ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    uncanny พิสูจน์ไม่ได้(รีไรท์รอบสามแล้วโว้ย)

    ลำดับตอนที่ #8 : ลางสังหรณ์ที่VII:ผู้ช่วยชีวิต(รีไรท์4)

    • อัปเดตล่าสุด 4 พ.ค. 54


    ลางสังหรณ์ที่VII:ผู้ช่วยชีวิต(100%)

               "ทั้งคนทั้งผี...อวดดีเหมือนกันหมด...ดี...ตายมันไปพร้อมกันเลย!"งูตัวนั้นคำรามลั่นจนปวดหูแล้วพุ่งเข้ามาหาลุงผีและเด็กสาว คลื่นเสียงของมันอัดกระแทกเข้ากับร่างโปร่งแสงของลุงผีจนลุงผีแทบสลายแต่ทว่าลุงผีก็ยอมทน ลุงผีจะไม่หนีอีกแล้ว จะปกป้องชาช่าให้ถึงที่สุด!! ลุงผีเผยรอยยิ้มเย็นๆออกมา

               /ข้าน่ะ...จะตายอีกกี่รอบก็ไม่สนหรอก...แต่อย่ามาแตะต้องไอ้หนูของข้าแม้แต่ไอวิญญาณรอบๆตัวเธอ/

               ลุงผีตะโกนออกมาอย่างเกรี้ยวกราดคำพูดนั้นดูทรงอำนาจต่างจากการพูดของคนหรือวิญญาณทั่วไปอย่างสิ้นเชิง ใบหน้านั้นระบายด้วยรอยยิ้มเครียดๆปนเย็นเยียบ ชาช่าเบิกตากว้าง เธอไปว่าลุงผี เธอว่าผู้ที่รักเธอที่สุดในบรรดาผีทั้งหมด เป็นวิญญาณตนแรกที่เข้ามาพูดคุยกับเธอ เขาทำทุกอย่าง เป็นที่พักพิง เป็นเพื่อน เป็นผู้ปรับทุกข์ยามที่เธอไม่สบายใจ เป็นทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตของเธอแต่ทว่าตอนนี้...

               ...เธอเนรคุณเขา!?!...

               "หยุดนะ!!"ไอวิญญาณสีดำแผ่กระจายออกมาเป็นวงกว้าง ออกไปทั่วอาณาบริเวณเป็นเพียงเพราะความโกรธของเธอ ห้ามมีใครมาทำอะไรลุงผีนะ!! วิญญาณหลายตนกรีดร้องโหยหวนออกมาอย่างเจ็บปวด งูตัวนั้นผงะกับพลังไอวิญญาณที่เธอแผ่ออกมาและหันไปหาร่างบาง แต่ลุงผีเพียงแค่หันไปดูวัตถุต้นกำเนิดไอวิญญาณที่มีพลังรุนแรงนี่ แล้วเบิกตาเล็กน้อยราวกับว่ามันไม่น่าจะเกิดขึ้นได้

               /พลังที่หลงเหลือช่างรุนแรงนัก/ลุงผีคิดรอยยิ้มเครียดๆจางหาย ยิ้มไม่ได้แล้วพลังแบบนี้เกิดไดอย่างไรกัน /มันยังไม่ถึงเวลาไม่ใช่หรือ/

               "นี่มัน..."งูตัวนั้นพึมพำ มองร่างบางที่ยังคงแผ่ไอวิญญาณออกมาอย่างต่อเนื่องมันมืดมนราวกับหลุมลึกที่มองไม่เห็นก้นหลุม เป็นวังวนความมืดมนแบบที่ไม่มีที่สิ้นสุด"หรือว่าจะเป็นคนที่นายต้องการ"งูตัวนั้นคิด

