ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ❃ M I S S.. P O R M I S E ❃ [ YAOI ]

    ลำดับตอนที่ #6 : C H A P T E R F O U R ❃

    • อัปเดตล่าสุด 7 พ.ค. 56


    Supercell
    CHAPTER  FOUR


    ขอบคุณ gif จาก tumblr ค่ะ

     




    การโกหกเพื่อให้คนอื่นสบายใจไม่ใช่เรื่องดีเท่าไหร่ แต่ผมก็เลือกที่จะทำมันเพราะว่า..






    Chan’s said

       “เฮ้อ..” ผมจำไม่ได้ว่าผมถอนหายใจและพลิกตัวไปมาอย่างนี้กี่ครั้งแล้วแต่ผมมั่นใจแน่ๆว่ามันต้องปาไปเกือบค่อนคืนชัวร์   เพราะหลังจากเกิดเรื่องประหลาดนั่นในห้องน้ำผมก็คิดไม่ตกเลยครับว่าสาเหตุจริงๆแล้วมันมาจากอะไรกันแน่ ในเมื่อห้องน้ำแทบจะไม่มีช่องให้ลมพายุนั่นพัดเข้ามาได้แม้แต่นิดเดียว แล้วอีกอย่างที่เฌอล้มไปแบบนั้นน่ะมันเป็นเพราะอะไร ก็ในนั้นมีแค่ผมกับเฌออยู่แค่สองคน ถ้าผมไม่ได้ทำ..

     

    แล้วใครทำล่ะ?..

     

         คงเป็นไปไม่ได้ที่เฌอจะเหวี่ยงตัวเองไปกระแทกกับผนังหรอกนะ แล้วอีกอย่างแรงเหวี่ยงที่ถึงขนาดทำให้คนๆนึงถึงจะน้ำหนักไม่มากแต่กระแทกซะจนเกิดเสียงดังซะขนาดนั้นน่ะ ไม่ใช่เล่นๆเลยนะ..

    ครื้น!

         เสียงฟ้าร้องดังขึ้นพร้อมกับแสงสว่างวาบที่ฉายผ่านประตูกระจกเลื่อนตรงระเบียงทำให้ผมต้องหลุดจากภวังค์ เฮ้อ.. ไม่คิดเลยนะว่าวันแรกของหน้าฝนจะรุนแรงถึงขนาดนี้ ก็เล่นตกหนักไม่ยอมหยุดมาหลายชั่วโมงแล้วสิครับ โชคดีนะที่โรงเรียนผมมีระบบระบายน้ำดี ไม่งั้นมีหวังพรุ่งนี้ได้วิดน้ำกันเป็นแถวแน่

    “เอาว่ะ ไหนๆก็ไหนๆแล้ว..” ผมเด้งตัวขึ้นมาพร้อมกับหันมองนาฬิกาฝาผนังที่แขวนอยู่เหนือหัวเตียง ตีสี่กว่าแล้ว.. แต่เอาเถอะยังไงผมก็คงนอนไม่หลับแล้วอีกอย่างพรุ่งนี้ก็วันหยุดด้วยยังมีเวลานอนอีกเยอะ

           ผมตัดสินใจลงจากเตียงก่อนจะเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าเพื่อหาเสื้อยืดซักตัวใส่ แหม.. จะลงไปห้องโถงทั้งทีเนี่ยจะไปทั้งบ็อกเซอร์ตัวเดียวก็คงจะไม่เหมาะ..

     

    ถ้าไม่นับตอนที่อุ้มเฌอลงไปส่งห้องพยาบาลน่ะนะ..

     

    แอ็ด..

              ผมค่อยๆเปิดประตูออกเบาๆเพื่อเป็นการไม่รบกวนข้างห้อง(ซึ่งอาจจะยังมีหลงเหลืออยู่)ก่อนจะแทรกตัวออกมาและปิดประตูให้เรียบร้อย ให้ตายเถอะพอเข้าวันหยุดทีไรก็เป็นอย่างนี้ทุกทีเห็นว่านักเรียนเหลือน้อยเลยใช้ไฟน้อยด้วยเลยรึไงว่ะ เปิดดวงเว้นดวงงี้บรรยากศมันก็น่ากลัวแย่ดิ บรึ๋ย..

    ตึก ตึก ตึก

          เสียงหัวใจของผมดังขึ้นตามจังหวะการเดินของแต่ละก้าว อย่าหาว่างั้นงี้เลยนะครับ.. ผมก็กลัวผีเป็นนะ บรรยากาศรอบตัวนี่บอกตรงๆว่าเป็นใจให้ผีหลอกสุดๆครับ ถึงโรงเรียนนี้ไม่ใช่โรงเรียนเก่าแก่อะไรแต่ไม่ใช่ว่าจะไม่เฮี๊ยนจริงมั้ยครับ..

    ง๊าวววว!

    “อ๊ากกกกก” พอผมเดินมาถึงบันไดสุดท้ายก่อนถึงห้องโถงอยู่ดีๆก็มีแมวสีดำตัวไม่อ้วนมากกระโดดตัดหน้าผมซะอย่างงั้น นี่มันอะไรเนี่ยหัวใจเกือบวายแหนะ!

