ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [EXO] My cutest panda แพนด้าของผมน่ารักป้ะละ!

    ลำดับตอนที่ #7 : 06

    • อัปเดตล่าสุด 14 เม.ย. 57


                                                  




    CHAPTER 06







     

     

    "ไอ้คริส!!"

     

     

     

    เสียงพวกมันคนใดคนนึงซักคนตะโกนก่อนที่จะรีบวิ่งมาหาผมที่นอนสลบสะเหลี้ยเสียแขนอยู่บนพื้นดินแหยะๆของป่า

     

     

    "ฮือออออออ ไอ้หอยยยย ทำไมมาตามหาเราช้า"

     

     

    ผมร้องบอก เมื่อตอนที่ชานยอลกำลังพยุงทำให้ลุกขึ้นยืน เอามือปัดๆไปที่ตัวของผม จับผมหมุนไปหมุนมา ตาโปนๆหูกางๆแผ่ขยายออกเต็มที่เมื่อเห็นสภาพของผม 

     

     

    "แล้วนี่จะร้องให้ทำไมครับ?" 

     

     

    ไอ้จงอินที่ยืนหน้าง่วงมองผมโดยไม่คิดที่จะมาดูดำดูดีผมถามขึ้นมาหลังจากที่หาววอดๆไปแล้วสองสามครั้ง

    มันไม่ได้สนใจผมซักนิดเลยอะ มันป้ะเป็นคนที่หลอกให้ผมมาเดินป่าแล้วมันป้ะที่เป็นต้นเหตุให้ผมหลงอะ

     

    มันป้ะๆๆมันเลยไอ้จงอินไอ้ดำนี่เลยแสรส

     

    แล้วนี่มีการมาเมินข้าหรอเอ็งต้องมากราบกรานขอโทษบอกว่าคิดถึงข้าสิข้าหายไปสามวันเลยนะไอ้ดำ!

     

     

    "กูนึกว่าพวกมึงจะทิ้งกู นึกว่ากูจะตาย T^T "

     

     

    "…. "

     

     

    "มึงรู้ไหม ในป่ามันแม่งน่ากลัวมากกกกๆๆๆเลยนะเว้ย ฮืออ ตอนกลางวันก็ร้อนตอนกลางคืนก็หนาว"

     

     

    "… "

     

     

    "มึงดูดิกูเพิ่งลงเครื่องจากแวนคูเวอร์ กันแดด SPF 60 กูก็ไม่ได้ทา มาโดนแดดแรงๆของชิงเต่าผิวกูเสียเลยมึงดูๆๆๆ"

     

     

    เอายืนแขนยาวๆที่อดีตเคยขาวแล้วจิ้มๆที่ตรงรอยไหม้แดดที่เป็นสีคล้ำเกรียมดูน่ากลัวแต่ก็สู้สีผิวของไอ้จงอินให้พวกมันดู

    … พวกมันมองมาที่แขนผมอย่างเหยียดๆแบบไม่ได้สนใจก่อนที่จะกลอกตาไปมา

     

     

    "ไปเว้ยไอ้คริส! กลับบ้านเหอะ " 

     

     

    ไอ้จงอินพูดขึ้น ก่อนที่จะเดินสะบัดตูดหันหลังก้าวฉับๆไปตามทาง ไอ้ชานยอลหันมาผมเล็กน้อยก่อนที่จะกวักมือเรียกสองสามที "เร็วๆดิสัส" บอกกับผมอย่างนั้นแล้วเดินสะบัดตูดไปกับไอ้จงอินอีกคน

     

     

    "กลับๆๆๆดิ คิดถึงน้ำอุ่นๆที่บ้านมั่กกกกๆๆๆๆ T vvv T"

     

     

    ผมพูด ก่อนที่จะรีบวิ่งตามพวกมันไป... ผมมองไปรอบๆป่า 

    รู้สึกดีใจนิดๆที่ตัวเองจะมีชีวิตรอดกลับบ้านไปแบบครบสามสิบสอง

     

    พวกมันเดินฉับๆกันไปสองคนแบบไม่คิดจะรอผมที่เหนื่อยล้าและเจ็บขาซักนิด

    ผมเสียใจนิดๆ.. ไม่ดิ เสียใจมากๆเลย ทำไมพวกมันไม่ดูแล ไม่แคร์ผมเลยล่ะ เราเป็นเพื่อนกันนะ

     

    ผมตัดสินใจหยุดเดิน ทำปากงุ้มๆ พวกมันคงรู้สึกว่าไม่มีคนเดินตามพวกมันไปเลยหันกลับมามอง

    ชานยอลกวักมือหยอยๆเรียกผม แต่ไอ้จงอินกับกรอกตาไปมาอย่าเบื่อๆ ทำปากขมุบขมิบอ่านได้ว่า 'เป็นเ-ี้ยอะไรของมึง'

     

     

     

    ไอ้สัส กูเกลียดมึง

    กูงอนมึงแล้วไอ้ดำๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

    ไอ้มืดๆๆๆๆ ไอ้หน้าหม้อ ไอ้เตี้ยด้วยๆๆๆๆ

    เตี้ยสัสๆตัวเท่าไหล่กูน่ะมึงน่ะๆๆๆๆๆ

     

     

     

    "มึงอะ พวกมึงดูไม่ดีใจที่เจอกูเลยอะ"

     

    ผมพูดทันที่ที่ชานยอลวิ่งกลับมาดูผม และทันทีที่ไอ้จงอินที่ค่อยๆกระดืบตัวมันมาอย่างเบื่อๆ

     

     

    "หื้อ ? "  ชานยอลเลิกคิ้วนิดๆ หูกางขึ้นสองระดับ

     

     

     

    "ทำไมดูไม่ดีใจที่เจอกูเลยอะ

     

     

    ผมถามขึ้นอีกครั้ง... แปลกใจนิดๆที่ผมหายไปตั้งสามวันสองคืนเลยนะ เกิน 24 ชั่วโมงแล้วด้วย

    ทำไมไม่มีตำรวจทหารเจ้าหน้าที่พยาบาลเจ้าหน้าที่ประจำกรมป่าไม้มาออกตามหาผมเลยล่ะ

    ทำไมมีแต่ไอ้เพื่อนเวรสองคนนี้มาตะโกนโหวกเหวกหาผมที่หายไปแค่สองคน ทำไมกัน

     

     

     

     

     

     

     

     

    ทำไม 

     

     

     

     

     

     

     

    นี่ผมมันไม่สำคัญขนาดนี้เลยหรือไง!

