ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ประวัตินางในวรรณคดี(แบบละเอียด)

    ลำดับตอนที่ #8 : นางบุษบา : อิเหนา (100%)

    • อัปเดตล่าสุด 2 มี.ค. 56


    ���� สวัสดีค่ะ เมื่อวานไม่ได้มาลง วันนี้เลยลงให้สองคนไปเลย^^
    ���� นี่เป็นประวัตินางบุษบานะค่ะ เรามีเรื่องต้องทำความเข้าใจกันนึดนึง - -*

    ���� เนื่องจากวรรณคดีเรื่องอิเหนา มีวงศ์อะไรต่างๆมากมาย กษัตริย์ทายาทอะไรก็เยอะ ถ้าลงประวัตินางในวรรณคดีไปโต้งๆอาจจะทำให้รีดเดอร์งงได้ เพราะฉะนั้นไรเตอร์จึงต้องชี้แจงเรื่องวงศ์ของอิเหนาก่อนนะค่ะ


    �����(ตำแหน่งมเหสีของกษัตริย์มีห้าตำแหน่ง คือ ประไหมสุหรี มะเดหวี มะโต ลิกู เหมาหลาหงี)

    ���� องค์ปะตะกาหลา เป็นรุ่นปู่ เป็นเทวดามีฤทธิ์บนสวรรค์ ส่วนรุ่นต่อๆมาจนถึงรุ่นพ่อของพวกอิเหนาก็คือ...

    ���� 1.ท้าวกุเรปัน ครองเมืองกุเรปัน มีโอรสองค์โตเกิดจากลิกู (มเหสีลำดับที่ 4) ชื่อกะหรัดตะปาตี มีโอรสและธิดาอันเกิดจากประไหมสุหรี (มเหสีลำดับที่ 1) คือ อิเหนาและวิยะดา
    ���� 2.ท้าวดาหา ครองเมืองดาหา มีธิดาและโอรสเกิดจากประไหมสุหรีทั้งคู่ องค์โตเป็นพระธิดา คือ นางบุษบา และองค์เล็กเป็นโอรส คือ สียะตรา
    ���� 3.ท้าวกาหลัง ครองเมืองกาหลัง มีธิดาองค์โตอันเกิดจากลิกูคือ บุษบารากา (คนละคนกับบุษบาลูกท้าวดาหานะค่ะ) และธิดาองค์เล็กเกิดจากประไหมสุหรีคือ สะการะหนึ่งหรัด
    ���� 4.ท้าวสิงหัดส่าหรี ครองเมืองสิงหัดส่าหรี มีโอรสธิดาอันเกิดจากประไหมสุหรี คือ สุหรานากง และ จินดาส่าหรี


    �����การตุนาหงันระหว่างลูกหลาน (การหมั้นหมาย)
    �����

    �����1.อิเหนา (กุเรปัน) กับ บุษบา (ดาหา)
    �����2.สียะตรา (ดาหา) กับ วิยะดา (กุเรปัน)
    ���� 3.กะหรัดตะปาตี (กุเรปัน) กับ บุษบารากา (กาหลัง)
    �����4.สุหรานากง (สิงหัดส่าหรี) กับ สะการะหนึ่งหรัด (กาหลัง)

    �����ส่วนจินดาส่าหรีสยุมพร (แต่งงาน)�กับวงศ์ระตู (เจ้าเมืองน้อย) คือระตูจรกา


    ���� เป็นอันเข้าใจกันแล้วนะค่ะ จะได้ไม่งง ไม่รู้จะเชื่อไรเตอร์หรือเปล่านะ แต่ข้างบนเนี่ยไรเตอร์จำจากหนังสือที่เคยอ่านล้วนๆไม่ได้เอามาจากเน็ตนะ^^
    ************************

    ������นางบุษบา�เป็นธิดาท้าวดาหากับประไหมสุหรี มีรูปโฉมงดงามปานนางอัปสรสวรรค์ มีอนุชาชื่อ สียะตรา และเป็นคู่ตุนาหงันกับอิเหนา โอรสท้าวกุเรปัน...

