คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : Sweetly Chapter 5 :: บุกถิ่นสัตว์ป่า (เก้ง กวาง ชะนี) 100%
10/04/12
เย้ ลงครบ 100% แล้วค่ะ ไชโย้ กว่าจะแต่งตอนนี้จบมันช่างนานจริงเลย T^T ถ้าอ่านแล้วชอบก็อย่าลืมกดโหวตและคอมเม้นนะคะ 1 คอมเม้น = 1 กำลังใจให้ไรท์เตอร์ค่ะ :D
ขอบคุณทุกๆคอมเม้นที่แนะนำ ติชม และให้กำลังใจด้วยนะคะ มันมีความหมายกับไรท์เตอร์มากๆ ทำให้ไรท์เตอร์มีกำลังใจและแรงในการแต่งต่อจริงๆ ^^ สัญญาค่ะว่าจะนำไปปรับปรุงแก้ไข และจะมารีไรท์ใหม่อีกครั้ง ขอบคุณมากๆนะคะ
_______________________________________________________________________
Sweetly Chapter 5
บุกถิ่นสัตว์ป่า (เก้ง กวาง ชะนี)
ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าฉันจะได้เจออั๋นที่นี่ หลังจากที่สู้รบกับอเล็กซ์มาทั้งวัน การที่ได้มาเจอคนหน้าตาดีและนิสัยน่ารักอย่างอั๋นช่างเป็นอะไรที่แก้เซ็งได้ดีแท้ *O* ตอนนี้ฉันกำลังสมัครเรียนกวดวิชาอยู่ค่ะ แหม...ก็ฉันเป็นเด็กเตรียมเอนทรานซ์แล้วนี่นา ต้องขยันกันนิดนึง...
อ่ะๆ ก็ได้... ฉันยอมรับก็ได้ว่าฉันมาสมัครก็เพราะเห็นอั๋นเรียนที่นี่ -_-; แต่นั่นก็เป็นแค่แรงจูงใจส่วนหนึ่งเท่านั้นแหละน่า จริงๆนะ ฉันตั้งใจมาสมัครเรียนตั้งแต่แรกแล้ว เรื่องที่อั๋นเรียนที่นี่เป็นของแถม ฮิๆๆ
“สมัครเรียบร้อยแล้วนะคะ น้องโชคดีนะเนี่ยที่มาสมัครตอนนี้ ขืนรอให้คอร์สเริ่มไปแล้วอีกอาทิตย์นึง น้องคงต้องไปสมัครสาขาอื่น ” พี่พนักงานของโรงเรียนพูดพลางยื่นหนังสือเรียนมาให้ฉัน
“แหะๆ ค่ะๆ เอ่อพี่คะ...รอบที่หนูลงเนี่ยจะเลิกเรียนตอน 4 ทุ่มใช่มั้ยคะ?”
“ใช้จ้ะ เดี๋ยวก็จะเลิกเรียนแล้วเนี่ย...”
ทันทีที่พี่เขาพูดจบ เสียงออดก็ดังขึ้นและประตูบานเลื่อนของห้องเรียนแทบทุกห้องที่เปิดออกแทบจะพร้อมกัน นักเรียนจากห้องเรียนต่างๆก็ไหลทะลักออกมาจากบานประตูแคบๆจนมาเบียดกันเต็มทางเดินไปหมด ฉันรีบสวมวิญญาณเป็นยีราฟ ยืดคอชะเง้อมองหาอั๋นทันทีแต่ก็ไม่สามารถมองผ่านฝูงชนที่เดินกันขวักไขว่เต็มทางเดินได้ ไม่รู้เกิดมาไม่เคยเดินรึยังไงกัน -_-;
อ๊ะ! นั่นไงๆ ฉันเจอเขาแล้ว ทันที่ที่อั๋นออกมาจากห้องก็เหมือนกับว่ามีแสงออร่าเปล่งประกายทำให้ฉันโฟกัสสายตาไปที่เขาได้อย่างรวดเร็ว -..- เพิ่งสังเกตว่าเมื่อเทียบกับผู้ชายทั่วไป อั๋นมีผิวที่ขาวโอเวอร์มากๆ ไม่รู้ว่าไปตกถังแป้งที่ไหนมา ขาวอย่างกับกินบรีสซักผ้าขาวเข้าไปวันละสิบถุงแน่ะ =O=
“อั๋น! อุ๊บ!”
