คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : ผนึกที่ 7 : คฤหาสน์เฟรริดส์
ผนึกที่ 7 : คฤหาสน์เฟรริดส์
“ขอไม่เข้าไปได้ไหมครับ?”
เนลล่าเอ่ยชัดเจนทันทีหลังเห็นบ้านอภิมหาเศรษฐีตั้งตระหง่านตรงหน้า แทบจะอยากกระโดดหนีเพราะเห็นสภาพความหรูหราจนไม่อยากย่างกรายเข้าไป แต่ชายหนุ่มคนที่ลากเขามากลับยังดึงดันที่จะพาเข้าไป เหนือสิ่งอื่นใดนอกเหนือจากความหรูหราเขาไม่ถูกโรคด้วยแล้ว เห็นจะเป็นสภาพกลางน้ำที่ชวนให้เด็กหนุ่มถอยห่างออกมาไกลๆ
นี่มันป้อมกลางน้ำรึไงเนี่ย!!
“มาเถอะครับ ไม่เป็นไรหรอก ผมเป็นคนผิดที่ทำคุณเปียกนี่นา นี่ คุณคนนั้นน่ะ ช่วยทีสิครับ”หันไปกล่าวกับอิลเวสที่เงยมองบ้านอยู่ เจ้าของเนตรสีทองหัวเราะในลำคอ มองเด็กหนุ่มร่างบางด้วยประกายเนตรสนุกสนาน “ไม่ละ ปล่อยๆเขาไปเถอะ”
“ไหงพูดแบบนั้นล่ะครับคุณ!”ชายหนุ่มร่างบางโวยวาย ตามด้วยเนล่าที่ยังคงโวยวายไม่หยุด
“ปล่อยผมซี่!!”
“นี่มันอะไรกันน่ะ!!”หญิงสาวแผดเสียงร้องจนทั้งสามร่างที่ยืนอยู่หน้าประตูถึงกับสะดุ้งเฮือก ปรากฏร่างของหญิงสาวร่างท้วมในชุดสาวใช้สีเทายืนจังก้าอยู่ด้านหลังพวกเขา ใบหน้าที่มีริ้วรอยแห่งวัยขมวดมุ่นแล้วตวาดใส่อีกรอบ "มายืนทำอะไรหน้าบ้านตระกูลเฟรริสด์น่ะหา!!”
“เมื่อครู่ผมไปร้านเดกส์มาแล้วทำน้ำหกใส่คุณคนนี้ ก็เลยจะพามาเปลี่ยนเสื้อผ้าน่ะครับ" ชายหนุ่มกล่าว แล้วออกเดินมาข้างหน้าเพื่อให้อีกฝ่ายเห็นหน้าเขาได้ถนัด หญิงสาวที่กำลังจะอ้าปากต่อเมื่อเห็นใบหน้าของชายหนุ่มร่างเก้งก้าง ใบหน้าก็พลันถอดสีทันที
“นายน้อย!!”
+++++++++++++++++
และแล้วเขาก็เข้ามาในคฤหาสน์หลังโตนี่จนได้...
เด็กหนุ่มนึกในใจพลางมองไปรอบๆห้องกว้างในคฤหาสน์หรูที่บัดนี้เขาเข้ามาอาศัยเปลี่ยนเสื้อผ้าที่เปียกโชกของตน คฤหาสน์หลังนี้แทบจะเรียกได้ว่าเป็นเกาะกลางน้ำเลยทีเดียว ด้วยคูน้ำที่ล้อมรอบคฤหาสน์ไว้ราวกับเป็นกำแพงธรรมชาติที่กั้นไม่ให้ใครที่ไหนบุกรุกเข้ามา ..ทางเดินที่จะนำเข้าสู่คฤหาสน์ได้มีเพียงแค่ถนนที่เชื่อมเข้าไปสู่ประตูหน้าของคฤหาสน์เท่านั้น
ดูเหมือนว่าจะเป็นคฤหาสน์ที่สร้างหลังลากูน่าถูกน้ำท่วมเมือง
เนลล่ามองชุดบนเตียงที่ชายหนุ่มผู้ที่ถูกเรียกว่านายน้อยมอบให้เขาใช้ใส่ชั่วคราว เสื้อสีขาวระบายแบบผู้ดี กางเกงสีดำทรงกระบอก...ใบหน้ากลมเบ้ไปนิดด้วยไม่ชอบใจชุดที่เห็น แต่ดูเหมือนว่าเสื้อที่อีกฝ่ายนำมาให้เขาจะมีสองตัว เนลล่าหยิบอีกตัวขึ้นมาแล้วสะบัดออกพร้อมพบว่ามันเป็นเสื้อแขนสั้นสีดำ เจ้าของเนตรทับทิมจึงไม่รีรอที่จะหยิบมันขึ้นมาสวมใส่ทันที
เด็กหนุ่มถอดถุงมือออกเป็นอย่างแรกเผยให้เห็นรอยสักอันวิจิตรงดงามที่บ่งบอกถึงฝีมือของผู้กระทำ ศูนย์กลางของรอยสักเป็นรูปสองมิติของกุหลาบที่มีเถากระหวัดพันเกี่ยว ส่วนอื่นเป็นรอยโค้งอักขระงดงามที่ไม่มีอาจบ่งบอกความหมาย กระทั่ง..จบลงที่รูปสองมิติคล้ายปีกซึ่งตวัดออก
เนลล่ามองมือของตัวก่อนจะถอนหายใจยาว ปลอกแขนสีขาวที่เปียกชุ่มน้ำถูกถอดออกเป็นอย่างที่สองพร้อมกับที่มือเรียวรูดซิบเสื้อสีขาวออกมา ร่างกายเปียกไปด้วยน้ำจนเจ้าตัวยังรู้สึกรำคาญ เนลล่าใช้ผ้าเช็ดตัวก่อนจะสวมเสื้อเข้าไปแล้วเปลี่ยนกางเกงออกไป พร้อมใช้ผ้าขนหนูผืนนุ่มขยี้ผมให้แห้งเร็วๆ
จะว่าไปอันที่จริงแล้ว ถึงแม้ว่าหญิงสาวคนนั้นจะพบว่าผู้ที่ลากเขามาเป็นนายน้อยของตนแล้วก็ตาม แต่ด้วยความซอมซ่อ...เอ่อ..ด้วยสภาพของชุดที่เขาใส่ดูเหมือนจะทำให้เธอคนนั้นไม่ไว้ใจนิดหน่อย แต่ดูเหมือนว่านายน้อยแห่งตระกูลเฟรริสด์คนนี้จะรู้สึกผิดจริงๆ จึงได้พยายามลากเขาเข้ามาในคฤหาสน์แล้วค้นตู้ตัวเองพร้อมยื่นชุดให้เขาโดยไม่ฟังคำทัดทานใดๆ ส่วนอิลเวส..จะเพราะเกรงใจหรือเหตุผลอะไรอย่างอื่น ชายหนุ่มบอกปัดที่จะเข้ามาในคฤหาสน์หลังนี้แล้วกระซิบกับเขาว่า
'จะลองเดินหาข่าวดูก่อน’
จึงเป็นเหตุผลให้เขาอยู่ที่คฤหาสน์นี้แต่เพียงคนเดียว
แอ๊ด...
