ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [EXO] ฟิคเหนียวไก่ [Chan x Kai]

    ลำดับตอนที่ #9 : เหนียวไก่น่องที่ 8

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 190
      7
      27 ก.พ. 58

    CR.SHL





    เหนียวไก่น่องที่ 8

     







     

    พออาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็เปิดดูอะไรเรื่อยเปื่อยในมือถือจนไปเห็นแอพ kakao เข้า ไม่รู้ว่าอะไรดลใจให้ผมกดเข้าไปดูในนั้น

     

    !!!!

     

    อยู่ๆผมก็รู้สึกอยากทึ้งหัวตัวเองขึ้นมาเมื่อเห็นว่าใครบางคนเปลี่ยนรูปดิสคู่กับผู้หญิงคนนึง แน่นอนว่าร่างกายมักไปเร็วกว่าความคิด รู้ตัวอีกทีผมก็กดส่งข้อความไปหาเขาแล้ว

     








     
















     

     








     

    หลังจากนั้นมันก็หายไปประมาณสามนาทีได้หลังจากอ่านข้อความ..คงไม่ตอบแล้วมั้ง....ผมโยนมือถือทิ้งไปกับเตียงด้วยอารมณ์บูดเเปลกๆ นี่ผมเป็นบ้าอะไร อยู่ๆก็ไปบอกให้เค้าเปลี่ยนรูปซะงั้น บ้าไปแล้วจงอินแกบ้าไปแล้ว...

    ไม่กี่วิต่อมาก็ต้องเด้งตัวไปหยิบมือถือขึ้นมาใหม่เพราะเสียงแจ้งเตือนอีกครั้ง




    คาทก!!!!



































    ผมรีบกดออกจากแอพพลิเคชั่นบ้านี่แล้วปิดเครื่องหนีทันที ไหนตอนแรกมันเอาแต่บอกว่ามีสาวอยู่บ้านอย่างนั้นอย่างนี้ ทำไมหลังๆมามันเริ่มไม่ใช่แล้วอ่ะ

     

    เดินไปเร่งแอร์ด้วยความรู้สึกสับสนเต็มที่ ทำไมอยู่ๆก็ร้อนขึ้นมาก็ไม่รู้ คุยกับไอ้กางไม่ว่าจะผ่านโซเชียลหรือไม่มันก็ทำให้ผมร้อนได้ทุกทีสิน่า!!












    ====================

     

     


     

     

    “เห้ยเจ๊ จะพาผมไปไหนแต่เช้าอ่ะ...ง่วงจะตายแล้วเนี่ย”

     

    “แล้วเมื่อคืนทำอะไรไม่นอนหรือไง?”

     

    “เอ่อ...” ไม่อยากจะบอกเลยครับว่าตั้งแต่วันที่ไอ้กางมาบ้านผมแล้วกลับไปก็ผ่านไปอาทิตย์กว่าๆแล้วครับที่ไม่ได้เจอหน้ามัน ทำได้แค่คุยคาเคาทอล์กกันนิดหน่อย แต่ไอ้นิดหน่อยที่ว่าก็เกือบโต้รุ่งทุกคืนอ่ะครับ ไม่ใช่ว่าผมจะไม่นอนนะแต่พอผมจะนอนมันก็รัวสตก.มาทุกที ไอ้เราก็โง่โซเชียลมันปิดเสียงตรงไหนก็ไม่รู้!

     

    “นี่แกไม่อาบน้ำมาเหรอวะ?”

     

    “เอ้า ก็เจ๊ไปลากมาจากห้องนอนคิดว่าจะอาบตอนไหน?”

     

    “อี๋ โคตรเน่าเลยว่ะ”

     

    “แล้วเจ๊จะพาไปไหนของเจ๊วะ ถ้าไปเที่ยวนี่ก็กล้าลงไปเดินนะจะบอกเน่าๆแบบนี้แหละเป็นสไตล์”

     

    “ทุเรศ”

     

    “ทุเรศยังไงก็ยังหล่ออ่ะบอกเลย”

     

    lala lalala lalala lala happiness!

