ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [EXO] ฟิคเหนียวไก่ [Chan x Kai]

    ลำดับตอนที่ #11 : เหนียวไก่น่องที่ 10

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 111
      6
      15 มี.ค. 58

    CR.SHL







    เหนียวไก่น่องที่ 10


     
     

     

     

    ผมเดินแยกออกมาจากจงอินและแบคฮยอนมาได้สักพักแล้ว แต่ก็ไม่พบวี่แววของคยองซูเลย ป่านนี้จะเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้...

     

    !!!!

     

    ผมรีบวิ่งเข้าไปในทางมืดๆข้างตัวทันทีเมื่อเห็นร่างเละๆของผู้ชายคนนึงกำลังเดินตรงมาทางผม

     

    “ฮือออ..อออ”

     

    เมื่อเห็นว่าท่าไม่ดีผมเลยรีบวิ่งเข้าไปหลบในบ้านหลังนึง ยังไม่เจอคยองซูเลยใครจะยอมแพ้ก่อนล่ะ

     

    ...

     

    ห้องนี้มืดจัง

     

    ผมหยิบมือถือในกระเป๋ากางเกงออกมาเพื่อใช้เป็นตัวช่วยให้มองเห็นทางชัดขึ้น แต่มันก็ไม่ช่วยอะไรเท่าไหร่เลย

     

    “ปาร์ค...ช...ชานยอ..ลลลล”

     

    !!” ผมแทบจะร้องออกมาเมื่อได้ยินเสียงใครสักคนเรียกชื่อผมจากในตัวบ้าน ด้วยน้ำเสียงยืดๆยานๆแบบนี้ผมฟันธงได้ว่าไม่ใช่จงอินและแบคฮยอนแน่ๆ จะเป็นคยองซูเหรอ? ก็ไม่น่า

     

    “นา..ยยย...”

     

    “ไม่อยู่แล้ว” ผมรีบวิ่งกลับไปที่ประตูแต่ก็พบว่ามันถูกล็อคจากข้างนอกซะงั้น อิ๊บอ๋ายแล้ว...

     

    “ฮื่อออออ...” ผมสาดไฟจากมือถือไปรอบๆตัวก็เห็นเพียงแค่เงามืดผ่านตัวผมเชไปเป็นระยะๆ หัวใจเต้นแรงขึ้นกว่าเดิมเป็นเท่าตัว ผมค่อยๆถอยไปติดพนังแต่ทว่าต้นคอของผมถูกมือเย็นเฉียบของใครสักคนจับไว้

     

    “อ้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกก”

     

     

     

     

    ====================

     

     

     

     

     

    “กาง กางโว้ย อยู่ไหนวะ!!” ผมวิ่งเข้ามาตามหาไอ่กางตามทางที่เราเพิ่งแยกกันมาป่านนี้มันเป็นยังไงบ้างเนี่ย

     

    “กาง! ตอบหน่อยสิ ชานยอล!!” นี่วิ่งหาจนจะครบทุกซอกแล้วนะ

     

    “ฮือออ” อยู่ๆก็มีมือจากไหนไม่รู้มาคว้าข้อเท้าของผมไว้ ผมรีบสะบัดข้อเท้าออกอย่างแรง มือนั้นก็หลุดออกไปอย่างง่ายดายพร้อมเสียงโอดครวญเบาๆ

     

    “โอ้ย”

     

    เสียงคุ๊นคุ้น ผมค่อยๆหันกลับไปดู ก็เจอร่างใหญ่นอนแผ่ที่พื้น

     

    “ป๊า!

     

    “เออ!! ก็ฉันน่ะสิ แกสะบัดซะแรงเลย ไม่สงสารคนแก่บ้างหรือไง”

     

    “ก็ใครจะไปรู้ล่ะ”

     

    “ดีนะที่ฉันอยู่หลังตู้ไม่งั้นโดนแกเตะแสกหน้าแน่ๆ”

     

    “โถ่ป๊าอ่ะ ฝครมันจะไปคิดละว่าพ่อกับพี่สาวที่บอกว่าจะไปทำงานแต่เช้าจะมาแต่งตัวเป็นซอมบี้ไล่กินคนแบบนี้อ่ะ”

     

    “ก็นี่มันงานของบริษัทป๊า แกได้แหกตาดูบ้างไหม?”

     

    “ห๊า?”

     

    “ใช้ตาดำๆของแกดูมันซะ” ป้าควักกระดาษแผ่นนึง เอ่อ....มันคือชัวร์ป้ะ? ผมรีบหยิบมันมาดูก็ถึงบางอ้อเมื่อเห็นโลโก้ของบริษัทแปะหราอยู่ข้างบน

     

    “อ้อออออออ แบบนี้นี่เองๆ”

     

    “แล้วแกมาที่นี่ได้ไง?”

     

    “เอ้ะ...อ๋อ นั่งรถมาอ่ะ” ไหนๆคนขับรถผมก็ไม่อยู่ที่นี่บอกว่ามาคนเดียวซะเลย

     

    “พูดความจริง...”

     

    “แหม นี่ป๊าเห็นลูกเป็นคนยังไง” ก็นั่งรถมาจริงๆนะเพียงแค่คนขับไม่อยู่แถวนี้อ่ะ

     

    “ปาร์คชานยอล...” อยู่ๆป๊าก็ผลักใครสักคนออกมาจากหลังตู้

     

    โอ๊ยยยยยยยยย จะบ้าตาย อยากจะทึ้งหัวตัวเองแล้วลงไปนอนดิ้นๆๆๆ กับพื้น

     

    “อ้าวชานยอล นายก็มางานนี้เหมือนกันเหรอ?” นาทีนี้สีข้างถลอกก็ยอมครับ สกิลแถก็ต้องมา

     

     “ถ้านายช่วยไอ้ลูกเวรนี่โกหกฉันฉันจะไม่ให้แกมาเจอมันอีก”

     

    “โหววววว ทำไมต้องทำเสียงเข้มด้วยอ่ะป๊า”

     

