ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [EXO] ฟิคเหนียวไก่ [Chan x Kai]

    ลำดับตอนที่ #7 : เหนียวไก่น่องที่ 6

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 142
      5
      8 ก.พ. 58






    เหนียวไก่น่องที่หก

     







     

     

    “ไปอาบน้ำไหม?” อะไร? อะไรของมันเนี่ยอยู่ๆก็มาสะกิด

     

    “นายก็ไปอาบดิ จะดูทีวี”

     

    “เน่าจัง”

     

    “เห้ยไอ้กางนี่!” ผมหันไปตะโกนใส่คนที่เดินขึ้นบ้านไปเมื่อกี้ ไอ้นี่...

     

    ผมกดเลื่อนดูช่องนู้นช่องนี้ไปมาก็รู้สึกอยากล้างหน้าแฮะ มันเหนียวๆหน้าจัง อากาศร้อนนี่น่าเบื่อที่สุดเลย ขึ้นไปอาบน้ำข้างบนดีกว่า

     

    “นี่ชานยอลฉันขอเข้าห้องน้ำก่อนดิ”

     

    “ไม่อ่ะ ผมจะอาบ”

     

    “งั้นฉันขอเอ่อ...แปรงฟันก่อนได้ป้ะ?” นี่ผมพูดอะไร นี่เพิ่งกินข้าวเสร็จแถมยังบ่ายกว่าๆเอง ผมจะแปรงทำไมนี่ผมบ้าไหมเนี่ย?

     

    “งั้นก็เข้ามาดิ”

     

    “เห้ยตกใจหมด!” ทำไมไอ้หมอนี่มันชอบทำอะไรปุบปับอยู่เรื่อยนะ นี่ก็ลากข้อมือเข้าห้องน้ำเฉยเลย

     

    “อ่ะแปรงซะ” มันจัดการบีบยาสีฟันใส่แปรงที่ผมอุตส่าห์ไปเอามาจากที่บ้านมายัดใส่ปากผมแบบไม่ทันได้ตั้งตัว

     

    “เดี๋ยวแปรงให้” พอผมยกมือจะแปรงเองมันก็รีบจับมือผมลงแล้วใช้ข้างที่ว่างค่อยๆแปรงให้ผม นี่มันอะไรเนี่ยพ่อแม่ผมยังไม่เคยทำแบบนี้ให้เลยนะ!!

     

    “อื้อ”ผมจับข้อมืออีกคนไว้เป็นการบอกว่าพอได้แล้วแต่ไอ้นี่ก็มาทำหน้ามึนๆใส่แล้วก็บีบคางผมให้อ้าปากเพื่อจะแปรงให้ต่อ

     

    “คิดอะไรของคุณถึงมาแปรงฟันตอนนี้เนี่ย?”

     

    “...”

     

    “อ้าปากอีกสิ”

     

    “อ้า...”

     

    “น่ารักจัง”

     

    “อย่าทำหน้าเครียดสิเดี๋ยวแก่ไวนะ”

     

    “....” ดูมัน!!

     

    แล้วทำไมมันแปรงฟันนานจังเนี่ย ผมว่านี่มันเกินสองนาทีแล้วนะ

     

    “เพิ่งรู้ว่าคุณแปรงฟันหลังอาหารด้วยนะเนี่ย อนามัยนะเราน่ะ”

     

    !!!” หะ...เห้ย!!! ยื่นหน้ามาจนจะชิดกันแล้วหยิกจมูกกันทำไม

     

    “หน้าแดงเชียว ไปป้วนปากเลยคุณ ฮ่าๆๆๆ”

     

    เพี๊ยะ!!!

     

    “โอ๊ย ตีอีกแล้ว”

     

    “ถุ้ย!!” นี่ป้วนปากครับ เสียงป้วนปาก

     

    “งั้นผมอาบน้ำก่อนนะ เหงื่อออกเหม็นตัวเองมาก” ไอ้กางเดินเอื้อมตัวมาหยิบผ้าขนหนูที่วางอยู่ข้างหลังผมจนผมเองต้องรีบถอยออกมาก่อนที่หน้าจะไปโดนอะไรของมันเข้า

     

    เหม็นตัวเองเหรอ?

     

    ...เมื่อกี้ไม่เห็นจะเหม็นสักหน่อย

     

    เห้ย คิดบ้าอะไรวะเนี่ย!!!!

     

    ผมรีบเดินออกมาจากห้องนอนมันด้วยสภาพช่องปากที่หอมสดชื่น ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่าผมจะแปรงฟันทำไม จริงๆแค่อยากล้างหน้านะ ทำไมเลยเถิดมาแบบนี้กัน

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    “จงอิน” ผมเปิดประตูเข้าไปในห้องนอนของผมเพื่อจะมาง้อคนที่งอนอยู่

     

    ถามว่าทำไมถึงโดนงอนน่ะเหรอครับ

     

    ก็เพราะว่าผมไม่ให้เค้านอนพื้นไง

     

    เขาเอาแต่บอกว่าจะนอนพื้นเอง ให้ผมกับจงแดนอนเตียงไป

     

    สุดท้ายพอผมไม่ยอมก็งอนหนีขึ้นมาเฉยเลยครับ

     

    “งอนหรือไง?”

     

    “เปล่า”

     

    “แต่เขยิบหนีจนจะตกเตียงแล้วน่ะนะ?”

     

    “ก็เปล่าไง”

     

    “ไม่งอนก็หันมาสิคุณ”

     

    “...” ไร้สัญญาณตอบรับ

     

    “เร็วๆ”

     

    “...” สุดท้ายก็ยอมหันมาแต่ว่าทำหน้าแบบนี้ใส่ทำไม

     

    “ขอโทษ”

     

    “ไม่ได้ว่าอะไรนี่”

     

    “แต่ทำหน้าแบบนี้ใส่กันไม่โกรธหรือไง?”

     

    “เออ ไม่โกรธไม่งอน ออกไปได้แล้วจะดูทีวี”

     

    “เดี๋ยว...”

     

    “ออกไป”

     

    “เห้ยคุณฟังกันก่อนดิ ผมมาขอโทษนะ”

     

    “ไม่ได้ขอนี่”

     

    “...โอเค”

     

    “อือๆ”

     

    “....” ผมค่อยๆเดินออกจากห้องมาเงียบๆ แบบนี้ผมก็เฟลเหมือนกันนะ คนอุตส่าห์ห่วงเลยไปขอโทษแต่ว่าทำแบบนี้ด้วยผมก็ไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่เลยแฮะ

     

    “ไงเพื่อนรัก”

     

    “ก็ดี”

     

    “แล้วทำไมทำหน้างั้นวะ?”

