Fate Series - ข้อมูลของเหล่าเซอร์แวนท์

ลำดับตอนที่ #8 : Jeanne d'Arc : นักบุญแห่งออร์เลอ็อง

Ruler : ฌาน ดาร์ก (Jeanne d'Arc)

นักบุญแห่งออร์เลอ็อง

          ฌาน ดาร์ก หรือ โจน ออฟ อาร์ค (Joan of Arc) เป็นนักบุญของศาสนาคริสต์นิกายคาทอลิก บ้านเกิดเมืองนอนของเธออยู่ที่ดูมเรมี่ (Domrémy) ประเทศฝรั่งเศส และเธอยังเป็นเธอวีรสตรีผู้กอบกู้ออร์เลอ็องจากสงครามร้อยปีได้สำเร็จ

               ฌาน ดาร์ก เป็นแค่ลูกของเกษตรกรธรรมดาๆคนหนึ่ง เธอยอมรับว่าตัวเธอได้รับสั่งมาจากพระเจ้าว่าให้เกิดมาเพื่อต่อสู้ เธอได้ทราบถึงความโศกเศร้าของพระผู้เป็นเจ้าว่าโลกกำลังจะเปลี่ยนไปเป็นนรก พระผู้เป็นเจ้าได้แต่โศกเศร้าเสียใจเพราะว่าในอนาคต โลกจะเต็มไปความวุ่นวาย ผู้คนไม่สามารถใช้ชีวิตอย่างสงบสุขได้และถูกบังคับให้กลายเป็นสัตว์ประหลาดหรืออาหาร ความขัดแย้งต่างๆที่จะไม่มีวันจบลง และการนองเลือดก็จะเต็มไปทั่วแผ่นดิน ฌานเป็นเพียงคนเดียวที่ได้ยินถึงเสียงอันแสนสลดใจของพระผู้เป็นเจ้า

               ฌานได้ละทิ้งชีวิตอันแสนเรียบง่ายของเธอไป เธอได้ทิ้งทั้งความสุขที่ได้ให้และได้รับความรักเข้ามาในชีวิต สิ่งที่เธอได้ตัดสินใจทำไปนั่น ไม่มีแม้แต่ค่าตอบแทนให้เธอเลยแม้แต่น้อย เธอมั่นใจว่าสักวันเธอจะต้องโดนดูถูกโดยศัตรูและพวกพ้องเป็นจำนวนมาก เธอจึงศึกษาแนวทางการประพฤติเป็นผู้หญิงที่ดีจากตำราของโบสถ์ แต่เป็นเรื่องที่เลวร้ายมากที่เด็กธรรมดาๆอย่างเธอที่มาอาจบ้านนอกได้อาจหาญเข้าสู่พื้นที่ของสนามรบ เธอจะไม่ยอมหันหลังกลับไปง่ายๆ เธอได้อุทิศชีวิตของตนเองว่าจะหยุดการเปลี่ยนแปลงของโลกนี้และระงับความโศกเศร้าของพระผู้เป็นเจ้าให้ได้ เธอจึงยอมที่จะสวมชุดเกราะ สะพายดาบไว้ที่เอว และแบกธงไปพร้อมๆกับกองทัพ เธอได้ต่อสู้เคียงข้างกับ จิลส์ เดอ เรส์ (Gilles De Rais)

               จากการที่ฌานเกิดในครอบครัวที่ยากลำบาก ทำให้ฌานไม่ได้เรียนหนังสือเลย ฌานจึงพยายามอย่างหนักในการร่ำเรียน แต่เธอก็ไม่เข้าใจทั้งการอ่านและการเขียน แม้แต่เขียนชื่อตัวเองยังเขียนไม่ได้ ระหว่างที่เธอกำลังกังวลกับการเขียนชื่อ สุดท้ายเธอก็ตัดสินใจอ้อนวอนต่อพระเจ้าเพื่อทำให้ตัวเองเขียนชื่อตัวเองได้ ระหว่างที่เธอพูดออกมา จิลส์ก็เผลอได้ยินเข้า เขาหัวเราะและสัญญากับเธอว่า แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว

               ผลงานของเธอและจิลส์เป็นที่ชื่นชอบของกษัตริย์ชาร์ลส์เป็นอย่างมาก ถึงขนาดแต่งตั้งให้เป็นผู้กอบกู้และวีรชนของประเทศ

