ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Apocalypse Online เกมโกงวันโลกาวินาศ

    ลำดับตอนที่ #122 : Login 119: สมานแผล

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 363
      12
      20 มิ.ย. 60

    Login 119: สมานแผล

     

    [Overlord] Helel

    Alignment: Chaos

    Detail: เจ้าไม่เห็นหรอกหรือ ความตายที่พร้อมจะกลืนกินความหวังทั้งหมดกำลังขวางทางเจ้าอยู่...

    Ability: "Morning Star" เมื่อเรียกออกมาจะทำให้เดม่อนสกิลทั้งหมดไร้ผล]

     

                รายละเอียดของปีศาจปรากฏขึ้นบนแว่นตาแห่งลาพาส

                ซากิริซึ่งสวมมันอยู่ก็ส่งเสียง

                “อืม หรือว่านี่จะเป็น...”

                อย่างใช้ความคิดพลางจ้องเขม็งไปยังเป้าหมาย

                ...

                อิงศรจ้องมองไปที่ร่างของน้องชายซึ่งถูกโอบอุ้มไว้ด้วยปีกของปีศาจที่ออกมาจากอาคานาร์

                ปีศาจมีใบหน้าเหมือนกับเจ้าของราวกับเป็นฝาแฝด

                แล้วที่เอวของมิ่งขวัญก็มีฟันเฟืองสีขาวเหมือนกระดูกโอบล้อมไว้ราวกับวงแหวนของดาวเสาร์

                ตอนที่เกิดกับเมอร์คาบาห์เฟืองก็ปรากฏออกมาเช่นกันแต่ลักษณะของเฟืองกลับต่างออกไปนอกจากนี้คลิฝอธที่เห็นก่อนหน้าก็เหมือนกัน นี่อาจจะเป็นเหตุการณ์แบบเดียวกันก็ได้

                เสียงของซากิริดังมาจากหน้าจอสื่อสาร

                ‘โอเวอร์ลอร์ดเฮเลลประเภทเคออสมีพลังที่จะทำให้เดม่อนสกิลเป็นโมฆะได้’

                หล่อนน่าจะกำลังพูดถึงรายละเอียดของปีศาจที่มิ่งขวัญเรียกออกมาคงจะได้ข้อมูลมาจากลาพาสอีกที

                ซากิริยังคงพูดต่อไปว่า

                ‘ตอนแรกก็เรื่องร้องไห้ได้คราวนี้ก็ปีศาจอีกสองอย่างนี้น่ะมนุษย์ต่างดาวไม่ควรจะมีได้เลยหรือไม่ก็นี่อาจจะเป็นผลมาจากฟันเฟืองก็ได้ล่ะมั้ง’

                “เฟืองที่ว่าน่ะมันทำแบบนั้นได้ด้วยเหรอ”

                อิงศรถาม

                ‘ไม่รู้สิตอนนี้สันนิษฐานได้แต่แบบนั้น’

                “เดาสุ่มอีกแล้วสินะ”

                แต่ซากิริแย้ง

                ‘ไม่ใช่เดาเป็นการตั้งสมมติฐานต่างหาก’

                หล่อนพูดแก้ตัวเหมือนตอนที่ฟันธงเรื่องมิ่งขวัญตัวปลอมไม่มีผิด

                ตอนนั้นเองปีศาจที่มิ่งขวัญเรียกออกมา เฮเลลก็ผละตัวออกห่าง

                โบยบินด้วยปีกทั้งหกพลางยืดแขนออกมาข้างหน้า

                มือของปีศาจเปล่งแสงสว่างวาบ แสงตรงเข้าอาบร่างของมิ่งขวัญจากนั้นแขนของมิตราพุทธะก็คลายออกและหายไป

                มองเห็นออร่าสีแดงขับออกมาจากตัวมิ่งขวัญ ออร่าเหล่านั้นไปรวมตัวกันเป็นมิตราพุทธะ

                มันถูกขับออกมาด้วยพลังของเฮเลล คิดได้แต่เหตุผลแบบนั้น

                มิตราพุทธะคำราม

                “ทำไมข้าถึงถูกขับออกมาได้ ไม่น่าจะมีสิ่งใดต่อต้านศาสตราอสุราได้นี่นา”

                แต่ไม่มีใครสนใจ

                มิ่งขวัญสีหน้าดีขึ้นหันไปบอกขอบคุณปีศาจที่ช่วยเอาไว้

                “ขอบใจนะ”

                ปีศาจพยักหน้า

                “…”

                จากนั้นสายตาของทั้งคู่ก็เปลี่ยนเป็นจริงจังแล้วจ้องเขม็งไปที่มิตราพุทธะ

                “ที่นี้ก็มาสะสางเจ้านี่กันเถอะ”

                มิ่งขวัญดึงหอกขึ้นจากพื้น เฮเลลย้ายลงมาอยู่ด้านหลังคอยสนับสนุน

                จากนั้น...

