ตอนที่ 5 : =Sup'tar Ghost= Chapter FOUR 100%
Author: AngelF
“คุณลู่หานครับ ผมจะออกไปทำงานแล้วนะครับ” แบคฮยอนส่งเสียงบอกลู่หาน เป็นคำพูดที่แบคฮยอนมักจะใช้ตลอดระยะหลังมานี้ภายหลังจากที่มีลู่หานมาอยู่ด้วย ตอนนี้แบคฮยอนเองก็มีงานทำแล้ว
หลังจากวันที่คุณลู่หานมาอยู่กับเขานี่ก็ผ่านมาเดือนกว่าแล้ว ยังไม่มีวี่แววว่าคุณลู่หานจะกลับเข้าร่างหรือความคืบหน้าเรื่องอุบัติเหตุก็ไม่มี แบคฮยอนเองก็ชินแล้วกับการที่ต้องมีคนที่ตัวเองชอบมาอยู่ห้องเดียวกัน ถึงคุณลู่หานจะชอบเอาแต่ใจหรือขี้โมโหก็เถอะ แต่บางทีคุณลู่หานเองก็ยอมเขาบ้างเหมือนกันในบางเรื่อง ถึงจะมีแบบนั้นนานๆทีก็เถอะ
“ย๊า! ใจลอยไปอวกาศแล้วหรือไงไอ้ตัวเล็ก” อีกอย่างคำเรียกเดิมที่คุณลู่หานชอบใช้ก็ยังไม่เปลี่ยนทั้งๆที่เขาก็บอกแล้วบอกอีกว่าเขาตัวไม่ได้เล็กเลย ยังจะเรียกแบบนี้อยู่อีก
“อ๊ะ!” แบคฮยอนอุทานออกมาเมื่อโดนดีดเข้าที่หน้าผากเสียงดัง
“ผมเจ็บนะครับ” แบคฮยอนยู่ปากก่อนจะคว่ำปากลงแสดงให้เห็นว่าไม่พอใจที่ตัวเองโดนทำร้าย
“นายใจลอยตอนที่ฉันพูดสองรอบแล้ว ต้องโดนลงโทษ” ลู่หานว่าพร้อมกับกอดอกหน้าเชิด ท่าประจำของเจ้าตัวเขาเลย
“ผมไปทำงานแล้วนะ อยู่บ้านไปเลยนะครับ แบร่” แบคฮยอนแลบลิ้นใส่ก่อนจะรีบวิ่งหนีออกไปจากห้อง
นี่ก็คงเป็นอีกการเปลี่ยนแปลงหนึ่งตลอดระยะเวลาที่ลู่หานมาอยู่ที่นี่คือแบคฮยอนกล้าเถียงเขากลับและกล้าท้าทายเขาแบบนี้
“กลับมาแล้วจะโดนไม่ใช่น้อยนะไอ้ตัวเล็ก” ลู่หานพูดไล่หลัง หลุดยิ้มออกมากับความน่ารักของแบคอยอนอย่างไม่รู้ตัว
ตลอดเวลาเดือนกว่าๆนี้มันทำให้ลู่หานเห็นถึงอะไรหลายๆอย่างของคนตัวเล็ก ทั้งนิสัยการกิน การนอน หรืออะไรต่างๆยิบย่อยที่ลู่หานไม่เคยต้องมาสนใจใครแบบนี้ เขารู้สึกว่ามันดูน่ารักดี ปกติเขามีนิสัยถือตัวเองเป็นหลัก เรื่องอะไรที่เขาไม่ยอมคือไม่ยอม แต่กับคนตัวเล็กมีบางครั้งที่เขาคิดว่ายอมๆไปเถอะ มันเป็นความรู้สึกแปลกใหม่ที่เขาก็ไม่ได้รู้สึกไม่ดีอะไร ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงเล็กๆของตัวเขาก็ได้ล่ะมั้ง
