คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : เสียสละ
CHAPTER 5
เสียสละ
สายลมเบาๆพัดผ่านตัวของฉัน
ฉันที่นอนอยู่กับพื้นได้ลืมตาขึ้น ฉันมองไปรอบตัวเองขณะที่กำลังนอนอยู่ บรรยากาศบริเวณนี้นั้นเป็นบรรยากาศแบบช่วงพลบค่ำ
แสงตะวันสีทองสาดส่องไปทุกบริเวณกระทบกับพื้นดินที่มีหญ้าสีเขียวปกคลุมเต็มไปหมด
ต้นหญ้าปลิวไสวตามลม ตัวฉันที่นอนอยู่ลุกขึ้นนั่ง ฉันมองไปยังอเล็ก ขณะที่กำลังจะเอื้อมมือไปแตะตัวเขาเพื่อที่จะปลุกแต่เขากลับตื่นขึ้นซะก่อน
"สายันสวัสดิ์ อลิช"
เขาพูดออกมาพร้อมขยี้ตา
"ไงพวกนายหลับสบายดีไหม?"
เสียงของลูลัชดังขึ้นมาจากข้างหลังของฉัน
ฉันหันไปมองลูลัชไลท์กับดาร์คเดินมาตามหลัง
"รอแป็บเดี๋ยวไปรับคนที่เหลือก่อนน่ะ"
จากนั้นเขาก็หายไป
จากนั้นไม่กี่วินาทีต่อมาเขาก็กลับมาพร้อมกับไมค์ ฮาร์ปเปอร์และไวโอเล็ท
"โอเคเรามากันครบแล้วซิน่ะ"
อเล็กที่นั่งอยู่ยืนขึ้นจากนั้นเขาก็พูดต่อ
"เราเหลือกันแค่ 8 คน ฉันก็ไม่อยากให้มีใครตายเพิ่ม
โปรดระวังตัวกันให้ดีๆล่ะ เอาล่ะพวกเราตามฉันมา"
จากนั้นเขาก็วิ่งออกไปวิ่งไปทางที่ดวงอาทิตย์
เอ่อ...ฉันไม่รู้ว่าดวงอาทิตย์ตอนนี้นั้นมันจะลับขอบฟ้าหรือว่าพึ่งแต่จะขึ้นมากันแน่
"ไงอลิช"
"ไงไวโอเล็ท เธอไม่เป็นไรน่ะ"
"ไม่ฉันไม่เป็นไรหรอก
เธอก็ดูสบายดีน่ะ"
ไวโอเล็ทเดินเข้ามาทักทายฉัน
"เฮ้!
เดี๋ยวก็ถูกทิ้งหรอก"
เสียงของไมค์ดังขึ้น
ตอนนี้เขาวิ่งนำหน้าฉันไปก่อนแล้ว
"งั้นเราก็ไปกันเถอะ"
ไวโอเล็ทพูด จากนั้นพวกเราสองคนก็เริ่มวิ่งตามพวกเขาไป
พวกเราวิ่งมากันไกลมากแล้ววิ่งติดต่อกันมาหลายชั่วโมงแต่เรากลับไม่เหนื่อย
ฉันเดาว่ามันคงจะเป็นเพราะ
รังสีในร่างกายของพวกเราแปลเปลี่ยนเป็นพลังงานเหมือนกับพลังของพวกเรา
ทำให้แรงไม่มีวันหมด 'มันก็คงจะเป็นอย่างงั้นและ' ฉันคิด
"ทุกคนหยุดก่อน!"
เสียงตะโกนของอเล็กดังขึ้น ทุกคนหยุดวิ่งในทันที
"มีอะไรเหรอ?!"
ลูลัชถามขึ้นทันใด ฉันที่วิ่งตามหลังมาพร้อมกับไวโอเล็ทหยุดตามที่เขาบอก
"อะไรกันเนี่ย..."