               "พอกันสักที" เธอพูดเสียงเรียบๆ แต่ทว่าน้ำเสียงดูน่ากลัว ลุกขึ้นยืน งูจึงได้สติ ยังไงเด็กก็คือเด็ก แค่แผ่ไอวิญญาณออกมาได้ ไม่ได้หมายความว่าจะสามารถเอาชนะมันได้สักหน่อย งูจึงจัดการตวัดหางอ้อมลุงผีไปทางด้านเด็กสาวอย่างรวดเร็ว เกินกว่าที่ใครจะมองได้ทันลุงผีรีบมากันแต่ทว่าหางของงูก็ทะลุร่างโปร่งแสงนั่น แล้วไปทางด้านหลังเด็กสาวที่ยังเดินไม่ได้ทำได้แต่แผ่ไอวิญญาณออกมาขู่เท่านั้น

               ผั่วะ

              ร่างบางลอยละลิ่วออกไป อัดกระแทกต้นไม้แต่ทว่าก็มีพลังใสๆของวิญญาณที่เธอรู้จักดีมารองรับเธอเอาไว้ ไม่ธรรมดาจริงๆลุงผี อสรพิษฉีกยิ้มกว้างอีกครั้งแต่คราวนี้เนื้อไม่ฉีกออกมาด้วยไม่ได้สนใจลุงผีแม้แต่น้อย มันไม่กลัวท่าทางที่เธอแสดงออกมาเลยแม้แต่นิดเดียว และยังทำร้ายเธออีกต่างหาก ร่างบางยันการลุกขึ้นมาอย่างช้าๆ ร่างกายสั่นเทิ้มด้วยความเจ็บปวด ภายในของเธอรู้สึกปวดขึ้นมาอย่างไม่เคยรู้สึกและในลำคอก็รู้สึกว่าจะมีอะไรร้อนๆทะลักออกมา พะอืดพะอมเสียจนอยากจะอาเจียนออกมาให้จงได้ แต่ทว่ามันก็ไม่มีอะไร

              "อัก!!"เธอบ้วนลิ่มเลือดออกมาในที่สุด "หนอย"เธอปาดเลือดที่ไหลออกมาที่มุมปาก
    มองงูด้วยสายตาแค้นเคือง เล่นมาโดยไม่ทันตั้งตัวแบบนี้ต่อให้เจ็บหรือไม่เจ็บก็หลบไม่ทันอยู่ดีนั่นแหละ งูหัวเราะลั่นเมื่อเห็นสภาพสะบักสะบอมไปทั้งตัวของเธอ มันมองเธอด้วยแววตาสะใจ อย่างไรก็ตามงูจะไม่ฆ่าเธออยู่แล้ว เจ้านายจะต้องหายโกรธแน่ๆ หากเอาชาช่าไปให้กับ'เขา'

             "นี่เป็นบัญชีแค้น...ในฐานที่โกหกข้า"งูตวาด ก่อนจะฟาดหางลงไปกลางลำตัวของร่างบางที่นอนแผ่หลาอยู่ที่พื้น"และนี่...ฐานที่ว่าข้าร้องเพลงไม่เพราะ...หนูยอมไม่ได้~~"(หมดกัน...ความพรั่นพรึง+สยองขวัญ) มันแสยะยิ้มอีกครั้งหนึ่งอย่างน่าขยะแขยง เหล่มองไปทางลุงผีที่สะบักสะบอมเช่นกันเพราะว่าหางของงู

              /ไอ้หนูเจ็บมากมั้ย/ลุงผีถามด้วยน้ำเสียงเป็นห่วงทั้งๆที่ตัวเองก็มีสภาพไม่แตกต่างจากกัน ลุงผีพยายามลุกตะเกียกตะกายไปหาร่างเล็กอย่างเป็นห่วง ร่างบางพยายามยันกายขึ้นเพื่อพิงต้นไม้ต้นหนึ่ง แต่ก็ทำไม่ได้ เมื่อสักครู่คงจะกระแทกแรงมากๆเป็นแน่ถึงได้เป็นแบบนี้