พอพูดถึงเขาที่ไม่เคยดูหนังตัวเองเลย ไม่เคยดูคอนเสิร์ตของตัวเองเลย หรือผลงานอะไรก็แล้วแต่ที่ตัวเองทำเขาไม่เคยเปิดผ่านมันเลย ตอนนี้เขาได้ดูแทบทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นละคร หนัง เพลง โฆษณาแทบทุกอย่างตอนนี้เขาได้ดูมันหมดเพราะไอ้ตัวเล็กนั่น! ตลกดี!เขาก็พึ่งรู้ว่าตัวเองทำอะไรไปเยอะแยะมากมายขนาดนี้
ตอนนี้ให้ความรู้สึกเหมือนตัวเองต้องกลายไปเป็นแฟนคลับตัวเองซะงั้น ไอ้ตัวเล็กนั่นก็เหลือเกิน พอเขารู้หน่อยว่าตัวเองเป็นแฟนคลับเขาจะรักษาท่าทีหน่อยหรือก็ไม่ เล่นเอาทุกอย่างที่เป็นของที่เกี่ยวกับเขามาโชว์ซะงั้น ยิ้มร่าโชว์เหมือนกับภูมิใจนักหนาเห็นแล้วก็อดจะหมั่นเขี้ยวไม่ได้
พอคิดแล้วไปเล่นกับไอ้ตัวเล็กที่บริษัทดีไหมนะ?
แต่ไอ้ตัวเล็กเคยห้าม?
อ่า... นั่นซิ นี่เขาคือลู่หานนะ ถ้าฟังคนอื่นก็ไม่ใช่ลู่หานน่ะซิ?
ลู่หานคิดแล้วก็ได้แต่ยิ้มกับตัวเอง รอเวลาอีกซักพักค่อยไปหาดีกว่า
“แบคฮยอนเอาตรงส่วนนี้ไปแฟกซ์ส่งให้ลูกค้าทีนะ พี่ต้องทำงานตรงนี้ก่อน” รุ่นพี่คนหนึ่งในแผนกที่แบคฮยอนอยู่พูดขึ้น ก่อนจะเอางานที่บอกมาวางไว้ที่โต๊ะของแบคฮยอนก่อนจะเดินกลับไปที่โต๊ะทำงานของตัวเองโดยไม่รอฟังคำตอบรับของคนตัวเล็กเลย
แบคฮยอนทำงานอยู่ในแผนกการตลาดในบริษัทที่ทำเกี่ยวกับสินค้าด้านเครื่องสำอางชนิดหนึ่ง ด้วยความที่พึ่งเข้ามาทำงานได้ไม่นานแบคฮยอนจึงมีหน้าที่เป็นเหมือนส่วนหนึ่งเล็กๆของแผนก และส่วนมากงานที่แบคฮยอนจะได้ทำช่วงนี้คืองานจิปาถะทั้งที่รับมาจากหัวหน้าแผนกและจากรุ่นพี่ในแผนก ก็นะ! เขาเป็นน้องใหม่ก็พอเข้าใจแหละ
“โย่! โย่! แม๊น! อันนยองไอ้ตัวเล็ก” เสียงนุ่มแสนคุ้นเคยดังอยู่ข้างหู ทำให้แบคฮยอนที่ยืนเหม่อรอส่งแฟกซ์อยู่สะดุ้งด้วยความตกใจ
“อ๊ะ! คุณลู่หาน!!” แบคฮยอนตกใจอุทานเรียกชื่อของอีกคนพรางรีบยกมือขึ้นมาปิดปากมองไปรอบๆตัวเองว่ามีใครอยู่แถวนี้ไหม แต่ดีหน่อยที่ทุกคนต่างก็กำลังง่วนอยู่กับงานของตัวเองอยู่
