คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #111 : Login 108: มหาเทพมารดร
Login
108: มหาเทพมารดร
ท่ามกลางท้องถนนที่มืดสนิทมีเพียงแสงสลัวของดวงดาวหรืออาจจะเป็นอย่างอื่นได้เพราะที่นี่ไม่ใช่บนโลกแต่เป็นรากของอาคาชิกเรคคอร์ด
อิซานามิยืนอยู่บนทางเท้าของถนนซึ่งขนาบด้วยอาคารสูงทั้งสองฝั่ง
ในมือหล่อนหิ้วคอเสื้อของอลิสไว้หลังจากจับเหวี่ยงไปกระแทกผนังจนอยู่ในสภาพกึ่งสลบและทำให้ปล่อยมือจากเลื่อยไฟฟ้าแล้วอิซานามิก็ยังไม่ได้ทำอะไรอีก
"อิซานาสิเหรอ...ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่"
อิงศรถามใบหน้าชื้นไปด้วยเม็ดเหงื่อ
เด็กหนุ่มเพิ่งรอดจากความตายมาหมาดๆ
ร่างกายยังไม่ค่อยตอบรับเรื่องที่ว่ารอดชีวิตซักเท่าไหร่ ถึงพยายามจะคิดว่าอิซานามิมาที่นี่ได้อย่างไรก็คิดไม่ออก
อา...สมองไม่แล่นเอาซะเลย...
อิงศรคิด
ตอนนั้นเองอิซานามิก็คืนร่างจากหญิงสาวรูปงามเป็นผีกระดูกที่มีแต่หนอนชอนไช
"..."
ปุบปับเสียจนเขาเกือบหลุดเสียงตกใจ
จากนั้นหล่อนก็หันดวงตากลวงโบ๋มาทางนี้แล้วพูดว่า...
"ฮาขอเตือนไว้ก่อนน่อว่าเวลาแม่หญิงจะกิ๋นข้าวมันไม่ค่อยน่าผ่อซักเท่าไหร่หรอก"
พลางดึงตัวอลิสแล้วอ้าปากกว้างขากรรไกรเริ่มแยกตัวอย่างไร้ขีดจำกัดราวกับงู
"เดี๋ยวสิจะทำอะไร..."
ไม่ทันขาดคำหัวของอลิสก็เข้าไปอยู่ปากของหล่อนแล้วขากรรไกรก็สับลงมา
กัดกระชากจนหัวขาดออกมาทั้งอย่างนั้น
เลือด
เลือดสีแดง
เลือดจำนวนมากพุ่งออกมาจากลำคอที่สูญเสียศีรษะ
ร่างของอลิสแน่นิ่งไปทั้งแบบนั้น
ปากของอิซานามิเคี้ยวดังกร้วมๆ
ลำคอส่งเสียงดังเอื้อกๆ
แล้วผิวหนังเน่าเฟะสีดำสนิทก็เริ่มกลายเป็นสีแดงอมชมพูชัดเจนขึ้นมาทีละน้อย
พอปากหยุดเคี้ยวหล่อนก็เริ่มกัดกินร่างของอลิสต่อไปอย่างน่าสยดสยอง
อิงศรทนดูต่อไปไม่ไหวแล้วจึงเลี่ยงสายตา
เสียงเคี้ยวกับกลืนดังระงม
ดูเหมือนจะกินอย่างเอร็ดอร่อยและมูมมามไม่น้อย
เขาลองเสี่ยงถามออกไป
"ท...ทำอะไรของเธอเนี่ย"
โดยที่ไม่สบตากับอีกฝ่ายและธนูในมือก็โก่งลูกศรเตรียมพร้อมเพราะไม่รู้ว่าอิซานามิกลายเป็นปีศาจกระหายเลือดไปแล้วหรือยัง
"ก็กำลังรวมร่างกลับไปเป๋นหนึ่งเดียวกันไง"
มีเสียงตอบมาแบบนั้นตามมาด้วยเสียงกัดกระชากเนื้อดัง
ซ่วก
แล้วหล่อนก็เริ่มเคี้ยวอีก
