละ”
เมษาตอบรับอย่างว่าง่าย
แสดงว่าที่คิดเอาไว้น่าจะถูกสินะ
ตอนนั้นเอง
กวินทร์ก็แทรกเข้ามา
“พี่เมษาก็จะมาร่วมด้วยเหรอครับ
ถ้าแบบนั้นก็ดีเลยเหมือนมีคนช่วยเพิ่มเป็นร้อยเลยล่ะ”
หมอนี่ไม่ถามซอกแซกเรื่องมีนาไม่แน่ว่าอาจจะอ่านสถานการณ์ได้เหมือนกับเขา
ตอนนี้เมษามีชนักติดหลังแล้วก็ยังไม่รู้ด้วยว่ามีเป้าหมายอะไรกันแน่
เมษาตอบคำพูดของรุ่นน้องว่า
“เออ
ถ้าฉันมาซักคนอารย-สนธยาก็เถอะได้ถูกพวกเราจัดการแน่”
ทั้งที่เลเวลต่ำกว่าชาวบ้านไปแล้วเนี่ยนะ
เมษา Lv. 69
[/////10030:10030/////]
เมษาตอนนี้เลเวลต่ำกว่าพวกพลอยที่เลเวลอยู่เจ็ดสิบต้นๆ
กันด้วยซ้ำแต่ก็ยังกล้าพูดอย่างมั่นใจว่าจะจัดการกับอารย-สนธยาได้ ถ้าหมอนี่ได้เจอเหมือนกับที่พวกเขาเจอมาอาจจะปรับปรุงคำพูดอวดดีนั่นลงซักหน่อยก็ได้
แต่เอาเถอะบางทีนั่นก็อาจจะเป็นการแสดงเพื่อตบตาคนที่กำลังดักฟังการสนทนาของพวกเขาอยู่
จากนั้นเมษาก็เริ่มสังเกตเห็นพวกพ้อ’คนอื่นก่อนที่สายตาจะไปหยุดที่มิ่งขวัญ
“อ๊ะ!
นี่แกเมื่อตอนนั้น”
เมษาชี้หน้าน้องชาย
มิ่งขวัญก็ชี้หน้ากลับแล้วพูดเหมือนเพิ่งนึกขึ้นได้เช่นกัน
“หืม
นายมันเจ้าคนที่โดนแค่ไม่กี่หมัดก็ร่วงนี่หว่า”
“หา!”
ใบหน้าของเมษาแดงจัดขึ้นมาเพราะความโกรธ
แต่ทว่า
สายตาของเด็กหนุ่มอารมณ์ร้อนก็เหมือนกับนึกขึ้นมาได้
“เดี๋ยวก่อนนะแล้วพวกนี้มันใครกันล่ะเนี่ยแถมยัง...”
แวบหนึ่งที่มองเห็นสายตาของเมษาจดจ้องไปยังราชครูสาวที่ยืนอยู่ด้านหลัง
อิงศรถอนหายใจเล็กน้อยแล้วเริ่มอธิบาย
“นายเพิ่งเถียงกับน้องชายฉันแล้วก็ข้างหลังนี่ครอบครัวที่เคยเล่าให้ฟังตอนไปออกค่ายเก็บเลเวลส่วนราชครูมนุษย์ต่างดาวนั่นก็พันมิตรแล้วยัยผู้หญิงท่าทางประหลาดนั่นก็เป็นปีศาจชื่อเทพมารดรอิซานามิ”
พอได้ฟังที่พูดไปเมษาก็ทำหน้าซีด
“อะ…เฮ้ยเดี๋ยวนะ
น้องชายนายที่เจอตอนนั้นก็ว่าไปอย่างแต่พวกครอบครัวนายเนี่ยตายไปแล้วไม่ใช่เรอะ
เฮ้ยหรือว่าวิญญาณ พวกนี้เป็นผีเหรอ!!”
เมษาทำหน้าตกใจ ทันใดนั้นฟูก็พูดขัดเข้ามา
“พวกเราไม่ใช่ผีเฟ้ย!!”
มิกซ์เดินแทรกขึ้นมาข้างหน้าแล้วถาม
“พี่ศรคนๆ
นี้คือ”
ดูเหมือนว่าต้องแนะนำตัวสินะ
อิงศรหันหน้ากลับไปยังฝั่งพวกพ้องแล้วแนะนำเมษาให้
“หมอนี่เป็นเพื่อนร่วมหน่วยเดียวกันในเมตไตรยน่ะเหมือนกับกวินทร์เจ้านี่ชื่อเมษาอยู่รุ่นเดียวกับฉันแล้วก็เป็นพวกบ้าพลังเพราะงั้นตำแหน่งเดียวกับนายละกันฟูช่วยดูแลด้วย”
และกำหนดตำแหน่งเสร็จสรรพไปในตัว
แต่เมษาก็แย้ง
“เดี๋ยว!