    “แกมันลูกไม่รักดี หนีตามผู้ชาย”

     

    “หนีบ้าอะไรล่ะป๊า แค่ออกมาเที่ยวกันเฉยๆ”

     

    “หื้มมมมม” ดูป๊าทำเสียง...ในน้ำเสียงนี้สามารถถอดความได้ว่า แกมันไอ้ลูกสตอที่แกพูดมาน่ะฉันไม่เชื่อแกหรอก ว้ายๆๆๆๆ

     

    “ผมแค่เบื่อ อยู่บ้านแล้วไม่มีอะไรทำเลยออกมาเที่ยวอ่ะ” โอ๊ย ผมสุดจะเหี่ยเพลียใจ ปกติเค้ามีแต่เครียดที่ลูกอยู่กับผู้ชายแล้วนี่อะไร ทำไมทำหน้าทำตายินดีปรีดาเชียร์กันเหลือเกิน

     

    “แล้วทำไมต้องมากับชานยอล???”

     

    “ก็วันนี้มันว่างไง”

     

    “เหอออออ” อันนี้ตีความได้ว่า หราาาาาาาาา ฉันไม่มีทางเชื่อแกหรอก

     

    “อย่าทำหน้าแบบนั้นซี่....”

     

    “ไอ้ลูกกระแต”

     

    “นี่ป๊าเห็นผมกระแตงั้นเหรอ? =__=

     

    “เออ ไอ้ลูกกระแต” ป๊าเดินมาดึงมือผมกับไอ้กางแล้วพาออกมากลางลานกว้างๆที่มีเสียงคนแหกปากกันประปราย

     

    “จะกลับบ้านยังไง?”

     

    “กลับกับป๊าสิครับผม”

     

    “เหรอ??”

     

    “จ้า”

     

    “ไม่ให้กลับด้วยเหม็นขี้หน้า”

     

    “เอ้า นี่ลูกพ่อนะ!!

     

    “ถึงเบื่อไง ป๊ากลับกับชานยอลยังบันเทิงใจกว่า” ไม่พูดเปล่า มีการเอามือโอบไหล่กันด้วย

     

    “แฮฮฮฮฮ่”

     

    “อ้าก!!!

     

    “อะไรของเจ๊เนี่ย ไอ้กางมันตกใจหมดแล้วเห็นไหม!!” ผมหันไปหาเจ๊ที่โผล่มาจับไหล่ชานยอลจนมันสะดุ้งตาเหลือกไปอยู่หลังป๊า

     

    “พวกแกกลับบ้านได้แล้วมั้งจะเย็นแล้วเนี่ย”

     

    “เห้ย ป๊า มีเพื่อนผมสองคนมันยังอยู่ในนี้อ่ะ ไม่รู้เป็นไงบ้าง”

     

    “เกมมันยังไม่จบไม่ตายก็ชนะไปแล้ว”

     

    “มีคนได้รางวัลไปยังอ่ะป๊า?”

     

    “ยังมั้ง ยังไม่เห็นมีลูกน้องฉันส่งมาบอกเลย”

     

    “กางเอามือมา!” ชานยอลทำหน้างงๆแต่ก็ยื่นแขนมาให้ ริบบิ้นสีแดงสดยังคงอยู่บนข้อมือหนา เห็นอย่างนั้นแบ้วแปลว่าเราทั้งคู่ก็ยังมีสิทธิ์ได้รางวัล

     

    “วิ่ง!” ผมรีบก้าวขาไปตามทางพร้อมกับชานยอล “โอ๊ย อีกนิดเดียวจะถึงแล้ว ไหวป่าว?” ผมหันไปถามคนที่วิ่งตามมาติดๆ ชานยอลส่ายหัวน้อยเป็นคำตอบ

     

    “เฮ้ยๆๆๆ ถึงแล้วเว้ย” ไม่อยากจะเชื่อว่าจากจุดที่ผมยืนโฟ่กับป๊ากับเส้นชัยมันจะห่างกันไม่เท่าไหร่ รู้งี้วิ่งมานานแล้ว!!!

     

     “รางวัลๆๆๆๆๆ ชานย๊อลลลลลลล ได้เงินแล้วเรามาแบ่งกันนะ”

     

    “ได้ๆ”

     

    “นูน่าครับบบบบบบ พวกผมมาเอารางวัล”

     

    “คะ?” ผู้หญิงสวยๆตรงหน้าทำหน้าตางงนิดหน่อยก่อนจะเวลาสามวิในการทำความเข้าใจ “อ๋อ...พอดีว่ามีคนชนไปแล้วอ่ะค่ะ ขอโทษด้วยนะคะ อันนี้เป็นของที่ระลึกค่ะ” พี่สาวคนนั้นโค้งให้น้อยๆก่อนจะหยิบพวงกุญแจรูปเหรียญกล้าหาญเล็กออกมาให้เราแทน

     

    จงอินไม่อยากได้อันนี้อ้ะ!!

     

    “เฮ้ย ได้ไงวะ โดนป๊าหลอกเหรอเนี่ย แล้วนูน่าก็รีบเดินจัง ยังไม่ทันได้ขอเบอร์เลย เซ็งว่ะ กาง ใครมันแย่งรางวัลเราไปวะ”

     

    “ถามพ่อคุณสิ” สาบานว่านั่นประโยคบอกเล่าไม่ได้ประโยคหลอกด่า

     

    “เฮ้อ.....” เซ็งอ่ะบอกเลย

     

    “ยิ้มหน่อยสิ”

     

    “...”

     

    “ยิ้มเร็ว”

     

    “ปล่อยๆๆ” ผมตีมือไอ้กางที่เอามายืดหน้าผมจนยืดไป ไอ้นี่....จะเล่นก็เล่นเนอะ

     

    “ยิ้มก่อนเร็ว ยิ้มแล้วน่ารัก”

     

    “...” ยิ้มก็ยิ้มวะ..

