คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : ตอนที่๗ กลับสู่โลกความจริง
ตอนที่๗ กลับสู่โลกความจริง
อัสนีลืมตาขึ้นมาก็พบกับเพดานห้องสีขาวสะอาดตา เขาถอดแว่นแล้วเดินไปเข้า
ห้องน้ำเพื่อทำธุระส่วนตัว ก่อนที่จะมาต้มบะหมี่ถ้วยโตซึ่งใช้เวลาแค่สามนาทีก็กันได้
เขาใช้เวลากินอีกสองนาทก่อนที่จะมองนาฬิกาที่ข้างฝาห้องซึ่งตอนนี้เวลาประมาณ
๒๐.๐๐ เขาจึงเดินไปที่เตียงเพื่อนอนพักผ่อนสมอง
เช้าวันรุ่งขึ้น
อัสนีลุกออกจากเตียงด้วยความอิดโรยเพราะทั้งคืนเขาได้แต่คิดเรื่องเกมส์ตลอดจน
ทำให้เขาแทบไม่ได้นอนเลย
เขาเข้าห้องน้ำแล้วมาต้มบะหมี่ถ้วยใหญ่ของเขา
“กริ๊ง ๆๆๆ”เสียงโทรศัพท์ของเขาดังขึ้น
“อัสนีพูดสายครับ”
“สวัสดี เรานภานะ”
“ครับๆ ว่าแต่มีอะไรหรอครับโทรมาแต่เช้าเลย”
“คือว่าเมื่อคืนนี้พวกเราได้นัดกันไปทานข้าวกันก็เลยอย่ากชวนนายไปด้วย”
“แล้วกินกันร้านไหนครับ”
“ร้ายเฮียโต้อาหารขั้นเทพ แถวๆพารากอน”
“แล้วกินกี่โมงครับ”
“ประมาณเที่ยงๆ มาได้หรือเปล่าคะ”
“ได้แน่นอนครับแล้วเจอกันครับ”
“แล้วเจอกันคะ”
พอวางสายจากนภาไปอัสนีก็มองนาฬิกาที่อยู่บนหัวนอนซึ่งตอนนี้ก็ประมาณแปด
โมงเช้าซึ่งเขามีเวลาอีกสี่ชั่วโมงในการไปถึงจุดนัดหมาย
อัสนีเป็นคนสระแก้วแต่โดยกำเนิดเขาเรียจบชั้นม.๓เขาก็ต้องออกมาหางานทำ
เพราะฐานะทางบ้านไม่ค่อยดีจึงไม่สามารถส่งเขาเรียนต่อได้ เขามาหางานทำใน
กรุงเทพโดยเช่าบ้านอยู่แถบชานเมือด้านนนทบุรี เขามีกระบะคันหนึ่งซึ่งเป็นรถที่เขา
เก็บเงินซื้อมาเพื่อจะทำงานได้สะดวก เขาทำงานมาหลายอย่างเช่น ช่างยนต์ เด็กใน
ร้านอาหาร เด็กล้างรถ และเด็กส่งของ เขาเป็นคนที่ขยันมากแต่ความขยันของเขาต้อง
ทำให้เขาต้องตกงานเพราะบริษัทที่เขาทำงานอยู่เกิดปัญหาล้มละลาย เขาจึงต้องเชิญ
พนักงานออกเพื่อลงรายจ่ายของบริษัทซึ่งอัสนีก็รวมอยู่ในนั้นด้วย
เขาขับรถกระบะกันโปรดของเขาเข้าไปในตัวเมืองกรุงเทพเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้
ด้วยความชำนานเส้นทางเขาใช้เวลาเพียงสามชั่วโมงก็มาถึงที่หมายอย่างปลอดภัย
ร้านเฮียโต้อาหารขั้นเทพเป็นร้านอาหารขนาดกลางมีโต๊ะประมาณยี่สิบโต๊ะซึ่งตอนนี้
แทบจะเต็มแล้ว ภายในร้านตกแต่งอย่างดูดี สวยงาม ร่มรื่น เย็นสบาย สะอาด ได้
มาตรฐานIso9001 ได้มาตรฐาน มอก. อย. อบต.อปภร. อสม. อัสนีเดินเข้าไปในร้าน