     

    “เจ๊ไม่น่ามาฟังเพลงสายแบ๊วได้เลย สงสารไอรีนนูน่าจริงๆที่มีคนแบบเจ้มาโคฝ” มาส่ายหัวให้อาเจ๊ที่ขับรถไปเต้นไป เห็นแล้วอยากเอานิ้วโป้งเท้าขึ้นมาทิ่มตาตัวเองตาย ถ้าไม่ติดว่ายังไม่อาบน้ำล้างเท้าอ่ะนะ..

     

    เออ ผมนี่โคตรเน่าเลย 55555555555555

     

    แล้วเจ๊ก็ตั้งใจขับกล่อมบทเพลงที่ทำให้ผมไม่สามารถข่มตาหลับลงได้อีก สรุปนี่เจ๊จะพาผมไปที่ไหน ไปขายขัดดอกกระเป๋าแบรนด์เนมที่เพิ่งถอยมาเหรอ? หรือว่าเอาไปจำนำเพื่อซื้อใบใหม่?

     

    โทรบอกป๊าม๊าให้มาช่วยได้ป้ะ

     

    เอ๊ะ!?

     

    พอจับๆไปที่กางเกงก็ระลึกได้ว่าใส่ชุดนอนมานี่หว่า มือถือก็ไม่ได้หยิบ เงินก็ไม่มีติดตัว ซวยแล้วไง

     

    Shine on me let it shine on me!

     

    “โอ่ยยยย” ผมค่อยๆไหลตัวลงไปกับเบาะรถ ฟังเสียงเจ๊ยามเช้านี่มันเป็นพิษต่อหูผมจริงๆนั่นแหละ

     

    ไม่รู้ว่าใช้เวลาเดินทางเท่าไหร่ รู้แค่ว่าการที่ต้องทนฟังเจ๊แหกปากบ่นเพลงเพี้ยนๆออกมาตลอดทางนั้นช่างทรมานเหลือเกิน ทรมานจนต้องร้องขอชีวิต

     

    “ลงไป”

     

    “ห๊ะ??” เห้ย เจ้ไล่ลงจากรถทำไมอ่ะ?

     

    “เอ้าๆ แค่พาเข้าหลังบ้านแค่นี้ทำเป็นลืมหรือไง” ไม่พูดปล่าว เจ๊เดินลงจากรถมาลากแขนผมออกจากรถแล้วเดินอ้อมไปทางหน้าบ้านหลังนึงที่คุ้นตา”

     

    “...เจ๊”

     

    “เดี๋ยวตอนเย็นจะมารับนะ” พูดทิ้งไว้แค่นั้นก่อนจะตบบ่าผมเบาๆแล้วเดินจากไป

     

    “วันนี้เจ๊โคตรสวยเลยว่ะ รักนะ”

     

    “อี๋ พูดบ้าอะไรของแก ฉันแค่สงสารหรอกเว้ย!

     

    “เออนั่นแหละ ขอบคุณนะ” ผมรีบวิ่งไปเข้าไปในบ้านหลังที่อยู่ตรงหน้าแบบไม่ลังเล ไม่ได้มาตั้งอาทิตย์กว่าแล้วนะเนี่ย

     

    “ชานยอล!! อ่าว..”

     

    “สวัสดีค่ะ...”

     

    “เธอ??” ผมมองผู้หญิงหน้าตาคุ้นๆที่ยืนอยู่หลังเค้าท์เตอร์ในร้านของไอ้กาง..เอ่อ..ผู้หญิงในดิสมันนี่หว่า

     

    “โซราค่ะ”

     

    “อ๋อ แล้วชานยอลมันอยู่ไหนล่ะ?”

     

    “อ๋อ อยู่ที่ห้องนอนน่ะค่ะ^^” ห..ห้องนอน?

     

    “....”

     

    “จะรับอะไรหรือเปล่าค่ะ??”

     

    “ไม่อ่ะ...ฉันไปละ”

     

    “ค่ะ^^” จะบอกว่าเป็นครั้งแรกในชีวิตเลยครับที่อยู่ๆผมก็เกิดตะงิดกับรอยยิ้มของผู้หญิงขึ้นมา แถมไอ้คำตอบที่บอกว่าไอ้กางอยู่ที่ห้องนอนนั่นอีก นอนด้วยกันเหรอวะ!!!!