ด้วยความที่ตาลายในรัศมีความหล่อที่เปล่งประกาย ฉันเลยตะโกนเรียกเขาไปอย่างลืมตัว อั๋นสะดุ้งเฮือก เงยหน้าขึ้นจากหนังสือที่ถืออยู่ในมือแล้วหันมามองหน้าฉัน และแม้ว่าคนจะมองเราสองคนมากแค่ไหน แต่เขาก็ยังส่งยิ้มกลับมาและโบกมือให้น้อยๆ
กรี๊ดดดดด เอาใจฉันไปเลยค่า >O<
“อ้าว ไงต้นรัก มาทำอะไรที่นี่ล่ะ”
“ฉันมาสมัครเรียนน่ะ >_< นายก็เรียนที่นี่เหมือนกันเหรอ ไม่เห็นรู้มาก่อนเลยอ่ะ” ฉันพูดโกหกไปแบบเนียนๆ แบบแม้แต่ดาราฮอลลีวูดยังต้องสิโรราบ
“อื้อใช่ ฉันเรียนที่นี่ ^^ แล้วนี่...มาคนเดียวหรอ?” โอ๊ะ...ฉันลืมเรื่องอีตาอเล็กซ์ไปซะสนิทเลยแฮะ -*-
“อ๋อเปล่าหรอก ฉันมากับอเล็กซ์น่ะ เขารออยู่ด้านนอก...”
“งั้นเหรอ... แล้วสมัครเรียบร้อยแล้วใช่มั้ย? เธอจะกลับรึยัง? ให้ฉันไปส่งรึเปล่า?” อั๋นถามพลางมองออกไปนอกหน้าต่างพลางเกาหัวตัวเอง ไม่ยอมมองหน้าฉัน อั๊ยยย...เขาต้องเขินฉันแน่ๆเลย ฮิๆๆ (หลงตัวเอง)
ฉันพยักหน้าให้เขา แล้วเราก็เดินออกมาด้านนอกอาคาร ป่านนี้อเล็กซ์คงรอจนรากงอกออกดอกออกผลแล้วมั้งเนี่ย แต่ทันทีที่เราออกมาฉันก็ไม่เห็นแม้แต่ปลายเล็บของอีตานักเรียนแลกเปลี่ยน O_O อ้าวเฮ้ย! หมอนั่นหายไปไหนฟะ!?
“อเล็กซ์ไปไหนซะแล้วล่ะ ไหนเธอบอกว่ายืนอยู่หน้าตึกไง” อั๋นถามพลางมองหาอเล็กซ์
“ฉันก็ไม่รู้ เมื่อกี้ฉันก็บอกเขาแล้วนะว่าให้ยืนรอตรงนี้นี่”
กรี๊ดดดด อีตาบ้านั่น...หายไปไหนเนี่ยยย >O< อยู่ดีไม่ว่าดีหาแต่เรื่องใส่ตัวแถมยังพาลชาวบ้านเขาเดือดร้อนไปด้วยอีก ฉันหันซ้ายหันขวาเผื่อว่าจะเจออีตานี่แอบอยู่แต่ก็ไม่เห็นวี่แวว T^T นี่ถ้าอีตานั่นเป็นอะไรฉันไม่ซวยเรอะ ถ้าแม่รู้ก็คงฆ่าฉันแน่ๆ ดีไม่ดีพ่อแม่ญาติพี่น้องอเล็กซ์คงบินมาจากอังกฤษแล้วมากระทืบฉันซ้ำ แค่คิดก็ช้ำไปทั้งตัวและหัวใจดวงน้อยๆแล้วว
จริงสิ! ฉันโทรหาเขาได้นี่นา ลืมไปได้ยังไงนะว่าเราเพิ่งไปซื้อมือถือมาเมื่อเช้า ฉันไม่รอช้ารีบไล่ชื่อหาเบอร์อเล็กซ์ในโทรศัพท์และโทรออกทันที
อ๊ะ...ติดแล้วๆ ฉันถือสายรออย่างลุ้นๆ แต่สักพักสายก็ตัดไปเพราะไม่มีคนรับ อีตาบ้าเอ๊ย! มีมือถือแต่ไม่ยอมรับสาย อย่างงี้อย่ามีมันเลยดีกว่า -_-^
“เป็นไงบ้าง?”