“สวัสดีครับเชิญด้านในเลยครับ”เจ้าของร้านกล่าว
อัสนีเดินเข้าไปนั่งโต๊ะที่ยังว่างอยู่
“ทานอะไรดีครับ”
“เอาน้ำอัดลมกับน้ำแข็งมากก่อนครับ เดี๋ยวรอเพื่อนแป๊บเดียวครับ”
“ได้ครับรอสักครู่ครับ”
สักพักเจ้าของร้านก็เอาของมาให้ อัสนีนั่งจิบน้ำอัดลมเย็นๆได้สักพักก็มีคนเดินมาทัก
“ขอโทษนะคะ ใช่อัสนีหรือเปล่าคะ”ผู้หญิงคนหนึ่งถามเขาขณะที่เขากำลังนั่งคิดอะไร
เพลินๆอยู่
“ใช่ๆๆๆครับ”อัสนีตอบ
“เรานภานะ”พูดแล้วก็นั่งลง
“นายสั่งอะไรทานยัง”ผู้หญิงอีกคนถาม
“ยังเลย”เขาตอบ
“เฮีย...ข้าวสิบ น้ำหก ต้มยำกุ้ง ผัดกระเพาะหมูป่า ปลาดุกฟู ปลาช่อนลุยสวน และหมู
นึ่งมะนาว”ผู้หญิงคนนั้นสั่งอาหาร
ทั้งหมดใช้เวลาในการจัดการอาหารตรงหน้าเพียงแป๊บเดียวก็เหลือแต่จานเปล่า
“นี่อัสนีทำไมนายถึงใช้หน้าจริงเล่นเลยล่ะ”นภาถาม
“มันเปลี่ยนได้ด้วยหรอ”อัสนีทำท่างง
“ก็เปลี่ยนได้นิดหน่อย เช่น คิว ตา จมูก แล้วก็โครงหน้า”เธอตอบ
อัสนีสังเกตคนที่มากับนภาส่วนใหญ่จะไม่เหมือนในเกมส์
เพลิงปกติจะเป็นคนที่คอยออกคำสั่งต่างๆคอยว่าแผนต่างๆมีความเป็นผู้นำสูงแต่
กลับเป็นคนที่เงียบๆไม่ค่อยพูดค่อยจากับใครออกแนวมีโลกส่วนตัวสูง
อัสนีก็เป็นคนที่ขี้เล่นมากมักพูดแบบน้ำไหลไฟดับพูดแบบไม่หยุดถ้าไม่มีคนห้ามล่ะก็
พูดจนลิงหลับได้เลยทีเดียวเชียว
นภาก็เป็นคนที่ดูเรียบร้อยอารมณ์ดี ชอบพูดชอบจาแต่ก็ดูเป็นไฮโซมาก ซึ่งดูจากการ
แต่งตัวแล้วก็บอกได้เลยว่าต้องนั่งแท่นในตำแหน่งผู้บริหารชัวร์
ส่วนแม่สาวจันทราที่ปกติดูเป็นคนเงียบๆกลับกลายเป็นคนที่ออกแนวโหดๆชอบ
แต่งตัวแนวร็อกแนวนักเลงเสียมากกว่า
และธาราที่ปกติเป็นคนที่ไม่ยอมใครกลับเป็นคนดูขี้เล่น พูดจาสนุก เป็นกันเอง ซึ่งทุก
คนต่างจากเกมส์จนอัสนีคิดว่าถ้าออกมานอกเกมส์ก็คงทักกันไม่ถูก
“นี่ทุกคนได้เวลาทำงานแล้วไปทำงานกันดีกว่า”อัคนีพูดหลังจากที่ดูนาฬิกาข้อมือ
“อืม..ไปกันดีกว่า”ทุกคนตอบก่อนที่จะพากันไปทำงานซึ่งที่ทำงานของทุกคนอยู่ข้างๆ
ร้านนี่เอง ซึ่งเป็นตึกสูงยี่สิบกว่าชั้น อัสนีไม่รู้ว่าจะไปไหนดีในเวลาสองวันครึ่งที่เหลือ
เขาจึงคิดที่จะกลับบ้านที่สระแก้วเพื่อที่จะไปหาแม่กับน้องสาวอันเป็นที่รัก อัสนีใช้
เวลาขับรถเพียงสองชั่วโมงเท่านั้นเองก็มาถึงบ้านที่เขาได้จากไป