ไมค์ส่งเสียงอุทานขึ้นตอนนี้เขากำลังก้มหน้ามองอะไรอยู่
ฉันมองไปฉันก็เห็นเพียงพื้นราบเรียบฉันจึงเดินไปดู
"นี่มัน..."
ด้านหน้าฉันตอนนี้มันเป็นหลุมลึกลงไป
ในหลุดนั้นถูกบดบังด้วยเงาจนมืดมิดมองไม่เห็นก้นหลุม
หลุมมันกว้างมากๆกว้างจนสุดลูกหูลูกตามองไม่เห็นขอบอีกด้าน
"นี่เราต้องไปทางนี้จริงๆเหรอ?"
ไลท์ถามขึ้น
"ก็คงงั้น
เพราะยังไงก็เทเลพอร์ตไปกันไม่หมดอยู่ดีเพราะลูลัชเหลือพลังในการเทเลพอร์ตได้แค่ครั้งเดียว
หรือจะให้ใช้การควบคุมแรงโน้มถ่วงของไมค์ทำให้เราลอยไปก็คงไม่ได้อีกเพราะไม่รู้ว่าหลุมนี้กว้างขนาดไหนจะให้ล่องลอยไปเรื่อยๆเขาก็คงตายพอดี
มีทางเดียวคือให้เขาส่งเราลงข้างล่างแล้วเราวิ่งไปจนไปเจอกับปากหลุมอีกทางหนึ่งแล้วค่อยขึ้นไป"
"แต่ว่าข้างล่างนั้นเราไม่รู้ว่ามีอะไรบ้างน่ะเราควรรอให้พลังของลูลัชฟื้นตัว"
ดาร์คสาวผอมเพรียวพูดขัดอเล็กขึ้น
"ที่จริงฉันก็อยากจะทำแบบนั้นน่ะ
แต่ว่าป่านนี้พวกโอกัสคงจัดเตรียมทหารออกล่าเราแล้วมั่งเธอจะรอไหม?
อ่ะๆๆ
แต่ถ้าหากเธอคิดจะสู้กับพวกนั้นล่ะก็ฉันเดาว่าคงจะเป็นไปไม่ได้แน่ๆ
ถึงแม้เราจะมีพลังเหนือกว่าแต่ด้านจำนวนคงเทียบไม่ได้ "
'น้ำน้อยย่อมแพ้ไฟ'
นั้นคือสิ่งที่ฉันคิด ที่จริงอเล็กนั้นพูดถูกเกินครึ่งแต่แผนเขาก็มีความเสี่ยงสูงเพราะเราไม่รู้ว่าจะเจอกับอะไรข้างล่างนั้น
"อ๋อไม่ต้องห่วงน่ะ
ถ้าข้างล่างนั้นมีตัวอะไรฉันจะควบคุมมันเองถึงฉันอาจจะโดนฆ่าตายก่อนที่จะได้ทำอะไรล่ะก็
พวกเราก็ยังมีเหล่าผู้วีรบุรุษอยู่น่ะ ไหนจะฮาร์ปเปอร์ไหนจะไลท์ไหนจะดาร์คไหนจะไวโอเล็ท
ฉันว่าข้างล่างหน้าจะง่ายกว่าน่ะ เราสู้ข้างล่างที่ไม่มีสมองดีกว่าสู้กับพวกมีสมองน่ะ"
ตอนนี้พวกเราลงมาถึงพื้นข้างล่างโดยปลอดภัยเพราะพลังของไมค์
มันง่ายมาก เพียงแค่เราเดินไปยืนในบริเวณที่ไม่มีดิน
ซึ่งนั้นก็คือเรายืนอยู่บนอากาศจากนั้นเราทุกคนก็ค่อยๆลงมายังพื้นข้างล่าง 'พลังแบบนี้ใช้ประโยชน์ได้ดีเลยน่ะเนี่ย'
"ฉันจะจุดไฟให้
เราเจอแสงแดดแล้วฉันคิดว่าดวงตาของเราคงไม่เหมือนเดิม"
'ก็จริงแฮะ'
ตอนอยู่ดินแดนสุดท้ายฉันยังสามารถมองเห็นตอนกลางคืนได้อยู่เลยแต่พอเจอแสงสว่างแม้จะไม่สว่างมากก็ทำให้ตาปรับสภาพไปแล้ว