“คุณลู่หานมาได้ยังไง ผมบอกแล้วว่าอย่าโผล่มาเงียบๆแบบนี้ ผมตกใจนะครับ” แบคฮยอนเอ็ดอีกคนไปเมื่อตั้งสติได้ ใจเขาจะวายวันละหลายๆรอบ
“บ่นมากจังไอ้ตัวเล็ก แก่เร็วฉันไม่รู้ด้วยนะ” ลู่หานดีดเหม่งแบคฮยอนเบาๆ ยกยิ้มส่งให้คนตัวเล็กอย่างไม่รับรู้ความผิดของตัวเองเลยซักนิด
“แต่ผมบอกคุณลู่หานแล้วว่าอย่ามะ....” แบคฮยอนชะงักคำพูดไว้เมื่อมีคนเดินเข้ามาตรงที่เขาอยู่พอดี
“แบคฮยอน! คุยอยู่กับใครน่ะ?” ผู้มาใหม่เอ่ยถาม เป็นรุ่นพี่ที่สั่งให้แบคมาส่งแฟกซ์เมื่อกี้นี่เอง
“อ๊ะ! เปล่าครับ ไม่ได้คุยกับใครรุ่นพี่มีอะไรหรือเปล่าครับ?” แบคฮยอนแกล้งกลบเกลื่อนด้วยการถามคำถามอีกคนไป
“ไอ้ตัวเล็กขี้โกหกนะเรา” ลู่หานยืนกระซิบอยู่ข้างๆแบคฮยอน เจ้าตัวจะหันไปเอ็ดก็ไม่ได้รุ่นพี่สาวยังยืนอยู่ตรงนี้ ใจอยากจะหันไปตีแรงๆซักครั้ง
“ฉันจะมาถามว่าส่งแฟกซ์ให้ลูกค้าเสร็จหรือยัง ฉันจะโทรไปแจ้งทางนั้น เห็นหายมานาน ตกลงนายคุยกับใครอยู่หรือเปล่า?” รุ่นพี่สาวเอ่ยถาม ทิ้งความสงสัยของตัวเองไป
“อ๋อ เสร็จแล้วครับ พึ่งส่งเสร็จเมื่อกี้ครับรุ่นพี่” แบคฮยอนรีบเอ่ยตอบ จงใจที่จะไม่ตอบคำถามสุดท้ายของรุ่นพี่สาว
“ทำงานชักช้าระวังโดนไล่ออกน๊า” ลู่หานยังไม่เลิกที่จะแกล้งให้แบคฮยอนตะบะแตก ทั้งขำทั้งเอ็นดูกับท่าทางกลืนไม่เข้าคายไม่ออกของคนตัวเล็ก
“ร..รุ่นพี่จะใช้งานอะไรผมอีกไหมครับ คือ..ผมว่าจะไปเข้าห้องน้ำหน่อย แฮ่ๆ” เมื่อโดนรุ่นพี่สาวจ้องอย่างจับผิดอยู่ซักพักแบคฮยอนจึงรีบชิ่งขอตัวไปเข้าห้องน้ำเป็นอันตัดบทสนทนาก่อนจะโดนเอ่ยถามอะไรออกมามากกว่านี้
“คุณลู่หาน! ออกมาเลยนะ ผมรู้ว่าคุณลู่หานได้ยิน” แบคอยอนเรียกชื่อคนที่มาก่อกวนเขาขึ้นมาหลังจากเดินมาที่ห้องน้ำแล้วจัดการล็อคประตูลงกลอนเรียบร้อย พอพูดจบลู่หานก็มาปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าของคนตัวเล็ก แบคฮยอนสะดุ้งตกใจถอยหลังไป
“คุณลู่หานครับ ผมบอกแล้วว่าอย่าโผล่มาแบบนี้ ผมหัวใจจะวาย” แบคฮยอนว่า กอดอกหน้ายู่
