ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [KrisLay] มายชิง ~☆❤

    ลำดับตอนที่ #6 : มายชิง ตอน 06 ::: เล่นบาสกัน

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 865
      8
      8 ธ.ค. 56

    [Fic] มายชิง

    ตอนที่ 6: เล่นบาสกัน

    Fiction by 2nd Admin

     

     

    .

     

    .

     

    .

     

     

                “ไม่มีทาง! ฉันไม่มีทางร่วมทีมกับไอ้ลูกครึ่งนี่แน่ๆ!

     

                ถ้าคริสไม่เคยชินกับคำเรียกเหน็บแนมนั้นมาตั้งแต่เด็กๆ เขาคงได้โดดเข้าใส่แฝดคนน้องของสองแฝดมังกรแล้วซัดกันนัวไปแล้ว แต่เพราะมันชินชาจนไม่รู้จะโกรธไปทำไม ที่ใครๆ เรียกเขาแบบนั้นมันก็ถูก เขาไม่ใช่คนเกาหลี คุณพ่อเป็นคนจีนคุณแม่เป็นแคนาดา แล้วเขาจะเป็นอะไรได้

     

                คริสเคยชอบที่นี่แต่ไม่ใช่ในตอนนี้ เขายืนอยู่กลางสนามบาสเก็ตบอลในร่มของโรงเรียน ที่ยืนประจัญหน้าอยู่อีกฝั่งนั้นคือสองแฝดกับพรรคพวกอีกสองคน และที่ยืนขวางอยู่ตรงกลางระหว่างเขากับพวกนั้นก็คือคิมจุนมยอน หัวหน้าห้องของเขาดีใจนักหนาตอนที่คริสตอบตกลงเข้าร่วมทีมบาสเก็ตบอลของโรงเรียน คริสไม่รู้มาก่อนว่าในทีมมีเจ้ากลุ่มนี้อยู่ด้วย และดูท่าว่าฝ่ายนั้นก็คงไม่รู้ว่าจุนมยอนมาทาบทามเขา เสี่ยวหลงถึงได้โวยวายอย่างนั้น

                “แต่ทีมเรายังขาดอยู่อีกหนึ่งคนนะ แล้วอี้ฟานก็ตัวสูงพอๆ กับพวกนาย เค้าวิ่งเร็วมากเลยด้วย”

                “แต่เล่นบาสฯไม่เป็น ฉันพูดถูกมั้ย?” ต้าหลงที่ยืนกอดอกอยู่ข้างๆ น้องชายฝาแฝดย้อนถามหัวหน้าห้องแต่แค่นยิ้มใส่มนุษย์แว่นที่อยู่เลยไปทางด้านหลังของจุนมยอนอีกที “แค่ตัวสูงกับวิ่งเร็วมันไม่ได้เป็นประโยชน์หรอกนะ ชู๊ตลูกบาสฯเป็นรึเปล่าก็ยังไม่รู้”

                “นายอยากจะลองดูหน่อยมั้ย อี้ฟาน?” จุนมยอนหันไปถามคนที่ถูกสบประมาทแล้วรอลุ้น คริสยังไม่ทันขยับปากด้วยซ้ำ เสี่ยวหลงแฝดน้องก็แค่นเสียงหัวเราะ

                “เสียเวลาเปล่า หมอนี่เลี้ยงลูกบาสฯไม่เป็นด้วยซ้ำมั้ง” เสียงหัวเราะจากกองหนุนอีกสองคนข้างหลังดังสนับสนุนได้น่ารำคาญดี ไม่แปลกที่คนพวกนีจะคิดแบบนั้น สามปีที่เรียนที่นี่เขาไม่เคยเล่นกีฬาอะไร(ให้เพื่อนเห็น)เลยซักอย่าง ภาพลักษณ์ของคริสคงเป็นไอ้ทึ่มเหลาะแหละที่ไม่ได้เรื่องเท่านั้น