     

    เดินเตร็ดเตร่มาจนถึงหน้าบ้านเพิงหมาแหงนของตัวเอง...ทำไมผมถึงไม่มาที่บ้านตัวเองตอนที่เจ้มาส่งแทนที่จะไปบ้านไอ้กางนั่นนะ...

     

    “เอ้าทำไมล็อควะ!?” ผมเขย่าประตูบ้านตัวเองที่อยู่ๆมันก็ถูกล็อค ใครล็อคอ่ะ? ไอ้กางมาล็อคให้เหรอ?

     

    “ไง”

     

    “ม...มาอยู่บ้านฉันทำไม” พอเห็นว่ามีใครสักคนมาเปิดประตูที่กำลังถูกผมเขย่าอย่าแรงก็ต้องตกใจนิดหน่อย

     

    “เฝ้าบ้านให้”

     

    “ไม่ได้อยู่กับคนนั้นเหรอ...ชื่อบ้าอะไรวะ?”

     

    “โซรา?”

     

    “เออ”

     

    “อยากให้ไปอยู่เหรอ?”

     

    “ก็เห็นเธอบอกว่านายนอนอยู่บนห้อง”

     

    “ก็ห้องนอนคุณไง”

     

    “เออ แล้วนี่นายรู้ได้ไงว่ากุญแจบ้านฉันอยู่ไหน วันนั้นฉันไม่ได้ฝากนายไว้นี่” ปกติเวลาผมจะปิดบ้านถ้าผมไม่มาล็อคด้วยตัวเองผมก็จะเอากุญแจให้มันมาเปิดนี่แหละครับ แต่ว่าไม่เคยให้มันรู้ที่ซ่อนกุญแจผมเลยนะ

     

    “ค้นเอา”

     

    “เฮ้ย” ไอ้บ้านี่! มันค้นบ้านผมเหรอ? ป่านนี้บ้านผมพังไปถึงไหนแล้วเนี่ย!!

     

    “...”

     

    “อุ๊ย”

     

    “???”

     

    “นายทำเหรอ??” ผมมองสภาพบ้านที่เหมือนใหม่(ยกเว้นภายนอก) มันดูสะอาดกว่าตอนผมอยู่ตั้งเยอะ

     

    “อือ”

     

    “แล้วแบบนี้ฉันจะหาของที่ฉันโยนๆไว้เป็นที่เจอไหมเนี่ย”

     

    “ผมจัดให้แล้ว อ้อใช่ๆ ผมไปดูเครื่องซักผ้าก่อนนะ เสื้อผ้าคุณเยอะมากถึงแม้ว่ามันจะเหมือนกันไปหมดก็เหอะ”

     

    “เห้ย นี่นายก็สักผ้าให้ฉันด้วยเหรอ?”

     

    “อื้อ ก็เห็นว่าเต็มตะกร้าเลยซักให้”

     

    “จะบ้าเหรอ!” โอ๊ย นี่มันชีวิตคู่สามีภรรยามาก อารมณ์เมหือนผมไปทำงานที่ต่างจังหวัดแล้วกลับมาพบว่าภรรยาทำความสะอาดบ้านจนเงาวิ้งค์แถมยังซักผ้าและให้เรียบร้อย

     

    “เอ้า”

     

    “ไม่ต้องไปตากผ้าแล้วนะเดี๋ยวฉันตากให้”

     

    “งั้นคุณกินข้าวมายัง?”

     

    “เอ่อ ก็ยัง”

     

    “เดี๋ยวนะ...นี่ชุดนอน?”โอ่ย แล้วผมก็ลืมตัวมายืนเถียงกับมันตั้งนาน ดูสายตาของมันที่มองชุดนอนเหี่ยวๆบอกเซอร์เน่าๆของผมสิ สภาพผมคงทุเรศมากใช่ไหม ถ้าเจ๊พาไปห้าวหรือที่อื่นผมคงไม่แคร์สายตาใครหรอกแต่ดันเป็นหมอนี่น่ะสิ

     

    ไม่ได้แคร์สายตานะแค่กลัวโดนแซวเฉยๆเอง....

     

    “น่ารักดีนะ”

     

    “ห๊ะ?”

     

    “ก็น่ารักดีไง”

     

    “หมายถึง??”

     

    “คุณไง”

     

    “....” ตู้มมมมม จงอินระเบิดไปแล้ว

     

    “....”