“เอ้า! ตกลงจะเอายังไงแน่ไอ้ตัวเล็ก ก็เห็นเรียกฉันก็มา เฮ้ย! กลายเป็นคนเอาแต่ใจตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย เอ้อออ” ลู่หานกอดอกยู่หน้าบ้าง ไม่ได้สำนึกอะไรเลยจริงจริ๊ง
“คุณลู่หาน!” แบคฮยอนเรียกเสียงดัง
“เรียกทำไมเสียงดังอยู่ใกล้กันแค่นี้” ลู่หานลอยหน้าลอยตาตอบ
“ผมบอกแล้วว่าไม่ให้คุณลู่หานมาที่ทำงานผมไม่ใช่หรอครับ? ทำไมคุณลู่หานไม่ฟังผมเลย ดื้อชะมัด” แบคฮยอนว่า ประโยคหลังได้แต่บ่นขมุบขมิบกับตัวเอง
“ก็ฉันอยากมา ฉันหายตัวได้ จะไปไหนก็ได้ พอฉันอยากมา ฉันก็มา จบไหม?” ลู่หานเลิกคิ้วส่งให้แบคฮยอนเป็นเชิงบอกว่ามีอะไรจะพูดอีกไหม
“เฮ้อ! ผมกลับไปทำงานแล้วนะครับ คุณลู่หานก็กลับไปรอที่ห้องนะครับ” แบคฮยอนพูดจบก็เดินหนีลู่หานออกมาจากห้องน้ำก่อนจะกลับไปนั่งที่โต๊ะทำงานของตัวเอง แต่มีหรือที่คนขี้เอาแต่ใจจะยอม
กล้าดียังไงมาเดินหนีลู่หานแบบนี้
“อ๊ะ! “ แบคฮยอนตกใจเผลออุทานออกมาเสียงดัง เมื่อจู่ลู่หานก็โผล่หน้ามาตรงหน้าโต๊ะทำงานของแบคฮยอน คนที่นั่งอยู่ข้างๆโต๊ะทำงานของแบคฮยอนก็หันมากันว่าอีกคนเป็นอะไร
“พ..พอดีผมทำของหล่นน่ะครับ ขอโทษทีครับรุ่นพี่” แบคฮยอนก้มหัวขอโทษรุ่นพี่ภายในแผนกที่หันมามองตนเป็นตาเดียว
“โกหกรอบที่สองแล้วนะไอ้ตัวเล็กระวังจะบาปหนักน๊า” ลู่หานเองก็ยังคงรักาไว้ซึ่งต่อมความกวนประสาทไม่เสื่อมคลาย
“คุณลู่หานครับ ขอร้องละกลับไปห้องก่อนผมทำงานอยู่” แบคฮยอนกระซิบเสียงเบาด้วยกลัวคนอื่นจะหันมามองว่าตัวเองคุยอะไรอยู่คนเดียว
“ก็ทำไปซิ ฉันไม่ได้มัดแขนขานายไว้ซักหน่อยไอ้ตัวเล็ก” ลู่หานยังคงสกิลซึ่งความหน้ามึนไว้อยู่ทำเอาแบคฮยอนปวดขมับขึ้นมาตะหงิดๆ
“แต่คุณลู่หานกำลังรบกวนสมาธิผมอยู่นะครับ” แบคฮยอนพูดตอบเสียงเบา
“ก็เข้าใจแหละว่าฉันหน้าตาดี นายอยากจะมองบ่อยๆก็ไม่แปลก แต่ถ้าไม่ทำงานก็ไม่มีเงินใช้นะไอ้ตัวเล็ก” ลู่หานพูด พยายามกลั้นขำที่แกล้งคนตัวเล็กให้หัวเสียด้สำเร็จ
เป็นวิญญาณก็สนุกดีนะลู่หานว่า