"รวมร่าง? หมายความว่ายังไงน่ะ"
ด้วยความสงสัยทำให้เขาลืมความสยดสยองเมื่อครู่ไปหมดและหันกลับไปถาม
ที่จริงเรื่องการรวมร่างปีศาจเขาเองก็รู้จักอยู่แล้ว
โอดินที่ฟัดกับปีศาจหมาป่าอยู่นั่นก็เกิดจากการรวมร่างเอลิกอร์กับสเลปนีลแต่ก็ไม่ได้กินกันสดๆ
แบบที่หล่อนทำ ถึงตรงนี้อิซานามิก็กลืนอลิสเข้าไปทั้งตัว
"เคยบอกไปแล้วนี่ว่าฮาเป็นเดธอาคานาร์ที่ถูกแบ่งส่วนออกมา
เมื่อกี้ก็เป็นส่วนหนึ่งของร่างเดิมน่ะก็แค่กลับไปเป็นเหมือนเดิม"
น้ำเสียงที่เคยแหบแห้งในร่างผีกระดูกเพราะร่างกายไม่มีอวัยวะช่วยปรับเสียงของอิซานามิดูจะฟังมีน้ำนวลขึ้นเหมือนจะเริ่มเป็นเสียงปกติรวมถึงสำเนียงเหน่อกับภาษาเหนือก็ทยอยหายไป
อิซานามิกำลังเปลี่ยนแปลง
ร่างเน่าเปื่อยดั่งผีตายซากของหล่อนกำลังเปล่งปลั่งเป็นสีชมพูอ่อน
ไม่สิมันเปล่งแสงเลยต่างหาก
แต่ทว่านี่ยังอยู่ระหว่างการต่อสู้
ยังมีปีศาจเหลืออยู่อีกตน
โลกิที่ไล่ล่าอิงศรมาตั้งแต่แรกยังไม่ได้ถูกจัดการหลังจากถูกมหิงสาเพลิงขวิดกระเด็นก็ไปตกที่อีกฟากของถนน
ปีศาจไขว้แขนประสานกันบริเวณหน้าอกพร้อมกันนั้นก็มองเห็นน้ำกลั่นออกมาจากอากาศ
จับตัวเป็นแท่งน้ำแข็งแหลมรายล้อมรอบตัวมัน
“นิฟล์เฮม !! (Niflheim)”
แล้วเมื่อสะบัดแขนออกแท่งน้ำแข็งแหลมก็พุ่งตรงมาทางนี้
จำนวนของแท่งน้ำแข็งมีแค่ยี่สิบแท่งจะสอยให้ร่วงมันก็เรื่องง่ายๆ
แต่แท่งน้ำแข็งพวกนั้นหลังจากพุ่งออกมาแล้วก็ยังขยายตัวขึ้นอีกและไม่มีทีท่าว่าจะหยุดขยายตัว
แค่เพียงเสี้ยววินาทีจากแท่งน้ำแข็งก็กลายเป็นเสาน้ำแข็งยักษ์
บางแท่งที่วิ่งแทบจะเลี้ยดไปกับพื้นก็ขยายจนเกยตื้นหยุดไปเลยก็มีแต่ยังมีอีกหลายแท่งที่วิ่งต่อและเพราะการขยายตัวที่ทำให้ยืดยาวขึ้นทำให้ระยะทางที่น้ำแข็งจะจู่โจมมายิ่งหดสั้นลงไปอีก
ขนาดของเสาน้ำแข็งตอนนี้สามารถบดขยี้พวกเขาให้แบนติดผนังอาคารหรือไม่ก็อาจจะทะลุไปถึงอีกฝั่ง
ต้องหนี...อิงศรคิด
แต่ถึงอยากจะหนีก็หนีไม่พ้นแล้ว
แถมไม่แน่ว่าถึงจะยิงตอบโต้ก็คงทำลายเฉพาะแท่งที่เข้ามาชนได้ไม่หมดอยู่ดี ถ้าโดนชนคงไม่จบแค่มึนแน่ๆ
ทว่า
ในตอนนั้นเองเสาน้ำแข็งที่กระชั้นเข้ามาเรื่อยๆ นั้นก็ถูกยิงด้วยลำแสงสีแดง
เสาน้ำแข็งทั้งต้นหลอมละลายเป็นน้ำในพริบตาที่สัมผัสแสง
มันร้อนแรงถึงขนาดนั้นและเจ้าของมันก็คือ...
