ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ห้องกิจกรรมชาวมุนดัส

    ลำดับตอนที่ #9 : [บทที่ 7] ปลายทางของการแยกย้าย

    • อัปเดตล่าสุด 10 เม.ย. 57


    กลุ่มของอากิระ

                    หลังจากที่แยกตัวออกมาแล้ว พวกท่านก็ได้แต่มองเพื่อนคนอื่นเดินหายลับไปในความมืด ในขณะที่พวกท่านเดินตรงมายังถ้ำปริศนา เป็นเรื่องที่น่าแปลกไม่น้อยที่มีถ้ำอยู่ภายในถ้ำอีกครั้งหนึ่ง

     

                    พวกท่านสำรวจรอบๆแต่ดูเหมือนว่าจะไม่มีอะไรผิดปกติ กลิ่นเหม็นเน่าโชยเข้าจมูกเป็นระยะ บางทีอาจเป็นกลิ่นซากศพของนักเดินทางที่หลงเข้ามาเป็นเหยื่อของตุ่นปิศาจ หรืออาจเป็นอย่างอื่นที่พวกท่านมิอาจทราบ

     

                    ไม่นานก็ได้พบคำตอบ เมื่อพวกท่านเดินลึกเข้าไปทีละนิด น้ำก็ค่อยๆเพิ่มระดับสูงขึ้นเรื่อยจนถึงเอว ด้านบนเพดานที่พวกท่านเคยคิดว่าเป็นหินงอกหินย้อย ตอนนี้มันกลับไม่ใช่...มันเป็นอะไรที่น่าสยดสยองกว่านั้น

     

                    โครงกระดูกและศพจำนวนมากถูกมัดห้อยหัวไว้ด้วยเชือกเส้นหนา ยิ่งขับเน้นความรู้สึกของพวกท่านว่า...นี่ไม่ใช่หนทางสู่ทางออกแน่ๆ

     

                    “บ้าจริง!” ท่านทั้งสองได้ยินเสียงบางอย่างดังขึ้นจากมุมหนึ่ง ไม่รอช้าพวกท่านรีบกุมอาวุธแล้วตรงไปยังต้นเสียงเพื่อสำรวจว่ามันคืออะไร นั่นทำให้พวกท่านได้พบเด็กสาวเจ้าของเรือนผมสีแดงกำลังพยายามอย่าสุดกำลังเพื่อดิ้นให้หลุดจากเชือก แต่ดูเหมือนพละกำลังของเธอตอนนี้จะแทบไม่เหลือแล้ว

     

                    พวกท่านตัดสินใจเข้าไปปลดเชือกหญิงสาวก่อนจะถามไถ่ชื่อแซ่ เธอคือมิเคล ถูกปิศาจอะไรสักอย่างจับตัวมาเพราะถูกเล่นทีเผลอ รู้สึกตัวอีกทีก็มาอยู่ที่นี่แล้ว

     

                    “หมายความว่าเจ้าปิศาจตุ่นนั่นไม่ใช่หัวโจกที่นี่หรอกเหรอ” อากิระตั้งข้อสังเกต

     

                    มิเคลส่ายหน้า

     

                    “พวกมันคือสัตว์เลี้ยงเฝ้าปากทาง ตอนนี้สิ่งที่พวกท่านควรทำคือห้ามจุดไฟ...” เธอกล่าว

     

                    “ทำไมล่ะ” ไวลี่ถามกลับ

     

                    “เพราะข้าจะมองเห็นเหยื่อยังไงล่ะ” เสียงแหบพร่าดังก้องไปทั่วทั้งถ้ำ พวกท่านหันหลังชนกันเพื่อมองหาศัตรู แต่ไม่ว่ายังไงก็ไม่อาจหามันพบ

     

                    “รีบออกจากที่นี่” อากิระพูด แต่ดูเหมือนว่าเมื่อทุกคนตรงไปยังทางออกถ้ำอันแสนแคบนี้ ก็ชนกับตัวอะไรสักอย่าง...

     

                    “ข้า...เห็น...พวกเจ้าแล้ว...”

     

                    ปิศาจสูงขนาดที่ยืนปิดทางออกถ้ำได้มิดพอดี หันมามองพวกท่าน สภาพอันแสนอัปลักษณ์บวกกับกลิ่นเหม็นศพทำให้ทุกคนในที่นั้นคลื่นไส้ขึ้นมา

     

                    [ปราบปิศาจตนนี้เสีย]



     

     

     

     

     

     
    "ข้า...พบ...พวกเจ้าแล้ว...!!!"