ว่าใครเป็นพวกบ้าพลังกันน่ะ”
คัดค้านเรื่องนั้นเองเรอะ
“…”
อิงศรเมินคำคัดค้านนั่นแล้วเบนสายตาไปทางพระเจดีย์
ไม่มีหน่วยป้องกันเหลือมาต้อนรับกันแล้วเหรอ
หลังจากฆ่าปีศาจที่เฝ้าทางเข้าไปแล้วก็ไม่มีอะไรโผล่ออกมาอีกแถมระดับของปีศาจที่ฆ่าไปยังไม่ค่อยน่าเชื่อซักเท่าไหร่ว่าเป็นพวกที่สังหารกองทัพร่วมระหว่างเมตไตรยกับมนุษย์ต่างดาว
ราชครูมนุษย์ต่างดาว
โซเดียมกล่าวขึ้นมาว่า
“ดิฉันลองสำรวจรอบๆ
แล้วไม่มีร่องรอยของท่านซีเซียมกับท่านแบเรียมอยู่ในศพพวกนั้น…ที่จริงก็ไม่คิดว่าระดับนั้นจะถูกจัดการหรอกค่ะมีความเป็นไปได้ว่าอาจจะล่วงหน้าเข้าไปข้างในตอนที่เกิดการต่อสู้ก็ได้”
หล่อนกล่าวพร้อมกับชี้ไปที่พระเจดีย์
“ถ้างั้นก็เข้าไปกันเถอะคำตอบคงอยู่ในนั้นแหละ”
รวมทั้งนรินทร์กับโดโกบาร์ด้วย
จากนั้น
เมื่อเมษาเข้ามาร่วมกับปาร์ตี้แล้วพวกเขาก็เคลื่อนพลกันเข้าไปในพระเจดีย์
เพียงแค่ก้าวเท้าข้ามธรณีประตูเข้าไปด้านในก็พบกับห้องโถงกว้างสูงเท่ายอดหลังคา
ดูเหมือนว่าพระเจดีย์จะเป็นแค่ห้องกลวงๆ
ห้องหนึ่ง
ไม่สมกับเป็นฐานที่มั่นหลักเอาเสียเลยแต่จะบอกว่าการต่อสู้ที่หน้าทางเข้าเป็นแค่เรื่องเข้าใจผิดก็ดูจะกล่าวหากันเกินไป
แต่แล้ว…
ก็มีเครื่องยืนยันว่าที่นี่น่าจะใช่จริงๆ
นั่นแหละ
ฐานทัพหลักของอารย-สนธยา
อิงศรแหงนหน้ามองขึ้นไปด้านบน
โดโกบาร์ถูกมัดแขวนไว้กับเชือกที่ห้อยลงมาจากเพดานซึ่งสูงจนคนธรรมดาไม่น่าจะพาขึ้นไปมัดไว้ได้
“ท่านซีเซียม!”
โซเดียมพูดด้วยความตกใจ
อิงศรจึงมองตามไปยังทิศที่หล่อนมอง
ที่ตรงใจกลางของห้องโถงนั่นเอง…
“สุดยอดท่าไม้ตาย!!
สว่านหางมังกร!!”
เสียงประสานของคนหนุ่มสาวดังสะท้อนกึกก้องไปทั่วทั้งพระเจดีย์
หุ่นพยนต์ขนาดใหญ่ที่เกิดจากการเรียงตัวของกระดูกซึ่งแต่ละท่อนมีขนาดใหญ่เท่ากระดูกช้างหรือสัตว์ที่มีขนาดใหญ่กว่านั้นบางทีอาจจะเป็นไดโนเสาร์
ถ้างั้นก็คงเป็นสกิลของสายเนโครแมนเซอร์ที่มีนาใช้อยู่
เจ้าหุ่นพยนต์นั่นมีลักษณะเหมือนมนุษย์แต่มีหัวเป็นไดโนเสาร์พันธุ์สามเขาแขนขวาเป็นกระดูกหางที่มีกระดูกชิ้นอื่นมาเกาะติดเป็นทรงกรวยและหมุนได้เหมือนสว่าน
แขนซ้ายเป็นหัวพันธุ์กินเนื้อไทแรนโนซอรัสส่วนของลำตัวจนถึงช่วงล่างลงไปเป็นกระดูกที่มารวมตัวกัน
หุ่นพยนต์กำลังต่อสู้กับพญานาคที่ชื่อ
อนันตา ปีศาจงูของอารย-สนธยาซึ่งบุกโจมตีเมตไตรยก่อนหน้านี้
สว่านหางของหุ่นพยนต์หมุนควงเป็นเกลียวพุ่งเข้าใส่ลำตัวของอนันตา
เกิดเสียงฉีกเนื้อกับเสียงหมุนเกลียวของสว่านกระดูกเสียดแทงเข้าไปในโสตประสาท
แต่กลับไม่มีเลือดไหลออกมาจากบาดแผลที่สาหัสถึงขนาดนั้น กลับกันสิ่งที่ไหลออกมาคือสะเก็ดไฟ
ประกายไฟ
จำนวนมากราวกับเหล็กกำลังถูกบัดกรีพุ่งกระจาย
สว่านทะลวงจนมิดด้านจากนั้นหุ่นพยนต์ก็ถอนมันออกแล้วหมุนตัวพลิกกลับมาทางนี้พลางตั้งท่าเหมือนหุ่นยนต์ในหนังฮีโร่เก๊กท่าหลังจากฆ่าตัวร้ายแล้ว
ที่ข้างใต้อนันตาข้าวหลามในร่างที่คลุมด้วยเกล็ดงูอยู่ในสภาพสะบักสะบอมเหมือนเพิ่งจะต่อสู้มาอย่างหนักหน่วง
ข้าวหลามพูดกับกลุ่มคนที่ต่อสู้ด้วยเสียงเหมือนใกล้ตาย
“อึก…พวกแก…มันยังไม่จบแค่นี้หรอกอารย-สนธยาไม่มีวันตาย…”
ประโยคน้ำเน่าราวกับหลุดมาจากตัวร้ายในหนังเกรดบี
สิ้นคำนั่นเอง
ตูม! ตูม!
ทั้งข้าวหลามทั้งอนันตาก็ระเบิดไปพร้อมกัน
ระเบิดอย่างไม่มีสาเหตุ
หาคำอธิบายไม่ได้ว่าเพราะอะไรจึงระเบิด เพียงอย่างเดียวที่สะกิดใจอิงศรก็คือ
“อย่างกับหนังฮีโร่”
สรุปได้แค่นั้นแหละ
แล้วพอมองไปทางฝั่งคู่ต่อสู้ซึ่งเป็นเจ้าของหุ่นพยนต์ที่ยืนเรียงแถวกันหน้าสลอนอยู่นั่นก็เป็นมนุษย์ต่างดาวกันทั้งก๊วน
หนึ่งในมนุษย์ต่างดาวเป็นชายซึ่งสวมโค้ทราชครูสีดำมองมาทางนี้เหมือนจะสังเกตเห็นพวกเขา
“อ้าว
มากันแล้วเหรอ”
พอพูดมาแบบนั้นสิ่งของในห้องที่อิงศรเพิ่งจะสังเกตเห็น
มีตึกจำลองที่สูงแค่หัวไหล่กำลังทยอยสลายหายไป
สภาพที่เหมือนกับเมืองจำลองซึ่งถูกสร้างขึ้นด้วยสกิลหรืออะไรบางอย่างหายไปในตอนนั้นรวมถึงหุ่นพยนต์
จากนั้นเมษาที่อยู่ข้างหลังก็ตะโกนมา
“ลิเธียม!!”
