ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [BTS] "Noodle Project รักนี้ต้องลวก" เล็กหมูน้ำตก | KOOKV FT.BTS

    ลำดับตอนที่ #7 : เล็กหมูน้ำตก : ชามที่หก 1OO%

    • อัปเดตล่าสุด 18 ส.ค. 58



         Chapter 6



                ครืด... ครืด...

     

     

    “ฮัลโหล ว่าไง”

     

    [ลูกพี่!!!!!! โทรไปตั้งหลายครั้ง ทำไมเพิ่งรับสาย] ปลายสายตะโกนใส่ทันทีที่โฮซอกรับโทรศัพท์

     

    “ก่อนหน้านี้พี่ขับรถอยู่ เพิ่งถึงมหาลัยเนี่ย มีอะไร”

     

    [พี่ยุนกิไลน์มาบอกว่ามีรถยนต์คันหรูไปรับพี่วีที่บ้าน มันต้องเป็นแฟนเก่าพี่วีแน่นอน แล้วไหนลูกพี่รับปากแล้วไงว่าจะไปรับพี่วีอ่ะ ทำไมปล่อยให้ไอ้ปากห้อยนั้นมาพาตัวแฟนจอนไปอ่ะลูกพี่!!!] จองกุกพูดรัว

     

     

    พี่ยุนกิเห็นรถยนต์คันหรูไปรับแทแท? เดี๋ยวนะ... ผมว่าไอ้จอนมันต้องเข้าใจอะไรผิดสักอย่างแล้วล่ะ

     

     

                “จอนใจเย็นเว้ย มันอาจจะไม่ได้เป็นอย่างที่มึงคิดก็ได้”

     

                [ลูกพี่ไม่รู้หรอกว่าไอ้ปากห้อยมันร้ายกาจขนาดไหน มันเคยใช้กำลังขู่บังคับพี่วี จอนเห็นมากับตา!! แล้วนี่แฟนจอนจะเป็นไงบ้างก็ไม่รู้ จอนผิดหวังในตัวลูกพี่มากเลยอ่ะ บ่องตง อุตส่าห์ไว้ใจให้ดูแลพี่วี] ร่างสูงยังคงพูดต่อไม่หยุดด้วยความกระวนกระวายใจ

     

     

                มันชักจะไปกันใหญ่แล้วครับ น้องผมนี่มันกระต่ายตื่นตูมจริงๆ มาถึงขนาดนี้แล้วขอแกล้งไอ่จอนมันสักหน่อยดีกว่า

     

     

                “เห้ย จริงดิว้ะไอ้จอน ออกไปกับสองต่อสองแบบนั้น ไอ้แฟนเก่ามันอาจจะบังคับจิตใจ ล่วงเกินแทแทก็ได้นะเว้ย!!!

     

     

    โฮซอกพูดด้วยน้ำเสียงตกใจจนร่างบางที่ฟังอยู่ถึงกับหันไปมองเพื่อนที่เดินมาด้วยกัน

     

     

                นี่เพื่อนผมเขาคุยอะไรกับจอน แล้วมันเกี่ยวอะไรกับผม ได้ยินแว่วๆ บังคับจิตใจอะไรสักอย่าง นี่เขาสองคนนินทาอะไรผมรึเปล่าเนี่ย

     

     

                “โฮ..”

     

     

    ยังไม่ทันที่ร่างบางจะได้เรียกชื่อก็ถูกมือของอีกคนมาปิดปากห้ามไว้ก่อน

     

     

                “ชู่ว... ”

     

     

    นิ้วยาวของโฮซอกแตะไปที่หน้าจอเพื่อเปิดสปีกเกอร์โฟนให้คนน่ารักที่เดินมาด้วยกันฟังได้ถนัด

     

     

                [เห้ย!!! ไม่นะ พี่วีของจอน!! ทำไงดีลูกพี่!! จะโดดเรียนก็ไม่ได้ จะไปหาพี่วีก็ไม่รู้จะไปที่ไหนอีก ไอ้ปากห้อยมันพาพี่วีไปไหนเนี่ย จอนเครียด จอนจะบ้าตายแล้วลูกพี่!!!!] ปลายสายยังคงโวยวายไม่หยุด

     

     

                “นั่นสิ ป่านนี้จะไปถึงไหนต่อไหนกันแล้วว้ะไอ่จอน พี่จะช่วยมึงยังไงดี แทแทยิ่งน่ารักขนาดนั้น ใครอยู่ใกล้ต้องอดใจไม่ไหวแน่เลยมึง!!!

     

                [ถึงไหนต่อไหน?!! เห้ยยยยย!!!! พี่วีของจอน อุตส่าห์หักห้ามใจมาตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกัน แฟนจอนอ่ะ จอนล่วงเกินได้คนเดียว คนอื่นห้ามทำอะไรพี่วีเด็ดขาด จอนโดดเรียนออกไปตามหาพี่วีตอนนี้เลยดีไหมลูกพี่?!] จองกุกพูดรัวโดยไม่รู้ตัวเลยว่าแฟนของเขากำลังฟังอยู่เช่นกัน

     

                “จอนจองกุก!!!!!!!!!!” ร่างบางตะโกนใส่โทรศัพท์ในมือของโฮซอก

     

                [เห้ย!! นี่จอนคิดถึงพี่วีจนจิตหลอน ได้ยินเสียงลูกพี่เป็นเสียงพี่วีแล้วอ่ะ]

     

                “นี่เวลาเรียนไม่ใช่รึไงจอน นายมาคุยโทรศัพท์ได้ยังไงน่ะ!?” แทฮยองถามต่อ

     

                “จริงด้วยแทแท ตอนนี้เป็นเวลาที่เด็กนักเรียนควรจะเข้าเรียนนะ ทำไมจอนถึงโทรมาหาฉันได้” โฮซอกช่วยเสริม

     

                [อ้าวเห้ย! นี่ลูกพี่อยู่กับแฟนจอนได้ไงอ่ะ? จอนงงไปหมดแล้ว ไหนพี่ยุนกิบอกว่ามีรถยนต์คันหรูมารับพี่วี]

     

                “รถยนต์คันหรูที่ไปรับแทแทที่บ้าน ก็เป็นรถคันเดียวกับที่กูเคยขับไปหามึงไงไอ่จอน ทีนี้เข้าใจรึยัง?”

     

                “พี่ยังปลอดภัย ไม่ได้โดนล่วงเกินอะไรทั้งนั้นแหละ ว่าแต่นายเถอะ นี่ไม่เข้าเรียนหรอ? จำได้ใช่ไหมว่าถ้าผิดสัญญาจะเป็นยังไง?” ร่างบางถามปลายสาย

     

                [เอ่อ จอนออกมาห้องน้ำจ้ะพี่วีจ๋า อย่าดุนะจ้ะคนน่ารักของจอน จอนไม่เคยคิดจะโดดเรียนเลยจริงๆ นะจ้ะ] จองกุกพูดเสียงอ่อน

     

                “เย็นนี้เรามีเรื่องต้องคุยกันนะจอน ตอนนี้นายกลับเข้าห้องไปตั้งใจเรียนได้แล้ว อย่าให้พี่ต้องดุนายนะ”

     

                [รับทราบจ้ะที่รัก ถ้าอย่างนั้นจอนไปตั้งใจเรียนเพื่ออนาคตของเราก่อนนะ คิดถึงพี่วีมากที่สุดเลยนะจ้ะ เลิกเรียนเจอกันนะพี่วีจ๋า] ปลายสายพูดเสียงหวานก่อนจะกดตัดสาย

     

                “ถ้าอย่างนั้นเราก็ไปเข้าเรียนกันเถอะจ้ะแทแท” โฮซอกพูดเสียงหวานเลียนแบบคนที่เพิ่งวางสายไป

     

                “เดี๋ยวเถอะ!! อย่ามาแซวฉันนะโฮซอก” ร่างบางทำหน้าดุอีกคน

     

                “ก็มันอดไม่ได้อ่ะแทแทจ๋า55555555555555555555555555

     

                “นี่!! ฉันบอกว่าห้ามแซวไง หยุดขำเดี๋ยวนี้!!!

     

                “แทแทอย่าดุสิจ้ะ55555555555555555555555555555555” โฮซอกหัวเราะลั่นที่เห็นอาการเขินของคนน่ารัก

     

                “อะแฮ่ม คุยอะไรกันคะน้องวี น่าสนุกเชียว ขอพี่คุยด้วยคนสิ”

     

     

    เสียงหล่อพูดแทรกขึ้นมาพร้อมกับรุ่นพี่ที่เขาสองคนคุ้นหน้าเป็นอย่างดี

     

     

                “สวัสดีครับพี่มาร์ค สวัสดีครับพี่แจ็คสัน”

     

     

    ร่างบางพูดก่อนจะโค้งหัวเล็กน้อยให้รุ่นพี่ทั้งสองคนที่เดินเข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้าเขา แต่โฮซอกกลับยืนเฉยไม่ได้แสดงท่าทีเคารพหรือเอ่ยทักแต่อย่างใด

     

     

                “สงสัยวันนี้จะซวยทั้งวัน” โฮซอกพึมพำกับตัวเองเบาๆ

     

                “อะไรซวยๆ มิทราบครับ” มาร์คหันไปถามน้องรหัสของตัวเอง

     

                “เปล่า ผมบอกว่าสวยต่างหาก ร้องเท้าพี่สวยดีนะครับ” โฮซอกพูดพลางก้มมองรองเท้าคนตรงหน้า

     

                “ตาถึงเหมือนกันนี่ รองเท้าคู่ใหม่เลยเว้ย เพิ่งถอยมาสดๆ ร้อนๆ”

     

                “จากตลาดโรงเกลือ” แจ็คสันพูดต่อให้

     

                “ถูกต้อง ต่อราคาตั้งนานจากสองพันเหลือห้าร้อยหกสิบบาท ถุ้ย!! มึงช่วยให้เกียรติ adidas superstar ของกูด้วยครับเพื่อนแจ็ค”

     

                “ฮ่าๆๆ พวกพี่นี่เล่นตลกกันแต่เช้าเลยนะครับ” แทฮยองหัวเราะก่อนจะยิ้มกว้างให้รุ่นพี่ทั้งสอง

     

                “นอกจากพี่หล่อ พี่ก็ยังตลกด้วยนะคะน้องวี เปลี่ยนใจจากแฟนเด็กแว๊นซ์แล้วมาคบหาดูใจกับพี่ได้นะคะ” มือหนาของมาร์คยื่นไปจับมือของแทฮยองแล้วเอามาแนบแก้ม

     

               

                ผั่วะ!!!!!!!!!