“ชุดผมใส่พอดีไหมครับ?”
ชายหนุ่มร่างผอมบางเดินเข้ามา นายน้อยแห่งเฟรริดส์คนนี้มีรูปร่างสูงใหญ่แต่ความผอมกลับไม่สัมพันธ์กับส่วนสูงจนทำให้ดูเก้งก้างไป นัยน์ตาลุกลี้ลุกลนที่ดูกลมโตสีฟ้าครามนั้นดูจะไม่เข้ากับร่างกาย เรือนผมสีดำตัดสั้นเรียบร้อยจนราวกับจะบ่งบอกนิสัยของเจ้าตัวได้เป็นอย่างดี เนลล่าพยักหน้า ก่อนจะกล่าวอย่างขอบคุณ
“ชุดพอดีเลยครับ ขอบคุณมาก”
“ไม่ทราบว่าชุดที่เปียกอยู่ไหนหรือครับ เดี๋ยวผมจะไปซักแห้งให้”ชายหนุ่มเอ่ยพลางยื่นมือออกมา เนลล่ามองไปที่เสื้อผ้าของตนที่วางกองอยู่ ก่อนจะส่ายหัวไปมาเป็นเชิงไม่ต้องการ”ไม่เป็นไรครับ รอให้มันแห้งเองก็ได้”
“เอามาเถอะครับ นี่ เฟรย่า”หันไปเรียกสาวใช้ที่ยืนรออยู่หน้าประตูห้อง
“คะ? นายน้อย”
“มาเอาเสื้อผ้าของคุณคนนี้ไปซักทีนะครับ”
“รับทราบค่ะ”กล่าวรับคำสั่งจบก็เดินเข้ามาเอาเสื้อผ้าของเนลล่าลงตะกร้าทันที เด็กหนุ่มร่างบางทำท่าจะห้ามแต่สายตาของแม่เจ้าประคุณก็กลับขวางส่งขึ้นมาประมาณว่า'อย่าได้ขัด'อย่างน่ากลัว
..ฮือ..ทำไมต้องขู่กันด้วยล่ะ
แต่นั่นก็แค่เสียงร้องในใจ
“คุณนี่...น่ารักมากเลยนะครับเนี่ย?”
เนลล่าฟังคำชมนั้น มองสายตาชื่นชมของชายหนุ่มที่กำลังกอดอกมองเขาในชุดเสื้อแขนสั้นสีดำกับกางเกงสีเดียวกันอย่างตั้งใจ เด็กหนุ่มเจ้าของเรือนผมสีขาวเหลือบม่วงอึ้งไปพักใหญ่ สะอึกกับคำชมที่ได้ยินมาทั้งชีวิตและไม่เคยจะชินได้เสียที ก่อนจะรู้สึกตัวแล้วรับพูดออกไปอย่างรวดเร็ว
“เอ้อ..ผมเป็นผู้ชายนะครับ ได้ยินคำนี้คงไม่ดีใจหรอก”หัวเราะแห้งๆให้กับชายหนุ่ม รีเรทเอียงคอกับคำพูดนั้น ก่อนจะหัวเราะตามอย่างสดใส
“ฮะๆ..นั่นสินะครับ...อืม..คุณชื่ออะไรหรือครับ ผมชื่อรีเรท เฟร์ริสด์ครับ เรียกว่ารีทก็ได้ เป็นลูกชายคนที่สามของบ้านนี้”
“ผมชื่อเนลล่า เลเซเบลครับ ยินดีที่ได้รู้จัก ส่วนเพื่อนผมคนที่ออกไปข้างนอกนั่นชื่ออิลเวส ลินสแตรงก์”
“เนลล่านี่.. มีความหมายไหมครับ?”
เนลล่าทำท่าครุ่นคิดครู่หนึ่ง ก่อนจะตอบออกไป “ไม่ทราบเหมือนกันครับ ...อันที่จริงต้องบอกว่าผมไม่รู้ว่าความหมายของชื่อผมเนี่ยคนตั้งตั้งใจจะให้แปลว่าอะไรมากกว่า แต่ในภาษาของซีกโลกหนึ่งมันดันเป็นคำเชื่อมประโยคที่มีความหมายว่า ‘ใน’ นี่สิครับ”
......
จบคำนั้น เสียงหัวเราะของรีทก็ดังกังวานออกมา ก่อนจะรีบหยุดไปเมื่อคิดว่าไม่ใช่เรื่องสมควร แม้ว่าจะยังมีเสียงเล็ดลอดออกมาก็ตาม “คิก..ผมคิดว่า..คนตั้งอาจ..จะคิดไว้บ้างก็ได้”
“..ถ้าอย่างนั้น แล้วชื่อของคุณล่ะครับ คุณรีเรท มีความหมายรึเปล่า”
“เรียกว่ารีทเฉยๆเถอะครับ”ชายหนุ่มกล่าวยิ้มๆ ก่อนจะบอกความหายของชื่อตนออกไป “..ชื่อของผมน่ะ แปลว่า สายสัมพันธ์ครับ ”
++++++++++
กึก..