     

    ผมคริสอู๋นะ อู๋อี้ฟ่านนักเรียนนอกอิมพอร์ตจากแวนคูเวอร์นะ!!!

     

     

     

     

    ชิ!

     

     

     

    "ทำไมไม่มีใครมาตามหากูเลยอะ ตำรงตำรวจไม่มีเลยอ่อ"

     

    ผมถามพวกมัน ก่อนที่จะยืดตัวมองไปรอบๆเผื่อจะมีคนอื่นๆมาตามหาผม

    เผื่อจะมีสถานีโทรทัศน์มาทำข่าวการหายไปของ CEO บริษัทยักษ์ใหญ่ข้ามชาติ

    เห็นผมอย่างนี้บอกแล้วไงผมเก่งนะ ผมรวยด้วย ผมเป็นเซเรเบตี้ที่หล่อเหลามากกกๆเลยล่ะ

     

     

    "ตำรวจอะไร มึงเพ้ออะไรไอ้คริส"

     

     

    "อ้าวก็กูหายไปนะ มึงไม่เรียกใครมาตามหากูเลยหรอ?"

     

     

    "… "

     

     

    "กูหายไปสามวันสองคืนนะอย่าทำเหมือนกูหายไปสามนาทีแบบนี้ดิหอย!"

     

    ผมขมวดคิ้วนิดๆแล้วถามออกไปเสียงดัง พวกมันได้ยินอย่างนั้นก็มองหน้ากันอย่างงงๆ 

    ก่อนที่ไอ้จงอินจะเดินมาหาผมแล้วเอามือของมันมาอังที่หน้าผากของผม เอานิ้วจิ้มๆไปมาที่แขน

    ก่อนที่มืออีกข้างจะตบผั้วมาที่หัวของผมอย่างแรงโดยที่ไม่ได้สงสารคนหลงป่าอย่างผมเลยซักนิด

     

     

    ผั้ว!

     

     

     

    "มึงตบกูไมเนี่ย!!!"

     

     

     

    "มึงตื่นเลยครับ มึงอย่าเพ้อ หายไปสามวันสองคืนหอยไร มึงหายไปยังไม่ถึงสามสิบนาทีดีเลยครับแสรส"

     

     

    "… หาา .. "

     

     

    "อย่าเพ้อครับขอร้อง อย่าเพ้อ... "

     

     

    "… "

     

     

    "ตื่นครับมึง ตื่น "

     

     

     

     

     

    ผมกำลังกระพริบตาปริบๆเพื่อประมวลผล....

     

    บ้าไปแล้วน่ะ

     

    ผมไม่ได้หายไปสามสิบนาทีอย่างที่พวกมันว่าแน่ๆ... ผมนอนไปตั้งสองคืนเต็มๆ เดินป่าเล่นตั้งนาน ไหนจะไปอาบน้ำ แหวกว่ายไปในลำธารและน้ำตาที่ใสแจ๋วทำตัวประหนึ่งเงือกน้อยเมอร์เมดนั่นตั้งนาน... ไม่มีทาง

     

     

    ไม่มีทางที่จะหายไปสามสิบนาทีแน่ๆ

    ไม่มีทางแน่นอน... 

     

     

    ผีหลอกผมแน่ๆ

     

     

     

    ปวดหัว....

     

     

    โอ้ยยยยยยยยยยยยยยยย

     

     

     

    "มึงฟังกูนะ... กูหลงไปในป่าบ้านั้นสามวัน สามวันสองคืนเต็มๆ"

     

    ผมพูดเสียงเข้ม จ้องไปที่ตาของจงอินและชานยอลอย่างจริงๆจัง... ครั้งนี้พูดจริง คริสอู๋พูดจริง

     

    "สามสิบนาทียังไม่ถึงเลยครับอย่าเพ้อครับอย่าเพ้อ"

     

    "กูหายไปสามวันจริงๆนะ!!!" ผมหันควับไปเถียงชานยอล

     

    "… "

     

    "จริงๆนะ!! มึงดูสภาพกูสิ เหมือนคนที่หลงไปสามสิบนาทีหรอ มึงดูดิวะมึงดู"

     

     

     

    "… "

     

     

     

    "มึงดูสิ มึงดูกูสิ ดูสิ.. "

     

     

     

    .

     

     

     

    .

     

     

     

     

    .

     

     

     

     

    "ไอ้คริสอย่าร้องดิ"

     

     

     

    "กูไม่ได้ร้องแต่กูหายไปสามวันจริงๆนะ มึงดูสิ ฮืออออออ ทำไมพวกมึงไม่สนใจกูอย่างนี้ มึงดูรอยแผลที่ตัวกูสิ มึงดูรอยไหม้ที่ผิวกูสิ มึงดูความโทรมของหน้าและขอบตากูสิ...."

     

     

     

    ผั้ว!

     

     

     

    ไอ้จงอินมันตบหัวผมอีกแล้ว!!!

     

     

     

    "แง!!!"

