ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [KrisLay] มายชิง ~☆❤

    ลำดับตอนที่ #3 : มายชิง ตอน 03 ::: พาชิงไปเที่ยว

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.15K
      11
      13 พ.ย. 56

     


    [Fic] มายชิง
    ตอนที่
    3: พาชิงไปเที่ยว
    Fiction by 2nd Admin

     

     

    .

     

    .

     

    .

     

     

    “ถึงแล้วล่ะ ออกมาได้แล้ว”

    มีเสียงบ่นง้องแง้งก่อนที่หูยาวสีชมพูจะค่อยๆ โผล่พ้นขอบกระเป๋าเสื้อออกมา คริสหัวเราะเบาๆ เมื่อใบหน้ามุ่ยตุ้ยหันมาส่งค้อนให้เขาก่อนจะสะบัดพรืดจนหูปลิว แต่พอเจ้าตัวเล็กมองไปรอบๆ เห็นทิวทัศน์ที่ไม่คุ้นตา เสียงบ่นก็เปลี่ยนเป็นเสียงร้องเจื้อยแจ้วอย่างตื่นเต้น

     

    “ว้าวววว! ที่นี่ที่ไหนอ่ะ? น่าสนุกจัง”

    “ชอบใช่มั้ยล่ะ?”

    “อื้อ มากอ่ะ” หัวกลมเล็กผงกขึ้นลงเร็วๆ แถมรอยยิ้มน่ารักให้อีก เพราะก่อนหน้านี้คริสบอกว่าอยากให้เซอร์ไพรซ์ เจ้าตัวเล็กก็เลยต้องซ่อนอยู่แต่ในกระเป๋าห้ามออกมา มีคริสคนเดียวที่ได้ยินเสียงบ่นงุ้งงิ้งมาตลอดทางตั้งแต่ออกจากหอพัก แต่พอมาถึงที่นี่ สถานที่ใหญ่โตแปลกตากับเสียงดนตรีสนุกสนาน มองไปทางไหนก็ได้ยินแต่เสียงหัวเราะของผู้คนมากมาย ความหงุดหงิดของเจ้าตัวเล็กก็หายไปสิ้น

     

    “ที่นี่เรียกว่าสวนสนุก มีของเล่นเยอะแยะเลยนะ”

    “ของเล่นเหรอ? แล้วเราเล่นได้รึเปล่า?”

    “ได้สิ ชิงอยากเล่นอะไร ฉันจะพาไปเล่นทุกอย่างเลย” เห็นเจ้าตัวเล็กยิ้มกว้างคริสก็ยิ้มตาม ตั้งแต่ที่ชิงน้อยไม่ใช่กระต่ายแล้ว เขาก็ยังไม่มีโอกาสพาเจ้าตัวเล็กไปเที่ยวที่ไหนนอกจากโรงเรียนกับหอพัก ตัวเขาเองก็ไม่ได้มาเที่ยวสวนสนุกนานแล้วเหมือนกัน ครั้งสุดท้ายก็เมื่อตอนที่คุณพ่อคุณแม่ยังอยู่ พอนึกถึงช่วงเวลานั้น มือใหญ่ก็เลื่อนขึ้นกุมกระเป๋าเสื้อที่หน้าอกไว้โดยไม่รู้ตัว

     

    “ฉันอยากเข้าไปข้างในแล้วอ่ะ”

    เสียงเล็กๆ นั้นฉุดคริสขึ้นจากห้วงความคิด เด็กหนุ่มยิ้มแล้วพยักหน้าให้เจ้าตัวน่ารักที่ชักชวนอย่างกระตือรือร้น ก่อนจะเดินผ่านซุ้มประตูอลังการเข้าไปด้านในของสวนสนุกเอเวอร์แลนด์

     

     

     