     

     

                “โอ้ย!!! ไอ้เชรี้ยแจ็ค มึงตบหัวกูทำไม?!!!!!

     

     

    รุ่นพี่หน้าหล่อร้องลั่นก่อนจะปล่อยมือเรียวของแทฮยองแล้วเปลี่ยนมากุมหัวตัวเองด้วยความเจ็บปวดจากแรงกระแทกจากฝ่ามือของเพื่อนตัวเอง

     

     

                “อย่าแต๊ะอั๋งน้องรหัสกูครับเพื่อนมาร์ค” แจ็คสันตอบ

     

                “กูแค่เอ็นดูน้องวีเองมึง ล้อเล่นนิดๆ หน่อยๆ ตามประสาพี่น้องเนี่ย”

     

                “มึงคิดว่ากูจะเชื่อมึงรึไงครับเพื่อนมาร์ค คนอย่างมึงอ้าปากก็เห็นถึงไส้ติ่งแล้ว จะจีบใครก็ได้แต่ยกเว้นน้องรหัสกูไว้เถอะ ถือว่ากูขอล่ะ” แจ็คสันพูดด้วยสีหน้าและน้ำเสียงจริงจัง

     

                “เป็นห่าอะไรของมึงเนี่ย แทนที่จะสนับสนุน นี่กูเพื่อนมึงนะเว้ย”

     

                “ก็เพราะมึงเป็นเพื่อนกูไง กูเลยอยากจะขอให้มึงอย่ายุ่งกับน้องแทฮยอง เอ็นดูได้แต่อย่าแต๊ะอั๋ง น้องแทฮยองเขามีแฟนแล้วมึงควรตัดใจ”

     

                “อะไรที่ได้มายากๆ นี่แหละคู่ควรกับคนอย่างกูครับเพื่อน  หึ”มาร์คเถียงกลับก่อนแสยะยิ้มมุมปาก

     

     

                “แทแท เราเข้าเรียนกันเถอะ”

     

     

    โฮซอกกระซิบที่ข้างหูของเพื่อนตัวเอง ก่อนจะใช้โอกาสที่รุ่นพี่ทั้งสองคนเถียงกันอยู่ ดึงตัวร่างบางออกมาแล้วจูงมือวิ่งหนีออกมาจากตรงนั้น  ไม่นานนักทั้งสองก็มาถึงยังหน้าห้องเรียนในตึกคณะบริหาร

     

     

                “แฮ่กๆ.. เราหนีมาแบบนี้จะดีหรอโฮซอก”

     

     

    แทฮยองพูดพลางเหนื่อยหอบ เหงื่อเม็ดเล็กไหลลงที่ข้างแก้มเนียนที่ตอนนี้เปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อ เพราะอากาศร้อนบวกกับชุดนิสิตแขนยาว แถมร่างบางยังเพิ่งวิ่งมาทำให้อุณหภูมิในร่างกายตอนนี้สูงขึ้น

     

     

                “เอ่อ อื้ม ดีสิ ดีมากเลยล่ะแทแท”

     

     

                ใบหน้าที่ดูหอบเล็กน้อย แก้มแดงระเรื่อ กับเหงื่อเล็กน้อยที่ปอยผมนั่น เพื่อนผมน่ารักเซ็กซี่ดีมากจริงๆ ครับ ให้ตายเถอะ แทแทช่วยเห็นใจคนเคยแอบชอบหน่อยได้ไหมล่ะเนี่ย นี่จงใจยั่วกันรึไง

     

     

                “รุ่นพี่เขาจะไม่ว่าเราใช่ไหมอ่ะ ฉันกลัวโดนเรียกไปทำโทษทีหลังอ่ะโฮซอก”

     

                “มีฉันอยู่ไม่ต้องกลัวนะแทแท ฉันจะไม่ปล่อยให้ใครมาแกล้งหรือทำอะไรแทแทหรอกนะ” โฮซอกเอื้อมมือไปยีผมคนน่ารักตรงหน้าเบาๆ

     

     

                 “ทำอะไรกันนะ!!!

     

     

    ร่างอวบตะโกนลั่นพร้อมกับกระโดดตัวเข้ามาแทรกระหว่างกลางแทฮยองและโฮซอก

     

    มึงนี่มันมาได้เวลาเสมอเลยนะไอ้หมู เห็นหน้าจิมินแล้วเหมือนมีเครื่องช่วยเตือนสติผมให้หยุดคิดไม่ซื่อกับแทแททันทีเลยครับ

     

     

    “เปล่า ก็คุยกันรอมึงมาเนี่ยแหละ”

     

    “จิมินทำไมมาช้าจัง” แทฮยองถามเพื่อนร่างอวบที่เพิ่งมา

     

    “ฉันเจอพี่ดาซมที่หน้ามหาลัยพอดีน่ะ พี่เขาบอกรายละเอียดเรื่องงานประกวดดาวและเดือนของคณะ เลยคุยกันนิดหน่อย”

     

    “อ๋อ อย่างนี้นี่เอง แล้วพี่เขาว่าไงบ้างอ่ะ” ร่างบางถามต่อ

     

    “พี่เขาบอกว่าคนที่ลงประกวดทุกคนจะต้องเตรียมการแสดงความสามารถพิเศษของตัวเองคนละหนึ่งอย่างด้วยอ่ะ”

     

    “ความสามารถพิเศษ ทำไงดีอ่ะ ฉันไม่มีความสามารถพิเศษอะไรเลย”

     

    “น่ารักไงแทแท! ความสามารถพิเศษของแทแทคือน่ารักถึงขนาดทำให้ใครที่อยู่ใกล้ต้องตกอยู่ในภวังค์” จิมินบอกคนน่ารักที่กำลังกังวล

     

    “จะบ้าหรอจิมิน แบบนั้นมันใช่ความสามารถพิเศษที่ไหนกัน จะให้ฉันไปยืนยิ้มแบบนี้บนเวทีอย่างเดียวรึไง” พูดจบร่างบางก็ยิ้มกวางจนปากเป็นรูปหัวใจให้เพื่อนทั้งสอง

     

    “น่ารักกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!”  จิมินอุทานออกมาทันทีที่เห็นยิ้มหวานของร่างบาง

     

    “น่ารักที่สุดเลยจ้ะแทแทจ๋า” โฮซอกเลียนเสียงจองกุก

     

    “นี่ ฉันบอกให้หยุดแซวฉันไง จองโฮซอก!!

     

    “ฉันแกล้งนิดหน่อยเอง อย่าดุสิแทแท”

     

    “ไอ้หน้าม้ามันอิจฉาไอ้จอนน่ะแทแทที่ความรักของน้องมันสมหวัง ไม่เหมือนมันที่แอบชอบเขามาหกปีแต่ไม่ได้อะไรเลย5555555555555555555555555555” จิมินพูดก่อนจะหัวเราะลั่น

     

    “มึงก็ไม่ต่างจากกูเท่าไหร่นะไอ้หมู” โฮซอกโต้ตอบ

     

    “กูจีบน้องยองแจแบบสโลวไลฟ์เว้ย ค่อยเป็นค่อยไป”

     

    “เหรอครับเพื่อน สโลวมากระวังหมาคาบไปแดกนะ แล้วหมูอย่างมึงจะอดแดก”

     

     

    ไม่อยากจะคุย ผมอ่ะได้แดกมาแล้วครับ แต่เป็นข้าวผัดฝีมือพี่ยุนกินะ

     

     

    “ไอ้หน้าม้า!! มึงก็เหมือนกันแหละ หกปีได้แต่เขี่ยถั่วงอก” จิมินเถียงสู้

     

    “พี่ยุนกิเขาอยากให้กูสุขภาพดี เลยให้กูกินผักเว้ย พี่เขาเป็นห่วงกูต่างหาก” โฮซอกพูดพลางเอามือกอดอกด้วยความมั่นใจ

     

    “ไอ่หน้าม้ามึง มึงตื่นครับเพื่อน อย่ามโน555555555555555555555555

     

    “พวกนายสองคนหยุดกัดแล้วเข้าเรียนเถอะ”

     

     

     

    ร่างบางมองจิมินและโฮซอกเถียงกันไปมาจนทนไม่ไหวที่จะต้องห้าม มือเรียวลากเพื่อนอีกสองคนอยู่เข้าห้องเรียนไปทันทีเพื่อสงบศึกครั้งนี้

      

     

    .

    .

    .

    .

    .

     

     

                เด็กชายในชุดนักเรียนมัธยมปลายยืนพิงรถมอเตอร์ไซค์สีแดงเบาะปาดคู่ใจ  พร้อมกับกวาดสายตาของเขาก็มองไปยังรอบข้างที่เต็มไปด้วยเหล่าวัยรุ่นทั้งหญิงและชายในชุดนิสิตเพื่อมองหาคนน่ารักซึ่งเป็นแฟนของเขา

     

     

                “มาทำอะไรแถวนี้หรอคะน้องชาย”

     

     

    หญิงสาวผิวขาวปากแดงหุ่นดีระดับนางแบบในชุดนิสิตเสื้อรัดรูปจนเน้นให้เห็นหน้าอกใหญ่กับกระโปรงทรงเอความยาวสองคืบเอ่ยทักเด็กผู้ชายร่างสูงที่เหมือนจะกำลังมองหาใครสักคนอยู่

                

                โอ้โห แม่เจ้าโว้ยยยยย! ขาว สวย หมวย เซ็กซี่! แต่จอนสงสัยเหลือเกินว่าพี่สาวเขาหายใจออกหรอครับ ใส่เสื้อรัดจนกระดุมจะปริขนาดนี้ หรือพี่เขาจะเป็นโรคปอดบวม

     

     

                “น้องคะ ได้ยินที่พี่พูดรึเปล่าคะ?”