     

    “ง่วง” นอนมันที่โซฟานี่แหละ ตอนนี้ผมอยากนอนให้มันหลับๆไปเลย เฟล!!

     

    “เอ้าไหงบอกว่าจะนอนเตียงกันไง”

     

    “ไม่เป็นไรฉันนอนนี่เอง”

     

    “อะไรวะ บอกว่าจะไปง้อจงอินแต่นี่อะไรงอนเองซะงั้น”

     

    “ไม่ได้งอนเว้ย แกขึ้นไปนอนไปจงแด”

     

    “นี่แกให้ฉันนอนกับจงอินสองคนจริงอ่ะ?”

     

    “....”

     

    “...”

     

    “จริงๆก็ไม่ค่อยอ่ะ แต่หมอนั่นคงไม่อยากให้ฉันนอนด้วยสักเท่าไหร่”

     

    “เฮ้อ งอนกันไปงอนกันมาเมื่อไหร่จะดีกันล่ะเนี่ย”

     

    “อือ ฉันนอนละ”

     

    ตึกๆๆ

     

    ผมเหลือบตาไปมองที่มาของเสียงก็เห็นว่าจงอินกำลังเดินลงมาจากบนบ้าน ในมือก็ถือผ้าขนหนูผืนเล็กๆขยี้ผมเบาๆ เพิ่งอาบน้ำเสร็จสินะ

     

    “...”

     

    “ทำอะไรกันอ่ะ?”

     

    “...”

     

    “อ๋อ ไอ้ยอลมันนอนแล้วน่ะ” จงแดช่วยตอบคำถามให้เมื่อเห็นว่าผมแกล้งทำเป็นว่าหลับไปแล้ว

     

    ไม่มีคำพูดอะไรออกมาอีกแต่ผมรู้สึกว่ามีใครบางคนกำลังเดินมาตรงหน้าผม คงไม่ใช่จงอินหรอกนะ เค้าจะเดินมาหาผมทำไม

     

    “ฉันขึ้นไปอาบน้ำก่อนนะจงอิน”

     

    “อือ”

     

    “....”

     

    “ทำไมไม่ไปนอนข้างบนล่ะ?”

     

    “...” เค้าพูดกับใคร? ผมเหรอ?

     

    “ถ้านายไม่ลุกฉันจะอุ้มนะชานยอล”

     

    “...” อะไรของเขา

     

    “เฮ้อ” เขาถอนหายใจออกมานิดหน่อย ผมคิดว่าเขาคงจะเลิกตอแยแล้วเดินกลับขึ้นไปนั่นแหละ แต่ผมก็พบว่าตัวเองคิดผิดเมื่อเขาทำในสิ่งที่เขาพูดไว้ก่อนหน้านี้จริงๆ

     

    “เฮ้ย จะอุ้มทำไม?” ในที่สุดผมก็ต้องลืมตาขึ้นมาพูด ก็เห็นว่าเขากำลังจะพาผมขึ้นไปบนบ้านอยู่แล้ว

     

    “จะพาไปนอนไง”

     

    “ไม่ต้อง ปล่อยเหอะ”

     

    “...”

     

    “...” ถึงจะทำหน้ายุ่งๆนิดหน่อยแต่ก็ยอมปล่อยผมลงมา ยังดีที่ไม่โยนนะ

     

    “ถ้านายไม่ขึ้นไปนอนฉันจะโกรธนายจริงๆแล้วนะ”

     

    “...”

     

    “นี่...จะนอนจริงเหรอ?”

     

    “...”

     

    “ชานยอล”

     

    “....”

     

    “ถ้าเปลี่ยนใจยังไงก็ตามขึ้นมาแล้วกัน”

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ผมเดินขึ้นบ้านมาด้วยอารมณ์แปลกๆนิดหน่อย นี่ไอ้กางมันงอนผมจริงอ่ะ? เป็นบ้าอะไรของมันขี้ใจน้อยชะมัด

     

    “ชานยอลจะขึ้นมานอนป้ะ?” จงแดที่นั่งเช็ดผมอยู่บนเตียงหันมาถามผม

     

    “หึ คงไม่มั้ง”

     

    “เอ้า นายเมินมันใช่ไหมเนี่ย?”

     

    “ห้ะ? ปล่าวนะ ออกจะใส่ใจ”

     

    “ใส่ใจ? บางทีแบบของนายกับของมันอาจจะต่างกันก็ได้”

     

    “แล้วจะให้ทำไงอ่ะ? นายเคยโดนมันงอนป้ะ?”

     

    “เคยดิ เมื่อก่อนก็ทำตัวไม่ถูกอ่ะแต่ตอนนี้เข้าใจมันแล้ว คนแบบนั้นเห็นร่าเริงตลอดแบบนั้นเซนสิทีฝจะตาย”

     

    “นายไปง้อให้หน่อยดิ”

     

    “เอ้า ฉันไม่รู้ว่ามันงอนนายเรื่องอะไรนะ”

     

    “ก็ตอนนั้นนายสนใจที่มันง้อนายไหม? มันตั้งใจไปง้อนายเพราะกลัวนายอึดอัดไม่ชอบนะ”

     

    “อ่า...ก็ตอนนั้นฉันไม่อยากคุยกับมันอ่ะ เห็นหน้าแล้วหงุดหงิด”

     

    “เฮ้อ ไม่รู้นะจงอิน ปกติฉันงอนมันมันไม่เคยง้อหรอก รอมันง้อจนเออหายเองก็ได้ แต่กับนายมันง้อนะ..ลองคิดเอา”

     

    “...”

     

    “ไม่ได้บอกให้ไปง้อใหม่นะแต่ว่าก็ลองคิดดู”

     

    “...”

     

    ปัง!!

     

    ผมรีบวิ่งลงมาจากห้องนอนไปที่โซฟาที่เจ้าตัวโย่งนอนอยู่ทันที

     

    “เห้ย นอนยัง?”

     

    “...”

     

    “พูดอะไรหน่อยสิ”

     

    “...”

     

    “โอ๊ย หายงอนฉันเถอะ!

     

    “...”

     

    “อย่าทำงี้ดิ”

     

    “...”

     

    “งอนมากไม่ดีหรอกนะ”

     

    “...”

