ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (Fic SHINee - 2Min & On+Key) บันทึกลับของนายมาเฟีย

    ลำดับตอนที่ #7 : SF (ภาคต่อ จากคนหนึ่ง - ถึงอีกคน)

    • อัปเดตล่าสุด 18 มี.ค. 53


       ตอนนี้ผมได้แต่ระบายความรู้สึกทั้งหมดที่มีลงในหน้ากระดาษของสมุดโน๊ตเล่มนี้  นี้อาจจะเป็นวิธีเดี่ยวที่สามารถจะบอกถึงความรู้สึกที่ผมมีต่อ แทมิน  ที่ผ่านมาผมมันเลวมากที่ทำร้ายคนที่เขารักผมมากมายได้ลงคอ  ผมเลือกที่จะแคร์ความรู้สึกตนเอง  แต่แทมินเลือกที่จะแคร์ความรู้สึกของคนที่ตัวเองรัก     
                                                                      
        เป็นเวลาเกือบสามเดือนแล้วที่ผมยังคงทำอะไรเหมือนเดิม ซ้ำไป ซ้ำมา โดยที่แต่ละวันผ่านไปอย่างไร้จุดหมายและไร้ซึ่งความคาดหวังในชีวิต ตั้งแต่คนตัวเล็กจากผมไป  

         เมื่อไหร่ก็ตามที่โทรศัพท์ผมดังขึ้น ผมปรารถนาให้เป็นชื่อของเขาโทรมา ผมใช้ชีวิตอยู่ในทุกวันนี้อย่างเลวร้าย ชีวิตประจำวันที่ไม่ได้สนใจอะไร ผมไม่ต้องการมันอีกแล้ว ผมไม่รู้สึกมีความสุขเลยสักนิด เมื่อไม่มีเขาอยู่ตรงนั้น ไม่ว่าผมจะพยายามเท่าไหร่ ก็ไม่สามารถที่จะห้ามให้น้ำตาไม่ไหลออกมาได้
            ผมสงสัยว่าเขาอยู่ที่ไหน และอยู่กับใคร และเขาจะมอบเสียงหัวเราะให้กับเรื่องอะไร ผมยังคงอยู่ที่นี่  ผมไม่คิดว่า ผมจะสามารถยอมรับหัวใจทีเศร้าหมองนี้ได้ แต่ มันก็ไม่มีหนทางอื่นอีกแล้ว ...ที่ๆเขาเคยอยู่ ยังคงดูสว่างไสว แต่ในเวลาเหล่านั้น คงไม่มีวันกลับมาอีกแล้ว
    ..........

    ..........

    ..........

    ..........

    "ไอ้จง กูสงสารมินโฮว่ะ" ร่างท่วมเอ่ย

    "แล้วมึงจให้กูทำยังไงไอ้อน  กูช่วยได้แค่นี้จริง ๆ " ร่างหนาตอบ

    "กูจะไปบอกมินโฮว่าแทมินย้ายไปอยู่ที่ไหน" ร่างท่วมเอ่ย

    "มึงอยากให้แทมินโกรธมึงรึไง เหอะ " ร่างหนาตอบ

    "กูไม่สน ถ้าเกิดปล่อยไปอย่างนี้ คนที่เจ็บปวดก็เป็นสองคนนี้อยู่ดี" ร่างท่วมเอ่ยก่อนที่จะเดินตรงไปหาร่างสูงที่นั่งอยู่ที่สวนย่อมทันที่พร้อมกระดาษและปากกาที่ถือติดมือไปด้วย

    "มินโฮ" ร่างท่วมเอ่ยเรียก

    "ครับ พี่อนยู มีธุระอะไรครับ" ร่างสูงตอบพร้อมกับนั่งมอง ร่างท่วมขีด ๆ เขียน ๆ อะไรบ้างอย่างลงบนกระดาษใบหนึ่งที่ยื่นมาให้และร่างสูงก็รับมันไว้แบบงง

    "นี้  สิ่งที่จะทำให้แกกลับมาเป็นปกติเหมือนแต่ก่อน  อย่าลืมรับคน ๆ นั้นกลับมาโซลด้วยล่ะ โชคดี" ร่างท่วมบอกถึงจุดประสงค์บางอย่างเสร็จสับก่อนที่จะเดินจากไปทิ้งให้ร่างสูงยังงงกับสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่

    "แผนที่  ไปตามเส้นทางที่เขียนไว้ ความหวังและเส้นชัยรออยู่ที่ แดกู" ร่างสูงอ่านตัวหนังสือที่รุ่นพี่ร่างท่วมเขียนไว้บนกระดาษพร้องกับเส้นทางต่าง ๆ อย่างตั้งใจก่อนที่จะพับแผ่นกระดาษนั้นใส่ในกระเป๋าเป้คู่ใจอีกที

    .........

    .........

    .........

    .........

          ผมขับรถมาตามแผนที่ ที่พี่อนยูเขียนให้ผมเมื่อวาน  บอกตรง ๆ ว่าผมก็ยังไม่แน่ใจว่าพี่เขาต้องการอะไรกันแน่ เขากำลังเล่นตลกอะไรกับผมอยู่รึป่าว  ผมก็ไม่อาจที่จะคาดเดาได้  ตลอดเส้นทางที่มานี้ผมได้แต่นึกถึงคนตัวเล็กอยู่ตลอดเวลา  ผมอยากจะเป็นทุกสิ่งทุกอย่างสำหรับเขา   แต่ตอนี้มันคงกลายเป็นเพียงแค่ความทรงจำ 



    ....ถ้าในตอนนั้นที่เขาร้องไห้อยู่เพียงลำพัง หากผมวิ่งตรงเข้าไป เขาจะยังอยู่เคียงข้างผมมั้ย ?