"ไม่เราจะวิ่งไปทั้งอย่างงี้และถ้าเราจุดไฟแล้วพวกไอ้โอกัสมันนั่งยานตามหาเรามันจะเห็นแสงไฟทันทีและด้วยความลึกระดับนี้สัญญาณจากดาวเทียมคงมาไม่ถึงแน่ๆ"
ฉันที่ยืนอยู่ข้างล่างมองขึ้นไปข้างบน 'มองไม่ค่อยเห็นขอบดินเลยนี้ สงสัยจะลึกมากๆแน่ๆ' ฉันยืนคิดพลางมองไปด้านบน
"พวกเราเริ่มวิ่งเลย"
ลูลัชบอกทุกคน พวกเราวิ่งมาจนถึงช่วงกลางๆหลุม
พวกเราที่วิ่งผ่านมาเมื่อก่อนหน้านี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย ฉันคิดว่าพวกเราโชคดี
แต่แล้วทุกสิ่งที่เราคิดก็เปลี่ยนไป
"ทุกคนหยุดก่อน!ห้ามใครขยับน่ะ ไวโอเล็ทจุดไฟเดี๋ยวนี้เลย"
อเล็กเป็นคนพูดอีกครั้ง
น้ำเสียงของเขาจริงจังมากๆ
"มีบางอย่างขยับอยู่ทางขวามือของเรา"
ไมค์ที่ยืนอยู่ฝั่งขวาจ้องเข้าไปในความมืด
"ไวโอเล็ทเร็วเข้า!"
อเล็กย้ำเสียงหนักแน่น
"รู้แล้วน่า!"
ไวโอเล็ทตอบมาด้วยเสียงเชิงประชด
จากนั้นเธอก็เหยียดแขนสองข้างออกไปข้างลำตัว เธอก้มหน้าเล็กน้อย
มือของเธอกำหมัดแน่น จากนั้นเธอก็เงยหน้าพร้อมกับแบมือสองข้างออก
"พรึบ!"
ไฟลุกท่วมตัวของเธอ ไฟเริ่มจากมือที่แบมือออกจากนั้นก็ลุกลามไปทั้งร่างกายของเธอ
"นั่นมันตัวอะไรกันว่ะเนี่ย?"
ฮาร์ปเปอร์ส่งเสียงออกมา ฉันหันไปดู ฉันเห็นตัวประหลาดมันไม่มีรูปร่างจะมีชีวิต
ร่างกายของพวกมันมีลักษณะคล้ายมนุษย์ทุกประการทั้งแขนขา รูปร่าง
แต่ที่แตกต่างคือพวกมันตัวสูวกว่ามนุษย์มาก พวกมันสูงประมาณ 3 เมตร แขนยาว ยาวกว่าความสูงทั้งตัวของมันอีก
ที่มือของมันนิ้วแต่ล่ะนิ้วมีเล็บที่เป็นกระดูก ดูแล้วคงถูกออกแบบมาเพื่อฉีก
หัวของมันนั้นไม่มีผม ตาลึกกลวงโบ๋ดำสนิท
พวกมันไม่มีจมูกแต่กลับมีรูที่ใบหน้าเป็นรูปหัวใจกลับหัวมาอยู่ในตำแหน่งของจมูก
ปากพวกมันมีฟันที่แหลมสุดๆยื่นออกมาจนทำให้มันหุบปากได้ไม่สนิท ผิวหนังของมันถ้าฉันเดาไม่ผิด
มันมีลักษณะคล้ายหินเป็นตุ่มๆเต็มไปหมดคล้ายๆกับของคางคก
"จะตัวอะไรก็ช่างมันอัดมันเลย! ไมค์จัดการที"
ฮาร์ปเปอร์ชายผู้มีร่างกายแข็งแรงที่สุด
พุ่งทะยานออกไป จากนั้นไมค์ก็นั่งลงในท่าชันเข่าขวาขึ้นเข่าซ้ายเอาติดพื้นจากนั้น
เขาก็เขามือขวาของเขาต่อยลงพื้นตรงหน้าเขา
"แก๊ซซซซซ!!!"