     

    “เอ้อ เนี่ย น่ารักกว่าตั้งเยอะ ไว้เดี๋ยวผมเลี้ยงไอติมคุณแทนรางวัลแล้วกัน”

     

    “เดี๋ยวๆๆๆ ใครโทรมาวะ?” ผมรั้งแขนที่กำลังจะเดินนำไปที่รถไว้แล้วหยิบมือถือขึ้นมาก็เห็นชื่อที่หน้าจอว่า แบคฮยอน ก็รีบยื่นให้ไอ้กางดูก่อนจะกดรับมัน

     

    “อือๆ ห้ะ?? รางวัลไร? เดี๋ยวๆๆๆ อย่าบอกนะว่าไอ้คนที่ชนะนี่คือคยองซูอ่ะ...กี่ใบ? ห้ะ!! หก!!!! เออๆ ค่อยคุยกัน”

     

    “อะไรอ่ะ?”

     

    “ไอ้รางวัลบ้านั่นคนที่ชนะคือคยองซู...”

     

    “ห้ะ!? ชนะได้ไงอ่ะ สองคนนั้นเล่นเป็นคู่ไม่ใช่เหรอ? แล้วคยองซูชนะคนเดียวได้ไง?”

     

    “เห็นแบคบอกว่าคยองซูไปจิ๊กริบบิ้นใครมาใส่เองไม่รู้...”

     

    “...............โห”

     

    “แล้วทีนี้รางวัลมันเป็นตั๋วไปเที่ยวออนเซนหกใบไงสองคนนั้นเลยให้เราไปด้วย”

     

    “จริงอ่ะ?? ดีๆๆ แล้วไปวันไหนอ่ะคุณ?”

     

    “พรุ่งนี้”

     

    “หื้อ เร็วจัง”

     

    “เออ ว่างป้ะล่ะ?”

     

    “ว่างๆ เดี๋ยวผมให้คนเฝ้าร้านให้”

     

    “แกนี่นะ...แล้วหลังนี่ไม่เป็นไรจริงๆนะ?”

     

    “อื้อ ก็ไม่ได้เป็นอะไรมาก กลับบ้านยังเดี๋ยวผมไปส่ง”

     

    “เออๆ ไม่เจ็บจริงนะ?”

     

    “ไกลหัวใจเยอะครับ”

     

    “ก็ดี”

     

     

     

     

    ========================

     

     

     

     

     

    “คยองซู คยองซุอ่า”

     

    “แบค...”

     

    “อ้วนจ๋า...”

     

    เพี๊ยะ!

     

    โดนตบเต็มๆครับ หลังชาไปหมดแล้ว

     

    “อ้วนบ้าอ้วนบออะไร ไม่เท่านายหรอก”

     

    “อ่า..ไม่งอนสิ แล้วนี่หายไปไหนมาครับหื้อ?”

     

    “...” ผมองป้อมๆที่ล้วงลงไปในกระเป๋าเป้แล้วหยิบบางสิ่งออกมา

     

    “อะไรอ่ะ?”

     

    “รางวัลไง” คยองซูพูดพลางดึงเหรียญทองออกจากกระเป๋ามาโชว์ มืออีกข้างก็ถือตั๋วอะไรสักอย่าง

     

    “อั๊ยย่ะ เก่งจังแฟนใครเนี่ย” ไอ่เราก็หาตั้งนานว่าหายไป ที่แท้ก็แอบหายไปชนะมานี่เอง

     

    “อันนั้นตั๋วรถไฟเหรอ? ไปไหนอ่ะ?” เขยิบเข้าไปดูตั๋วนั้นใกล้ๆเหมือนจะมีหกใบนะ

     

    “ไปซอรัคซานน่ะ มีทริปน่าสนุกอยู่แหละ”

     

    “แหม แบบนี้คยองซูก็ไปเที่ยวสนุกเลยสิ” ...เขาคงไม่ชวนผมไปหรอก

     

    “วันนี้ก็กลับไปขอพ่อกับแม่ด้วยนะว่าจะไปเที่ยวสักสามวัน”

     

    “หะ...ให้เค้าไปด้วยเหรอ?”

     

    “ถ้าไม่ให้แล้วจะชวนทำไมล่ะ”

     

    “งุ้ยยยย น่ารักที่สุดเลยจุ้บๆ”

     

    “งั้ก็โทรพวกชานยอลจงอินด้วยสิ”

     

    “อ้อได้ครับผม” ใช้เวลาไม่นานจงอินฮยองก็รับสายพร้อมกับคำโวยวายเสียงดัง เราคุยกันสักพักก่อนจะวางสายกันไป

     

    “โอเค ทั้งสองคนบอกว่าจะไปแหละ”

     

    “อือ ฉันว่าจะไปชวนคุณคริสแต่ไม่รู้ว่าเขาจะไปได้หรือเปล่า คุณคริสคงไม่ทิ้งเทาเทาไว้ลำพังหรอก”

     

    “เค้าก็ว่างั้นอ่ะ...”

     

    “...”

     

    “แต่ลองไปชวนก่อนก็ได้นี่ เอาป่าวมีเบอร์อยู่”

     

    “เอาสิ”

     

    ตู๊ด ตู๊ด ตู๊ด

     

    (เหวย)

     

    “ฮาโหลขุ่นคริสส พอจะมีเวลาว่างสักสองสามวันไหมครับ?”

     

    (ก็พอมีนะ ทำไมเหรอ?)

     

    “พอดีว่าพวกผมได้ตั๋วเที่ยวฟรีมาอ่ะ หกใบเลยนะ คนร่วมทริปก็มีผม คยองซู ชานยอลฮยอง จงอินฮยอง”

     

    (เอาเทาเทาไปด้วยได้ไหมอ่ะ?)

     

    นั่นไง...ว่าแล้วเชียว...