     

     

    "อย่าเพ้อครับอย่าเพ้อ รอยแผลรอยไหม้อะไรครับตื่นครับตื่น.... "

     

     

    มันพูดแล้วก้มลงนั่งยองๆตรงขาของผม เอามือปัดๆไปที่ตรงที่ผมคิดว่าเป็นรอยแผล.. แต่จริงๆแล้วมันแค่เปื้อนดิน

    จงอินเอามือปัดๆสามที่ครั้งรอยเหล่านั้นก็หายไปจนหมด เหลือเพิ่งขาขาวๆของผมที่ไม่มีรอยอะไรซักนิด.... รวมถึงรอยไหม้ที่บริเวณแขนและใบหน้า... พอลองเอามือลูบๆมันก็จางหายไป... มันแค่เปื้อนเศษดินเท่านั้น

     

     

    "อย่าร้องสิวะ มึงแค่หลับแล้วฝันไปน่าคริส"

     

     

    ไอ้จงอินพูดออกมาก่อนที่จะยื่นมือหยาบๆมาปาดๆน้ำตาให้ผม ตบปุๆที่หัวผมสองสามทีอย่างปลอบๆ

    ผมสะอื้นอีกสองสามครั้งก่อนที่จะกลั้นน้ำตาแล้วพยายามหยุดร้อง ผมอึดอัดนี่น่า... ร้องให้ระบายนิดหน่อยไม่เห็นแปลก

     

     

     

    ไม่ได้ฝันนะ

    ไม่ได้ฝันจริงๆนะ

     

     

     

    ความรู้สึกแบบนี้ ผมไม่ได้ฝันนะ

     

     

    ไม่ได้ฝันซักหน่อย..

     

     

     

     

    "กลับกันเหอะคริส กลับบ้าน"

     

     

    ผมเงยหน้าไปมองไอ้ไค กระพริบตาใส่มันสองสามทีแล้วส่ายหน้า พวกมันถอนหายใจพร้อมๆก่อนที่จะเดินมากอดคอผม

    แล้วลากผมให้เดินไปตามทางเพื่อหลงจากเขา... ทางที่จะกลับบ้าน...  ผมขืนตัวเล็กน้อยเพราะยังไม่อยากกลับ...

     

    ยังไม่อยากกลับในตอนนี้..

     

     

    มันเหมือนลืม

     

     

    ลืมอะไรบางอย่างที่สำคัญ สำคัญมากๆ...

     

     

    "เฮ้ยพวกเอ็งอย่าเพิ่ง กูลืมกระเป๋า!!"

     

     

    "กระเป๋าใส่ของที่กูให้มึงแบกมาใบใหญ่ๆอะนะ"

     

     

    "เออกูก็หาอยู่ มันหายไปตอนที่กู---  "

     

     

    "หื้อ.. ตอนที่มึงอะไร?"

     

     

     

    อะไร… ตอนที่ผมอะไร

     

    อะไร

     

     

     

    ปวดหัวจัง...

     

    พยายามจะนึก.. แต่นึกไม่ออก..

     

     

     

    อะไรกัน

     

     

     

    "อะไรซักอย่างจำไม่ได้ -_-"

     

     

    ผมพูดตอบแล้วไปทำหน้ามึนใส่ชานยอล แล้วมองตามจงอินที่ผลุบหายไปในพุ่มไม้

    ก่อนที่จะโผล่มาอีกครั้งพร้อมๆกับกระเป๋าเดินทางใบเขื่อง... กระเป๋าของผม!!

     

     

     

    "กระเป๋าเอ็งใช่ป้ะ? "

     

     

    มันถามพร้อมกับทำหน้าง่วงๆใส่ผมเหมือนเคย

     

     

    "กระเป๋าเค้าเองตัวเองงงง ไปเจอมาได้ไง"

     

     

     

    "ก็มันอยู่ตรงนี้ กูมองเลยเห็น"

     

     

     

     

    ครับ…

     

     

     

     

    "ทำไมกระเป๋ามันหนักๆวะ.. "

     

     

     

    ไอ้จงอินบ่นเล็กๆก่อนที่จะสะพายกระเป๋านั้นไว้บ่นบ่า ผมร้องบอกว่าเดี๋ยวผมถือให้เอง เกรงใจ แต่จงอินกลับเมินผมแล้วบอกว่าผมยิ่งไม่ค่อยจะดีอยู่เดินๆไปตัวเปล่าๆเหอะ

     

     

     

    "ได้ฤกษ์กลับกันยังครับพวกคุณทั้งหลาย?"

     

     

    ชานยอลพูดขึ้นพร้อมกับลากผมลงจากเขา ไอ้จงอินหัวเราะในลำคอเบาๆก่อนที่จะเดินตามผมกับชานยอลลงมา

    เดินลงมาได้ซักพักก็ถึงรถคันหรูของจงอินที่มารอรับอยู่ มันเหวี่ยงกระเป๋าใบเขื่องของผมไว้ที่หลังรถก่อนที่ตัวมันจะเปิดประตูรถฝั่งคนขับและเตรียมสตาร์ทรถ ผมขึ้นไปนั่งที่เบาะหลัง เกาะที่กระจกแล้วเอาหน้าแนบ มองไปในป่าใหญ่เหมือนเด็กเล็กๆ

     

     

     

    ลาก่อนนะ

     

     

     

    ทันทีที่ชานยอลจัดการนู่นนี่นั่นเสร็จมันก็รีบเปิดประตูแล้วไปนั่งข้างๆไอ้ชานยอล หูกางๆเริ่มลู่เข้าเพราะความเย็นจากแอร์ในรถยนต์ที่เย็นเฉียบ

     

     

     

    "Let's Go กลับกันเต๊อะทู้กคนนนนน"

     

     

     

    ไอ้ชานยอลพูดก่อนที่จะยกแขนสองข้างขึ้นอย่างร่าเริง ผมอยากจะหัวเราะกับท่าทางบ้าๆของมัน แต่เพราะความรู้สึกแปลกๆหน่วงๆกับความปวดหัวเล็กๆทำให้ผมไม่สามารถทำอย่างนั้นได้ ผมต้องลืมอะไรซักอย่าง

     

     

    มันต้องมีอะไรซักอย่างผิดพลาดแน่ๆ

     

     

    ผมขาดเข็มขัดนีรภัยแล้วเอาหัวพิงไปกับกระจกรถ เอาสร้อยข้อมือหยินหยางสีขาวดำในมือขึ้นมาดู

    และแล้วชื่อแปลกๆที่ผมรู้สึกเหมือนจะคุ้นเคยก็แล่นเข้ามา

     

     

     

     

    … จื่อเถา.... 