“คุณลู่หาน!” คราวนี้แบคฮยอนเหลืออดเผลอเรียกของอีกคนออกมาเสียงดัง คราวนี้รุ่นพี่ในแผนกเริ่มมองมาที่แบคฮยอนตาเขียว บ่งบอกว่าอีกคนกำลังรบกวนสมาธิของพวกเขาอยู่
“ข..ขอโทษครับ” แบคฮยอนรีบลุกขึ้นก้มหัวขอทารอบแผนกอีกรอบ ก่อนจะนั่งลงแล้วส่งสายตาไม่พอใจไปให้คุณวิญญาณสุดหบ่อที่ดูจะไม่ทุกข์ร้อนอะไรเลยซักนิด
“ขอร้องละครับ กลับไปก่อน ผมขอทำงานก่อนนะครับ นะครับคุรลู่หาน” แบคฮยอนพูดเสียงอ่อน ไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาพูดกับอีกฝ่ายแล้ว ได้แต่พูดบอกดีๆแล้วก็ส่งสายตาเป็นเชิงขอร้องไปให้อีกคน
“เหอะ! งั้นก็ทำไปเลยไอ้งานเนี่ย ฉันมันก็แค่วิญญาณไม่มีใครสนใจหรอก ฉันมันไม่ใช่ลู่หานซุป’ตาร์อันดับหนึ่งของเกาหลีแล้วนี่ เหอะ! ถ้าคนอื่นมองเห็นฉันได้ฉันก็ไม่มาหานายให้เหนื่อยหรอ! งอนแล้วไอ้ตัวเล็ก!”
ลู่หานตัดพ้อยาวเหยียดก่อนจะหายตัวไป
แบคฮยอนได้แต่ถอนหายใจออกมา กลับไปค่อยง้อตอนนี้ขอทำงานก่อนเถอะ สายตาแปลกๆของคนรอบข้างเริ่มมองมาที่เขาแล้ว เขายังไม่อยากโดนหาว่าเป็นบ้าตอนนี้หรอกนะ
50%
“กลับมาแล้วครับ” แบคฮยอนถอดรองเท้าเก็บเข้าชั้น ก่อนจะเดินเข้ามาภายในห้อง ไม่มีเสียงตอบรับจากคุณผีสุดหล่อ แบคฮยอนได้รับเพียงความเงียบตอบกลับมาเท่านั้น
“คุณลู่หาน...” แบคฮยอนลองเอ่ยเรียกชื่ออีกคนแต่ก็ยังไม่เห็นอีกคนโผล่มา
“คุณลู่หานครับ ผมซื้อราเมงมา ไม่ออกมากินหน่อยหรอครับ?” แบคฮยอนลองส่งเสียงพูดไปอีกรอบแต่ยังไงก็ได้รับเพียงความเงียบตอบกลับมาและไร้วี่แววของคุณผี
เมื่อพยายามเรียกอีกคนอยู่ซักพักแต่ก็ไม่มีแม้แต่หน้าหล่อๆโผลมา แบคฮยอนจึงเดินเข้าไปในครัวเพื่อจัดราเมงที่ซื้อมาลงถ้วย สำหรับสองคน
อ่า.... ผมลืมบอกไประยะเวลาเดือนกว่ามานี้ คุณลู่หานที่เคยจับต้องข้าวของไม่ได้หรือกินอะไรไม่ได้ ตอนนี้คุณลู่หานเริ่มกินได้จับต้องข้าวของต่างๆได้แล้ว ถ้าเปรียบเทียบตอนนี้คุณลู่หานก็เหมือนคนปกติที่มีร่างกาย ต่างกันก็แค่คุณลู่หานยังทำให้ใครมองเห็นตัวของคุณลู่หานได้ แล้วก็จับต้องตัวคนอื่นไม่ได้เหมือนจับต้องข้าวของ