     

    “แบคก็ไม่แน่ใจอ่ะ...เค้าจะให้แพนด้าไปพักโรงแรมไหม” ขนาดหมายังยากเลย

     

    (ฉันทิ้งเทาเทาไปไม่ได้นะ)

     

    “แต่พวกผมอยากให้ฮยองไปด้วยนะ”

     

    (ไม่ได้หรอก เทาเทาน้อยต้องให้ฉันเล่านิทานกล่อมทุกคืน)

     

    “งั้นเดี๋ยงฮยองคุยกับคยองซูนะ ตัวเองๆกล่อมคริสฮยองให้หน่อยสิ” ยื่นมือถือส่งให้อีกคน คยองซูรับไปแล้วพูดพึมพำๆเพียงแค่ครู่เดี๋ยวก็วางสายไป

     

    “คุณคริสบอกว่าพรุ่งนี้เจอกัน”

     

    “ห้ะ? เขาจะไปกับเราแล้วเหรอ?”

     

    “อืม”

     

    “หูยยยยยย แฟนแบคนี่สุดยอดเลย พูดไม่กี่คำคนก็ยอมทำตามแล้ว สิกาลิ้นทองหรือเปล่าเนี่ย”

     

    “นี่ มายุกยิกๆๆอยู่ได้ ฉันยิ่งร้อนๆอยู่อยากลับบ้านไปอาบน้ำ”

     

    “โอ๋ๆ จ้ะๆ กลับบ้านกัน โอ๊ะเดี๋ยวใครไลน์มา”

     

    “ใคร?”

     

    “ไม่ใช่กิ๊กหรอกครับแหม ชานยอลฮpองไลน์มาถามว่าให้เพื่อนเค้าอีกคนนึงไปด้วยได้ไหม?”

     

    “อื้อ ก็เอาสิ”

     

    “แล้วเทาเทา?”

     

    “นายคิดว่าถ้าพาเทาเทาไปแบบถูกต้องเข้าตามตรอกออกตามประตูแล้วจะได้พามันเข้าไปงั้นเหรอ?”

     

    “เออเนอะ แสดงว่ามีแผนอ่ะดิ”

     

    “...” ไม่ตอบแต่หันมายักคิ้วให้นี่คืออะไรครับคุณคยองซู

     

    แฟนใครเนี่ยร้ายจริงๆ





     




    30 เปอร์เบาๆ 






     

     

     

    ======================

     

     
     

     

     

    “ไอ่จงอิน ไอ่ไก่งวง ถ้าแกยังไม่ตื่นภายในสามวินาทีแกไม่ต้องไป!!

     

    “อืออออออออ”

     

    “ได้ๆ จะไม่ลุกดีๆใช่ไหม?”

     

    “เดี๋ยวเจ้ๆ เดี๊ยววววววว ตื่นแล้วววว”

     

    นี่ถ้าผมตื่นช้ากว่านี้อีกสองวิคาดว่าร่างต้องลงไปนอนกองกบพื้นแน่ๆ นังเจ๊โหด แค่ปลุกน้องต้องทำขนาดนี้เลยเหรอ!?

     

    “ตื่นแล้วก็ไปอาบน้ำเร็วๆ มันจะเลยเวลาทัวร์แล้วเนี่ย”

     

    “อ่าว เราไปกับทัวร์เหรอ งี้ก็มีไกด์ป้ะ?”

     

    “มี ฉันเอง ไปอาบน้ำเว้ย” ผมเปลี่ยนใจทันไหม ตอนแรกก็ไม่รู้ว่าไอ้ทริปที่จัดเนี่ยคนวางแผนคือครอบครัวผมเองสรุปได้ไปกันทั้งบ้านเลยครับ ถึงคยองซูไม่ชวนผมผมก็ต้องไปช่วยดูแลทริปนี้อยู่ดี

     

    ใช้เวลาอาบน้ำไม่ถึงสองนาทีก็เสร็จนี่แหละครับคือวิถีแห่งลูกผู้ชายตัวจริง อีพวกที่อาบนานๆอ่ะมันสำออยครับ

     

    “นี่แกอาบน้ำเสร็จแล้วเหรอ? แต่ก็ดีเร็วดีหวังว่าจะไม่เน่าเกลือเกาะหรอกนะ เออแล้วกระเป๋าอ่ะ?”

     

    “....” ชี้ไปที่กระเป๋าใบเล็กๆแทนคำตอบยัยเจ๊ที่วันนี้แต่งตัวดูทะมัดทะแมงด้วยกางเกงยนส์และเสื้อแนวแหวกๆรีลากผมออกมาข้างนอกบ้านที่ป๊ากับม๊ารออยู่แล้ว

     

    “เดี๋ยวป๊าจะเอารถม๊าไปนะ ขับง่ายดีแต่ว่ารถมันนั่งได้แค่สามคนเพราะของเต็ม อีกคนนึงต้องไปนั่งรถตู้เอานะ”

     

    “แล้วใครจะไปนั่งรถตู้อ่ะ?” สิ้นสุดคำถามทุกสายตาก็จ้องมาที่ผมอย่างพร้อมเพรียงกัน

     

    “เห้ย ทำไมผมต้องไปนั่งรถตู้อ่ะ เจ๊ไปดิ”

     

    “ได้ไงยะ ฉันต้องขับนำทาง อีกอย่างจะให้สาวๆแบบฉันขับรถตู้ได้ไง แถมในรถนั่นก็เพื่อนๆแกทั้งนั้นด้วย”

     

    “เออๆไปก็ได้”

     

    บรื้นนนนนน

     

    รถตู้จอดยังไม่ทันสนิทคนข้างในก็รีบเปิดประตูรถออกมาทักทายทันที

     

    “จงอินฮยองงงงงงงงงงงงงง”

     

    “แบค! เปิดประตูรถได้ยังไง รถยังจอดไม่สนิทเลยนะ!

     

    “หวัดดีทุกคน” ผมก้ามขึ้นรถ ไอ่กางที่นั่งเบาะเกือบหลังสุดกวักมือเรียกหยอยๆ

     

    “นั่งสิๆ”

     

    “อยากนั่งเบาะเดี่ยวอะ”

     

    “ไม่เอาน่า จงแดนั่งอยู่เห็นไหม?”

