ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Recommended Dishes ปรุงรักมื้อนี้ แด่คุณสามีที่รัก

    ลำดับตอนที่ #6 : 04 ; The Wall

    • อัปเดตล่าสุด 3 ต.ค. 55


    Chapter 4

     



                โอเค้ เรียบร้อย >O<

                หลังจากกลับมาถึงบ้านฉันก็ทำธุระส่วนตัวจนเรียบร้อย อากาศช่วงนี้มันก็นะ ร้อนมาก อาบน้ำอีกครั้งยังไม่รู้จะหายร้อนจนถึงตอนเย็นมั้ย ฉันหยิบแม็คบุ๊กคู่ใจขึ้นมานอนเล่นบนเตียง ที่จริงก็ไม่เชิงเล่นอย่างเดียวหรอก เพราะว่าการไปชิมข้าวผัดเพียงจานเดียวของครูกุ๊กสุดหล่อแล้ว มันทำให้ฉันมีกำลังใจที่จะเรียนมากยิ่งขึ้น และตอนนี้ฉันก็กำลังเลื่อนดูรูปของบุคคลที่ทำให้ฉันเรียนทำอาหารเพื่อเขา

                ให้ตาย! รูปพี่ไบรซ์ทุกรูปที่เจ้หมวยส่งมาให้ดูมันแบบ หล่อทุกมิติอ่ะจริงๆ รูปบางรูปขนาดเผลอยังน่ารักอ้ะ >< ถ้าฉันจะได้มองเขาในทุกๆ วันมันจะเป็นยังไงนะ โอ๊ย! เพ้อ เพ้อ เพ้อใหญ่แล้ว!

                ฉันเลื่อนภาพไปเรื่อยๆ ดูผู้ชายที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน...

                'บ้าเอ๊ย อุตส่าห์ว่าแอบแล้วเชียว!' จู่ๆ เสียงดุของผู้ชายนิสัยตรงข้ามกับเสียงก็โผล่เข้ามาในความคิด พร้อมกับหน้าตาท่าทางในตอนนั้นที่แม้อยู่ในความฝันก็ยังทำให้ฉันสะดุ้ง

                'ขำอะไรครับ ///' ภาพหน้าตาท่าทางดุๆ ของเขาหายไป แทนที่ด้วยใบหน้าของผู้ชายคนเดิม เพียงแต่เปลี่ยนอารมณ์ที่แตกต่าง สีแดงอ่อนๆ ระบายอยู่บนใบหน้าหล่อเหลาขาวใส...

                กึก!

                นี่ฉันกำลังคิดถึงหน้าของดินเซ็ล ผู้ชายน่ากลัวสองอารมณ์ ครูกุ๊กสุดหล่อ ไม่ใช่ผู้ชายที่กำลังจะเป็นสามีฉัน! นี่มันบาปหรือเปล่านะ -__-

                ไม่หรอกม้าง...

                _________ ~

                เสียงริงโทนหรูเริ่ดที่ฉันโหลดมาใหม่ดังขึ้น ช่วยขัดจังหวะความคิดเกี่ยวกับผู้ชาย(?)ให้หลุดลอยหายไป

                ฉันกดรับโทรศัพท์โดยที่ไม่ได้ดูชื่อผู้ติดต่อมา "ฮัลโหล"

                [เหมยจ๋า นวลเองจ้ะ]

                "อ้าวนวล ยัยงกอย่างเธอเอาตังค์โทรศัพท์ที่ไหนโทรข้ามน้ำข้ามทะเลหาฉันได้เนี่ย" ไม่น่าเชื่อนะ จริงๆ ยัยนวลเป็นนักเขียนไส้แห้งที่ขี้เหนียวมากกก ตังค์โทรศัพท์จะเติมก็ต่อเมื่อถูกเซ้าซี้บ่อยๆ เพราะส่วนใหญ่จะมีคนโทรมาหาเองมากกว่า เช่นพี่ก็อดจี้ (อะไร ชื่อเหมือนกุ๊ดจี่เลย -__-;;) บรรณาธิการเพศสามของหล่อน หรือไม่ก็พ่อแม่          