                  ....ถ้าเป็นไปได้ ผมอยากจะพูดมันอีกครั้ง ว่าผมรักเขามากจริงๆ หัวใจของผมปรารถนาเพียงเขา
     
    ....และตอนนี้คำพูดของผมคงไปไม่ถึงคนตัวเล็กนั้นอีกแล้ว ผมสงสัยว่า เขาอยู่ที่ไหน และอยู่กับใคร ?

                  ....และเขาจะมอบเสียงหัวเราะให้กับเรื่องอะไรผมยังคงอยู่ที่นี่

    ....และผมยังเชื่อมั่นว่าเราทั้งคู่จะได้พบกันอีกครั้ง ความคิดของผมยังคงไม่เปลี่ยนไปและยังคงคิดถึงเพียงเขาคนเดียว 
    ลีแทมิน

    ใช้เวลาไม่นานผมก็ขับรถมาถึงที่หมาย  ผมลองดูบ้านเลขที่เพื่อความชัวร์และแน่ใจอีกครั้งว่าถูกต้องรึป่าว 

    "18 / 09 บ้านหลังสีฟ้าอ่อน หน้าบ้านมีชิงช้าแขวนอยู่กับต้ยไม้ใหญ่ ถูกต้องทุกอย่างที่พี่อนยูเขียนไว้" ร่างสูงยืนพึ่มพร่ำอยู่หน้าบ้านหลังหนึ่งที่ในกระดาษเขียนไว้

    "มาหาใครค่ะ" เสียงของหญิงชราคนนึงดังขึ้น

    "เอ่อ คือ พี่ลี จินกิ เขาให้ผมมาตามแผนที่ ที่เขาเขียนไว้น่ะครับ" ร่างสูงตอบ

    "อ่อ คุณอนยูนะเหรอค่ะ" หญิงชรายิ้มให้เล็กน้อยก่อนเอ่ยชื่อที่คุ้นเคยขึ้นกับร่างสูง

    "ครับ" ร่างสูงตอบ

    "เชิญเข้ามาข้างในก่อนค่ะ" หญิงชราเอ่ยขึ้นก่อนที่ จะเปิดประตูให้ร่างสูงเข้ามาภายในบ้าน

    "เดี๋ยวสักครู่ คุณหนูก็กลับมาจาโรงเรียนแล้วหล่ะค่ะ" หญิงชราเอ่ย

    ............

    ............

    ............

                ผมนั่งเล่นอยู่ภายในบ้านได้สักพักก็เริ่มที่จะเดินสำรวจตัวบ้านหลังจากที่นั่งนิ่งอยู่ที่โซฟามานาน  บ้านหลังนี้หลังไม่ใหญ่และไม่เล็กมากนัก ขนาดกำลังดี  ภายในบ้านทาสีฟ้าอ่อนเกือบทั้งหลัง คงให้เดาเจ้าของบ้านหลังนี้คงชอบสีฟ้ามากถึงได้ทาไว้ทั้งหลังเชียว ผมเดินสำรวจภายในบ้านได้ไม่นานก็ได้ยินเสียง  เสียงหนึ่งดังขึ้น  

    .....เป็นเสียงที่ผมคุ้นเคย

          .....เป็นเสียงที่ผมไม่ได้ยินมานานเกือบ 3 เดือนเต็ม

    .....เสียงของคนที่ผมรัก รักมากด้วย


    "แทมิน" ร่างสูงเอ่ยขึ้นพลางหันมาสบตากับเจ้าของบ้าน

    "พี่มินโฮ!!" คนตัวเล็กเอ่ยขึ้นอย่างตกใจเมื่อเห็นว่าผู้มาเยือนคือใคร

    "พี่..พี่มาที่นี้ได้ยังไง" คนตัวเล็ดเอ่ยถามทันที่ที่ตั้งสติได้

    "เอ่อ..พี่พยายามตามหาเราแทบทุกที่..จนในที่สุดก็สืบมาจนรู้ว่าเราพักอยู่ที่นี้" ร่างสูงโกหกคำโตใส่คนตัวเล็กเพราะเกรงว่าจะทำให้อนยูเดือดร้อนเมื่อนึกถึงคนสั่งเสียก่อนที่จะมาที่นี้

    "มินโฮ..แกห้ามบอกให้ใครรู้ว่าพี่เป็นคนบอกแกมา..เข้าใจมั้ย" >> อนยู

    "คะ..ครับพี่อนยู" >> มินโฮ

    "แล้วพี่จะอยากรู้ไปทำไมว่าแทมอยู่ที่ไหน" คนตัวเล็กเอ่ยถามอีกครั้งหลังจากที่รู้เหตุผลของร่างสูง

    "พี่มารับเรากลับบ้านไง" ร่างสูงเอ่ย

    "กลับบ้าน..หึ หึ ก็นี้ไงครับบ้านของแทม..พี่จะให้แทมกลับไปที่ไหน" คนตัวเล็กแกล้งที่จะทำเป็นไม่รู้ถึงความหมายของร่างสูงเพราะไม่อยากทำให้ตนเองเจ็บช้ำไปมากกว่านี้

    "พี่กลับไปเถอะ..แทมอยากพัก..แทมเหนื่อยมากเลย..ขอตัวน่ะฮะ" คนตัวเล็กพูดพร้อมกลับพาร่างกายและจิตใจที่เป็นแผลที่ตอนนี้มันเริ่มที่จะกำเริบออกไปให้พ้นจากคนตรงหน้า..เพราะเขารู้ตัวดีว่าตอนนี้หาตนเองยังยืนอยู่ตรงนี้ต่อไปก็ไม่สามารถเก็บอาการและความอ่อนแอที่ตนเองมีไว้ได้

    "แต่แทมเดี๋ยวก่อน ฟังพี่ก่อน" ร่างสูงที่พยายามอธิบายและปรับความเข้าใจกับคนตัวเล็ก โดยพยายามรั้งตัวของคนตัวเล็กไว้

