ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [EXO] Short Fictions [All x SUHO]

    ลำดับตอนที่ #6 : [D.O. x Suho]:::แฟนบอย (?)%

    • อัปเดตล่าสุด 6 ธ.ค. 56


    Story : OS แฟนบอย
    Couple: (D.O. x Suho)
     








    ดอกกุหลาบบาน ๑ ดอก กับ ดอกกกุหลาบตูม ๒ ดอก ภายในช่อเล็กๆที่ประดับไปด้วยกระดาษห่อสีครีมกับขาวสลับกันพร้อมกับริบบิ้นสน้ำตาลอ่อนซึ่งตัดกันทำให้สีของดอกกุกลาบทั้งสามดอกนั้นเด่นชัดมากขึ้น

     

    คิมจุนมยอน ประคองช่อกุหลาบไว้ในมือคอยกันจากคนอื่นที่เดินผ่านไปผ่านมาหรือเบียดเสียดเข้ามา คนตัวเล็กอยู่ภายในห้องประชุมขนาดพอดีที่สามารถบรรจุคนได้เกือบสองร้อยคนที่ตอนนี้ก็ดูเหมือนจะเกินนะ…

     

    ด้วยความสูง(?)ที่ดูเหมือนจะสูงกว่าคนที่อยู่ล้อมรอบหรือยังไงทำให้ตัวเองไม่รู้สึกอึดอัดเลยแม้แต่น้อย แต่ก็ต้องมาคอยกังวลว่าช่อกุหลาบในมือจะถูกชนจนเละไม่เป็นท่า แถวข้างหน้าขยับไปเรื่อยๆ คนตัวเล็กที่ค่อยๆเดินตามเค้าไปแอบนึกดีใจที่ตัวเองไม่ใช่ผู้ชายคนเดียวในแถว ไม่งั้นคงได้เอาหน้ากากมาใส่

     

     

    เพราะนี้เป็นครั้งแรกที่เค้ามางานแฟนไซน์!

     

     

    ถ้าถามว่าอายมั้ย? คงตอบว่าอาย แต่เค้าก็แค่อยากจะมาให้กำลังใจศิลปินที่เค้าชอบก็เท่านั้นเอง

     

     

    “คนถัดไปครับ!”เสียงการ์ดที่ยืนคุมอยู่ตรงหัวโต๊ะร้องบอก ทำให้คนตัวเล็กต้องรีบสาวเท้าเพื่อไปยังตรงบริเวณกลางโต๊ะที่มีหนุ่มน้อยในดวงใจนั่งยิ้มนั่งคุยกับแฟนคลับก่อนหน้านี้อยู่ จุนมยอนกำมือตัวเองแน่นเพื่อจะระบายความเขิลเพราะไม่รู้จะทำยังไง เพิ่งเคยเห็นศิลปินที่ชอบแบบใกล้ๆ

     

     

    เขิลมากขอพูดเลย!

     

     

    “หวัดดีครับ” ดีโอ นักร้องหนุ่มน้อยน่ารัก เสียงดี เป็นมิตร ยิ้มง่าย แฟนบอยเยอะ(?) ที่จุนมยอนเป็นนิยามไว้ ร้องทักคนตัวเล็กที่ตอนนี้ยื่นช่อดอกไม้มาให้ คนเป็นนักร้องก็รับมาและกล่าวขอบคุณเบาๆ ส่วนจุนมยอนก็ล้วงซีดีในกระเป๋าเพื่อที่จะให้คนตรงหน้าเซ็น

     

     

    “ชื่ออะไรครับ?” นักร้องหนุ่มถาม ซึ่งจุนมยอนก็แค่ขมวดคิ้วส่งไปให้ ความเขิลหายเกลี้ยง กลายเป็นความสงสัยแทน

     
     

    ถามทำไม?


     

    “ครับ?” จุนมยอนพูดขึ้นเพื่อเมื่อกี้เจ้าตัวอาจจะฟังผิดไปก็ได้ อายุเยอะขึ้นหูก็ต้องแย่ลงเป็นธรรมดา ทฤษฎีนี้จุนมยอนใช้บ่อย

     

    “ชื่ออะไรครับ?”