     

                “เอ่อ ได้ยินจ้ะ จอนมารอรับแฟนน่ะจ้ะ”

     

                “มีแฟนแล้วหรอคะ ยังเด็กอยู่เลย เสียดายจัง....”



              หญิงสาวมีสีหน้าผิดหวังเล็กน้อยหลังจากได้ยินคำตอบจากปากอีกคน

     


                “ไม่เด็กแล้วนะพี่สาว ปีหน้าจอนก็จะเข้ามหาวิทยาลัยแล้วจ้ะ”

     

                “แล้วคิดไว้รึยังคะหนุ่มน้อย ว่าจะเรียนต่อที่ไหน?”

     

                “จอนจะเข้ามหาลัยเดียวกับแฟนจอน ที่นี่แหละจ้ะพี่สาว” ร่างสูงตอบกลับด้วยรอยยิ้ม

     

                “ดีจัง ถ้าน้องเข้ามหาลัย เราก็มีโอกาสได้เจอกันอีกนะคะ ว่าแต่สนใจจะเข้าคณะไหนเอ่ย?” หญิงสาวถามต่อ

     

                “อืม ก็คิดไว้ว่าวิศวะ หรือไม่ก็ศิลปกรรมจ้ะ”

     

     

                พี่วีเคยแนะนำไว้สองคณะนี้ อะไรที่พี่วีบอกว่าดีผมก็ว่าดีทั้งนั้นแหละครับ

     

     

                “จริงหรอคะ พี่เรียนศิลปกรรมนะ ถ้าน้องอยากเข้าคณะนี้พี่ติวให้ได้นะคะ”

     

                “เอ่อ ไม่เป็นไรจ้ะ จอนเกรงใจ”

     

                “ไม่ต้องเกรงใจหรอกค่ะ หล่อๆ แบบเราพี่ไม่คิดเงิน ยินดีสอนให้ฟรีเลยนะคะ”

     

     

    หญิงสาวพูดพลางขยับตัวเข้าไปใกล้ก่อนจะยื่นมือไปลูบต้นแขนแกร่งของร่างสูงที่กำลังพิงรถอยู่ จึงทำให้เขาไม่สามารถถอยหนีได้  ระหว่างนั้นเองแทฮยองก็เดินออกมาพร้อมกับโฮซอก ทันทีที่ดวงตาคู่สวยหันไปเห็นเด็กม.ปลายที่ได้ชื่อว่าเป็นแฟนของเขากำลังยืนคุยกับผู้หญิงคนอื่นในระยะประชิด ร่างบางถึงกับนิ่งไปชั่วขณะ

     


    “แทแท”

     

    “...”

     

    “แทแท เป็นอะไรน่ะ” โฮซอกสะกิดแขนคนน่ารักที่กำลังยืนนิ่งอยู่

     

    “ห้ะ ว่าไงโฮซอก”

     

    “ก็ไม่ว่าไง แทแทเป็นอะไรรึเปล่า ฉันเห็นนิ่งไปเรียกก็ไม่ตอบ”

     

    “อ๋อ เปล่าๆ ไม่มีอะไร วันนี้โฮซอกช่วยไปส่งฉันกลับบ้านหน่อยได้ไหม” ร่างบางเอ่ยถามอีกคน

     

    “อ้าว แล้วไอ้จอนล่ะ” โฮซอกถามกลับด้วยความสงสัย

     

    “ไปส่งฉันหน่อยนะ แต่ถ้าโฮซอกไม่สะดวก ฉันกลับเองได้”

     

     

    แทฮยองพูดจบก็หันหลังเดินหนีเพื่อนของตัวเองทันที เขาอยากรีบออกไปจากตรงนี้เพราะไม่อยากจะเห็นภาพของคนที่บอกว่ารักเขานักหนายืนคุยอยู่กับผู้หญิงคนอื่น

      

    จอนจองกุก ที่แท้นายก็เป็นคนแบบนี้สินะ ทุกอย่างที่นายทำให้พี่มันก็แค่การแสดงสินะ ผมมันโง่จริงๆ ที่หลงเชื่อใจยอมตกลงเป็นแฟนไปกับเจ้าเด็กแว๊นซ์คนนี้

     

     

    “เดี๋ยวสิแทแท รอฉันก่อน จะรีบไปไหนน่ะ” โฮซอกคว้าข้อมือเรียวของคนน่ารักเอาไว้ให้หยุดเดิน

     

    “ปล่อยนะ ฉันจะกลับบ้าน!

     

    “ฉันก็จะไปส่งแทแทไง มานี่สิรถอยู่ทางนี้”



    โฮซอกชี้ไปยังทางที่รถของเขาจอดไว้ซึ่งเป็นทางเดียวกับที่จองกุกยืนอยู่

     


    “ฉันจะเดินกลับ ฉันไม่ไปกับโฮซอกแล้ว ปล่อยฉันนะ!!” ร่างบางกระแทกเสียงใส่ก่อนจะสะบัดมืออีกคนทิ้ง

     

    “แทแท อย่าดื้อสิ ฉันบอกว่าจะไปส่งไง”



    มือหนาคว้าตัวอีกคนไว้ในอ้อมกอดเพื่อไม่ให้เดินหนีไปไหน

     


    “จองโฮซอก ปล่อยฉันนะ นายจะมากอดฉันทำไมเนี่ย ไม่อายคนรึไง” แทฮยองโวยวาย

     

    “แทแทนั่นแหละ ถ้าอายคนก็หยุดเดินหนีฉันแล้วก็หยุดดิ้นสักที  ไม่อย่างนั้นฉันจะทำมากกว่ากอดอีกนะ”

     

    “เออ! หยุดก็ได้ ปล่อยได้ยัง”



    คำขู่ของโฮซอกได้ผล ร่างบางหยุดยืนนิ่งทันทีก่อนจะทำหน้าบึ้งด้วยความไม่พอใจ

     


    “หึงไอ้จอนใช่ไหม?” โฮซอกถามพลางปล่อยตัวอีกคนจากอ้อมกอดของตัวเอง

     

    “พูดอะไร ฉันไม่เข้าใจ” แทฮยองเบือนหน้าหนี

     

    “ก็ที่มันคุยกับผู้หญิงขาวสวยหมวยเซ็กซี่คนนั้นน่ะ หึงใช่ไหม”

     

    “เปล่า”

     

    “โกหกไม่เนียนเลยนะแทแท”

     

                “ฉันไม่ได้โกหก!” คนน่ารักกระแทกเสียงใส่เพื่อนของตัวเอง

     

                “มันอาจจะไม่ใช่อย่างที่เราเห็นก็ได้นะแทแท ไอ้จอนมันรักแทแทมากนะ ฉันเชื่อว่าจนมันไม่คิดนอกใจแทแทหรอก”

     

                “แต่ฉันเชื่อในสิ่งที่ฉันเห็น นายไม่ต้องมาเข้าข้างน้องนายหรอกโฮซอก” ร่างบางเถียงกลับ

     

     

                ผมยอมรับว่าผมโมโหที่เห็นจอนเขาคุยกับผู้หญิงคนอื่น  ผมโกรธที่เขาทำลายความเชื่อใจของผม

     

     

                “สมมติว่าจอนมันเห็นที่เรากอดกันแล้วมันคิดตามที่มันเห็นบ้างล่ะแทแท เราก็ต้องเป็นแบบที่ไอ้จอนมันคิดเหรอ” โฮซอกพยายามอธิบาย

     

                “....”

     

                “ฉันคิดว่าแทแทน่าจะให้โอกาสไอ้จอนมันได้อธิบายก่อน ฉันไม่อยากให้ความรักของแทแทกับน้องฉันมันจบลงเพราะความเข้าใจผิดแค่นี้หรอกนะ”

     

                “อื้อ ก็ได้”

     

     

    ร่างบางพูดก่อนจะเดินตรงไปหาคนที่ได้ชื่อว่าเป็นแฟนของเขา โดยมีโฮซอกเดินตามไปติดๆ

     


                “เอ่อ พี่สาวจ้ะ จอนเกรงใจจริงๆ จ่ะ แฟนจอนเขาก็ติวให้จอนทุกวันอยู่แล้วจ้ะ” จองกุกพยายามปฏิเสธ

     

                “น้องจอนคะ แฟนน้องจอนเรียนคณะอื่นจะมาสู้คนที่เรียนคณะศิลปกรรมได้ยังไงคะ”

     

                “ถึงผมจะเรียนคนละคณะ แต่แฟนผม ผมสอนให้เองได้ครับ พวกเราติวให้กันเองมันเข้าใจกว่าคนอื่นติวให้น่ะครับ”

     

     

    คนน่ารักพูดแทรกทันทีที่เดินมาถึงตรงฟุตบาทที่ร่างสูงจอดรถมอเตอร์ไซค์ไว้ แทฮยองในใบหน้านิ่งกำลังจ้องมองไปยังสองคนตรงหน้า มือเรียวกำมือแน่นเพื่อกลั้นอารมณ์โกรธไว้

     

     

    “พี่วี จอนรอตั้งนานแหนะ ทำไมวันนี้เลิกเรียนช้าจังจ้ะ”

     

     

    ร่างสูงเอ่ยถามแทฮยอง แต่กลับไม่ได้รับคำตอบใดกลับมา ได้มาก็แต่เพียงใบหน้านิ่งจากร่างบาง

     

     

    “แฟน... นี่แฟนน้องจอนเป็นผู้ชาย... หรอคะ” หญิงสาวอ้าปากค้างทันทีที่เห็นร่างบาง

     

    “ใช่ครับ ผมกับจอนเราเป็นแฟนกัน แล้วจอนก็รักผมมากด้วย”

     

     