“คิดจะเอาของกินมาง้อรึไงไอ้ตัวเล็ก” เสียงนุ่มดังขึ้นข้างหู แบคฮยอนที่ตกใจเผลอสะดุ้งถอยหลังชนเข้ากับแผงอกของคนตัวโตที่โผล่มายืนซ้อนอยู่ข้างหลังของตัวเอง
“เปล่านะครับ ผมแค่เห็นว่าราเมงร้านนี้อร่อยก็เลยซื้อมาเผื่อ” แบคฮยอนตอบปัดๆ ไม่กล้าหันหน้ากลับไปหาอีกคน
“เหอะ! งั้นก็แล้วแต่เลย” ลู่หานว่าเสียงงอนๆ ก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบถ้วยราเมงมาถ้วยหนึ่งแล้วเดินออกไปจากครัว เดินไปนั่งลงที่โซฟาหน้าทีวีก่อนจะกดเปิดโทรทัศน์ดู แกล้งเมินคนตัวเล็กที่ถือถ้วยราเมงตามหลังออกมาแล้วนั่งลงข้างๆของตัวเอง
“คุณลู่หาน...” แบคฮยอนลองเรียกชื่ออีกคน แต่ลู่หานก็แกล้งทำเป็นนิ่งเฉย สนใจแค่โทรทัศน์ข้างหน้าตัวเอง
“คุณลู่หาน...” คราวนี้แบคฮยอนเพิ่มสกิลเสียงออดอ้อนเข้าไปพร้อมกับยกมือขึ้นสะกิดแขนของคุณผีสุดหล่อเบาๆ
“อะไร?” คราวนี้ได้ผลลู่หานยอมหันกลับมามองคนตัวเล็ก ก่อนจะสบเข้ากับตาของคนตัวเล็กที่มองจ้องตนตาแป๋วอย่างออดอ้อน
“ยังไม่หายงอนผมหรอครับ?” แบคฮยอนถามยังวายส่งสายตาออดอ้อนกลับไปอีก
“ยังไม่หาย คิดว่าแค่ทำตาเหมือนลูกหมาแล้วฉันจะหายหรือไงไอ้ตัวเล็ก ประเมินลู่หานคนนี้ผิดไปหน่อยนะ นายกล้าเมินฉันเชียวนะไอ้ตัวเล็ก” ลู่หานหันหน้าหนี ยกมือขึ้นกอดอกเชิดหน้าแสดงท่าทางหยิ่งๆประจำตัวของตัวเอง
“ก็คุณลู่หานไปก่อกวนผมตอนผมกำลังทำงานนี่ครับ ผมไม่ได้ตั้งใจจะเมินซะหน่อย” แบคอยอนพยายามอธิบาย
นี่แหละครับ นิสัยอย่างหนึ่งที่คุณลู่หานบอกว่าไม่ชอบพอๆกับการโดนขัดใจคือ ไม่ชอบให้ใครเมินตัวเอง
“ฉันก่อกวนที่ไหน ไอ้ตัวเล็กนอกจากจะเมินฉันแล้วนายยังกล้าใส่ร้ายฉันอีกหรอ?” ลู่หานว่าเสียงดุๆ ลู่หาน “ก่อกวนหรอ? ก่อกวนที่ไหน? ฉันเนี่ยนะ? ไม่เห็นจำได้เลย ฉันอุตส่าห์แวะไปหา ไปคุยด้วย หาว่าฉันไปก่อกวน งอนคูณสองไอ้ตัวเล็ก” ลู่หานสะบัดหน้าใส่อีกคน ด้วยท่าทางงอนๆ (ตกลงเรื่องนี้พี่หานเคะหรอ?)