“เขาไม่รับสายอ่ะ T^T ฉันจะทำยังไงดีล่ะเนี่ย?” ฉันนั่งลงตรงขอบฟุตบาท ในมือยังคงโทรหาอเล็กซ์ต่อไป
“เราน่าจะลองเดินหาแถวๆนี้ก่อนนะ ถามไปเรื่อยๆน่าจะมีคนเห็นเขาบ้างแหละน่า ปะ ไปกันเหอะ ^^”
อั๋นยิ้มให้พลางยื่นมือมาตรงหน้าฉัน พอเขาเห็นว่าฉันอึ้งกิมกี่พูดอะไรไม่ออก เขาก็จัดการจับมือของฉันเองแล้วออกแรงดึงฉันขึ้น ฉันรู้สึกถึงเลือดที่สูบฉีดไปทั่วร่างจากหัวจรดปลายเท้า จังหวะที่มือของเราสัมผัสกันเหมือนเป็นเวลาที่ยาวนานมากแล้วมือเขาก็นิ่มเป็นบ้าเลย -///- ฉันที่เขินจนทำอะไรไม่ถูกได้แต่เดินตามอั๋นไปถามคนนู้นคนนี้เงียบๆ สักพักอั๋นก็หันมาพูดกับฉัน
“ฉันว่าเราน่าจะลองเข้าไปถามคนในนี้ดูด้วยนะ ^^“ อั๋นพูดแล้วชี้มือเข้าไปในซอยๆหนึ่งทำเอาฉันอ้าปากค้าง
แสงไฟหลากหลายสีสันจากป้ายชื่อร้านและป้ายโฆษณาต่างๆแยงเข้าลูกกะตาฉันทันทีที่หันไป ผู้คนจำนวนมาก ทั้งนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติและนักท่องราตรีชาวไทยเดินเข้าร้านนู้นออกร้านนี้เป็นว่าเล่น ในมือถือเครื่องดื่มมึนเมาไว้ส่วนปากก็หัวเราะเฮฮาสนุกสนานไปตามจังหวะเพลงและปริมาณแอลกอฮอลล์ที่อยู่ในกระแสเลือด มันก็คงจะเป็นภาพที่พบเห็นได้ทั่วไปตามสถานบันเทิงของเมืองไทย ถ้าคนที่เดินอยู่ในซอยนี้กว่าครึ่งไม่ได้เป็นผู้ชายพันคอขนนกสีชมพูยืนเต้นกันอยู่บนบาร์ -O-!!
“น่ะนี่มัน...บาร์เกย์งั้นเหรอ!? อุ๊บ” ฉันหันไปถามอั๋นเสียงดัง ก่อนที่เขาจะรีบเอามือตะครุบปากฉันเอาไว้ O///O
“ชู่วว เธอเสียงดังไปแล้วนะ -O-“ ฉันพยักหน้าเบาๆให้เขารู้ว่าฉันโอเคแล้ว(และเขินมาก) อั๋นเลยค่อยๆปล่อยมือออก
“เราต้องไปตามหาอเล็กซ์ในนั้นด้วยเหรอ -_-;”
“อืม... ก็น่าลองดูนี่นา ที่นี่ฝรั่งเยอะจะตาย อเล็กซ์อาจจะเข้าไปในนั้นก็ได้นะ”
ฉันละสายตาจากอั๋นแล้วหันกลับไปมองในซอย อืม...สีลม ซอย 2 นี่เอง เรามาถึงแหล่งเลยสินะ -_-; ฉันเห็นสาวประเภทสองหลายคนในชุด เรียกว่าใส่หรือไม่ใส่ก็ไม่แตกต่าง =O= เดินไปเดินมาเต็มซอยไปหมด สวยๆทั้งนั้นเลยแฮะ แต่ละคนก็ตู้มๆทั้งน้านน T^T ไปทำที่ไหนนะ พาฉันไปมั่งสิ... เอ๊ะ นี่มันใช่เวลาคิดอะไรแบบนี้ที่ไหนกัน! แต่จะให้ฉันคิดยังไงก็คิดไม่ออกว่าอีตาอเล็กซ์จะเข้าไปในที่แบบนี้ทำไมกัน นอกจากหมอนั่นจะโง่จนแยกไม่ออกเลยว่าคนพวกนี้เป็นกระเทยไม่ใช่ผู้หญิง (ใช่เลย)
ทันใดนั้นเอง ฉันก็ได้ยินเสียงคุยกันของสาวๆ(แต่กายเป็นชาย)ที่บู้ทขายเหล้าใกล้ๆกับทางเข้า
“นี่เธอ จำพ่อหนุ่มฝรั่งตาเขียวหุ่นน่าฟัดคนนั้นได้ปะ?”