     

    “...” เดินไปหยิบโพสอิทมาแปะหน้าผากอีกคน

     

    “...” ลุกขึ้นมานั่งอ่าน

     

    “...”

     

    “ขอโทษ”

     

    “อือ”

     

    “...”

     

    “หายยังอ่ะ?”

     

    “หาย?”

     

    “หายงอนยัง?”

     

    “ก็ไม่รู้สิ”

     

    “อย่าพูดคลุมเครือสิ จะให้ฉันทำยังไงนายถึงจะหายงอนฉันเนี่ย”

     

    “นั่นสินะ...”

     

    “นายไม่บอกฉันจะรู้ได้ยังไงชานยอล”

     

    “....!!!” อยู่ๆมันก็เขยิบตัวเข้ามาแล้วดึงผมไปกอดเฉยเลย!!

     

    “หายโกรธผมก่อนดิ”

     

    “ก็ไม่ได้โกรธสักหน่อย”

     

    “อือ” ไม่พูดปล่าว มันวางคางมนๆลงบนไหล่ของผมแล้วก็ขยับไปมา

     

    “นายก็หายงอนฉันเหมือนกันใช่ไหมชานยอล?”

     

    “อือ”

     

    “กอดทำไมเนี่ย...” ทำตัวไม่ถูกนะ

     

    “อยาก”

     

    “เอาอีกแล้ว”

     

    “หื้อ?”

     

    “ทำไมชอบพูดอะไรกำกวม”

     

    “ตรงไหน พูดจริงทั้งนั้นแหละ”

     

    “..เอ่อ..ง่วงแล้ว”

     

    “นอนสิ”

     

    “ก็ปล่อยฉันสิ”

     

    “....”

     

    “ผมฉันยังไม่แห้งเลยเดี๋ยวเสื้อนายเปียกนะ”

     

    “...”

     

    “ชานยอล?”

     

    “...”

     

    “ไอ้กางหลับเหรอ?”

     

    “...” ชัดเลยครับ ผมได้ยินเสียงหายใจแล้วก็เสียงอื้ออึงในคอนิดหน่อย ไอ้นี่มันหลับคาไหล่ผมแน่ๆ

     

    “นี่” เขย่าไหล่

     

    “งอนก็ไปนอนสิ มาหลับแบบนี้ทำไมเนี่ย”

     

    “อือ อยากอยู่แบบนี้” เสียงมันอู้อี้จนฟังแทบไม่รู้เลยเนี่ย

     

    “นายมันบ้า”

     

    “อือ บ้า”

     

    “รู้ตัวนี่”

     

    “อือ” ฮึ้ยยย เอาหน้ามาซุกทำไมล่ะ ไอ้บ้า!!

     

    “กลิ่นสบู่ผมนี่”

     

    “อ...อ่ะ เออ ใช่ไม่ได้หรือไง?” ไอ้บ้านี่....

     

    “ปล่าวนี่ไม่ได้ว่าอะไร”

     

    “..แล้วพูดทำไม”

     

    “ก็ตอนผมใช้มันก็ปกติแต่ทำไมพอคุณใช้แล้วหอมก็ไม่รู้”

     

    “....” ไอ้...จำเป็นต้องพูดทุกอย่างที่คิดไหม!

     

    “....หอม”

     

    “ไอ้บ้า!” ไม่อยู่มันแล้วจะนอนไหนก็เรื่องของมันเลย ผมจะไม่ทน ว้าก!!!

     

    รีบวิ่งขึ้นบ้านด้วยความเร็วแสงเลย!!

     

    “จงแด” ผมเปิดประตูห้องนอนแล้วก็ต้องตกใจที่อยู่ๆก็มีเตียงเล็กๆโผล่มาอีกเตียง...คือใต้เตียงของไอ้กางมันมีเตียงเล็กๆซ่อนอยู่? แต่มันก็ให้ผมนอนกับมันอ่ะนะ!!

     

    “...”

     

    “นอนยัง?”

     

    “...”

     

    “เฮ้”

     

    “...”

     

    “...”

     

    “โอ้ๆ ฮัลโหลจงอิน โทษทีนะเมื่อกี้สวดมนต์อยู่เลยไม่ได้ตอบ”

     

    “...”

     

    “มีอะไรอ่ะ?”

     

    “จะนอนไหน?”

     

    “ก็เตียงนี่ไง” ชี้เตียงเล็ก

     

    “นายนอนเตียงใหญ่กับชานยอลก็ได้นะ”

     

    “ไม่ดีกว่าเจ้าที่แรง”

     

    “ห้ะ? ที่นี่มีผีเหรอ?”

     

    “น่ากลัวกว่าผีอีก”

     

    “....ห้ะ!!

     

    “แต่มันไม่ทำอะไรนายหรอกเชื่อฉัน”

     

    “คือนายจะนอนนี่แล้วให้ฉันกับไอ้กางนอนที่..”

     

    “เตียง” มันหันไปมองต้นเสียงของบุคคลที่เข้ามาใหม่ก็ต้องถอยไปที่เตียงนิดหน่อย ทำไมใจต้องเต้นแบบนี้นะ

     

    “ฉันนอนก่อนนะฝันดีไอ้ชานฝันดีจงอิน” จงแดที่เพิ่งสวดมนต์เสร็จมุดหนีเข้าไปในผ้าห่มแล้วครับ

     

    ส่วนไอ้กางที่เพิ่งเดินเข้ามาก็จัดการปิดไฟให้เพื่อนตัวเองแล้วดึงผมลงไปนอนบนเตียงใหญ่ด้วยกัน

     

    “เขยิบมาสิ” มือซนๆของมันเอื้อมมาเกี่ยวตัวผมเข้าไปชิดตัวมันอีกแล้ว

     

    “ฮื้อออออ” ผมจะร้องโวยวายเหมือนทุกทีแต่ว่าก็ถูกมือมันปิดปากไปก่อน แต่ถามว่าคนแบบจงอินจะยอมเหรอ

     

    “โอ๊ยยย กัดนิ้วทำไม”

     

    “เฮ้ย เป็นอะไรป้ะ?” ไม่ได้ตั้งใจจะกัดแรงเลยนะแค่อยากให้ปล่อยเฉยๆ

     

    “เจ็บสิ”

     

    “เห้ยไม่ได้ตั้งใจ...”

     

    “...”