บ้านของอัสนีเป็นบ้านไม้สองชั้นขนาดใหญ่พอสมควรตั้งอยู่บนที่ดินกว่าสองไร่ซึ่ง
แบ่งปลูกพืชผักสวนครัวไว้กินและขายบางโอกาส อาชีพหลักของที่นี่ก็คือการทำนาซึ่ง
มีทั้งนาปังและนาปีเพราะมีความอุดมสมบรูณ์ทุกด้านและช่วงนี้ก็เป็นช่วงทำมาใหม่
“สงสัยแม่จะไปทำนา”พูดแล้วก็เดินลงจากรถมาก็เห็นหมาที่ตัวเองเลี้ยงไว้
“เป็นไงเองอ้วนขึ้นตั้งเยอะ”พูดแล้วก็เล่นกับหมา
“อ้าว..พี่นีมาได้ยังไงคะ”เด็กสาวเดินลงมาจากบนบ้านเห็นอัสนีเล่นกับหมาจึงทักขึ้น
“ก็บอกว่าให้เรียกว่าอัสนีไม่ใช่นีเฉยๆ”เขาดุน้องของเขาเพราะเขาไม่ชอบให้เรียกแบบ
นี้เพราะมันเป็นชื่อของผู้หญิงไม่ใช่ชื่อของผู้ชาย
“ยุเอ๊ย...ใครมาหรือเอง”เสียงดังมาจากบนบ้าน
“พี่นีเขามาจะแม่”น้องสาวอัสนีตอบกลับไป
“เออ เรียกมันขึ้นมาก่อน”
“พี่นีขึ้นบ้านกันเถอะแม่เรียกแล้ว”พูดจบก็ลากอัสนีขึ้นบ้าน
น้องสาวของอัสนีชื่อวายุ(ยุ) เป็นเด็กน่ารักอายุสิบสามขวบ สูง๑๕๐เซนติเมตร
ผิวพรรณขาวอมชมพู ตาคม ผมยาว และที่สำคัญมีลักยิ้มที่ดึงดูดใจ เรียกได้ว่าเป็นคน
ที่สวยที่สุดในตำบลเลยที่เดียวเชียว
“แม่หวัดดีครับ”พูดแล้วก็ก้มลงกราบ
“เอ้อ เองมีธุระอะไรหรือเปล่าถึงได้มาที่นี่”แม่ถามแล้วก็ลูบหัวอัสนี
“เปล่าจะแม่ ฉันก็แค่มีเวลาว่างก็เลยว่าจะพาแม่กับน้องไปเที่ยวกันน่ะ”อัสนีตอบ
“พี่นี หนูอยากไปเทียวทะเล หนูอยากเห็นทะเล”น้องสาวเขาอ้อน
“ได้สิ งั้นพรุ่งนี้เราจะไปเที่ยวทะเลกัน”
“ไอ้นีเอ๊ยเองได้งานทำยัง”
“ตอนนี้ฉันหารายได้จากการเล่นเกมส์ออนไลน์จะแม่”
“อืม ถ้าเองลำบากมากก็ไม่ต้องส่งเงินมาให้แม่หรอกแม่ไม่ได้ใช้อะไรหรอก”
“ไม่ได้หรอกฉันอยากให้แม่กับน้องสบาย”
“เองรู้รึเปล่าว่าเงินที่เองส่งมาให้แม่ทุกเดือนๆแม่ไมเคยใช้มันเละสักบาทเดียว”
“ใช่จะตอนนี้แม่มีเงินฝากกว่าสี่แสนห้าหมื่นกว่าบาท”
“แล้วแม่เก็บเงินไว้ทำไมจ๊ะ”
“ก็ว่าจะเอาไว้ส่งน้องเองเรียนน่ะ”
“นี่ยุแม่เขาส่งเองเรียนน่ะตั้งใจเรียนเข้านะ”
“จ้าพี่นี”
“ก็บอกว่าให้เรียกอัสนี”
“ก็พี่อยากเกิดมาเป็นผู้ชายทำไมล่ะ”
“คนเรามันเลือกเกิดกันไม่ได้หรอกนะ แต่คนเราเลือกที่จะโตได้เข้าใจไหม”
“เข้าใจจ้าพี่นี”
“นี่ๆไปอาบนำได้แล้วเจ้ายุทำงานมามีแต่กลิ่นตัวยังจะมาเล่นอยู่อีก”
“จ้าแม่ฝากไว้ก่อนนะเดี๋ยวมา”
“เร็วๆนะเด็กน้อย พี่รออยู่”
“เองนี่ยังจะไปแกล้งมันอีก มาๆช่วยแม่ทำกับข้าวนี่”
“จ้าแม่ ว่าแต่แม่ทำอะไรกิน”
