ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Journey of the Star explorer(รับสมัครตัวละคร)

    ลำดับตอนที่ #7 : ปฐมบทการเดินทางสู่จักรวาลอันไร้ที่สิ้นสุด

    • อัปเดตล่าสุด 11 ก.ค. 64


    ภายใต้ดาราทั้งหมดทั้งมวลดาวเล็กๆ ที่ชื่อว่า ‘โลก’ คือสถานที่อันเป็นรากฐานของมหาอำนาจแห่งดวงดาว เหล่ามนุษยชาติต่างเคยอาศัยอยู่ที่นี่อาศัยมันตั้งรากฐานนานกว่าแสนปีเมื่อหลายร้อยปีก่อนมนุษย์ได้ส่งคนออกไปสำรวจสิ่งที่พวกเขาเรียกว่าอวกาศอันไกลโพ้น

    อุปสรรคเพียงอย่างเดียวของพวกเขาคือธรรมชาติของร่างกายมนุษย์นั้นมีร่างกายอ่อนแอ่ไม่อาจทนรับสภาวะสุญญากาศได้ แต่หลังผลัดเปลี่ยนวิวัฒนาการกว่าพันปีในที่สุดพวกเขาก็สามารถดำรงอยู่ภายใต้ห้วงอวกาศโดยไม่จำเป็นต้องอาศัยเฮโมโกลบินในการขับเคลื่อนแต่ก็อยู่ได้ไม่นานนัก

    กระทั่งช่วงสงครามโลกครั้งที่3 เป็นการปะทะระหว่างมนุษย์และจักรกลการต่อสู้ใช้เวลากว่า5ปี กระทั่งสหรัฐจ้าวโลกที่ต้องรับมือกับปัญหาหุ่นพิฆาตได้สร้างมหาบุรุษขึ้นมา ชายผู้นี้คือผู้ยืนอยู่เหนือมวลมนุษย์ทั้งหมดเป็นผู้ชี้นำทางมนุษย์ไปสู่มหาสมุทรแห่งดารา

    สมเด็จพระบิดาเจ้าจักรพรรดิมหาราช นั้นคือชื่อของเขาไร้ซึ่งนามแต่ผลงานอันโด่งดังของเขาคือการทำลายล้างกองทัพหุ่นยนต์ทั้งหมดให้ราบ ทำให้ประธานาธิปดีโลกในขณะนั้นได้มอบตำแหน่ง ประมุขแห่งสหพันธ์ดาราให้กับองค์จักรพรรดิ

    มหาอำนาจเพียงหนึ่งเดียวของโลกถือกำเนิดขึ้น พร้อมสันติภาพของโลกมีคำกล่าวที่ว่า ‘หากเรามีศัตรูตนเดียวกันเราจะเป็นพวกพ้องกัน’ นั่นคือสาเหตุที่แท้จริงที่มนุษย์ยอมรับองค์จักรพรรดิที่กำจัดศัตรูเพียงหนึ่งเดียวของมนุษยชาติ เพราะงั้นหลังสิ้นสุดยุคที่สองมนุษย์ก็เดินทางสู่ยุคแห่งดารา

    มรรตัยศักราชเริ่มต้น !!

    ในดาวเนปจูน ดาวที่แต่เดิมเคยถูกประกอบด้วยไฮโดรเจน และฮีเลี่ยมเป็นหลัก บัดนี้กลายเป็นเพียงมหาสมุทรอันกว้างขว้างสุดลูกหูลูกตาซึ่งผุ้กระทำคือชายผู้หนึ่ง ผู้ปราถนาจะให้ที่นี่เป็นที่พักพิงส่วนตัว

    ในระหว่างที่บุรุษผู้นั้นกำลังพำนักในคฤหาสถ์เดินสมุทรของตน เสียงของบางสิ่งที่ลอยลงมาจากฟากฟ้าได้ดังสนั่นลั่นไปทั่วย่านฟ้าเรียกให้ชายผู้เป็นเจ้าคฤหาสถ์เดินออกมาจากเรือนของตน

    “ใครบังอาจมายุ่งย่ามในถิ่นของข้าไม่รู้ไงว่าองค์รัชทายาทกำลังพำนักอยู่” ชายหนุ่มเรือนผมสีทองส่วนสูง185เซนเดินออกมาจากคฟหาสถ์พร้อมมองไปยังผู้เป็นผุ้กระทำ