นั่นทำให้อิงศรเบนสายตาไปทางชายมนุษย์ต่างดาวที่สวมโค้ทราชครูสีแดงจัดกับสวมแว่นตาที่ส่องแสงสีรุ้งออกมาเป็นเอกลักษณ์
ลิเธียมนั่นเอง
ราชครูถึงสองตนไม่สิ
ถ้ารวมโซเดียมเข้าไปด้วยก็สามตน
หากต้องเป็นศัตรูกันที่นี่พวกเขาคงไม่รอด
แต่ว่ายังมีสัญญาร่วมกันทำลายอารย-สนธยา…
“เหมาะเจาะอะไรแบบนี้
อารย-สนธยาเพิ่งจะล่มสลายไปเมื่อกี้เองถือโอกาสนี้ฆ่าพวกนั้นแล้วเอาเฟืองมาซะเลย
ฮะ ฮะ ฮะ”
ชายหน้าเหมือนเขาพูดออกมาแบบนั้น
ฝันร้ายชัดๆ
กลายเป็นศัตรูกับราบครูมนุษย์ต่างดาวถึงสามตนในคราวเดียวแถมยัง…
มีแบเรียมกับพวกที่ดูเหมือนชั้นครูอีกสองตนซึ่งแต่ละตนนั้น
“พี่ศรครับดูหน้าเจ้าพวกนั้นสิพี่มีนากับ…”
ตัวผมเอง...กวินทร์คงตั้งใจจะพูดแบบนั้น
ที่ด้านข้างของแบเรียม
มนุษย์ต่างดาวที่หน้าเหมือนมิ่งขวัญ
มีชั้นครูหนุ่มสาวอีกอย่างละตนหน้าเหมือนกวินทร์กับมีนา
Osmium
Lv. 100 [/////47030: 47030/////]
Rhenium
Lv. 100 [/////27070:27070/////]
ตนที่ชื่อรีเนียมหน้าเหมือนมีนาส่วนอีกตนที่ชื่อออสเมียมหน้าเหมือนกวินทร์ทั้งคู่เป็นชั้นครูเพราะมีผ้าคลุมสีขาว
“แบบนี้มัน…”
อิงศรกลืนน้ำลายดังเอื้อก
พอรวมกับลิเธียมที่เคยได้ยินมาว่าใบหน้าภายใต้แว่นตานั้นเหมือนกับเมษา
ทีมมนุษย์ต่างดาวทั้งห้านั่นก็…
“เดี๋ยวจะแสดงพลังของอิงศรฟอร์เมชั่นนีโอให้ดูเป็นขวัญตา”
ซีเซียมประกาศมาแบบนั้น
บอกว่านั่นคือทีมที่จัดมาเพื่อฟอร์เมชั่นที่ใช้ชื่อของเขาตั้ง
แต่ทำไมมันถึงรู้เรื่อง
อิงศรฟอร์เมชั่น
พอทำหน้าสงสัยออกมาเจ้าราชครูสติไม่ดีที่หน้าเหมือนกับเขาก็ตอบให้เสร็จสรรพ
“ตกใจใช่ไหมล่ะอุตส่าห์ให้แบเรียมไปสืบมาเลยนะเนี่ย
กร๊าก ฮะ ฮะ ฮะ”
ซีเซียมระเบิดหัวเราะเสียงดังไปทั้งพระเจดีย์
ตอนนั้นเอง
แบเรียมที่หน้าเหมือนมิ่งขวัญก็เรียกโซเดียม
“ท่านโซเดียมรีบแยกตัวมาทางนี้เถอะขอรับสนธิสัญญากับพวกชาวโลกได้สิ้นสุดไปแล้ว”
โซเดียมพยักหน้าแล้วตีจากพวกเขาไปทันที
แต่ไม่ได้ไปยืนรวมกับพวกซีเซียมหล่อนเดินแยกไปอยู่ที่มุมของห้องโถงที่อีกฟาก
“…”
โซเดียมได้อธิบายไว้ว่า
“ขออภัยด้วยค่ะท่านซีเซียมตัวดิฉันมีเหตุผลที่สู้กับพวกเขาไม่ได้อยู่”
สรุปว่าเธอรู้สึกสำนึกบุญคุณที่ฟูช่วยชีวิตหล่อนเอาไว้ตอนที่พากันหนีออกจากมิติของจอกศักดิ์สิทธิ์อย่างนั้นสินะ
ซีเซียมตอบรับคำขอร้องนั้นอย่างไม่ค่อยใส่ใจนัก
“เอาเหอะ
ไม่ต้องมีเธอในการแสดงของฉันก็ได้”
ถ้าอย่างนั้นศัตรูก็คือราชครูสองตนกับชั้นครูอีกสาม
สถานการณ์ก็เลวร้ายไม่เปลี่ยนอยู่ดีแค่ระดับเลเวลก็ห่างชั้นกันจนเทียบไม่ติดไหนมนุษย์ต่างดาวจะมีพลังกับสเตตัสมากกว่าปกติถึงสิบสองเท่าอีก
มิ่งขวัญซึ่งมีเลเวล
102
คงจะพอสูสีกับชั้นครูที่หน้าเหมือนกวินทร์กับมีนาได้แต่คงเทียบกับแบเรียมไม่ติด
พวกเดโมนอยด์คงได้แค่ช่วยสนับสนุนมิ่งขวัญแค่นั้นคงเต็มกลืน
แล้วก็จะเหลือแค่ ตัวเขา กวินทร์กับเมษาที่ต้องสู้กับราชครูสองตน
ซีเซียมกับลิเธียม
จากที่ผ่านมาแค่ลิเธียมที่อยู่อันดับหกซึ่งเป็นระดับล่างสุดของราชครูยังเทียบฝีมือไม่ติดคงไม่ต้องพะวงไปถึงซีเซียมที่เป็นอันดับสองซึ่งเป็นรองแค่ราชามนุษย์ต่างดาวเท่านั้น
แต่ยังมีโอกาสชนะอยู่
อิงศรเหลือบตาขึ้นไปด้านบน
ความหวังถูกแขวนไว้ที่นั่น
ถ้าปล่อยตัวโดโกบาร์ให้เป็นอิสระพลังของเครื่องทำสวนคงเอาชนะเจ้าพวกนี้ได้ไม่ยาก
“พลอยเล่นสอยดาวเป็นรึเปล่า”
“หา?”