              ลุงผีเข้ามาประคองเธอและเมื่อครู่ยังช่วยมาลดแรงกระแทกที่เธอต้องกระแทกต้นไม้ทำให้เธอรู้สึกเจ็บน้อยกว่าที่ควรจะเป็น แต่ก็ไม่ได้ช่วยอะไรมากนัก เพราะว่าลุงผีมัวแต่อึ้งในไอวิญญาณที่เธอแผ่ออกมาจึงใช้ไอวิญญาณออกมาน้อยเกินไป หญิงสาวยิ่งรู้สึกผิดขั้นรุนแรงที่ทำให้ลุงผีต้องมาเปลืองแรงและหนักใจกับเธอแบบนี้ เธอส่ายหน้าก่อนหันกลับไปหางูอีกครั้ง

               อสรพิษยกหางขึ้นอีกครั้ง เธอลุกขึ้นดีดตัวหลบหางที่ฟาดลงมาไปอีกทางแต่ก็ไปได้ไม่ไกลนัก เพราะข้อเท้าที่ปวดทักท้วงและร่างที่บอบช้ำไปทั้งร่างจนเธอต้องเอามือไปเผลอกุมมันโดยไม่รู้ตัว ร่างบางกัดฟันกรอดกับข้อเท้าที่ปวดจิ๊ด เธอรู้สึกว่าเธออ่อนแอเสียเหลือเกินเป็นตัวถ่วงสำหรับทุกคนมาก ชาช่าเม้มริมฝีปากแน่นสะกดความคิดของตัวเองที่ฟุ้งซ่าน

               จู่ๆลุงผีก็มาโผล่ตรงหน้าเธอสีหน้าดูเคร่งเครียดราวกับเป็นคนละคนกลับลุงผี และทันใดนั้นเอง มือโปร่งแสงของลุงผีก็ทาบลงที่ข้อเท้าของเธออย่างแผ่วเบา แสงสีขาวจางๆสว่างขึ้นเล็กน้อยก่อนเธอจะขยับข้อเท้า...

               ...ดีขึ้นอย่างมาก...

               /รีบไปสิไอ้หนู/ลุงผีผลักเธอวิ่งออกไป ร่างบางดูจะทั้งอึ้งและงงกับการกระทำของลุงผี แรกๆก็มาแบบวิญญาณทั่วไปธรรมดา แต่มาในวันนี้กลับแสดงพลังที่เหล่าวิญญาณทั่วไปไม่อาจจะทำได้และยังพูดจาแปลกๆอีกต่างหาก...ลุงผีเคยเป็นใครมาก่อนหรือเปล่ากันนะ ความสงสัยผุดขึ้นในหัวของชาช่า แต่ตอนนี้ไม่มีเวลามาสงสัยแล้วเพราะว่าตอนนี้เธอต้องหนีให้ออกห่างจากงูนี่ก่อน ลุงผีอุตส่าห์รักษาแผลให้เธอแล้ว

               ชาช่าไม่คิดว่าวิญญาณจะสามารถใช้พลังหรืออำนาจอะไรได้ ไม่สามารถปรากฏตัวให้ใครเห็นได้นอกจากผู้ที่มีสัมผัสวิเศษแบบเธอ และพลังของเธอมันก็มากเกินจนทำให้คนอื่นมองเห็นวิญญาณพวกนี้ด้วย เธอวิ่งมาได้สักพัก ก็หยุดยืนหอบ มองซ้ายขวาว่างูไม่ได้ตามมาด้วยก็ปาดเหงื่อเตรียมตั้งท่าวิ่งต่อแต่...

               "ว้าย!!"

               มือหนาของใครบางคนฉุดข้อมือบางเข้าไปในพุ่มไม้ กดหัวเธอให้ก้มลงก่อนสายตาคมๆมองลอดออกไปด้านนอก ร่างบางดิ้นแต่ไม่ร้องเพราะรู้ว่าหากเธอร้อง จะไม่ปลอดภัยมากกว่าอยู่กับเจ้าของมือนี่ สักพักมือหนาก็ปล่อยเธอช้า เธอหับขวับมาหาเจ้าของมือพลาง ปัดดินออกจากใบหน้าและเสื้อผ้าของเธอ