     

    “ไปอาบน้ำก่อนนะ”

     

    “เดี๋ยวทำข้าวให้ทาน”

     

    “อือๆ” ผมรีบเดินเขาไปในห้องน้ำก่อนที่ไอ้บ้านั่นจะหลุดพูดอะไรแปลกๆออกมาอีก อากาศก็ไม่ได้ร้อนนะทำไมรู้สึกร้อนจัง

     

     

     




     

    FIFTY SHADES OF เหนียวไก่ 












     

    “ไม่ไปดูร้านหน่อยเหรอ?”

     

    “????”

     

    “ร้านยานายอ่ะ”

     

    “อ๋อ..ก็มีคนดูแลให้แล้วไง”

     

    “นี่แกกะจะไม่ให้เค้ากลับไปใช้ชีวิตเค้าเองไง๊?”

     

    “จ้างสิ”

     

    “เปลืองเงินมั้ย?”

     

    “ไม่ได้จ้างด้วยเงินน่ะ”

     

    “ห้ะ?” จ้างด้วยอะไรวะ

     

    “พอดีผมเคยช่วยยัยนั่นทำโปรเจคจบทั้งหมดเลยขอให้ช่วยบ้างน่ะ”

     

    “แล้วจะให้เค้าเฝ้ากี่วัน?”

     

    “เรื่อยๆ”

     

    “นี่! ไม่ทำการทำงานรึไง?”

     

    “ทำไง ทำให้คุณเนี่ย”

     

    “ทำงานของตัวเองสิ มาทำให้ฉันทำไม”

     

    “ผมอยาก”

     

    “คำนี้ตลอด”

     

    “ก็รู้สึกแบบนี้ตลอด”

     

    “...”

     

    “...” ยักคิ้วทำไม..

     

    “คิดว่าหล่อนักหรือไง?”

     

    “ชอบป้ะล่ะ?”

     

    “คิดว่าไง?”

     

    “ชอบ”

     

    “...หื้ม” หลงตัวเองว่ะ

     

    “ไม่งั้นคุณไม่มาหาผมหรอก”

     

    “บางทีฉันก็แค่คิดถึงบ้านป้ะ...เจ้มันมาส่งด้วยอยู่ๆก็ลากมาหรอก....”

     

    “เอาให้จริง?”

     

    “จริง”

     

    “ก็แล้วแต่...” ไอ้นี่...เคยมีคนบอกมันไหมว่าเวลามันยักไหล่กับทำปากเบะแบบนั้นมันน่าตบขนาดไหน แล้วดูทำ..นั่งโว้ยข้าวคนเดียวเลย ปกติต้องชวนสิ

     

    เอ้ะ นี่ผมหวังอะไรอยู่ -_-

     

    “นี่ชานยอล”

     

    “หื้อ?”

     

    “เคี้ยวข้าวก่อนก็ได้นะ ไม่ว่า”

     

    “มีไร?”

     

    “นาย..เอ่อ...มาอยู่บ้านฉันทุกวันเลยเหรอหลังจากที่กลับมาอ่ะ”

     

    “อื้อ กลัวคุณกลับมาแล้วไม่เจอผมเพราะคุณคงไม่ไปหาผมที่บ้านหรอก ฮ่าๆๆๆ”

     

    “เหรอ...” ใครบอกว่าจะไม่ไปหาที่บ้านไม่ทราบ...

     

    “อยากให้คุณกลับมาเห็นหน้าผมคนแรกอ่ะ”

     

    “....” โอ๊ย ทำไมวันนี้มันถึงได้ร้อนแบบนี้เนี่ย ผมว่าผมก็อาบน้ำแล้วนะทำไมมันร้อนๆรุ่มๆแบบนี้ ไอ้กางนี่ก็ขยันพูดอะไรแบบนี้จริงเว้ย

     

    “เป็นอะไร?”