                ที่ให้เติมไว้น่ะไม่ใช่อะไรหรอก เผื่อมีปัญหาไม่ว่าจะธรรมดาหรือฉุกเฉินจะได้โทรขอความช่วยเหลือได้ เห้อ เล่นบอบบางซะอย่างนั้น ใครๆ ก็เป็นห่วง

                [ยืมป้ามาน่ะ ไม่งั้นนวลไม่โทรหรอก เปลืองตังค์]

                "แหม เปลืองตังค์ตัวเองแต่ไม่เปลืองตังค์คนอื่นเลยเนอะ" ฉันแอบแขวะไปเล็กๆ น้อยๆ

                [ไม่เอาน่า เปลี่ยนเรื่องๆ ที่นวลโทรมาก็แค่จะถามว่าเป็นยังไงบ้าง]

                "อ๋อ ก็ดีนะ ฉันให้เจ้าของร้านมาสอนทำอาหารให้ได้ด้วยแหละ"

                [จริงอ้ะ! สุดยอดเลยเพื่อนนวล]

                "อื้อ เขาทำอาหารอร่อย แล้วนวลล่ะ อยู่โน่นเป็นไงมั่ง ?"

                [ก็ดีจ้ะ เอ้อ เหมยจำยายนิลยายของนวลได้มั้ย ?] น้ำนวลถาม ทำให้ฉันต้องคิดภาพตามอย่างเสียไม่ได้ ฉันเริ่มนึกถึงใบหน้าเหี่ยวย่นแสนใจดีของยายนิล ฉันเคยไปเที่ยวบ้านนวลที่ต่างจังหวัดอยู่เหมือนกัน ที่บ้านนั้นมีรูปของคุณยายนิลที่ยิ้มแฉ่งจนใครที่มองภาพต่างก็ยิ้มตามเต็มไปหมด ยิ่งยายนวลตัวจริงนะ ยิ่งเป็นคนที่แจ่มใสน่ารักกว่าในรูปเสียอีก “จำได้สิ” ฉันบอกนวลหลังจากที่นึกออก เออ ว่าไปก็อยากเจอแกแหะ ยายนิลดูดวงแม่นมากกก >O<

                [เหมยจำได้ใช่มั้ยล่ะ ว่ายายนิลดูดวงแม่นมาก เมื่อวานยายโทรมาหาป้านาแล้วขอคุยกับนวล ยายดูดวงให้นวลด้วยแหละเหมย ><]

                “หือ แล้วยายบอกว่าอะไรล่ะ”

                [ยายบอกว่า หลังจากที่นวลกลับไทยแล้ว ไม่นานนวลจะเจอเนื้อคู่แหละ ...แต่นวลว่า คราวนี้ยายต้องดูดวงผิดแน่ๆ อย่างนวลเนี่ยนะจะสละคานเร็วๆ นี้] ท้ายประโยค ยายตุ๊กตาน้ำนวลก็ทำเสียงน้อยใจในชีวิตรักของตัวเอง ที่จริงแล้วไม่ใช่ว่าไม่มีใครไม่มองเพื่อนฉันเลยนะ ก็เพื่อนฉันทั้งน่ารักน่าทะนุถนอมเสียขนาดนั้น ผู้ชายคนไหนจะไม่มอง เพียงแต่ส่วนใหญ่ก็เจอแต่ผู้ชายที่ไม่น่าไว้ใจทั้งนั้น ฉันก็เลยช่วยกันๆ ออกไปให้หมด เพื่อนฉันบอบบางขนาดนี้ ต้องคนดีเท่านั้นที่ฉันจะอนุญาตให้เลี้ยงดูไปตลอดชีวิต เห็นความดีของฉันมั้ยล่ะ ^O^

                “จริงเหรอ ก็ดีนะ จะได้เจอผู้ชายที่คู่ควรกับเพื่อนรักของฉันสักทีไง แล้วนี่จะกลับมาเมื่อไหร่ล่ะ”

                [ก็ปลายๆ เดือนนี้นี่แหละ]

                “อ๋อ ถ้าจะกลับวันไหนก็คอนเฟิร์มฉันอีกทีละกันนะ จะได้เตรียมตัวจัดปาร์ตี้ต้อนรับการกลับมาไง”

                [พูดซะเว่อร์ แค่นี้ก่อนนะ]