    ชิงน้อยดูตื่นตาตื่นใจกับบรรยากาศที่เหมือนอยู่ในฉากของเทพนิยาย สิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่รูปทรงสวยงามเหมือนปราสาทราชวังที่เคยเห็นในหนังสือนิทานหรือการ์ตูนในโทรทัศน์ มีวิวสวนดอกทิวลิปหลากสี แล้วก็ดอกไม้อีกนานาชนิดที่ประดับอยู่ตามเสาและม้านั่งยาวทั่วทั้งบริเวณ ร้านรวงที่ขายของที่ระลึกแปลกๆ ชิงน้อยเกาะขอบกระเป๋าเสื้อหันมองทางนั้นทีทางนี้ทีอย่างสนอกสนใจ ทุกอย่างล้วนแปลกใหม่สำหรับคนตัวเล็ก พอเห็นเด็กคนหนึ่งสวมที่คาดผมหูกระต่ายก็ชี้มือชี้ไม้อย่างตื่นเต้น

    “เด็กคนนั้นมีหูเหมือนเราเลย”

    “ของปลอมน่ะ” คริสยิ้มแล้วลูบใบหูนุ่มเบาๆ เขาดีใจที่เห็นชิงน้อยสนุก อยู่ที่นี่ไม่ต้องกลัวว่าใครจะสังเกตเห็นเจ้าตัวเล็กที่อยู่ในกระเป๋า แค่ต้องคอยระวังไม่ให้ชิงน้อยตื่นเต้นจนเผลอปีนออกจากกระเป๋าจนตกลงไปก็เป็นพอ

     

    คริสยังเดินเล่นชมวิวทิวทัศน์ไปเรื่อยๆ เพราะเห็นว่าชิงน้อยยังตื่นตาตื่นใจกับบรรยากาศรอบๆ อยู่ สวนดอกไม้ของที่นี่มีหลายมุมแล้วก็สวยๆ แปลกตาทั้งนั้น ตกแต่งให้เหมือนฉากในเทพนิยายหรือการ์ตูนดังๆ ก็มี คนตัวเล็กดูจะชอบขบวนพาเหรดที่มีคนแต่งชุดเป็นแมลงต่างๆ ทั้งผีเสื้อ ทั้งผึ้ง คริสยังแวะดูการแสดงโชว์ของสัตว์น่ารักๆ ท่ามกลางเสียงหัวเราะของเด็กๆ ที่อยู่รอบๆ บริเวณนั้น มีเสียงเล็กๆ ดังเจื้อยแจ้วแทรกมา และเป็นเสียงที่ทำให้เด็กหนุ่มยิ้มได้ตลอดเวลา

     

    “คริสเคยมาเที่ยวที่นี่มั้ย?”

    “ที่นี่น่ะไม่เคย แต่ถ้าเป็นสวนสนุกที่อื่นก็เคยอยู่”

    “แล้วมีดอกไม้เยอะๆ กับคนแต่งตัวแปลกๆ เหมือนที่นี่รึเปล่า?”

    “อืม... จำไม่ได้แล้วล่ะ แต่เครื่องเล่นก็น่าจะคล้ายๆ กันนะ”

    “แล้วคริสชอบเล่นอะไร?” ถามแบบนี้แสดงว่าอยากไปเล่นแล้ว เด็กหนุ่มนิ่งคิดไปครู่หนึ่งก่อนจะยิ้มบาง

    “ไปขี่ม้ากันนะ”

     

     

    ภาพในความทรงจำวัยเด็กเกี่ยวกับสวนสนุก คือตอนที่คริสอยู่บนม้าหมุน มีคุณแม่ยืนอยู่ข้างๆ ขณะที่คุณพ่อยืนรออยู่ข้างล่างพร้อมกล้องถ่ายรูปในมือ แต่ละรอบที่ม้าหมุนมา คุณพ่อก็จะกดชัตเตอร์เก็บรูปไว้ เป็นอีกหนึ่งช่วงเวลาแห่งความสุขที่คริสยังจำได้

     

    คริสในตอนนี้อาจจะโตเกินไปสำหรับม้าหมุน แต่ที่จริงแล้วก็ยังมีผู้ใหญ่หลายๆ คนที่เลือกเล่นเครื่องเล่นแห่งความทรงจำนี้ เด็กหนุ่มก็เลยไม่รู้สึกเขินเท่าไหร่ พอเลือกม้าที่ถูกใจได้ก็ขึ้นนั่ง ชิงน้อยก็ยืดตัวขึ้นมาเกาะขอบกระเป๋าเสื้อแล้วมองไปรอบๆ ด้วยความอยากรู้อยากเห็น พอเครื่องเริ่มหมุน เจ้าตัวเล็กก็ร้องอู้หู

