คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : มองเห็นตัวตนที่ซ่อนอยู่
******พอฉันกับจิ่งหยูวออกจากโรงแรมได้ ฉันก้อจะเรียกรถแท็กซี่
แต่เขาซิกลับอยากนั่งรถเมล์ อะไรจะเสี่ยงขนาดนั้น เขาคงคิดว่าไม่น่าจะมีใครจำเขาได้มั้ง
ใช่เรานั่งรถเมล์กันจริง ๆ ฉันเนี่ยเสี่ยววาบกลัวคนจะจำเขาได้
แต่ก้อไม่ยักจะมีใครสนใจแฮะ ใครจะไปคิดว่าดาราดังจะมานั่งรถเมล์ไปเที่ยวแถวสยาม
คิดแล้วก้ออดขำไม่ได้ รถเมล์จอดป้ายหน้าสยามฉันจึงเดินนำเขาลงจากรถ
“ผมอยากดูหนัง” จิ่งหยูวพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มเรียบ
เขาพูดโดยไม่มองหน้าฉันด้วยซ้ำ
“หาาาา..คุณจะดูหนัง คุณจะดูหนังเรื่องอะไร” เขาชี้นิ้วไปทางแผ่นป้ายโฆษณาการ์ตูนอนิเมชั่นเรื่องหนึ่ง
ฉันจ้องหน้าจิ่งหยูวทำหน้าตกใจอยากดูหนังการ์ตูนเนี่ยนะ
ยังไม่ทันที่ฉันจะพูดอะไรเขาก้อจูงมือฉันเข้าโรงหนังไปหยุดยืนหน้าเคาน์เตอร์เพื่อซื้อตั๋ว
“ซื้อตัวสองใบครับ”
เขาพูดกับพนักงานขายตั๋ว ที่กำลังมองหน้าเขาเหมือนจะนึกว่าเคยเห็นหน้าเขาที่ไหน พอพนักงานยื่นตั๋วให้ฉันรีบจ่ายเงินและรีบดึงมือเขาเข้าโรงหนังก่อนที่พนักงานคนนั้นจะจำเขาได้
“เฮ้ออออ...”
ฉันถอนหายใจโล่งอกเมื่อเข้ามานั่งในโรงหนังแล้ว
ฉันเหล่หางตามองเขาแต่เจ้าตัวกลับทำไม่รู้ไม่ชี้นั่งดูหนังด้วยความตั้งอกตั้งใจเหมือนคนไม่เคยได้ดูหนัง
ฉันแอบเห็นรอยยิ้มของเขาที่กำลังดูอย่างสนุกกับหนังเรื่องนั้น
ฉันแอบมองรอยยิ้มที่เผยให้เห็นเขี้ยวที่มุมปากทั้งสองข้างอยู่พักใหญ่ ตอนนี้เขาไม่เหมือนเมื่อตอนเช้าเลย
เขาเปลี่ยนจากผู้ชายเข้มขรึม
กลายเป็นผู้ชายธรรมดาๆที่กำลังนั่งดูหนังการ์ตูนไปแอบอมยิ้มไป เรานั่งดูหนังกันจนจบ
แต่คนที่มาด้วยก้อยังไม่หยุดแค่นั้น
“ผมจะไปทานข้าว” ฉันก้มมองนาฬิกานี่มันก้อจะสี่ทุ่มแล้ว
จึงค่อยหันกลับไปดุคนข้าง ๆ
“คุณ
นี่มันจะสี่ทุ่มแล้วนะ ฉันพาคุณมานี่ก้อเสี่ยงมากพออยู่แล้ว
แทนที่คุณจะกลับแต่จะไปกินข้าวต่อเนี่ยนะ”
แต่อีกฝ่ายดูเหมือนจะไม่ฟังคำพูดของฉันกลับเดินหนีฉัน
จนฉันต้องรีบเดินตามเขาไป จิ่งหยูวเดินเข้าไปในร้านอาหารไทยแห่งหนึ่งที่อยู่ในห้างสยามพารากอน