    “โทษที โทษทีพี่ชายเห้อ~ สุรานี้ช่างยอดเยี่ยมเหลือเกินข้าอดไม่ได้จริงๆที่จะดื่มมัน” ชายผมสีขาวร่างสูงกว่า4เมตรเดินขึ้นมาบนคฤหาสถ์แม้ทะเลแห่งนี้จะเย็นยํ่าถึง -200องศากลับไม่แม้แต่จะสร้างนํ้าแข็งแก่ร่างของชายผู้นี้

    “หึ! นึกว่าใครที่แท้ก็เบวูล์ฟนี่เอง อย่าได้ก้าวมาอีกนิดไม่งั้นศีรษะของเจ้าได้หลุดจากบ่าแน่” ชายหนุ่มกล่าวอย่างหยิ่งยโสขณะใช้แขนอุดจมูกของตน

    “แม้พี่ชายท่านได้อย่าถือโกรธข้ามาวันนี้เพื่อมอบสุราให้ท่านเชียวนะไม่อยากลิ้มลองมันหน่อยหรือ” เบวูล์ฟกล่าวถามชายหนุ่มพร้อมยิ้มเหล้าหมักของตนออกมากลิ่นฉุนโชยออกมาจนชายหนุ่มต้องมีสีหน้าน่าเกลียด

    “เจ้าบ้าออกไปนะข้าไม่เคยได้กลิ่นสุราที่ห่วยแตกอะไรขนาดนี้มาก่อน! เบวูล์ฟถ้าจะกินเหล้าก็ออกไปไกลๆ!!” กิลกาเมชกล่าวพร้อมเกิดมิติสีทองยิงบางอย่างออกมาจนร่างของเบวูล์ฟกระเด้นไปไกล หลายกิโลเมตร

    “บ้าเอ้ยสุราของข้าอุตส่าหมักตั้งสามปีท่านพี่ทำแบบนี้ได้ยังไง!” เบวูล์ฟกล่าวอย่างเจ็บใจขณะที่อีกฟากกิลกาเมชที่เห็นว่าไล่ตัวปัญหาออกไปแล้วจึงเดินกลับเข้ามาตอนนั้นเองที่บาทาคู่เล็กๆลอย มาประทับ ใบหน้ากิลกาเมช

    กิลกาเมชลุกขึ้นมาเดี๋ยวนี้” หญิงสาวคนหนึ่งสูง154เรือนผมสีบลอนด์ดวงตาสีเขียวร่างกายสมส่วนแม้จะะดุมีกล้ามเนื้อทำให้ดุเป็นผู้หญิงน้อยลงแต่ก็ไม่ได้ลดความงดงามของเธอแม้แต่น้อย กิลกาเมชที่ถูกเรียกขานชื่อจึงโผล่หัวขึ้นมาจากนํ้า

    อาเธอร์เจ้า?” ในตอนที่เขาพูดไม่ทันจบหญิงสาว(?)ดวงตาสีเขียวอ่อนจะว่าหล่อก็หล่อจะว่างดงามก็งดงามช่างสมกับตัวตนที่ถูกรังสรรค์อย่างประณีต “โทษทีนะนางรู้ที่ซ่อนที่เจ้าเอาคนไปซ่อนแล้วล่ะ” เอนคิดูกล่าวออกมาด้วยท่าทีสบายๆ ก่อนที่กิลกาเมซจะถอนหายใจแล้วโดนตื้บไปอีกหน

    “แหม่ๆ วันนี้น้องๆ ของข้าเองก็ยังครึกครื้นกันเช่นเดิมเลยนะฮ่าๆ” เบวูล์ฟทำการกระดกเหล่าอีกถังอย่างอิ่มเอมตอนนั้นเองที่อาดัม ได้ติดต่อเข้ามาเบวูล์ฟจึงกดรับสายทันที “ว่าไงวันนี้มีข่าวอะไรน่าสนใจไหมอดัม” เบวูล์ฟพูดก่อนที่เสียงของชายหนุ่มที่พูดด้วยเสียงราวกับมนุษย์ดังขึ้นมา