               ฌานได้จบชีวิตลงที่ เพลซ ดู ยู แมร์เช่ (Place du Vieux-Marché) ในเมืองรูอ็อง (Rouen) เพราะเธอถูกกล่าวหาว่าเป็นแม่มด เธอถูกผู้คนในเมืองตะโกนโห่ร้องใส่ด้วยคำสาปแช่งในขณะที่เธอกำลังถูกพาไปที่กองฟืน แต่เธอก็ไม่ค่อยรู้สึกเจ็บปวดจากคำด่าชังเหล่านั้น เธอได้ละทิ้งความรู้สึกทั้งหมดไป ไม่ว่าจะเป็นความกลัว ความสิ้นหวัง หรือความเสียใจ เธอจึงยอมที่จะเดินเข้าไปสู่ความตายของตัวเธอเองโดยไม่ถอยกลับซักก้าว ในขณะที่เธอยื่นมือไปหยิบไม้กางเขน เธอก็ได้เอามันทาบอกไว้ แต่สุดท้ายก็ถูกชิงไป เธอรู้สึกเสียใจเล็กน้อยที่ไม่มีอะไรคอยประคับประคองหัวใจของเธอไว้เลย หลังจากนั้นไม่นานก็มีคนออกมายื่นไม้กางเขนที่ทำจากไม้สไตล์มาให้เธอ เขาเป็นชายชาวอังกฤษที่เคารพนับถือเธอ เธอขอบคุณเขาเล็กน้อยในขณะที่เขากำลังคุกเขาและร้องไห้ มือของเธอถูกมัดเข้ากับขอนไม้ที่ตั้งอยู่บนกองฟืน และนักบวชก็เริ่มกล่าวคำตัดสินสุดท้ายของเธอก่อนที่จะโยนคบเพลิงลงไปในกองฟืน โดยคนในอดีตเชื่อกันว่าการตายแบบเป็นๆคือสิ่งที่น่ากลัวที่สุด และเป็นการประหารที่โหดร้ายที่สุดสำหรับฌานอีกด้วย

               ไฟเริ่มแผดเผาผิวของเธอ เนื้อของเธอเริ่มไหม้เกรียม และไฟได้คลอกกระดูกของเธอ ในขณะนั้นเธอก็พูดนามของพระผู้เป็นเจ้าและพระมารดาซ้ำไปซ้ำมาเพื่อต่อต้านกับผู้คนที่กำลังประณามเธอว่าเป็นคนหลอกลวง ในระหว่างที่เธอถูกเผา เธอเห็นภาพในอดีตของเธอ ภาพของครอบครัวในหมู่บ้านเก่าๆและเห็นภาพตัวของเธอเองที่เป็นคนโง่ที่หนีออกมาจากทุกๆอย่าง ทั้งที่เธอก็รู้ว่าจุดจบของเธอจะเป็นอย่างไร เธอรู้สึกว่าตัวเองนั้นโง่เหลือเกิน ถ้าเธอไม่หนีออกมาตอนนั้น เธอคงได้แต่งงานและมีครอบครัวอย่างสงบสุขไปแล้ว

               ในที่สุดเธอก็สิ้นเสียงและได้ละสายตาจากทหารที่กำลังโศกเศร้าอยู่ เธอรู้สึกพลาดที่ไม่ได้ใช้ชีวิตเช่นนั้น แต่เธอก็คิดว่าการที่เธอได้เดินมาทางนี้ก็ไม่ใช่ความผิดพลาดอะไร เธอเป็นคนเลือกที่จะต่อสู้เอง เธอก็สมควรได้รับจุดจบเช่นนี้ เธอหวังเพียงอย่างเดียวว่าจะได้พักผ่อนอย่างสงบ ท่ามกลางความป่าเถื่อนโหดร้ายของโลกนี้ เธอเป็นคนๆเดียวที่ได้สวดมนต์ภาวนาอย่างตั้งใจจนถึงช่วงสุดท้ายของชีวิต คำพูดสุดท้ายที่เธอได้กล่าวออกมาคือ "...ท่านพระผู้เป็นเจ้า , ข้าขอมอบร่างกายนี้ให้ท่าน" ก่อนที่เธอจะถูกปลดปล่อยจากความทรมาน