                “นายน่าจะลองทดสอบเค้าดูก่อนนะ” จุนมยอนลองเสนอทางเลือกให้กับต้าหลง สองแฝดนี้มองเผินๆ แล้วคล้ายกันมากก็จริง แต่คนที่เป็นหัวหน้าห้องมาสามปีอย่างเขาพอจะแยกนิสัยสองคนนี้ออก เสี่ยวหลงแฝดน้องใจร้อนขี้โวยวาย ส่วนต้าหลงคนพี่นั้นใจเย็นกว่า พูดน้อยแต่หนัก และเป็นคนที่จะคอยบงการอยู่เบื้องหลังอย่างแท้จริง ถ้าต้าหลงเห็นด้วย เสี่ยวหลงก็คงไม่ขัด

     

                คริสไม่หลบตาตอนที่อีกฝ่ายเขม่นมอง เขารู้ว่ากำลังถูกประเมิน แต่ไม่ว่าใครก็ไม่มีทางรู้จักคริสได้ดีกว่าตัวเขาเอง ฝ่ายนั้นคงนึกว่าจะให้เขาเป็นตัวตลกในสนามได้ง่ายๆ ถึงได้พยักหน้า

                “เอางั้นก็ได้”

                “ต้าหลง!” แฝดน้องคิดจะค้านแต่ก็ต้องชะงักเมื่อมือใหญ่ยกขึ้นห้าม มังกรผู้พี่เลื่อนสายตามาที่หัวหน้าห้องแล้วก็ยิ้มเยาะ

                “อยากเห็นแฟนนายถูกหัวเราะเยาะก็ตามใจ”

                จุนมยอนแสร้งทำเป็นหันมองคริสที่ยืนเงียบอยู่ข้างหลังแต่กรอกตาอย่างหน่ายๆ ก่อนจะหันกลับมายิ้มให้ต้าหลง

                “จะทดสอบแบบไหนดี?”

     

                แฝดผู้พี่ชี้นิ้วโป้งข้ามไหล่ไปทางแป้นบาสเก็ตบอลที่อยู่ด้านหลัง แล้วเพยิดหน้าให้มนุษย์แว่นหันไปมองข้างหลังตัวเองเช่นกัน

                “ระยะทางจากใต้แป้นแดนนี้ไปจนถึงแดนที่นายยืนอยู่ ถ้านายขวางไม่ให้ฉันทำแต้มได้สามในห้าลูก ถึงจะถือว่าผ่านการทดสอบ” ได้ยินอย่างนั้นเสี่ยวหลงที่หน้าบึ้งมาตลอดก็ยิ้มออก หันไปตีมือกับเพื่อนฝูงอย่างรู้กัน มนุษย์แว่นนั่นท่าทางจะไม่เคยเล่นกีฬาด้วยซ้ำ ไม่มีทางวิ่งไล่ทันพี่ชายฝาแฝดของเขาแน่ๆ

                “แบบนี้ไม่โหดไปหน่อยเหรอ อี้ฟานเค้าเพิ่งลงสนามครั้งแรก แล้วนายก็...”

                “ถ้าวิ่งตามฉันไม่ทัน ก็ไม่สมควรร่วมทีมเดียวกัน”

                “แต่ว่า...” จุนมยอนยังคิดจะค้านแต่คริสจับบ่าเขาไว้ หลังจากเงียบมานาน เด็กหนุ่มเอ่ยคำแรกและทำให้เสียงหัวเราะของกองหนุนเงียบลง

     

                “ฉันรับคำท้า”

     


     


     

     

                คริสบอกจุนมยอนว่าเขาจะเอาของไปเก็บก่อนแล้ววิ่งขึ้นมาบนสแตนด์ข้างสนาม บนที่นั่งชั้นล่างสุดนั้นเขาวางกระเป๋าสะพายเอาไว้ ข้างๆ กระเป๋ามีตุ๊กตาขนาดเท่าฝ่ามือห้อยอยู่ มองเผินๆ อาจเหมือนตุ๊กตากระต่ายเพราะมีผิวขาว มีหูสีชมพูและหางปุกปุยเป็นก้อนกลม แต่ถ้ามองดูใกล้ๆ ให้ชัดๆ จะเห็นว่าตุ๊กตาตัวนั้นมีตา จมูก และปาก คล้ายมนุษย์ไม่มีผิด