    "ปล่อยแทมเถอะ..นะ หากพี่รักแทมก็ปล่อยแทมไปเถอะ..ปล่อยให้คนที่พี่รักมีความสุขในสิ่งที่เขาเป็นและอย่าสร้างความเจ็บปวดและความลำบากใจให้แทมอีกเลย..ได้โปรด..เราจบกันแค่นี้เถอะ"  คนตัวเล็กพูดจบก็ขื่นตัวออกจากการเกาะกุมของร่างสูงและวิ่งหนีขึ้นห้องทันที..ทิ้งให้ร่างสูงยืนงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

    " นี้มันอะไรกัน..แทมเราจะจบกันแค่นี้เหรอ..แทมหมดรักพี่แล้วเหรอ..พี่ควรทำยังไงดี..บอกพี่ที" ร่างสูงได้แต่ยืนคิดถึงคำพูดและสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น..คนตัวเล็กหมดรักเขาแล้วจริงเหรอ...ไม่อยากพบหน้ากันอีกเหรอ..แล้วสุดท้ายเขาควรทำอย่างไรกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น 


    ..........



    ..........



    ..........



    ..........



    ..........



    ..........


       ตลอดระยะทางที่ร่างสูงขับรถกลับบ้าน..ในหัวสมองของเขาว่างเปล่าไร้ซึ่งสิ่งใด ๆ ทั้งสิ้น  นอกจากคำตอบที่ออกมาจากปากของคนตัวเล็กที่ยังคงล่อยวนอยู่ในสมอง..
       ซึ่งก็คงเหมือนกับก้อนเมฆที่ลอยอยู่บนท้องฟ้า หากโดนกระแสลมพัดแรงก็ทำให้เมฆนั้นกระจายตัวแยกออกจากกัน..แต่หากเมื่อใดที่ลมสงบ  ก้อนเมฆเล่านั้น ก็จะกลับมาร่วมตัวกันใหม่..
       ซึ่งก็เหมือนเรื่องราวของเขากับคนตัวเล็ก  หากมีเรื่ออีนที่เข้ามาแทนก็ทำให้ลืมเรื่องราวเหล่านั้นได้ชั่วขณะ..แต่ถ้าหากสมองว่างเปล่าไร้ซึ่งเรื่องราวต่าง ๆ ก็จะทำให้ร่างสูงจมปลักกับคำพูดของคนตัวเล็กอยู่อย่างนั้น


    "ปล่อยแทมเถอะ..นะ หากพี่รักแทมก็ปล่อยแทมไปเถอะ" 

    .......ก็เพราะพี่รักแทมไง..จึงทำให้พี่ปล่อยแทมไปไม่ได้


    "ปล่อยให้คนที่พี่รักมีความสุขในสิ่งที่เขาเป็น" 

    .......ที่เป็นอย่างนี้แทมมีความสุขจริงเหรอ


    "และอย่าสร้างความเจ็บปวดและความลำบากใจให้แทมอีกเลย.."

    .......ถ้าหากแทมคิดว่าแทมอยู่ได้โดยไม่มีพี่


    "ได้โปรด..เราจบกันแค่นี้เถอะ"

    ........พี่ก็จะปล่อยแทมไป


    ........แต่เราอยู่ ณ จุดนี้ แทนที่แค่เดินจากไป 


    ........เรามาลองกันใหม่สักตั้ง พี่รู้ว่าเราทำได้ 


    ..........



    ..........



    ..........



    ..........



    ..........



    ..........


    "นี้ก็ผ่ามมาหลายอาทิตย์แล้วนะพี่จง...ทำไมยังเป็นแบบนี้อยู่หละ"ร่างบางเอ่ย

    "พี่ก็ไม่รู้เหมือนกันคีย์..พี่ช่วยได้แค่นี้จริง ๆ " ร่างหนาเอ่ย

    "นี้ตกลง..คีย์ต้องออกโรงเองใช่ม่ะ..พี่นี้..ไม่..ได้..เรื่อง" ร่างบางเอ่ยพร้อมกับเดินหนีไปทันที่

    "เดี๋ยวคีย์..แกจะทำอะไรอีกเนี้ย"ร่างหนาเอ่ย..พร้อมกับวิ่มมาดักหน้าน้องชายของตนไว้

    "ก็ทำตามเสียงของหัวใจไง.." ร่างบางเอ่ย พร้อมกับเดินหน้าต่อ

    "คีย์..หยุดเถอะ..พี่ขอร้องเห็นแก่ความเป็นพี่ของแก..และเห็นแก่ไอ้อนยูด้วย..จบเถอะ" ร่างหนาพยายามเอ่ยอ้อนวอนร่างบางแต่ก็ดูเหมื่อนจะไม่เป็นผล

    "ก็เพราะคีย์เห็นแก่ทุกคนไง..คีย์เลยต้องทำ...พี่จงหลีกไปอย่ามาขว้าง" ร่างบางเอ่ยพร้อมกับผลักให้ร่างหนาหลบทางให้

    "เห็นแก่ทุกคน..หรือว่าเห็นแก่ตัวเองกันแน่คีย์..ตลอดมาพี่ตามใจแก่ทุกอย่างไม่เคยขัดแต่เรื่องนี้เป็นเรื่องเดียวที่ขอร้องแก..แกจะทำให้พี่ไม่ได้เหรอไง" ร่าหนาเอ่ยออกมาอย่างหมดหวังเพราะรู้ดีว่าน้องชายของตนเองเอาแต่ใจแค่ไหน..แต่ก็หวังว่าร่างบางจะเปลี่ยนใจ