     

    “จุนมยอน คิมจุนมยอน” คนตัวเล็กตอบออกไปแบบงงๆ เพราะถ้าจะเซ็นแล้วมาถามชื่อเค้าทำไม หรือว่าจะเขียนชื่อเค้าลงไปด้วย แล้วเขียนทำไมง่ะ? มันไม่ผิดใช่มั้ยถ้าเค้าจะไม่เข้าใจ เพราะนี้เป็นครั้งแรกของเค้าที่มางานไซน์น่ะ

     

    “อายุเท่าไหร่ครับ?” คำถามที่สองถูกตั้งขึ้น ซึ่งคราวนี้จุนมอยนก็เลิกคิ้วขึ้นสูง จนอีกถึงกลับอมยิ้มส่งมาให้

     

    “จะได้เรียกถูกไงครับ” ดีโอขยายความให้อีกคนฟังซึ่งจุนมยอนก็ร้องอ๋อและก็ตอบออกไปซื่อๆ

     

    “แก่กว่าคุณสองปี”รอยยิ้มหวานที่ชอบทำถูกส่งออกไปจนดีโอยิ้มตาม

     

    “อ่องั้น พี่จุนมยอน ไว้เจอกันอีกนะครับ” ดีโอกล่าวคล้ายจะสนิทสนมกันและก็ยื่นซีดีคืนอีกคนซึ่งจุนมยอนก็ผงกหัวให้และรับมา เค้าจะดีใจดีมั้ยเนี่ยที่อีกคนเรียกเค้าซะเหมือนรู้จักกันมานาน

     
     

    แต่ดอกไม้อีกคนก็ได้รับไว้แล้ว แค่นี้ก็โอเคล่ะมั้ง ถึงจะไม่รู้ว่าอีกคนจะเข้าใจความหมายของมันรึเปล่า ที่ว่า

     

     

     

     

    นี่คือความรักที่ฉันแอบซ่อนไว้










     

    “…มยอน พี่จุนมยอน…พี่จุนมยอน!!!!”

     

     

    ห๊ะ!? ว่าไง????” คนตัวเล็กหลุดออกจากภวังค์ทันทีเพราะเสียงสูงปรี๊ดของน้องชายซึ่งเป็นพนักงานภายในร้านดอกไม้ที่เค้ารับต่อมาจากพ่อแม่ของเค้าอีกที ซึ่งเค้าก็เคยได้ยินมาว่า พ่อเค้าเอาดอกไม้ร้านตัวเองเนี่ยไปจีบแม่! ซึ่งเหมือนเค้าจะเจริญรอยตามเอาดอกไม้ไป อืมม ไม่เชิงจีบนะ แต่ก็ให้ผู้ชาย เขิล!

     

     

    “พี่ครั! เลิกเพ้อถึงไอ่ตาโปนนั้นสักทีพยอนแบคฮยอน เอ่ยพลางทำหน้าเบื่อเพราะนี่ก็ผ่านมาร่วมอาทิตย์ล่ะ พี่ชายเจ้าของร้านเอาแต่นั่งสร้างโลกตัวเองจนเค้าจะฉุดออกมาไม่ไหวล่ะ

     

     

    “ทำไมแบคฮยอนพูดแบบนี้ล่ะ? พี่โป้งเราแล้ว” คนตัวเล็กไม่พูดเปล่าเบะปากชูนิ้วโป้งอีกต่างหาก จนแบคฮยอนถึงกับใจกระตุก โดนจุนมยอนแอดแทคเต็มๆ แบคฮยอนสะบัดหัวเพื่อเรียกสติและพยายามจะเข้าเรื่อง เพราะที่เรียกเมื่อกี้น่ะ โทรศัพท์ตรงหน้าของพี่ชายเจ้าของร้านดังจนเค้าที่อยู่หลังร้านต้องวิ่งออกมารับแถมคุยเสร็จแล้วอีกคนยังนั่งเหม่ออยู่ได้ ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลย

     

     

     

    “เมื่อกี้มีคนโทรมาติดต่องานครับ แล้วผมก็ตกลงไปแล้วด้วย” แบคฮยอนบอกอีกคนที่ตั้งใจฟังเต็มที่

     

     

    “งานอะไรหรอ?”