     

    “...” สุดท้ายผมก็ต้องยอมไปนั่งข้างมันอย่างช่วยไม่ได้ รอให้ที่บ้านผมขนของที่เหลือขึ้นรถสักพักเราก็เริ่มออกเดินทางกัน โดยมีคนบ้านั่งยิ้มกว้างอยู่ข้างๆ

     

    “เป็นไรมากป้ะ แทนที่จะนั่งกับเพื่อนตัวเอง”

     

    “โถ่จงอิน นายไม่รู้หรอกว่าฉันมันตกกระป๋องไปแล้ว เพื่อนจะไปสำคัญเท่าคนรู้ใจได้อย่างไร”

     

    “จงแดพูดมากละนะนั่งฟังเพลงเงียบๆไป” ชานยอลพูดแล้วก็โยนหูฟังพร้อมไอพอดให้จงแด เจ้าตัวหันมาขยับปากทำนองว่าเห็นมะๆใส่ผมแล้วก็นั่งฟังเพลงไปเงียบๆ ผมมองนู้นนี่ไปสักพักก็รู้สึกเหมือนมีอะไรนุ่มๆมาจับไหล่ผมไว้ พอกันไปก็..

     

    “เห้ย แกมาได้ไงอ่ะ”

     

    “อ่อ ผมเอามาเองแหละครับ” คริสค่อยๆโผล่หัวขึ้นมาจากการนอนเหยียดยาวที่เบาะหลัง หัวนี่ยุ่ไม่เป็นทรง สงสัยเพิ่งตื่น

     

    “เอามาได้ด้วยเหรอ? แพนด้าอ่ะนะ”

     

    “ได้สิครับ ทำไมจะไม่ได้ล่ะ เทาเทาอย่าไปเล่นที่เบาะหน้าสิครับ ห้ามตะกุยเบาะด้วย” หลังจากที่โดนดุเจ้าแพนด้าอ้วนก็ปีนกลับไปสู่อ้อมอกเจ้าของ

     

    “คนเก่งของพ่อ” ผมขี้เกียจดูสารคดีชีวิตคนกับแพนด้าแล้วเลยกลับมาที่เบาะหน้าสุด ตอนนี้แบคฮยอนกับคยองซูก็ยังทะเลาะตบตีกันอย่างไม่จบไม่สิ้น

     

    “ลุงครับบบ เปิดเพลงให้ฟังหน่อยยย” ผมตะโกนบอกลุงคนขับแต่ลุงก็ตอบมาว่าไม่มีแผ่นเพลงแต่มีที่เสียบแฟลชไดร์ฝ

     

    “งั้นกางมีแฟลชไดร์ฝไรงี้ป้ะ?”

     

    “อ๋อมีๆๆ”

     

    “นี่พกมาด้วย?? แบคๆเอาให้ลุงดิ้” มองแฟลชไดร์ฝในมืองงๆแต่ก็ส่งไปข้างหน้าให้ลุงอยู่ดี

     

    “ก็พกมาว่าจะเปิดกับลำโพงตัวเองอ่ะ”

     

    “อ๋อ”

     

    “เดี๋ยวเปิดเพลงแล้วคยองซูร้องเพลงให้หน่อยดิ”

     

    “นายก็ร้องไปแบคสิตัวเองก็ร้องเพลงเพราะไม่ใช่เหรอ?”

     

    “ก็อยากฟังแฟนร้องอ่ะ”

     

    “แบค” ผมมองฝ่ามืออรหันต์ที่ตบลงบนหน้าขาแบคฮยอนอย่างแรง ไอกางหันมามองหน้าผมงงๆกับเรื่องที่แบคพูดเมื่อกี้

     

    “ไม่ต้องมามองหน้ฉันเลยไอ่กาง ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน” หันไปบอกเพื่อนร่วมชะตากรรมการงงด้วยกันแล้วก็กลับไปมองสองคนที่นั่งอยู่ข้างหน้า

     

    ...แบคฮยอนกำลังนอนซบไหล่คยองซูที่ร้องเพลงให้ฟังเบาๆ

     

    ตอนไหนวะนั่น

     

    ตอนแรก็ไม่สงสัยนะ พอสงสัยเท่านั้นแหละสงสัยเลย นี่โคตรอยากรู้

     

    “แกว่าสองคนนั้น..คือ...ใช่ ใช่ไหม?”

     

    “ผมว่างั้นนะ เพราะปกติแบคคงไม่รอดสภาพดีแบบนี้แน่นอน” ก้มลงมากระซิบใกล้ๆหูมให้ได้ยินกันแค่สองคนแล้วมันก็เนียนเอาหัวหนุนไหล่เฉยเลย

     

    “สองคนนั้นอ่ะใช่ แต่แกอ่ะไม่ใช่ ออกไป๊”

     

    “เสียงดังน่าคุณ คนอื่นเค้าจะพักผ่อน นอนๆๆ” มือหนาๆของมันกดลงบนหัวผมให้ซบกับหัวของมันอีกที “ร้องเพลงให้ฟังบ้างดิ”

     

    “อ๋อ ได้สิ...เอาเพลงอะไรดี?” ไม่รู้พิษสงของเสียงผมซะแล้ว

     

    “อะไรก็ได้”

     

    “เอาเพลงไก่ย่างป้ะ ไก่ย่างถูกเผามันจะโดนไม้เสียบ แฮ่!!!” จัดการเอามือป้องหูกางๆของมันแล้วตะโกนเพลงเข้าไปในนั้น หูหนวกแน่

     

    “เอาฮาป้ะ 555555หัดทำตัวน่ารักแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่” นอกจากจะไม่ตกใจแล้วยังจะมีหน้ามาขำอีก

     

    “ขำมากไหม? น่ารักมากไหม?”

     

    “มาก 5555555555 ชอบๆๆ” เอ้าไถ ไถเข้าไป เอาหัวไถๆผมจนไฟจะติดแล้วเนี่ย

     

    “จะสิงกันเลยไหม? ไม่ต้องๆๆๆ ฉันประชดๆ”

     

    “ใครสน?”