               "ยังมีคนหลงอยู่ในนี้อีกหรือเนี่ย!!"ชาช่าคิดอย่างตกใจ ดวงตาเบิกกว้างอย่างตกใจ ร่างนั้นเอาตัวเธอไว้แนบอก ใกล้จนได้ไออุ่นจากอีกฝ่าย

               คนคนนี้ก็คือชายหนุ่มรุ่นราวคราวเดียวกับเธอ เรือนผมสีน้ำตาลเข้มซอยระต้นคอ ดวงหน้าคมเข้มติดหวานเล็กน้อย ดวงตาสีน้ำตาลเข้มคมติดหวานเช่นกันสบตามองเธอ จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากบางกำลังเหยียดยิ้มเป็นมิตรให้เธออยู่จนดวงตาแทบปิด ร่างบางอึ้งไปกับรอยยิ้มนั่นชั่วครู่ แต่ก็ได้สติเมื่อเขาปล่อยเธอออกจากอ้อมแขน

               "ขอโทษนะครับ...ที่แตะตัวคุณและทำให้คุณตกใจ"เขาพูดอย่างสุภาพ ร่างบางทำหน้างงๆปนตะลึงเล็กน้อย

               "ฉันตกใจนึกว่าเป็นไอ้งูบ้าตัวนั้นต่างหากเล่า"เธอแย้งในใจอย่างอารมณ์เสีย ถึงแม้จะตกใจที่เขามาดึงเธอให้เข้ามาในพุ่มไม้ด้วยก็ตามที "นาย...ไม่ได้หนีออกไปเหรอ"เธอถามเพราะคิดว่าไม่น่าจะมีใครหลงเหลืออยู่ในนี้อีกแล้ว

               "ผมสนใจไอ้งูตัวนั้น...จู่ๆมันก็โผล่มาไล่ขยี้ถนนด้านนอกเหมือนกำลังหาใครอยู่อย่างนั้นแหละ"ร่างสูงพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น "คุณล่ะ"เขาหันมาถามร่างบอบบางที่ไม่ทันตั้งตัว

               เธอสะดุ้งพลางยิ้มแหยๆ มันหาเธออยู่นั่นแหละเพราะเธอไปกระตุกต่อมโมโหจนมันกลายพันธุ์จากงูพันธุ์จิ๋วเป็นไอ้งูขนาดยักษ์ไล่กวดเธอไปทั้งพิพิธภัณฑ์อย่างที่เห็นแบบนี้แหละ ขออย่าให้เขาถามอะไรหรือสงสัยอะไรไปมากกว่านี้เลย เธอไม่อยากจะตอบอะไรทั้งนั้น เดี๋ยวเขาจะจับได้ว่าเธอโกหกเขาแล้วจะมีเรื่องกันยาว

               "ไม่รู้เหมือนกัน"เธอโกหกหน้าตาย พลางส่ายหน้าเพิ่มความหนักแน่น ร่างสูงเลิกคิ้วเล็กน้อยในขณะที่แหวกพุ่มไม้มองดูว่างูหายไปไหน

               "แล้วคุณไปถูกมันไล่ได้ยังไงน่ะ"เขาหันมาจับผิดเธอ ร่างบางทำหน้าเลิ่กลั่ก กลอกตาไปมาหาข้อแก้ตัวกับเขา ร่างสูงยิ่งจ้องมา...อึดอัดเหลือเกิน ทำไมเขาถึงต้องจ้องเธอขนาดนี้ด้วยนะ ไม่ใช่ว่าเขารู้แล้วว่าเธอโกหกหรอกนะ ชาช่าแอบลอบกลืนน้ำลายอย่างรู้สึกหวาดระแวง แล้วนี่ลุงผีหายไปไหนอีกแล้ว