เสียงรองเท้าที่ย่ำลงบนพื้นหินนั้นดังขึ้นในถนนอันไร้ผู้คนของยามบ่ายที่ฟ้าสีแสดกำลังสาดต้องสรรพสิ่งบนปฐพี
คราบเลือดของร่างที่ถูกฆาตกรรมอย่างโหดเหี้ยมบนถนนเลดเซดูเหมือนจะยังไม่ถูกชำระล้างไปจนหมด ร่างนั้นก้าวเดินเข้ามาแล้วก้มลงแตะที่คราบเลือดสีดำซึ่งแห้งกรัง ก่อนจะยกขึ้นดมกลิ่นแล้วสรุปในใจ
ไม่มีอะไรน่าเอะใจ นอกจากเป็นแค่เลือดของมนุษย์ธรรมดา
ถึงจะบอกให้สืบคดีแต่ก็ไม่มีอะไรให้สืบนอกจากลักษณะที่เชื่อมโยงกันของผู้ตายกับความวิกลจริตของฆาตกร แต่ถึงกระนั้นก็มีพวกวิกลจริตหลายจำพวกเหลือเกินที่มีชีวิตอยู่อย่างคนธรรมดาสามัญหากแต่กลับมีอีกด้านที่รุนแรง ..พวกสองบุคลิก
คนที่เห็นสภาพศพชัดเจนคือเนลล่าดังนั้นเขาจึงไม่รู้รายละเอียดมากนัก ถึงจะออกมาจากคฤหาสน์เพื่อตามหาฆาตกรก็เถอะ..แต่ลองไม่มีอะไรให้สาวไปถึงก็คงยากอยู่หรอก
ไม่มีทั้งศพให้สืบ ข้อมูลก็ยังมืดบอด
ตึก...ตึก...ตึก
เสียงรองเท้าดังแว่วใกล้เข้ามา
ตึก..ตึก..ตึก..
พลั่ก!
สติของอิลเวสหลุดลอยไปชั่วครู่เมื่อร่างหนึ่งพลันวิ่งมามาชนกับตัวเอง เนตรสีทองเบิกขึ้นเล็กน้อยด้วยตกใจที่จู่ๆก็ถูกชน ชายหนุ่มร่างสูงพยุงตัวเองไว้แล้วมองร่างที่มาชน ร่างนั้นดูเตี้ยกว่าเขา..เตี้ยเสียยิ่งกว่าเนลล่า ความสูงอยู่ที่แค่ราวๆอกของเขา เรือนผมสีทองสั้น อาภรณ์ที่สวมใส่เป็นเสื้อเชิ้ตสีขาวแขนยาวกับกางเกงขาสั้นลายตาราง ร่างนั้นเงยมองหน้าเขา ก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าเดือดร้อนจริงจัง
“ช่วยฉันที!”
อิลเวสขมวดคิ้ว ตอกกลับทันควัน “มันเรื่องอะไรของฉันล่ะ”
อีกฝ่ายหน้าเสียทันที ดวงตาสีฟ้าครามดูจะสับสนว้าวุ่นรุนแรง ก่อนที่ร่างหนึ่งจะวิ่งตามมาด้วยสีหน้าที่ทำให้อิลเวสถึงกับขมวดคิ้วไม่ชอบใจ
ชายร่างสูงร่างอ้วนเผละที่สวมใส่เสื้อโค้ทสีดำยืนหอบหายใจแรงอยู่ที่หน้าถนนซึ่งแสงสีแสดส่องเข้ามาจากด้านหลัง แววตาเต็มไปด้วยความต้องการบางอย่างที่น่าสะอิดสะเอียน ร่างนั้นทำท่าจะเดินใกล้เข้ามา แต่ร่างเล็กบอบบางก็พลันตะโกนใส่ทันควัน
“อย่าเข้ามานะ!”
ชายคนนั้นชะงัก ก่อนจะแสยะยิ้มแล้วกล่าวต่อ “อย่าเล่นตัวน่า จ่ายเท่าไหร่ก็ยอม”
“ก็บอกแล้วไงว่าฉันไม่ใช่พวกขายตัวน่ะ อย่ามาตัดสินคนอื่นเขาที่ภายนอกได้ไหม ไอ้วิตถารนี่!”
ปากกล้าชะมัด
“....เธอ กล้าพูดกับฉันแบบนี้หรือ อ๋อ? หรือว่ามีลูกค้าอยู่แล้ว ไอ้หนุ่มสำอางเนี่ยนะ!!???”ว่าพลางย่างสามขุมเข้ามาด้วยสีหน้าโกรธาหลังถูกด่าทอและปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใย ร่างนั้นชักมีดออกมาด้วยท่าทีเหนือกว่า แล้ววิ่งเข้ามาพร้อมเงื้อมีดในมือเตรียมปักลงบนร่างของคนที่เป็นเมื่อโล่กำบังของร่างบาง อิลเวสถอนหายใจ ก่อนจะขยับขาขึ้นถีบมือของชายหนุ่มที่รี่วิ่งเข้ามา
ผัวะ!
มีดลอยละล่องขึ้นเบื้องขนแล้วหล่นลงบนมืออิลวเส ชายคนนั้นลนลาน แต่ก่อนจะทันทำอะไรรองเท้าบู๊ทหนักๆของชายร่างสูงก็ถีบเข้าให้เต็มๆหน้าอีกครา จนร่างนั้นล้มลงไปกองกับพื้นอย่างไม่น่าดู
“ไปไหนก็ไป ถ้าไม่อยาก.........” มือหนาโยนมีดขึ้นข้างบน..
ฉึก..!
มีดปักลงระหว่างขา เฉียดเป้ากางเกงไปเพียงนิดเดียว
“...สูญพันธ์”
ใบหน้าอ้วนเผละพลันซีดเซียวทันที
“...แก...ฝะ..ฝากไว้ก่อนเถอะ...!!”ร่างนั้นฝากพูดที่ราวจะเคียดแค้นไว้ด้วยสีหน้าหวาดกลัว ก่อนจะรี่วิ่งหางจุกตูดออกไป
น่ารำคาญแฮะ..