อิงศรหันไปยังทิศต้นทางที่ลำแสงยิงมา
...ซีลอร์ดนั่นเอง
ซึ่งก็ควรจะเป็นแบบนั้นเพราะอลิสที่ผละมารุมเขาทำให้ซีลอร์ดน่าจะมือว่างอยู่บางทีช่วงที่สาละวนอยู่
หมอนั่นคงสังเกตเห็นว่าโลกิเตรียมการโจมตีนี้เอาไว้
ซีลอร์ดโรยตัวลงมายืนเคียงข้างสายตาจับจ้องไปที่อิซานามิจนนึกขึ้นมาได้ว่าทั้งสองคนยังไม่เคยเจอกันมาก่อนบางทีซีลอร์ดอาจจะคิดว่าเธอเป็นศัตรู
ดังนั้นอิงศรจึงรีบอธิบาย
“คือว่ายัยนี่น่ะ..."
แต่ซีลอร์ดพูดแทรก
"อิซานามิจากเดธอาคานาร์เหรอ"
"..."
ดูเหมือนว่าซีลอร์ดจะรู้จักอยู่แล้วก็คงเป็นแบบนั้น
ความเคลื่อนไหวของเขาถูกจับตาดูอยู่ตลอด
ทว่าอิซานามิก็พูดแย้งมาว่า
"ตอนนี้ไม่ใช่อิซานามิเฉยๆ
แล้วแต่เป็นมหาเทพมารดรอิซานามิโนะโอคามิต่างหากล่ะ"
พอได้ยินแบบนั้นอิงศรก็หันกลับไป
แว่นตาปีศาจแสดงข้อมูลชื่อลอยอยู่บนหน้าของหล่อนเป็น
‘Izanami no
Ookami’ ตามที่ว่า
อิซานามิไม่ได้เป็นผีโครงกระดูกอีกต่อไปแล้ว
ตอนนี้หล่อนกลายเป็นสาวงามประหนึ่งภาพวาด
สีผมเหมือนจะดำเข้มขึ้นไม่ซีดเท่าเมื่อก่อนและเหมือนจะยาวขึ้นเล็กน้อย
อากัปกิริยาก็ดูทรงภูมิอย่างไม่น่าเชื่อราวกับเป็นคนละคน
ชุดจีนโบราณที่เคยใส่ก็เปลี่ยนเป็นชุดกิโมโน
ที่จริงมันค่อนข้างคล้ายชุดเดิมแต่มีเครื่องประกอบเพิ่มขึ้นมาเช่นสายคาดเอวที่น่าจะเรียกว่าโอบิแล้วก็อื่นๆ
ที่ไม่รู้จักเขาไม่ค่อยสันทัดเรื่องเครื่องแต่งกายมากนักยิ่งไม่ใช่ของในประเทศด้วยแล้วอีกแต่ก็พอจะแยกได้ว่าชุดที่อิซานามิใส่ตอนนี้เป็นชุดแบบญี่ปุ่นตามต้นตำรับที่มาของหล่อนจริงๆ
"เพราะรวมร่างกับอลิสไปสินะ"
ซีลอร์ดพูดแต่อิซานามิไม่ตอบเธอไม่ได้มองเขาด้วยซ้ำแต่กลับจ้องมองไปข้างหน้า
มองไปที่โลกิด้วยสายตาเย็นชา
"..."