     

    “หะ...ห้ะ?? อ๋อเปล่าๆ ไม่คุยกับนายละ เอ่อ..ฉันไปตากผ้าก่อนนะ” รีบบอกปัดก่อนจะเดินตรงไปที่หลังบ้านแล้วหอบตระกร้าผ้ามาวางอย่างแรง

     

    โอ๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

     

    นี่ผมเป็นอะไรเนี่ย พอยกมือมากุมหน้าอกตัวเองแล้วรู้สึกว่าใจเต้นแรงมากๆ อีกนิดมันคงกระเด็นออกมาข้างนอกแล้วอ่ะ เท่านั้นยังไม่พอ หน้าผมยังร้อนเหมือนคนเป็นไข้อีก ฮืออออ อยากร้องไห้ ไอ้เราก็ไม่ได้ใสซื่อจนไม่รู้ว่าความรู้สึกนี้มันคืออะไรหรอก แต่เพราะว่ารู้ว่ามันคือความรู้สึกแบบไหนถึงต้องเดินหนีออกมาข้างนอกนี่ไง

     

    ผมเขินไอ้บ้านั่น...

     

    !!!!

     

    “สะดุ้งแรงเชียว” มือยาวๆเอื้อมมาหยิบผ้าจากตะกร้าข้างตัวผมไปช่วยตาก ทำไมชอบมาแบบเงียบๆนะ ตกใจหมดแล้วเนี่ย

     

    “หัวใจจะวาย อย่ามาเงียบๆสิ!

     

    “ปกติไม่เห็นตกใจ”

     

    “ก็วันนี้ฉันตกใจอ่ะ”

     

    “เอ้า เป็นอะไร? ป่วยเหรอ?”

     

    “เปล่าเว้ย” ผมตอบไปปัดๆ เลิกถามสักทีเถอะ ขอร้อง

     

    “นี่..”



    “ก็บอกว่าเปล่าไง” โอ๊ย นี่ยังไม่เลิกถามผมจะเอาตะกร้าครอบหัวมันเหมือนตอนเอาหม้อบ้าครอบหัวมันนะ

     

    “อยู่ๆเป็นอะไรเนี่ย” พอตากผ้าเสร็จก็เอาตะกร้าผ้าไปเก็บแล้วก็เปลี่ยนมาจับแขนผมแทน

     

    “ช่างฉันเหอะน่า”

     

    “เป็นห่วง”

     

    “...” ทำไมต้องมาพูดอะไรตอนนี้ ร้อนอีกแล้วโว้ยยยย

     

    “จริงๆ”

     

    “รู้แล้วน่า..”

     

    “ว่า?”

     

    “ว่าเป็นห่วงไง!!” ไอ้กางนี่มันเป็นโรคย้ำคิดย้ำทำหรือเปล่า ถามจังเลย

     

    “เป็นอะไรบอกผมได้นะ เผื่อจะช่วยได้”

     

    “”...” ไม่ต้องมาช่วยเลย ที่ฉันเป็นแบบนี้ก็เพราะแกนั่นแหละ!

     

    “...” พอมันเอาแต่ยืนมองตาปริบๆ ผมก็ต้องเป็นฝ่ายลากมันเข้ามานั่งในบ้านแทน

     

    “ฉันไม่ได้โกรธอะไรนายหรอกสบายใจได้”

     

    “...”

     

    “ไม่ได้รำคาญด้วย ไม่ต้องคิดมาก เออ..นั่นแหละๆ เข้าใจยัง?”

     

    “ไม่อ่ะ”

     

    “เอ้า!!!

     

    “งั้นทำไมคุณถึงไม่กล้าตอบตั้งแต่แรก?”

     

    “จะรู้ไปทำไมล่ะห้ะ?”

     

    “....”

     

    “....”

     

    “หลบตาทำไมล่ะคุณ?”

     

    “แล้วแกจะมองฉันทำไมเยอะแยะเนี่ย”

     

    “ก็อยาก”

     

    “คิดค่ามองดีไหม?”

     

    “ยอม”

     

    “...” บ้าเอ๊ย ดูมันพูดสิ!!

     

    “...”

     

    “ไม่ให้มองแล้ว! ไปทำอย่างอื่นไป ฉันง่วงอีกแล้วฉันไปนอนก่อนนะ!

     

    “คุณยังไม่ตอบคำถามผมเลยนะ”

     

    “ก็ไม่อยากตอบอ่ะ!

     

    “ไม่ตอบผมตามเข้าห้องคุณจริงนะ”

     

    “จะล็อคโว้ย”

     

    “มีกุญแจ...”