    แทฮยองตอบกลับก่อนจะฉีกยิ้มให้ด้วยความไม่เต็มใจสักเท่าไหร่นัก ทำให้จองกุกที่เห็นท่าทีที่แปลกไปของแทฮยองถึงกับแปลกใจ

      

    พี่วีเป็นอะไรรึเปล่า ทำไมผมถึงสัมผัสได้ถึงรังสีความโกรธที่ออกมาจากตัวแฟนผมล่ะครับ สงสัยวันนี้จะโดนหลายข้อหาแน่เลยครับ แค่คิดก็อยากจะร้องไห้

     

     

    “พี่วีจ๋า เรากลับบ้านกันเถอะจ้ะ”

     

     

    ร่างสูงขยับตัวหนีออกมาจากหญิงสาวตรงหน้าก่อนจะเดินไปจับมือคนน่ารักที่ยืนอยู่ตรงฟุตบาท

     

     

    “อื้อ กลับบ้านเรากันเถอะจอน” แทฮยองหันไปยิ้มหวานให้คนที่จับมือเขา

     

    “ขี่รถดีๆ ล่ะไอ้จอน พาเพื่อนพี่ส่งให้ถึงบ้านนะมึง” โฮซอกพูดก่อนจะโบกมือบ้ายบาย

     

    “เอ่อ งั้นพี่ขอตัวก่อนนะคะ นึกได้ว่ามีธุระ ไว้เจอกันนะคะน้องจอน”

     

     

    ทันทีที่หญิงสาวปลีกตัวออกไปจนพ้นสายตา ร่างบางก็สะบัดมือออกจากจองกุก ก่อนจะจ้องมองด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความโกรธ

     

     

    “วันนี้นายไม่ต้องไปส่งพี่หรอก กลับบ้านนายไปเถอะ” ร่างบางไล่

     

    “เห้ย ได้ไงอ่ะจ้ะพี่วี แล้วพี่วีจะกลับยังไง” จองกุกถามกลับ

     

    “โฮซอกไง” คนน่ารักตอบกลับพลางหันมองไปยังเพื่อนอีกคน

     

    “เอ่อ แทแท ฉันนึกได้ว่าต้องไปร้านพี่ยุนกิน่ะ ธุระด่วน ไว้เจอกันพรุ่งนี้นะ ไอ้จอนไปส่งเพื่อนพี่ด้วยนะเว้ย บาย” โฮซอกพูดรัวก่อนจะรีบออกปลีกตัวออกมาทันที

     

     

    ขอโทษนะที่ฉันต้องทำแบบนี้ แต่ฉันอยากให้แทแทเคลียกับไอ้จอนให้เข้าใจ

     

     

    “จองโฮซอก!!” ร่างบางตะโกนไล่หลังเพื่อนที่เดินหนีไป



    ทำไมโฮซอกทิ้งผมไว้กลางทาง ตรงฟุตบาทแบบนี้ล่ะครับ มันน่าโมโหเพื่อนคนนี้เสียจริง

     

     

    “พี่วี เรากลับบ้านกันเถอะจ้ะ” จองกุกพูดพลางดึงมือร่างบางมาจับไว้

     

    “พี่จะกลับเอง”

     

    “พี่วีครับอย่าเป็นแบบนี้สิ โกรธอะไรจอนหรอ? บอกจอนหน่อยได้ไหมว่าจอนทำอะไรให้พี่วีไม่พอใจ” ร่างสูงพูดเสียงอ่อน

     

    “เปล่า พี่ไม่ได้เป็นอะไร”

     

    “ถึงจอนจะโง่ แต่จอนก็ฉลาดพอจะรู้ว่าพี่วีโกรธจอนอยู่นะ” ดวงตากลมจ้องหน้าอีกคนนิ่ง

     

    “หึ่ย!!!!!!!! โมโห!!!!!!!!!

     

     

    โคร่ม!!!!!!!!!!!!!!!

     

     

    ร่างบางใช้เรี่ยวแรงทั้งหมดที่มีส่งผ่านจากตีนไปยังรถมอเตอร์ไซค์คู่ใจของจองกุกจนมันล้ม ทำเอาเจ้าของรถถึงกับร้องลั่น

     

     

    “ไอ้จ๊อดลูกพ่อ!!!!!!!!!

     

    “หึ สมน้ำหน้า” แทฮยองเบะปากใส่อีกคนที่กำลังยกรถมอเตอร์ไซค์ขึ้นจากพื้น

     

    “พี่วีถีบรถจอนทำไม โถ่ ไอ้จ๊อดลูกพ่อจอน ฮืออออออ”

     

    “จะกลับบ้านก็สตาร์ทรถสิ หรือนายจะให้พี่ขี่เอง” แทฮยองเปลี่ยนเรื่อง

     

    “เฮ้อ...” จองกุกถอนหายใจก่อนจะขึ้นคร่อมมอเตอร์ไซค์คู่ใจโดยมีร่างบางขึ้นมาซ้อนข้างหลัง

     

     

    ไอ้จอนควรจะทำยังไงดีมีแฟนปากแข็ง ตอนนี้คงต้องพากลับบ้านก่อนแล้วกันครับ เดี๋ยวพี่วีเปลี่ยนใจเดินหนีไปอีก และที่สำคัญเพื่อความปลอดภัยของไอ้จ๊อดลูกผมด้วยครับ



    .

    .

    .

    .

    .

     


                ครืด... ครืด...

     

     

    [คุณหนูครับ คุณแทฮยองออกไปแล้วครับ]

     

                “อื้ม ตามน้องวีไปอย่าให้คลาดสายตา น้องวีไปไหนก็โทรมารายงานฉันด้วยนะ”

     

    [ครับคุณหนู]

     

     

    มือหนากดตัดสายก่อนจะวางโทรศัพท์ไว้บนโต๊ะ แล้วหันไปคุยกับคนตรงหน้าต่อ

     

     

    “ขอโทษนะที่เสียมารยาท”

     

    “ไม่เป็นไรครับพี่จิน ผมไม่ถือ”

     

                “อื้ม สรุปนายตกลงไหม”

     

     

    ซอกจินเอ่ยถามเกี่ยวกับข้อเสนอที่เขาได้ยื่นให้อีกคน

     

     

                “มันก็น่าสนใจดีนะพี่ แต่ผมว่ามันยังไม่ค่อยคุ้มเท่าไหร่”

     

                “นายอยากได้อะไรอีก เงิน?” ร่างสูงถามพลางหยิบสมุดเช็คในลิ้นชักขึ้นมา

     

                “โถ่พี่จิน เงินผมก็มีใช้ไปทั้งชาติแล้วครับ ผมอยากได้อะไรที่เงินมันไม่สามารถซื้อได้น่ะ” อีกคนตอบก่อนจะยิ้มเจ้าเล่ห์

     

                “นายพูดมาตรงๆ เลยไม่ต้องลีลา”

     

                “แลกกับยกตัวน้องวีให้ผมสักคืนสองคืน ผมพอใจเมื่อไหร่จะพาตัวมาให้พี่ แค่นี้ก็พอครับ”

     

                “....” ซอกจินจ้องหน้าอีกคน มือหนากำหมัดแน่นด้วยความโกรธ

     

                “แล้วแต่พี่นะ ผมบอกสิ่งที่ผมอยากได้ไปแล้ว ถ้าพี่จินไม่โอเค ผมก็ไม่ตกลง”

     

                “อืม ได้ นายทำตามที่ฉันบอก จัดการไอ้เด็กแว๊นซ์นั่นแล้วฉันจะให้ในสิ่งที่นายต้องการ” ร่างสูงตกปากรับคำ

     

                “โอเค ทุกอย่างจะเป็นไปตามที่เราคุยกันไว้ ไม่มีอะไรแล้วผมขอตัวกลับก่อนนะครับพี่จิน บาย”

     

     

                ทันทีที่คู่สนทนาเดินออกไป มือหนาหยิบสมาร์โฟนเครื่องหรูมากดหาเบอร์ที่โทรออกเป็นประจำ

     

               

                [สวัสดีครับ คุณหนู]

     

                “ส่งคนไปตามดูมันทุกฝีก้าวให้ฉันหน่อย รู้ใช่มั้ยว่าใคร”

     

                [รู้ครับ ได้ครับคุณหนู ผมจะจัดการให้ครับ] ปลายสายตอบกลับอย่างรู้งาน

     

                “อืม ขอบใจมาก แล้วนี่น้องวีกลับถึงบ้านรึยัง”

     

                [ยังครับ จอนจองกุกพาคุณแทฮยองไปร้านก๋วยเตี๋ยวเรือเจ้าเดิมครับ]

     

                “มันอร่อยมากเหรอร้านนี้เนี่ย นายซื้อกลับมาให้ฉันกินหน่อยนะนัมจุน”

     

                [ได้ครับ คุณหนูจะเอาเส้นอะไรครับ?] นัมจุนถาม

     

                “น้องวีกินอะไร ฉันก็กินอันนั้นแหละ แค่นี้นะฉันจะทำงานต่อ”

     

     

                นิ้วยาวกดตัดสายและวางโทรศัพท์ลงที่เดิมก่อนจะใช้มือเอื้อมไปหยิบกรอบรูปของคนที่เคยเป็นอดีตคนรักของเขามาดู ซอกจินมองไปยังรูปของแทฮยองด้วยสายตาและรอยยิ้มที่อบอุ่น

     

                 น้องวี อีกไม่นานเราจะได้กลับมาอยู่ด้วยกันเหมือนเดิมแล้วนะครับ

     

     

    .

    .

    .

    .

    .

     

     

                ณ ร้านก๋วยเตี๋ยวเรือ

     

     

                “นายพาพี่มาที่นี่ทำไม พี่บอกว่าจะกลับบ้านไง โง่จนฟังภาษาคนไม่เข้าใจหรอจอนจองกุก”

     

                “พามาร้านก๋วยเตี๋ยวเรือ ก็มากินก๋วยเตี๋ยวสิจ้ะพี่วี” ร่างสูงตอบกลับก่อนจะยิ้มกวนให้

     

                “จองจองกุก!!!!!!!!!” แทฮยองตะคอกใส่คนตรงหน้า

     

                “เรียกชื่อแฟนทำไมจ้ะพี่วีจ๋า”

     

                “พี่จะทนนายไม่ไหวแล้วนะ ไอ่เด็กบ้า!!