                วงแหวนเพลิงด้านหลังกับฟันเฟืองที่โอบล้อมรอบเอวก็เริ่มหมุดกวัดแกว่ง

                มิตราพุทธะบินหนีขึ้นไปด้านบนสูงถึงขนาดที่การโจมตีไปไม่ถึง

                แต่มิ่งขวัญในตอนนี้สามารถบินได้เพราะความสามารถของโกลด์กาแลนต์ น้องชายกับเฮเลลทะยานไล่ตามไปอย่างสุดกำลัง

                ทั้งสองฝ่ายต่างขับเคี่ยวกันด้วยความเร็วระดับเครื่องบินเจ็ท

                มิตราพุทธะเร่งเครื่องจนบินกลับหัวข้ามมิ่งขวัญไปอยู่ด้านหลังได้แล้วถอนเขี้ยวหน้าคู่ออกพลางใช้มันโจมตีหวังฝากรอยแผลไว้บนหลังมิ่งขวัญ

                แต่เด็กหนุ่มก็ใช้ความเร็วหักหลบได้ทัน

                “อัสนีราโอ!”

                มิตราพุทธะร่ายสกิลปลดปล่อยสายฟ้าผ่านทางดาบเขี้ยว แต่มิ่งขวัญก็ตั้งโล่ในมือขึ้น

                “โฟตอนการ์ด”

                แล้วร่ายสกิลทำให้แสงสว่างเปล่งออกมาเป็นกำแพงต้านสายฟ้าไว้

                สายฟ้าปะทะเข้ากับกำแพงแสงดังเปรี้ยงแล้วกระดอนออก ความเสียหายจากสายฟ้าลดลงครึ่งหนึ่ง

     

    มิ่งขวัญ Lv. 91 (Gold Garant)

    [/////17750:17850////.]

     

                มิ่งขวัญเปิดฉากโจมตีกลับ เขาเล็งหอกแล้วพุ่งเข้าหามิตราพุทธะ

                แต่อีกฝ่ายโยกตัวหลบทำให้หอกหลุดเข้าไปในปากของงู

                มิ่งขวัญกดหอกสุดแรงจนเสียบทะลุหัวงูแล้วลากมันออกจากตัวของมิตราพุทธะ

                “หนอยแน่ะ”

                มิตราพุทธะสบถแล้วตวัดเขี้ยวดาบทั้งสองเฉือนหัวไหล่กับบริเวณท้องมิ่งขวัญจนได้แผล

                เลือดที่ไหลทะลักถูกสายลมพัดจนลอยหายไปมิ่งขวัญกัดฟันทนต่อจนกระทั่งลากเอางูที่พันร่างของมิตราพุทธะออกมาได้สำเร็จจึงทำให้มันหมุนติ้วไปหลายตลบ

     

    มิ่งขวัญ Lv. 91 (Gold Garant)

    [/////17350:17850///..]

     

                งูสิ้นใจคาหอกทั้งแบบนั้น มิ่งขวัญดึงมันออกแล้วทิ้งไปจากนั้นจึงบินตีลังกาทำด็อกไฟท์ (Dogfight) ลอยข้ามมิตราพุทธะไปอยู่ด้านหลัง

                ระหว่างนั้นวงแหวนไฟก็ลอยข้ามมาอยู่ข้างหน้า อยู่ในสภาพเตรียมพร้อมที่จะเผด็จศึก

                “แทคีออนสไลเซเอร์!”