ที่สำคัญร้านนี้คนเยอะมาก เยอะจนทำให้ฉันออกอาการหวาดระแวงกลัวคนในร้านจะจำเขาได้
ผิดกับจิ่งหยูวที่เดินนิ่งๆ เข้าไปในร้าน พนักงานเชิญเราไปนั่งที่โต๊ะ
เขาสั่งอาหารไทยสามสี่อย่าง เรานั่งกินอาหารกันอยู่พักใหญ่
บรรยากาศภายในร้านมีแสงสลัวของโคมไฟที่ประดับประดาอยู่ในร้าน เพลงคลาสสิกที่เปิดเบา
ๆ ทำให้ฉันหายกังวลใจไปบ้าง
ก้อยังดีที่เขาเลือกร้านแบบนี้เพราะส่วนใหญ่มีแต่คนต่างชาติ
จะมีคนไทยก้อแค่ส่วนน้อย
เมื่อทานอาหารเสร็จฉันก้อเตรียมเปิดกระเป๋าที่จะหยิบเงินจ่ายให้กับพนักงาน
แต่เขากลับควักบัตรเครดิตจากกระเป๋ายื่นให้พนักงานเสียก่อน
“ผมจ่ายเอง”
“ฉันจ่ายเองแระกัน
ฉันเอาบิลไปเบิกกับบริษัทได้” แต่ฉันยังคงยืนยันที่จะจ่ายเงินเอง
จนพนักงานไม่รู้จะรับเงินจากใคร
“ไม่ต้อง เงินแค่นี้ผมจ่ายได้
ถือซะว่าผมเลี้ยงคุณที่พาผมมา” พูดจบเขาก้อยื่นบัตรเครดิตให้พนักงาน เมื่อพนักงานคิดเงินเรียบร้อยเราจึงเดินออกจากร้าน
โดยมีเขาเดินนำหน้าฉันออกไป ส่วนฉันนะเหรอก้อต้องเดินตามเขาไปอย่างนั้น เขาเดินเล่นไปเรื่อย
ๆจนหมาหยุดนั่งเล่นที่เก้าอี้ที่จัดเตรียมไว้สำหรับให้นั่งพัก บรรยากาศที่สยามในวันนี้ถูกประดับด้วยไฟส่องกระพริบดวงเล็กๆมากมาย
ไม่ว่าจะเป็นตามต้นไม้ และตามตึกอาคาร
เพื่อเป็นการต้อนรับ วันคริสมาสต์ที่จะมาถึงในอีกไม่กี่วัน
“จะกลับกันหรือยังคุณนี่มันก้อเกือบเที่ยงคืนแล้วนะ”
ฉันมองไปรอบ ๆ ตอนนี้ไม่เหลือใครแล้วผิดกับตอนหัวค่ำ และห้างก้อปิดแล้วด้วย
แต่ดีนะที่เรามานั่งข้างนอกห้าง ไม่งั้นคงโดนยามไล่ตะเพิดออกมาแน่ ๆ
จิ่งหยูวไม่พูดอะไร พอฉันเห็นเขายืนขึ้น
จึงรีบคว้าแขนเขาไว้ก่อนที่เขาจะเดินไปไหนอีก ฉันเรียกรถแท็กซี่ให้ไปส่งที่โรงแรม เมื่อถึงโรงแรมฉันพาเขาเดินอ้อมขึ้นทางประตูหลังของโรงแรมที่เดิมที่เราออกมา
แล้วพาเขาส่งเข้าห้องพัก แต่เขากลับเดินเข้าห้องไปเฉยๆ
ปิดประตูใส่หน้าฉันเหมือนฉันไม่มีตัวตนซะงั้น จะขอบคุณสักคำก้อไม่มี
นี่ฉันอุตส่าห์เสี่ยงพาเขาไปเที่ยวมานะ
แต่ในใจก้อรู้สึกโล่งอกที่พาเขากลับมาโรงแรมอย่างปลอดภัยและไม่มีใครจับได้
ความคิดเห็น