     

     

     

     

     

    สิ่งที่ผ่านมาตลอดสามวันสองคืนที่ผมรู้สึก

     

     

     

    .

     

     

     

     

     

    .

     

     

     

     

    .

     



     ผมอาจจะเหนื่อยหรือเครียดเลยสร้างเรื่องแปลกๆมาในจิตใจ



    .


    .



    .


     

     

     

    มันเป็นแค่ฝันจริงๆนั่นแหละ?

























    XXXX %

    08/08/13




     

     

     

     

     

     

     

    ทันที่ที่เดินทางมาถึงตัวเมืองปักกิ่ง รถยนต์สุดหรูของจงอินก็มุ่งหน้าไปยังคอนโดนที่ของพวกเรา พวกมันแวะไปส่งผม ก่อนที่จะขอไปทำธุระนู่นนี่นั่นกันสองคน ผมไม่ปฏิเสธ เพราะตอนนี้ผมเหนื่อยมากๆ รู้สึกปวดหัวไปหมด แต่จงอินกับชานยอลก็อุตส่าห์แบกกระเป๋ามาให้ผม ดูแลผมยังกะผมเป็นอัมพาต

     

     

    งื้อออออ รักกกๆๆๆแงงงงง T v T

     

     

    "โอ้ย กระเป๋ามึงนี่อะไรหนักชิบหาย!"

     

     

    จงอินพูดขึ้นมาเมื่อเดินเข้ามาในห้อง แล้ววางกระเป๋าของผมไว้ข้างๆเตียง

     

     

    "ก็มึงเอาอะไรใส่ไว้ล่ะ มึงเอามาให้กูเองไม่ใช่เรอะ!"

     

    ผมเถึยงออกไป เพราะกระเป๋าใบนี้ไอ้จงอินกับชานยอลโยนมาให้ผมสะพายตอนปีนเขา ผมจำได้!

     

    "เออกูไม่เถียง แต่ตอนนั้นมันไม่ได้หนักขนาดนี้นี่หว่า มึงเอาห่าอะไรมาเพิ่มใช่ไหม" 

     

    ไอ้จงอินพูด ก่อนที่จะเปิดกระเป๋าและทำท่าจะล้วงดู แต่เพราะเสียงโทรศัพท์ของตัวมันเองที่ดังขึ้น ทำให้มันต้องรีบกุลีกุจรไปรับโทรศัพท์ที่ระเบียง ก่อนที่จะรีบออกไปจากคอนโดของผมพร้อมๆกับลากชานยอลไปด้วยพึมพัมๆว่า 'อิแบคมาแล้วๆ' อะไรซักอย่าง

     

     

    ช่างเถอะ มันก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับผม

    อิแบคๆที่ว่านี่คงหมายถึง'บยอน แบคฮยอน'น้องชายตัวแสบของไอ้ดำจงอินนั่นนะแหละ

     

    บรื้ออออ แค่คิดถึงชื่อก็ปวดหู ~____~

     

    อย่าไปคิดเรื่องของคนอื่นให้ปวดสมองเลย ลำพังตัวผมเองก็ยังเอาตัวเองไม่รอด ผมโบกมือบ้ายบายไล่หลังชานยอลกับจงอินไปก่อนที่จะหยิบผ้าขนหนูเตรียมตัวไปอาบน้ำชำระล้างร่างกาย หวังว่าอาบน้ำเย็นๆ ได้แช่น้ำอุ่นๆจะทำให้ผมหายมึนหัวนะ มันเหมือนมีอะไรมากดหัวผมไว้แหน่ะ ไว้ถ้ายังไม่หายคงต้องไปหาหมอแล้วล่ะ

     

    ผมถอดเสื้อเหม็นเหงื่อออกจนเหลือแต่ร่างกายเปลือยเปล่าแล้วค่อยๆก้าวลงไปแช่ในน้ำอุ่น

     

     

    อ่า…

     

     

    สบายจริงๆ

     

     

     

     

    .

     

     

     

    .

     

     

     

     

     

     

    .

     

     

     

    "อะ แอ๊วววววววว "

     

    เสียงร้องของจื่อเถาดังแผ่วๆออกมาจากกระเป๋าใบเขื่องที่วางอยู่ข้างเตียง ก่อนที่กระเป๋าใบนั้นจะค่อยๆล้มลง ร่างอ้วนกลมสีขาวดำจึงสามารถคลานดุ๊กดิ้นออกมาจากกระเป๋าเดินทางได้ จื่อเถาสะบัดขนไปมาสองสามครั้งเพื่อไล่ความเมื่อยขบ ก่อนที่ดวงตากลมใสจะมองไปทั่วห้องพัก แอร์เย็นๆที่ตกกระทบทำให้ขนสีขาวดำลุกซู่ขึ้นมา

     

    "แอ๊วววววววววววว"

     

    เมื่ออยู่ในบรรยากาศที่ไม่คุ้นเคย มันทำให้จื่อเถาอดรู้สึกกลัวไม่ได้ ร้องแอ๊วๆสองสามครั้ง หวังว่าคนที่ตัวเองตามมาจะขานรับ แต่สิ่งที่ตอบกลับมาคือความว่างเปล่าเท่านั้น จื่อเถาคลานดุ๊กดิ้กไปทั่วห้อง ให้จมูกกลมๆดมกลิ่นตัวที่แสนคุ้นเคย... 

     

     

    กลิ่นของพี่ชาย...

     

     

    'พี่ชายของจื่อเถา'

     

     

    ซู่….