“แกงส้มดอกแค เร็วๆเอาดอกแคไปล้าง”
อัสนีช่วยแม่ทำกับข้าวกว่าสองชั่วโมงเสร็จแล้วก็ไปอาบน้ำก่อนที่จะมานั่งกินข้าวกัน
อัสนีอยู่ด้วยกันกับแม่และน้องเพราะว่าพ่อของเขาหนีไปแต่งงานใหม่กันคนที่มีฐานะ
ดีกว่าแม่ของอัสนีตั้งแต่เขาอายุได้สิบขวบ หลังจากนั้นมาเขาก็พยายามทำทุกอย่าง
เพื่อให้มีฐานะมากกว่าที่เคยเป็นมา ทั้งสามคนนั่งกินข้าวไปคุยกันไปจนกินอิ่มอัสนีก็
อาสาล้างถ้วยล้างจานเองเพราะไม่ได้ทำมานานแล้ว หลังจากนั้นก็พากันไปนอน
“นี่ยุทำไมห้องพี่ถึงเป็นอย่างนี้”
“ก็พี่ไม่อยู่หนูก็มาอยู่แทนห้องจะได้ไม่รก”
“แต่พี่ว่านี่มันรกกว่ารังหนูอีกนะ แถมแบ้วจนพี่ไม่กล้านอนอีก”
“เอาน่าแค่คืนเดียวเอง”
“อืม..ฝันดีนะน้องพี่”
“ค่ะ”
อัสนีปล่อยเรื่องทุกอย่างก่อนที่จะหลับตาลงเพื่อจะพักผ่อนร่างกายเพื่อจะเดินทางใน
วันพรุ่งนี้ เพื่อความปลอดภัยในการเดินทาง
เช้าวันรุ้งขึ้น
อัสนีตื่นนอนด้วยหน้าตาที่เบิกบานเพราะได้นอนเต็มอิ่มไม่มีเรื่องใดมารบกวน แล้ว
เขาก็ทำธุระส่วนตัวก่อนที่จะลงไปรอน้องกับแม่ที่ด้านล่าง วันนี้เขารู้สึกว่าเขาได้โตไป
อีกขั้นหนึ่งแล้ว สักวันเขาจะทำตามความฝันของเขาให้ได้
“ไปกันเถอะจะได้มีเวลาเล่นน้ำเยอะๆ”
“พี่นีขับรถดีๆนะ”
“ไว้ใจได้ ไม่ตายก็พิการ”
อัสนีใช้เวลาในการขับรถไปเพียงสามชั่วโมงก็พากันมาถึงบางแสนทะเลที่สวยที่สุดเขา
พาน้องกับแม่ลงเล่นน้ำทะเลจนเย็นก็พากันไปหาที่พักก่อนออกมากินข้าว
“พรุ่งนี้เรามีเวลาอยู่ที่นี้แค่ครึ่งวันนะ”อัสนีบอกหลังจากกินข้าวอิ่ม
“รู้แล้วน่า ไม่ต้องมาย้ำ”
“ดีงั้นกินข้าวอิ่มแล้วไปนอนกัน”อัสนีบอก
พอกินข้าวอิ่มหมดก็พากันกลับมานอนอย่างสบายใจ พอเช้าก็พากันเล่นน้ำจนเที่ยงก็
พากันเก็บของกลับบ้านอัสนีขับรถกลับเพียงสองชั่วโมงครึ่งก่อนที่จะกลับเข้ากรุงเทพ
เพื่อยอมรับความจริงเพราะเขาต้องมาเจอกับอาการรถติดที่เขาคุ้นเคยดี พอถึงห้องก็
หลับเป็นตายเพราะเตรียมร่างกายสำหรับเล่นเกมส์ต่อเมื่อมีการเปิดให้เข้า
อัสนีจะได้กลับเขาไปเล่นเกมส์อีกครั้งแล้วจะเป็นอย่างไรน้า
ปล.ก็ไม่อยากจะเกรียนเท่าไหร่แต่ใจมันเรียกร้องเตรียมพบกับความเกรียนของอัสนีได้
-อยากบอกพี่น้องว่าเริ่มตันแล้ว
-ใครก็ได้เอาคอมมาปาหัวข้าพจ้อยที(รู้สึกผิดอย่างแรงที่ลงช้า)
-เตรียมตัวไว้อ่านเรื่องใหม่ด้วยนะ
ความคิดเห็น