     

    “ไหนเมื่อกี้ร้องเจ็บมือ” ผมพูดเบาลงเมื่อได้ยินเสียงขยับตัวของจงแด มือก็ตีไปที่แขนของไอ้กางที่เกาะเอวผมอีกแล้ว

     

    “ก็เจ็บนะ”

     

    “โกหก”

     

    “โกหกที่ไหนล่ะ ลองให้ผมกัดคุณบ้างไหม?”

     

    “....” ดิ้น จงอินต้องดิ้นเอาตัวรอด

     

    “อย่าดิ้นสิ”

     

    “ไม่คุยด้วยแล้ว!” หลับ ผมต้องแกล้งหลับ

     

    “ฝันดีนะ”   

     

    “เออ!

     

    “...”

     

    “เอา..มือ...ออก...ไป”

     

    “ไม่”

     

    “....” ผมขี้เกียจจะเถียงกับมันต่อแล้วเถียงไปก็ไร้ประโยชน์มาก หลับมันทั้งแบบนี้เลยก็ดี ไม่รู้เวลาผ่านไปเท่าไหร่แล้วผมรู้สึกเหมือนกำลังจะหลุดเข้าไปในความฝันแต่ก็มีสัมผัสนุ่มๆจากริมฝีปากใครบางคนบนหน้าผากผมเบาๆ

     

    เพี๊ยะ!!!

     

    “ฮ่าๆๆ ยังไม่หลับนี่”

     

    “หัวเราะหาญาติฝ่านไหนไม่ทราบ ตลกมากหรือไง” ถึงจะอยากตะโกนใส่แค่ไหนก็ทำได้แค่ด่ามันเบาๆแต่ตีมันต้องเอาแรงๆ ทำไมมันชอบทำแบบนี้เนี่ย!!!

     

    “น่ารักดี”


     

    “ฮืออออออออออออออออออออ” แม่จ๋า ช่วยจงอินด้วยจงอินไม่ไหวแล้ววววววววว

     







     




    40%

     






     

    “อ้าว วันนี้ไปทำงานเหรอ? ให้ไปส่งแกป้ะ?” ผมหันไปถามเพื่อนที่เพิ่งเดินออกมาจากห้องน้ำแล้วก็หันไปมองสิ่งมีชีวิตที่นอนขดตัวอยู่บนเตียง กว่าจะนอนได้ก็ตีกันไปหลายยกแหละครับ จะโทษผมคนเดียวก็ไม่ได้นะ ใครให้เขาทำตัวน่าแกล้งแบบนั้น 555555

     

    “ไม่เป็นไรมั้ง กลัวเด็กนายเหงาตื่นมาไม่เจอแกจะงอนเอา”

     

    “รายนี้ไม่ตื่นง่ายๆหรอกกว่าจะตื่นก็นู้นอ่ะเกือบเที่ยง”

     

    “เมื่อคืนหนักหรือไง?”

     

    “หนักดิโดนถีบโดนตีทั้งคืนเลย พูดแล้วก็เจ็บ”

     

    “สมควร แกมันไอ้ขี้เต๊าะ ไอ้หื่น”

     

    “เอ้า ไอ้เพื่อนเลว” ผมบ่นใส่จงแดนิดหน่อยก็จะเดินไปค้นบนโต๊ะตัวเองแล้วหยิบปากกากับกระดาษโพสอิทสีเดียวกับที่จงอินใช้แล้วแปะมันลงบนหน้าผากจงอินเหมือนที่เขาแปะหน้าผากผมเมื่อคืน

     

    “ฮั่นน่อว”

     

    “น่อวบ้าอะไร”

     

    “เขียนว่าอะไรวะ?” เราสองคนเดินออกมาจากห้องนอนก่อนที่จงแดมันจะวุ่นวายกว่านี้จนทำให้คนแบบจงอินตื่นขึ้นมา

     

    “ไม่บอก ว่าแต่แกจะกินข้าวเช้าที่ไหน? แวะแม็คแถวนี้ป้ะ?”

     

    “แล้วแต่เลย”

     

    “งั้นแวะแม็คแล้วกัน ฉันอยากกินเบอร์เกอร์”

     

    “จัดไป” จงแดจัดการสวมรองเท้าคู่โปรดที่ใส่ซ้ำมาห้าหกปีก่อนจะสวมแว่นดำสะบัดผมใส่แล้วเดินขึ้นไปนั่งที่ข้างคนขับ

     

    หล่อตายเลยครับเพื่อน

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    “กี่โมงแล้วเนี่ย” ผมงัวเงียตื่นขึ้นมาด้วยความเพลียขั้นสุด เมื่อคืนกว่าจะได้นอนอะไรก็ไม่รู้อีรุงตุงนังมาก!

     

    “หื้อ? อะไรวะ?” มองไปที่ภาพสะท้อนจากกระจกก็เห็นโพสอิทสีเหลืองอ๋อยมาแปะอยู่บนหน้าผากตัวเองแล้วอยากจะปามันทิ้งไปกับพื้น ไอ้กางมันวาดเส้นหยักๆเป็นรอยย่นบนหน้าผากผมอ่ะ!

     

    เตรียมจะขยำโพสอิทไร้สาระทิ้งแต่ว่าสายตาก็เลือกไปเห็นข้อความที่เขียนด้วยลายมือหวัดๆซะก่อน

     

     

     

    สายสวัสดิ์ครับ เดี๋ยวผมออกไปซื้อของมาให้กิน รอผมเป๊ปนะครับ อย่าเหงานะ <3’

     

     

     

     

    เห็นแล้วก็อดยิ้มกับข้อความในกระดาษไม่ได้ ไม่ได้ขอให้ไปซื้อมาให้ทานสักหน่อย อย่ามาทำเป็นรู้ใจหน่อยเลยไอ้กาง...

     

     

    หลังจากอาบน้ำเสร็จผมก็เดินลงไปข้างล่าง ได้ยินเสียงรถแว่วๆ สงสัยมันจะกลับมาแล้วมั้ง

     

    “อ้าวไง ผมกลับมาแล้ว”

     

    “นายเขียนอะไรบนหน้าฉัน”

     

    “รักนะจุ๊บๆ”

     

    “ไอ้....”