     

     

    เสียงแปลกๆที่ดังมาจากทิศเดียวกับกับกลิ่นของพี่ชาย ทำให้จื่อเถาคลานอย่างเร็วเท่าที่ขาสีดำสั้นจะเอื้ออำนวย ใช้ตัวกลมๆและหน้านิ่มๆดันประตูบานเลื่อนให้เปิดออก มองไปรอบๆห้อง ก่อนที่จะเจอคนที่ตัวเองตามหา นอนหลับตาอยู่ในอ่างน้ำวน หลับตาพริ้ม มีไอพอดเสียบไว้ที่ใบหู

     

     

    "แอ๊วววววววววววววว!"

     

     

    .. ไอ้เราก็เรียกหาแทบตายนะ

     

     

    ชิ!

     

     

    จื่อเถาค่อยๆก้าวไปยังอ่างน้ำวน ขาสั้นๆและแขนป้อมๆพยายามที่จะปีนป่ายเพื่อขึ้นไปยืนที่ของอ่างน้ำอย่างทุลักทุเล มองใบหน้าที่แสนจะผ่อนคลายของคนในอ่างน้ำ สะบัดขนอีกสองสามครั้งเพื่อทำใจ

     

     

    "แอ๊วววววววววววววว"

     

     

     

    … ก่อนที่จะกระโดดลงไปในอ่างน้ำวนที่ตำแหน่งตรงกับใบหน้าของ'พี่ชายของจื่อเถา'ทันที

     

     

     

     

    .

     

     

     

     

    .

     

     

     

     

     

     

     

    .

     

     

     

     

     

    โอ้ยยยยยย น้ำอุ่นนี่มันสบายสุดๆจริงๆ ยิ่งเปิดปรับโหมดให้เป็นน้ำวนคอยนวดผ่อนคลายกล้ามเนื้อนี่มันสวรรค์ชัดๆ! ไหนจะกลิ่นหอมๆนี่อีก ผมชอบกลิ่นของจัสมีนจัง ผมเอาหูฟังมาเสียบเข้าที่ใบหู เปิดเพลงคลอเบาๆแล้วหลับตา ซึบซับความสบายอย่างเต็มอีก ความปวดๆและหน่วงๆที่ศรีษะเริ่มลดลงนิดหน่อย

     

     

     

    อ่าาาาา สบายจัง

     

    สบายสุดๆ

     

    นี่ผมพูดคำว่าสบายมากี่ครั้งแล้วเนี่ย... ช่างเถอะก็มันสบายจริงๆนี่นา

     

    ขออยู่เงียบๆอย่างนี้ซักครู่ใหญ่ๆเถอะ 

     

    อย่าให้มีอะไรมารบกวนเล้ยยยยย

     

     

     

     

    "แอ๊ววววววววววววววววว"

     

     

     

     

     

     

    หืออออออ  ?

     

     

     

     

     

    "แอ๊ววววววววววววววววววว!!!"

     

     

     

    ตุ๊บ!

    พลั้ก!

     

     

     

     

    ผมได้ยินเสียงแอ๊วๆแปลกๆดังขึ้นมาข้างๆหู ยังไม่ทันที่จะได้ลืมตาดู ก็มีวัตถุอ้วนสีดำขาวประหลาดพุ่งเข้ามาที่หน้าผมอย่างแรง จนผมตั้งรับแทบไม่ทัน ได้แต่เอามือปิดหน้าไว้เท่านั้น

     

     

    อะไรวะเนี่ย!!

     

     

     

    "แอ๊ววววววววววววววววว"

     

     

     

    เจ้าวัตถุสีดำประหลาดนั้นส่งเสียงร้อง ผมอยากจะลืมตาขึ้นไปดู แต่เพราะมันเกาะหมับอยู่ที่หน้าของผมทำให้ผมทำอย่างนั้นไม่ได้ ผมได้ได้ดิ้นขลุกขลักอยู่ในอ้างน้ำแคบๆ เริ่มจะหายใจไม่ออก

     

    ผมหายใจเข้าลึกๆและพยายามตั้งสติ ค่อยยันตัวมาพิงกับอ่างอาบน้ำทั้งๆที่วัตถุประหลาดนุ่มนิ่มที่ร้องแอ๊วๆยังเกาะอยู่ที่หน้าอยู่ทีหัวของผมอยู่ แล้วค่อยๆเอามือใหญ่ๆจับหมับไปที่ลำตัวของวัตถุสีดำขาว พยายามที่จะ'แงะ'ให้ออกจากหัวของผม ออกแรงดึงอย่างไม่เบานัก

     

     

    "แอ๊ว!"

     

     

    วัตถุประหลาดร้องแอ๊วๆแล้วยอมปล่อยหัวของผมให้เป็นอิสระ ค่อยๆคลานไต่ลงไปตามหน้าอก แล้วหยุดอยู่บริเวณพุงของผม ตีน้ำไปมา ผมค่อยๆลืมตามอง

     

     

     

    และทันทีที่ผมลืมตาขึ้นมามอง...

     

     

    ภาพที่ปรากฏก็ทำให้ผมอยากจะหัวใจวาย

    ….  พยายามท่องนะโมตะสะอยู่ในใจ 

     

     

     

    บอกผมที่ว่านี้แค่ฝันไป

     

     

     

    "แพนด้า!!!"

     

     

     

    แพนด้ามาอยู่ในห้องน้ำของผมได้ยังไงครับ!!!!!!

     

     

    ผมร้องเห้ยดังก่อนที่จะหันซ้ายหันขวาทำอะไรไม่ถูก ถึงแพนด้านี่มันจะน่ารักมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆก็จริงแต่มันมาอยู่ในห้องน้ำของผมได้ยังไงครับ!!! แพนด้านะครับไม่ใช่ชิวาว่า! ไม่ได้หากันง่ายๆ ไม่มีซื้อไม่มีขาย

     

     

     

    "แอ๊วววววววว"

     

     

    อยู่ดีๆแพนด้าตัวนั้นก็มองหน้าผมแล้วร้องแอ๊วๆพลางเอียงคอ.. คิดว่าตัวเองโมเอร้หรอ คิดว่าตัวเองน่ารักหรอ? เออ โครตๆ

    เอ็งน่ารักโครตๆแต่เอ็งมาอยู่ในห้องน้ำข้าได้ยังไง แล้วตอนแรกเอ็งอยู่ที่พุงข้าแล้วทำไมตอนนี้มาอยู่ตรงหน้าตักข้าได้ มันใกล้จุดยุทศาสตร์ มันสยิวโว้ยยยยยย

     

     

    ' อะ… อปป้า '

     

     

     

    หื้ออออ ?