     

    “ไอ่...”

     

    “...”

     

    “เออๆ พูดก็ได้วะ!

     

    “...”

     

    “ฉันก็แค่อยู่ใกล้ๆนายแล้วมันแปลกๆ”

     

    “???”

     

    “มัน..ร้อนๆ ร้อน เออ นายคงเป็นหวัดแล้วฉันก็คงติดหวัดนาย แค่นั้นแหละ”

     

    “เขินผมเหรอ?”

     

    “ไม่ใช่เว้ย!!

     

    “แต่ผมก็เป็นเหมือนคุณนะ”

     

    “??”

     

    “อยู่ใกล้ด้วยแล้วก็แปลกดี ไม่อยากห่าง”

     

    “อือ....” นี่มันยิ่งกว่าอากาศในประเทศไทยตอนเที่ยงอีกนะ ผมว่าร้อนจน... เออๆ ช่างเหอะ

     

    “พอห่างแบบนี้ก็คิดถึง”

     

    “...” มันไม่ใช่สถานการณ์ที่ดีต่อร่างกายและจิตใจเลยสักนิด ผมต้องไปห่างๆจากมันเดี๋ยวนี้ ก่อนที่มันจะแพล่มอะไรเสี่ยวๆออกมาอีก ตั้งแต่กลับมาที่บ้านนี่ผมก็ร้อนตลอดเลย ใกล้จะบ้าแล้วล่ะ

     

    “นี่คิดถึงกันบ้างไหม?”

     

    “ไม่บอกเว้ย”

     

    “...”

     

    “ไม่ต้องมามองหน้าฉันแบบนี้นะ”

     

    “...” ยัง...มันกะจะมองผมให้ทะลุไปถึงชั้นหินหนืดเลยไหม?

     

    “ไม่ตอบถือว่าคิดถึงนะ”

     

    “....” ผมรีบแกะมือปลาหมึกมันออกก่อนจะสาวเท้าวิ่งเข้าห้องนอนตัวเองไป

     

    “เดี๋ยวตอนเย็นพี่สาวคุณจะมารับนี่ ไม่อยู่ด้วยกันหน่อยเหรอ?”

     

    “...”

     

    “อยู่ด้วยกันนะ”

     

    “....”

     

    “น่ารักจัง” มือใหญ่ๆของมันกำลังเล่นหัวผมอย่างเมามันส์ รู้ตัวอีกทีผมก็เดินกลับมายืนอยู่ตรงหน้ามันแล้วเนี่ย

     

    “ทำไมฉันต้องทำตามนายด้วยวะ!

     

    “นั่นสินะ....”

     

    “ไอ่...มากอดทำไม ปล่อยสิ”

     

    “ไม่ต้องบอกให้ผมปล่อยเลย จริงๆคุณก็อยากให้ผมกอดนั่นแหละ”

     

    “อย่าทำเป็นรู้ดีน่า”

     

    “ก็ถ้าไม่อยากคุณคงไม่กอดตอบผมแบบนี้หรอก”

     

    !!” อ่าว เห้ย! นี่มือผมไปแปะอยู่บนหลังมันตั้งแต่เมื่อไหร่วะ!

     

    “ชอบจังเลยยยย” ร่าเริงมากไหม?

     

    “ปล่อยดิ ร้อน”

     

    “ร้อนก็ถอดเสื้อ”

     

    ผั๊วะ!!

     

    ฟาดหลังไปหนึ่งที

     

    “เล่นจริง เจ็บจริง อูยย ไม่น่ารักเลย”

     

    “นี่ถามจริงฉันน่ารักตรงไหนวะ จริงๆนายควรบอกว่าฉันหล่อสิ”

     

    “ก็น่ารักทุกตรงอ่ะ”

     

    “...”

     

    “นี่พูดจริงนะ”

     

    “เรื่อง?”

     

    “ทุกเรื่อง”

     

    “...” คิดว่าจะจำได้ไหม หลายเรื่องเหลือเกินที่แกพ่นออกมาน่ะ

     

    “...”