     

    “ฮ่าๆๆๆ”

     

    “ฮึ้ยยย เห็นหน้านายแล้วหงุดหงิดว่ะ อารมณ์เสีย”

     

    “แต่ผมเห็นคุณแล้วอารมณ์ดีนะ”

     

    “มากป้ะ? เมื่อคืนก็มารุงรังๆจนฉันไม่ได้นอนเนี่ย”

     

    “ก็ยังดีที่ผมให้คุณนอนนะ”

     

    “หมายความว่าไง..เฮ้ย กินมั่งดิ!” ผมมองคนพูดหน้าตายแล้วหยิบแฮมเบอร์เกอร์ขึ้นมานั่งแทะแล้วก็อยากกินบ้าง

     

    “ไม่ให้อ่ะ” ว่าแล้วมันก็ใช้สองมืออุ้มถุงแฮมเบอร์เกอร์ที่เหลือเดินหนีผม ไอ้กาง ไอ้ร้ายกาจ!!

     

    “เฮ้ยยย ทำไมเป็นคนแบบนี้อ่ะ”

     

    “ขอดีๆก่อน”

     

    “ไม่ได้ขอดีๆ นี่ขอแฮมเบอร์เกอร์กินอยู่”

     

    “ไม่ต้องกินแล้วก็ไปเล่นมุขไกลๆเลยคุณ”

     

    “....”

     

    “เห้ย งอนเหรอ? ผมล้อเล่นนะคุณ”

     

    “....”

     

    “ไม่เอาสิ” เอาอีกละ มันมารุงรังๆที่ตัวผมอีกแล้ว เอามือแกออกไปจากเอวฉันว้อยยย

     

    “จะให้กินป้ะ?”

     

    “อ้อนก่อน”

     

    เวร

     

    ดูมันให้ผมทำแต่ละอย่าง แบ๊วโคตรๆไม่เข้ากับเบ้าหน้าหล่อๆผมสักนิดอ่ะ

     

    “งั้นก็ไม่ให้อ่ะ”

     

    “ชานยอลอ่า...”

     

    “....”

     

    “ให้จงอินกินหน่อยนะครับนะ...”

     

    “...”

     

    “นี่อ้อนสุดแล้วนะเนี่ย..ชานยอลอ่า...”

     

    “น่ารัก..”

     

    “กินได้ยังอ่ะ?”

     

    “อ่ะๆ ให้” ผมรีบตระครุบถุงของกินมาไว้กับตัวก่อนที่ผมจะโดนสั่งให้ทำอะไรแบ๊วๆอีก

     

    “เอ้าๆ กินเสร็จแล้วก็ทำหน้าง่วงอีกแล้ว”

     

    “ทำไมล่ะ?”

     

    “นอนเป็นหมีเลย”

     

    “...แล้วทำไมล่ะ?”

     

    “แค่สงสัยว่าคุณเป็นโรคอะไรหรือเปล่าง่วงนอนบ่อยนอนเยอะระวังเป็นโรคเจ้าชายนิทรานะ”

     

    “ไม่เคยได้ยินโรคนี้เลย ไอ้มั่วฉันไม่เชื่อแกหรอก”

     

    “เชื่อผมผมเรียนมา”

     

    “ฉันก็เรียนมา ไม่เห็นได้ยินชื่อโรคบ้านี่เลย”

     

    “เอ้า ผมพูดจริง”

     

    “เป็นหมอหรือไงมาทำเป็นวินิจฉัยโรค”

     

    “ไม่ได้เป็นหมอแต่เรียนเภสัชมาครับ”

     

    “เออเนอะ”ลืมไปเลยว่ามันขายยา เพราะทุกวันนี้มันไปนั่งขายไก่ให้ผมอย่างเดียวเลย

     

    “คนขี้ลืม....ระวังเป็นอัลไซเมอร์นะ”

     

    “นี่จะแช่งให้ฉันเป็นทุกโรคเลยป้ะ”

     

    “ถ้าคุณเป็นเดี๋ยวผมดูแลคุณเอง”

     

    “ไอ้...” ทำไมมันต้องพูดแล้วทำหน้าตาจริงจังแบบนั้นด้วยวะ

     

    “ผมพูดจริงนะ”

     

    “เออ รู้แล้ว! ดูแลฉันให้ได้ตลอดแล้วกัน!” ให้ตายเหอะ ผมไม่กล้าสบตากับมันตรงๆเลย หนีไปดูสัตว์โลกน่ารักดีกว่า

     

    “ยอมให้ผมดูแลเหรอ? ถ้ายอม ผมก็ดูแลคุณได้นะ” ทำไมมันต้องมานั่งเบียดกันด้วยวะเนี่ย ร้อน อึดอัด!!

     

    เพี๊ยะ!!!

     

    “โอ๊ย ทำไมคุณชอบตีผมเนี่ย”

     

    “ไม่ต้องมาโดนตัวฉัน นายมันคนร้ายกาจ!

     

    “ร้ายกาจตรงไหนเนี่ย”

     

    “ทุกตรงแหละ”

    “เช่น?”

     

    “ก็ชอบมาจับนู่นจับนี่อ่ะ”

     

    “ไม่ชอบเหรอ?”

     

    “....ไม่เว้ย”

     

    “แต่ก็ไม่เห็นขัดขืน”

     

    “อะ..เอ๊ะ!

     

    “เอาจริงๆคุณก็ชอบใช่ไหมล่ะ?”

     

    “ก็บอกว่าไม่ไง ฉันไม่คุยกับนายแล้ว!!!

     

    “อีกแล้วๆ เขินอีกแล้ว”

     

    “ก็บอกว่าไม่เขินไงไอ้บ้านี่!!

     

     

     


    . . . . . . .

     

     

     

     

     

     

    หลายวินาทีผ่านไป

     

    หลายนาทีผ่านไป

     

    หลายชั่วโมงผ่านไป

     

    หลายวันผ่านไป

     

    ผ่านมาจะเป็นอาทิตย์แล้วครับแต่จงอินก็ยังไม่ยอมคุยกับผม อะไรมันจะเขินข้ามวันขนาดนั้น พอเดินไปใกล้ๆก็เดินหนี เรียกได้ว่าผมเดินไปซ้ายเค้าเดินไปขวา ผมอยู่ชั้นล่างเค้าอยู่ชั้นบนเลยก็ได้ ทำเหมือนว่าผมเพิ่งจะไปข่มขืนเค้ามางั้นแหละ สุดท้ายผมก็ทนไม่ไหวจนต้องมานั่งเล่นกับเทาเทาแบบนี้แหละครับ ไก่ก็ขายหมดแล้วเหลือเกิน เร็วจนผมไม่มีอะไรทำเนี่ย

     

    “น้องเทาเทาครับ น้องเทาเทาว่าพี่ชานยอลหล่อไหม?”