     

     

     

    เสียงอะไรน่ะ.... 

     

     

    ผมหันไปมองรอบห้องอย่างระแวง ความคิดด้านลบเกี่ยวกับผีสางผุดขึ้นมาเป็นฉากๆ แต่มันก็ไม่น่าใช่นี้ โรงแรมห้องนี้เค้าซื้อไว้ตั้งหลายปี มาพักตั้งหลายหนไม่เคยเจอะเคยเจอ.... ไม่น่าใช่

     

     

     

    'จะ.. จำจื่อ.. ถะเถา?'

     

     

     

    เสียงที่ว่ายังดังไม่หยุด ผมที่เริ่มจะประมวลผลนู่นนี่นั่นได้เริ่มหันมามองแพนด้าที่นั่งจุ้มปุ๊กอยู่ที่หน้าตัก

     

     

     

    หรือจะเป็นเสียงของแพนด้านี่?

     

     

     

     ตาสบตา ก่อนที่ความรู้สึกปวดหัวอย่างหนักที่ตอนแรกเริ่มจะบรรเทามันจะกลับมาอีกครั้ง แต่คราวนี้มันกลับหนักหน่วงมากกว่าเดิม เหมือนมีอะไรมาถ่วงไว้ไม่มีผิด

     

     

     

    "แอ๊ววววววววววววว"

     

     

     

    อยู่ดีๆแพนด้าตัวอ้วนกลมตรงหน้าก็ค่อยๆปีนออกมาจากหน้าตัก ค่อยเลื่อนมาที่หน้าอก ผมได้แต่นอนมองอยู่อย่างนั้นเพราะไม่รู้ว่าแพนด้าตรงหน้าจะทำอะไรต่อไป มือข้างนึงก็นวดที่ขมับเพื่อบรรเทาอาการปวดหัว คิดไม่ออกว่าตอนนี้ควรจะทำอะไรดีระหว่างกรีดร้องให้แม่บ้านมาช่วยเอาแพนด้านี้ออกไปจากตัวเค้าเอาไปส่งสวนสัตว์ , ลุกจากอ่างอาบน้ำเองเงียบๆ เอาแพนด้าตัวนี้ไว้ขังกรงแล้วดูเล่น... 

     

     

    หรือจะจับฟัดให้หายอยากดี....

     

     

    จับฟัดให้หายอยากดีกว่าเนอะ ฮิ!

     

     

    ผมค่อยๆหันมามาหาแพนด้าตัวอ้วน กำลังจะเอื้อมมือไปกอด 

    แต่เจ้าแพนด้ากลับเบี่ยงตัวหนี แล้วพุ่งตัวอย่างแรงมาจุ๊บหน้าผม! ไม่สิ....

     

     

    เมื่อกี้มันโดนปากผมเลยล่ะ!!

     

     

    เจ้าแพนด้ากำลังลวนลามผม!! ไม่นะ ผมลูกมีพ่อมีแม่นะ อยู่ดีๆมาจุ๊บยังงี้ได้ไง ตัวเองเป็นแพนด้านะ มีสิทธิอะไรมาเลียหน้าเค้าาาาอะ อู๋อี้ฟ่านอิมพอร์ตจากแวนคูเวอร์ไม่ยอม หน้าเปียกน้ำลายไปหมดแล้ว! 

     

    แพนด้าตัวนั้นเอาหน้ามาถูๆหน้าผมอยู่อย่างนั้นซักพักหนึ่ง ก่อนที่จะกลิ้งดุ๊กดิ้กกลับไปที่ตักเหมือนเดิม ก่อนที่จะเอียงคอ ทำตาโดบ๊องแบ๊ว แล้วเสียงๆหนึ่งจะดังเข้ามาในโสตประสาทของผม... ดังเข้ามาในสมองของผมโดยตรง ไม่ใช่ได้ยินผ่านหู

     

     

     

    'จำนะ.. จะจำยัง? '

     

     

     

    เสียงของแพนด้าตัวอ้วนจริงๆด้วย

    ผีหลอกแน่ๆ . . .

     

     

    … จำได้หรือยัง?

     

     

    จำอะไรได้หรือยัง คืออะไร ผมไม่เข้าใจ

     

     

     

    "แอ๊วววววววววววววววว "

     

     

    แพนด้าตัวนั้นร้องเสียงดังอีกแล้ว... เสียงร้องแบบนี้... เคยได้ยิน

    เคยได้ยินจริงๆ...

     

     

    ' เถา… เถาเถาไง.... '

     

     

     

    "…. "

     

     

     

     

    ' จื่อเถาที่อปป้าตะ... ไง .. '

     

     

     

     

    จื่อเถา... งั้นเหรอ...

    ผมค่อยๆหลับตา อุ้มเจ้าแพนด้าไว้แนบอก

    ความรู้สึกแบบนี้ กลิ่นแบบนี้

    ผมก้มหน้าลงไปจุ๊บแก้มนุ่มๆของแพนด้าตัวอ้วน

    ก่อนที่จะสูดกลิ่นหอมๆไว้เต็มปอด

     

     

    ไม่ผิดแน่....

     

    เคยได้สัมผัสมาแล้วจริงๆ

    เคยได้รู้สึกมาแล้วจริงๆ

     

     

     

    จื่อเถา... 