    ���
    ����� แต่ต่อมา อิเหนาไปหลงนางจินตราวาตี (ธิดาระตูหมันหยา) และออกปากตัดรอนนางบุษบา ท้าวดาหาพิโรธมากและตรัสว่าจะยกบุษบาแก่คนแรกที่มาสู่ขอ


    ������ปรากฎว่าคนที่มาสู่ขอคนแรกคือ ระตูจรกา ผู้อ้วนพุงพลุ้ย ผิวดำดั่งถ่าน หน้าตาอัปลักษณ์ เสียงหยาบกร้าน ท้าวดาหาเองก็คืนคำไม่ได้ เลยจำใจยกให้...

    ����� ต่อมาอิเหนาเดินทางมาช่วยศึกที่ดาหาและได้พบกับบุษบาก็หลงรัก (ไหนว่าไม่เอาแล้วไงอิเหนา? - -*) และพิโรธจรกามากที่ใฝ่สูงจนเกินศักดิ์มาหมายปองนางหงส์เช่นนี้...



    ���� อิเหนาพยายามเข้าหานางบุษบาทุกทาง โดยส่วนใหญ่จะเป็นทางสียะตรา อนุชาบุษบาซึ่งติดอิเหนาเป็นว่าเล่น ด้วยหน้าตาที่คล้ายกับพี่สาวทำให้อิเหนานอนกอดสียะตราต่างนางบุษบาทุกคืน (สียะตราขณะนั้นไม่กี่ขวบ)

    ���
    ���� บางครั้งก็บ่นกับสียะตราว่าหนาว ให้ช่วยไปขอผ้าสไบพระพี่นางบุษบามาห่มกายจึงจะหายหนาว สียะตราก็ไปขอมาให้ อิเหนาเลยได้ผ้าสไบมากอดเล่นซะงั้น บางครั้งก็บ่นกับสียะตราว่าหิว อยากกินชานหมากที่บุษบาอมแล้วไปขอมาให้ที สียะตราก็ไปขอมาให้ ทำเอาอิเหนายิ้มน้อยยิ้มใหญ่ทีเดียว (หลอกใช้เด็กนี่!!!)


    �����ในวันสยุมพร อิเหนาก็แสร้งว่าจะไปล่าสัตว์ในป่า แล้วก็วางแผน เผากรุงดาหา (เผาเล่นๆไม่ได้เผาจริงนะ - -;) และอาศัยช่วงชุลมุนปลอมตัวเป็นจรกาไปอุ้มองค์บุษบาหนี โดยอนุญาตให้บาหยันและประเสหรัน (ตำแหน่งพี่เลี้ยงพระธิดา) ตามเสด็จมาด้วย

    ����
    ���� อิเหนาพาบุษบามาอยู่ถ้ำในป่าที่ให้สังคามาระตา (อนุชาอิเหนา เป็นลูกชายระตูที่เป็นเมืองขึ้น อิเหนารับมาเป็นอนุชาไม่แท้อีกที พี่สาวของสังคามาระตาเป็นชายาของอิเหนาด้วย) ไปจัดเตรียมของอำนวยความสะดวกไว้ให้พร้อม (เตรียมการดีจริงๆ - -*)

    ���� อิเหนาได้บุษบาเป็นชายา แต่ต้องกลับไปแสดงความบริสุทธิ์กับท้าวดาหา เพราะกลัวท้าวดาหาจะสงสัยว่าตนเป็นคนลักพาบุษบามา และพรากนางไปอีก...