อิลเวสคิดพลางถอนหายใจ นึกเสียใจตะหงิดๆที่ดันไม่รอกับเนลล่าในคฤหาสน์
“ขอบคุณมากนะ”
เสียงทุ้มของร่างที่หลบข้างหลังเขาดังขึ้น ดวงตาสีฟ้าครามทะเล้นมองขึ้นมาอย่างสนใจ “นายเก่งชะมัดเลย ไม่สนใจไปเป็นบอดี้การ์ดฉันเหรอ”
“เรื่องน่ารำคาญพรรค์นั้นไม่เห็นน่าสนใจ”ชายหนุ่มถอนหายใจ มองร่างของอีกฝ่ายแล้วก็เริ่มเข้าใจว่าทำไมถึงถูกเข้าใจผิดไปว่าเป็นพวกขายตัว ใบหน้าหวาน รูปร่างบอบบาง ดวงตากลมโต ทั้งเรือนผมสีทองที่ไว้ทรงพิลึกพิลั่นนั่นส่งเสริมให้ใบหน้าหวานล้ำยิ่งขึ้นไป แม้เป็นบุรุษเพศหากกลับมีเสน่ห์ของสตรี..
แต่ก็แล้วไงล่ะ ไม่เห็นน่าสนใจ
“ไปล่ะ”อิลเวสทำท่าจะเดินไป แต่แล้วก็โดนจับชายเสื้อเอาไว้ เจ้าของเรือนผมสีรัตติกาลถอนหายใจยาว ก่อนจะหันมาสั่งเสียงดุ “ปล่อย”
“อะไรกันเล่าเดี๋ยวซี่!! อุตส่าห์ช่วยไว้ทั้งที ขอตอบแทนหน่อยไม่ได้เหรอไง” ว่าพลางส่งสายตาวิงวอน แต่อิลเวสก็ไม่ได้สนใจ”ปล่อย”
“ปัดโธ่พี่ชาย ขอฉันได้ขอบคุณหน่อยสิ อุตส่าห์ช่วยกันทั้งที ฉันไม่ได้มีรสนิยมชอบผู้ชายด้วยกันซักหน่อย ออกจะชอบผู้หญิงเต็มร้อยแต่กลับโดนเข้าใจผิดซะทุกที แถมปกติก็ไม่มีคนช่วยด้วย คราวนี้เป็นครั้งแรกเลยที่มีคนช่วยไว้ ขอตอบแทนหน่อยเถอะน่า!!”
“ฉันไม่ต้องการอะไรทั้งนั้น!!ปล่อยได้แล้ว!!”อิลเวสหันมากระชากชายเสื้อตัวเองคืน
“โธ่ อ๊ะ เป็นนักเดินทางสินะ พี่ชายน่ะ นี่ๆๆๆ ไปพักบ้านฉันไหม ให้พักฟรีแถมอาหารสามมื้อก็ได้เอ้า”
กึก....!
“..........แน่ใจ๋?”
“แน่!”
“......นายชื่ออะไร”
“ฉันชื่อ เอลส์ เอลส์ เฟรริสด์”
“................................................”
+++++++++++
“.....อิลเวสฮะ นี่อิลเวสมีแผนหาที่พักฟรีอยู่ในหัวถึงเดินออกไปเหรอเนี่ย ลึกล้ำจริงๆ”
“จะบ้ารึไงฮะ”ตวาดเข้าใส่ทันทีหลังจบคำพูดกวนประสาทของเนลล่า ชายหนุ่มถอนหายใจยาวแล้วมองใบหน้าหวานของเพื่อนร่วมทางที่กำลังหัวเราะเบาๆอย่างสนุกในทีที่ได้กลั่นแกล้งเขา อิลเวสรู้ดีว่าอีกฝ่ายไม่ได้คิดอย่างที่ปากพูดมาหรอก แต่ก็อย่างที่ว่ามา นั่นก็แค่อยากจะแกล้งเขาเท่านั้น
เนลล่ามองอิลเวสแล้วก็หัวเราะเบาๆต่อไป หลังจากที่ชายหนุ่มถูกชายร่างบางคนหนึ่งลากมาที่ประตูคฤหาสน์หลังนี้ขณะที่เขากำลังคิดจะเดินออกไปตามหาคนที่กำลังเดินมา อิลเวสเดินตามชายร่างบางที่วิ่งมาอย่างกระฉับกระเฉงด้วยท่าทีเหนื่อยหน่ายอันคุ้นตา ก่อนที่ร่างนั้นจะหยุดลงแล้วหันมาอวดอย่างภาคภูมิว่า ‘นี่ล่ะบ้านฉัน เชิญพักตามสบาย’ แล้วหันมามองเขาซึ่งเป็นคนแปลกหน้าอย่างงุนงง
เด็กหนุ่มผมขาวสูดลมหายใจลึกแล้วหยุดหัวเราะในลำคอ ก่อนจะหยุดลงแล้วเหลือบมองชายหนุ่มร่างบาง
รูปร่างที่บางกว่าเขา อาจจะเล็กบางกว่าผู้หญิงจริงๆด้วยซ้ำ ส่วนสูงก็ดูเตี้ยกว่าเขาซักห้าเซนต์ แต่กระนั้นในดวงตาสีฟ้าครามกลับปรากฏแววทะเล้นอย่างบุรุษเพศอย่างเต็มที่ ..เรียกได้ว่าบางที นิสัยกับร่างกายอาจจะขัดกันอย่างน่ารังเกียจก็ว่าได้
“อ้าว รู้จักกันเหรอ แล้วนี่นายเป็นใคร? เข้ามาบ้านฉันได้ไง”ชายร่างบางว่าพลางหรี่ตามองเด็กหนุ่มรูปร่างบอบบางที่สวมใส่ชุดที่คุ้นตาเขา ดวงตาสีทับทิมเบิกขึ้นราวเพิ่งนึกได้แล้วก้มลงมองเสื้อผ้าของตน เอลส์ขมวดคิ้วพิจารณา ก่อนจะเป็นฝ่ายเบิกตากว้างบ้างแล้วชี้หน้าของเนลล่าอย่างไม่พอใจ “นั่นมันชุดขอ...!!”
“อ้าว พี่ครับ?”รีทที่วิ่งตามลงมามองด้วยสายตางุนง “ไหนบอกคืนนี้จะไปนอนค้างที่บ้านเอลิน่าไงล่ะครับ?”
“ระหว่างทางดันเจอโจทก์เก่าเลยหมดอารมณ์น่ะสิ อ๊ะ”อุทานราวเพิ่งนึกได้ แล้วชี้หน้าเนลล่าผ่านซี่ประตูเหล็กดัดทรงสวยเข้าไป “หมอนี่มันเป็นใครถึงสวมเสื้อผ้าของนายน่ะ รีท!”