    “มันเดินไปข้างหน้าได้ด้วย”

    “จะได้เหมือนขี่ม้าจริงๆ ไง เจ้านี่มันชื่อม้าหมุน โยกได้แล้วก็หมุนได้” มันก็แค่โยกขึ้นลงแล้วก็เดินไปข้างหน้าอย่างช้าๆ ตอนเด็กๆ คริสคิดว่ามันช่างเท่เหมือนในหนังคาวบอยเสียเหลือเกิน พอมานึกถึงตอนนี้แล้วก็อดจะหัวเราะตัวเองในตอนนั้นไม่ได้

    “คริสชอบเหรอ?”

    “ตอนเด็กๆ น่ะชอบ” เด็กหนุ่มบอกพร้อมรอยยิ้มบางเมื่อนึกถึงความสนุกที่ลางเลือน “เหมือนได้ขี่ม้าจริงๆ นะถึงจะไม่ได้เร็วขนาดนั้นก็เถอะ”

    “ถ้าคริสชอบเราก็ชอบ” ลอยหน้าลอยตาตอบแล้วยิ้มตาหยีให้คนมองต้องยิ้มตาม ลักยิ้มเล็กๆ ที่ข้างแก้มกลมนี่น่าหมั่นเขี้ยวมาก นี่ถ้าอยู่ที่บ้านคริสคงคว้าเจ้าตัวขาวอวบออกมาฟัดเล่นแล้ว

     

    เสร็จจากม้าหมุนคริสก็ออกเดินต่อ เดินไปก็นึกไปว่าจะพาชิงน้อยไปเล่นอะไรต่อดี รู้ตัวอีกทีก็มาถึงเครื่องเล่นที่มีรูปทรงเป็นเรือขนาดใหญ่ ใหญ่ยักษ์มากชนิดที่ชิงน้อยเห็นแล้วก็ทำตาโตร้องโอ้โห ถ้าเทียบกับบรรดาเครื่องเล่นทดสอบความกล้าหลายๆ อย่างในสวนสนุกนี้เท่าที่คริสรู้มา เรือไวกิ้งถือว่าผาดโผนน้อยที่สุดแล้ว พอจะพาเจ้าตัวเล็กขึ้นไปลองหวาดเสียวเล่นๆ ได้

     

    พอขึ้นเรือได้คริสก็เลือกที่นั่งที่ไม่สูงเกินไปนัก เหนือกลางลำเรือขึ้นไปสองสามขั้นเท่านั้น ล็อคตัวเองกับที่นั่งได้แล้วก็เลื่อนมือขึ้นกุมอกเสื้อไว้ เรือไวกิ้งไม่ได้ผาดโผนมากก็จริง แต่ก็กลัวว่าลมจากแรงเหวี่ยงจะพัดเจ้าตัวเล็กปลิวไปซะก่อน ยิ่งจะชอบโผล่หัวออกมาโต้ลมอยู่ด้วย พอเรือเริ่มเหวี่ยงขึ้นสูงอย่างช้าๆ ชิงน้อยก็ร้องเสียงแหลม

    “ว้าวววว! สูงจัง”

    “กลัวมั้ย?”