    “สวัสดีครับนายท่าน” อดัมพูดขึ้น “ตอนนี้กองยานสำรวจแห่งมนุษยชาติกำลังเดินออกจากโฮมแล้วท่านสนใจจะไปดูไหมครับ?” เบวูล์ฟซัดเหล้าจนหมดถังไปแล้วห้าถังขณะที่ลอยอยู่กลางนํ้า “ฮา! ยังไงก็ช่างเถอะตอนนี้ฉันอยากได้เหล้ามากกว่าไปหาเหล้าอีกซิอดัม” เบวูล์ฟพูดขึ้นก่อนที่จะใช้พลังเวทของตัวเองกระโดลอยขึ้นสูงทะลุชั้นบรรยากาศของดาวเนปจูนอย่างง่ายดาย

    ณ อีกสถานที่หนึ่ง

    ชายคนหนึ่งได้ตัวสั่นเทาด้วยความหวาดกลัวตอนนั้นเองที่ชายคนหนึ่งมีหน้าตาที่ถูกปิดบังด้วยผมสีขาวเงิน จะเข้ามาตบไหล่อีกฝ่ายให้กลับมามีสติต่อสถานการณ์ตรงหน้า “เฮี้ยกๆ แกน่ะกำลังกลัวสินะ” เสียงหัวเราะที่พลันได้ยินก็สร้างความประหลาดใจให้อย่างมากกับผู้คนที่ได้ยิน 

    “นั่นน่ะเหรอเบล มาสเตอร์ ออฟ ซิลเวอร์ ไลบรารี่ชายที่มีส่วนรวมในการสรรสร้างองค์จักรพรรดิ” ชายคนหนึ่งที่มีร่างกายกำยำพูดขึ้นนี่คือปฏิบัติการเมเทโอปฏิบัติการดึงทรัพยากรจากดาวเคราะห์น้อยที่กำลังพุ่งชนดาวเสาร์ ณ ตอนนี้ “เอาล่ะทุกคนในฐานะที่ฉันคือรองหัวหน้าของปฏิบัติการนี่จะขอให้ทุกคนเตรียมล่ะนะเจ้าพวกหนูน้อยเพราะครั้งนี่ไม่ใช่การซ้อม” เบลพูดจบจึงโยนไมโครโฟนทิ้ง

    “ดูมันทำ” ชายคนหนึ่งมองเหตุการณ์นี่อย่างเอื้อมระอา เขาคือหัวหน้าภารกิจครั้งนี้แต่ถึงจะเจ็บใจยังไงตอนนี้เขาก็ทำอะไรไม้ได้ อยู่ดีเพราะตอนนี้เบลนั้รถือว่ามีอำนาจมากที่สุด ณ ที่นี่ถึงเขาจะสั่งอะไรไปถ้าอีกฝ่ายไม่ต้องการทำก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากยอมรับ เพราะว่าตำแหน่งหัวหน้าของเขานั้นได้มาเพราะการที่มีสมองมากที่สุดและเป็นคนเสนอแผนนี่ไป

    ตอนนั้นเองที่เบลเดินไปสัมผัสกับ มณีบางอย่างก่อนที่จะมันจะส่องประกายเจิดจ้าออกมาพลังงานที่เกิดจากเวทเริ่มหมุนเวียนอย่างรุนแรงตอนนั้นเองที่ 'แลนเดอร์พาธ' ปรากฏขึ้นตรงหน้าโดยคนที่เดินนำไปก็คือเบลก่อนที่หน่วยต่างจะตามเข้าไปภารกิจนี่ใช้ทหารแค่หนึ่งร้อยคนเท่านั้นแต่เบลเข้ามาเพราะเขาอยากมาหาของไปใช้สำหรับการทดลอง

    “หวังหว่าลูกสาวฉันจะได้ออกโรงนะ” เบลกล่าวพร้อมหัวเราะอย่างสะใจเหมือนคนจิตไม่ปกติขณะที่รอบๆ เป็นพื้นสุญญากาศแต่ร่างกายที่ไม่เหมือนมนุษย์ของเขาทนได้สบายๆ

    จบ

    กำลังคิดว่าตัวเองน่าจะดูเฟทมากไปนะช่วงที่เขียนเรื่องนี่แรกๆ เนี่ย

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×