“อ้อ คนที่ผมสีน้ำตาลๆ หล่อๆปะเธออ! >_< อ๊ายย หล่อสะบัด ฮอตระเบิดอ่ะ บร๊ะเจ้ามั้กมั่ก!”
“ใจร่มๆแล้วฟังฉันก่อนย่ะ เมื่อกี้ฉันแอบเห็นยัยกระเทยทึนถึกเชอร์รี่มันคาบพ่อรูปหล่อไปแล้วอ่ะ! ป่านนี้เสร็จนังนั่นแล้วแน่เลย”
“กรี๊ดด นังกระเทยนี่อีกแล้วเหรอ อย่าให้แม่เจอนะ จะตามไปตบถึงที่เลย เฮอะ!”
หืมมม?? ...ฝรั่งผมสีน้ำตาล ตาสีเขียวงั้นเหรอ? ทำไมมันฟังแล้วมันรู้สึกตงิดๆเหมือนจะเป็นอีตาอเล็กซ์เลยแฮะ งั้นถ้าเป็นหมอนั่นจริง ก็แสดงว่าเขาถูกกระเทยฉุดน่ะสิ!?
เป็นประสบการณ์แลกเปลี่ยนที่ดีจริงๆ =O=;;
ครืดดด
ฉันหยิบมือถือจากกระเป๋ากางเกงออกมาดู หือ? ข้อความใหม่หรอ? ใครมันส่งข้อความมาตอนห้าทุ่มฟะเนี่ย -_-^ แต่แล้วฉันก็เบิกตาโพลงทันทีที่เห็นว่าเป็นอีตาอเล็กซ์! กรี๊ดด อีตานั่นยังไม่ตายย >O< (?)
‘Im at V-Violet* Club, Silom soi 2. Come over here rite now!’ (*เป็นชื่อสมมตินะจ๊ะ)
หา? คลับอะไรของเขาวะ แถวนี้มีคลับที่ไหน มีแต่ผับ เอ๊ะหรือว่ามันคืออันเดียวกันหว่า -“- ให้ตายสิ! ทำไมต้องส่งมาเป็นภาษาอังกฤษด้วยนะ ฉันยิ่งแปลไม่ออกอยู่ (แล้วอเล็กซ์จะส่งเป็นภาษาไทยได้ยังไงยะ?) แถมยังใช้ภาษาแสลงส่งมาอีกนะ คำว่า rite ก็คือ right ใช่มั้ย? เขาจะพิมพ์มาให้ฉันงงเพื่ออะไร =_=^^
“วีไวโอเล็ต??” อั๋นที่ชะโงกหน้ามาดูอ่านข้อความที่อเล็กซ์ส่งมา พลางเงยหน้าขึ้นมองข้างหน้าแล้วปาดเหงื่อเบาๆ
“วีไวโอเล็ตอยู่ที่ไหนอ่ะ นายรู้รึเปล่า?”
“เอ่อ นั่นไง วีไวโอเล็ต -O-;;”
อั๋นพูดพลางชี้มือไปที่กลุ่มผู้ชายกลุ่มใหญ่ที่ร้องโวยวายเสียงดังและพยายามรุมกันเข้าไปในบาร์ขนาดใหญ่แต่ทางเข้าเล็กเท่าหลอดกาแฟ แถมยังมืดตึ้ดตื๋ออีกต่างหาก ได้ยินเสียงเพลงดังกระหึ่มออกมาจากด้านใน ฉันมองขึ้นไปด้านบนก็เห็นตัวอักษรเขียนเป็นคำว่า V-Violet ด้วยสีม่วงตัวเบ้อเริ่ม
“อเล็กซ์อยู่ในนั้นจริงๆเหรอเนี่ย...”
ฉันพึมพำพลางกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก ยิ่งเห็นบรรดาคอร์แมน หรือพนักงานของบาร์ที่มีหน้าที่ดึง ลาก อุ้มแขกเข้าร้าน ประมาณเกือบยี่สิบคนยืนกวักมือกันเต็มหน้าร้านไปหมดแล้วอยากจะวิ่งหนีกลับบ้านซะจริงๆ ให้ตายสิ T_T
“สงสัยว่าเราคงจะเข้าลำบากแฮะ...” อั๋นพูดพลางมองหน้าฉันแล้วหันซ้ายหันขวา ก่อนจะเข้าไปคว้าหมวกแก๊ปมาจากร้านขายของข้างๆ(จ่ายเงินแล้วนะ) จัดการรวบผมของฉันขึ้นเป็นมวยก่อนจะใส่หมวกทับเข้ามา แล้วเขาก็กลับมามองฉันอีกครั้งตั้งแต่หัวจรดเท้า ก่อนจะพยักหน้าอย่างพอใจ “อืม... น่าจะโอเคแล้ว คงไม่มีใครสังเกตหรอกว่าเธอเป็นผู้หญิง เพราะคนข้างในเบียดกันจะตาย ^^”
“อ่าฮะ -O-//”
ฉันก้มหน้าเขินๆ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาอีกทีเมื่อได้ยินเสียงตะโกนดังลั่นของบรรดาชายหนุ่ม(ไม่แท้)ทั้งหลายด้านใน พร้อมๆกับแสงสปอร์ตไลท์และเลเซอร์สุดอลังการที่สว่างวาบออกมาด้านนอก ฉันหันไปมองหน้าอั๋นก่อนที่เราจะรีบยัดตัวเองเข้าไปด้านในบาร์ทันที
คน...แน่น...ม๊ากก! หายใจไม่ออกเลยให้ตายเหอะ T_T ฉันพยายามเงยหน้าขึ้นสูงเพื่อหาอากาศบริสุทธิ์ในขณะที่แทรกตัวเข้าไปในทางเข้าแคบๆที่คละคลุ้งไปด้วยกลิ่นเหล้า เบียร์ บุหรี่ น้ำหอมและกลิ่นตัว =_=; แย่ที่สุดตรงกลิ่นตัวนี่แหละ... เสียงโห่ร้องยังดังต่อเนื่องตลอดทางตั้งแต่ฉันเข้ามา -_-; ฉันชักหวั่นๆแล้วสิว่าอีตาอเล็กซ์จะเป็นอะไรรึเปล่า ตอนนี้เราเกือบเดินมาถึงด้านในแล้ว อีกนิดเดียวเท่านั้น! ฉันสูดหายใจเข้าไปในเต็มปอดก่อนจะรีบมุดผ่านผู้ชายสองสามคนที่ยืนขวางประตูไว้เข้ามาด้านในทันที
แล้วภาพตรงหน้าก็ทำเอาฉันก้าวขาไปไหนไม่ได้เลยทีเดียว =O=;;;
ผู้ชายจำนวนมาก(ขอเน้นว่ามัน มากกกกก จริงๆ)ยืนล้อมแท่นอะไรสักอย่างที่เป็นวงกลมสูงกว่าพื้นเกือบหนึ่งเมตรได้ บนนั้นมีผู้ชายสามคนยืนเรียงกันเป็นแถว สองคนที่ยืนอยู่ด้านข้างนั้นใส่กางเกงหนังรัดติ้วสีดำเงาแวบ ท่อนบนไม่ใส่อะไรเลย -_-; ในมือถือแส้หนังสีดำสะบัดไปมาตามจังหวะเพลง แต่เมื่อฉันเลื่อนสายตาไปมองเห็นหน้าคนตรงกลางชัดๆก็ช็อคยิ่งกว่าเก่า!