                “จ้า ^^

                เห้อ! เพื่อนรักฉัน กำลังจะมีคู่แล้ว ถ้าดีก็แล้วไป แต่ถ้าไม่เจอฤทธิ์แม่แน่ -___-o

                ฉันวางโทรศัพท์ลงบนเตียงแล้วหันมาสนใจรูปภาพบนหน้าจอแม็คบุ๊กต่อ แต่ยังไม่ทันจะเลื่อนรูปต่อไปเสียงโทรศัพท์ก็ดังอีกครั้ง หน้าจอปรากฏชื่อของบุพการีหญิงแสนรัก “ฮัลโหลอาม้า”

                [ว่าไงอาเหมยเอ้ย] เสียงล้งเล้งของอาม้าดังมาตามสาย ม้าของฉันเป็นคนชอบพูดเสียงดังเสมอ จนบางทีแกก็เสียงดังจนเจ็บคอต้องอมเสตร็ปซิลรสขิง -__- ฉันพยายามบอกให้แม่ลดเสียงลงบ้างเวลาคุยโทรศัพท์ แค่ระดับธรรมดาก็ทำให้ฉันต้องลดเสียงโทรศัพท์ไปหลายขีดทีเดียว นี่ยังไม่นับตอนแกตกใจมากๆ ระดับเสียงมหาโหดขนาดยื่นโทรศัพท์ออกห่างแล้วยังตามมาหลอกหลอน =___=^^

                “จ้ะม้า เหมยสบายดีจ้ะ”

                [อั๊วจะโทรมาบอกว่า อาไบ้อีกลับมาจากเมืองนอกแล้วนะ]

                “ม้า เฮียแกชื่อไบรซ์ไม่ใช่หรอ -__-

                ไบ้คืออะไร ? ไม่มีคำบรรยาย ณ จุดนี้จริงๆ

                [เออๆ นั่นแหละ อีจะไปพักอยู่ที่บ้านใหญ่ในกรุงเทพฯ บางทีลื้ออาจจะเจออีก็ได้นา] เสียงม้าตื่นเต้นไปมั้ย หูหนูจะดับแล้วจ้ะ ;____;

                “จ้ะม้า” ฉันเออออห่อหมกไปตามประสาลูกที่ไม่สามารถเถียงอะไรได้

                [แล้วเรื่องเรียนทำอาหารเป็นไงมั่ง]

                "เหมยหาคนสอนทำอาหารให้ได้แล้วแหละม้า ฝีมือเขาสุดยอดมาก"

                [ลื้อบอกว่า'เขา' ครูลื้ออีเป็นผู้ชายหรอ ?]

                "จ้ะม้า เป็นผู้ชายหล่อมากด้วย เดี๋ยวนี้หายากแล้วนาผู้ชายทำอาหารเป็นอ่ะ ><"

                [อาเหมย หล่อมากก็ระวังเผลอใจให้เขานะ...] เสียงเป็นห่วงของอาม้าดังมาตามสาย

                ...ตึก...

                หัวใจของฉันกระตุกวูบเล็กน้อยด้วยประโยคที่เหมือนจะไม่มีอะไรของอาม้า แต่มันผิดถนัด แค่คำพูดประโยคธรรมดาของอาม้าดันทำให้ความคิดและหัวใจฉันหยุดทำงาน สมองฉายภาพผู้ชายสองอารมณ์ฝีมือทำอาหารระดับกระทะเหล็กในทีวีแชมเปี้ยน จริงอย่างที่อาม้าพูด ผู้หญิงผู้ชายตอนแรกไม่มีอารมณ์ร่วมอะไร อยู่ด้วยกันไปเรื่อยๆ มันก็ต้องมีรักใคร่กันเป็นธรรมดา แล้วอย่างนี้ฉันจะอดใจได้อย่างที่ม้าเตือนหรือเปล่านะ [ลื้ออย่าลืมนะว่าอีไม่ใช่ว่าที่สามีลื้อ อีคือคนอื่นคอยเตือนตัวเองไว้นะอาเหมย]

                “...จ้ะ เหมยจะเตือนตัวเองไว้เสมอ” เสียงของฉันอ่อยลง เมื่อคิดว่าต้องอยู่กับผู้ชายหน้าตาดี จิตใจดีคนหนึ่งโดยที่ต้องปิดกั้นความรู้สึกตัวเองเอาไว้

                ...จะทนได้สักกี่น้ำ...