เสียงแหลมสูงมากจนฉันต้องเอามือปิดหูไว้ดังขึ้นในทันทีที่หมัดของไมค์ถึงพื้น
ตัวประหลาดตัวนั้นคุกเข่าในทันทีแขนของมันแนบลำตัว ฮาร์ปเปอร์ที่วิ่งไปก่อนหน้านี้วิ่งไปถึงตัวประหลาดตัวนั้นพอดีกับที่มันคุกเข่าลง
เขาเอามือไปจับที่หน้าของเจ้าตัวนั้น ฟันที่ยืนออกมาของมันหักหมดจากนั้น
"ย้า!!!"
ฮาร์ปเปอร์ดันหน้าของมันไปข้างหลังกดหัวมันลงกับพื้นอย่างแรงและรวดเร็วมาก
แรงพอที่จะทำให้พื้นที่เป็นหินแข็งแตกกระจายออกและหัวของมันก็แตกกระจายเหมือนลูกแตงโมใหญ่ๆหล่นลนสู่พื้น
ฮาร์ปเปอร์ที่ดันหัวเจ้าตัวนั้นจนเละ หันกลับมาพร้อมกับพูดว่า
"ไม่เห็นจะมีอะไรเล-"
เขาที่ยังพูดไม่จบเสียงของเขาก็หยุดชะงักทันที
"ฮาร์ปเปอร์!!!"
ไลท์ตะโกนออกมา ตอนนี้ฮาร์ปเปอร์ถูกมือขวาของตัวประหลาดมือแทงจากข้างหลังทะลุมายังหน้าอก
เลือดจากตัวของเขาพุ่งออกมาพร้อมมือของตัวประหลาดที่ออกมา อเล็กยังยืนนิ่ง ลูลัชที่ยืนนิ่งแต่ดูเหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่าง
ไลท์ที่กำลังจะวิ่งออกไปเพื่อช่วยเขา ดาร์คที่ทำอะไรไม่ถูก
ไวโอเล็ทที่กำลังจะวิ่งไปพร้อมกับไลท์ส่วนไมค์นั้น ยังนั่งคุกเข่าอยู่ที่เดิม
แต่พวกเรานั้นช้าเกินไป เจ้าตัวประหลาดนั้นเอามือซ้ายแทงทะลุออกมาอีกข้างหนึ่งมันแทงเข้ามาในสภาพหลังมือของมันชนกันอยู่ร่างของฮาร์ปเปอร์สั่นไปหมด
"ห้ามมองน่ะ!"
อเล็กตะโกนแต่มันก็สายเกินไปซะแล้ว
มันแหวกมือที่แทงเข้าไปในร่างของฮาร์ปเปอร์เหมือนแหวกน้ำเวลาว่ายน้ำท่ากบ
เลือดสาดกระจายเหมือนลูกโป่งที่ใส่น้ำไว้หล่นจากที่สูงลงสู่พื้น
ตัวของฮาร์ปเปอร์ขาดออกจากกันร่างกายถูกแบ่งเป็นสองซีก
เครื่องในทะลักกองมากองอยู่กับพื้น ทุกคนหยุดนิ่งรวมทั้งฉันด้วย จากนั้นมันก็หยิบร่างของฮาร์ปเปอร์ขึ้นมาซีกหนึ่ง
"ทำไมมันยังไม่ตายล่ะ
ขนาดตอนนี้มันยังไม่มีหัวเลยนี่"
ไลท์ที่ได้สติกลับมาเป็นคนแรกพูดด้วยเสียงสั่นเครือ
ใช่ตอนนี้มันไม่มีหัวแต่มันกลับฉีกร่างของฮาร์ปเปอร์ได้แบบง่ายๆจากนั้นหินรอบตัวของมันก็เริ่มลอยขึ้นจากพื้นแล้วก็กลับไปรวมตัวกันอยู่ที่หัวของมัน
"มันเป็นอมตะหรือไง?!"