    "ก็นี้ไง..คีย์กำลังทำตามที่พี่ขอร้อง..คิมคีย์บอมคนนี้..น้องชายสุดสวยของคุณพี่คิมจงฮยอนกำลังทำในสิ่งที่พี่ต้องการไง..ไปก่อนนะเดี๋ยวจะสายก่อน..บาย" ร่างบางพูดจบก็เดินออกจากบ้านไปทันทีแต่เหมือนว่านึกอะไรขึ้นได้จึงเดินกลับเข้ามาในบ้านอีกรอบหนึ่ง

    "พี่จงงงงง" ร่างบางเอ่ย

    "คีย์..คีย์เปลี่ยนใจแล้วใช่มั้ย" ร่างหนาพูดพร้องกับจับร่างบางเขย่าไปมา

    "คีย์จะมาบอกว่า..พี่จงฮยอน..ซารังเฮนะ จุ๊ฟ ๆ ไปล่ะ" พูดจบร่างบางก็เดินออกมาทันที่  ทิ้งให้ผู้เป็นพี่ยื่นถอนหายใจเฮือกใหญ่

    ..........



    ..........



    ..........



    ..........



    ..........



    ..........

    "แทมิน"

    "พี่คีย์..พี่มาได้ไงเนี้ย" คนตัวเล็กเอ่ยขึ้นหลังจากทีคุณแม่บ้านขึ้นไปตามว่ามีแขกมาพบ

    "ก็นั่งรถมาไง..ถามได้"ร่างบางตอบ

    "ฮะ..ว่าแต่มีเรื่องอะไรเหรอถึงมาหาผมที่นี้ได้" คนตัวเล็กเอ่ย

    "มีสิ..เรื่องใหญ่มากด้วยพี่ถึงต้องมาเองไง" ร่างบางเอ่ยพร้อมกับปรับสีหน้าให้ดูเคร่งครึมขึ้น

    "พี่มีเรื่องจะบอก..แทมฟังพี่ดี ๆ นะ และก็พยายามเข้าใจทุกสิ่งทุกอย่างที่พี่พูด..ห้ามขัดระหว่างที่พี่พูดฟังอย่างเดี่ยว" ร่างบางเอ่ยมารวดเดี่ยวจบเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา

    ............

    ............

    ............

    "พี่คีย์..แทม" 

    "นี้มันอาจจะฟังดูเหมือนว่าพี่เห็นแก่ตัว..แต่เพื่อเราทุกคนแทมเข้าใจใช่มั้ย" ร่างบางเอ่ย

    "ฮะ..แทมเข้าใจ...คนเราทุกคนมีจุดยื่นที่ไม่เหมือนกันนิ.." คนตัวเล็กเอ่ย

    "เข้าใจก็ดี..วันพรุ่งนี้เรากลับไปโซลด้วยกัน..ไปจบเรื่องนี้ด้วยกัน" ร่างบางเอ่ย

    ..........



    ..........



    ..........



    ..........



    ..........



    ..........

    "หายไปไหนนะ...ก็วันก่อนวางไว้ที่โต๊ะนี้นิ" ร่างสูงได้แต่ยืนบ่นงึ่มงำอยู่คนเดียวเมื่อของสำคัญของตนหายไปและมีทีท่าว่าจะหาไม่เจอง่าย ๆ ด้วย

    อ๊อดๆๆๆๆๆ

    "รู้แล้วคร้าบบบบบ"

    "อ้าวคีย์..มาได้ไงเนี้ย" ร่างสูงเอ่ยทักผู้มาเยื่อนใหม่

    "ก็นั่งรถมาไงถามได้..แล้วใจคอนิจะไม่ชวนเข้าไปข้างในเหรอไง" ร่างบางบ่นกระปอดกระแปดทันที

    "อ่อ..เข้ามาก่อนซิ"ร่างสูงเอ่ย

    "อะไรเนี้ย..ทำไมห้องมันรกอย่างนี้อ่ะ" ร่างบางบ่นอีกรอบเมื่อดูรอบ ๆ ห้องของร่างสูงนั้นมีข้าวของกระจายเต็มห้องไปหมด

    "ก็พอดีเราหาของอยู่อ่ะ..แต่หาเท่าไรก็ไม่เจอสักที..เฮ้อ" ร่างสูงเอ่ยก่อนที่จะนั่งลงตรงโซฟาอย่างอ่อนใจ

    "ของอะไรเหรอ..เราช่วยหามั้ย" ร่างบางเอ่ย

    "เอ่อ..ชั่งมันเหอะ..ว่าแต่คีย์มาหาเรามีเรื่องอะไรรึป่าว" ร่างสูงเอ่ย

    "คือว่า...พรุ่งนี้อ่ะมินโฮว่างป่ะเราจะมาจัดงานปาตี้ให้พี่จงอ่ะ..แต่จะของใช้ห้องของมินโฮหน่อยกะจะเซอร์ไพร" ร่างบางเอ่ย

    "ว่างแต่ต้องหลังสองทุ่มนะ...มีซ้อมบอล" ร่างสูงเอ่ย

    "อืม..ไม่เป็นไรเดี๋ยวเราให้พี่อนยู..ช่วยจัดห้องก็ได้ไม่เป็นไรหรอก"  ร่างบางเอ่ย

    "อ่อ..ตามสบายเดี๋ยวเรากลับมาสมทบทีหลัง" ร่างสูงเอ่ยพรางยันตัวขึ้นจากโซฟาเพื่อเตรียมหาของต่อ

    "งัน..เราไม่กวนแล้วล่ะหาของต่อเถอะ..แน่ใจน่ะว่าจะไม่ให้ช่วยหาจริง ๆ "ร่างบางเอ่ยทิ้งท้ายก่อนที่จะเตรียมตัวออกจากห้องไป

    "ไม่เป็นไรหรอก..แล้วมาพูดแค่นี้เนี้ยน่ะ..ที่หลังโทรมาก็ได้" ร่างสูงเอ่ย

    "ไม่เป็นไร..พอดีต้องเวะซื้อของสำหรับพรุ่งนี้ด้วย..กลับล่ะหาหัวใจตัวเองให้เจอต่อนะไปล่ะ..บาย" ร่างบางเอ่ยก่อนที่จะจากไป

    "เฮ้อแล้วมันหายไปไหนเนี้ย..โอ้ยไม่หงไม่หามันแล้ว" ร่างสูงที่เริ่มหัวเสียจากการหาของที่หาเท่าไรก็ไม่เจอสักทีจึงถอดใจที่จะหาต่อและเริ่มเก็บของทุกอย่างให้เข้าที่เหมือนเดิม



    ..........