                วงแหวนไฟเร่งรอบหมุนของมันให้เร็วยิ่งยวด

                ทว่ามันก็ยังเสียเวลาในการรวบรวมพลังมากเกินไปเป็นเหตุให้มิตราพุทธะกลับตัวได้สำเร็จ

                ปีศาจตวัดดาบเขี้ยวมาพร้อมๆ กัน คมเขี้ยววิ่งเข้าหาลำคอ

                เสียงตัดดัง ฉัวะ อวัยวะนั้นน่าจะขาดกระเด็น

                แต่นั่นไม่ใช่ศีรษะของมิ่งขวัญหากแต่เป็นแขนของเฮเลลที่ยื่นเข้ามาปกป้องเจ้านายไว้

                ตอนนั้นเองวงแหวนเพลิงก็เปล่งแสงแล้วมิ่งขวัญก็โจนทะยานข้ามมัน

                เด็กหนุ่มกลายเป็นแสงพุ่งทะยานผ่านร่างของมิตราพุทธะ

                “อ๊ากกกก!!!”

                ปีศาจคำรามและกรีดร้องอย่างเกรี้ยวกราดตรงหน้าอกของมันที่มิ่งขวัญพุ่งทะยานผ่านไปนั้นเกิดรูกลวงโหว่ขนาดใหญ่ ตรงใจกลางรูโหว่นั่นเองที่หลุมดำก่อตัวขึ้นและดูดกลืนร่างที่เหลือเข้าไป

                หลุมสีดำขยายตัวผ่านไปไม่กี่วินาทีมิตราพุทธะก็ถูกกลืนหมดจากนั้นหลุมดำก็เริ่มหดตัวจนกระทั่งหายไป

                มิ่งขวัญกลับลงมาบนพื้นจากนั้นก็คลายร่างอัศวินทองคำแล้วหันไปกล่าวกับเฮเลล

                “ขอบใจนะที่ช่วยเอาไว้”

                มิ่งขวัญพูดกับปีศาจด้วยสายตาเป็นห่วง เขาจ้องมองแขนทั้งสองข้างที่ถูกตัดขาดด้วยความรู้สึกผิดแม้จะรู้อยู่แก่ใจว่าบาดแผลเพียงแค่นี้ทำอะไรปีศาจไม่ได้ก็ตาม

                “…”

                เฮเลลพยักหน้าให้จากนั้นจึงหายตัวไป เฟืองที่โอบรอบเอวของมิ่งขวัญก็เช่นกันหายไปพร้อมกับปีศาจราวกับเป็นตัวตนเดียวกัน

                จากนั้นมิ่งขวัญก็มองมาทางนี้…ตรงที่อิงศรยืน

                แต่มิ่งขวัญไม่เดินเข้ามา

                “…”

                จะว่าไปนี่ก็เป็นครั้งแรกตั้งแต่มาที่นี่ ครั้งแรกที่ได้พบหน้ากันโดยไม่ต้องอยู่ในสถานการณ์ที่บีบบังคับให้แยกกัน….อิงศรคิดอย่างนั้น

                แล้วก็คิดต่อไปอีกว่าสาเหตุที่น้องชายไม่ยอมเข้ามานั่นอาจจะเป็นเพราะเลเวล

                มิ่งขวัญเลวเล 91 ซึ่งก้าวข้ามขีดจำกัดพลังจากหกเท่าของมนุษย์ขึ้นมาเป็นสิบสองเท่า

                ห่างไกลจากความเป็นมนุษย์

                ห่างไกลจากตัวตนดั้งเดิม

                “แล้วมันจะทำไมเล่า”

                อิงศรเดินเข้าไปหาเอง

                แต่มิ่งขวัญกลับผละถอยก้าวไปข้างหลังเหมือนกับจะหนี

                “ขวัญ!”

                พอส่งเสียงตวาดออกไปแบบนั้นเท้าของมิ่งขวัญก็หยุดก้าว

                อิงศรเร่งฝีเท้าจนกระทั่งเข้าไปถึงตัวน้องชายแล้วจับหัวไหล่ทั้งสองบีบบังคับให้เผชิญหน้าตรงๆ

                “นายร้องไห้เหรอ”

                พลางถามคำถาม ที่ขอบตายังมีคราบน้ำตาที่ยังไม่แห้งเกาะอยู่

                “แต่มนุษย์ต่างดาวน่ะไม่ร้องไห้นั่นเป็นเรื่องจริงรึเปล่า”

                อิงศรพูด

                “…”

                ดูเหมือนว่ามิ่งขวัญเองก็จะเพิ่งรู้สึกตัวถึงเรื่องนี้ น้องชายทำหน้าตื่นเล็กน้อย

                “จริงด้วยทั้งที่เมื่อก่อนน้ำตาก็ไม่เคยไหลออกมาเลยแท้ๆ”