     

    “ไม่คุยด้วยแล้ว”ฟังเพลงดีกว่า สบายใจกว่ากันเยอะ ขทนพูดกับมันมากกว่านี้ผมคงจะเป็นบ้าตาย

     

    แน่นอนว่ากว่าเราจะเดินทางมาถึงที่หมายก็เล่นกันเกือบตาย ถ้าเกิดว่ายังไม่รีบถึงชะตาไอ่กางได้ถึงฆาตแน่ๆ

     

    “อื้อหือ อากาศดีจังเลย เอื้ออออ”

     

    “ได้ยิงเหรอเพื่อนรัก”

     

    “ยิงหัวแกนั่นแหละไอ้ชาน ไปดูแลแฟนแกเลยไปไม่ต้องมายุ่งกับเพื่อนตกกระป๋องแบบฉันเลย”

     

    “โอ๋ตายละ คิมจงแดน้อยใจปาร์คชานยอลเหรอครับ?”

     

    “กวนละนะ นี่แกจะไม่ไปเรียกสองคนที่นอนซบกันบนรถลงมาหน่อยเหรอ?”

     

    “ช่างเหอะ ถ้าอยากลงเดี๋ยวก็ลงกันเองแหละ แล้วคุณคริสล่ะ?”

     

    “หลับมั้ง” จงแด

     

    “ยังหลับอยู่เหรอ?”

     

    “เดี๋ยวฉันไปตาม” ผมว่าแล้วก็เดินดุ่มๆไปที่รถคู้ที่จอดอยู่ไม่ไกล เออจะว่าไปครอบครัวผมหายไปไหนเนี่ย

     

    ครืดดด

     

    “คริส ตื่นได้แล้ว อุ้บ!!” ผมร่วงลงไปกองกับพื้นหญ้าเขียวชอุ่มสดชื่นทันทีที่นังแพนด้าอ้วนนี่มันกระโดดมาทับผม แล้วทับอย่างเดียวไม่พอ มีการกางกรงเล็บมาตะปปเสื้อด้วย หมด หมดกันชีวิตคนหล่อ เลอะเทอะไปหมดแล้ว

     

    “คริสสสสส รีบตื่นแล้วมาเอาลูกน้อยกลอยใจของนายไปจากตัวฉันเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นมันจะกลายเป็นอาหารเย็นฉันคืนนี้แน่ๆ”

     

    เงียบ เงียบครับ เงียบกริบมาก นี่หรือหลับซ้อมตาย

     

    “น้องเทาเทา” กลายเป็นไอ่กางกับจงแดที่วิ่งมาหาผม นังแพนด้าถูกอุ้มไปโดยชานยอลส่วนจงแดก็ยื่นมือมาช่วยผมแทน

     

    “เละเชียว”

     

    “รู้แล้ว” ผมปัดฝุ่นและเศษหญ้าออกจากตัว มองดูเสื้อตัวเองที่นอกจากจะเลอะแล้วยังมีรอยขาดวิ่นๆอีก แหม่ ติสท์จริงอะไรจริง

     

    “เปลี่ยนเสื้อก่อนนะ” บอกจงแดที่ยืนข้างๆแล้วเดินออกไปเปิดหลังประตูรถตู้มองหากระเป๋าตัวเองภายในกองกระเป๋าที่สุมๆกันอยู่ อีกระเป๋าลีโล่แอนด์สติชนี่ของใครเนี่ย นี่อีกลายมายเมโลดี้ แบ๊วกันเหลือเกินแต่ละคน

     

    “กระเป๋าไปไหนวะ” รื้อมาตั้งนานละยังไม่เจอกระเป๋ากรังๆของตัวเองเลยเนี่ย เอ้ะ...ผมไม่ได้ถือมันมาขึ้นรถคันนี้นี่หว่า...เจ๊ถือมานี่...อยู่ในรถม๊าแน่ๆ

     

    โว้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

     

    “ฮัลโหลเจ๊ๆ เจ๊ดูท้ายรถให้หน่อยว่ามีกระเป๋าของผมอยู่ป้ะ? เออๆ อันโสโครกๆนั่นแหละ เอามาให้หน่อยดิ เออ...เอามาเหอะเจ๊อย่าถามเยอะเลย โอ้ๆๆๆ โทษครับพี่โทษครับๆ เอามาให้หน่อยยยยยยยยยยยยยยย เออๆ” ผมกดวางสายจากมือถือ ยงโชคดีที่ผมไม่ลืมหยิบมาด้วยไม่งั้นตายแน่ๆ แต่แล้วยังไงเนี่ย กว่าเจ๊จะมานี่อีกนานไหม ผมไม่อยากอยู่สภาพแบบนี้นานๆนะ คือก่อนนี้ฝนมันตกไงหญ้านี่โตรชื้นเลย แถมยังมีโคลนติดๆมาอีก

     

    “อ่ะ เอากุญแจห้องไปแบ่งห้องกันเองนะ” กลายเป็นป๊าที่เดินมาแล้วเอากุญแจ 5 ดอกมาใส่มือผมไว้

     

    นี่มีกัน  6 คนจะแบ่งกันไงวะ?

     

    “ทุกห้องเป็นห้องเดี่ยวหมดยกเว้นอันนี้เป็นห้องเตียงคู่เลือกแล้วก็ไปเก็บของกันนะ” ป๊าพูดรัวๆเสร็จก่อนจะเดินกลับออกไป

     

    “ฮยองๆๆ เดี๋ยวผมกับคยองซูนอนห้องเตียงคู่เอง”

     

    “ไม่ถามฉันหน่อยเหรอแบค...”

     

    “โห่คยองซูอ่ะ...ตื่นมาก็ดุเลย”

     

    “อ่ะๆ กุญแจ”ผมยื่นกุญแจห้องคู่ให้สองคนนั้นไปก่อนที่จะตีกันมากกว่านี้ก่อนจะแจกจ่ายให้คนอื่นๆจนครบ

     

    “อ้าว ไม่นอนกับคุณชานยอลเหรอ?”