    ..........



    ..........

    "เฮ้อเหนื่อยอะไรอย่างนี้เนี้ย..สองทุ่มเศษแล้วเหรอ" ร่างสูงที่พึ่งเหนื่องจากการซ้อมบอลก็นั่งพักได้ไม่เท่าไหร่ก็นึกขึ้นได้ว่าวันนี้มีงานปาตีที่บ้านของตนเองแต่ดูที่นาฬิกาก็ต้องเหนื่อยหนักกว่าเดิมเมื่อเวลามันปาไปสองทุ่มเศษแล้วจึงทำให้เขาต้องเหนื่อยหนักกว่าเดิมในการรีบกลับบ้าน

    "อ้าวไหนคีย์บอกมีจัดปาตีไง..แต่ทำไม่ห้องมันเงียบเชียบเหมือนเดิมล่ะ" ร่างสูงที่ก้าวเข้ามาในห้องก็ต้องแปลกใจเมื่อทั้งห้องมันกลับมืดและว่างเปล่าไร้ซึ่งงานเลี้ยงใด ๆ ทั้งสิน

    "อ่ะ..ไฟเสียรึไงเนี้ย...โอ้ยทำไมชีวิตมันยุ่งวุ่นวายอย่างนี้..ให้ตายสิ" ร่างสูงที่เหนื่อยจากการซ้อมบอลและเหนื่อยจากเรื่องต่าง ๆ ก็ต้องอารมณ์เสียมากกว่าเดิมเมื่อไฟที่ห้องมันดันมาเสียไม่รู้เวลำเวลาซะงัน

    "ช่างห่ะ..ไว้ค่อยซ่อมพรุ่งนี้แล้วกัน" ว่าแล้วร่างสูงก็พาร่างกายและหัวใจที่อ่อนล้าเข้าห้องน้ำเพื่อชำระร่างกาย

    ........

    ..........

    "โอ๊ะ...นี้มัน" เมื่อร่างสูงเสร็จสิ้นทุกอย่างจากการจัดการตนเองแล้วจึงเดินออกมาจากห้องแต่ก็ต้องตกใจเมื่อภายในห้องนั่งเล่นนั้นไฟที่ตอนแรกเสียกลับมาสว่างไสว่เมื่อเดิมและที่ตรงกำแพงห้อง...มีกระดาษแปะไว้เต็มห้องพร้อมกับรู้ถ่ายของคนตัวเล็กกับตนเองแปะไว้อย่างสวยงาม ร่างสูงไล่อ่านทีล่ะข้อความก็ต้องประหลาดใจเมื่อขอความต่าง ๆ นั้นมันเป็นลายมือของเขาและลายมือของใครบ้างคนที่เขียนตอบในข้อความนั้น   ซึ่งข้อความทั้งหมดก็เป็นข้อความที่อยู่ในสมุดเล่มที่เขาทำมันหายไป


    " รุ่นพี่ฮะ ผม  ชอบพี่ครับ  คบกับผมได้มั้ยครับ "

    .....พี่ยังจำคำนี้ได้เสมอนะเจ้าตัวเล็กแล้วเราหล่ะยังจำมันได้มั้ย

    ......ทำไมผมจะจำไม่ได้หล่ะก้ผมเป็นคนพูดกับพี่เองนิ

    " นายแน่ใจแล้วเหรอ ไม่กลัวว่าฉันจะทำให้นายเสียใจเหรอไง "

    ......พี่..ขอโทษที่ทำให้เราเสียใจนะแทมิน

    ......ผมไม่เคยโกรธพี่เลยที่มันเป็นแบบนี้..จริง ๆ นะ

    "
    ไม่ครับ ผมไม่เสียใจเลย "

    .....พี่ไม่อยากได้ยินคำนี้เลย...พี่รู้สึกไม่ดีกับสิ่งที่ทำลงไป

    ......ก็ผมบอกแล้วไง..ว่าไม่โกรธ..และไม่เคยเสียใจเลย

    "
    ก็ได้  ตามใจนาย "

    .....ไม่ว่ายังไงพี่ก็ยอมรับกับผลตอบแทนที่มันจะเกิดขึ้น

    ...... ครับ..ผมรู้

    "แปลว่ารุ่นพี่ตกลงแล้วนะ "

    ......พี่ขอโทษ

    ......ฮะ..แทมให้อภัยในทุกเรื่อง

      
        น้ำตาของลูกผู้ชายที่มันไม่เคยได้ไหลก็กลับมาพ่ายให้กับข้อมความต่าง ๆ ที่คนตัวเล็กเขียนอธิบายไว้  โดยเฉพาะกับคำว่าให้อภัยในทุกเรื่อง..เขาได้แต่ถามตัวเองว่าทำไม..ทำไมคนตัวเล็กถึงยอมอภัยให้กับทุกเรื่องที่เขาทำทั้งที่จริงเขาไม่ควรจะได้รับคำ คำ นั้นเลย  ไม่มีวัน

    "แทม..ฮึก..ไม่ต้องยกโทษให้พี่หรอก..พี่ไม่สมควรได้รับมัน ฮึก" ร่างสูงที่ตอนนี้ได้แต่นั่งคุกเข่าร้องไห้กับตัวเองและข้อความต่าง ๆ ที่ถูกแปะไว้ อย่างไม่อายเลย