เขาไม่ได้หันไปมองแต่คิดว่าเด็กสาวกำลังทำหน้าเหวอ
“ข้างบนหัวพวกเราหาทางปล่อยเด็กคนนั้นลงมาระหว่างนั้นพวกพี่จะถ่วงเวลาให้ถ้าทำได้ก็ชนะ”
อิงศรสั่งไปแบบนั้นโดยที่ไม่ดูปฏิกิริยาตอบกลับของพลอยเขาก็สั่งตั้งฟอร์เมชั่นโจมตีทันที
“ขวัญ กวินทร์
เมษา ฟู ตามฉันมามิกซ์คอยยิงสนับสนุนกับป้องกันพวกพลอยด้วยส่วนอิซานามิ...”
อิงศรพยายามนึกสิ่งที่เทพมารดรสามารถทำได้ในสถานการณ์นี้
หล่อนไม่ยอมเข้าร่วมประชุมแผน ไม่ยอมบอกฝีมือทั้งหมด ดังนั้นสิ่งที่จะทำได้ก็มีแต่
“อยู่เฉยๆ
ตรงนั้นและห้ามตาย”
“อะหยังน้า~~ จะใดถึงมีแต่ฮาที่บ่ได้ยะอะหยังเลยล่ะย้า!!”
ดูเหมือนจะโมโหถึงขั้นสำเนียงวกกลับไปเว้าภาษาถิ่น
ตรงนี้เอง
ซีเซียมก็ชักปืนสั้นออกมาจากซองปืนที่เหน็บเอวอยู่ใต้เสื้อโค้ท
“สกิลของอาวุธติดตั้งอสุรา
ฮีโร่เวิร์ส แอคทีฟ!!”
แล้วลั่นไกยิงขึ้นข้างบนแต่ไม่มีกระสุนหรืออะไรพุ่งออกไป
[Hero
Verse Lv(1/1)
Element:
-
Attribute:
Field, Hero
จักรวาลฮีโร่อันเปี่ยมไปด้วยคุณธรรม รอยยิ้ม
มิตรภาพ ; สร้าง Hero Verse ขึ้นมาโดยไม่จำกัดเวลาหายไป]
สิ่งที่เกิดขึ้นคือ...
เมืองกำลังถูกเนรมิตขึ้นมา
เมืองจำลองที่เห็นก่อนหน้านี้มาจากสกิลที่ว่านี่เอง
อาคารกับบ้านเรือนจำลองที่โผล่ขึ้นมาขวางทางเดินราวกับเขาวงกตจนการเคลื่อนทัพต้องหยุดชะงัก
ระหว่างที่พวกเขาง่วนอยู่กับทางวงกตเมืองจำลองพวกมนุษย์ต่างดาวก็เริ่มเคลื่อนไหว
ลิเธียมเต้นท่าประหลาดพร้อมกับพูดสิ่งที่ฟังดูเหมือนสโลแกน
“ถึงจะเบิร์นนิ่งแต่ก็ไม่ร้อนแรง
โคเม็ทเร้ด!! (Comet
Red)”
ซีเซียมเริ่มเต้นกับพูดสโลแกนบ้าง
“ย้า~~ฮ้า~~ ไปตายซะพวกตูดหมึก
เจ็ทแบล็ก!! (Jet
Black)”
จากนั้นก็แบเรียม
“บ้างก็ว่าคูลไฟเตอร์
บ้างก็ว่าแฮนด์ซัมบอย แต่ข้าน้อยนั้นสมาร์ทกรีน!! (Smart Green)”
ออสเมียมที่หน้าเหมือนกวินทร์เปิดเพลงจากหูฟังจนได้ยินเสียงเพลงฮิปฮอปดังออกมาแล้วเริ่มเต้นประกาศสโลแกนด้วยจังหวะแร็ป
“ไฮ่โย่ว
ซาหว้าดดีโย่ว ซารางเฮโย่ว บูลที่ไม่ใช่เพลงบูล เช็คอิทเอาท์บูล (Check it out Blue)”
รีเนียมซึ่งเหมือนมีนาก็ทำเช่นกัน
“ร็อคฮาร์ทอันแข็งประดุจหิน
เพลงเมทัลฉันไม่ฟัง ฮาร์ดพิงค์!! (Hard Pink)”
ทั้งกลุ่มปิดท้ายด้วยท่าโพสตั้งศอกหันไปทางซ้ายเรียงแถวกันทุกคนจากนั้นก็พากันชักอาวุธออกมาโดยพร้อมเพรียงแล้วห้าแยกแถวพลางประสานเสียงเป็นหนึ่งเดียว
“ขบวนการต่างดาว
เอเลี่ยนไฟว์!!”
เหมือนกับว่ามองเห็นแถบสีกับพลุระเบิดและโลโก้ประจำขบวนการห้าสีลอยเป็นฉากหลัง
ไม่สิ
มันเกิดขึ้นจริงด้วยพลังของเมืองจำลองที่เกิดจากสกิลของซีเซียม
“….”