น่ะ...นั่นมันอีตาอเล็กซ์นี่นา! ให้ตายสิ เขาขึ้นไปทำอะไรบนแท่นบูชายัญนั่นฟะ!? TOT มือทั้งสองข้างถูกมัดตรึงไว้กับเชือกที่ห้อยลงมาจากเพดาน เข่าสองข้างตั้งอยู่บนพื้น เสื้อเชิ้ตสีขาว...(เสื้อโปโลที่หมอนี่ใส่มาตอนแรกหายไปไหน!?) ถูกปลด...ไม่สิ ถ้าดูจากสภาพน่าจะเรียกว่าถูกกระชากออกมากกว่า เพราะมันยับยู่ยี่และมีกระดุมหายไปหลายเม็ดเลย เผยให้เห็นแผงอกไล่ลงมาถึงหน้าท้องที่มีกล้ามนิดๆพอดูดี ผมสีน้ำตาลยุ่งเหยิงชี้โด่เด่ไปคนละทาง (โดนกระเทยรุมทึ้ง) ดวงตาปรือดูหวานเยิ้มจนฉันขนลุก (หมอนี่ต้องเมามาแน่ๆ) ริมฝีปากเขาเผยอออกเล็กน้อยและแห้งผาก มีหยดเหงื่อค่อยๆไหลจากใบหน้าของเขาลงไปสู่ลำคอและซึมหายไปในเสื้อเชิ้ตที่ตอนนี้เปียกชุ่มไปหมด (คาดว่าคงมาจากสปอร์ตไลท์ที่อยู่บนหัว)
อึก... (เสียงฉันกับอั๋นกลืนน้ำลายลงคอพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย -O-;)
กรี๊ดดด!! เกิดอะไรขึ้นกับอีตานักเรียนแลกเปลี่ยนเนี่ยย >O<!! เขา...เขาน่าฟัดมาก เอ๊ย! ไม่ใช่ๆ ฉันหมายถึงว่าเขาเหมือนไปฟัดกับอะไรมาต่างหาก =O=;; ฉันสูดหายใจลึกๆก่อนจะมองไปที่ร่างของอเล็กซ์ที่โงนเงนไปมา ที่เขาทรงตัวได้ก็เพราะเชือกที่มัดข้อมือเอาไว้เท่านั้น และนั่น! O_O นั่นมันรอยแส้ฟาดนี่ มีเลือดไหลซิบๆเลย
ก่อนที่ฉันจะได้ตัดสินใจทำอะไร บนเวทีก็ปรากฏร่างของผู้ชายคนหนึ่งในชุดรัดรูปลายเสือดาวโผล่มาจากด้านหลังของอเล็กซ์
“สวัสดีอีกครั้งนะฮะ พวกพ้องชาวคลับวี สีม่วงทั้งหลายย ค่ำคืนนี้สนุกสนานกันมั้ยฮ้า >O<!”
“เฮ!!!”
“อา...อย่างที่เรารู้กันว่าพ่อหนุ่มน้อยน่ากินคนนี้!” เจ๊ลายเสือดาวคนนั้นพูดพลางผายมือไปที่อเล็กซ์ที่นั่งหน้ามึนอยู่ที่พื้น “เป็นเซอร์ไพรส์พิเศษของเราที่เจ๊เผอิญไปเจอเข้า เขาเปรียบดั่งลูกแกะน้อยที่พระเจ้าประทานลงมาสร้างความกระชุ่มกระชวยให้กับชาวโลกหัวใจสีม่วงอย่างเรา!”
“เฮฮฮ!!!” เสียงโห่ร้องดังขึ้นอีกรอบ เจ๊เสือดาวยิ้มกว้างพลางอ้าแขนออก180 องศา =O=;
“เอาล่ะๆ ใจเย็นๆนะจ๊ะหนุ่มๆสาวๆทั้งหลาย เจ๊อยากจะบอกว่าที่ผ่านมาน่ะแค่แซมเปิ้ลๆเท่านั้น ของจริงมันต่อจากนี้ต่างหาก! มิวสิค!”