     

                “ทนไม่ไหวก็บอกมาสิครับ ว่าจอนทำอะไรให้พี่วีโกรธ จอนทำอะไรผิดไป บอกให้จอนหายโง่หน่อยนะพี่วี” จองกุกพูดด้วยน้ำเสียงและสีหน้าจริงจัง

     

                “นายคุยอะไรกับผู้หญิงคนนั้น นายไปจีบเขาใช่ไหมจอน”

     

                “พี่สาวคนสวยหมวยอึ๋มคนที่เรียนมหาลัยเดียวกับพี่วีน่ะเหรอ”

     

                “เออ ชอบนักใช่ไหม ขาว หมวย อึ๋ม สะบึ้มแบบนั่นน่ะ ชอบนักก็ไปเลย จะไปไหนก็ไป”

     

                “อย่าบอกนะว่าที่โกรธเนี่ยเพราะพี่วีหึงจอนกับพี่สาวคนนั้นอ่ะ” จองกุกถามต่อ

     

                “ไม่ได้หึง แต่ไม่ชอบโว้ย”

     

                “5555555555555555555555555555555555” ร่างสูงหัวเราะลั่น

     

                “ขำหาพ่อนายหรอจอน ตลกมากไหม พี่เป็นเพื่อนเล่นนายรึไงไอ่เด็กเวร”



                 แทฮยองจ้องอีกคนนิ่งด้วยใบหน้าบึ้งตึง

     

                 ไอ่เด็กฟันจอบ ไอ่เด็กบ้า ไอ่เด็กเวร ไอ่แว๊นซ์ หึ่ย!! โมโหจนไม่รู้จะหาคำไหนมาด่าเขาแล้วครับ ผมหงุดหงิดจริงๆ นะ

     

     

                “จอนตลกตัวเองอ่ะ ไม่คิดว่าคนอย่างพี่วีจะมาหึงจอนอ่ะ5555555555555” ร่างสูงยังคงหัวเราะต่อ

     

                “ความรู้สึกของพี่มันเป็นเรื่องน่าขำใช่ไหมจอน นายเอาความเชื่อใจที่มีให้ไปทำลาย ต่อไปยังจะให้พี่ไว้ใจนายได้อีกเหรอจอน” ร่างบางพูดด้วยเสียงสั่นเครือ

     

                “พี่วี...”

     

                “ฮึก... ” น้ำใสๆ ค่อยไหลออกจากดวงตาคู่สวย

     

                “พี่วีครับ จอนขอโทษ จอนไม่ขำแล้วนะ พี่วีอย่าร้องนะ”

     

                “ฮึก... ฮือ.... พี่โกรธจนจะเป็นบ้าแต่นายมาหัวเราะพี่เนี่ยนะจอน” แทฮยองพูดพลางสะอื้น

     

                “พี่คนนั้นเขาเข้ามาหาจอนเองนะ จอนพยายามปฏิเสธเขาแล้วนะครับ พี่วีเชื่อใจจอนนะ จอนไม่เคยคิดนอกใจพี่วี ให้จอนไปสาบานที่ไหนก็ได้” จองกุกพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง

     

                “ฮือ.... พี่.. ฮึก.. เกลียดนาย”

     

     

                ผมจะทำยังไงดีครับ เคยพูดไว้ว่าจะไม่ทำให้พี่วีต้องเสียใจ ไม่ทันไรผมก็ทำมันพังซะแล้ว

     

     

                “พี่วี จอนขอโทษ จอนรักพี่วีคนเดียวเหมือนที่จอนบอกพี่วีมาตลอด พี่วีเชื่อใจจอนนะ”

     

                “ฮึก... ฮือ....”

     

     

    มือหนาดึงมือแทฮยองมาจับไว้ ก่อนจะใช้มืออีกข้างเช็ดน้ำตาที่แก้มนิ่ม

     

     

    “ต่อไปจอนจะไม่เข้าใกล้ผู้หญิงคนอื่นในระยะร้อยเมตรเลย แมวหรือหมาตัวเมียจอนก็จะถอยห่าง ไม่เล่นด้วยเลยอ่ะ พี่วีหยุดร้องนะครับ” ร่างสูงปลอบอีกคน

     

    “ไอ้บ้า ฮึก... แมวกับหมามาเกี่ยวอะไรเล่า” คนน่ารักพูดเสียงสะอื้น

     

    “ก็จอนยังหึงเวลาพี่วีเล่นกับแมวตัวผู้เลยอ่ะ”

     

    “นายมันบ้าไง ไอ้เด็กบ้า!” แทฮยองพูดก่อนจะเบะปากใส่คนตรงหน้า

     

    “ด่าได้แบบนี้แสดงว่าหายโกรธจอนแล้วใช่ไหมครับ” จองกุกถามเสียงอ่อน

     


    ไม่ชอบเลยครับเวลาเห็นพี่วีร้องไห้ ยิ่งคนที่เรารักเสียใจเท่าไหร่ เราก็เจ็บปวดมากเท่านั้น ผมอยากดูแลพี่วี ให้พี่เขามีความสุข มีแต่รอยยิ้ม แต่เรื่องแค่นี้ผมกลับทำให้พี่วีต้องร้องไห้ ผมโง่แล้วยังไม่ได้เรื่องจริงๆ อย่างที่คนอื่นเขาพูดกัน

     

     

    “อื้อ” ร่างบางพูดพลางพยักหน้า

     

    “ขอโทษนะครับ ต่อไปจอนจะไม่ทำให้พี่วีร้องไห้อีก ให้โอกาสจอนนะ”

     

     

    จองกุกพูดจบก็ช้อนมือเรียวของคนน่ารักขึ้นมาก่อนจะก้มลงประทับรอยจูบไปอย่างอ่อนโยน จากนั้นเขาเงยหน้ามองอีกคนด้วยแววตาอ้อนวอนและจริงใจ

     

     ตึกตัก... ตึกตัก....

     

     ใจเต้นแรงอีกแล้ว เจ้าเด็กแว๊นซ์นี่ทำให้ผมโกรธ และเขินได้ในเวลาเดียวกันเลย ไอ่เด็กบ้า! นายมันร้ายกาจ จอนจองกุก

     

     

    “อื้อ ปล่อยมือพี่ได้แล้ว นายไม่อายคนรึไง ลืมไปรึเปล่าว่าเราอยู่ในร้านก๋วยเตี๋ยวนะ”

     

    “อ้าว แล้วที่พี่วีร้องไห้นี่ไม่อายหรอจ้ะ5555555555555555555555” จองกุกพูดแซว

     

    “ไม่กงไม่กินมันแล้ว บอกป้าให้ทำใส่ถุงกลับบ้านเลยนะ คนมองทั้งร้านแล้วเนี่ย” ร่างบางสั่งก่อนจะก้มหน้าซ่อมแก้มสีแดงระเรื่อ

     

    “ได้จ้ะ แฟนว่าไงจอนว่าตามนั้นจ้ะ เดี๋ยวบอกให้ป้าเปลี่ยนเป็นทำใส่ถุงให้นะจ้ะพี่วีจ๋า” ร่างสูงตอบรับก่อนจะลุกขึ้นไปบอกป้าคนขายก๋วยเตี๋ยว

     


     ครืด.... ครืด....

     

     

    “ฮัลโหลว่าไงลูกพี่”

     

    [ไอ้จอน มึงอยู่ไหน ส่งแทแทถึงบ้านรึยัง แล้วดีกันรึยังว้ะ] ปลายสายถามรัว

     

    “อยู่ร้านก๋วยเตี๋ยวเรืออ่ะลูกพี่ เคลียกันแล้วจ้ะ เราสองคนรักกันดีไม่มีอุปสรรคใดมาทำลายได้หรอกจ้ะ55555555555555555555

     

    [ไอ่ห่า ทำอวดไป นี้ถ้าไม่ได้พี่ช่วยพูดให้แทแทเดินกลับไปหา มึงก็คงยืนโง่อยู่ที่หน้ามหาลัยนั่นแหละไอ้จอน]

     

    “ขอบคุณลูกพี่อย่างสุดหัวใจเลยจ้ะ ช่วยจอนแล้วก็ช่วยให้ตลอดรอดฝั่งนะลูกพี่”

     

    [เออ คนหนึ่งก็เพื่อน คนหนึ่งก็น้อง กูช่วยได้อยู่แล้ว ไอ้จอนกูฝากซื้อก๋วยเตี๋ยวเรือหน่อยดิ]

     

    “ได้จ้ะ ลูกพี่เอาเส้นอะไรจ้ะ”

     

    [มึงกินอะไรอ่ะ?] โฮซอกถามกลับ

     

    “เล็กหมูน้ำตกจ้ะลูกพี่” ร่างสูงตอบปลายสาย

     

    [เออ เอาแบบมึงนั่นแหละ]

     

    “ไม่ได้! เล็กหมูน้ำตกจอนกินกับพี่วีได้เท่านั้นจ้ะ555555555555555

     

    [ไอ้น้องเวร งั้นพี่เอาเส้นใหญ่หมูน้ำตกไม่ใส่ถั่วงอกนะเว้ย]

     

    “ได้จ้ะ”

     

    [ซื้อมาสองถุงนะเว้ย ของไอ้หมูพี่มึงด้วย เอามาให้พี่ที่ร้านพี่ยุนกินะ รีบมานะมึง]

     

    “รับทราบจ้ะลูกพี่”

     

     

    มือหนากดวางสายก่อนจะสอดไอโฟนลงในกระเป๋ากางเกงนักเรียนตามเดิม

     

     

    “ป้าจ้ะ มีเส้นหมี่เหลืองรึเปล่าจ้ะ” ร่างสูงเอ่ยถาม

     

    “มีจ้าพ่อหนุ่ม มีทุกเส้นเลย หมี่เหลืองก็มี”