อิงศรจ้องมองพวกต่างดาวด้วยสายตาเอือมระอาระคนไปกับความสงสัย
ไม่รู้ว่าทำไม
ทั้งที่ช่วงเวลานั้นน่าจะเข้าไปโจมตีได้แต่กลับรู้สึกว่าไม่ควรทำขึ้นมาซะอย่างนั้น
มิ่งขวัญ เมษา
ฟู และคนอื่นๆ ก็พลอยทำหน้าเอือมระอาไปด้วยเว้นแต่กวินทร์
เด็กหนุ่มแววตาเป็นประกายแถมยังคึกขึ้นมาซะอย่างนั้น
“ว้าว!
อย่างกับขบวนการห้าสีเลยครับ”
กวินทร์กล่าวแบบนั้น
อย่างไรก็ดีในการแนะนำตัวของเจ้าพวกนั้นก็ทำให้มองเห็นอะไรบางอย่าง
หากดูจากอาวุธที่ชักกันออกมาแล้วก็พอจะคาดเดาอาชีพกับสกิลได้
ซีเซียมใช้ปืนสั้นสองกระบอกสีขาวกับสีดำอย่างละอันน่าจะเป็นเรนเจอร์เหมือนกัน
ลิเธียมใช้ดาบและจากการประมือกันคราวก่อนก็ทำให้รู้แล้วว่าสังกัดอาชีพโคลสเซอร์ซึ่งเหมือนกับเมษา
แบเรียมน่าจะเป็นเวพ่อนเอนแชนท์เตอร์เหมือนกับมิ่งขวัญแม้แต่ลักษณะอาวุธก็ยังมีความคล้ายกันเป็นเรเปียกับโล่
ออสเมียมใช้หอกหรืออาจจะเป็นทวนที่ปลายมีใบมีดลักษณะเหมือนขวานสองหัว
อาวุธของรีเนียมน่าจะเป็นกระบองหรือไม่ก็หอกมีส่วนเป็นหินทับทิมลักษณะเรียวแหลมเหมือนปลายหอกจำนวนสองอันเชื่อมกันด้วยพลองโลหะสีดำคาดเดาจากอาวุธนั่นไม่ได้เลยว่าหล่อนใช้สกิลแบบไหนแต่น่าจะเป็นซัมมอนเนอร์เหมือนกับมีนาเพราะในห้าคนนี้ไม่เหลือใครแล้วที่จะสามารถเรียกหุ่นพยนต์โครงกระดูกที่เหมือนกับเนโครดราก้อนออกมาได้อีก
ซึ่งเป็นเรื่องน่าแปลก
ซัมมอนเนอร์เป็นอาชีพที่สนับสนุนด้านการใช้พลังของแอพพลิเคชั่นปีศาจที่เป็นพิษกับมนุษย์ต่างดาวแล้วเหตุใดมนุษย์ต่างดาวถึงได้มีอาชีพนี้ซะเอง
“...”
คิดไปก็ป่วยการเปล่า
อิงศรเลิกสนใจเรื่องพวกนั้นแล้วหันกลับไปมองพลอยที่น่าจะตัดเชือกซึ่งห้อยตัวโดโกบาร์ลงมาได้แล้ว
แต่ทว่า
การโจมตีของพลอยและมิกซ์กลับสลายไปก่อนจะเข้าถึงเชือกที่มัดตัวโดโกบาร์
คงจะมีอาคมหรือพลังอะไรบางอย่างห่อหุ้มเชือกกับร่างของโดโกบาร์อยู่แล้วนั่นก็น่าจะทำให้พลังของเครื่องทำสวนไม่กลับมาด้วย
“…”
คิดได้แต่เหตุผลแบบนั้นเพราะไม่อย่างนั้นแล้วตอนที่อมฤตกลับมาเครื่องทำสวนอย่างโดโกบาร์คงไม่นิ่งเฉยอยู่แบบนี้แน่
ระหว่างนั้นเองพวกมนุษย์ต่างดาวก็บุกเข้ามา
กว่าจะรู้สึกตัวกวินทร์ที่ยืนเยื้องไปขวาของเขาก็ถูกลิเธียมฟันใส่กลางลำตัวไปแล้ว
น่าจะเกิดเสียงตัดเข้าที่เนื้อดัง
ฉัวะ แล้วร่างของกวินทร์ก็คงจะขาดเป็นสองท่อนอาจจะตายในดาบนั้น
แต่กลับมีเสียงโลหะแหลมสูงดังแกร๊ง
แล้วบริเวณที่ดาบฟันลงไปบนตัวกวินทร์ก็เกิดระเบิดขึ้นมีประกายไฟจำนวนมากกระจายออกมาเหมือนเอฟเฟคความเสียหายในหนังคนแสดงที่ไม่ยอมออกอากาศเนื้อหารุนแรงอย่างเลือดหรือความสมจริง
กวินทร์ Lv.75 [/////8000:10200//...]
รวมถึงความเสียหายที่กวินทร์ได้รับก็ดูจะเบาเกินกว่าจะเป็นการโจมตีของราชครูมนุษย์ต่างดาวถ้าจะบอกว่าเพราะพวกเขาแข็งแกร่งขึ้นนั่นน่าจะยังไม่ใช่คำตอบที่ถูกต้องนัก
“อ้อ
ในพื้นที่นี้ความเสียหายจะลดลงครึ่งหนึ่งแล้วก็นับเป็นความเสียหายประเพทกระแทกทั้งหมด
นี่เป็นการต่อให้ยังไงล่ะเจ้าพวกวายร้าย”
ซีเซียมอธิบายแล้วเล็งปืนกราดยิงมาทางเขา
“เน็กส์ช่วยทีอ้อมไปข้างหลังเจ้านั่นให้หน่อย”
‘วินด์วาร์ป’
เน็กส์ซึ่งยังสิงอยู่ในร่างของเขาร่ายสกิลพาข้ามสิ่งกีดขวางไปโผล่ที่ด้านหลังซีเซียม
“ตายซะ!”