    “เดี๋ยวเถอะ.. แมวบ้า” ผมหันไปดุมันพร้อมกับชูมือทำท่าจะตีมันไปด้วยโทษฐานที่บังอาจทำให้ผมตกใจ นี่ดีนะ ที่บันไดขั้นสุดท้ายมันอยู่ไม่สูงจากพื้นมาก ไม่งั้นผมคงตกใจจนตกบันไดตายแหงมๆ

    “เงี๊ยววว..” มีขู่ครับ.. อย่างนี้มันท้าทาอำนาจมืดกันนี่หว่าเดี๋ยวได้รู้แน่ว่าใครจะ..

    ตึง!

    “เฮ้ย.. ”และก็เกิดเรื่องประหลาดอีกเช่นเคยเมื่อมีเสียงเหมือนอะไรสักอย่างกระทบเข้าหากัน จากที่ฟังแล้วดูเหมือนจะเป็นตู้เหล็กหรือตู้ล็อคเกอร์เนี่ยแหละ แต่ประเด็นมันอยู่ที่ว่าอะไรอีกอย่างไปกระทบเนี่ยสิ..

    “คราวนี้อะไรอีกว่ะ..” ผมพึมพำขึ้นมาเบาๆก่อนจะค่อยๆเดินไปทางต้นเสียงที่ดังขึ้นมาอีกรอบแต่คราวนี้เบากว่าครั้งก่อนจนมาหยุดตรง..

    หน้าห้องพยาบาล..

        เสียงนั้นเงียบไปแล้วแต่กลับมีเสียงหัวใจผมที่มันดังขึ้นมาแทน เฌออยู่ที่นี่ในห้องพยายบาลที่ผมเป็นคนอุ้มมาส่งกับมือ.. เกิดอะไรขึ้น!

    “เฌอ!” ผมไม่รอช้ารีบผลักประตูเข้าไปทันทีเมื่อนึกขึ้นได้ว่ามีใครอยู่นั้นแต่แล้วก็พบเพียงแต่ของที่กระจัดกระจายเต็มไปหมดพร้อมกับประตูตู้ยาเหล็กที่เปิดไว้ซึ่งผมคิดว่าน่าจะเป็นเจ้าตู้นี่แหละที่เป็นต้นเหตุของเสียงเมื่อกี้ ว่าแต่.. เฌออยู่ไหน!?

               ผมวิ่งต่อไปยังเตียงที่ผมจำได้ว่าวางเฌอไว้ตรงนั้นก่อนจะจัดการรูดม่านที่กั้นระหว่างเตียงออกแล้วก็พบกับร่างเล็กที่นอนหายใจหอบอยู่บนเตียงข้อมือและลำคอมีรอยฟกช้ำเล็กน้อย เสื้อเชิ้ตที่เคยติดกระดุมจนถึงคอตอนนี้หลุดลุ่ยมาจนถึงแผ่นอก ดวงตาปรือพยายามมองตรงมาที่ผม ริมฝีปากสีแดงจัดมีเลือดซิปอยู่เล็กน้อยคล้ายปริแตก..

    “น.. นาย” เสียงเล็กหวานที่เคยโวยวายไม่หยุดตอนที่ผมอุ้มเฌอมาส่งห้องพยาบาลตอนนี้มันแหบพร่าซะจนน่าตกใจ

    “ฮะ เฮ้ย.. เกิดอะไรขึ้น?”  หลังจากที่ผมตั้งสติได้จึงวิ่งไปหาเวณห้องพยาบาลที่ผมพึ่งเจอไปเมื่อตอนเย็นก่อนจะพินิจดูตามร่างกาย

     

    สภาพแบบนี้มัน.. ไม่ต่างอะไรกับโดนซ้อมเลยนะ!

     

    “ฉะ.. ฉันไม่.. เป็นไร” ว่าก่อนทำท่าจะลุกขึ้นมาแต่แล้วก็ต้องล้มตัวลงนอนลงไปเหมือนเดิมเพราะสภาพร่างกายที่ไม่อำนวย

    “โหย.. อย่างนี้เค้าไม่เรียกว่า ไม่เป็นไร หรอกนะ” ผมพูดเบาๆก่อนจะกดไหล่ของคนตัวเล็กเบาๆเพื่อเตือนว่าไม่ให้ลุกขึ้นนั่งอีกเป็นครั้งที่สอง ก่อนจะมองสำรวจไปรอบๆห้อง ถาดยาต่างๆกระจัดกระจายร่วงหล่นเต็มพื้น ตู้ยาล็อคเกอร์มีร่องรอยบุบนิดหน่อย นอกนั้นก็ไม่มีอะไรเสียหายมาก แต่ที่จะหนักที่สุดดูเหมือนจะเป็นร่างตรงหน้าผมมากกว่า

    “ตกลงมันเกิดอะไรขึ้น? นายพอเล่าไหวมั้ย?” ผมถามขึ้นในขณะที่กำลังเตรียมอุปกรณ์ปฐมพยาบาลเบื้องต้นที่เพิ่งไปค้นเจอมาเมื่อกี้เพื่อที่คิดว่าน่าจะเอามาทำแผลให้คนตัวเล็กไว้ก่อน.. ถึงจะทำไม่เป็นก็เถอะ

    “คะ.. คือ มะ.. มัน” เอ่อ.. ไหวมั้ยเนี่ย?