     

    “จะบ้าเหรอ จะไปนอนกับมันทำไม” ผมว่าคยองซูคงยังไม่ตื่นดีหรอก ถึงได้ถามคำถามแปลกๆออกมาเนี่ย

     

    “เอาไป! จู่ๆกระเป๋าแสนรักของผมก็ถูกโยนมาตรงน้า เจ้นี่มัน.... “อย่าไปบอกใครว่าเป็นน้องฉันนะ โสโครกอ่ะ”

     

    “อย่าพูดเหมือนเจ๊ไม่เคยทำอะไรงี้นะ ผมจำได้ว่าเจ๊เคยไม่อาบน้ำวันนึงเต็มๆเลยนะ”

     

    “ไอ้เด็กนี่”

     

    “อีกอย่างนะ ของผมมันอุบัติเหตุ ส่วนของเจ๊อ่ะความตั้งใจล้วนๆ”

     

    “ไปตายเลยแก ไป๊!

     

    “แค่พูดเรื่องจริงแค่นี้ไม่เห็นต้องโมโหเลย” แหย่เจ๊แล้วสนุ๊กสนุกน่ะ มองยัยเจ๊ที่เดินปึงปังๆจากไปค่อยรู้สึกชีวิตสงบขึ้นนิดนึง

     

    “อ้าว” ผมหันกลับมามองทุกคนที่หายกันไปหมดเลย ไปไหนกันวะนั่น

     

    ผมเดินลากกระเป๋ากรังๆตัวเองแบบเท่ๆ มือข้างที่ว่างก็เดินควงกุญแจแบบชิลๆ โคตรแมนเลย

     

    “อ๊า” ทิ้งตัวเองลงบนเตียงใหญ่แสนนุ่ม เห้อ เจ๊นี่เข้าใจเลือกโรงแรมนะ ดีจริง

     

    “ไงคุณ”

     

    “ไอ่กาง!!” ผมเด้งตัวกลับขึ้นมานั่งแบบงงๆ ทำไมมันเข้ามาได้ประตูก็ล็อค ผมกวาดสายตาไปรอบๆก็เห็นว่าประตูที่เชื่อมระหว่างห้องมันถูกเปิดอยู่...

     

    เออ..หนีมันไม่พ้นสินะ

     

    “เข้ามาทำไม?” ขอชีวิตสงบๆให้กันสักสิบนาทีไม่ได้เหรออออ

     

    “คิดถึง”

     

    “เอาไปเล่นที่บ้านที่ห้องเลยไหม? ล้อเล่นเว้ยไม่ต้องเข้ามา”

     

    “เคยห้ามได้ด้วย?”

     

    “จะทำอะไร?”

     

    “คิดว่าไง?”

     

    “เข้ามาฉันถีบ”

     

    “ยอม”

     

    “เฮ้ยๆๆๆๆ” ผมกระเถิบถอยหลังไปเมื่อไอ่กางเดินเข้ามาใกล้ขึ้น มันน่านัก!

     

    “เขิน??”

     

    “คนเขินเค้าทำหน้าแบบนี้กันเหรอ?”

     

    “แดง”

     

    “อะไร?”

     

    “หน้าแดง”

     

    “หื้อ?” ชี้หน้าตัวเอง

     

    “น่ารัก”

     

    “ฉันเกลียดคำนี้!! ชมอย่างอื่นบ้างได้ป้ะ แบบหล่อจัง ทำไมจงอินหล่ออย่างนี้ครับ? หัดพูดแบบนี้ได้ไหม”

     

    “พอดีว่าไม่ชอบโกหก”

     

    “นี่จะบอกว่าฉันไม่หล่อเหรอ..............ฉันหน้าตาดีกว่าแกอีก!” มั้ง

     

    “ไหนมาดูหน่อย” เอาอีกละๆ ทำไมมันชอบยื่นหน้ายื่นตาเข้ามาใกล้ๆนักนะ

     

    “นี่ไงดูซะให้เต็มตา เห็นความหล่อและออร่าฉันหรือยัง?” หันซ้ายหันขวาให้มันดูสันกรามอันแสนจะเท่ของผมพอเป็นพิธี เป็นไงล่ะ ตะลึงไปเลย

     

    “ไอ้ปาร์คชานยอล!!!!!” โอ๊ย โกรธครับโกรธ อยู่ๆมันก็ก้มลงมาหอมแก้มของผมเฉยเลย!!! ทำไมมันชอบทำแบบนี้อยู่เรื่อยนะ พอยอมให้หน่อยก็เอสใหญ่ ตลอด!!!

     

    “ครับ?”

     

    “แกมันไอ้หน้าด้าน ฉันเกลียดนาย!!

     

    “ชู่ววว เบ่าๆสิคุณ เดี๋ยวคนอื่นเค้าตกใจ”

     

    “เออ! ช่างมัน คนอื่นเค้าจะไดรู้ไงว่าแกมันเป็นคนแบบนี้” โอ๊ยยย โอ๊ยยยยยย โอ๊ยยยยยยยย

     

    “อ้าว ทำไมอยู่ก็ขึ้นล่ะคุณ”

     

    “นี่ยังจะมีหน้ามาถามอีกนะ กลับห้องไปเลยไป๊!” เอาจริงๆผมก็โมโหตัวเองด้วยอ่ะ โดนมันหลอกเนียนจับนู่นจับนี่มาหลายรอบแล้วก็ยังตามมันไม่ทัน โว้ย ทำไมเป็นแบบนี้เนี่ย!