แต่ซีเซียมก็เผยรอยยิ้มออกมาในวินาทีนั้นแล้วกล่าวว่า
“มองเห็นช่องว่างแล้ว
[“มองเห็นช่องว่างแล้ว” Lv(1/1)
Element:
-
Attribute:
Critical Attack, Hero
(Cast
Cost) ต้องอยู่ในพื้นที่ Hero Verse; โจมตีติดคริติคอลโดยไม่สนใจเงื่อนไขใดๆ]
วินาทีถัดมาซีเซียมที่หันหลังให้ก็กลับเป็นกำลังหันหน้าและเล็งปืนมาที่เขา
ซีเซียมลั่นไก
เสียงปืนดังก้อง กระสุนพุ่งใส่ลำตัวกับหน้าผาก
ถ้าเป็นปกติก็คงโดนเจาะกระโหลกกับเครื่องในคงได้พรุนไปแล้วแต่ที่นี่เป็นโลกซึ่งอีกฝ่ายกำหนดเอาเอง
แกร๊ง
เสียงโลหะแหลมสูงดังกังวาลประกายไฟไหลพรั่งพรูราวกับเลือด
ร่างของอิงศรลอยละลิ่วกระเด็นไป
การโจมตีเมื่อครู่เป็น
‘คริติคอล’ การโจมตีเข้าที่จุดตายทำให้มีความรุนแรงมากจนส่งตัวเขาลอยกระเด็นมาขนาดนี้
อิงศร Lv.93 [/////10000:12500//…]
“เมื่อกี้มัน…สกิลเรอะ”
อิงศรพลิกตัวกลางอากาศขณะที่บ่นแบบนั้นแล้วกลับลงมายืนบนพื้นได้
‘อึก..ไม่รู้เหมือนกันฮะเมลคีเซเดควิเคราะห์ท่าเมื่อกี้ไม่ได้เลย’
เสียงของเน็กส์ที่สิงร่างครางอย่างเจ็บปวด
อิงศรนึกถึงเงื่อนไขของการสิงร่าง
ความเสียหายสามสิบเปอร์เซ็นต์จะถูกแบ่งให้คนที่สิงร่างด้วยเพราะอย่างนั้นความเสียหายของเขาจึงไม่ร้ายแรงมากทั้งที่เป็นการโดน
‘คริติคอล’ พลังชีวิตของเน็กส์ในหน้าจอแสดงข้อมูลของปาร์ตี้บอกมาอย่างนั้น
เน็กส์ Lv.83 [/////8800:9100////.]
ตอนนั้นเองการต่อสู้ที่ควรจะรบด้วยการรุมแบบฟอร์เมขั่นก็ถูกทำลายไปแล้วเพราะมนุษย์ต่างดาวตนอื่นแยกกันไปจับคู่สู้กับแต่ละคนจนกลายเป็นการดวลเดี่ยวๆ
ไป
มิ่งขวัญเจอกับแบเรียม
เมษากับลิเธียม
กวินทร์และฟูเผชิญหน้ากับออสเมียม
รีเนียมมุ่งหน้าไปหาพวกแนวหลังตอนนี้มิกซ์กับพลอยกำลังต้านไว้
“เหวอ!!”
เสียงร้องของเมษาดังขึ้น
เจ้าตัวกำลังถูกลิเธียมจับข้อเท้าแล้วเหวี่ยงไปรอบๆ
คาดว่าคงจะปล่อยลูกเตะใส่แต่ถูกอีกฝ่ายจับได้ถึงกลายเป็นแบบนั้น
เมื่อลิเธียมปล่อยมือ
เมษาก็ลอยละลิ่วไปกระแทกเข้ากับอาคารและบ้านเรือนเกิดประกายไฟจากความเสียหายและระเบิดจากสิ่งจำลองเหล่านั้น
ตูม ตูม ตูม
เสียงกัมปนาทดังสนั่น
เมษานอนแอ้งแม้งหมดสภาพอยู่กองสิ่งจำลองที่โดนทับจนพังราบเป็นแถบราวกับอยู่ในฉากต่อสู้ของสัตว์ประหลาดยักษ์
เมษา Lv. 69 [/////9500:10030///..]
ขณะเดียวกันกวินทร์กับฟูซึ่งช่วยกันรุมออสเมียมที่ความเร็วไม่ต่างกันมากเพราะระดับเลเวลไล่เลี่ยกันอยู่
Osmium
Lv. 100 [/////47030: 47030/////]
แต่กลับตามจังหวะเท้าที่เหมือนกับการเต้นนั่นไม่ทัน
ทั้งที่กวินทร์เองก็เป็นนักสู้ที่ใช้จังหวะเต้นแท้ๆ แต่ความต่างก็ยังมีอยู่มาก
มิหนำซ้ำ…
“ไซเฟอร์โปรเจคชั่น!
(Cipher Projection)”
เมื่อมนุษย์ต่างดาวร่ายสกิลพร้อมกับควงหอกในมืออย่างทะมัดทะแมง
ร่างก็แตกออกเป็นสอง
“เฮ้ย!
แยกร่างได้ด้วยเรอะ!!”