                “แล้วจำได้รึเปล่าว่าเริ่มร้องได้ตั้งแต่เมื่อไหร่หรือว่ามีอะไรทีน่าจะเกี่ยวข้องไหม”

                มิ่งขวัญทำหน้านึกอยู่ครู่หนึ่งก็พูดออกมา

                “จริงสิจะว่าไปมีครั้งหนึ่งที่ถูกรูบิเดียมทำให้เฟืองออกมารู้สึกว่าหลังจากตอนนั้นล่ะมั้งที่น้ำตาเริ่มจะไหลออกมาน่ะ”

                “งั้นเหรอ…ที่แท้ก็เป็นอย่างนั้นเอง”

                บางทีสันนิษฐานของซากิริอาจจะถูกต้อง...อาจจะเป็นเพราะเฟืองจริงๆ ก็ได้

                มันคงจะเปลี่ยนอะไรบางอย่างในตัวหลังจากที่ตื่นขึ้นมาในร่างกายของพวกเขา

                บางอย่างที่จะทำให้โลกนี้ไปถึงจุดจบที่ล้ำลึกยิ่งกว่าหรือไม่ก็…

                บางอย่างที่จะช่วยกอบกู้มนุษย์เอาไว้

                เพราะอย่างนั้นมิ่งขวัญจึงร้องไห้ได้ใช้อาคานาร์ได้ทำตัวเหมือนเป็นมนุษย์ได้

                “พี่ศร ขวัญ”

                ฟูที่เพิ่งจะคืนร่างมนุษย์กำลังเดินมาทางนี้

                ติ๊ง! เสียงเลเวลอัพดังขึ้น

                พอมิตราพุทธะถูกกำจัดไปค่าประสบการณ์จึงถูกโอนให้กับทุกคนในปาร์ตี้ที่อยู่ในบริเวณนี้

                แถมยังเป็นค่าประสบการณ์จำนวนมหาศาลเลเวลของพวกเขาเพิ่มขึ้นรวดเดียวเกือบ 20 เท่า

               

                อิงศร Lv.90 [/////5900:10320.....]

                มิ่งขวัญ Lv.99 [/////20000:20000/////]

                ฟู Lv.80 [/////11000:11000/////]

                เน็กส์ Lv.80 [/////8910:8910/////]

     

                ยกเว้นซากิริเพราะหล่อนไม่ได้เข้าร่วมปาร์ตี้ด้วยในตอนที่ต่อสู้กับไทเทเนียมและโซเดียมก็ไม่ได้อยู่ในปาร์ตี้อีกอย่างหล่อนเป็นราชครูเลเวลจึงเต็มอยู่ตั้งแต่แรก

                ซากิริ Lv.20 [/////1000:1000/////]

                Sodium Lv.144 [/////49500:49500/////]

                ส่วนอิซานามินั้นเป็นปีศาจจึงไม่มีเลเวล

                คนอื่นๆ ที่ไม่ได้อยู่ที่นี่มีแต่ชื่อปรากฎอยู่บนหน้าจอแต่ไม่สามารถตรวจสอบสถานะได้

                นั่นคือผลสรุปทั้งหมดของกลุ่มในตอนนี้

                มิ่งขวัญยังคงทำหน้าเสียขวัญกับการเลเวลอัพอยู่

                เจ้าน้องบ้านี่ยังคิดมากเรื่องนั้นอยู่อีกจะเรียกว่าเติบโตขึ้นได้รึเปล่านะทั้งที่เมื่อก่อนเป็นแค่เจ้าบื้อที่คิดอะไรตื้นๆ เสมอ

                อิงศรง้างกำปั้นแล้วเขกหัวน้องชายไปทีหนึ่ง

                “โอ้ย ทำอะไรน่ะ...เจ็บนะ”

                “นายนั่นแหละมัวกังวลเรื่องไม่เป็นเรื่องอยู่ได้ก็บอกไปแล้วนี่ไม่ว่านายจะกลายเป็นตัวอะไรไปเราก็ยังเป็นพี่น้องกันเป็นครอบครัวเดียวกันถ้าหากว่าเป็นฉันที่ตกอยู่ในสภาพนั้นนายคิดจะไม่ใยดีฉันรึไง”