               "ก็...ฉันหาเรื่องน่ะ...เห็นมันจะจับเจ้าหน้าที่กินก็เลยไปแลบลิ้นใส่มันน่ะ"เธอพูดความจริงส่วนหนึ่งพลางไหวไหล่อย่างไม่ใส่ใจกับท่าทางที่ดูเหมือนจะจับผิดของเขาทั้งๆที่ความจริงแล้วไม่ใช่ เธอยังกลัวว่าเขานั้นจะรู้ว่าเมื่อตอนข้างต้นนั้น...เธอโกหก ก่อนเพ่งดูไอวิญญาณของเขาอย่างรู้สึกไม่ไว้ใจ

               "จ้องอะไรอ่ะคุณ...หน้าผมมีอะไรติดหรือไงครับ"เขาขมวดคิ้ว สุภาพตลอดเวลาเหลือเกินนะ นี่เป็นอีกสิ่งที่ทำให้เธอรู้สึกอึดอัดและหงุดหงิดเป็นที่สุด ไม่รู้จะสุภาพไปถึงไหน มันทำให้อ่านความคิดไม่ออกเลยทีเดียว เขาคิดอะไรกันแน่ แล้วความเป็นจริงนิสัยเขาเป็นแบบนี้หรือเปล่า หรือนี่เป็นเพียงแค่หน้ากากเท่านั้นกันแน่

               "ไอวิญญาณสีทอง?"สีขาวบริสุทธิ์แล้วสีทองล่ะมันคืออะไร"สงสัยต้องถามลุงผี...ลุง?"เธอเบิกตากว้างหันซ้ายหันขวาแต่ก็ไม่พบลุงผี ใช่สิ เมื่อสักครู่ไม่ได้ตามมาด้วย ถึงว่าหายไปไหน หรือว่าจะไปล่องูไม่ให้ตามเธอมากันแน่นะ

               "มีอะไรหรือเปล่าครับ"เขาถามเมื่อเห็นท่าทีของเธอเหมือนกำลังหาอะไรบางอย่าง ร่างบางสะดุ้งท่าทางลอกแลกชอบกล เขาต้องจับได้แน่ๆว่าเธอร้อนตัวหรือโกหกอะไรบางอย่างกับเขาอยู่ เรื่องของงูเป็นเรื่องหนึ่งที่เธอโกหก

               "เปล่า...งูนั่น...หายไปไหนแล้วล่ะ"เธอเปลี่ยนเรื่องทันที และมันก็เบี่ยงเบนความสนใจเขาได้ครู่หนึ่ง ชายหนุ่มหันไปมองนอกพุ่มไม้เล็กน้อย "ขืนบอกว่าหาผีอยู่...เขาก็หาว่าบ้าสิ"เธอคิดพลางผ่อนลมหายใจ

               "ทำหน้าประหลาดๆทำไม"เขากลับหันมามองหน้าเธอ เอานิ้วจิ้มคิ้วเรียวสวยที่ขมวดผูกกันเป็นโบว์ของเธอ

               "เจ็บ...อย่ามายุ่ง"เธอปัดมือเขาออก เขาเป็นใครเนี่ยมายุ่งอะไรกับเธอแล้วกล้าดียังไงมาจิ้มคิ้วของเธอกันเนี่ย "นายรีบออกไปไปให้เร็วที่สุดดีกว่า...ฉันขอเตือนด้วยความหวังดี"เธอปัดแขนเขาออกเบาๆ

               "อะไร...แล้วคุณล่ะ"เขาพูดเสียงตกใจ "อย่าบอกนะว่าจะจัดการมัน"เขามองร่างเล็กๆที่ออกจามอมแมมจนถึงขั้นเกือบจะสะบักสะบอมอย่างวิเคราะห์ สงสัยจะไปลุยแล้วโดนงูมันเล่นงานเอาแล้วแน่ๆ เมื่อสักครู่ถึงได้วิ่งหน้าตาตื่นมาเสียอย่างนั้น และคงคิดว่าเขาเป็นงูถึงได้พยายามดิ้นให้หลุดจากออกจากอ้อมแขนของเขา

               "อย่าดูถูกผู้หญิงสิ"เธอพูดด้วยน้ำเสียงออกไม่พอใจนิดๆ ทำไมถึงได้พูดแบบนี้กันนะ เธอเหมือนเป็นคนอ่อนแอขนาดนั้นเลยหรือ ร่างบางพ่นลมหายใจออกมาอย่างหงุดหงิด ก่อนแหวกพุ่มไม้ออกไปดูสถานการณ์ด้านนอก...