ฟูสบถ
ส่วนกวินทร์พอเห็นสกิลนั่นก็วิเคราะห์ได้ทันทีว่าอีกฝ่ายนั้น
“นี่มันสกิลในสายของอาชีพสเปเชียลลิส
(Specialist) นี่นา”
มันเป็นอาชีพที่ต่อสู้ได้หลากหลายโดยเน้นไปที่การใช้วิชาหรือเทคโนโลยีล้ำสมัยในการต่อสู้มีพื้นฐานการบิลด์หลักแยกเป็นสามสายแบ่งตามรูปแบบการต่อสู้บนฟ้า
บนดิน บนน้ำ คือ แอร์ฟอร์ส แอเรียฟอร์ส อควาฟอร์ส
ออสเมียมตอบรับคำพูดนั่นด้วยเสียงขรึม
“ใช่
บิลด์อควาฟอร์สไงล่ะ”
อีกร่างซึ่งโปร่งแสงราวกับภาพฉายของออสเมียมนั้นต่อสู้ได้และทำร้ายได้จริง
จากการรุมกลายเป็นการสู้แบบสองต่อสองซึ่งพวกเขาเสียเปรียบอย่างชัดเจน
ออสเมียมบุกโจมตีกวินทร์ส่วนร่างแยกก็ไล่ต้อนฟู
ด้วยความได้เปรียบด้านระยะของอาวุธที่ยาวกว่าดาบและค้อนทำให้เป็นฝ่ายจู่โจมอยู่ฝ่ายเดียว
แต่อาวุธที่มีความยาวก็มีท่าร่างที่ก่อให้เกิดช่องว่างขึ้นมาในบางช่วงเพราะฝีมือของผู้ใช้ยังไม่ถึงขั้น
เมื่อกวินทร์หาจังหวะตอบโต้ได้จากช่องว่างที่เกิดขึ้นเมื่ออีกฝ่ายแทงหอกเข้ามาจึงพลิกดาบลงแล้วสอดมันเข้าไปขัดตรงช่องว่างระหว่างใบมีดทำให้หอกหยุดก่อนจะเข้าถึงตัวจากนั้นก็แทงดาบออกไป
“สลับตัว!”
แต่ออสเมียมส่งเสียงแบบนั้น
พริบตาถัดมาก็หายตัวไปแล้วกลายเป็นว่าร่างแยกโผล่มาอยู่ต่อหน้าในสภาพที่เงื้อหอกขึ้น
ตวัดฟันลงมาจากไหล่ขวาจนถึงกลางลำตัวประกายไฟพุ่งเป็นทางแรงจากการระเบิดเป่ากวินทร์จนเสียหลักล้มลง
แล้วออสเมียมตัวจริงก็ไปโผล่หน้าฟูแทนโดยที่อยู่ในสภาพแทงหอกออกไปฟูจึงถูกแทงกระเด็นไปเหมือนกัน
สลับตำแหน่งกับร่างแยกของตัวเองเป็นวิธีต่อสู้ของอควาฟอร์สแล้ววิธีนั้นก็ทำให้จุดบอดของท่าร่างอาวุธหายไปด้วย
กวินทร์ Lv.75 [/////5700:10200.....]
ฟู Lv.83 [/////12500:15000///..]
ที่พอจะสูสีกันในกลุ่มนี้ก็เห็นจะมีแต่คู่ของมิ่งขวัญกับแบเรียม
มิ่งขวัญ Lv.102 [/////25000:25000/////]
Barium
Lv. 110 [/////47030:47030/////]
ทั้งคู่ยังไม่มีใครเสียเลือดให้กับคมดาบของอีกฝ่าย
ถึงจะเหมือนกันทั้งอาวุธและหน้าตาแต่สไตล์การต่อสู้นั้นตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง
แบเรียมเน้นไปที่การใช้โล่ตั้งรับการโจมตีแล้วฟันสวนกลับไป
ส่วนมิ่งขวัญใช้ทั้งดาบผสมกับหมัดในการบุกโจมตี โล่เป็นเพียงของที่พึ่งพาในยามจำเป็นเท่านั้น
ทางฝั่งแนวหลังที่รีเนียมบุกไปก็กำลังเกิดการต่อสู้อยู่เช่นกันแต่ก็พอจะได้เปรียบอยู่บ้างเพราะอิซานามิเข้ามาช่วยสู้ทำให้มนุษย์ต่างดาวชั้นครูต้องรับมือกับคนสี่คนจึงสามารถต้านทานการบุกของหล่อนได้
ในตอนนั้นเองมิ่งขวัญก็สบโอกาสโจมตีหลั่งเลือดแบเรียมได้เป็นครั้งแรกหลังจากรุกรับกันอยู่นาน
“ย้าก!!”
มิ่งขวัญร้องคำรามพร้อมกับตวัดเรเปียเล็งไปที่กระดูกไหปลาร้าโดยกะฟันให้ขาดสะพายแล่งไปทั้งยวงแขนซ้าย
แต่ซีเซียมที่สู้อยู่กับอิงศรก็ไหวตัวเสียก่อน
“คนที่จะโค่นเจ้าได้มีแต่ข้าเท่านั้น!”
ราชครูเพี้ยนตะโกนประโยคที่มักได้ยินกันในหนัง
ดูเหมือนจะเป็นคำร่ายของสกิลประหลาดๆ มาตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้ว
[“คนที่จะโค่นเจ้าได้มีแต่ข้าเท่านั้น” Lv(1/1)
Element:
-
Attribute:
Support, Hero
(Cast
Cost) ต้องอยู่ในพื้นที่ Hero Verse; เอาตัวเข้าไปป้องกันเพื่อนทำให้ความเสียหายลดลงครึ่งหนึ่งและฟื้นฟูพลังชีวิตเพื่อนด้วยพลังมิตรภาพของตัวร้ายกลับใจ]
พริบตานั้นเองซีเซียมก็หายตัวไปโผล่ขวางทางดาบของมิ่งขวัญ
ดาบฟันลงบนแผ่นหลังของซีเซียมประกายไฟพรั่งพรูอออกมา
Caesium
Lv. 144 [/////76000:77734////.]
“อ๊าก!!”
“ท่านพี่!”
แบเรียมกรีดร้องแล้วรับร่างของราชครูผู้เป็นพี่ชายไว้ไม่ให้ล้มลง
จู่ๆ ที่เรเปียของแบเรียมก็มียูนิทสีทองลอยออกมา
ไม่เพียงแค่นั้นพวกมนุษย์ต่างดาวตนอื่นๆ
ก็เริ่มพูดในทำนองเดียวกัน
“ท่านพี่!”
“ท่านพี่!”
“ท่านพี่!”