“เอ้อ....”เนลล่าทำท่าจะพูด แต่เจ้าของเสื้อกลับขัดขึ้นเสียก่อน
“ผมไปร้านเหล้าในเมืองมาแล้วทำน้ำหกใส่เขาจนเปียกโชกน่ะครับ ผมก็เลยพาเขามาเปลี่ยนเสื้อแล้วก็ซักรีดชุดให้เขา แล้ว..คุณคนที่มากับคุณเนลล่าทำไมถึงมาพร้อมพี่ล่ะครับ”
“หา หมายถึงหมอนี่เหรอ”ชี้ไปที่อิลเวส มองใบหน้าชายร่างสูงที มองใบหน้าน้องชายที่ ก่อนจะว่าต่อไป “เขาช่วยพี่ไว้น่ะพี่เลยว่าจะตอบแทนให้เขาค้างด้วย แต่พี่ไม่อนุญาตให้เจ้าเด็กนี่ค้างหรอกน่ะ ซักชุดเสร็จก็รีบไปเลยล่ะ”ว่าแล้วก็โบกมือไล่เนลล่าอย่างรังเกียจ รีเรทชักสีหน้า ก่อนจะตะโกนใส่พี่ชายของตน
“คุณเนลล่าเขามากับคุณคนนั้นนะครับ ถ้าให้คุณคนนั้นพักล่ะก็ ก็ควรให้คุณเนลล่าพักด้วยสิครับ!!”ว่าแล้วก็ชี้ไปทางเนลล่าที่สะดุ้งโหยงเมื่อถูกพาดพิงถึง ก่อนดวงตาของเด็กหนุ่มผมขาวเหลือบม่วงจะมองไปยังอิลเวสที่อยู่อีกด้านของประตูราวจะขอความช่วยเหลือ..แต่
“สองคนนี้ไม่ได้ตัวติดกันเป็นตังเมซักหน่อยถึงจะต้องมาพักด้วยกันน่ะ อีกอย่างไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องให้เจ้าเด็กหัวหงอกนี่เข้าพักซักหน่อย ก็แค่นายทำหน้าหกใส่ไม่ใช่หรือไง!!”
“แล้วพี่จะใจดำไปทำไมล่ะครับ บ้านเราก็มีอยู่กับแค่ไม่ถึงสิบคน จะมีเพิ่มมาซักสองคนก็ไม่เห็นเป็นไร!”
“นี่นายจะขัดคำสั่งพี่เหรอ!!”
“แล้วมีเหตุอะไรให้ผมฟังพี่ล่ะ!!
“เอ่อ...ขอประทานโทษ”
“อะไร!!”
เสียงตวาดดังขึ้นจากสองพี่น้อง พร้อมกับสายตาสามคู่ที่จ้องมองมายังเด็กหนุ่มผมขาวเหลอบม่วง..ที่อาจเรียกได้ว่าเป็นตัวต้นเหตุของการทะเลาะกันอันดุเดือดนี่
“...ถ้าจะไม่ให้ผมอยู่แค่คนเดียวก็ไม่ว่าหรอกครับ ขอชุดแห้งผมจะจรลีไปทันที แต่มาตะโกนกันตรงหน้าแบบนี้ หูผมจะชาอยู่แล้วนะครับ....”เนลล่าว่าเสียงอ่อนระโหยหลังได้ยินการต่อล้อต่อเถียงกันอย่างรุนแรงของสองพี่น้อง อันที่จริงจะได้พักที่นี่หรือไม่เขาก็ไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่ ก็แค่เสียดายตังค์ที่ร่อยหรอลงทุกทีก็เท่านั้นเอง ดังนั้นในหัวของเขาตอนนี้จึงกำลังคำนวณอยู่ว่า จะยอมเหงาไปเช่าโรงแรมอยู่คนเดียวเพื่อประหยัดตังค์แบบไม่มีเรื่อง หรือจะชวนอิลเวสไปด้วยกันแต่เสียตังค์เพิ่ม กับทางเลือกสุดท้าย อ้อนสองพี่น้องคู่นี้เพื่อขอพักฟรี
..แต่ตัวเลือกหลังนี่ยากแฮะ
"ไม่ครับ ผมจะให้คุณเนลล่าพักด้วย ถือเป็นการไถ่โทษของผม"ยิ้มให้แล้วกล่าวอย่างเป็นมิตรกับเนลล่า แต่เสียงคัดค้านก็ดังมาแทบจะในทันที
"ไม่ได้!!"เอลส์ตวาดลั่น
“..พี่ไม่พอใจอะไรฮะ?”รีทว่าขึ้น ดวงตาหันหรี่มองพี่ชาย เนตรสีฟ้าครามสบตอบก่อนจะเสไปทางอื่น
“พี่แค่ไม่อยากให้ใครก็ไม่รู้มาพักที่บ้าน”
“งั้นคุณคนนั้นล่ะฮะ?”ชี้ไปทางอิลเวส ชายหนุ่มร่างบางกัดฟันแน่น ก่อนจะเอ่ยออกมา“เขาเป็นผู้มีพระคุณของพี่ พี่มีสิทธิให้เขามาพัก”
“งั้นผมก็มีสิทธิให้คุณเนลล่าพักด้วยเหมือนกัน”
“พี่ไม่อนุญาต!!”ตวาดลั่นใส่น้องชายทันที รีเรทขมวดคิ้ว ก่อนจะตอกกลับไปอย่างรวดเร็วและเยือกเย็น
“งั้นพี่จะให้เขามองว่าพี่ใจร้ายถึงขนาดไม่ให้เพื่อนเขาแค่คนเดียวพักอยู่ด้วยเหรอครับ?”
“ฉันไม่ใช่อีวานนะ!!”