     

    “...” ดิ้นๆแล้วส่ายหน้า

     

    “น้องเทาเทาอ่า..”

     

    “...” กลิ้งๆ

     

    “ใจร้าย!” ผลักพุง

     

    “...” ตะปบแม่ม

     

    T-T

     

    “...” คลานหนีเข้าไปหลังร้าน

     

    “คุณชานยอลทำอะไรน่ะ?” คุณคริสที่เพิ่งเดินออกมาหันมามองผมที่กำลังนอนกลิ้งอยู่กับพื้นบ้านเค้าแบบไม่เกรงใจ

     

    “ผมเหงาอ่ะ”

     

    “ทำไมล่ะ? จงอินยังไม่คุยด้วยเหรอ?”

     

    “ใช่..”

     

    “มันต้องมีสาเหตุแหละผมว่า เค้าคงไม่งอนหรือโกรธเพราะคุณหายใจได้หรอก”

     

    “สำหรับรายนั้นอาจจะเป็นไปได้นะ..”

     

    “น่ากลัวจริง”

     

    “...”

     

    “อยากกินอะไรไหมเดี๋ยวผมไปทำให้ทาน?”

     

    “ไก่”

     

    “บ้านนี้ไม่มีไก่ chicken not my style

     

    “...” สิ้นหวัง ชานยอลอยากกินไก่

     

    “ไปให้จงอินทำให้ทานสิ”

     

    “ก็เค้าไม่คุยกับผมอ่ะ”

     

    “ก็ลองคุยก่อนสิ บุกเลย”

     

    “ผมลองแล้ว”

     

    “สิ้นหวังจริงๆแล้วล่ะชานยอล”

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    “คยองจูววว”

     

    “อะไร”

     

    “ให้เค้านอนห้องตัวเองได้ป่าว?”

     

    “ไม่ได้”

     

    “นะๆ คยองซู”

     

    “ไม่ได้!!

     

    “นะครับนะตัวเอง” แขนยาวๆตีเนียนโอบรอบเอวของครูสอนพิเศษเบาๆก่อนจะโดนอีกฝ่ายฟาดอย่างแรง

     

    “แบคฮยอน! ถ้าไม่เชื่อฟังฉันจะพานายไปส่งบ้านนะ”

     

    “ไม่ให้ไปส่งหรอก” ขายาวรีบถอดรองเท้าแล้ววิ่งขึ้นไปบนบ้านทันที

     

    “นี่แบคฮยอนล้างเท้าหรือยังน่ะ!

     

    “ล้างแล้วแต่ไม่เช็ดหรอก คนอื่นเค้าจะได้รู้ว่าบ้านนี้หัวกระไดไม่แห้ง :P

     

    “แบคฮยอน!

     

    “คิกๆๆๆ” เสียงหัวเราะกวนประสาทดังมาจากบนบ้าน ปกติแค่สอนพิเศษช่วงเย็นเขาก็เหนื่อยแทบจะแย่แล้วดันมีไอ้เด็กไฮเปอร์แบคฮยอนอีกคยองซูมาค้างที่บ้านด้วยละอยากจะส่งตัวเองไปอยู่ดาวเสาร์จริงๆ

     

    พอหันไปมองนาฬิกาที่บอกว่าเลยเวลาทานมื้อเย็นมาสักพักแล้วก็คิดได้ว่าควรหาอะไรลงท้องกันสักที เจ้าของดวงตากลมโตก็เดินเข้าไปในครัวแล้วหยิบต๊อกโบกีที่แม่ของเขาเพิ่งส่งมาให้วันก่อนมาหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ

     

    หวังว่าแบคฮยอนจะชอบกินนะ

     

    ไม่สิ.....

     

    คนแบบแบคฮยอนน่ะชอบกินทุกอย่าง

     

    ที่คยองซูทำ J

     

    “ช่วยป่าว?” เป็นเพราะว่ามีสมาธิในการหั่นต๊อกมากเกินไปหรือเพราะว่าอีกคนดันเดินเข้ามาจากข้างหลังแบบไม่ให้ซุ่มให้เสียงห็ไม่รู้เลยทำให้คยองซูตกใจจนเผลอทำมีดบาดนิ้วตัวเอง

     

    “เฮ้ย คยองซู!!

     

    “ตกใจ...”

     

    “ขอโทษนะ” บอกขอโทษด้วยความรู้สึกผิดที่ทำให้อีกคนต้องเจ็บแล้วก็พาไปล้างแผลอย่างเบามือ เขาไม่น่าคึกคักเล่นแบบนี้เลย

     

    “นิดเดียวเอง ช่างมันเถอะ”

     

    “แต่ว่าเลือดออกนะ เจ็บมั้ย?”

     

    “ก็นิดนึง” ถึงจะพุดแบบนั้นแต่พออีกคนป้ายยาใส่แผลก็แอบสะดุ้งไม่ได้

     

    “ขอโทษนะ” ในตอนนี้แบคฮยอนคงพูดได้แค่คำนี้ เขาแกะปลาสเตอร์ลายน่ารักๆก่อนจะบรรจงแปะไปที่แผลของคยองซู

     

    “ทีหลังก็อย่าซนสิ”

     

    “ครับๆ เดี๋ยวคยองซูรออยู่ที่โต๊ะนี่นะ ทีเหลือเดี๋ยวทำเอง”

     

    “ทำตัวดีๆกับเขาก็เป็นนี่” มองเด็กไฮเปอร์ที่หัดทำตัวดีๆกับเค้าวิ่งหายไปในครัวแล้วก็แอบยิ้มเบาๆ ถึงจะวุ่นวายไปหน่อยแต่ก้พูดได้เลยว่าหนึ่งเหตุผลที่ทำให้คยองซูมีความสุขได้ก็คือแบคยอนนี่แหละ

     

    “มาแล้ว”

     

    “อย่าวิ่งสิแบคฮยอน เดี๋ยวก็ล้มหรอก”

     

    “ไม่หรอกน่า แล้วนี่คยองซูทานถนัดไหมเนี่ย มาเดี๋ยวป้อนให้”

     

    “เวอร์แล้วแบคฮยอน มีดบาดนะไม่ใช่แขนขาด”

     

    “เป็นห่วง”

     

    “....” คราวนี้คยองซูไม่ได้ตอบอะไรกลับไปแต่ว่ายอมให้อีกฝ่ายป้อนต๊อกเข้าปากอย่างว่าง่าย

     

    “อ่ะ คยองซูอ้ามๆ”

     

    “...อ้าม”

     

    “น่ารัก”

     

    “...” เคี้ยวๆๆ

     

    “...”