“โอเคครับ คุณลู่หานไม่ได้ไปก่อกวนเลย ผมผิดเองแหละ” แบคฮยอนยอมตอบรับไปด้วยไม่รู้ว่าจะพูดยังไงต่อ
“นี่ประชดป๊ะเนี่ย?” ลู่หานหันมามองหน้าอีกคนเมื่อได้รับคำตอบกลับมาแบบนั้น
“เปล่าครับ ก็คุณลู่หานบอกเองว่าไม่ได้ก่อกวน ก็แสดงว่าไม่” แบคฮยอนตอบ
“ไอ้ตัวเล็ก นายทำหน้าเหนื่อยใจ” ลู่หานหรี่ตามองอย่างไม่พอใจ
“ไม่เต็มใจง้อก็ไม่ต้องง้อ ฉันหายเองได้ จบนะ” ลู่หานว่าอย่างงอนๆ แล้วหายตัวไป
“คุณลู่หาน..” แบคฮยอนเรียกเมื่อเห็นอีกคนหายไป
“คุณลู่หานครับ!” คราวนี้แบคฮยอนเรียกเสียงดังขึ้น
“เรียกทำไมอีก?” ลู่หานโผล่กลับมานั่งลงที่เดิมข้างๆแบคฮยอนอีกครั้ง
“ก็คุณลู่หานยังไม่หายงอน” แบคฮยอนทำตาละห้อย
“ก็นายไม่เต็มใจง้อ นี่ฉันก็กำลังจะไปง้อตัวเองไง ไม่ดี?” ลู่หานว่าประชดๆ
“ไม่ดีครับ” แบคฮยอนส่ายหน้าประกอบคำพูด
“แล้วตกลงจะเอาไง?” ลู่หานเริ่มไม่สบอารมณ์
“ก..ก็จะง้อ...” แบคฮยอนก้มหน้ามองตักตัวเองอย่างคิดหนัก
“ก็บอกว่าไม่เต็มใจฉันหายเองได้” ลู่หานบอก
“พี่ลู่หาน แบคฮยอนขอโทษ หายงอนแบคนะครับ” แบคฮยอนกลั้นใจพูดออกไป พร้อมทั้งขยับเข้าไปเกาะแขนอีกคนส่งสายตาออดอ้อนไปง้อคนตัวโต แบคฮยอนงัดทุกสเต็ปที่ตัวเองมีออกมาใช้ง้ออีกคน
ลู่หานหันมามองสบตาคนตัวเล็กที่เกาะแขนตัวเองอยู่ด้วยความแปลกใจที่คนตัวเล็กแทนตัวเองด้วยชื่อแล้วเรียกตัวเขาว่าพี่ ครั้งแรกเลยมั้งที่คนตัวเล็กนี่พูดแบบนี้
แบคฮยอนที่เห็นอีกคนหันมามองตัวเองแบบนั้นก็ต้องรีบก้มหน้าหลบด้วยความเขินอาย
ทำเองเขินเองแท้ๆแบคฮยอน ไม่น่าเลย
แบคฮยอนแกล้งหันไปสนใจถ้วยราเมงที่โดนเมินตั้งแต่ที่คนตัวโตงอน ตั้งหน้าตั้งตากินราเมงในถ้วยเพราะไม่รู้จะทำยังไงกับสถานการณ์ในตอนนี้
คุณลู่หานเงียบเลย จะหายงอนหรือยังนะ
แบคฮยอนคิดแล้วก้อดไม่ได้ที่เหลือบไปมองคุณผีสุดหล่อ แล้วก็เจอเข้ากับสายตาของอีกคนที่มองตัวเองอยู่ เป็นสายตาที่แบคฮยอนมองแล้วรู้สึกเขินจนหน้าจะระเบิดยังไงยังงั้น
“น่ารักดี” จู่ๆลู่หานที่เงียบไปก็พูดขึ้นมา แบคฮยอนจึงต้องหันมามองอีกคนอย่างงๆ
“ครับ?” แบคฮยอนเอียงคอถาม อะไรน่ารัก? คุณลู่หานหมายถึงอะไร
“ฉันบอกว่านายพูดแบบเมื่อกี้ น่ารักดีฉันชอบ” ลู่หานตอบกลับ ส่งยิ้มให้คนตัวเล็ก