                “อยู่ตรงนี้โอเคมั้ย?” เจ้าตัวเล็กกรอกเพียงดวงตากลมโตมามองคริส ตัวยังนั่งนิ่งไม่ยอมขยับ ริมฝีปากสีแดงเล็กส่งเสียงเจื้อยแจ้ว

                “สบายมาก เมื่อไหร่จะเล่นบาสฯกันซักที”

                “ใกล้แล้วล่ะ” คริสลูบใบหูนิ่มสีชมพูเบาๆ เมื่อเจ้าตัวเล็กงอแง ตอนแรกเขาว่าจะเก็บชิงน้อยเอาไว้ในกระเป๋า ให้แอบดูตามช่องระหว่างที่เขาเล่นบาสฯ แต่เจ้าตัวเล็กไม่ยอม บอกว่ามันอึดอัด คริสก็ว่าอย่างนั้น ชิงน้อยถึงได้กลายมาเป็นตุ๊กตาห้อยกระเป๋าอยู่แบบนี้ เห็นเจ้าตัวเล็กที่ไม่เคยอยู่นิ่ง แต่ต้องมายอมนั่งนิ่งๆ เพราะอยากเห็นเขาเล่นบาสฯแล้วคริสก็อดจะเอ็นดูไม่ได้ ในสนามบาสฯตอนนี้ไม่มีใคร แต่ขนาดว่าไม่มีใครเห็น ชิงน้อยก็ยังไม่ยอมขยับเลย คริสหัวเราะเบาๆ แล้วปัดนิ้วกับสองหูยาวเล่น “อย่ามัวแต่สนุกนะ ระวังตัวด้วย ถ้ามีใครมายุ่งหรือเห็นท่าไม่ดี นายต้องรีบปีนเข้าไปในกระเป๋าฉันทันทีนะรู้มั้ย?”

                “รู้แล้วล่ะน่า คริสบอกเป็นสิบๆ รอบแล้วนะ”

                “ฉันไปล่ะ” เด็กหนุ่มลุกขึ้นยืนแล้วหันหลัง แต่ยังไม่ทันก้าวขาก็หันกลับมาใหม่ “ชิง”

                “หือ?”

                “ยื่นมือออกมาซิ แบบนี้” คริสทำให้ดูก่อน ชิงน้อยก็ทำตาม ยื่นมือออกมาแล้วยกมือตั้งขึ้นเหมือนเวลาที่จะบ๊ายบายกัน เด็กหนุ่มยิ้มแล้วก็ตีปลายนิ้วชี้ลงไปที่ฝ่ามือเล็กๆ นั้น

     

                “ไฟท์ติ้ง!

     

                ตาคู่โตยิ่งเบิกกว้างเหมือนเวลาที่เจ้าตัวเล็กเจอเรื่องตื่นเต้น ขยับเนื้อขยับตัวทั้งที่ยังอยู่ในท่านั่งจนลืมไปแล้วว่าตัวเองยังคอสเพลย์เป็นตุ๊กตาห้อยกระเป๋า รีบยื่นมืออีกข้างออกมาบ้าง

                “ไฟท์ติ้ง ไฟท์ติ้ง เอาอีก” พอคริสตีนิ้วให้เจ้าตัวเล็กก็ชอบใจ หัวเราะเอิ๊กอ๊ากจนคริสต้องเอานิ้วจุ๊ปากให้ตุ๊กตาของเขาเงียบลง ก่อนจะปัดนิ้วนั้นกับใบหูนิ่มเบาๆ

                “คอยดูฉันให้ดีนะ”

                “อื้อ”

     


     



     

     

                คริสกลับลงมาในสนามอีกครั้งก็เหลือแค่ต้าหลงกับจุนมยอนที่ยืนรออยู่ คนอื่นๆ หลบไปยืนอยู่ข้างสนามกันหมด ต้าหลงที่ถอดเครื่องแบบนักเรียนออกเหลือเพียงเสื้อยืดกับเกงขายาวมองดูเขาซึ่งถอดเพียงเสื้อตัวนอกออกแล้วพับแขนเสื้อขึ้นก่อนจะแค่นยิ้ม

                “แว่นตานั่นเกะกะนะ น่าจะถอดออกก่อน”

                เป็นครั้งแรกที่คริสกระตุกยิ้มมุมปากกลับไปบ้าง

                “จะถอดหรือใส่ ผลที่ออกมามันก็ไม่ต่างกันหรอก”

     

     

     

                ปี๊ดดด!