ไวโอเล็ทพูดขึ้นใช่หินทั้งหมดที่ลอยขึ้นไปก่อนหน้านี้ไปรวมกันจากนั้นก็ค่อยๆกลายเป็นหัวของเจ้าตัวประหลาดตัวนี้
ตอนนี้มันได้หัวของมันกลับมาแล้วและมือของมันที่ถือร่างของฮาร์ปเปอร์อยู่นั้นก็ถูกยกขึ้นไปเหมือนในลักษณะที่มนุษย์กำลังจะกัดน่องไก่
'กัดคำโตแล้วก็กระชากเนื้อออก'
แต่เปลี่ยนจากน่องไก่เป็นศพมนุษย์ที่มีเพียงครึ่งตัว
ไม่ใช่ครึ่งตัวในลักษณะท่อนบนและล่างแต่เป็นลักษณะซ้ายกับขวา
มันกัดเข้าที่ลำคอของเขาแล้วก็กระชากเหมือนเวลาคนกินเนื้อแล้วดึงออกเพราะเนื้อชิ้นใหญ่เกินไป
หัวของฮาร์ปเปอร์ถูกมันเคี้ยวเหมือนลูกอมอยู่ในปากของมัน
ทุกคนช็อกกับเหตุการณ์ที่อยู่ข้างหน้าแต่มีคนหนึ่งที่ใจแข็งพอ
ไลท์วิ่งไปแบบเงียบๆแต่รวดเร็วตัวประหลาดตัวนั้นกำลังจดจ่ออยู่กับการกิน
ไลท์ที่วิ่งเข้าไปได้ระยะห่างพอดีก็กระโดดลอยขึ้น ไลท์หวดหมัดใส่เข้าไปเต็มหน้าอกของมันมันปล่อยร่างของฮาร์ปเปอร์จากนั้นมันก็กระเด็นหายไปก่อนที่จะได้ร้อง
"ปึ้ง!!!"
เสียงเหมือนมีของหนักๆกระแทกเข้ากับพนังอย่างแรง
"ฮาร์ปเปอร์ฉันขอโทษ
ฉันช่วยนายไม่ทันจริงๆ"
เธอยืนมองร่างของฮาร์ปเปอร์ที่ยังลืมตาค้างอยู่
"เฮ้!
ฉันว่าเราควรไปจากที่นี่ดีกว่าน่ะ"
ฉันเสนอความเห็นออกไปตอนนี้ฉันทำสีหน้าเรียบเฉยถึงแม้ในใจจะกลัวสุดขีดก็เถอะ
"ไวโอเล็ทเธอช่วยเช็ครอบนี้ให้ทีซิ
ด้วยการระเบิดพลังไฟของเธอน่ะ"
ไวโอเล็ทพยักหน้า จากนั้นเธอก็ยืนนิ่งไม่ขยับ
เธอเหมือนกำลังรวบรวมสมาธิอยู่
"พรึบ!"