     

     

    “ไปจัดเช็ตครับ

     

     

    จุนมยอนพยักหน้ารับพร้อมกับระบายยิ้มบางอย่างมีความสุข และนั้นอีกคนก็เข้าใจดีเพราะ คิมจุนมยอนน่ะ ชอบงานนอกสถานที่เป็นที่สุด

     

     

    “เค้าจะเข้ามาวันไหนหรอ?” จุนมยอนถามเกี่ยวกับลูกค้ากับน้องชายตรงหน้าที่สูงพอๆกับเค้าแถมยังดูบอบบางกว่าเค้าซะอีก ถ้าไม่บอกว่าอีกคนนั้นเรียนฮัปกีโด้สายดำมา เค้าจะไม่ให้แบคฮยอนต้อกลับบ้านดึกๆดื่นๆแน่

     

    “พรุ่งนี้ครับ จะมาคุยเรื่องโปรเจคแล้วก็ธีมน่ะครับ”

     

    “อ่อ เข้าใจละ งั้นแบคฮยอนโทรเรียก เซฮุนกับชานยอลมาด้วยนะ” จุนมยอนสั่งเสร็จก็เดินเข้าไปหลังร้านที่มีสวนดอกไม้ขนาดย่อมซึ่งถูกสร้างไว้ภายในเรือนกระจก ไม่ว่าฝนจะตก หิมะจะถล่ม เรือนนี้ก็ไม่สะเทือน คิมจุนมยอนรับรอง!

     

     

     

    จุนมยอนฮัมเพลงสบายอารมณ์พลางรดน้ำต้นไม้ไปเรื่อย เค้าปลูกเองกับมือเลยดูแลรักษาเหมือนลูกไปล่ะ และดอกไม้พวกนี้ก็เป็นดอกไม้ที่เค้าเอาไว้ขายภายในร้านซึ่งดอกไม้ทุกช่อของลูกค้าจะไม่มีดอกไม้เหี่ยวแน่นอน

     

     

     

     

     

    “พี่จุนมยอนครับ! เซฮุนกับชานยอลบอกว่าเดี๋ยวพรุ่งนี้เข้ามา” แบคฮยอนยืนตะโกนจากประตูที่เชื่อมระหว่างสวนกระจกกับห้องเล็กๆหลังร้าน

     

    “ขอบใจมาก!” จุนมยอนตะโกนกลับและยังคงรดน้ำอย่างใจเย็น

     

     

    “พี่ครับ! มีอีกเรื่องนึง ไอ่ตาโปนร้องไลฟ์อยู่!” แต่พอฟังสิ่งที่อีกคนบอกจบปุ๊บคนตัวเล็กก็ทิ้งสายยางและวิ่งไปปิดน้ำทันที และก็สอยขาถี่ยิบวิ่งผ่านน้องชายหายวับเข้าร้านไปทันที

     

     

    “ทีนี้ล่ะไวเชียว” แบคฮยอนหัวเราะอย่างนึกขันเพราะอีกคนน่ะชอบทำอะไรเรื่อยๆแต่ก็ไม่ถึงกับช้า แต่เรื่องอะไรที่เกี่ยวกับไอ่นักร้องตาโปนนั้นน่ะ อย่าได้พูด ความเร็วแสงก็เอาไม่อยู่

     

    แบคฮยอนปิดประตูหลังร้านและเดินตามเข้ามาข้างใน เห็นพี่ชายเจ้าของร้านนั่งอมยิ้มอยู่คนเดียว ไม่ก็บิดไปบิดมาอย่างเขิลอาย แล้วอายใครล่ะน่ะ? คนยืนพิงประตูแอบลอบปฏิกริยาของแฟนบอยตัวเล็กอยู่ก็ยิ้มตามไม่ได้เพราะมันน่ารักเกินไปน่ะสิ

     

     

     

    ผู้ชายหน้าตาน่ารัก(เกี่ยว?)อายุ 20+ มานั่งกรี๊ด(?)ผู้ชายอายุน้อยกว่าอยู่หน้าทีวี

     

     

     

     

    “แบคฮยอน ดีโอน่ารักเน๊อะ?” จุนมยอนหันมาฉีกยิ้มกว้างถามความเห็นจากน้องชาย

     