     

    “นายมันขี้เต๊าะ”

     

    “ก็เต๊าะคุณคนเดียว”

     

    “ดู...ทีวีป้ะ ดูกันเหอะ”

     

    “ไม่อยากดูอ่ะ”

     

    “นายไม่ดูแต่ฉันจะดู”

     

    “แล้วถามทำไมเนี่ย”

     

    “มารยาทดีที่”

     

    “มีด้วย??”

     

    “ต่อยกันไหมชานยอล?”

     

    “รุนแรง” ไหงบอกว่าไม่ดูทีวีแล้วตามมานั่งข้างๆทำไม

     

    “ฉันก็เป็นงี้อ่ะแหละ รับไม่ได้อ่ะดิ”

     

    “ไม่นะ...” ตามสเต็ป ตอนนี้หัวทุยๆของมันก็อาศัยไหล่ผมเป็นที่พิงเรียบร้อย นี่มันอายุเท่าไหร่เนี่ย ทำเป็นเด็กติดแม่ไปได้

     

    “มาพิงทำไม” ผมพยายามจะดันหัวของมันออกไป แต่ถามว่าได้ผลไหม...

     

    “ไม่เอาจะอยู่แบบนี้”

     

    “จะนั่งดีๆหรือนั่งด้วยน้ำตา?”

     

    “...ฮี่ๆ”

     

    “ยิ้มมากไหม? มีความสุขมากไหม?”

     

    “มากกกก”

     

    “อืมๆๆๆ”

     

    “....”

     

    “นี่! มองฉันจนทะลุแล้วมั้งไอ้กาง!

     

    “ทำไมอ่ะ?”

     

    “อยากเห็นตัวเองตอนมองฉันไหม? เดี๋ยวจะทำให้ดู”

     

    “เอาดิ” คราวนี้เป็นไอ้กางที่เป็นฝ่ายลุกขึ้นมานั่งตามปกติแล้วมองหน้าผมอย่างตั้งใจ ผมค่อยๆใช้สายตาไล่มองใบหน้าทีละส่วน ตั้งแต่ทรงผมเลื่อนลงมาจนถึงริมฝีปากที่กระตุกยิ้มออกมาเหมือนกับผู้ชนะ

     

    “เออๆ เนี่ย นายมองฉันแบบเนี๊ยะ!

     

    “อ๋อ ฮะๆๆ”

     

    “มันทำให้ฉันรู้สึกเหมือนโดนลวนลามนะรู้ไหม?”

     

    “ก็ผมทำอย่างอื่นไม่ได้นี่”

     

    “ไอ้กาง!!

     

    “หื้ม??”

     

    “แกมันคนใจง่ายชานยอล”

     

    “ง่ายดิ ให้คุณง๊ายง่าย”

     

    “ไม่เสี่ยวสักนาทีได้ป้ะ?”

     

    “ไม่”

     

    =________=!” ไม่คุยกับมันแล้ว! ปวดหัว!

     

    “...”

     

    “...”

     

    “จะเบียดมาทำไมล่ะเนี่ย..”

     

    “อยากนอนตักคุณอ่ะ..”

     

    “...”

     

    “นะ”

     

    “...”

     

    “นะครับ จงอินนะๆ”

     

    “อยากนอนก็นอนสิ ใครห้าม” ให้ตายเหอะ พอมองหน้ามันแบบนี้แล้วปฏิเสธไม่ได้ทุกทีสิ

     

    หรือได้แต่ผมไม่ยอมทำเองก็ไม่รู้...

     

    “ตักฉันมันไม่นุ่มหรอกนะ นอนไปก็เจ็บหัวเปล่าๆ”

     

    “ไม่นะ ผมชอบ”

     

    “แปลกคนจริง”

     

    “ผมก็ว่างั้นอ่ะ ฮะๆๆ”

     

    “ไม่ให้มองแล้ว” เอื้อมตัวไปวางรีโมทแล้วเอามือมาปิดตาคนที่นอนอยู่บนตักเอาไว้ก่อนที่ไอ้บ้านี่จะใช้สายตาเยิ้มๆนั่นมองมาอีก

     

    “นี่! พอไม่ให้มองก็มาจับมือแทนอ่ะนะ” เขย่ามือตัวเองที่ถูกคนจอมเนียนจับเอาไว้ แต่ไม่กี่วินาทีต่อมาหลังจากที่บ่นมือสองข้างก็ถูกเลื่อนให้มาอยู่ตรงหน้าอกของเขาแทน

     

    “หมั่นไส้จริงๆ” เชื่อเขาเลย...ปาร์คชานยอลนี่มันปาร์คชานยอลจริงๆ ถึงจะห้ามไม่ให้มองก็สามารถทำให้ใจสั่นได้ทุกทีสิ

     

    “.._

     

    “อี๋ คิดว่าทำตาเหลือกแล้วจะน่ารักเหมือนคยองซูหรือไง”

     

    “แล้วน่ารักป้ะ?”