    “โอเค ไว้เล่าพรุ่งนี้ตอนนี้ฉันว่ารีบไปห้องพยาบาลใหญ่ดีกว่า” ผมพูดตัดบทหลังจากดูอาการแล้วคงไม่ไหวแน่เลยตัดสินใจพาไปห้องพยาบาลส่วนกลางของโรงเรียนจะดีกว่า

    “มะ.. ไม่ต้อง ฉะ.. ฉันยัง.. อึก.. ไหว”

    “พอๆ คนที่พูดว่ายังไหวในสภาพนี้น่ะเค้าไม่เรียกว่าไหวหรอกนะ”พูดจบก็จัดการช้อนตัวเด็กดื้อไว้ทันทีโดยที่ฝ่ายนั้นยังไม่ได้ตั้งตัว ได้ยินเสียงท้วงนิดหน่อยแต่ก็เงียบไปจนกระทั่งมาถึงห้องพยาบาลใหญ่เลยเห็นว่าคนๆสลบไปแล้ว สงสัยจะอาการหนักเอาการ..

     

    แต่เรื่องที่คาใจผมนี่สิ ยังไม่ทันหายสงสัยเรื่องเก่า.. เรื่องใหม่ก็เข้ามาพาลให้ปวดหัวอีกซะแล้ว

     

    Nim’s said

       “เธอแน่ใจนะว่าจำหน้าคนร้ายไม่ได้จริงๆ” เสียงอาจารย์ฝ่ายปกครองดังขึ้นฉุดให้ผมหลุดจากภวังค์ที่ตัวเองสร้างขึ้นมา

    “ครับ..”

    “...”

    “ตอนนั้น.. มันมืดมาก ผมมองไม่เห็นอะไรหรอกครับ” ผมตอบคำถามอาจารย์แบบที่ตอบกับตำรวจอีกครั้งโค้งหัวให้อาจารย์เล็กน้อยเป็นเชิงขอโทษ

    “อ่าๆ.. ไม่เป็นไร เธอปลอดภัยก็ดีแล้วล่ะถึงจะไม่เต็มร้อยก็เถอะ”

    “...”

    “งั้นครูไปก่อนแล้วกัน พักผ่อนเยอะๆล่ะ”

    “ครับ.. สวัสดีครับ” พร้อมยกมือไว้อาจารย์เป็นการบอกลาและทันทีที่ประตูปิดลงผมก็อดถอนหายใจออกมาเสียมิได้ ผมน่ะไม่ใช่คนชอบโกหกหรอกนะครับแต่ถึงอย่างงั้นผมก็เลือกที่จะโกหกตำรวจ อาจารย์ และนายชาญที่อุ้มผมมาส่งที่นี่ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดมันน่าจะเกิดขึ้นจากขโมยตีนแมวที่คิดจะเข้ามาเอาของมีค่าในหอพักแต่ดันเจอผมพอดีเลยเกิดการต่อสู้กันพร้อมกับบอกว่าจำหน้าคนร้ายไม่ได้เพื่อให้คดีเป็นโมฆะ เพราะอะไรน่ะหรอครับ?..  เพราะว่าถ้าผมบอกเรื่องจริงไปก็คงไม่มีใครเชื่อหรอก



     เพราะว่าสิ่งที่ผมเจอคือสิ่งที่ทุกคนไม่สามารถสัมผัสได้แต่ผมสัมผัสได้ยังไงล่ะครับ.. 










    TO BE CONTINUED..



    -----------------------------------------------------------------------------------


    writer talk:

    เอโย่วววววว ไรท์กลับมาแล้วจ้า คิดถึงเค้ามั้ย?//เงียบ..//โอเค .__.
    ต้องขออภัยจริงๆที่ตอนนี้สั้นจนน่าใจหาย และดูเหมือนไม่มีอะไรคืบหน้าเลย
    แต่ไม่ต้องห่วงค่ะ! ตอนหน้าเราจะได้รู้กันแน่ว่าเกิดอะไรขึ้นกับหนูนิ่ม
    โปรดติดตามตอนต่อไปนะค่ะะะะ


    ปล.หนึ่ง ช่วงนี้ไรท์เริ่มเปิดเทอมแล้วอาจจะมีอัพวันเว้นวันบ้าง อย่าข่วนไรท์นะค่ะ .___.
    ปล.สอง ไรท์ขอพูดตรงๆเลยนะค่ะ คือไรท์เหนื่อยมากกก คือ.. คุณนักอ่านเงาค่ะ
    เม้นท์สักนิดเถอะนะค่ะ ถือว่าไรท์ขอล่ะค่ะ -/\-

    ขอบคุณทุกกำลังใจและทุกคอมเม้นท์ค่ะ (;


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×