    “กลัวทำไม สนุกออก”

    “จับแน่นๆ นะ เดี๋ยวตกลงไป”

    “อื้อ”

    เรือเหวี่ยงเร็วและแรงขึ้นเรื่อยๆ ประกอบกับเสียงดนตรีจังหวะระทึกทำให้บรรยากาศยิ่งจะตื่นเต้น คริสยังจำได้เมื่อตอนเด็กๆ คุณพ่อเคยบอกว่า ถ้ารู้สึกเสียวที่ท้องน้อยก็ให้ตะโกนออกมาดังๆ จะรู้สึกดีขึ้น เขากำลังทำแบบนั้น และชิงน้อยก็ทำตาม กรีดเสียงแหลมเล็กปนออกมากำลังเสียงหัวเราะเจื้อยแจ้ว ดูท่าว่าจะสนุกมากกว่าหวาดเสียวนะ

     

    เพราะไม่ได้ทำอะไรตื่นเต้นขนาดนี้มานานแล้ว พอลงจากเรือไวกิ้งได้เด็กหนุ่มก็ยืนหอบ ในขณะที่คนในกระเป๋าส่งเสียงแง้วๆ อยากจะเล่นเครื่องเล่นอื่นๆ อีก แต่ทั้งเฮอริเคนทั้งดับเบิ้ลร็อคสปินที่ขึ้นชื่อ หรือแม้แต่รถไฟเหาะตีลังกาก็ล้วนแล้วแต่ไม่ปลอดภัยสำหรับสิ่งมีชีวิตเล็กๆ ที่ไม่มีเครื่องป้องกันทั้งนั้น

     

    “ไหนบอกว่าเราเล่นได้ทุกอย่างไง” นั่นไงล่ะ งอนจนได้ อาการที่อมลมจนแก้มป่องแล้วยกแขนเล็กป้อมขึ้นก่ายกันไว้บนอกนี่แสดงว่ากำลังไม่พอใจ แต่จะให้คริสทำยังไงได้

    “มันน่ากลัวออก เกิดเหวี่ยงนายตกลงไปฉันจะทำยังไง” ตอนแรกที่ออกปากว่าจะให้เล่นทุกอย่างนั้นก็หมายถึงเครื่องเล่นเด็กๆ อย่างพวกม้าหมุนหรือชิงช้าสวรรค์นะ ใครจะรู้ว่าเจ้าตัวเล็กไม่ได้กลัวความสูงหรือขยาดความหวาดเสียวอะไรกับเค้าเลย อยากจะเล่นแต่ของโหดๆ ทั้งนั้น

    “ก็บอกแล้วไง ว่าจะเกาะแน่นๆ”

    “ยังไงก็อันตรายอยู่ดี นายดูสิ เครื่องเล่นนั้นมันหมุนตีลังกาตั้งหลายรอบด้วยนะ น่ากลัวจะตาย” ดวงตากลมเล็กจ้องแป๋วที่ดับเบิ้ลร็อคสปินซึ่งกำลังหมุนกลางอากาศอยู่สามสี่รอบ ทำให้คนที่กำลังตีลังกากลับหัวอยู่บนนั้นกรี๊ดสนั่น ตาใสแจ๋วเป็นประกายอยู่ครู่หนึ่งอย่างนึกสนุก แต่แล้วก็ปล่อยลมออกจากกระพุ้งแก้ม ทำเสียงละห้อย

    “งั้นเราไม่เล่นแล้วก็ได้”

    คริสพรูลมหายใจอย่างโล่งอก แต่พอเห็นสีหน้าหงอยๆ ของเจ้าตัวเล็กแล้วก็อดจะสงสารไม่ได้ อุตส่าห์พามาเที่ยวสวนสนุกทั้งที ได้เล่นของเล่นแค่ไม่กี่อย่าง คริสมองไปรอบๆ ก่อนจะก้มลงบอกเจ้าตัวเล็กที่ขดตัวลงไปนั่งจุมปุ้กอยู่ก้นกระเป๋า

    “เล่นอย่างอื่นได้มั้ย?”