     

    “น่ารักสิครับ” พี่จุนมยอนน่ะนะ… แบคฮยอนก็ตอบยิ้มๆแต่ไม่ได้ต่อประโยคนั้นไปเพราะเดี๋ยวจะทำให้อีกคนเสียสมาธิ(?) ได้แต่พูดในใจเพราะนิสัยเด็กๆของพี่ชายเจ้าของร้านน่ะแอดแทคแบคฮยอนคนนี้ไม่ต่ำกว่าวันละสิบครั้งจริงๆ และเค้าซึ่งมีภูมิต้านทานยังคงรอดชีวิตอยู่ได้ เค้าเลยอยากจะรู้จริงๆว่า ไอ่นักร้องตาโปนนั้นจะไม่สนใจพี่ชายเจ้าของร้านเค้ามั่งเลยรึไงนะ?

     

     

     

    “ว้า~ จบละ” จุนมยอนทำจมูกยู่ใส่ทีวีตรงหน้าอย่างนึกเสียดาย เมื่อกี้เค้าน่าจะอัดเอาไว้!

     

     

    “โธ่ พี่จุนมยอน ในเน็ตเดี๋ยวก็มีคนโหลดขึ้นเว็ป” แบคฮยอนหัวเราะหึแล้วและบอกอีกคนไป เพราะสีหน้าไอ่เสียดายของอีกคนเนี่ยมันดูจะออกนอกหน้ามากเลยนะ

     

     

    “อื้อ!”

     

     

     

     

     

     

     

    ชายหนุ่มสี่คนคล้องป้ายสต๊าฟที่คนจัดงานนำมาให้ไว้เข้าออกตึกช่วยกันขนดอกไม้ขึ้นไปที่ชั้น 10 เพื่อที่จะไปจัดเซ็ตภายในสตูดิโอ ทั้งรถเข็น ทั้งตระกร้าใส่ดอกไม้ถูกใช้เป็นเครื่องมือในการขน แต่ก็ต้องใช้ความระมัดระวังเป็นอย่างสูงเพราะถ้าดอกไม้ช้ำ พี่ชายเจ้าของร้านได้งอลเป็นอาทิตย์แน่

     

    “ถ้าพี่รู้ว่าเค้าจะให้ทำวันนี้ พี่จะปฏิเสธซะเลย” พี่ชายเจ้าของร้านตัวเล็กบ่นกับน้องชายทั้งสามคน เพราะเมื่อวานเค้าดันไปคุยกับลูกค้าที่ร้านไม่ได้เลยพลาดข้อมูลอะไรๆไปเยอะ และแถมให้แบคฮยอนตัดสินใจแทน อีกคนก็ดันตอบตกลง ไม่มีเวลาให้เค้าเตรียมตัวเลย

     

    “พี่จุนมยอน เชื่อผมสิ ว่าวันนี้พี่จะขอบคุณพวกผม” ชานยอลหนึ่งในพนักงานพาร์ทไทม์ร้องบอกพลางโชว์ฟันสามสิบสองซี่ ซึ่งจุนมยอนก็ขมวดคิ้วใส่ จะขอบคุณทำไมจะโดดฟรีคิกใส่น่ะสิไม่ว่า โทรมารับงาน คุยงาน แล้วก็มาทำงาน เร็วไปมั้ยห๊าา!?

     

    “ทำไม? พวกนายปิดบังอะไรพี่ไว้?”

     

    เดี๋ยวสายๆพี่ก็รู้” ชานยอลพูดทิ้งท้ายไว้และก็เดินเอาดอกไม้เข้าไปวางไว้

     

    “เซฮุนบอกพี่หน่อย” จุนมยอนที่คิดว่าถามน้องชายตัวสูงไปก็ไม่มีประโยชน์เลยหันมาถามพนักงานน้องเล็กข้างๆแทน

     

    “บอกพี่ แล้วพี่จะให้อะไรผมตอบแทน” เซฮุนหันมาถามหน้าตาย ทำให้จุนมยอนถึงกับไปไม่เป็นได้แต่อ้าปากพะงาบๆ

     