                แน่นอนว่ามิ่งขวัญปฏิเสธในทันที

                “ไม่มีทางทำแบบนั้นอยู่แล้ว”

                ถึงน้ำเสียงกับสีหน้าจะดูดีขึ้นมาบ้างแต่น้ำตาก็ยังไม่ยอมหยุดไหล แล้วตกลงว่านั่นเป็นน้ำตาแห่งความปิติยินดีอย่างที่ซีลอร์ดพูดไว้ตอนที่มิ่งขวัญปลุกเฮเลลขึ้นมาหรือว่าเป็นแค่น้ำตาขี้แยกันแน่นะ

                อิงศรยิ้มให้น้องชาย

                “ถ้างั้นก็เข้าใจแล้วนะ”

                พอทำแบบนั้นมิ่งขวัญก็แสดงสีหน้าไร้เดียงสาแบบปกติออกมา

                ใบหน้าเหมือนเมื่อสามปีก่อน...มิ่งขวัญส่งเสียงตอบรับคำพูดอย่างว่าง่าย

                “อื้อ”

                ทันใดนั้นเองฟูก็แทรกตัวเข้ามาขัดจังหวะการสนทนาที่เพิ่งจะสิ้นสุดลง กอดคอมิ่งขวัญไว้พลางใช้อีกมือขยี้หัวมิ่งขวัญอย่างสนิทสนมแล้วพูดว่า

                “นายนี่มันชอบทำให้เป็นห่วงซะเรื่อยเลยนะเฟ้ย”

                ที่ใบหูของฟูยังเป็นใบหูของหมาป่าอยู่ทั้งที่ร่างกายส่วนใหญ่กลับเป็นคนแล้ว

                คืนร่างไม่สมบูรณ์เหรอ? หรือว่าเดโมนอยด์จะมีข้อจำกัดของการใช้ร่างปีศาจอยู่กันนะ...อิงศรคิด

                มิ่งขวัญจับมือฟูที่ขยี้หัวอยู่ออก

                “ไม่อยากโดนหมาพูดใส่หรอกนะแล้วมันเจ็บนะเฮ้ยหยุดยีหัวซะทีเซ่”

                “ว่าใครเป็นหมากันห๊ะ!”

                “เป็นหมาก็ต้องบอกว่าเป็นหมาเซ่”

                “ว่าไงนะทีนายยังเป็นมะนาวต่างนุดเลย”

                “ว่าไงนะเจ้าหมาปากหมานี่ลองพูดมาอีกทีเสะ”

                มิ่งขวัญกับฟูแยกตัวออกจากท่ากอดคออย่างสนิทสนมเมื่อครู่แล้วตั้งท่าจะทะเลาะกันเต็มที่

                ตอนนั้นเองสะพานหินที่เชื่อมแผ่นดินฝั่งนี้ไว้ก็เริ่มขยับ สะพานเลื่อนไปเชื่อมกับแผ่นดินฝั่งที่พวกซากิริอยู่พอดี

                อิงศรหันไปบอกทั้งสองคนที่ตอนนี้แข่งจ้องตายิงฟันใส่กันจนหน้าแทบจะแนบชิดติดสนิท

                “นี่ เลิกทะเลาะกันได้แล้วรีบไปก่อนที่สะพานจะเปลี่ยนทิศเถอะ”

                แล้วจึงออกเดินนำไปก่อน ได้ยินเสียงทั้งสองคน เชอะ ใส่กันแว่วมาตามด้วยเสียงฝีเท้า

                ราวกับว่าเวลาได้ย้อนกลับไปอีกครั้งหนึ่ง

                ประหนึ่งบาดแผลในใจได้สมานตัวปิดอย่างสมบูรณ์และทำให้กล่าวคำพูดที่ครั้งหนึ่งมันเจ็บปวดจนอยากจะลืมไปเสีย

                “ครอบครัวงั้นเหรอ”

                เด็กหนุ่มกล่าวเช่นนั้นด้วยสีหน้ายิ้มแย้มพลางแหงนหน้ามองไปยังแผ่นดินอีกฟาก

                เครื่องแบบโทรมไปหมดแถมยังขาดวิ่น มิ่งขวัญเองก็ไม่ต่างกัน

                แต่บาดแผลใต้ชุดนั้นก็สมานตัวไปแล้วแน่นอนว่า...

                บาดแผลในใจก็เช่นกัน

     



                ….