    "ทำไม..พี่ถึงไม่อยากได้รับมันล่ะ..พี่..ไม่รักแทมแล้วเหรอ"

    "แทมิน..ฮึกพี่ขอโทษ..ได้โปรดอยู่กับพี่น่ะ" ร่างสูงรีบลุกขึ้นไปกอดคนตัวเล็กไว้แน่นราวกับว่ากลัวร่างเล็กตรงหน้าจะหายไป

    "ฮะ..แทมจะอยู่กับพี่มินโฮฮะ" คนตัวเล็กก็กอดตอบร่างสูงก่อนที่จะมอบคำที่ทำให้ร่างสูงยิ้มจนแก้มแทบฉีกเลย

    "เรา...มาลองกันใหม่สักตั้งน่ะ..ฮะ ฮะ " ทั้งสองเงยหน้าขึ้นมาและพูดประโยคนี้พร้อมกันราวกับว่านัดกันมาอย่างดิบดี..ก่อนที่จะมอบจูบอันแสนหวานที่ต่างคน..ก็ต่างต้องการคนมาเติมให้มันเต็มช่องว่าง

    "พี่อนยู..คีย์อิจฉาสองคนนั้นจัง" ร่างบางที่แอบดูเหตุการณ์ต่าง ๆ อยู่กับคนรักของตนเองและพี่ชายก็เอ่ยออกมา

    "คีย์จะไปอิจฉาสองคนนั้นทำไม..ในเมื่อเรื่องของเราก็ไม่ต่างจากสองคนนั้เท่าไรนิ" ร่างท่วมเอ่ย

    "ใช่..คีย์ อย่างที่พี่เคยบอกกับเราไง..ว่าต่อให้เราจะทำเรื่องที่ผิดพลาดมามากขนาดไหน เกินที่เราจะรับมันได้แต่ด้วยอำนาจของความรักที่เรามีให้กันหรือมีให้คนที่เรารัก..มันก็ทำให้เราพร้อมที่จะเอ่ยความว่าขอโทษและให้อภัยได้เสมอ..เพื่อคนที่เรารักไง" ร่างหนาเอ่ยคำพูดและเหตุผลต่าง ๆ พลางเอามือลูบกลุ่มผมของน้องชายตนเองอย่างแอนดู

    "พี่จงฮยอน...พี่อนยู..คีย์..ขอโทษกับเรื่องที่ผ่านมานะ..ต่อไปนี้จะไม่มีเหตุการณ์อย่างนี่อีก" ร่างบางที่สำนึกผิดก็เอ่ยออกมาเช่นกัน

    "ไม่เป็นไร" ทั้งสองเอ่ยขึ้นมาพร้อมกันพร้อมกับส่งยิ้มที่อบอุ่นให้กันจนทำให้วันนี้กลายเป็นวันที่น่าจดจำไปอีกวันของทั้ง ห้าคน

    ............

    ............

    ............

    ............

    ............

    ............

    "แทมทำไมเราถึงยอมกลับมาหาพี่หละ..ไหนตอนแรกเราไม่ยอมไง" ร่างสูงที่นอนหนุ่นตัดของคนตัวเล็กก็เอ่ยขึ้นหลังจากที่คนตัวเล็กกับเขาได้กับมาเริ่มนันหนึ่งใหม่ด้วยกันอีกครั้ง

    "ก็เพราะพี่คีย์ไง" คนตัวเล็กเอ่ย

    "คีย์เหรอ..คีย์ทำไม" ร่างสูงยันตัวเองให้ลุกขึ้นมานั่งก่อนที่จะจ้องเขาหน้าคนตัวเล็กด้วยความสงสัย

    "เรื่องก็มีอยู่ว่า" คนตัวเล็กเรอ่มเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ให้ร่างสูงฟัง


    ....


    "พี่มีเรื่องจะบอก..แทมฟังพี่ดี ๆ นะ และก็พยายามเข้าใจทุกสิ่งทุกอย่างที่พี่พูด..ห้ามขัดระหว่างที่พี่พูดฟังอย่างเดี่ยว" ร่างบางเอ่ยมารวดเดี่ยวจบเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา

    "อ่ะ..อ่านซะเพื่อมันจะทำให้เราเข้าใจอะไรได้ดีขึ้น..และเลิกฟังสมองของตัวเอง..เปลื่ยนมาใช้หัวใจฟังและหาคำตอบ" ร่างบางยื่นสมุดเล่มไม่ใหญ่และไม่เล็กมากให้กับคนตัวเล็กที่นั่งอยู่ตัวหน้าที่ตอนนี้ทำสีหน้าแปลกใจอยู่เล็กน้อย

    "สมุดโน๊ต"คนตัวเล็กอุทานขึ้นมาเบา ๆ ก่อนที่จะพลิกอ่านใจความสำคัญในสมุดที่ร่างบางได้แปะกระดาษคันไว้ในหน้าที่สำคัญ ๆ 

    To เจ้าตัวเล็ก  ลีแทมิน
         ตอนนี้ผมได้แต่ระบายความรู้สึกทั้งหมดที่มีลงในหน้ากระดาษของสมุดโน๊ตเล่มนี้  นี้อาจจะเป็นวิธีเดี่ยวที่สามารถจะบอกถึงความรู้สึกที่ผมมีต่อ แทมิน  ที่ผ่านมาผมมันเลวมากที่ทำร้ายคนที่เขารักผมมากมายได้ลงคอ  ผมเลือกที่จะแคร์ความรู้สึกตนเอง  แต่แทมินเลือกที่จะแคร์ความรู้สึกของคนที่ตัวเองรัก