     

                “เริ่มได้!

                เพียงสิ้นเสียงสั่งจากจุนมยอน ต้าหลงก็เลี้ยงลูกบาสฯออกจากแดนรุกอย่างรวดเร็ว สายตาของเขาจับจ้องเพียงแป้นบาสฯในฝั่งตรงกันข้าม ร่างสูงของคริสที่พยายามวิ่งจากเส้นกลางสนามเข้ามาขัดขวางนั้นไม่ได้อยู่ในสายตาเขาแม้แต่น้อย ต้าหลงหลบหลีกการปัดป้องของคู่แข่งขันได้อย่างคล่องแคล่ว และวิ่งเข้าทำคะแนนจากลูกชู๊ตใต้แป้นภายในเวลาไม่ถึงสองนาที

     

                “หนึ่งแต้ม!

     

                จุนมยอนขานคะแนนพร้อมๆ กับเสียงเฮจากกองเชียร์ข้างสนาม ต้าหลงวิ่งไปตีมือกับน้องชายแล้วหันกลับมามองคริสที่เป็นคนเดินไปเก็บลูก เลี้ยงมันกลับเข้ามาในสนาม

                “จะเริ่มแต้มที่สองเลยมั้ย?”

                คริสยักไหล่แล้วส่งลูกต่อให้คู่แข่ง

                “เอาสิ เครื่องกำลังร้อนเลย”

     

     

                ปี๊ดดด!

     

    สิ้นเสียงนกหวีด ต้าหลงก็เลี้ยงลูกแล้วเริ่มออกวิ่งออกจากแดนรับโดยที่คริสตั้งหลักรออยู่ที่เส้นกลางสนามเช่นเดิม เขาเห็นรอยยิ้มเยาะหยันที่แค่นใส่ แค่คริสยังจับจ้องที่ดวงตาคู่นั้นอย่างไม่คิดหลบ เพียงชั่วกระพริบตาที่ฝ่ายนั้นมองหาช่องว่างเพื่อจะผ่านเขาไปให้ได้ คริสก็เดาทางถูกและก้าวมาดักทางซ้ายไว้ทันที

                “เก่งนี่ แต่ได้แค่นี้ล่ะนะ” ต้าหลงหมุนตัวแล้วเลี่ยงหลบไปทางขวาแทน เป้าหมายรออยู่อีกเพียงครึ่งทาง แต่เขาไม่รอให้ถึงใต้แป้น ตั้งหลักชู๊ตในเขตสองแต้มหมายทำคะแนนอย่างรวดเร็ว

     

                แต่ว่า...

     

                ปึง!

     

                ลูกบาสฯถูกปัดทิ้งกลางอากาศก่อนที่จะลอยถึงห่วง ทั้งสนามเงียบกริบ มีเพียงเสียงลูกบาสฯกระทบพื้นที่ดังก้องทั้งโรงยิม ก่อนที่จุนมยอนซึ่งตั้งสติได้ก่อนใครจะรีบขานคะแนน

     

                “หนึ่งแต้มเท่า!”

     

                “เป็นไปไม่ได้ มันฟลุ๊คแน่ๆ!

                “ถึงฟลุ๊คก็นับเป็นคะแนนนะเสี่ยวหลง”

                แฝดผู้น้องกัดฟันกรอด มองหน้าแฝดพี่ซึ่งไม่ยอมสบตาเขาตอบ ต้าหลงหลบหลีกการขัดขวางของอี้ฟานได้แล้ว หมอนั่นตามเขาทันได้ยังไง ซ้ำยังวิ่งไปดักข้างหน้าเพื่อปัดลูกชู๊ตที่รวดเร็วและแม่นยำของต้าหลงทิ้งอีก ไม่อยากเชื่อว่ามนุษย์แว่นที่เอาแต่ทำหน้าตายไร้ความรู้สึกไปวันๆ จะวิ่งเร็วและกระโดดได้สูงขนาดนี้

     

                ต้าหลงเองก็อึ้งยิ่งกว่า เขาจ้องหน้าคนที่เข้าขวางการทำแต้มแล้วก็กำมือแน่น ก่อนจะยิ้มเข้ม

                “วิ่งเป็นเหมือนกันนี่”

                “ฉันทำได้มากกว่านั้น”

                “อย่าย่ามใจนัก นายยังต้องขวางฉันให้ได้อีกสามเกม”

                “ต้องพูดว่าสองถึงจะถูก”

     

     

                ปี๊ดดด!