อ่า... แย่แล้วล่ะ แบคฮยอนว่าหน้าเขาต้องระเบิดไปแล้วแน่ๆ ใครบอกกันว่าเขาเลิกเขินคนคนนี้แล้ว
“ราเมงนายท่าจะอร่อยชิมหน่อยซิ” ลู่หานพูดขึ้น เมื่อคนตัวเล็กเอาแต่สนใจราเมงในถ้วย เขารู้ว่าคนตัวเล็กกำลังเขินและเขาก็อยากแกล้งอ่ะนะ
“ค..ครับ? ข..ของคุณลู่หานก็เหมือนกับผมนั่นแหละครับ” แบคฮยอนตอบทั้งๆที่ไม่ยอมหันไปมองอีกคน อาการพูดติดขัดกลับมาอีกครั้ง
“ก็ฉันอยากชิม” ลู่หานว่าพร้อมกับก้มเอาตะเกียบของตัวเองไปคีบเอาเส้นในถ้วยของอีกคนมากินทั้งๆที่แบคฮยอนยังกินอยู่
ลู่หานลู่หานดูดเอาเส้นจากถ้วยของคนตัวเล็กขึ้นมา แล้วก็เหมือนฉากในนิยายที่พระนางกินราเมงถ้วยเดียวกันแล้วคีบกินเส้นเดียวกัน ลู่หานกับแบคฮยอนมองสบตากันเพราะตอนนี้ทั้งคู่กำลังกินราเมงเส้นเดียวกันอยู่ หน้าของทั้งสองคนห่างกันแค่คืบ ต่างคนต่างอึ้งมองตากินนิ่ง
จุ๊บ!
เป็นลู่หานที่ตั้งตัวได้ก่อนแล้วฉยโอกาสจุ๊บปากคนตัวเล็กที่ยังนิ่งค้างอยู่เร็วก่อนจะผละออกมานั่งกินราเมงถ้วยของตัวเองโดยไม่ได้รับรู้เลยว่าคนที่โดนขโมยจุ๊บไปเมื่อกี้จะทำหน้ายังไงอยู่
“ราเมงถ้วยนายอร่อยกว่านะไอ้ตัวเล็ก” ลู่หานพูดทั้งที่ตัวเองยังกินแล้วจ้องมองไปที่โทรทัศน์ไม่วางตา แอบอมยิ้มหน่อยๆ พยายามจะกลั้นไม่ให้ตัวเองหลุดยิ้มออกมาให้ได้มากที่สุด
“ป..ปิด ท..โทร..ร..ทัศน์ ด้วยนะครับ ผ..ผมป..ไปอาบน้ำนอนก่อน” แบคฮยอนพยายามจะดึงสติตัวเองกลับมาให้ได้มากที่สุด เอ่ยบอกกับอีกคนไป แล้วรีบวิ่งหนีเข้าห้องตัวเอง
ฮื่อออ แบคฮยอนจะไม่ไหวแล้ว
แบคฮยอนพูดกับตัวเองหลังจากเข้ามาในห้องแล้วทิ้งตัวลงพิงหลังกับประตูอย่างหมดแรง รู้สึกได้เลยว่าหน้าเขาตอนนี้คงแดงเถือกเหมือนสีของพริกไปแล้วแน่ๆ ทำไมใจเต้นแรงแบบนี้นะ
ไม่เอาซิคุณหัวใจ แบคฮยอนจะทนไม่ไหวแล้วนะ
“
.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+
ไม่มีอะไรมากสำหรับตอนนี้
แค่อยากจะบอกว่าขอบคุณที่อ่านกันนะคร๊า
มาต่อให้ครับ100%แล้ว ไม่รู้จะชอบกันไหม
ขอบคุณทุกคอมเม้นท์มาก แล้วไรท์จะรีบมาต่อนะคะ
พูดคุยติดแท็ก #FICSuptar
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ก่อกวนเค้าไม่พอ ไปจุ๊บเค้าอีก
หึ่ยยยย 555555