แขนของเธอเหยียดออกไฟจากตัวของเธอระเบิดออกลักษณะคล้ายถังแก๊สระเบิด
ไฟที่ระเบิดออกนั้นมีแสงสว่างมากพอที่จะมองเห็นรอบๆตัวพวกเรา ฉันหันไปมองไมค์
ตอนนี้ดูเหมือนเขาน่าจะใช้พลังของเขาจนถึงขีดจำกัดแล้ว 'สมองเขาคงจะทำงานหนักน่าดู' ฉันคิด เพราะมีเลือดไหลออกมาจากหูแล้วแถมเขายังหายใจถี่มากๆ
"ที่จริงฉันคิดว่ามันไม่น่าจะมีเยอะน่ะ
แต่ว่าโชคก็ไม่เข้าข้างเราเลยเน้อะอเล็ก"
ไลท์พูด ฉันละสายตาจะไมค์และหันไปมองรอบตัวแทน
"ใช่...แต่ฉันว่าโชคไม่เคยมีอยู่จริง
เพราะฉันไม่เคยโชคดีเลยซักครั้ง"
อเล็กพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย
ตอนนี้รอบตัวของฉันมีตัวประหลาดแบบเมื่อกี้อยู่เต็มไปหมด
พวกมันกำลังวิ่งมาทางนี้ด้วยความบ้าคลั่งและท่าทางไฟของไวโอเล็ทนั้นจะทำอะไรมันไม่ได้เลย
เพราะผิวหนังมันเป็นหิน
พลังของอเล็กเองก็ทำอะไรไม่ได้เหมือนกันเพราะพวกมันไม่มีสมองให้ควบคุม
ส่วนคนที่สามารถใช้พลังจัดการกับพวกมันได้ก็คือไลท์และดาร์คแต่ไลท์ถึงจะมีพลังที่สามารถจัดการมันได้ชั่วขณะก็เถอะแต่จะให้ผู้หญิงคนเดียวปกป้องทุกคนก็เป็นไปไม่ได้ส่วนจะให้ดาร์คเทเลพอร์ตพวกมันไปให้หมดเธอก็คงได้ตายพอดีส่วนลูลัชนั่นเหลือพลังเทเลพอร์ตแค่ครั้งเดียวจะให้เทเลพอร์ตพวกเราไป... 'อ่ะ!ใช่แล้ว แต่ก็ต้องมีคนอยู่ที่นี่คนๆนั้นก็คือ...'
"นี่ทุกคน ฉันมีแผนแล้ว ..."
"แผนอะไรของเธออลิช"
อเล็กตอบกลับมา
"แผนที่จะทำให้เราไปถึงดินแดนแห่งแสงสว่างไง"
"ไหนเป็นยังไงรีบว่ามาเลย ฉันจะฟัง"
อเล็กพูดพร้อมกับมองมาหาฉันแต่ไม่ใช่แค่เขาทุกคนก็มองมามองฉันด้วย
"ตอนนี้พวกเรากำลังจนมุมในทุกๆด้านตัวประหลาดล้อมรอบ
มีคนตามล่าเรา เพื่อนเราเจ็บ
ใช่แล้วพวกเราต้องทิ้งเขาไว้และเอาพวกที่เหลือไปทำภารกิจให้เสร็จต่อไป"
น่าแปลกที่ไม่มีใครขัดฉันเลยเมื่อฉันพูดถึงการทิ้งคนไว้
ฉันพูดต่อหลังจากที่หยุดมองหน้าทุกๆคน
"เราจะให้ลูลัชเทเลพอร์ตพวกเราไป
นั้นก็คือ อเล็ก ลูลัช แล้วก็ดาร์ค แถมไปอีกคนนั้นก็คือไลท์
ส่วนฉันและไมค์จะอยู่ที่นี่เอง อ้อไม่ต้องห่วงฉันไม่ตายหรอก ฉันเป็นอมตะ อ้อ!ฉันพึ่งนึกได้ให้ดาร์คเทเลพอร์ตเขาไปที่ไหนซักทีแล้วค่อยให้ลูลัชไปรับอีกที"