    “เซฮุนบอกหน่อยก็ไม่ได้!” จุนมยอนทำเป็นงอลอีกฝ่ายไม่พอยังทำเสียงเชอะดังๆให้อีกคนได้ยินและก็เดินตามน้องๆเข้าไป

     

    “พี่จุนมยอน! กำลังใจในการทำงานคร้าบบ” แบคฮยอนวิ่งร่าเข้ามาหาอีกฝ่ายที่ทำหน้างอลส่งมาให้ แต่แบคฮยอนก็ไม่สนใจนำดอกบัตเตอร์คัพสีเหลืองสดในมือมาทัดหูอีกคน

     

    “แบคฮยอน! จะหาว่าพี่ซื่อบื้อหรอ!?” จุนมยอนถามอีกคนเสียงดังเพราะคิดว่าอีกคนแกล้งที่เอาดอกบัตเตอร์คัพมาให้เค้าตอนนี้ เพราะความหมายของดอกบัตเตอร์คัพน่ะ หมายถึง สำหรับคุณที่เป็นคนซื่อ(บื้อ)

     

    “ป่าวนะพี่จุนมยอน ผมเห็นมันน่ารักดี” แบคฮยอนหัวเราะแห้งๆพลางรีบแก้ตัวทันทีเพราะความหมายของดอกไม้แบคฮยอนรู้ดีก็เลยแค่อยากจะแกล้งเจ้าตัวแบบที่เจ้าตัวเค้าเข้าใจนั้นแหละแต่ก็ต้องโกหกออกไปไม่งั้นมีงอลหนัก

     

    “เชื่อก็ได้ ขอบใจแล้วกัน” จุนมยอนยิ้มน้อยๆเป็นเชิงขอบคุณอย่างซื่อๆ ซึ่งข้อนี้ล่ะที่ทำให้น้องๆหลงรักและอยากปกป้อง พี่แกเค้าเหมาะกับดอกบัตเตอร์คัพจริงๆนั้นแหละ

     

     

     

    การจัดเซ็ตเป็นไปด้วยดีเพราะจุนมยอนที่คราวนี้ต้องทำตามแผนงานที่แบคฮยอนวางไว้เพราะเจ้าตัวดันไม่อยู่เมื่อวานเอง แต่ก็นะจุนมยอนไม่ได้อะไรอยู่แล้ว เค้าไว้ใจน้องชายคนนี้ ทั้งสี่คนช่วยกันจัดไปด้วย หยอกล้อกันไปด้วยแต่ดูเหมือนพี่ชายเจ้าของร้านคนเดียวที่โดนแกล้งอยู่เสมอๆ แต่รอยยิ้มยังคงประดับอยู่บนใบหน้าไม่ขาดสาย

     

     

    รอยยิ้มสวยถูกมองโดยดวงตากลมโตของชายหนุ่มที่ตอนนี้เดินเข้ามาภายในสตูดิโอ เสื้อเชิ๊ตสีฟ้าลายเรียบพร้อมกับกางเกงสียาวถึงเข่าสีครีมทำให้ชายหนุ่มดูสบายๆเหมาะกับธีมดอกไม้ในการถ่ายแบบครั้งนี้

     

    เสียงหัวเราะที่ดังมาจากฉากด้านในเรียกความสนใจจากนักร้องหนุ่มคนนี้ได้อีกครั้งนึง และเค้าก็จำคนๆนั้นได้ดี คนที่มางานแฟนไซน์ของเค้าเมื่ออาทิตย์ก่อน

     

     

    “พี่จุนมยอน” ดีโอเรียกชื่อของอีกฝ่ายเบาๆ ใช่…เค้าจำได้ไม่ลืมผู้ชายหน้าขาวยิ้มสวยคนนั้น คนที่เค้าคิดว่าน่าเสียดายที่ปล่อยไปคราวนั้น
     





     

    ____________________(?)%____________________



     

    หายหน้าหายตาค่ะ  กราบเลยยยยย

    5555555 

    แต่ก็ดีใจนะค่ะที่มีคนรอคนอ่าน

    ตาม @bikiviki19 มาบ่นมาตามมาทวงได้หมดค่ะ แหะๆ

    มาฟอลอ่าน MiniDrama ได้นะคะ เป็นไดอาล็อกสั้นๆที่ชงเองดื่มเอง 5555

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×