ทุกสิ่งทุกอย่างชะงักไปเมื่อประโยคนี้พลันหลุดออกมา สองพี่น้องแห่งตระกูลเฟรริดส์ค้างไปทันทีราวกับชื่อที่พูดออกมาเป็นดั่งคำต้องสาป
ดูเหมือนว่าเอลส์จะสงบลงบ้างแล้วในขณะที่รีเรทขมวดคิ้วมุ่นคล้ายกรุ่นโกรธ เนตรกลมโตปะปนด้วยแววเศร้าสร้อย ชายหนุ่มร่างผอมกำมือแน่นจนสั่นระริก ดวงตาหลุบลงก่อนจะเบิกขึ้น จ้องมองไปยังร่างของพี่ชายซึ่งบอบบางกว่าที่หลบสายตาไป ก่อนจะเอ่ยเชื่องช้า เน้นความ
“....คนอย่างพี่ไม่มีวันจะเป็นพี่อีวานได้หรอก ไม่มีวัน ไม่ว่าเมื่อก่อน ตอนนี้ หรือจากนี้ไป”
“ไม่มีใครจะแทนที่ใครได้หรอก”
สิ้นสุดคำนั้น ทุกอย่างก็จบลง
++++++++++
“ขอโทษนะครับที่ทำให้คุณเห็นเรื่องไม่น่าดูแบบนั้น”
รีเรทกล่าวสำนึกผิดหลังอารมณ์เย็นลง มือของชายหนุ่มบัดนี้คือชุดสีขาวล้วนของเนลล่าที่ผ่านการซักรีดมาเรียบร้อย เนลล่าที่ตอนนี้ได้ห้องมาหนึ่งห้องจากผลพวงการทะเลาะกันของสองพี่น้องส่ายหน้าไปมา ก่อนจะรับชุดมาด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน
“ไม่หรอกครับ ทางนี้ต่างหากที่ต้องขอโทษที่มารบกวนแบบนี้ อีกอย่าง ต้นเหตุการทะเลาะกันมันก็พวกเราด้วย”หัวเราะแห้งๆด้วยรู้ดีถึงสาเหตุนั้น แม้จะไม่รู้ว่าเหตุใดชายร่างบางคนนั้นถึงไม่อยากให้เขาพักก็ตาม แต่เขาก็ยังคงคาใจในชื่อ 'อีวาน' ที่สองพี่น้องเอ่ยออกมาอยู่ดี
หลังจากที่คำคำนั้นหลุดออกมาแล้ว ดูเหมือนทั้งสองคนจะหมดคำพูดต่อกัน เอลส์เงียบไปซักพัก ก่อนที่จะกล่าวขึ้นราวกับลืมไปว่าไม่ต้องการให้เขาอยู่ที่นี่
‘จะอยู่ก็อยู่ไป’
พูดแค่นั้นแล้วก็เดินตึงตังเข้าบ้านไปโดยไม่เหลียวหลังกลับมา
เนลล่าขอห้องคู่ไปหลังจากที่ต้องปฏิเสธห้องอันหรูหราในบรรดาห้องนับร้อยในคฤหาสน์สีขาวอันตั้งตระหง่านเป็นเกาะกลางวารี เด็กหนุ่มต้องการคุยกับอิลเวสมากกว่าที่จะได้ห้องเดี่ยวหรูหรากันทั้งสองคนจนเหนื่อยเขาต้องเดินไปเดินมาระหว่างห้องของเขากับของอิล ดังนั้นจึงตัดเรื่องตัดราวด้วยการอยู่ห้องคู่ไปเสียเป็นดี ซึ่งแม้รีเรทจะไม่พอใจนิดหน่อยที่เหมือนต้อนรับพวกเขาไม่ดี แต่ก็จัดเตรียมห้องที่มีเตียงสองเตียงซึ่งกว้างที่สุดให้แทน
โดยที่เขาก็ค้านอะไรต่อไม่ได้แล้ว
และแม้กระนั้น ห้องที่ว่านี่ก็หรูเอาการ เตียงสี่เสาที่มีม่านบางนุ่มสีชมพู หมอนสีครีมและผ้าปูเตียงสีเดียวกันสองหลังวางคู่กัน ลายกำแพงรอบด้านนั้นใช้สีไร้กลิ่นบรรจงทาอย่างที่รับรู้ได้ด้วยลวดลายอันประณีตงดงาม หน้าต่างกรอบทองสวยถูกทำให้เปิดออกมาด้านนอกซึ่งเป็นระเบียงหินอ่อนได้ เก้าอี้นวมที่มีรูปร่างงดงาม โต๊ะไม้สลักมะฮอกกานีหรูหรา อีกทั้งโคมไฟประดับที่ให้แสงสว่างเพียงพอที่ทำจากแก้วใสงดงาม รวมไปถึงเครื่องเรือนในห้องนี้ที่ดูจะหรูหรางดงามจนเขาชักไม่กล้าที่จะใช้งาน
คิดส่วนนั้นจบเนลล่ามองเสื้อผ้าในอ้อมแขนของตัวเอง เสื้อผ้าสีขาวที่ถูกใช้งานและถูกซักอย่างขอไปทีตลอดมาบัดนี้กลับมาอยู่ในอ้อมแขนด้วยสภาพที่..เอ่อ..ใหม่ยิ่งกว่าตอนแรกเสียอีกกระมัง เนื้อผ้านุ่มด้วยสารบางอย่างที่ช่วยปรับผ้าให้นุ่มเนียนน่าใส่ กลิ่นหอมของไม้ป่าลอยมาจนชวนให้สบายใจ
การต้อนรับดีกว่าโรงแรมหรูในตัวเมืองเสียอีก
“ขอบคุณมากนะครับสำหรับที่พัก แล้วก็เรื่องเสื้อนี้ด้วย”ว่าพลางชี้เสื้อที่ตัวเองใส่และชุดในอ้อมแขนของตน รีเรทยิ้มรับคำนั้นแล้วส่ายหัวคล้ายไม่ใส่ใจ ก่อนจะมองเลยไปทางอิลเวสที่กำลังนั่งทำความสะอาดดาบของตนอยู่ “...คุณคนนั้นเล่าอะไรให้ฟังหรือยังครับ? ว่าไปช่วยพี่ของผมอีท่าไหน”
“ยังครับ รีเรท มาถึงก็เห็นนั่งเงียบเลย”ว่าแล้วก็มองตามไปที่อิลเวสเฉกเช่นเดี๋ยวกับบุรุษเจ้าของเรือนผมสีดำสีดำสั้น ตั้งแต่เดินเข้ามาดูชายหนุ่มดูจะนิ่งเงียบไปโดยไม่พูดอะไรออกมา ซึ่งก็เป็นเรื่องปรกติธรรมดาสำหรับคนที่ไม่ค่อยชอบพูดอะไรให้เมื่อยปากอย่างอิลเวส ยิ่งตอนนี้..ดูเหมือนนักฝ่ายจะมีเรื่องให้ขบคิดอยู่เยอะเหมือนกัน
..ถึงเขาจะไม่รู้ว่าเรื่องนั้นมันคือเรื่องอะไรก็เถอะ..