     

     

     

    ทันใดนั้นมันก็เหมือนความทรงจำที่หายไปค่อยๆไหลเข้ามาในหัวของผมอย่างช้าๆ

    ภาพต่างๆในช่วงเวลาที่ขาดหายไปตอนที่ผมหลงป่าค่อยๆเติมมาจนเต็ม

     

     

    "จื่อเถา!!!!"

     

     

     

     

    .

     

     

    .

     

     

     

     

     

    .

     

     

     

    "แอ๊ววววววววววววววว "

     







    70% 








    ผมรีบอุ้มจื่อเถาแล้วจับให้นั่งหันหลังไปอีกทาง ก่อนที่ตัวผมเองจะลุกขึ้นจากน้ำแล้วรีบหยิบผ้าขนหนูผืนหนามาพันแค่ช่วงล่างไว้ สะบัดหัวสองสามทีเพื่อเรียกสติ แล้วอุ้มจื่อเถาเตงๆไปนั่งลงบนเตียง แล้วจ้องไปที่ตาดำใสๆของแพนด้าตัวอ้วน

     

     

    แพนด้าที่มีชื่ออันไพเราะเพราะพริ้งว่า 'จื่อเถา'

    ชื่ออันไพเราะที่ผมเป็นคนตั้งให้เอง

     

     

     

    ผมจำได้แล้วนะ จำได้หมดทุกอย่างที่เกิดขึ้น

     

     

     

    ไม่ได้ฝันไปจริงๆ

     

     

     

    "แอ๊ววววว "

     

     

     

     

    ผมจำได้หมดทุกๆเหตุการณ์ รวมถึงเรื่องที่ว่าถ้าดึงหางไอ้เจ้าแพนด้าอ้วนจะกลายร่างเป็นหนุ่มน้อยตัวบาง

    ผมมองไปที่จื่อเถาที่กำลังกลิ้งร่างกลมๆป้อมๆไปทั่วเตียงจนเปียกไปหมด แล้วยิ้มเล็กๆที่มุมปาก

     

     

    ผมไม่ได้หื่นนะครับ

    …. แต่ถ้าป้าแม่บ้านเปิดมาแล้วเห็นแพนด้าสัตว์หายากในห้องนอนผมมันก็ไม่ดีใช่ไหมละ?

     

    ผมไม่ได้คิดไม่ดีนะครับ

    …. นี่หวังดีกับจื่อเถาล้วนๆ

     

    แฮ่ๆ

     

     

    "แอ๋วววววว ?"

     

     

    จื่อเถาร้องแอ๊วๆอีกครั้งแล้วมองหน้าผม เจ้าตัวคงสงสัยเพราะอยู่ดีๆผมก็ปีนมานั่งบนเตียงแล้วจ้องไปที่หน้าของจื่อเถานิ่งๆ ตอนแรกคิดว่าจะไปใส่กางเกงดีหรือเปล่าเพราะตอนนี้ใส่แค่ผ้าเช็ดตัวโทงๆผืนเดียวลมมันเย็นเหลือเกิน แต่คิดอีกทีไม่ดีกว่าแบบนี้แหละแกรนด์โอเพ่นดี 

     

     

    "จื่อเถาาาอ่าาา ไม่พูดกับพี่แบบตอนในห้องน้ำแล้วหรอ?"

     

    ผมถามขึ้นเพราะจำได้ว่าจื่อเถาสามารถสื่อสารกับผมได้นี่นา ในห้องน้ำ ถึงจะตะกุกตะกักไปหน่อยก็เถอะ

     

     

      ' กะ.. ก็ได้ นะ'

     

     

    "อืมมมมมมม แต่คิดอีกทีพูดในร่างแพนด้ามันไม่ดี จื่อเถากลายเป็นคนดีกว่าครับ "

     

     

      'ฮะะ .. ? '

     

     

    ปุอิ้ง ๆ

     

     

    ไม่รอให้เสียเวลา ผมรีบกระโจนไปดึงหางกลมๆของจื่อเถาเบาๆแต่มันคง จื่อเถาร้องแอ๊วๆเสียงดังเหมือนเดิมแล้วดิ้นไปมา ก่อนที่ร่างกลมป้อมของแพนด้าจะกลายเป็นเด็กผู้ชายตัวบางผมดำนอนเปลือย.... นอนเปลือยอยู่บนเตียงของผม...

     

    บนศีรษะเล็กนอกจากจะถูกปกคลุมไปด้วยผมสีดำนุ่ม มันยังมีหูแพนด้าสีดำประดับอยู่ทั้งสองข้าง บริเวณเหนือบั้นท้ายก็มีหางกลมๆป้อมๆนิ่มๆน่าดึงของแพนด้าติดอยู่ เมื่อดูโดยรวมกับผิวขาวอมชมพู จื่อเถาตอนนี้ยังกะภาพวาด เหมือนตุ๊กตากำลังแต่งคอสเพลย์ยังไงยังงั้น

     

     

    น่าปล้ำ น่าฟัด น่ากอดสุดๆ

    คาวาอี้กว่าร่างแพนด้าอีกอะ (O///w///O)

     

     

    " ฮะ แฮ่ก ๆ … "

     

    จื่อเถากำลังนอนเปลือยเปล่าอยู่บนเตียง มือเล็กพยายามจะคว้าผ้าห่มผืนหนามาปกปิดร่างกายของตัวเอง ผิวขาวเริ่มขึ้นสีชมพูเป็นริ้วๆซึ่งผมไม่รู้ว่าเป็นเพราะอายหรืออากาศหนาว และนั่นทำให้ผมตั้งสติได้จากเสียงหอบแฮ่กๆของจื่อเถาที่ออกมาจากปากบางเล็กสีชมพูที่โครตจะยั่ว โครตจะแอ๊วววว โครตจะกระตุ้น ฮือออออออออ 

     