     

    “มองอะไร”

     

    “มองคยองซูนั่นแหละ”

     

    “มีอะไรติดหน้าฉันหรือไง?”

     

    “มีความน่ารักติดเต็มไปหมดเลย”

     

    “มองยังไงถึงน่ารัก” ถึงแม้ว่าจะอยู่กับแบคฮยอนมานานแต่ว่าเวลาถูกพูดประโยคแบบนี้ใส่มันก็อดเขินไม่ได้ทุกที...

     

    “มองแบบนี้ไง” ได้ทีเลยแกล้งใหญ่ แบคฮยอนขยับตัวเข้าใกล้กับคยองซูก่อนจะยื่นใบหน้าเข้าไปจนเกือบชิด

     

    “...”

     

    “ฮึ”

     

    “ทำบ้า...อะไร...”

     

    “....” ไม่มีคำพูดอะไรออกมาจากปากของแบคฮยอน เขาเป่าลมเบาๆใส่หน้าผากของคยองซูจนเจ้าตัวต้องรีบเอามือสองข้างมาบังไว้

     

    “น่ารัก”

     

    “ทานข้าวไปเลย”

     

    “ป้อนเค้าบ้างดิ”

     

    “ทำไมฉันต้องทำด้วย”

     

    “นะ....”

     

    “...อ่ะ” ถึงจะทำท่าเหมือนครูใจร้ายแต่สุดท้ายคยองซูก็ยอมป้อนต๊อกให้แบคฮยอนทานอยู่ดี J

     

    “เห้ย..คยองซู มันเผ็ดอ่ะ จิ้มพริกมาให้กันนี่!!” กินไปได้ไม่นานเจ้าตัวก็ร้องโอดโอยเนื่องจากกัดพริกเข้าไปเต็มๆ

     

    “ก็อยากให้ป้อนไม่ใช่เหรอ?”

     

    “โกรธแล้ว”

     

    “น้ำอยู่ในตู้เย็นน่ะ” แบคฮยอนรีบวิ่งเข้าไปในครัวเพื่อกินน้ำ แต่ดูเหมือนว่าจะรีบมากไปหน่อย..

     

    “แค่กๆๆๆ” สำลักเลยไหมนั่น

     

    “อ่ะ..ดื่มนมไป”

     

    “แสบปาก...”

     

    “เผ็ดมาเลยเหรอ?”

     

    “อื้อ...”

     

    “...” พอเห็นว่าแบคฮยอนน้ำตาไหลออกมาเพราะว่าสำลักเมื่อกี้คยองซูก็เดินเข้าไปประคองใบหน้าของอีกคนแล้วไล้ปลายนิ้วเพื่อเช็ดน้ำตาออกจากใบหน้าหวานเบาๆ

     

    “กอดหน่อย”

     

    “...เพื่อ?”

     

    “ก็แค่อยากกอดคยองซู”

     

    “...” ในเมื่อช่วยไม่ได้คยองซูเลยต้องเดินเข้าไปกอดเด็กเอาแต่ใจไว้เบาๆแต่ว่าอีกคนกลับไม่ได้กอดเขาเบาๆน่ะสิ รัดมาซะแน่นเลย

     

    “หายใจไม่ออกอ่ะ..”

     

    “รักจัง”

     

    “จั๊กจี้นะแบค”

     

    “ไม่ได้ยินที่บอกเหรอ?”

     

    “...”

     

    “คยองซู”

     

    “ฉันว่าฉันไปล้างจานดีกว่า”

     

    “คนใจร้าย”

     

    “แล้วไง?” คยองซูรู้ว่าแล้วก็ได้ยินในสิ่งที่แบคฮยอนพูดออกมาทั้งหมดนั่นแหละ แต่เขาก็อยากจะแกล้งอีกคนซะมากกว่า คนอะไรพูดว่ารักว่าชอบออกมาได้หน้าตาเฉย

     

    แบคฮยอนเดินขึ้นมาบนห้องนอนด้วยความน้อยใจที่ถูกเมินคำพูดแบบนั้นก่อนจะลงไปมุดอยู่บนเตียงของเจ้าของบ้าน เขารู้ว่าอีกฝ่ายได้ยินสิ่งที่เขาพูดแต่ว่าทำเป็นเมินแบบนี้มันคืออะไรกัน

     

    คยองซู...

     

    ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นเด็กนักเรียนม.ปลายแต่ว่าทุกอย่างที่เค้าพูดเค้าคยองซูมันคือเรื่องจริงแล้วเขาก็จริงจังมากด้วย หลายต่อหลายครั้งที่เขาแอบมองคยองซูจนไม่เป็นอันเรียน ก็เพราะไอ้คนตาเหลือกนี่มันน่ารักน่ะสิ ทำให้เขาไม่ได้สมาธิหรือคิดเรื่องอีกนอกจากคิดถึงเขาได้เลย

     

    “แบคฮยอน”

     

    “...”

     

    “เฮ้”

     

    “...”

     

    “จะไม่อาบน้ำเหรอ?”

     

    “ไม่ งอนอยู่”

     

    “ฉันไม่ชอบคนที่งอแงเป็นเด็กนะ ไปอาบน้ำได้แล้ว” ได้ยินแบบนั้นแบคฮยอนก็รีบลุกออกจากเตียงแล้วก็หายเข้าไปในห้องน้ำทันที

     

    เด็กนี่นะ...

     

    ...

     

    ผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมงแล้วก็ยังไม่เห็นทีท่าว่าแบคฮยอนจะออกมาจากห้องน้ำสักที คยองซูที่นั่งรออยู่เริ่มสงสัยว่าทำไมเด็กนี่ถึงได้หายเข้าไปในห้องน้ำนานแบบนี้

     

    “แบค”

     

    “...”

     

    “เสร็จหรือยัง?”

     

    “...”

     

    “แบคฮยอน?” เดี๋ยวๆ ไม่ใช่ว่าเป็นลมอยู่ในห้องน้ำนะ

     

    “...”

     

    “แบค!! ไม่สนุกนะ เลิกแกล้งได้แล้ว”

     

    “....”

     

    “แบคฮยอน!