ทุกคนยังเงียบและก้มหน้าต่ำลง ใช่แล้วทุกอย่างมันต้องจบและลงเอยที่ฉันที่ทิ้งทุกคนไปตั้งแต่เริ่มแรกฉันเอาแต่หนีมาโดยทิ้งพวกเขาไว้ข้างหลังและคราวนี้และฉันจะทิ้งตัวเองไว้และให้พวกเขาหนีไป
"ก็เป็นแผนที่เข้าท่าดี"
อเล็กตอบกลับมา
"พวกนายจะยืนคุยกันอีกนานไหม
มันจะมาถึงแล้วน่ะ ไวโอเล็ทก็จะไม่ไหวแล้วน่ะ"
ดาร์คตะโกนบอก
"ลูลัชทำตามแผน"
อเล็กบอกทุกๆคน ลูลัชเดินเข้ามาหาฉันแล้วก็กอดฉันครั้งหนึ่งก่อนที่เขาก็พูดขึ้นว่า
"ฉันขอโทษอลิช อย่าโกรธอเล็กเลยน่ะหมอนั่นต้องทำ"
"ไม่ฉันไม่โกรธหรอกก็มันเป็นแผนของฉั-"
ฉันที่พูดยังไม่ทันขาดคำก็ถูกลูลัชพลักตัวฉันล้มไปข้างหลัง
อเล็กวิ่งมารับไว้ ทุกๆคนหันมายิ้มให้ฉัน มันเป็นรอยยิ้มที่มีความเศร้าปนอยู่
"ไม่ต้องห่วงพวกเราจะรอดกลับไป...เอาเลยไมค์!"
ลูลัชตะคอกออกมาก
ไมค์ใช้พลังแรงโน้มถ่วงอีกครั้งแต่คราวนี้เขาไม่ได้ใช้เพียงแค่พื้นที่เล็กๆที่เดียวเหมือนครั้งแรกที่ใช้ตรึงเจ้าตัวประหลาดตัวนั้นไว้
แต่ครั้งนี้เขาใช้เป็นบริเวณกว้างรอบๆพวกเรา
เพราะตอนนี้ตัวประหลาดทุกตัวคุกเข่าลงกับพื้นหมด
"ไว้เจอกันทั้งสองคน..."
ลูลัชหันหน้ามาพูดกับฉันก่อนที่ดวงตาของเขาจะจ้องมาทางฉันและอเล็ก
ฉันรู้สึกเหมือนกำลังถูกดึงไปข้างหลัง ภาพด้านหน้าค่อยๆเลือนรางแต่ยังพอมองเห็น
พวกตัวประหลาดนับสิบทะยานเข้ามาหาที่ๆพวกเรายืนอยู่
ลูลัชที่จ้องเขม็งมาทางฉันเมื่อกี้ มีเหลือพุ่งออกมาจากปากและจมูกไม่นานหลังจากที่เลือดไหลเขาก็ล้มลง
"ไม่!!!!"
ฉันตะโกนออกไปทันทีที่เห็นภาพนั้น จากนั้นภาพทุกอย่างก็กลายเป็นทะเลทราย
ร่างของฉันตกลงมาบนพื้นทรายพร้อมกับอเล็ก...
"ร้อน! ร้อน! ร้อน!"
อเล็กตะโกน มันร้อนมากอเล็กและฉันดิ้นทุรนทุกราย
เหมือนปลาที่ถูกย่างทั้งเป็น พวกเราไม่มีเวลาที่จะมองรอบๆตัวเองและส่งเสียงทรมาณด้วยซ้ำ ร่างกายของพวกเราค่อยสลายเหมือนน้ำแข็งล่ะลาย 'งานนี้คงจบเห่แน่ๆเลยถึงฉันจะเป็นอมตะแต่ว่าอเล็กก็คงตายแน่ๆถึงอย่างงั้นฉันก็คงไม่ฟื้นอยู่ดีล่ะมั้ง
เพราะดวงอาทิตย์มันไม่เคยมีวันลับขอบฟ้านี้...'
สติฉันก็ขาดหายไป
ความคิดเห็น