     

                ต้าหลงเปิดเกมส์อย่างรวดเร็วและคริสก็เข้าขวางในทันที เกมส์เริ่มดุเดือดเมื่อต้าหลงไม่สามารถหลุดจากการขัดขวางของคริสได้ เขาใช้ทุกเทคนิคที่มีแต่คริสก็ยังดักทางได้อย่างแม่นยำ ต้าหลงคิดเพียงจะหลุดจากตรงนี้ไปให้ได้จึงใช้การปะทะโดยตรง คริสต้องกระเด็นออกมาเพราะถูกกระแทก แต่กระนั้นก็ยังวิ่งตามฝ่ายตรงข้ามอย่างไม่ลดละ ฝีเท้าของเขาเร็วพอๆ กับต้าหลง พริบตาเดียวก็นำหน้าและกระโดดขึ้นบล๊อคลูกชู๊ตใต้แป้นให้คู่แข่งต้องเสียไปอีกหนึ่งแต้ม

     

                “อี้ฟานได้แต้ม สองต่อหนึ่ง”

     

                ต้าหลงไม่รอให้จุนมยอนเป่านกหวีดก็เริ่มเกมส์ใหม่อย่างรวดเร็ว เลี้ยงลูกออกจากแดนรุกแล้วบุกตรงไปฝั่งตรงข้ามโดยที่คริสไม่ทันได้ตั้งตัว แต่เขาก็วิ่งไล่ตามได้ในที่สุด แค่มองเห็นด้วยปลายหางตาว่าคู่แข่งยื่นมือเข้ามาหมายจะตัดลูก ต้าหลงก็เหวี่ยงศอกใส่อย่างแรงจนกระแทกเข้ากับช่องท้องอีกฝ่าย คริสล้มลงเอามือกุมท้องด้วยความจุก จังหวะนั้นเองที่ต้าหลงบุกเข้าแดนรับและชู๊ตทำแต้มไปได้โดยไม่สนใจเสียงนกหวีดของจุนมยอนแม้แต่น้อย

     

                “นายเล่นแรงไปนะต้าหลง นายเริ่มเกมส์ก่อนเสียงนกหวีดด้วยซ้ำ”

                “สองแต้มเท่า นายควรจะพูดแค่นี้”

                “แต่นี่แค่การทดสอบ ไม่ต้องรุนแรงขนาดนี้ก็ได้”

                “ไม่เป็นไรจุนมยอน ฉันประมาทเอง” คริสพยุงตัวเองให้ลุกขึ้นเพื่อยืนยันสิ่งที่บอก ใบหน้าของต้าหลงนั้นเครียดขึงขณะที่คริสยังคงมีรอยยิ้มที่มุมปาก ดวงตาของเขาฉายแววกระตือรือร้นแบบที่ไม่เคยมีใครได้เห็นมาก่อน “แบบนี้ดีแล้ว เกมส์จะได้สูสีกันหน่อย”

     

                จุนมยอนเป่านกหวีดเริ่มเกมส์ใหม่อีกครั้ง คราวนี้ต้าหลงไม่ผลีผลามดังเช่นที่ผ่านมา เขาดึงเกมส์โดยการเลี้ยงลูกเข้าหาให้คริสเข้าขวางได้โดยตรง ตาจ้องตาเพื่อประเมินความคิดอีกฝ่าย คริสเห็นต้าหลงเหลือบมองแป้นบาสแว่บหนึ่งก่อนจะกดยิ้มให้เขา

                “เอาชนะฉันให้ได้สิ”

                “......!”