“....งั้นเหรอครับ”รีเรทถอนหายใจยาว ก่อนจะเหล่มองทางอื่นแล้วพูดถึงพี่ชายของตนด้วยน้ำเสียงเหนื่อยหน่ายใจ “พี่ไปก่อเรื่องอะไรอีกหรือเปล่านะ?”
“ปรกติคุณเอลส์ชอบก่อเรื่องเหรอครับ?”เนลล่าถามขึ้นอย่างสงสัย แต่อันที่จริงแล้วท่าทีของชายเจ้าของเส้นผมสีทองก็ดูใช่ย่อยเสียเมื่อไหร่ ดวงตาสีฟ้าครามทะเล้นนั้นชวนให้คิดถึงคาสโนว่าตามเมืองหรูด้วยซ้ำ
“ไม่เชิงก่อเรื่องหรอกครับ แต่เขาเป็นพวกที่นิสัยเด็กกว่าตัว บางทีเลยพูดจาชวนให้คนโมโหบ่อยๆ แล้วก็เลยมีเรื่องขึ้นน่ะครับ”ตอบคำถามของเนลล่าโดยไม่คิดอะไร น้ำเสียงนั้นแฝงความไม่พอใจแต่ก็เจือไปด้วยความเอื้อเอ็นดู “จริงสิ กรุณาเรียกผมว่ารีทเถอะครับ ผมสนิทใจกับแบบนั้นมากกว่า คุณเนลล่า”
“ก็ได้ครับงั้นรีทก็เรียกผมว่าเนลเฉยๆก็พอ ..ที่จริงเราพูดเรื่องนี้กันไปรอบหนึ่แล้วนี่ครับ ผมผิดเองแหละที่ลืม”ขยิบตาให้พร้อมยิ้มหวาน หัวเราะเบาๆในลำคออย่างสดใส รีเรทมองใบหน้าหวานของเด็กหนุ่มร่างบางแล้วหัวเราะให้ ก่อนจะกล่าวขึ้นด้วยท่าทีสบายใจ “เข้าใจแล้วครับ เนล งั้นก็เชิญตามสบายนะครับ ไว้ถึงเวลาอาหารเย็นแล้วจะให้สาวใช้มาเรียกครับ”
“เอ้อ...! ไม่รบกวนถึงขั้นนั้นดีกว่าครับ เดี๋ยวพวกเราไปหากินกันข้างนอกก็ได้”เนลล่ารีบปฏิเสธทันทีด้วยความเกรงใจ แต่รีเรทกลับขมวดคิ้วแล้วกล่าวต่อไป
“พูดอะไรแบบนั้นล่ะครับ มาทานด้วยกันเถอะ ผมอยากดูแลพวกคุณให้ดีที่สุดน่ะฮะ”
“แต่ผมค่อนข้างเกรงใจคุณกับพี่ชาย..หมายถึงคุณเอลส์น่ะครับ”พาดพิงไปหถึงคนที่เกลียดเขาจับใจ
“ไม่ต้องคิดมากหรอกครับ อีกอย่าง ตอนนี้ผมนั่งทานกับพี่เอลส์กันแค่สองคน มีคนมาเพิ่มก็ครึกครื้นดี”
“แต่พี่ชายคุณจะ...................”
“นั่งกันสี่คนก็ต้องดีกว่าสองคนบนโต๊ะยาวยืดสำหรับสิบคนนะครับ”
“......................................”เนลล่าหุบปากฉับทันทีที่เห็นสีหน้าเศร้าสร้อยของอีกฝ่าย ถึงไม่ได้พูดออกมาตรงๆ แต่ความรู้สึกที่สื่อออกมาก็แสดงถึงความเหงาอยู่ดี..
และบอกตามตรงว่าเขาแพ้ความรู้สึกนั้นสุดๆ
เสียงถอนหายใจดังเบาๆอย่างที่เจ้าของร่างได้ยินเพียงคนเดียว
“เข้าใจแล้วครับ รีท งั้นรบกวนด้วยนะครับ”
“อ๊ะ.. ครับ เนล!”รับคำจบ ชายหนุ่มก็เดินจากไป เนลล่ายืนโบกมือลา ก่อนที่จะปิดประตูเข้ามา รอยยิ้มที่ใช้รับชายหนุ่มร่างผอมพลันหายวับไปทันที ร่างแบบบางรับชุดไว้ในมือแล้ววางลงบนเตียงของตน ก่อนจะเดินไปลากเก้าอี้ที่โต๊ะกลมซึ่งอิลเวสใช้อาศัยวางอุปกรณ์ดูแลดาบอยู่มานั่ง ท้าวคางลงบนเนื้อไม้สวยแล้วถามขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบคล้ายไม่ใส่ใจ “กำลังคิดอะไรอยู่เหรอครับ”
“.....ผมสีทอง ตาสีฟ้าคราม....คุ้นตะหงิดๆ”
“..สีผมคุณเอลส์ไงครับ”
“เออรู้ ก็หมายถึง...”อิลเวสทำท่าครุ่นคิด ก่อนจะถอนหายใจแรง เลิกสนใจไปในบัดดล “ช่างมันเถอะ”
“แล้วอีท่าไหนถึงไปสร้างบุญคุณให้พ่อคนอารมณ์ร้อนนั่นได้ล่ะครับ”
“หมอนั่นโดนเข้าใจผิดว่าเป็นพวกขายตัวเลยโดนตามตื๊อน่ะ ฉันรำคาญเลยไล่ให้ แล้วก็โดนตื๊อให้มาพักเป็นการขอบคุณแทน”ว่าแล้วก็ดูเหมือนเจ้าตัวจะรู้สึกว่าคาดเรื่องผิดพลาดพอสมควร
“....อิลเวสช่วยคนอื่น หายากนะครับ หรือว่าวางแผนจริงๆ”เนลล่าหัวเราะคิกคัก มองใบหน้าขออีกฝ่าย แล้วท้าวคางลงบนโต๊ะ มองชายหนุ่มร่างสูงที่ขัดดาบไปขมวดคิ้วไป ก่อนเจ้าตัวจะเป็นฝายเสไปเรื่องอื่นก่อน
“แล้วเรื่อง..สืบหาเรดเลดี้น่ะ แน่ใจหรือว่าจะทำ?”