    [ตาย]

    เลือด : 0/180        ออร่า : 100/100

    พลังโจมตี : 10           พลังป้องกัน : 7


    ปิศาจจะโจมตีเทิร์นละครั้ง ใส่ผู้ที่มีพลังป้องกันต่ำสุดในทีมก่อน



    [หากผู้เล่นใดไม่ได้แจ้งล่วงหน้าว่ามาโรลไม่ทันตามกำหนด ปิศาจจะโจมตีใส่คนนั้น]


    ผลจากการสวมใส่อาวุธ 

    พลังโจมตี+2 พลังป้องกัน+2


    (คณะเดินทางเป็นฝ่ายเริ่มโจมตี)

    = = =

     

                    กลุ่มของ ฟรีซ

                    พวกท่านเดินไปตามทางอันแสนมืดมิด ดูเหมือนว่าตอนนี้จะขึ้นมาบนพื้นดินแข็งๆแล้ว พวกท่านเดินตามร่องรอยของการต่อสู้ไปเรื่อย บ้างหินงอกหินย้อยตามพื้นก็หักกระจาย พื้นบางแห่งก็แตกเป็นหลุมจากการถูกอะไรสักอย่างกระแทก ไม่นานพวกท่านก็พบกับรอยเลือด...

     

                    มันหยดเป็นทางยาวทั้งยังมีปริมาณมากขึ้นเรื่อยๆ เลือดสีแดงสดส่งกลิ่นคาวผสมกับกลิ่นอับของถ้ำ ความเหนื่อยล้าสะสมมาตลอด จนตอนนี้ พวกท่านได้พบกับสิ่งหนึ่ง...

     

                    ศพของปิศาจตุ่น...

     

                    ร่างกายของมันเต็มไปด้วยรอยถูกันเหวอะหวะ จนเลือดอาบไปทั้งตัว ใกล้กันมีดาบบิ่นตกอยู่ ถ้าจำไม่ผิดนั่นน่าจะเป็นของคาร์ซาร์

     

                    พวกท่านสำรวจบริเวณรอบๆ บริเวณนี้เป็นโถงกว้างที่ตามผนังถ้ำมีรูขนาดใหญ่เต็มไปหมด มันไม่น่าจะใช่ทางเดินสำหรับคน ไม่นานนักขณะที่พวกท่านวิเคราะห์สถานการณ์โดยรอบ คาร์ซาร์ก็ไถลออกมาจากรูหนึ่งจากผนังใกล้ๆ

     

                    “อ้าว พวกเจ้าอีกแล้ว” เขาเบิกตากว้างเมื่อเห็นพวกท่านตามมา “เพื่อนของเจ้าหายไปไหนกัน แล้วทำไมถึงมาทางนี้ล่ะ”

     

                    พวกท่านให้คำตอบเขาไป ทั้งยังถามจับผิดว่าทำไมเขาถึงโผล่มาจากรูประหลาด

     

                    “ข้าคิดว่ารูนี่มันน่าจะไปโผล่ที่ไหนสักแห่งนอกถ้ำเลยลองปีนเข้าไปดู ทุกรูเชื่อมต่อกัน แต่ดูเหมือนว่าความพยายามของข้าจะเสียเปล่า ลองกี่ทีก็กลับมาที่เดิม” คาร์ซาร์ถอนหายใจ แหงนหน้ามองเพดาน

     

                    “บางทีนี่อาจเป็นรังของตัวอะไรสักอย่าง” ฟรีซออกความเห็น

     

                    “เจ้าพูดไม่ผิด” คาร์ซาร์บอก “เจ้านี่ปากศักดิ์สิทธิ์รึยังไงกัน” เขาหันมามองหน้าฟรีซ

     

                    “อะไร?” ฟรีซงงกับคำพูดดังกล่าว ชั่วพริบตาสัตว์ประหลาดขนาดใหญ่ก็ตกลงมากรูบนเพดาน มันตัวใหญ่ประมาณตึกสามชั้นเห็นจะได้ ทุกคนต่างกระโดดหลบออกไปคนละทิศทาง

     

                    “หนี!” คาร์ซาร์ตะโกน แต่ดูเหมือนว่าเจ้าสัตว์ประหลาดดังกล่าวจะรู้ทัน มันกระทืบพื้นแรงๆหนึ่งครั้งส่งผลให้หินงอกหินย้อยโดยรอบตกลงมาปิดทางหนี

                    พวกท่านกวาดสายตามองศัตรู...มังกร!!!

     

                    [ปราบปิศาจตนนี้เสีย]

     

     



     

     



    "ผู้บุกรุก...มีโทษคือ...ตาย"

    [ตาย]


    เลือด : 0/200       ออร่า : 100/100

    พลังโจมตี : 10           พลังป้องกัน : 7


    ปิศาจจะโจมตีเทิร์นละครั้ง ใส่ผู้ที่มีพลังป้องกันต่ำสุดในทีมก่อน

    [หากผู้เล่นใดไม่ได้แจ้งล่วงหน้าว่ามาโรลไม่ทันตามกำหนด ปิศาจจะโจมตีใส่คนนั้น]


    ผลจากการสวมใส่อาวุธ 

    พลังโจมตี+2 พลังป้องกัน+2



    (คณะเดินทางเป็นฝ่ายเริ่มโจมตี)

     





    "ดาบข้าบิ่นหมดแล้ว ข้าจะหาโอกาสทำลายจังหวะมันให้"


    คาร์ซาร์ แกรเดอร์ไลน์ 


    ทุกสองเทิร์น คาร์ซาร์สร้างความเสียหายแก่เป้าหมาย 20 หน่วยโดยไม่สนใจพลังป้องกัน

    Shalunla 




    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×