                “ไม่ใช่แค่ขวาง แต่แย่งลูกไปจากฉันแล้วทำแต้มให้ได้ แบบนี้ถึงจะเรียกว่าเอาชนะฉันได้จริงๆ”

                “แต่นี่เป็นแค่การทดสอบ”

                “ฉันไม่อยากได้ไอ้ขี้แพ้มาร่วมทีม เพราะอย่างนั้น นายต้องเอาชนะฉันให้ได้” ต้าหลงตั้งใจเอาไหล่เข้าชนจนคริสกระเด็นพ้นทางแล้วเลี้ยงลูกหนีไป คนถูกท้าพอตั้งหลักได้ก็วิ่งตามทันที มาไล่ทันเอาก็ก่อนเข้าเขตชู๊ตลูกโทษ คริสหมายจะตัดลูกแต่ต้าหลงก็เบี่ยงหลบได้ทุกครั้ง คริสรู้ว่าเขากำลังถูกทดสอบ เกมส์ตั้งรับเขาทำได้ดี แต่เกมส์รุกเขายังด้อยกว่า ต้าหลงประเมินเขาถูกแล้ว แต่คริสต้องการอีกเพียงแต้มเดียวเพื่อเอาชนะการแข่งครั้งนี้ การได้เข้าร่วมทีมโรงเรียนไม่ใช่เป้าหมายของเขา ตอนนี้คริสแค่อยากเอาชนะ บาสเก็ตบอลเป็นกีฬาที่เขาชอบมาตั้งแต่เด็กๆ ตั้งแต่อุบัติเหตุครั้งนั้น คริสก็สูญเสียเพื่อนเล่นคนที่สำคัญที่สุดไป หลังจากนั้นเขาก็เล่นบาสฯคนเดียวมาตลอด วันนี้เป็นวันแรกที่คริสรู้สึกสนุกกับการที่ได้เล่นกับคนอื่น ได้แข่งกับคนที่ฝีมือสูสีกัน และเป็นครั้งแรกที่คริสรู้สึกอยากเอาชนะ

     

                เด็กหนุ่มละสายตาจากคู่ต่อสู้แล้วเหลือบมองไปทางสแตนด์ที่นั่งแว่บหนึ่ง กระเป๋าของเขายังอยู่ที่เดิม ตุ๊กตาที่ห้อยกระเป๋าก็คงอยู่ตรงนั้น คริสยิ้มเมื่อนึกถึงเวลาที่เจ้าตัวเล็กของเขากระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจ ชิงน้อยต้องดีใจมากแน่ๆ ถ้าเขาชนะเกมส์นี้ได้

      

                ดวงตาสีอ่อนเป็นประกายขึ้นมาอีกครั้ง แผนการเอาชนะวิ่งเข้ามาในหัวและคริสก็ออกตัวในทันที เขาใช้ความว่องไวหลอกล่อและตัดแย่งลูกมาครองไว้ได้ในที่สุด และวิ่งกลับเข้าไปในแดนรุกโดยที่ต้าหลงวิ่งตามมาติดๆ รอให้ฝ่ายนั้นตามมาทันแล้วคริสถึงได้ชะลอความเร็วลง หันหลังกลับไปเผชิญหน้ากับคู่แข่งตรงๆ เขายิ้ม และต้าหลงก็ตีความหมายของรอยยิ้มนั้นไม่ออก จากที่เดาทางว่าคริสจะต้องเข้าทำลูกจากใต้แป้น ร่างสูงกลับวิ่งออกไปนอกเส้นเขตโทษแล้วชู๊ตระยะไกลลงห่วงได้อย่างแม่นยำ ท่ามกลางความตกตะลึงของกองเชียร์และกรรมการสนามอย่างจุนมยอน

     

                “ฉันผ่านการทดสอบหรือยัง?”

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    TBC.

     

     

     

     

    คนรอง: เพิ่งได้มาต่อเรื่องนี้ ที่ทิ้งไว้นานก็เพราะฉากแข่งบาสฯนี่แหละ ตอนที่เขียนหวานใจก็เป็นแบบนี้เหมือนกัน = =

    ตอนหน้าพาเจ้าตัวเล็กไปกินขนมกันดีกว่าเนอะ ^^

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×