               ...งูหายไปไหน...

               ตกลงนี่มันรายการสยองขวัญหรืออะไรกันแน่ หายกันไปทีละคนไม่มีร่องรอยของการตามมาของงูหรืออรงสั่นสะเทือนเวลางูยักษ์นั่นเลื้อย นี่มันเป็นเรื่องตลกที่เลวร้ายที่สุดเท่าที่เธอนั้นได้เคยพบเจอมาเลยนะเนี่ย ชาช่ามองคนข้างตัวอย่างหวาดระแวง เธอไม่ควรไว้ใจคนๆนี้มากมายนักเพราะว่าเขานั้นจู่ๆก็โผล่มาแถม สีของไอวิญญาณก็ยังแปลกประหลาดไม่เคยพบไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน และเธอก็ควรจะออกไปจากตรงนี้โดยด่วน

               พอเธอทำท่าจะลุกขึ้น แต่เขาก็กดไหล่เธอให้นั่งลงเหมือนเดิม เธอหันขวับไปมองเขาที่ยิ้มให้อย่างสุภาพ เธอรู้สึกหนักๆที่ไหล่ ออกแรงมากทำไมเนี่ย ไหล่จะหักอยู่แล้ว ร่างบางพยายามสะบัดให้เขาเลิกยุ่งกับตัวเธอสักที ขอร้องนอกจากพ่อกับพจน์แล้ว หมอนี่เป็น ผู้ชาย'คน' แรกที่กล้ามาแตะตัวเธอตรงๆแบบนี้

               "ถ้านายไม่ไป...ฉันจะไป" เธอพูด ดูท่าทางแล้วเขาเหมือนกับว่าไม่คิดที่จะช่วยกำจัดตัวอันตรายแบบนี้เลยแม้แต่นิดเดียว คิดจะหลบอยู่แต่ในพุ่มไม้หรืออย่างไรกันนะ หรือแค่จะมาดูเรื่องแบบนี้สนุกๆเฉยๆ

               "จุ๊ย์ๆๆๆๆ...อย่าเสียงดังสิครับ...เดี๋ยวคุณก็โดนมันไล่งับอีกหรอก"เขาเอานิ้วชี้แนบริมฝีปากของเธอพูดเหมือนเป็นห่วง พลางทำหน้าทะเล้น เธอชักยั่วะ เธอยิ่งเป็นห่วงลุงผีอยู่ด้วยจะมาห้ามไม่ให้เธอรีบๆไปอีก เธอจะไปตามหาลุงผี!!!

               "พอใจย่ะ!"เธอพูดเสียงสูงปริ๊ด ก่อนสะบัดแขนเขาออกในที่สุด "ไม่งั้นนายก็ออกไปล่อสิ...แล้วฉันหนี...เอามั้ยล่ะ"เธอชี้นิ้วออกไปนอกพุ่มไม้อย่างไม่พอใจ เธอรำคาญชายผู้นี้เสียเหลือเกิน เขาเป็นใครกันนะมาเจ้ากี้เจ้าการเธออยู่ได้ เธอเริ่มทำแก้มป่องอย่างเด็กเอาแต่ใจตัวเองที่สุด ชายหนุ่มทำหน้าอึ้งๆ ใบหน้าน่ารักนั่นโดนใจเขาเข้าอย่างจัง แต่ทว่านี่ไม่ใชเวลามาสนใจเรื่องแบบนี้เสียหน่อย เขาพ่นลมหายใจเล็กน้อย