    ���� ระหว่างที่อิเหนาไม่อยู่...นางบุษบาก็ไปนั่งราชรถชมดอกไม้เล่น แต่ก็บังเกิดลมมาหอบเอาราชรถที่มีนางกับบาหยันและประเสหรันไป เนื่องจากองค์ปะตะกาหลาทรงอยากสั่งสอนอิเหนา ที่ตอนแรกหลงจินตราหัวปักหัวปำตัดรอนบุษบา พอมาพบบุษบาเห็นว่างามก็ลักมาเป็นชายาเอาง่ายๆ

    ���

    ���� องค์ปะตะกาหลาเปลี่ยนรูปบุษบาและพี่เลี้ยงให้เหมือนชาย (แต่ไม่ทั้งหมด - -*) ให้กริช (อาวุธชนิดหนึ่ง คล้ายๆมีดแต่มีลวดลายบรรจงสวยงาม)�กับบุษบา จารึกนามว่า�"อุณากรรณ"


    ����บุษบาจึงใช้ชื่ออุณากรรณบังหน้าตลอดมา จนได้มาเป็นโอรสบุญธรรมของท้าวกาหลัง (อาของบุษบา) ก็ได้พบกับ "ปันหยี" โจรหนุ่มรูปงาม ซึ่งเป็นชื่อปลอมของอิเหนาที่ใช้ปลอมตัวตามหาบุษบาเงียบๆ แต่องค์ปะตะกาหลาบันดาลให้ทั้งสองจำกันไม่ได้...


    ��� ไม่นานหลังจากนั้น...อุณากรรณก็ถูกแฉว่าเป็นหญิง ได้รับความอับอายจึงไปลาปันหยีไปในป่า แล้วไปบวชเป็นแอหนัง (นางชี)�


    �����ปันหยีเองก็ตามมาหาและรู้ว่าแอหนังคือนางบุษบา บุษบาก็รู้ว่าปันหยีคืออิเหนา ทั้งสองดีใจมาก บุษบาสึกจากแอหนังกลับมาอยู่กินกับอิเหนาเหมือนเดิม


    ���� อิเหนาพาบุษบากลับเมืองดาหา (จริงๆต้องบอกว่าบุษบาพาอิเหนากลับต่างหาก ก็อิเหนายึกยักอยู่นั่นแหละไม่ยอมกับเมืองซักที จนสียะตรากับวิยะดาที่ปลอมตัวมาตามหาทั้งคู่เหมือนกันต้องแอบส่งสารไปบอกท้าวกุเรปันกับท้าวดาหาให้มาที่กรุงกาหลัง - -*)


    ����ท้าวดาหายกโทษให้อิเหนาและจัดพิธีสยุมพรให้ทั้งสอง เพราะส่วนของระตูจรกานั้นได้ยกจินดาส่าหรีธิดาท้าวสิงหัดส่าหรีให้แทนบุษบาไปแล้ว (สงสารจินดาส่าหรีอ่ะ T^T)


    ����บุษบาถูกแต่งตั้งเป็นประไหมสุหรีฝ่ายซ้ายของอิเหนา (อิเหนามีมเหสีสิบนาง)

    ����
    ��� แรกๆบุษบามีปัญหากับนางจินตราวาตี (ประไหมสุหรีฝ่ายขวา) ซึ่งเป็นเมียหลวง แต่สุดท้ายก็ปรองดองกันได้ (ปรองดองกันดีแล้วค่ะ�- -;)

    ********************************
    �����

    ก็เป็นเยี่ยงนี้แหละค่ะ^^
    ไปๆมาๆ คิดว่าอิเหนาเจ้าเล่ห์จังเนอะ
    ตอนแรกบอกไม่เอาบุษบา บอกว่าจะสวยขนาดไหนเชียวผู้ชายถึงได้หลงกันนัก สุดท้ายตัวเองดันมาชอบซะเอง - -*
    นี่แหละค่ะ ที่มาของ "ว่าแต่เขา อิเหนาเป็นเอง"� เหอๆ
    ช่วยเม้นท์ให้ไรเตอร์ด้วยเน้อ จะได้มีกำลังใจลงประวัตินางในวรรณคดีต่อ^^

    จะว่าไป! ไรเตอร์ไปดู Top 10 ของหมวดความรู้รอบตัวมา...
    บทความนี้ติดด้วยอ่ะ ได้อันดับ 7 (เย้ๆ!)

    ยังไงก็ขอขอบคุณแฟนคลับและรีดเดอร์ทุกคน ทุกคอมเม้นท์ที่คอยติดตามและให้กำลังใจไรเตอร์นะค่ะ^^

    JJ♕
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×