               การตายของฌานทำให้จิลส์เริ่มเสียสติ ทำให้เขาเป็นผู้ที่เกลียดชังในพระเจ้า  เขาได้ฝึกฝนในวิชาเวทย์มนตร์ดำ และไสยศาสตร์ต่างๆและได้สร้างโศกนาฏกรรมต่างๆก่อนที่จะถูกจับแขวนคอประหารในที่สุด

               ฌานเป็นหญิงสาวที่ดูเย็นชาและเงียบขรึมตอนอยู่ในสถานะเซอร์แวนท์ แต่ตัวตนที่แท้จริงของเธอคือเป็นคนง่ายๆและใจดีเหมือนเด็กวัยรุ่นทั่วไป เธอเป็นคนมีคำมั่นไว้ว่า "วีรชนและทุกๆคนที่เกี่ยวข้องกับสงครามจอกศักดิ์สิทธิ์สำคัญกันทั้งหมด" เธอไม่ได้มีความปรารถนาต่อจอกศักดิ์สิทธิ์เลย แต่ถ้ามีสักข้อนึง ก็คงเป็นขอให้สงครามจอกศักดิ์สิทธิ์ดำเนินไปด้วยดี เธอไม่รังเกียจผู้คนที่ปรารถนาแค่ผลประโยชน์ส่วนตัวตราบใดก็ตามที่ความปรารถนานั้นไม่ได้ทำลายโลก เธอก็เคารพสิทธิ์ในการตัดสินใจของคนๆนั้น และเธอเป็นคนที่ยึดมั่นในคำสัญญาของคนอื่นอีกด้วย

               เธอไม่เชื่อว่าพระเจ้าได้ทอดทิ้งเธอในช่วงสุดท้ายของชีวิต เธอคิดว่าท่านไม่สามารถทำอะไรได้เลย ณ ตอนนั้น เธอเชื่อว่าการภาวนาสามารถเยียวยาความเศร้าโศกของพระผู้เป็นเจ้าได้ 

              

               ในฐานะเซอร์แวนท์ ฌานอยู่ในคลาสของรูลเลอร์ ซึ่งเปรียบเสมือนผู้คุมกฎและเป็นคนกลางของสงครามจอกศักดิ์สิทธิ์ โฮกุของเธอคือ ลูมินอซิเต้ เอเทอร์เนลล์ (Luminosité Eternelle) เป็นโฮกุที่สามารถโจมตีศัตรูที่อ่อนแอได้อย่างง่ายดายรวมถึงสามารถป้องกันการโจมตีจากเซอร์แวนท์ได้ดีอีกด้วย และ ลา ปูเซลล์ (La Pucelle) ซึ่งเป็นการปลิดชีพตนเองเพื่อทำลายสิ่งใดก็ได้ รูลเลอร์สามารถรู้ตัวตนที่แท้จริงของเซอร์แวนท์ได้ สำหรับฌานมีความสามารถในการเห็นอนาคตได้เล็กน้อย และตัวของเธอสามารถตามหาเซอร์แวนท์คนไหนก็ได้ในสงครามจอกศักดิ์สิทธิ์ รวมถึงเธอยังมีเรจูอีกเป็นจำนวนมากให้สำหรับมาสเตอร์ เธอมีความสามารถในการป้องกันคำสาปได้ดีเพราะว่าเธอเป็นนักบุญ ซึ่งคำสาปส่วนใหญ่ไม่มีผลต่อเธอมากนัก

-------------------------------------------------------------------------

มีเพจแล้วเน้อ : Kokowa ฉันแค่อยากแปล

https://www.facebook.com/KokowaTrans/

-------------------------------------------------------------------------

----------------------------------------------------------------------------------------------------------

จบไปแล้วนะครับ กับประวัติของวีรชนท่านนี้ ฌาน ดาร์ก วีรสตรีศักดิ์สิทธิ์ ก็คงเป็นที่ชื่นชอบของหลายๆคนล่ะนะครับ ยิ่งปรากฏตัวในเฟท อะโพคลิฟาอีกด้วย กองอวยคงเยอะเลย เอาเป็นว่าสำหรับประวัตของคนๆนี้ก็จบเพียงเท่านี้ พบกันใหม่ในเซอร์แวนท์คนต่อไปนะครับ