     

    “อ๋อ หมี่เหลืองก็มีเหรอจ้ะ งั้นเอาเส้นใหญ่หมูน้ำตกสอง ใส่ถุงกลับบ้านนะจ้ะป้า”

     

    “กวนตีนน่ะเรา ดีนะวันนี้ป้าถูกหวยเลยไม่โกรธ ไม่อย่างนั้นทัพพีได้ลอยไปกระแทกปากแล้วไอ่หนุ่มเอ้ย”

     

    “หยอกเล่นนะจ้ะป้า จอนไปนั่งรอที่โต๊ะก่อน ทำเสร็จแล้วเรียกนะจ้ะป้า พอดีว่าแฟนน่ารักมากเลยทิ้งแฟนไว้คนเดียวนานไม่ได้5555555555555555555



    จองกุกพูดก่อนจะเดินกลับไปหาคนน่ารักที่นั่งอยู่คนเดียวที่โต๊ะในสุดของร้าน

     

     

    “ยิ้มอะไรน่ะจอน” ร่างบางเอ่ยถามทันทีที่อีกคนเดินกลับมาที่โต๊ะ

     

    “ยิ้มเพราะมีแฟนน่ารักไงจ้ะ”

     

    “เป็นบ้าหรอ”

     

    “เป็นคนที่รักพี่วีจนบ้าไปแล้วต่างหากจ้ะ5555555555555555” จองกุกพูดก่อนจะยิ้มกว้างโชว์ฟันกระต่ายให้อีกคน

     

    “เลิกรักกันสิ จะได้กลับเป็นคนปกติ”

     

     

    ทันทีที่สิ้นสุดคำพูดของร่างบางทำเอาอีกคนหุบยิ้มทันที

     

     

    “อย่าเอาคำว่าเลิกมาพูดแบบนี้อีกนะ แค่ได้ยินจอนก็ปวดใจ น้ำตาจะไหลแล้วเนี่ย” จองกุกพูดพลางทำหน้าเศร้า

     

    “อย่ามาทำแอคติ้ง เรายังเคลียกันไม่จบเรื่องเมื่อเช้าด้วยที่นายไม่ตั้งใจเรียน”

     

    “ก็พี่ยุนกิไลน์มาบอก ทำให้จอนเข้าใจผิดอ่ะ จอนทำไปเพราะเป็นห่วงพี่วีนะจ้ะ ไม่ได้คิดจะโดดเรียนด้วย จอนสัญญาไว้แล้วจอนก็จะไม่ทำแฟนจอนผิดหวังหรอกนะจ้ะ” ร่างสูงพยายามอธิบาย

     

    “ขอให้ทำได้จริงเถอะนะจอน แต่ก็ขอบคุณนะที่เป็นห่วงพี่”

     

    “ไม่ต้องขอบคุณหรอกจ้ะพี่วี จอนทำให้เพราะอยากทำ เพราะจอนรักพี่วี อยากให้พี่วีเชื่อใจจอนนะ แล้วก็อย่าเพิ่งเบื่อคำว่ารักของจอนด้วย”

     

    “อื้อ รู้แล้ว นายก็อย่าเบื่อที่จะบอกพี่นะ” ร่างบางตอบรับก่อนจะยิ้มกว้างจนตาหยีให้คนตรงหน้า

     

     

    ไม่รู้เมื่อไหร่ที่ผมรู้สึกมีความสุขไปกับรอยยิ้มและคำพูดของจอน ทั้งที่เขาเป็นแค่เด็กมัธยมปลายธรรมดา แต่จอนกลับทำให้ผมรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัย ทำให้ผมรู้สึกว่าเขาสามารถดูแลปกป้องผมได้ ตอนนี้ผมเริ่มมั่นใจแล้วล่ะครับว่าผมคิดถูกที่ให้โอกาสเจ้าเด็กแว๊นซ์คนนี้

     

     

    .

    .

    .

    .

    .

     

     

                ณ ร้านก๋วยเตี๋ยวพี่ยุนกิ

     

     

                “นี่ พวกนายสองคนน่ะไม่คิดจะสั่งอะไรก็ออกไปซะ มันเกะกะร้านฉัน”

     

                “รอเพื่อนก่อนนะพี่ยุนกิ เดี๋ยวพวกผมค่อยสั่งนะครับ”

     

     

    จิมินเงยหน้าจากหน้าจอโทรศัพท์ก่อนจะพูดกับเจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวที่เขากับโฮซอกนั่งกินทุกวันเป็นประจำมาหกปี

     

     

                “เออ”

     

     

    หลังจากที่ร่างเล็กได้ยินคำตอบก็เดินกลับไปที่รถเข็นก๋วยเตี๋ยว มือเล็กหยิบชามทำก๋วยเตี๋ยวให้ลูกค้าโต๊ะอื่นต่อ โดยมียองแจ ลูกพี่ลูกน้องของเขาคอยช่วยอยู่ไม่ห่าง

     

     

    “ไอ้จอนมันลืมรึเปล่าว้ะ กูว่ามันนานเกินแล้ว”

     

    “มึงไลน์ไปถามมันดิ”

     

    “ไอ้จอนมันขับรถคงมีมือมาหยิบโทรศัพท์ตอบไลน์กูมั้งไอ้หมูโง่” โฮซอกพูดใส่หน้าเพื่อนอีกคน

     

    “มึงก็ไลน์ไปหาคนซ้อนสิครับ โทรไปหาแทแทก็ได้ โง่กว่าหมูอย่างกูก็ม้าอย่างมึงเนี่ยไอ้เจโฮป” จิมินสวนกลับก่อนจะก้มหน้าเล่นเกมเศรษฐีในโทรศัพท์ต่อ

     

    “เออว่ะ กูโทรหาแทแทก็ได้นี่” โฮซอกพูดกับตัวเองก่อนจะกดเบอร์โทรหาคนน่ารัก

     

    “ฮัลโหล แทแท”

     

    “ทำไมแทแทรับเร็วจังว้ะ” จิมินถาม

     

    “ยังไม่รับหรอก แต่กูแค่ซ้อมพูดน่ะ555555555555555555555

     

    “ซ้อมหาปู่มึงเหรอครับ ไอ้หน้าม้า”

     

    “มึงเล่นเกมไปเลยไอ่หมู กูขอให้โดนยึดเมือง”

     

    [ฮัลโหล โฮซอก]

     

    “ฮัลโหล แทแท โทรมามีอะไรหรอ”

     

    [โฮซอกบ้า! นายต่างหากโทรมาหาฉัน!] ปลายสายตะคอกกลับ

     

    “เออจริงด้วย ฉันลืมไป5555555555555 แทแทอยู่กับไอ้จอนรึเปล่า”

     

    [อยู่ด้วยกัน โฮซอกจะคุยกับจอนเหรอ]

     

                “ใช่ๆ ฉันอยากรู้ว่ามันอยู่ที่ไหนแล้วอ่ะแทแท”

     

                [อยากคุยกับจอนก็โทรหาจอนสิ ฉันไม่บอกหรอก แบร่!]

     

     

                ตั้งแต่คบกับไอ้จอนแล้วกวนตีนขึ้นเยอะเลยครับ แทแทเขาอัพเลเวลไวมากครับทุกคน อีกไม่นานผมเชื่อว่าสกิลความกวนของแทแทจะต้องเท่าพวกผมอย่างแน่นอน

     

     

                “แทแท ฉันขอโทษเรื่องเมื่อตอนเลิกเรียน บอกฉันหน่อยว่าอยู่ที่ไหนกันแล้ว”

     

                [อยู่ข้างหลังนายนี่ไงโฮซอก หันมาสิ]

     

     

                ทันทีที่พูดจบร่างบางก็วางสายก่อนจะยืนยิ้มกว้างให้กับเพื่อนคนที่เพิ่งโทรมาหาเขา

     

     

                “อ้าว ถึงแล้วก็ไม่บอก ปล่อยให้โทรหาให้เปลืองเงินทำไมอ่ะแทแท”

     

     

    โฮซอกบ่นอุบอิบก่อนจะลุกจากเก้าอี้เดินไปหาคนน่ารัก

     

     

                “โทรหาแฟนคนอื่นมันไม่ดีนะลูกพี่ จอนหวงแฟนจอน จอนโทรหาได้คนเดียว”

     

     

    จองกุกพูดก่อนจะยื่นถุงก๋วยเตี๋ยวตามที่เขาสั่งให้

     

     

                “มากไปแล้วไอ้จอน นี่เพื่อนพี่”

     

                “เพื่อนพี่แต่แฟนจอนนะจ้ะ”

     

     

    ร่างสูงพูดพลางยิ้มกวนให้คนผู้เป็นพี่ก่อนจะจูงมือพาแทฮยองไปนั่งที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้ามร่างอวบที่ก้มหน้าก้มตาเล่นเกมอยู่โดยไม่สนใจสิ่งรอบข้าง

     

     

    “จิมิน!!!” แทฮยองตะโกนใส่

     

    “เห้ย อ้าว แทแท” ร่างอวบเงยหน้าขึ้นมาด้วยความตกใจ

     

    “สวัสดีจ้ะพี่จิมิน”

     

    “หมั่นเข้าวัดทำบุญบ่อยๆ นะแทแท ไอ้เด็กฟันจอบจะได้ไม่มาตามติด”

     

    “พี่จิมิน จอนไม่ใช่ผี พูดแบบนี้เดี๋ยวก็ไม่ให้กินก๋วยเตี๋ยวหรอก”ร่างสูงพูดก่อนจะเบะปาก

     

    “คิดว่าเอาของกินมาล่อแล้วกูจะยอมเหรอไอ้จอน” ร่างอวบขึ้นเสียง

     

    “ใช่จ้ะ” จองกุกพยักหน้า

     

    “เออ มึงคิดถูกแล้วล่ะ5555555555555555555555

     

     

    จิมินพูดก่อนจะหัวเราะลั่น จนทำให้แทฮยองที่มองดูอยู่ถึงกับส่ายหัวเบาๆ

     

     

    โฮซอกเดินไปหาร่างเล็กที่กำลังทำก๋วยเตี๋ยวอยู่ที่รถเข็น เขาอึกอักลังเลอยู่สักพักก่อนจะพูดออกไป

     

     

    “พี่ยุนกิ ขอยืมชามเปล่าสี่ใบสิ”

     

    “เอาไปทำอะไร อยากกินอาหารว่างเหรอถึงได้ขอชามเปล่า” ยุนกิพูดพลางลวกก๋วยเตี๋ยว

     

    “โหยพี่มุกนี้ผมขอซื้อต่อได้ไหม55555555555555555555

     

    “สามล้านบาท” ร่างเล็กตอบอีกคน

     

                “ตลกเกินไปแล้ว ตกลงจะให้ผมยืมถ้วยไหมครับ”

     

    “เอาไปทำอะไรอ่ะ” ยุนกิหยุดทำก๋วยเตี๋ยวแล้วเงยหน้าขึ้นมามองอีกคน

     

    “เอ่อ เอาไปใส่ก๋วยเตี๋ยวน่ะ ไอ่จอนมันซื้อมาฝาก”

     

     

    ผั่วะ!!!!!!!!!!