    “หือ?” ชิงน้อยเงยหน้าขึ้นมอง กระพริบตาปริบ แต่คริสตอบด้วยรอยยิ้ม

     

    มีของเล่นอีกอย่างที่หวาดเสียวน้อยหน่อยแต่สนุกมากๆ และชิงน้อยน่าจะเล่นได้ ไปล่องแก่งกันดีกว่า

     

     

    เสียงหัวเราะเจื้อยแจ้วดังไปตลอดทางที่เรือทรงกลมล่องไปในน้ำ ชิงน้อยชอบใจที่เห็นคนอื่นๆ ในเรือลำเดียวกันถูกระลอกน้ำซัดใส่จนเปียกมะลอกมะแลก คริสเองก็เปียก แต่เจ้าตัวเล็กน่ะไม่เปียกหรอก น้ำซัดมาทีคริสก็คอยป้องให้ แต่เรือที่ถูกแรงน้ำพัดให้เหวี่ยงไปทางนั้นทางนี้ บางทีก็หมุนวนให้คนในเรือได้เปียกอย่างทั่วถึงนี่ก็สนุกดีจริงๆ พอขึ้นจากเรือคริสก็พาเจ้าตัวเล็กไปผึ่งลมชมวิวมุมสูงของสวนสนุกบนกระเช้าลอยฟ้าต่อ กว่าจะกลับลงมาอีกทีก็เกือบบ่ายโมงแล้ว

     

    “หิวแล้วอ่ะ” ชิงน้อยแสดงท่าทางประกอบโดยการทำปากยื่นพลางเอามือลูบพุง คริสก็อย่างนั้นก็ยิ้ม มองหาม้านั่งที่หลบมุมได้ก็ตรงเข้าไปจับจอง มองซ้ายมองขวาจนแน่ใจว่าไม่มีใครสังเกตแล้วถึงได้ช้อนมืออุ้มเจ้าตัวเล็กออกมาจากกระเป๋าเสื้อแล้ววางลงบนม้านั่ง ก่อนจะหยิบลูกกวาดสีหวานที่เตรียมมาด้วยขึ้นมาแกะห่อพลาสติกออกแล้ววางลงบนกระดาษทิชชู่ยื่นให้คนหิว

    “แล้วคริสล่ะ?”

    “ฉันยังไม่หิว”

    “จริงอ่ะ? ไม่หิวหรือกินไม่ลงกันแน่ เมื่อกี้เราเห็นนะ ตอนลงจากเรือไวกิ้งน่ะ คริสหน้าซีดเชียว กลัวใช่ม๊า~ คิกๆๆ”

    เด็กหนุ่มหรี่ตามองคนแซวแล้วก็แกล้งยื้อแย่งลูกกวาดกับคนตัวเล็กที่กอดอาหารกลางวันของตัวเองไว้แน่น ดึงๆ อยู่ก็แกล้งปล่อยมือพอให้เจ้าตัวแสบหงายเงิบจนส่งเสียงร้องง้องแง้ง แหย่จนพอใจแล้วถึงได้โอ๋เอ๋แล้วปล่อยให้เจ้าของใบหูกระต่ายได้แทะเล็มลูกกวาดอย่างสบายใจ

     

    พอคริสลูบใบหูเล็ก ชิงน้อยก็เงยหน้าขึ้นมายิ้มให้

    “วันนี้สนุกหรือเปล่า?”

    “อื้อ” พนักหน้าหงึกหงักแล้วใช้หลังมือเล็กปาดริมฝีปากสีแดงของตัวเอง ท่าทางจะอิ่มแล้ว “แล้วคริสล่ะ สนุกมั้ย?”

    “สนุกสิ อยู่กับชิง ที่ไหนฉันก็สนุกทั้งนั้น” เจ้าตัวเล็กยิ้มตาหยี ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าคิดเหมือนกัน ครู่หนึ่งคริสก็ทำตาโตเหมือนเพิ่งนึกขึ้นได้ “ถ่ายรูปกันนะ?”

     

    เด็กหนุ่มอุ้มเพื่อนตัวน้อยขึ้นมาใส่กระเป๋าตามเดิมแล้วเดินหาต้นไม้ยักษ์ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของสวนสนุกนี้จนเจอ ต้นไม้ที่ตกแต่งด้วยของเล่นและตุ๊กตาเยอะแยะ มีมาสคอตเป็นสัตว์ต่างๆ ที่รอถ่ายรูปกับเด็กๆ เดินไปเดินมาอยู่ทั่วบริเวณนั้น คริสเลือกมุมที่ไม่ค่อยมีคนนักแล้วหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา เลือกโปรแกรมกล้องแบบถ่ายเข้าหาตัวเอง เล็งจนแน่ใจว่าจะเก็บภาพต้นไม้ข้างหลังได้ด้วย