ไล่ตั้งแต่ลิเธียม
ออสเมียม รีเนียม ยูนิทสีต่างๆ ลอยออกมาจากอาวุธของเจ้าพวกนั้น
“คราวนี้อะไรอีกล่ะเนี่ย”
อิงศรคำรามสบถอย่างไม่เข้าใจ
มนุษย์ต่างดาวทีมนี้มีเรื่องประหลาดมากเกินไปแล้ว
ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะเย้ยของซีเซียมดังขึ้น
เจ้านั่นลุกขึ้นมาแล้วเริ่มอธิบายโดยที่พวกเขาไม่ได้ขอ
“ด้วยพลังแห่งสายสัมพันธ์ระหว่างพี่น้องยูนิทมันก็เลยเพิ่มขึ้นมาเองไงล่ะ”
[“ท่านพี่!!” Lv(1/1)
Element:
-
Attribute:
Support, Hero, Charge
(Cast
Cost) ต้องอยู่ในพื้นที่ Hero Verse; เมื่อน้องชาย/น้องสาว
ของคุณพูดคำร่ายสกิลหลังจากคุณได้รับดาเมจจะเพิ่มยูนิทเลือกสีเองได้ให้กับน้องหนึ่งหน่วย]
“แต่น้องแกมันก็แค่เจ้าแบเรียมไม่ใช่รึไงวะ!”
อิงศรตะคอกกลับไป
แต่ซีเซียมยักไหล่แล้วพูดว่า
“อะไรกันเล่าปกติก็ทำอยู่บ่อยๆ
ไม่ใช่เหรอเล่นเป็นครอบครัวกันน่ะทุกคนในทีมถือเป็นน้องชายน้องสาวของฉันหมดทุกคนนั่นแหละ
ให้ตายเถอะหรือวายร้ายอย่างแกจะไม่เข้าใจโรมานซ์นี่กันนะ ฮะ ฮะ ฮะ”
สรุปว่าเจ้านี่ไม่ได้เพี้ยนเกินระดับสามัญสำนึกแต่ดูถ้าจะเพี้ยนเป็นสามัญสำนึกซะมากกว่า
อ่านทางไม่ได้
ไม่สิเจ้านี่ไม่แบบแผนที่จะทำความเข้าใจได้เลยด้วยซ้ำ
คนบ้าดีๆ
นี่เอง...อิงศรคิดอย่างนั้น
“ถ้างั้นทางนี้ขอลุยบ้างละกัน
ตรวนผนึกหมาป่าไกรพ์นิล!!”
อิงศรร่ายสกิล
เจ้าพวกนั้นไม่รู้ว่าก่อนจะเริ่มการต่อสู้เขาได้ทิ้งลูกศรที่เสียบแผ่นยันต์เอาไว้บนพื้นทำเป็นกับดักอาณาเขตเอาไว้แล้วก็รอจังหวะที่พวกมันจะเข้าไปยืนในกับดักซึ่งมิ่งขวัญช่วยต่อสู้หลอกล่อให้จนเกิดโอกาสแบบนี้ขึ้นมา
เป็นไปตามแผนที่เคยประชุมกัน
ตรวนโซ่พุ่งออกมามัดแขนและขาของสองพี่น้องต่างดาว
มิ่งขวัญตั้งโล่ขึ้นมาเพื่อที่จะใช้
‘เอลิเชี่ยน
ฟินาเล่’ ที่สร้างความเสียหายได้มากที่สุด
แต่ทว่า
“ข้ามองวิชาของเจ้าออกหมดแล้ว”
ซีเซียมก็ร่ายสกิลประหลาดออกมาอีก
สกิลที่ชื่อเหมือนกับประโยคพูดจากหนังแล้วโซ่อาคมก็พากันสลายหายไปราวกับหมอก
[“ข้ามองวิชาของเจ้าออกหมดแล้ว” Lv(1/1)
Element:
-
Attribute:
Support, Hero
(Cast
Cost) ต้องอยู่ในพื้นที่ Hero Verse; อ่านทางวิชาของศัตรูแล้วหลบหลีกอย่างสมบูรณ์แบบ]
“อึก
นี่มันจะบ้าไม่หยุดเลยรึไงเนี่ย”
อิงศรแสดงสีหน้าเจ็บปวดทั้งสกิลทั้งแผนเหมือนจะไร้ความหมายเมื่ออยู่ต่อหน้าความไม่เป็นเหตุเป็นผลแล้วซีเซียมดื่มดำกับสีหน้าของเขาก็พูดออกมา
“ดูเหมือนจะยังไม่เข้าใจสินะเจ้าวายร้ายคงคิดว่าใช้ปืนแล้วจะมีอาชีพเรนเจอร์เหมือนกันสินะซื่อบื้อชะมัดอาชีพของฉันคือ
ฮีโร่ ต่างหาก”
มิ่งขวัญแย้งขึ้นมา
“ไม่เห็นจะเคยได้ยินอาชีพพรรค์นั้น...”
แต่ซีเซียมก็พูดขัดไว้ก่อน
“แน่นอนว่าฉันเป็นคนสร้างมันขึ้นมาเองเพราะว่าเดเวลอปเปอร์ของเกมนี้ก็คือฉันคนนี้ยังไงล่ะจะมีอาชีพอะไร
สกิลแบบไหน ให้มันทำอะไร ฉันคือผู้กำหนดเองเป็นตัวตนที่เหนือกว่าจีเอ็มซะอีก ฮะ ฮะ
ฮะ”
ก่อนหน้านี้ไทเทเนียมก็เคยบอกว่าฝ่ายมนุษย์ต่างดาวมีคนที่พัฒนาระบบของเกมโลกาวินาศอยู่บางทีคนที่สร้างดิสค์เก็บสกิลที่ไม่น่าจะมีกับพวกอาวุธแปลกๆ
ที่เรียกว่าอาวุธติดตั้งอสุรา อาจจะเป็นหมอนี่เองนี่แหละ
เท่ากับว่าเจอตัวปัญหาที่สุดเข้าให้เสียแล้ว
ความคิดเห็น