หล่อนเอื้อมมือไปที่เอวถึงตรงนี้อิงศรเพิ่งจะสังเกตว่าหล่อนมีดาบญี่ปุ่นเหน็บกับสายคาดเอวติดมาด้วย
ดาบถูกชักออกมา
ใบดาบสีเงินขัดอย่างดีจนสะท้อนเงาได้เหมือนกระจก อิซานามิยื่นดาบแล้วเดินอ้อมเขากับซีลอร์ดออกไปข้างหน้า
ท้าทายและเผชิญหน้ากับโลกิตรงๆ
อีกฝ่ายตอบรับคำท้าแล้วทะยานขึ้นไปข้างบนด้วยปีก
ตั้งท่าเหมือนกับจะร่ายเสาน้ำแข็ง
การโจมตีคราวก่อนยิงมาจากพื้นในระนาบเดียวกันความเร็วก็ยังถือว่ามากในระดับที่ถ้ารู้ตัวก่อนก็พอจะหลบได้แต่หากยิงมาจากด้านบนแรงโน้มถ่วงก็ช่วยเพิ่มความเร็วขึ้นไปอีก
ทีนี้ถึงอยากจะหลบก็คงทำได้ยากหรือไม่ก็เป็นไปไม่ได้เลยที่จะหลบ
อิซานามิหมุนดาบในมือให้ใบดาบตั้งตรง
"ร่ายรำสังหาร..."
หล่อนกล่าวเช่นนั้นด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งแล้วบานประตูเลื่อนซึ่งหุ้มด้วยกระดาษแบบญี่ปุ่นก็ปรากฏขึ้นขนาบตัวโลกิ
เมื่อหมุนดาบอีกครั้งประตูกระดาษก็ขยับตัวปิดจนมองเห็นได้แต่เงาของโลกิที่สะท้อนอยู่บนบานประตูกระดาษ
“นิฟล์เฮม!”
ได้ยินเสียงร่ายอาคมของโลกิดังลอดประตูมาอีกฝ่ายคงเตรียมพร้อมจะยิงแล้วขณะที่มือของอิซานามินิ่งมากเหมือนหล่อนมั่นใจว่าประตูกระดาษบางๆ
นั่นจะช่วยป้องกันเสาน้ำแข็งได้
แต่เขาก็เดาผิด
อิซานามิไม่ได้ใช้ประตูนั่นเพื่อป้องกันแต่เพื่อสังหารต่างหากอิงศรรับรู้มันได้ผ่านทางดวงตาของเทพมารดร
แววตานั้นแผ่จิตสังหารออกมา
หล่อนหมุนดาบให้ใบดาบเปลี่ยนไปตั้งเฉียงจากนั้นจับดาบสองมือแล้วตวัดฟันลงมาพร้อมกับคำราม
"...ประตูสู่โยมิ!"
ทันใดนั้นเงาของโลกิที่อยู่เบื้องหลังบานประตูกระดาษก็บิดเบี้ยวตัวคู้งอและส่งเสียงกรีดร้อง
“อ๊ากกก!!!”
นอกจากเงาร่างที่บิดเบี้ยวแล้วยังมองเห็นเหมือนมีแสงสะท้อนตวัดไปมาคล้ายกับมีดาบกำลังสับเฉือนร่างของปีศาจ
ไม่นานนักเงาหลังบานประตูก็แยกขาดจากกันเป็นชิ้นๆ และแตกสลายไปราวกับควัน
จากนั้นบานประตูก็ขยับตัวเปิดออก
สิ่งที่หลงเหลือนั้นมีเพียงไพ่อาคานาร์ใบเดียว
อาคานาร์ร่วงโรย
ลอยตรงมาหาอิงศร เด็กหนุ่มรับมันไว้
***เดือนนี้เป็นช่วงวุ่นของไรท์จริงๆ
เลยทำให้ลงได้ไม่ตรงเวลาอาทิตย์นี้ก็เลื่อนมาวันหนึ่งเป็นโรคเลื่อนต่อเนื่องเบยทีเดียวต้องขออภัยผู้อ่านทุกท่านด้วยเน่อ
เดือนนี้อาจจะยาวนานไปบ้างแถมท้ายเดือนไรท์จะขอหยุดซักอาทิตย์ด้วยเพราะช่วงนั้นต้องไปทำงานต่างประเทศสามวันถึงได้กลับTwT ก็แจ้งกันไว้ก่อนนะฮะ***
ความคิดเห็น