    To เจ้าตัวเล็ก  ลีแทมิน
        
    เป็นเวลาเกือบสามเดือนแล้วที่ผมยังคงทำอะไรเหมือนเดิม ซ้ำไป ซ้ำมา โดยที่แต่ละวันผ่านไปอย่างไร้จุดหมายและไร้ซึ่งความคาดหวังในชีวิต ตั้งแต่คนตัวเล็กจากผมไป  


    To เจ้าตัวเล็ก  ลีแทมิน
         เมื่อไหร่ก็ตามที่โทรศัพท์ผมดังขึ้น ผมปรารถนาให้เป็นชื่อของเขาโทรมา ผมใช้ชีวิตอยู่ในทุกวันนี้อย่างเลวร้าย ชีวิตประจำวันที่ไม่ได้สนใจอะไร ผมไม่ต้องการมันอีกแล้ว ผมไม่รู้สึกมีความสุขเลยสักนิด เมื่อไม่มีเขาอยู่ตรงนั้น ไม่ว่าผมจะพยายามเท่าไหร่ ก็ไม่สามารถที่จะห้ามให้น้ำตาไม่ไหลออกมาได้
         ผมสงสัยว่าเขาอยู่ที่ไหน และอยู่กับใคร และเขาจะมอบเสียงหัวเราะให้กับเรื่องอะไร ผมยังคงอยู่ที่นี่  ผมไม่คิดว่า ผมจะสามารถยอมรับหัวใจทีเศร้าหมองนี้ได้ แต่ มันก็ไม่มีหนทางอื่นอีกแล้ว ...ที่ๆเขาเคยอยู่ ยังคงดูสว่างไสว แต่ในเวลาเหล่านั้น คงไม่มีวันกลับมาอีกแล้ว



    To เจ้าตัวเล็ก  ลีแทมิน
         ผมขับรถมาตามแผนที่ ที่พี่อนยูเขียนให้ผมเมื่อวาน  บอกตรง ๆ ว่าผมก็ยังไม่แน่ใจว่าพี่เขาต้องการอะไรกันแน่ เขากำลังเล่นตลกอะไรกับผมอยู่รึป่าว  ผมก็ไม่อาจที่จะคาดเดาได้  ตลอดเส้นทางที่มานี้ผมได้แต่นึกถึงคนตัวเล็กอยู่ตลอดเวลา  ผมอยากจะเป็นทุกสิ่งทุกอย่างสำหรับเขา   แต่ตอนนี้มันคงกลายเป็นเพียงแค่ความทรงจำ 

    ....ถ้าในตอนนั้นที่เขาร้องไห้อยู่เพียงลำพัง หากผมวิ่งตรงเข้าไป เขาจะยังอยู่เคียงข้างผมมั้ย ?

                  ....ถ้าเป็นไปได้ ผมอยากจะพูดมันอีกครั้ง ว่าผมรักเขามากจริงๆ หัวใจของผมปรารถนาเพียงเขา
     
    ....และตอนนี้คำพูดของผมคงไปไม่ถึงคนตัวเล็กนั้นอีกแล้ว ผมสงสัยว่า เขาอยู่ที่ไหน และอยู่กับใคร ?

                  ....และเขาจะมอบเสียงหัวเราะให้กับเรื่องอะไรผมยังคงอยู่ที่นี่
    ....และผมยังเชื่อมั่นว่าเราทั้งคู่จะได้พบกันอีกครั้ง ความคิดของผมยังคงไม่เปลี่ยนไปและยังคงคิดถึงเพียงเขาคนเดียว 
    ลีแทมิน




    To เจ้าตัวเล็ก  ลีแทมิน

         เรื่องที่พี่อนยูบอกผม..มันคือเรื่องจริง..แต่ที่มันเป็นเรื่องจริงที่มากกว่าและผมอยากให้มันกลายเป็นความฝันก็คือเรื่องที่ออกมจากปากของคนที่ผมรัก 
         "ปล่อยแทมเถอะ..นะ หากพี่รักแทมก็ปล่อยแทมไปเถอะ..ปล่อยให้คนที่พี่รักมีความสุขในสิ่งที่เขาเป็นและอย่าสร้างความเจ็บปวดและความลำบากใจให้แทมอีกเลย..ได้โปรด..เราจบกันแค่นี้เถอะ"


    To เจ้าตัวเล็ก  ลีแทมิน

         "ปล่อยแทมเถอะ..นะ หากพี่รักแทมก็ปล่อยแทมไปเถอะ" 

    .......ก็เพราะพี่รักแทมไง..จึงทำให้พี่ปล่อยแทมไปไม่ได้

         "ปล่อยให้คนที่พี่รักมีความสุขในสิ่งที่เขาเป็น" 

    .......ที่เป็นอย่างนี้แทมมีความสุขจริงเหรอ

         "และอย่าสร้างความเจ็บปวดและความลำบากใจให้แทมอีกเลย.."

    .......ถ้าหากแทมคิดว่าแทมอยู่ได้โดยไม่มีพี่

         "ได้โปรด..เราจบกันแค่นี้เถอะ"

    ........พี่ก็จะปล่อยแทมไป

    ........แต่เราอยู่ ณ จุดนี้ แทนที่แค่เดินจากไป 

    .......เรามาลองกันใหม่สักตั้ง พี่รู้ว่าเราทำได้
     


    และคนตัวเล็กก็มาสะดุดกับเรื่องราวต่าง ๆ ที่หน้าสุดท้ายซึ่งเขาเดาว่ามันน่าจะเป็นเรื่องราวที่คนตัวสูงเขียนไว้ไม่นานมานี้เอง