    ผมหันรีหันขวางก่อนที่จะเจอผ้าเช็ดตัวสีขาววางอยู่บนเตียง รีบหยิบแล้วพันเป็นกระโจมอกรอบตัวของจื่อเถา ไม่กล้าเสี่ยงพันเฉพาะท่อนล่าง เพราะถ้าท่อนล่างมิดชิดแต่ท่อนบนที่ประกอบไปด้วยไล่เล็กๆกับยอดอกสีชมพูสั่นระริกของจื่อเถา... มันก็ไม่น่าจะมีประโยชน์เท่าไร หลังจากผมพันผ้าเช็ดตัวให้จื่อเถาแล้ว ผมก็เอาจื่อเถาไปม้วนๆกับผ้าห่มเพื่อความมิดชิดอีกรอบ แฮ่ๆ เสร็จสมบูรณ์ เท่านี้จื่อเถาก็ปลอดภัย (จากผม) แล้ว

     

     

    …ว่าแต่นะ หนาวจังวุ้ย ทำไมมันหนาวจัง

     

     

    "จื่อเถาครับ ทำไมตอนกลายร่างจื่อเถาตอนดิ้นแถมหอบแฮ่กๆด้วยหล่ะ มันเหนื่อย มันเจ็บหรอครับ?"

     

    ผมถามเพราะเวลาจื่อเถากลายร่างมักจะดิ้นไปดิ้นมาแถมร้องเสียงดัง พอกลายร่างเสร็จก็หอบแฮ่กๆ มันทำให้ผมสงสัยว่าตอนกลายร่างแต่ละครั้งมันเจ็บหรือเปล่า เพราะถ้าเจ็บจะได้ไม่ทำอีก ให้อยู่ในร่างคนต่อไปตลอดจนลูกจนหลาย ฮิ <3

     

    "มะ.. ไม่"

     

    จื่อเถาหันหน้าหนีผมก่อนที่จะหน้าแดงแจ๋ สงสัยเขินในความหล่อ

    อยากจะบอกว่าเสียงของจื่อเถามันเล็กมากกกๆๆๆ มันแอ๊วๆมันยั่วๆ มันคาวาอี้ T V T)/

     

    "ทำเฉยๆ.. . "

     

    "ทำเฉยๆ?" ผมถามทวน.. ทำเฉยๆงั้นรึ?

     

    "อะ.. อื้อ ไม่เจ็บเลยฮะ.. "

     

    "งั้นจื่อเถาก็กลายร่างไปๆมาๆได้ตลอดเลยนะสิ ดีจัง งั้นพี่ดึงบ่อยๆก็ได้น่ะสิ!" ผมตาวาว

     

    "มะ.. มันก็ไม่เชิง..."

     

     

       'กลายร่างกลับไปกลับมาบ่อยๆก็ไม่ดีหรอกฮะ'

     

     

    "หือออ เมื่อกี้จื่อเถาพูดอะไรหรือเปล่าครับ?"

     

     

    ผมถาม เพราะเหมือนได้ยินเสียงอะไรอยู่ข้างหูแต่ได้ยินไม่ถนัด

    ยิ่งจื่อเถาพูดโดยไม่หันหน้ามามองผม เอาหน้าซุกไปกับผ้าห่มผืนหนา

    ร้ิวแดงๆพาดเต็มหน้าเรื่อยมาจนถึงใบหูเล็ก... หืมมม เป็นอะไรเจ้าตัวเล็ก

     

     

    "จื่อเถาอ่าาา เวลาพูดทำไมไม่หันมามองหน้าพี่ละครับ?"

     

     

    "งืออออ"

     

    จื่อเถายังคงไม่มองหน้าผม เอาหน้าซุกไปกับผ้าห่มเหมือนเด็กๆส่ายหัวไปมา

     

    "จื่อเถาาาอ่าาา … "

     

     

    "… "

     

     

    "พี่เสียใจนะ … ไม่มองหน้ากันแบบนี้"

     

    ผมพูดเสียงอ่อยๆ ใช้ท่าไม้ตายในการอ้อนจื่อเถา

     

     

    "จื่อเถาเอ้อ"

     

     

    จื่อเถาที่รักของผมยังคงเอาหน้าซุกไปกับผ้าห่มแล้วส่ายหน้าแรงๆ

     

     

    "งื้อออออ ไม่ นะ มะ.. ไม่มองหรอก"

     

     

    จือเถาพูดอู้อี้ๆกับผ้าห่ม ผมได้ยินไม่ค่อยชัดจึงต้องเขยิบตัวไปใกล้ๆ นั่นทำให้จื่อเถามองหน้าผมแล้วทำตาโต

    ก่อนที่จะเอามือดันหน้าของผมให้ออกห่างจากเจ้าตัว แล้วพูดเสียงสั่นๆ

     

     

    "อะ.. อปป้า"

     

     

    "… "

     

     

    "อปป้าโป๊! ไม่มีเสื้อผ้า... ยะ.. อย่ามาใกล้จื่อเถานะ"

     

     

    ฮะ… เฮ้ย …

     

     

     

    ผมค่อยๆก้มมองตัวเอง แล้วค่อยๆยิ้มแหะๆให้จื่อเถา 

     

     

     

     

    "คนทะลึ่ง!!"

     

     

     

     

     

    ไอ้เราก็ว่าทำไมเย็นๆ...

     

     

     

    OTZ

     















    100%






















    #น้องแอ๊วไม่ใสนะครับ 5555555555555555555555
    เวิ่นในทวิตอย่าลืม #น้องแอ๊ว นะครับบบบบบ
    @mokzVIP



    ฝากครับ~ ช็อคฟิคคริสเทาแบบโรคจิตๆหน่อย ลองอ่านกันดูน้า  คลิ้กๆ 

    -ในนี้มีใครอ่านชานแบคบ้างงง >___< เรามีเรื่องสนุกๆมาแนะนำแหละ ไม่ใช่ฟิคเรานะ เรามาโปรโมตให้
    ไรท์เตอร์เฉยๆ เปิดจองแล้ววววว ไปจับจองกันได้จ้า  http://writer.dek-d.com/chamachu/story/view.php?id=976448



     

     



     

      

    ©
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×