“….อา..ครับ...ก็มันเป็นวิธีเดียวที่จะเข้าใกล้ภูติน้ำตนนั้นได้นี่ครับ” เนลล่าขมวดคิ้ว ราวกับอีกฝ่ายถามในเรื่องที่มีคำตอบแน่นอนอยู่แล้ว ร่างบางเอนกายพิงกับเก้าอี้ ดวงตาเคร่งเครียด “ที่จริงผมก็ไม่อยากจะยุ่งกับเรื่องพวกนี้เท่าไหร่หรอก”
“บางทีผู้หญิงคนนั้นอาจจะหลอกเราก็ได้”
“ไม่มีเหตุผลต้องหลอกลวงกันนี่ครับ อิลเวสอย่ากลับคำสิ คนที่บอกว่าเชื่อได้น่ะคืออิลนะครับ”เด็กหนุ่มขมวดคิ้วกับคำพูดนั้น ส่วนอิลเวสก็สะอึกในลำคอแล้แถไปเรื่อย
"แล้วก็แล้วกันไปสิ"
"แน่ะ..."เนลล่าขมวดคิ้วกับคำเถียงข้างๆคู ก่อนจะเถียงกลับไป “...ถึงจะพูดว่าหลอกให้เราหาตัวคนร้ายให้เขา แต่ถ้าแบบนั้น เขาก็น่าจะหลอกแค่ว่าพาเราไปพบได้..ไม่จำเป็นต้องพูดถึงผนึกอาคมอะไรนั่นเลยนะครับ”
“เธอก็คิดในมุมกลับสิว่าถ้าไปพบได้ง่ายๆเราก็จะคิดหาทางเองโดยไม่รอข้อเสนอ”
“สรุปอิลเวสจะสงสัยเขาไปทั่วใช่ไหมครับเนี่ย??”
“...เธอต่างห่างล่ะที่เชื่อคนง่าย ตั้งแต่คราวโรเรลแล้ว”
“ถ้าไม่รู้จักเชื่อใจใครก็จะไม่มีคนมาเชื่อใจเรานะครับ”
“ฉันก็ไม่ได้อยากให้ใครมาเชื่อใจฉันซักหน่อยนี่?”
“อิลเวสนี่...สมัยก่อนต้องไร้เพื่อนแน่ๆเลยครับ”
“คนที่เดินทางกับคนไร้เพื่อนน่ะเงียบไปเลยไป”
“.....เราวกเข้าเรื่องกันเถอะครับ”พอทำท่าว่าคำพูดจะกลับมาแทงใส่ตัวเองเนลล่าก็เปลี่ยนทิศทางการพูดคุยอย่างรวดเร็ว จนชายหนุ่มร่างสูงหัวเราะเบาๆแล้ววางดาบที่ทำความสะอาดเรียบร้อยแล้วลงบนโต๊ะไม้ที่ปูด้วยผ้าลูกไม้ถักสีฟ้าคราม ก่อนจะว่าต่อไป “แล้วไงล่ะ เรื่องที่เรารู้ตอนนี้ก็คือ ลักษณะของเหยื่อ ช่วงเวลาที่ฆาตกรออกฆาตกรรม แล้วก็ลักษณะการฆ่าที่เป็นเอกลักษณ์เท่านั้นเอง”
“ถ้างั้นตอนนี้จะหาข่าวอะไรเพิ่มได้ล่ะครับ?”
“อย่างน้อยให้รู้ว่าใครเป็นคนที่ตายไป ตายยังไง ลักษณะบาดแผลอย่างละเอียด ช่วงเวลา สถานที่ที่ปรากฏตัว พยานอ้างอิงและสิ่งที่ชี้ตัวฆาตกร”
“...นั่นมันเยอะอยู่นะครับอิลเวส แต่ถ้าแค่ข้อมูลของทางเหยื่อล่ะก็ น่าจะมีในข้อมูลที่ทางทหารรักษาการใช้ในการสืบสวนนะครับ เพราะจะมีครบทั้งประวัติขของผู้ตายและพยานวัตถุทั้งหลาย หรือไม่ก็แผนชันสูตรในสถานพยาบาล แต่จะเข้าไปเอายังไงล่ะ”เนลล่าขมวดคิ้ว ยกนิ้วเสนอความเห็นที่หนึ่ง “เดินเข้าไปขอซึ่งๆหน้า?”
“แล้วเธอคิดว่าเขาจะมอบเอกสารลับให้นักเดินทางที่ไหนก็ไม่รู้ไหมล่ะ?”ว่าแล้วก็ดีดนิ้วแรงๆใส่หน้าผากที่ปกคลุมด้วยเรือนผมรุงรังไปหนึ่งที เนลล่าร้องพึมพำออกมาเบาๆ มือกุมหน้าผากแล้วประชดออกมา
“แหม..แล้วจะแอบเข้าไปเอาหรือไงครับ?”
“ถามอะไรของเธอน่ะ มันแน่อยู่แล้วไม่ใช่หรือไง”
โครม!!
จบคำนี้เนลล่าก็พลาดหล่นจากเก้าอี้ลงไปกองกับพื้นทันที เด็กหนุ่มแขนขาสั่นงุนงงปนตกใจ ก่อนจะตวัดหน้ามองร่างสูงทั้งที่ยังไม่ได้ลุกขึ้นมา “เดี๋ยว! นี่คิดแบบนั้นตั้งแต่แรกแล้วเหรอครับ!”
“ก็เออสิ ถ้าในเมื่อไปขอดีๆไม่ได้มันก็ต้องเข้าไปแอบเอามาอยู่แล้ว ทำอย่างกับว่าไม่เคยอย่างนั้นล่ะ”เอ่ยพลางแสยะยิ้มกอดอกให้อย่างเจ้าเล่ห์ “เป็นวิธีที่เร็วที่สุดที่จะได้ข้อมูลในมือ”
“...ผมเหมือนจะรู้แล้วล่ะว่าผมได้แบบอย่างนิสัยมาจากใคร”
“จากใครล่ะ”อิลเวสเอ่ยถาม กระตกมุมยิ้ม เนลล่ามองยิ้มนั้นก่อนจะตอกกลับไป
“คนที่ไม่รู้ตัวเองแถวๆนี้ล่ะครับ”
ความคิดเห็น