    “ชิงยิ้มนะ”

    เจ้าตัวเล็กมองภาพตัวเองที่อยู่บนหน้าจอของมือถือแล้วก็กระพริบตาปริบ เห็นคริสยกสองนิ้วขึ้นมาเป็นรูปตัววีก็ทำบ้าง มืออีกข้างจับหูสีชมพูของตัวเองให้พับลงมาปิดแก้มไว้ พอคริสยิ้มก็ยิ้มตามโดยไม่ต้องให้สอน

     

    “หนึ่ง.. สอง..”

     

    แชะ!

     

    “ดูมั่งๆ” เรียกร้องอย่างตื่นเต้นจนคริสต้องยื่นหน้าจอมือถือให้ดู พอเห็นรูปตัวเองเจ้าตัวเล็กก็ยิ้มกว้างแล้วกระโดดโลดเต้นอยู่ในกระเป๋าเสื้อ “ถ่ายอีกนะ ถ่ายอีกๆๆ”

    “ได้สิ เดี๋ยวฉันถ่ายให้เยอะๆ เลย”

     

     

    .

     

    .

     

    .

     

     

    คริสค่อยๆ ช้อนมืออุ้มเจ้าตัวนิ่มขึ้นจากกระเป๋าเสื้อแล้ววางลงบนหมอน ชิงน้อยหลับมาตลอดทางตั้งแต่ตอนอยู่ในรถไฟฟ้าใต้ดินแล้ว คงสนุกจนเพลีย เขาเลยไม่อยากปลุก ตั้งใจว่าจะอาบน้ำก่อนแล้วค่อยทำการบ้านอ่านหนังสือ เด็กหนุ่มถอดแว่นสายตาออกวางไว้บนโต๊ะแล้วคว้าผ้าขนหนูขึ้นกำลังจะเดินเข้าห้องน้ำ ตอนนั้นเองที่ได้ยินเสียงเล็กพึมพัมเบาๆ นึกว่าชิงจะพูดอะไรคริสเลยกลับมาดูที่เตียง หย่อนกายลงนั่งแล้วโน้มใบหน้าเข้าไปใกล้ๆ เจ้าของร่างขาวอวบยังหลับอยู่แน่ๆ แต่เสียงหัวเราะคิกคักทั้งที่ยังหลับตานี้คืออะไร

     

    “ละเมอเหรอเนี่ย...” คริสมองคนตัวเล็กที่นอนยิ้มแล้วดิ้นไปดิ้นมาน่าเอ็นดู ท่าทางจะฝันดี เก็บเอามาฝันแบบนี้แสดงว่าวันนี้คงสนุกมากจริงๆ รอยยิ้มอ่อนโยนค่อยระบายบนใบหน้าหล่อเหลาที่ปราศจากกรอบแว่นตาหนา ชิงน้อยชอบไปเที่ยว เขาคงต้องหาโอกาสพาชิงน้อยไปเที่ยวบ่อยๆ เด็กหนุ่มลูบใบหูนิ่มสีชมพูแผ่วเบากระทั่งเสียงหัวเราะคิกคักนั้นเงียบหายและเจ้าตัวเล็กเลิกดิ้น ก่อนจะแตะริมฝีปากเหนือพุงนิ่ม

     

    “ฝันดีนะชิงน้อย”

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    TBC.



     
    แฟนอาร์ตน่ารักๆ โดยน้องหนูเล็ก twitter @nuleksj ขอบคุณนะคะ ^^

     

    คนรอง: คนอ่านเรามีอยู่น้อย เกาะกลุ่มกันไว้นะคะ ฮ่าๆๆๆ

    ตอนหน้าจะพาไปเที่ยวโรงเรียนของคริส

    เรื่องราวยังไม่ค่อยมีอะไร แต่ยังไงก็ฝากเอ็นดูชิงน้อยด้วยนะ ^^

    (ลงเมื่อ 26 ต.ค. 56)

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×