                ในขณะเดียวกัน อีกด้านหนึ่ง…

                สถานที่คือแผ่นดินลอยฟ้าแห่งหนึ่งในมิติของยฮวฮ

                กวินทร์กับกลุ่มครอบครัวของอิงศรสามคน มิกซ์ พลอย นิว และหัวหน้าหน่วยบุกจู่โจมที่เมตไตรยส่งมาพิจิก ธุวดารกะ

                ทั้งห้าคนกำลังเผชิญหน้ากับไทเทเนียม

                แต่พิจิกก็ตายไปแล้ว…ถูกสับโดยดาบเล่มเขื่องด้วยน้ำมือของไทเทเนียม

                สภาพศพจึงแยกออกเป็นสองซีก เครื่องในกับเลือดไหลลงมากองอยู่ตรงนั้นชวนสะอิดสะเอียน

                คนอื่นๆ ต่างก็สะบักสะบอมกันไม่น้อยเพราะฝีมือที่ห่างชั้นกันมาก

                กระทั่งจำนวนคนยังถมช่องว่างที่ว่าไม่ได้

                “นี่มันอะไรกันน่ะ ชุดสกิลใหม่ของฉันเพิ่งจะได้โชว์ไปไม่กี่อย่างเองนะ”

                มนุษย์ต่างดาวซึ่งเป็นอดีตพี่สาวกล่าวด้วยใบหน้าเสียดาย

                กวินทร์มีบาดแผลมากที่สุดในกลุ่มเพราะว่าเขาพยายามเอาตัวเข้าปกป้องทุกคน ดาบที่แยกออกเป็นสองเล่มด้วยสกิลเทคนิคัลเวพ่อนถูกใช้รับการโจมตีจากดาบยักษ์จนมีแต่รอยบิ่น

                เด็กหนุ่มทรุดเข่าลงข้างหนึ่ง ปล่อยแขนที่จับดาบลากพื้นและหอบหายใจรุนแรง

                “…”

                ไม่มีคำพูดจะโต้ตอบมนุษย์ต่างดาว ลำพังแค่จะประคองสติยังยากเกินไปสำหรับกวินทร์ในตอนนี้ ประกายสดใสในดวงตาของเด็กหนุ่มหม่นหมองมืดมนพอๆ กับหนทางที่จะโค่นศัตรู

                มิกซ์ที่จับกลุ่มอยู่กับครอบครัวอยู่ฟากตรงข้ามที่ไทเทเนียมหันหน้าเผชิญกวินทร์เริ่มพูด

                “ยัยนี่มันตัวอะไรกันเนี่ยจัดชุดสกิลระหว่างที่สู้ไปด้วยยังทำได้ขนาดนั้น”

                เป็นความจริงที่น่าเศร้าแต่พวกเขารวมกันยังเทียบอีกฝ่ายไม่ติด เหมือนเป็นหยดน้ำเล็กๆ สี่หยดที่พยายามจะถมหุบเหวลึกให้เต็มความต่างชั้นกันมันสูงถึงขนาดนั้น

                ตั้งแต่เริ่มพวกเขาห้าคนฟื้นขึ้นมาพร้อมกันบนแผ่นดินอีกแห่งแล้วค่อยรวมกลุ่มกันเดินมาถึงที่นี่

                ตอนที่มาถึงก็เห็นไทเทเนียมกำลังง่วนกับหน้าจอจัดการสกิลและได้กวินทร์ช่วยบอกเรื่องอาวุธที่หล่อนติดตั้งไม่สนับสนุนกับชุดสกิลปัจจุบันที่เป็นคลาสชาโดวเอ็นฟอร์สเซอร์ซึ่งใช้อาวุธเงาที่สร้างจากอัญมณี ดังนั้นหล่อนจึงจัดสกิลชุดใหม่อยู่

                พวกเขาได้ใช้โอกาสนั้นหวังโค่นหล่อนโดยไม่ให้ตั้งตัว แต่คนที่ชื่อพิจิกซึ่งบุกนำไปก่อนกลับถูกสับตายในดาบเดียวโดยที่หล่อนไม่ได้หันหน้าออกจากจอเลยแม้แต่วินาทีเดียว