               "มีของมีคมติดตัวมั้ยล่ะ...ผมจะช่วยคุณจัดการมัน...ส่วนคุณอยากวิ่งก็วิ่งไปล่อเลย"เขาพูดอย่างเริ่มเอือมระอา แต่สีหน้ายิ้มแย้มคิดว่าเธอคงไม่มีของมีคมอะไร แล้วเขาจะไม่ปล่อยเธอออกไปเพราะถึงอย่างไรเขาก็ไม่ให้เธอออกไปง่ายๆหากว่าชีวิตของเธอจะต้องไปเสี่ยงโดยที่เขาไม่ได้ช่วยอะไรเธอเลยแม้แต่น้อย

               "นายนี่มัน!...เอาสิ...ถ้านายจัดการมันได้"เธอแสยะยิ้ม รู้อยู่แล้วว่าทำอย่างไรก็ไม่สามารถสร้างบาดแผลให้มันได้ง่ายๆ "มันน่ะแทงยังไงก็ไม่เข้า...ตามใจนายเลย"เธอโยนมีดพกให้เขาอันหนึ่ง ยังมีอีกอันอยู่ที่เธอและมีอีกอันอยู่ที่ลุงผี 

               ...เธอถือโอกาสเนี่ยตามหาลุงผีเอาเสียเลย...

                 ชายหนุ่มรับมีดของเธออย่างแม่นยำด้วยสีหน้านิ่งๆ แล้วผ่อนลมหายใจ ยังอุตส่าห์มีอีกนะ กะว่าจะหาข้ออ้างว่ามันไม่ปลอดภัยหากไม่มีอาวุธติดตัวเสียหน่อย แต่กลับเป็นอย่างนี้ไปเสียได้ ก็มีแต่จะต้องปล่อยให้เธอออกไปตามความดื้อด้านของเธอจนได้
       
               "คุณรีบออกไปสิ"เขาดันหลังเธอ ร่างบางยังคงฝืนตัวเอาไว้และหันกลับมามองชายหนุ่มที่พยายามจะดันเธอออก เดี๋ยวสิให้เธอได้ตั้งตัวก่อนได้มั้ย

               "แล้วฉันจะไว้ใจนายได้ไง...เกิดนายหนีไปก่อนให้ฉันวิ่งหนีคนเดียวล่ะ"เธอไม่ยอมหรอกนะ ร่างบางขืนแรงและสะบัดเขาให้ปล่อยตัวของเธอ

               เขาพ่นลมหายใจ "เอ้านี่...มือถือผม...แพงด้วย...ให้คุณเป็นของค้ำประกันเลยเอ้า"เขายื่นมือถือรุ่นแพงมาให้เธอ

               "ชิ...บ้านรวยนี่หว่า"เธอพึมพำ พลิกเครื่องมือสื่อสารในมือ เลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่งด้วยความมันไส้ ก่อนเอาโทรศัพท์มือถือเก็บใส่กระเป๋ากางเกง

               "แล้วคุณล่ะ"เขายื่นมือออกมา ร่างบางยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจในคำพูดของเขา เธอล้วงๆหาโทรศัทพ์ ไม่ให้หรอก หากพ่อโทร.มาทำอย่างไรกัน

               "มีดเล่มนั้นแหละ"พูดจบ เธอก็เดินออกไปจากพุ่มไม้ทันที ทิ้งให้เขายืนอึ้งอยู่ตรงนั้นโดยไม่ได้หันไปมองสีหน้าของชายหนุ่มเลยแม้แต่นิดเดียว

               ร่างบางเริ่มออกวิ่งอีกครั้ง แต่เธอไม่ได้วิ่งหนีงู เธอวิ่งตามหาลุงผีอยู่ต่างหากล่ะ ร่างบางแหวกพุ่มไม้หนา เธอคอยกวาดตามองหาลุงผีและคอยระวังงูประหลาดที่จ้องจะเล่นงานเธออยู่อีกด้วย เธอปัดใบไม้และกิ่งไม่ที่จู่ๆก็ร่วงลงมาจะใส่หัวเธอ โดยที่ไม่มีลม หรือไม่มีนกสักตัวมาทำให้มันร่วงลงมาเลยแม้แต่ตัวเดียว ร่างบางเลยเงยหน้าขึ้นไปมอง ชาช่าชักจะสังหรณ์ใจไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ อากาศที่ร้อนจัดในยามบ่ายแก่ๆ ส่งผลให้เหงื่อไหลออกมาตามร่างเล็ก 