     

     

    โฮซอกเดินหิ้วถุงก๋วยเตี๋ยวกลับมาที่โต๊ะด้วยสีหน้าเจ็บปวด มืออีกข้างลูบหัวตัวเองปอยๆ ก่อนจะนั่งลงที่เก้าอี้ข้างร่างอวบ

     

     

    “ไอ้หมู มึงไปขอยืมชามก๋วยเตี๋ยวน้องยองแจให้กูเลย”

     

    “ทำไมมึงไม่ขอพี่ยุนกิว้ะ” จิมินหันไปถามเพื่อนที่นั่งข้างกัน

     

    “กูโดนชามก๋วยเตี๋ยวฟาดมากกลางหัวเนี่ย มึงยังจะให้กูไปขออีกรึเปล่าล่ะไอ้หมู”

     

    “มึงนี่ไม่ได้เรื่องเลย จีบเขามาหกปีขอชามก๋วยเตี๋ยวแค่นี้ก็ไม่ได้ ต้องให้กูลงมือ”

     

     

    ร่างอวบพูดจบก็ลุกขึ้นเดินไปหายองแจหลังรถเข็น เพียงเวลาไม่นานเขาก็เดินกลับมาด้วยมือเปล่า

     

     

    “ไหนชามล่ะจิมิน?” แทฮยองเอ่ยถาม

     

    “โดนชามฟาดมาเหมือนกันอ่ะแทแท แต่ฉันหลบทัน สงสัยพวกเราจะอดกินแล้วล่ะ ฮือ...” จิมินพูดเสียงเศร้า

     

    “เดี๋ยวฉันลองไปขอพี่ยุนกิดูแล้วกันนะ” ร่างบางเสนอตัว

     

    “ให้จอนไปเป็นแฟนมั้ยจ้ะ เผื่อโดนชามฟาดจอนจะได้ปกป้องพี่วีทัน”

     

    “นายอยู่ตรงนี่น่ะดีแล้ว”

     

     

    คนน่ารักตอบกลับแฟนตัวเอง ก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วเดินไปหาร่างเล็กที่รถเข็นขายก๋วยเตี๋ยว

     

     

    “พี่ยุนกิ สวัสดีครับ” ร่างบางพูดพลางยิ้มกว้างจนปากเป็นรูปหัวใจ

     

    “ย๊า น่ารักจัง! น้องแทฮยอง มาได้ไงเนี่ย” ยุนกิถามก่อนยิ้มจนตาปิดให้อีกคน

     

    “จอนพามาน่ะครับ ฮี่ๆ”

     

    “ทานอะไรมารึยังน้องแทฮยอง หิวรึเปล่า?”

     

    “เอ่อ พอดีว่าซื้อก๋วยเตี๋ยวมาน่ะครับพี่ยุนกิ ตั้งใจจะกลับไปกินที่บ้าน แต่จอนแวะมาหาโฮซอกที่ร้านพี่ แล้วจิมินเขาหิวมากๆ เลยครับ ผมขอรบกวนยืมชามสักสี่ใบได้ไหมครับ”

     

     

    แทฮยองพูดเสียงอ่อน พร้อมกับทำตาเป็นประกายเรียกคะแนนความสงสารจากยุนกิ

     

     

    “ได้สิ ยองแจหยิบชามเปล่าให้น้องแทฮยองหน่อย สี่ใบนะ”

     

    “นี่ครับ” ยองแจพูดพลางยื่นชามเปล่าสี่ใบให้คนน่ารัก

     

    “ขอบคุณมากนะครับพี่ยุนกิ ขอบคุณนะยองแจ”

     

     

    ร่างบางก้มหัวให้เล็กน้อยก่อนจะเงยหน้าขึ้นมายิ้มหวาน

     

     

    “เอานี่ไปด้วยนะน้องแทฮยอง พี่ให้” มือเล็กยื่นชามลูกชิ้นล้วกเต็มถ้วยให้

     

    “ผมเกรงใจครับพี่ยุนกิ ของซื้อของขายจะมาให้กันได้ยังไง”

     

    “รับไปเถอะหน่า ถือว่าพี่เลี้ยงเราแล้วกันนะน้องแทฮยอง” ยุนกิยิ้มให้ก่อนจะหันกลับไปทำก๋วยเตี๋ยวให้ลูกค้าต่อ

     

    ร่างบางเดินถือชามเปล่าสี่ใบและชามลูกชิ้นล้วกกลับมายังโต๊ะที่เพื่อนและแฟนของเขานั่งรออยู่อย่างมีความหวัง

     

     

    “อ่ะนี่ ชามเปล่า แล้วนี่ก็ของแถมจากพี่ยุนกิล่ะ”

     

    “เห้ย ทำไมแทแทไปขอแล้วพี่ยุนกิให้ว้ะ ทีพวกฉันไปแล้วโดนฟาดหัวกลับมา โลกนี้แม่งไม่มีความยุติธรรมเอาซะเลย” โฮซอกโวยวาย

     

    “พี่วีของจอนนี่นอกจากน่ารักแล้วยังเก่งจังเลยจ้ะ” จองกุกพูดก่อนจะกอดเอวบางเอาหน้าแนบสีข้างของคนน่ารัก

     

    “ไอ้จอนให้มันน้อยๆ หน่อย เกรงใจพี่มึงบ้าง”

     

    “อิจฉาก็บอกดิลูกพี่5555555555555555555555555555555” ร่างสูงขำรัว

     

    “เออ พี่แม่งอิจฉามึงมากเลยไอ่จอน ได้แทแทเป็นแฟนเนี่ย”

     

     

    สิ้นสุดคำพูดของโฮซอก ทำเอาทั้งร่างสูงและร่างอวบหันควับมาจ้องเขาเป็นตาเดียว

     

     

    “อะไรของพวกมึงเนี่ย กูหมายถึงว่าอิจฉาที่สมหวังในความรักไง มีแฟนน่ารักอะไรทำนองนี้เว้ย”

     

    “เออ แล้วไป” จิมินพูดก่อนจะแกะก๋วยเตี๋ยวหมูน้ำตกใส่ชาม

     

    “จอนปล่อยพี่ได้ยัง พี่จะได้นั่งกินก๋วยเตี๋ยว” แทฮยองบอกคนที่กอดเอาเขาเป็นปลาหมึกอยู่ตอนนี้

     

    “อ่อ ขอโทษจ้ะพี่วี จอนลืมตัวลืมหัวใจไปหน่อย5555555555555555

     

     

    หลังจากนั้นทั้งสี่คนก็นั่งกินก๋วยเตี๋ยวหมูน้ำตกกันอย่างเอร็ดอร่อย เพราะได้ความอนุเคราะห์ถ้วยชามจากพี่ยุนกิ เพียงเวลาไม่นานชามทั้งสี่ใบก็เหลือแต่ความว่างเปล่า

     

     

    “เอร่ออออออ อิ่มจังว่ะ” จิมินเรอออกมาก่อนจะเอามือลูบท้อง

     

    “ไอ้จิมินมึงเกรงใจแทแทบ้าง” โฮซอกพูดเตือน

     

    “ไม่เป็นไรหรอกโฮซอก ฉันไม่ถือเรื่องแบบนี้”

     

    “ใช่จ้ะ เพราะพี่วียังเคยเรอให้จอนฟังเลย55555555555555

     

    “ห้ะ แทฮยองเนี่ยนะ” จิมินถามย้ำ

     

    “อื้อ ทำไมอ่ะ มันแปลกตรงไหน”ร่างบางทำหน้างง

     

    “ไม่แปลกหรอก แต่ไม่คิดว่าแทฮยองจะเป็นตัวของตัวเองขนาดนี้น่ะ55555555555555555555

     

     

    แทฮยองเปิดเผยกับไอ้จอนขนาดนี้  ผมก็ดีใจครับ แสดงว่าคู่นี้คงไปด้วยกันได้ดีแล้วล่ะ เหลือก็แต่ไอ้โฮซอกกับพี่ยุนกินี่เมื่อไหร่จะได้ลงเอยกันบ้าง

     

     

    “พี่วีจ๋า เรากลับบ้านกันเถอะ นี่ก็เย็นมากแล้ว กลับไปทำการบ้านกันนะจ้ะ” ร่างสูงบอกแทฮยอง

     

    “เห้ยยยยยยยยย!!!!!!!!!!!! กลับไปทำการบ้าน?!  นี่มึงไปถึงขั้นไหนกับเพื่อนกูว้ะไอ่จอน” โฮซอกถามด้วยความตกใจ

     

    “โฮซอก! จอนหมายถึงการบ้านที่โรงเรียน ให้ฉันสอนต่างหากเล่า!

     

    “มึงนี่คิดทะลึ่งไอ้หน้าม้า แทฮยองเขาไม่ใช่คนแบบมึงสักหน่อย” จิมินหันไปว่าเพื่อนที่นั่งข้างกัน

     

    “อย่าบอกว่ามึงไม่คิดนะไอ้หน้าหมู?”