                การโจมตีไม่ได้ชะงักลงแค่เพราะพรรคพวกคนหนึ่งตาย

                ความตายของพิจิกไม่ได้สำคัญขนาดทำให้สะเทือนใจ

                ทว่า ไทเทเนียมกลับต่อต้านพวกเขาได้เพียงแค่กวัดแกว่งดาบอย่างสบายๆ

                …แล้วในวินาทีถัดมา

                ชุดสกิลก็ถูกจัดเสร็จ มนุษย์ต่างดาวแสดงความสามารถของดาบยักษ์ที่เรียกว่าอาวุธติดตั้งอสุราร่วมกับสกิลชุดใหม่ที่บิลด์เป็นคลาสเอเลเมนทัลเอ็นแชนท์เตอร์ คลาสเดียวกันกับกวินทร์ได้อย่างชำนาญ

                แล้วก็กลายสภาพมาเป็นอย่างที่เห็นในปัจจุบัน…

                พวกเขาเป็นรองเธอทุกทาง

                หล่อนเป็นปีศาจไร้หัวใจที่มีความสามารถราวกับเทพเจ้าอาจจะเหนือกว่าอวโลกิตะที่เป็นอดีตเจ้านายของพวกเขาเสียอีก

                แล้วเธอคนนั้นก็มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดกับกวินทร์แต่กลับลงมือโดยไร้ความลังเล คงคิดจะฆ่ากวินทร์จริงๆ

                ตอนนั้นเองไทเทเนียมก็โผล่ไปอยู่ด้านหลังกวินทร์รวดเร็วจนมองตามไม่ทัน หล่อนจับดาบด้วยสองมือแล้วเงื้อมัน

                มิกซ์คิดระหว่างที่สายตาจับจ้องใบดาบนั่นก็ถูกตวัดลงมาที่คอของกวินทร์

                ถ้ามันเป็นอย่างที่คิด

                ถ้าหล่อนไร้ความรู้สึกไร้ความปราณีจริงๆ แล้วล่ะก็

                กวินทร์ก็คงต้องตายลงที่นี่

                ใบดาบพุ่งเข้าสู่ลำคอ แต่กวินทร์ไม่ต่อต้านคงเพราะไม่หลงเหลือสติพอจะทำแบบนั้น

                ทั้งที่หล่อนสามารถเคลื่อนไหวในระดับที่สายตามนุษย์มองไม่ทันแต่กลับมองเห็นเสี้ยววินาทีที่ลงดาบราวกับจงใจ

                คงตั้งใจให้เห็นจริงๆ นั่นล่ะ!

                มิกซ์เบ้หน้า เขาได้แต่จินตนาการความอำมหิตของมนุษย์ต่างดาวโดยที่ทำอะไรไม่ได้เลย

                หัวของกวินทร์ขาดกระเด็น

                มองเห็นช่องว่างที่เกิดขึ้นระหว่างลำคอไปแวบหนึ่ง

                พลอยจับนิวส์ปิดตาในทันทีรวมถึงตัวเธอเองก็เบือนหน้าหนีเพราะทนรับความโหดร้ายนั่นไม่ได้

                สายตาของมิกซ์ยังคงจับจ้องอยู่หัวของกวินทร์แม้แต่ในเสี้ยววินาทีที่มันกำลังจะหลุดกลิ้งลงมาจากบ่า

                แต่แล้ว...

                ก็มีสารอนินทรีย์สีขาวคล้ายกับพลาสติกทะลักออกมาจากลำคอ

                สารสีขาวนั่นยึดจับกับศีรษะของกวินทร์ไม่ให้หลุดลอยออกไปแล้วคงรูปเป็นห่วงวงกลมมีแง่งเหมือนฟันยื่นออกมาเรียงเป็นซี่

                ฟันเฟือง...

                ฟันเฟืองสีขาวขุ่นเหมือนกระดูกกำลังหมุน

                หมุนอยู่บนลำคอของเด็กหนุ่มที่ถูกเลือก

                เพื่อไม่ให้ตาย เพื่อชี้นำโลก....

                วัช...พืช

                และธำรงไว้ซึ่งกฎระเบียบของทุกสรรพสิ่ง


    ***ตอนแรกของสัปดาห์ในตารางเวลาใหม่!!! สำหรับท่านที่ยังไม่ทราบตั้งแต่อาทิตย์นี้เป็นต้นไปเราได้เปลี่ยนตารางเวลาในการอัพตอนใหม่แล้วเจอกันอีกทีวัน พฤหัสและวันเสาร์นะคร้าบ***

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×