     

    “...” ทำไงดี คยองซูไม่เคยรู้สึกร้อนรนขนาดนี้มาก่อน แบคฮยอนก็ยิ่งเงอะๆงะๆอยู่ ถ้าเกิดหัวฟาดขอบอ่างตายเป็นผีเฝ้าห้องน้ำบ้านเค้าจะทำยังไง ในเมื่อไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นข้างในแถมไอ้ตัวดีข้างในก็ไม่ตอบอะไรกลับมายิ่งทำให้คนอย่างคยองซูเป็นห่วงเข้าไปใหญ่

     

    ใช้เวลาอยู่สักพักคยองซูก็ตัดสินใจเปิดประตูเข้าไปในห้องน้ำ

     

    “...”

     

    Zzzz

     

    “...แบค?” คยองซูค่อยๆก้าวเข้าไปในห้องน้ำช้าๆ แล้วจับหัวที่ผงกไปผงกมาให้อยู่กับที่ ถ้าเปรียบหัวแบคฮยอนเป็นแอปเปิ้ลตอนนี้คยองซูก็อยากจะบีบแอปเปิ้ลให้แหละคามือไปเลย!

     

    คนบ้าอะไรมันหลับในอ่างอาบน้ำแบบนี้!

     

    “โอ๊ยยยยยยยย” ในเมื่อมันหลับคยองซูก็จะปลุก แต่ว่าวิธีปลุกของเขาเคยปราณีที่ไหนล่ะ คยองซูจัดการบิดไปที่ใบหูของคนขี้เซาก่อนจะเดินออกจากห้องน้ำแล้วทำท่าเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

     

    “คยองซู! บิดหูเค้าทำไม!!” เสียงร้องโอดครวญดังออกมาจากห้องน้ำ ตื่นแล้วสินะ..

     

    “อะไร? ปล่าวนี่”

     

    “ไม่ต้องมาโกหกเลยจะแอบดูเค้าอาบน้ำก็พูดมา” แบคฮยอนเดินออกมาจากห้องน้ำด้วยสภาพผ้าขนหนูผืนเดียว

     

    “หลงตัวเองจริงๆ” คยองซูตกใจเล็กน้อยแต่โชคดีที่เขาเป็นคนเก็บอาการเก่งแบคฮยอนจึงไม่ได้สังเกตอะไร

     

    “งั้นยืมชุดใส่หน่อยนะ”

     

    “อืม”

     

    “มีแต่ตัวเล็กๆทั้งนั้นเลย”

     

    “ทำไม? อ้วนจนใส่ไม่ได้สินะ”

     

    “ปล่าวนะ คยองซูตัวเล็กเองต่างหาก”

     

    “แขนใหญ่นะเรา” หันไปมองเด็กที่เลือกเสื้อกล้ามโคร่งๆของเขามาใส่ แต่ทำไมพอแบคฮยอนใส่แล้วมันถึงพอดีตัวล่ะ...

     

    “ชอบล่ะสิๆ” พอเห็นว่าคยองซูมองอยู่เจ้าตัวเลยได้ใจเบ่งกล้ามโชว์

     

    “มีแต่ไขมัน”

     

    “เหมือนคยองซูนั่นแหละ”

     

    ผั๊วะ

     

    หมอนใบโตถูกปาใส่หน้าแบคฮยอนแม่นราวกับจับวาง

     

    “นี่งอนอยู่นะ” เมื่อถูกทำร้ายก็กลับมางอแงเป็นเด็กเหมือนเดิม

     

    “ถ้าหายงอนพรุ่งนี้จะทำกับข้าวให้กิน”

     

    “...”

     

    “หายยัง?”

     

    “กำลังจะ”

     

    “...”

     

    “คยองซูควรง้อให้มากกว่านี้สิ”

     

    “คิดว่าฉันเป็นคนแบบนั้นเหรอ?”

     

    “ไม่เป็นไร”

     

    “....”

     

    “....”

     

    “เห้อ” คยองซูถอนหายใจให้กับเด็กขี้งอนเบาๆก่อนที่จะพาตัวเองเข้าไปอาบน้ำอาบท่าสักที เหนื่อยมาทั้งวันแล้วเนี่ย...

     

    ใช้เวลาไม่นานคยองซูก็ออกมาจากห้องน้ำ เขาเดินออกมาเลือกเสื้อผ้ามาใส่เงียบๆก่อนจะไปนั่งข้างๆคนที่แกล้งหลับไปแล้ว

     

    “แบคฮยอน”

     

    “...”

     

    “ยังไม่หลับใช่ไหม?” คยองซุกค่อยๆสอดตัวเองเข้าไปในผ้าห่ม แบคฮยอนผลิกตัวหันกลับมาหน้าเขานิ่งๆ

     

    “...”

     

    “...”

     

    “ฝันดีนะ” ในเมื่อไม่มีใครยอมพูดอะไรคยองซูก็ต้องเป็นฝ่ายพูดขึ้นมาเสียเอง แต่หากว่าคราวนี้เขาไม่ได้ทำแค่พูด คยองซูเขยิบตัวเข้าไปใกล้กับแบคฮยอนก่อนจะใช้ริมฝีปากตัวเองแตะลงไปบนหน้าผากของอีกคน

     

    “หายงอนแล้ว” แบคฮยอนที่ทำหน้าดี๊ด๊าออกมาอย่างเห็นได้ชัดนี่มันน่าฟาดจริงๆ

     

    “....” คยองซูยิ้มออกมาน้อยๆก่อนจะใช้มือข้างนึงลูบหัวทุยๆของแบคฮยอนอย่างเบามือ

     

    “พรุ่งนี้ขอข้าวเช้านะ”

     

    “ถ้านายตื่นทันนะ”

     

    “ถ้างั้นขอมัดจำข้าวเช้าก่อนได้ป่ะ?”

     

    “อะไร?”

     

    “...” แบคฮยอนไม่ตอบอะไรแต่เลื่อนใบหน้าเข้าไปใกล้ คยองซูค่อยๆหลับตาลง หลังจากนั้นสัมผัสอุ่นๆก็ถูกมอบให้ที่ริมฝีปากของเขาด้วยริมฝีผากบางๆอีกคน เป็นจูบที่แผ่วเบา จูบที่ไม่ได้มีการรุกล้ำใดๆ นอกจากความรู้สึกดีๆเท่านั้น

     

    “...เด็กบ้า...”





    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

     

    TBC.


    =================================================================

    ว้ายยยย เรามาแล้วววว เรากลับมาแล้วววว ฮืออออ คิดถึงทุกคนนะครัช จุ้บๆ  

     CR.SHL
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×