     

    “คยองซูอ่ะนะ?”

     

    “ผมดิ”

     

    “อยากได้เรื่องจริงหรือหลอก?”

     

    “งั้นไม่ต้องตอบก็ได้ ผมขี้เกียจเสียใจ”

     

    “...ไม่ฟังหน่อยเหรอ?”

     

    “...”

     

    “นายอ่ะนะ..ก็แบบ..”

     

    “...?”

     

    “ก็ดีอ่ะ เออนั่นแหละ” แล้วนี่ผมเป็นบ้าอะไรถึงพูดแบบนั้นออกไป ก็ดีอ่ะ นี่ผมหมายถึงอะไรกันแน่?? หมายถึงว่ามันนิสัยก็ดีนะ?? หน้าตาก็ดีนะ?? ก็ดีสำหรับผมนะ.. โอ๊ยยยย ผมสับสนกับตัวเอง อากาศนี่ก็ร้อนจัง!!

     

    “พูดอีกได้ไหม ผมไม่ค่อยได้ยินอ่ะ”

     

    “ไม่อ่ะ”

     

    “ไม่บอกผมลวนลามนะ”

     

    “ทำไมถึงต้องมาหูไม่ดีตอนนี้ด้วย”

     

    “เอ้า ก็คุณพูดเบาซะขนาดนั้นผมคงได้ยินอ่ะแหม”

     

    “ฉันบอกว่า...” ค่อยๆโน้มตัวลงไปใกล้ๆคนที่นอนอยู่บนตัก ถ้าคราวนี้ยังไม่ได้ยินอีกนะ...

     

    “ฉันบอกว่านายก็ดีไง ชัดยัง?”

     

    พรึ่บ!

     

    “เฮ้ยยย อะไรของแกวะเนี่ยยย” ผมดิ้นพล่านๆ เมื่อถูกไอ้กางรวบตัวลงไปนอนบนโซฟาอีกคน โซฟาบ้านผมก็ไม่ได้ใหญ่อะไรเลยยย แค่ตัวมันคนเดียวก็เลยโซฟาแล้วป้ะ นี่มีผมอีก คิดภาพครับ โอ๊ยยย เสียดสีจนไฟจะลุกแล้วววว

     

    “อยู่แบบนี้แหละ”

     

    “ฉันว่าฉันจะดูทีวีนะ แต่นี่ฉันยังไม่ได้ดูอะไรเปนเรื่องเป็นราวเลย”

     

    “ก็ปิดสิ”

     

    “ก็คนจะดูป้ะ?”

     

    “คนจะดูทีวีที่ไหนเอาแต่มองหน้าผมแบบนี้?”

     

    “...ก็”

     

    “...น่ารัก”

     

    “โอ๊ย เลิกมายุกยิกๆกับตัวฉันได้แล้ว จะนอนก็ไปนอนดีๆสิ มาลากฉันลงนอนด้วยทำไมเนี่ย” ผมตีมือที่ยืดแก้มผมออก ทำไมมันรุงรังแบบนี้เนี่ย

     

    “อยากนอนแบบนี้อ่ะ มาหาผมทุกวันได้ไหม?”

     

    “เปลืองน้ำมัน”

     

    “เดี๋ยวไปรับ”

     

    “ทุ่มเทนะนาย”

     

    “ก็อยากเจอ”

     

    “แล้วแต่นายดิ”

     



    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    TBC. เหนียวไก่


    ===============================================================

    ตอนนี้น้องจงินมาบ้านพี่ชาร์ล วันก่อนคนแต่งจงินอยู่ๆก็โผล่มาบ้านคนแต่งพี่ชาร์ล 555555555555555555555555555555555555
    ปล.อาทิตย์หน้าสอบ T w T
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×