               เหงื่อเม็ดหนึ่งหยดลงบนพื้น เธอเบิกตากว้าง อ้าปากจะร้อง แต่ก็ร้องไม่ออกเมื่อเห็นลำตัวของงูกำลังเลื้อยพาดผ่านต้นไม้ด้านบน โดยที่ไม่มีเสียงและต้นไม้ไม่หักโค่นลงมาทั้งๆที่น้ำหนักตัวของมันน่าจะหนักเอามากๆ งูรู้สึกว่ามีใครกำลังมองตนอยู่จึงก้มลงไปมองด้านล่างก็เจอกับร่างบางกำลังยืนอึ้งอยู่

             
      "จ๊ะเอ๋"งูประหลาดสีขาวยื่นหน้าสุดสยองของมันลงมา แล้วแสยะยิ้มจนเผยให้เห็นเขี้ยวฟันอันแหลมคมของมันจนครบทุกซี่ ราวกับว่าปากของมันฉีกจนสุดไปถึงดวงตาอันใสแจ๋วราวกับลูกแก้วของมัน เสียงของมันทำให้เธอหลุดจากภวังค์

               "งามไส้แล้วไง"เธอกัดฟันกรอด กำมือของตัวเองแน่น แล้วจะหนีไปทางไหนล่ะเนี่ย เธอถอยหลังไปก้าวหนึ่งอย่างไม่รู้ตัว

               "แหม...คราวนี้จะเล่นซ่อนหาหรือเล่นวิ่งไล่จับดีล่ะ"งูแสยะยิ้มอีกครั้ง เธอเริ่มหันซ้ายหันขวาเพื่อหาทางหนีทีไล่ ทางไหนกันล่ะที่เจ้างูบ้านี่มันจะไม่มีทางมาไล่จับเธอได้ทัน ในระหว่างที่เธอมองหามันก็กล่าวคำพูดยั่วประสาทเพื่อที่จะให้เธอมาต่อมปากต่อคำและไม่หาทางหนีแล้่วสุดท้ายมันก็จะจับเธอได้สำเร็จเพื่อกลับไปให้ 'นาย' ของมัน "จะไปทางไหนน้า~~" มันเริ่มหย่อนหางลงมาปิดทาง ด้านหลังทำให้เธอมีทางเลือกหนีน้อยลง

               "ทางไหนก็ได้ที่หนีแกได้ล่ะกัน"เธอวิ่งไปทางขวาซึ่งเปิดโล่งเพราะตัวงูประหลาดยังลงมาจากต้นไม้ไม่หมดตัว  งูคำรามลั่นออกมาอย่างไม่พอใจ เธอตัดสินใจได้รวดเร็วเหลือเกินหรือเป็นเพราะว่าเธอรู้ความคิดของงูที่จะล้อมจับเธอ แล้วรอให้งูเริ่มปิดทางล้อมจากนั้นเธอก็ชิงวิ่งหนีออกมาก่อนที่งูจะได้ทันตั้งตัว ยิ่งมันยังลงมาจากกิ่งไม้ไม่หมดตัวแล้วล่ะก็ยิ่งยากลำบากเพราะตัดสินใจยากว่าจะลงมาให้หมดทั้งตัวหรือขึ้นไปเลื้อยข้างบนต่อดี

               "นังหนู...ข้าจะจับเจ้ามาให้ได้!!"งูคำรามลั่น เมื่อมันถูกเธอทำไว้อย่างเจ็บแสบเช่นนี้แล้ว เห็นทีคงจะปล่อยให้หลุดรอดออกไปจากพิพธภัณฑ์แห่งนี้ได้ยาก

    _____________________________________________

    แก้ชุดใหญ่กันเลยทีเดียว
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×