     

    “ตอนแรกกูก็คิดแบบมึงแหละ ก็ไอ้จอนมันพูดกำกวมขนาดนั้น55555555555

     

    “นายสองคนนี้ทะลึ่ง! ฉันไม่คุยด้วยแล้ว”

     

     

    คนน่ารักพูดจบก็ลุกขึ้นแล้วเดินหนีไปทันทีเพราะไม่อยากให้ใครเห็นใบหน้าที่เขินอายของตัวเอง

     

    ย๊า!! ทำไมเพื่อนผมเขาคิดอะไรแบบนี้เล่า เห็นผมเป็นคนยังไงกันเนี่ย

     

     

    “พวกพี่คิด จอนก็คิดอยู่ตลอดเลยจ้ะ ทุกวันนี้ต้องคอยห้ามใจไม่ให้ทำอะไรพี่วีเวลาอยู่ด้วยกันสองต่อสอง55555555555555555555555 จอนกลับไปทำการบ้านก่อนนะจ้ะลูกพี่ พี่จิมิน ไว้เจอกันพรุ่งนี้จ้ะ” จองกุกลาพี่ทั้งสองก่อนจะวิ่งตามคนน่ารักที่เดินนำไปก่อนแล้ว

     

    “ไอ้จอนมันโชคดีเนาะ มีแฟนน่ารักแบบแทแท”

     

    “มึงเสียดายรึไง?” จิมินถาม

     

    “กูเปล่าเว้ย กูแค่เผลอใจไปกับแทแทแค่ชั่ววูบเพราะความน่ารัก หรือมึงไม่เคย?” โฮซอกถามกลับ

     

    “เคยว่ะ55555555555555555555555555 แต่แทฮยองเป็นเพื่อนที่ดีและน่ารัก กูไม่อยากให้อะไรมาทำลายมิตรภาพความเป็นเพื่อน” ร่างอวบสารภาพเช่นกัน

     

    “ให้ไอ้จอนมันดูแลแทแทน่ะดีแล้ว ไอ้จอนมันรักแทแทมากแล้วกูคิดว่าแทแทก็รักไอ้จอนเหมือนกันแต่ยังไม่รู้ตัว”

     

    “เออแล้วเรื่องแฟนเก่าแทฮยองที่มึงเล่าให้กูฟัง เรื่องไปถึงไหนแล้วว้ะ” จิมินถามอีกคนด้วยความสงสัย

     

    “ได้ประวัติมันมาแล้ว บ้านรวย เส้นสายเยอะใช้ได้เลยว่ะ ตอนนี้กูเป็นห่วงความปลอดภัยของแทแทมากเลยว่ะ”

     

     

    โฮซอกพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง คิ้วของเขาขมวดเข้าหากันเพราะความกังวล

     

    ผมรู้สึกแปลกๆ ยังไงชอบกล มีลางสังหรณ์ว่าจะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นกับแทแท... ขอให้มันเป็นแค่ความคิดมากของผมเองก็พอครับ อย่าเกิดขึ้นจริงเลย

     

    ร่างเล็กสังเกตเห็นสีหน้ากังวลของโฮซอกหลงจากที่แทฮยองและจองกุกลุกออกไป

     

    ทำไมทำหน้าเครียดแบบนั้นด้วย หรือว่าหึง? ไม่พอใจ? เป็นไปได้ไหมว่า โฮซอกอาจจะชอบน้องแทฮยอง... อ่า... ทำไมผมถึงรู้สึกหวิวในหัวใจแบบนี้ล่ะ....

     

     

    .

    .

    .

    .

    .

     

                   

    “คุณหนูครับ คุณแทฮยองกลับถึงบ้านแล้วครับ”

     

    [อืม ขอบใจมากนัมจุน นายก็กลับมาได้แล้ว ฉันหิว]

     

    “ได้ครับคุณหนู ผมจะรีบกลับบ้านเอาก๋วยเตี๋ยวไปให้นะครับ”

     

    [อืม]

     

     

    ผมชื่อคิมนัมจุนครับ คุณหนูของผมคือคุณคิมซอกจิน พ่อของผมทำงานให้กับพ่อของคุณหนู พอผมเกิดมาก็เลยได้รู้จัก และเป็นเพื่อนเล่นกับคุณหนูตั้งเด็ก จนตอนนี้ผมก็กลายเป็นเลขาฯ ส่วนตัว คอยทำงานและดูแลคุณหนูในทุกๆ เรื่องเลยครับ

     

    แต่ใครจะรู้ล่ะว่าทุกอย่างที่ทำให้คุณหนู ผมทำให้ด้วยใจ ไม่ใช่เพราะหน้าที่...

     

     

    .

    .

    .

    .

    .

     

     

                บ้านแทฮยอง

     

                “ตรงนี้ตอบแบบนี้ถูกไหมพี่วีจ๋า”

     

                “ถูกต้อง เก่งขึ้นนะเนี่ย”ร่างบางยิ้มกว้างก่อนจะยกนิ้วโป้งให้อีกคน

     

                “เพราะคนสอนน่ารักไงจ้ะ คนเรียนก็เลยมีกำลังใจ”

     

                “เพราะนายตั้งใจเองด้วยต่างหากล่ะจอน คนเราถ้าตั้งใจจริง ไม่ว่าจะอยากแต่ไหนก็ต้องทำได้”

     

                “เหมือนที่จอนตั้งใจจีบพี่วีใช่มั้ยจ้ะ55555555555555555555

     

                “กวนอีกแล้วไอ่เด็กบ้า!” มือเรียวผลักหัวจองกุกเบาๆ

     

                “พี่วีจ๋า เหนื่อยไหมที่เลิกเรียนแล้วแทนที่จะได้พักผ่อนกลับต้องมาคอยติวหนังสือให้คนโง่อย่างจอน” ดวงตากลมจ้องตาอีกคนเพื่อรอฟังคำตอบ

     

                “ไม่หรอก ถ้านายตั้งใจเรียนพี่ก็ไม่เหนื่อย” แทฮยองพูดพร้อมกับจ้องหน้ากลับ

     

                “ขอบคุณที่ให้โอกาสเด็กแว๊นซ์กระจอกๆ ที่ไม่มีอะไรดีเลยอย่างจอนนะพี่วี”

     

                “อย่าดูถูกตัวเองแบบนี้อีกนะจอน”

     

                “ก็มันจริงนี่ครับ ถ้าเทียบกับคนที่เขามาจีบพี่วี ทั้งหล่อ รวย ชาติตระกูลดี เรียนก็เก่ง จอนไม่มีอะไรสู้ได้สักอย่าง แต่พี่วีกลับเลือกที่จะมาคบกับคนอย่างจอนอ่ะ” ร่างสูงพูดจริงจัง

     

                “จากที่นายพูดมันก็จริง นอกจากนายจะจน เป็นเด็กแว๊นซ์ เกเร แถมยังปากหมา กวนตีนพี่อีก มีดีแค่หล่อล่ะมั้ง555555555555555555

     

                “โอ้โห ต้องขอบคุณไหมที่อย่างน้อยก็มีความหล่อที่ยังหลงเหลือเป็นข้อดีให้จอนอ่ะพี่วี” จองกุกทำหน้างอ

     

     

                จอนคิดมากขนาดนี้เลยหรอเนี่ย ไม่คิดว่าเด็กแบบเขาจะคิดอะไรในมุมที่ผมไม่เคยคิดมาก่อนเลยครับ

     

     

                “จอนตั้งใจฟังพี่นะ ถึงนายจะไม่มีเหมือนที่คนอื่นมี แต่คนอื่นเขาก็ไม่มีเหมือนที่นายมีนะ พี่ให้โอกาสนายก็เพราะพี่ชอบในแบบที่นายเป็น ถึงจะกวนตีนไปบ้าง แต่นายก็ทำให้พี่ยิ้มได้เสมอ ทุกอย่างที่นายทำให้พี่มันก็มากพอที่จะเป็นเหตุผลที่ทำให้พี่เลือกนายแล้วล่ะ”

     

                “พี่วี...”

               

    “พี่รู้สึกดีๆ กับนายนะจอน พี่ก็ไม่แน่ใจว่ามันเรียกว่าความรักได้รึยัง....”

     

    “....”

     

     

    อึ้งเลยครับไอ้จอน พี่วีพูดขนาดนี้ น้ำตาจะไหล ดีใจจนอธิบายไม่ถูกเลยครับ  ตอนนี้ความหวังที่จะได้หัวใจพี่วีมาครอบครองมันอยู่แค่เอื้อม เหลือแค่รอให้พี่วีมั่นใจ

     

     

    “เอ่อ... นายรอพี่ได้ใช่ไหม...”

     

    “อย่างที่จอนบอกพี่วีมาตลอด จอนรักพี่วี จอรอพี่วีได้เสมอครับ”

     

    “ขอบคุณนะจอน”

     

     

    ร่างบางยิ้มกว้างให้แล้วเลื่อนหน้าเข้าไปใกล้จนปลายจมูกแตะกับแก้มกลมของจองกุกเบาๆ จากนั้นแทฮยองก็ผละออกมาก่อนจะก้มหน้าเขิน

     

    เหยดดดดดดดดดดดด พี่วีหอมแก้มจอนครับ!!!!!! อยากจะตะโกนให้ลั่นตลาดบางท่าน

     

     

                “พี่วีครับ”

     

     

                มือหนาช้อนคางอีกคนขึ้นก่อนจะขยับหน้าเข้าไปใกล้จนปลายจมูกจองทั้งสองแตะกัน ทำเอาร่างบางหลับตาหนีด้วยความเขิน จองกุกเคลื่อนเข้าไปใกล้อีกจนริมฝีปากหนาประทับลงบนปากของคนน่ารักเบาๆ เพื่อมอบจูบที่อ่อนโยนและอ่อนหวานให้ จูบที่เกิดจากความรู้สึกดีๆ และเต็มใจจากทั้งสองคน...

     




    © themy butter
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×