                [ดีแล้ว แค่นี้ก่อนนะ ลูกค้าเรียกละ]

                อาม้าทำฉันคิดตกจริงๆ!

     

                @Temptation Club

                00.16 A.M.

                คืนนี้เป็นคืนที่ฉันต้องมาทำงานเป็นเด็กเสิร์ฟครั้งแรก คืนนี้เป็นคืนวันพฤหัสบดี เริ่มวันใหม่เนื่องจากเลยเที่ยงคืนแล้ว วันสองวันก่อนเป็นวันที่ฉันเตรียมเอกสารการสมัครงานและส่งให้กับเจ้าของคลับซึ่งเป็นหุ้นส่วนใหญ่ชื่อไฮเวย์

                ฉันก็เพิ่งรู้เหมือนกันว่าคลับแห่งนี้จัดตั้งขึ้นโดยหนุ่มหน้าตาดีแปดคนรวมเงินกัน -___-;;

     ไม่อยากจะเล่าว่าตอนที่ฉันไปยื่นใบสมัครนั้น สายตาของผู้ชายคนนี้มันน่าจิ้มเบ้าแตกมาก - -* หยิ่งไปไหมพี่ ก็ตอนนี้ฉันไม่มีเงินแล้วมันทำไม ฉันไม่ได้จนนะ พ่อแม่เปิดร้านขายทองอ่ะเป็นไง! แต่ผู้ชายคนนี้ดูมีระดับกว่าฉันหลายปีแสงมาก =___=^^ ฉันไม่ควรจะถกเถียงเรียกร้องอะไรใช่มั้ย แต่การที่เขารับใบสมัครฉันไปอ่านแวบเดียว ทิ้งลงเก๊ะ แล้วบอกว่าเสร็จแล้ว ออกไปได้แล้ว เฮ้ย! คือแบบว่าสายตาที่ส่งมาให้มันแบบเหมือนมองหมาตัวหนึ่งอ่ะ! ฉันอยากจะรู้จริงๆ ว่ามันจะมีผู้หญิงคนไหน๊ที่จะยอมคบกับผู้ชายประเภทนี้ -__-;

                “เธอมาสายนะ” มาละ ผู้ชายจอมหยิ่ง คือฉันขอโทษ ปรับเวลาไม่ทันจริงๆ

                ฉันรู้แล้วล่ะ ว่าพวกทำงานโรงแรมนี่มันเหนื่อยมากจริงๆ การนอนปรับเวลานี่มันยากนะ สำหรับคนที่ไม่เคยนอนตอนที่มีแสงอาทิตย์อันอบอุ่นจนร้อนอย่างฉัน มันทำได้ยากจริงๆ ฉันเลยมาทำงานไม่ทัน นอนไปได้แค่สองสามชั่วโมง หน้าอึนมากตอนนี้ -O-

                “ขอโทษค่ะ ฉันปรับเวลาไม่ทัน วันหลังจะไม่สายแล้วค่ะ” ฉันค้อมตัวลงให้ผู้มีศักดิ์เป็นเจ้านาย แต่.. สายแค่สิบกว่านาทีเองนะ - -

                “อ้าว มาแล้วหรอเหมย” เสียงสวรรค์สาดซัดเข้ามาในหัวสมองของฉัน ครูกุ๊กมาช่วยชีวิตฉันแล้ว ฉันเงยหน้าขึ้นมองตรงไปยังผู้ชายที่วันนี้ใส่ฮู้ดสีดำพิมพ์ลายสปอนจ์บ็อบสีเหลืองสดใส กางเกงยีนส์ขาสามส่วน ทรงผมสีน้ำตาลเข้มของเขาถูกหนีบจนเห็นหน้าม้าเต่อๆ โดยหมวกแก็ปมีสไตล์ใบหนึ่ง เอ๊ะ! นี่เขาย้อมผมจากสีดำเป็นสีน้ำตาลเข้มแต่เมื่อไหร่ แต่... ให้ตาย ลุคแบบนี้มันทำให้ใจฉันเต้นเร็วจัง

    นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนของเขามองมาที่ฉันยิ้มๆ ดินเซ็ลเดินมาโอบไหล่ฉันแล้วขอตัวจากไฮเวย์หุ้นส่วนใหญ่จอมเฮี้ยบ เขาขยี้ผมฉันจนปรกหน้าตาจนทำให้ฉันต้องจัดมันใหม่

    “วันแรกก็มาช้าแล้วหรอฮะเรา” เขาส่งยิ้มแสนสดใสให้ฉันแล้วพาเดินไปที่ล็อกเกอร์หลังร้านซึ่งเป็นที่สำหรับพนักงานเปลี่ยนเสื้อผ้า ตอนนี้คลับก็เริ่มเปิดแล้ว เขาไม่กลัวใครเห็นหรือไง เขาไม่กลัวแต่ฉันกลัวนะ =___=;; ถ้าแม่พวกสาวๆ แสนน่ากลัวแฟนคลับของเขามาเห็นแล้วฉันจะทำไงล่ะทีนี้ มันไม่ตลกเลยนะคะ T^T

    “เหมยปรับตัวไม่ทันน่ะค่ะ” จากที่มองตรงไปข้างหน้าอย่างเดียวโดยไม่คิดอะไร พอหันไปตอบแล้วเห็นหน้าเขาในระยะประชิด ใจเจ้ากรรมมันกลับเต้นไม่เป็นจังหวะซะงั้น ไม่ได้นะ! เราต้องสร้างกำแพงสิ!

    ฉันขืนตัวออกจากดินเซ็ลอย่างรวดเร็ว ทำให้เขาตกใจเล็กน้อย เขาจ้องเข้ามาในตาฉันด้วยสงสัยในการกระทำฉับพลันนี้

    "เหมยเป็นไร ไม่ชอบหรอ?"

    "เอ่อ ไม่ใช่นะคะ" บ้าจริง! ทำไมฉันต้องสองจิตสองใจด้วยนะเนี่ย

    "เอ่อ พี่อาจจะทำไม่เหมาะสมกับเธอไปสินะ" แววตาเขาหม่นเล็กน้อย

    "ไม่ใช่อย่างนั้นค่ะ เพียงแต่เหมยไม่เคยอยู่ใกล้ผู้ชายที่ไหนเลยนอกจากพ่อ"

    "จริง? ผู้หญิงอย่างเหมยนี่หายากนะเนี่ย" แววตาหม่นๆ นั้นหายไป ลักยิ้มน้อยๆ ผุดขึ้นข้างแก้มอย่างมีเสน่ห์  ดินเซ็ลสาวเท้าเข้ามาหาฉัน ลูบผมอย่างอ่อนโยนแล้วส่งกุญแจล็อกเกอร์ให้กับฉัน ฉันรับมันมาไขข้างใน ก็พบยูนิฟอร์มของสาวเสิร์ฟ “ใส่ให้เรียบร้อยนะ เดี๋ยวพี่จะช่วยดูงานให้ เจอกัน” ดินเซ็ลเดินไปทางหน้าคลับ คุยกับโฮสต์คนนึงแล้วหันมาพยักเพยิดให้ฉันเปลี่ยนเสื้อผ้าสักที

    โอ๊ย! แม้แต่ท่าที่ไม่น่าจะดูดี ไหงมันเท่ห์งั้นอ่ะ ><

    ไม่ได้ๆ เราต้องไม่คิดอะไร ไม่คิด... ไม่คิด เราไม่ควรเอาเรื่องเขามาใส่สมองอย่างนี้ เปลี่ยนชุดๆ เฮ้อ!



    花3.gifมาได้อย่างยากเย็นบทนี้ 555555 แต่งอะไรของเธอ คือยังไม่เก่งเนอะ 
    花3.gifเอาละ แม่นางเอกพูดสะกิดให้สร้างกำแพงหัวใจแล้วจ้า ที่จริงก็เป็นเรื่องที่ดีนะ เราจะมีสามีก็ไม่ควรนอกใจเค้าเนอะ
    花3.gifบทหน้าเจอสามีน้อจ้า :D

    THE★ FARRY
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×