    To เจ้าตัวเล็ก  ลีแทมิน
          เธอคิดว่าฉันถึงจุดอิ่มตัว แต่ตัวฉันแค่รู้สึกเบื่อน่ะคนดี    เธอคิดว่าฉันจองหองเหลือเกิน แต่ฉันแค่พยายามเงยหน้าสู้ ก้าวเดิน เธอคิดว่าฉันรีรอ ชักช้า ไม่ยอมไป แต่ในใจฉันคิดว่า ฉันกำลังใช้เวลาให้คุ้ม เธอคิดว่า เธอต้องการจะทิ้งกัน แต่ฉันคิดว่า ฉันคิดไม่เหมือนเธอ
          ฉันคิดว่าเธอถึงจุดอิ่มตัว เธอเพียงไม่รู้ว่าเมื่อไรจะทิ้งฉัน ที่ฉันคิดว่า มันไม่เกี่ยวกัน การที่ฉันจะตัดสินตัวเธอจากข้อบกพร่องและนั้นก็คือว่าทำไม  ฉันสามารถวิจารณ์ได้แต่ฉันไม่ทำ เพื่อจะให้ความสนใจแค่เธอกับฉัน
          หากเธอคิดว่าเธออยู่ได้โดยไม่มีฉัน ฉันก็จะปล่อยเธอไปคนดี มันจบแล้ว แต่ก่อนที่เราจะโบกมือลา เราลองมาทบทวนดูอีกที
          หากเธอทิ้งกัน ฉันก็จะไปนะคนดี ฉันก็จะปล่อยเธอไป มันจบแล้ว แต่ฉันก็ไม่สงสัย ถ้าหากเวลานี้เธออยากจะจากไป
    ที่รัก ฉันก็จะปล่อยเธอไป
         ถึงแม้ว่าฉันพยายามฉุดรั้งเธอเอาไว้ ฉันไม่สามารถปล่อยเธอไป  หากเธอจะทิ้งฉัน แล้วเธอจะคิดถึงกัน แต่เราอยู่ ณ จุดนี้ แทนที่แค่เดินจากไป เรามาลองกันใหม่สักตั้ง ฉันรู้เราทำได้
         แต่ถ้าหากเธอทิ้งกัน ฉันก็จะไปนะคนดี ฉันก็จะปล่อยเธอไปนะคนดี 
    มันจบลงแล้ว มันจบแล้ว

    "แทม..พี่ขอโทษทุกสิ่งที่ผ่านมา..เพียงพี่ไม่เข้าใจความรู้สึกที่แท้จริงของตัวเอง...เรื่องที่เกิดขึ้นมันอาจจะเป็นเพราะความสนิดสนมแความผูกพันที่พี่กับมินโฮมีให้กัน..แต่เราสองคนลองที่จะค้นดูแล้วว่าลึก ๆ ในหัวใจของพี่กับมินโฮ..มันไม่ได้มีกันและกันเลย..แต่กว่าที่จะรู้เรื่องทั้งหมดก็สายไปแล้ว..พี่ขอโทษจริง ๆ ..ก่อนที่ทุกอย่างมันจะสายไปกว่านี้..เชื่อพี่กลับไปปรับความเขาใจกับมินโฮซะ" ร่างบางเอ่ยความรู้สึกที่แท้จริงออกมาให้คนตัวเล็กได้เข้าใจเสียทีก่อนที่ทุกอย่างมันจะสายไป

    "พี่คีย์..แทม" 

    "นี้มันอาจจะฟังดูเหมือนว่าพี่เห็นแก่ตัว..แต่เพื่อเราทุกคนแทมเข้าใจใช่มั้ย" ร่างบางเอ่ย

    "ฮะ..แทมเข้าใจ...คนเราทุกคนมีจุดยื่นที่ไม่เหมือนกันนิ.." คนตัวเล็กเอ่ย

    "เข้าใจก็ดี..วันพรุ่งนี้เรากลับไปโซลด้วยกัน..ไปจบเรื่องนี้ด้วยกัน" ร่างบางเอ่ย

    " เรื่องมันก็เป็นอย่างนี้ล่ะฮะ" คนตัวเล็กยิ้มพร้อมกับยืนสมุดที่มินโฮใช้ความพยายามในการตามหามาหลายวันด้วยความรู้สึกผิด

    "พี่ก็หาอยู่ตั้งนาน..ที่แท้ก็ไปอยู่กับเรานิเอง" ร่างสูงพูดพร้อมกับยื่นมือไปรับสมุดจากคนตัวเล็ก

    "แต่เราก็ต้องโดนทำโทษนะ..ที่ทำให้พี่เสียใจอยู่ตั้งนาน" ร่างสูงไม่พูดเปล่า..อุ้มคนตัวเล็กเดินเข้าห้องไปทันที่...การทำโทษของมินโฮวันนี้ดูจะมีความสุขเหลือเกิน

    "อ่ะ..อ่ะ..อืม..พี่ "

    "อืม..แทม..พี่รัก..เรานะ"

    "อืม..อ้า..แทมก็..รักพี่..มินโฮฮะ..อ่ะ..อืม"


    .......................................................................................

    ในที่สุด  SF เรื่องนี้ก็ปิดฉากลงซะที
    ไม่รู้ว่าจะถูกใจกันรึป่าวและก็ต้องขอโทษ..รีดเดอร์ทุกคนด้วย
    ที่มาอัพเรื่องให้ช้าเพราะติดสอบและวุ่นกะการหาที่ฝึกงานก็เลยมาลงสุดท้าย เช่นเคยขอบคุณทุกคอมเม้นที่เป็นกำลังใจให้กันและอยู่ด้วยกันมาตลอด
    ขอบคุณจริง ๆ 
    และอีกเรื่องรบกวนด้วยน่ะรัก  SHINee  ก็โหวดให้ SNINee ด้วนนะ

    เรื่องสุดท้ายจริง ๆ วันนี้อ่านข่าวมา..ปรากฏว่ามินโฮได้รับอุบัติเหตุจากการอัดรายการดรีมทีม 2 แต่ตอนนี้ก็ปลอดภัยดีแล้ว เฮ้อโล่ง ไงก็ขอให้หายไว ๆ นะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×