     

    “ไม่กลับอ่ะ”

     

    “เอ้ะ บอกให้ไปก็ไปเส้”

     

    “ก็ไม่อ่ะ” นั่น! นอกจากไม่ไปแล้วยังจะมานอนเตียงคนอื่นเค้าอีก

     

    “งั้นก็นอนห้องนี่ไปเลยฉันไปห้องนั้นเองก็ได้” อยากจะรู้นักว่าใครเอามันมาอยู่ห้องข้างๆผม จะแช่งให้เหนียวไก่ติดคอเลยคอยดู

     

    “อย่าไป..” ผมมองมือที่จับข้อมือผมไว้แล้วก็หวิวกับคพูดมันแปลกๆ ทำไมต้องทำหน้าแบบนั้นด้วยน่ะ

     

    “...” โอ๊ย ผมไม่กล้าสบตามันเลย ให้ตายเหอะ

     

    “อยู่กับผมก่อนนะ”

     

    “เออๆ” แล้วผมก็ใจอ่อนทุกทีสิ

     

     

     

     

     

    =======================

     

     

     

     

     
     

    “เทาเทามากินของว่างเร็วครับ” ผมหยิบไผ่ออกมาจากกระเป๋าที่เตรียมมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะ ผมจะไม่ยอมให้เทาเทาหิวเด็ดขาด

     

    แพนด้าที่อ้วนน่ารักค่อยๆคลานขึ้นมาบนตักแล้วก็กินไผ่จากมือผม

     

    น่ารักกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

     

    “โถ่ลูกพ่อ” นี่แน่ะ จับฟัดซะเลย

     

    โชคดีที่คยองซูช่วยผมพาเทาเทาที่รักมาเที่ยวที่นี่ด้วยกันเพราะถ้าต้องให้ทิ้งเค้ามาเที่ยวผมยอมอยู่ที่ร้านยังดีกว่า

     

    ก็เจ้าหนูน้อยนี่มันน่ารักซะขนาดนี้นี่เนอะ

     

    แต่กว่าจะทำเรื่องนู้นนี่นั่นได้ก็นึกว่าจะเข้ามาด้วยไม่ได้ซะแล้ว จริงๆผมก็อยากพาเขามาเที่ยวด้วยกันแบบนี้มานานแล้ว เทาเทาชอบอากาศหนาวๆมาก ตั้งแต่ที่มาที่นี่เขาก็ดูมีความสุขมาก ดูจากการที่วิ่งพล่านไปทั่วห้องสิ

     

    น่ารักกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

     

    “เทาเทาครับครับมาหาเฮียมามะ” ผมกวัดมือเรียกน้องให้วิ่งมาหา 4 ขาป้อมๆรีบก้าวเข้ามาอย่างรวดเร็วผมขยับไปทางซ้ายทีขวาทีเป็นการแกล้งเจ้าตัวเล็ก

     

    ฮี่ๆ สนุกจัง

     

    ก๊อกๆๆๆ

     

    “ครับๆ” ผมรีบิว่งไปเปิดประตูห้องทั้งๆที่มีไอ้อ้วนน้อยเกาะหลังอยู่

     

    “สวัสดีครับ”

     

    “เอ้า คุณจงแด”

     

    “ไปกินข้าวกันไหม?”

     

    “ที่ไหนครับ?”

     

    “ไม่รู้สิ ลองไปเดินเล่นกันก่อน เอาแพนด้านายไปด้วยก็ได้”

     

    “อ้อ โอเคๆไปเลยไหมครับ?

     

    “ก็รอนายออกจากห้องอยู่เนี่ย”

     

    “โอเคๆ” ผมคว้าตัวอ้วนให้มาอยู่บนอกผมแทนนแล้วเดินตามจงแดออกไป

     

    “ให้มันอยู่นิ่งๆด้วยนะ เดี๋ยวคนอื่นเค้าจะตกใจ”

     

    “น้องเทาเทาต้องแสดงละครว่าตัวเอเป็นตุ๊กตาแพนด้าที่น่ารักนะครับเดี๋ยวจะให้รางวัล”

     

    “...” เทาเทพยักหน้า

     

    “น่ารักมากครับ”

     

    “ตรนั้นมีอะไรอ่ะ อู้ววว แจกของฟรี คริสๆๆ ไปเร็ว”

     

    “เพิ่งรู้ว่าคุณชอบของฟรี”

     

    “นายไม่ชอบเหรอ?”

     

    “ชอบสิ เทาเทาก็ชอบ”

     

    “อู้ยยย อิ่มจังตังค์อยู่ครบแน่” เราสองสามคนรีบวิ่งไปที่ที่เขาแจกอาหารให้ลองชิมฟรีรอบๆโรงแรม เรียกได้ว่าอิ่มจนพุงกางแน่นอน

     

    คาทก!

     

    ผมฝากเทาเทาให้กับคุณจงแดก่อนจะหยิบมือถือตัวเองขึ้นมาตอบข้อความในคาเคาทอล์ก

     

    /ของฝาก/

     

    ผมหลุดหัวเราะออกมานิดหน่อยเมื่อเห็นข้อความจากใครยางคน

     

    “ยิ้มออะไรคุยกับแฟนหรือไง?”

     

    “ห้ะ? ปล่าวครับ” ปากก็ตอบคำถามมือก็กดมือถือ

     

    /ไม่มีให้หรอก/

     

    / L /

     

    / J /

     

    /ไม่คุยด้วยแล้ว/

     

    / J /

     

    /ขี้งก/

     

    /ใครสอนให้หัดว่าเกอ?/

     

    /ไม่มีใครสอนหรอก อยากว่าเอง/

     

    /อาทิตย์หน้าไม่ไปรับที่สนามบิน/

     

    / who care? /

     

    / ok ครับคนเก่ง J /

     

    ผมหัวเราะใส่มือถือเพราะเด็กอวดเก่งแถวบ้านคนนึงที่พ่อแม่ของเขากำลังจะส่งมาให้ฝึงานกับผมอาทิตย์หน้า

     

    หมอนี่แสบไม่เบาเลย....

     

    “คริส ผมหนัก”

     

    “โอ๊ะ ผมขอโทษครับ เทาเทามานี่มา”

     

    “อ่ะ”

     

    “กลับโรงแรมไปหาทุกคนไหม?”

     

    “เออๆ กลับกัน ขอบคุณที่ออกมาเป็นเพื่อนนะคริส”

     

    “ยินดีเลยครับ”

     

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    TBC. เหนียวไก่










     

    อุ๊ย ใครทักเฮียมาน้าาาาาา

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×