เสียงดนตรีแดนซ์มันส์ๆเปลี่ยนไปเป็นท่วงทำนองเซ็กซี่ร้อนแรงทันทีที่เจ๊เสือดาวดีดนิ้ว พร้อมๆกับแส้ในมือของสององครักษ์ที่ยืนด้านข้างฟาดลงพื้นดังฟั่บๆเฉียดหน้าอเล็กซ์ไปนิดเดียว นิ้ดเดียวจริงๆสาบานได้ =O= เจ๊กระเทยน้ำดำตราเสือดาวเริ่มเดินวนไปรอบๆอเล็กซ์ที่เงยหน้าขึ้นมองด้วยท่าทางหวาดผวาสุดๆ (สงสัยจังว่าเกิดอะไรขึ้นตอนที่ฉันยังมาไม่ถึง -..-) ก่อนจะอ้อมไปด้านหลังแล้วยื่นมือไปสัมผัสกับใบหน้าของอเล็กซ์ไล่มาถึงแผงอกลงไปหน้าท้องที่มีเหงื่อเกาะพราว แล้วเอื้อมมือไปทำท่าจะปลดเข็มขัดท่ามกลางเสียงโห่เชียร์ของคนดูด้านล่าง...
อึก!! (ฉันกับอั๋นกลืนน้ำลายลงคอพร้อมกันอีกครั้งด้วยความสยิว เอ้ย! สยอง -_-;;)
ไม่ได้การแล้ว! ฉันต้องรีบทำอะไรสักอย่างก่อนที่อีตาอเล็กซ์จะโดนลวนลามไปมากกว่านี้ >_< ฉันพยายามสะบัดหัวเรียกสมาธิและสติสัมปัชชัญญะกลับมาให้มากที่สุด ก่อนจะวิ่งผ่านอั๋นไปที่ยังคงจ้องมองอเล็กซ์บนแท่นบูชายัญตาแทบถลนไปบนเวที
“หยุดนะ!!”
O_O!!
ราวกับมีคนกดปุ่มพอสเอาไว้ ทุกๆคนต่างก็ชะงักค้างในท่าทางต่างกัน ก่อนจะจ้องฉันเขม็งเป็นตาเดียว -O-; ฉันรีบใช้โอกาสนี้ตอนที่ทุกคนยังอึ้งๆงงๆ เข้าไปแก้มัดที่มือให้อเล็กซ์ทันที โดยลืมไปซะสนิทเลยว่าเจ๊กระเทยลายเสือดาวก็ยืนอยู่ตรงนั้นด้วย
ผลั่ก!
“นี่หล่อน! คิดว่าตัวเองเป็นใครกันถึงได้เดินอาดๆขึ้นมาบนเวทีห๊า!”
ฉันที่โดนแรงมหาศาลของเจ๊กระเทยผลักลงไปที่พื้นพยายามลุกขึ้นมาอย่างทุเรศทุรัง -_-^ โธ่เว้ย! เดี๋ยวก้นสวยๆของฉันมีรอยช้ำหมดหรอก ยัยกระเทยป่าเอ๊ย! โมโหแล้วนะ
“ฉันเป็นใครแล้วมันเกี่ยวอะไรกับนมปลอมๆของเธอรึไงยะ ยัยกระเทย! -O-^” ฉันตอกกลับพลางชี้ไปที่หน้าอกตู้มๆผิดปกติที่ไม่เข้ากับหน้าของยัยกระเทยร่างยักษ์นี้เลยสักนิด
“กรี๊ดด! หยาบคาย! ทำเป็นปากดีนะยะ อย่างกับว่าของตัวเองจริงนักล่ะ ยัยกระเทยตอแหล!”
“ของฉันของจริงย่ะ ฮึ...แค่นี้ก็ดูไม่ออกรึไงว่าฉันเป็นผู้หญิง ยัยกระเทยควายเอ๊ย! >O<” ฉันด่าพลางถอดหมวกออกปล่อยผมยาวสลวยที่ฉันสุดแสนจะภูมิใจออกมา ยัยเจ๊กระเทยถึงกับอ้าปากหวอล่อแมลงวัน
“หล่อน...หล่อนเป็นชะนีนี่! ใครให้หล่อนเข้ามาไม่ทราบยะ ออกไปเดี๋ยวนี้นะ!”
“ทำไมฉันต้องฟังที่เธอพูดด้วยไม่ทราบ? เธอเป็นใครมีสิทธิ์อะไรมาสั่งฉันหา ท่าทางอย่างกับภารโรง... เฮอะ!” ฉันแอบเขยิบตัวเข้าไปใกล้ๆอเล็กซ์เผื่อจะหาโอกาสแก้มัดให้เขาได้ แต่ยัยเจ๊กระเทยกลับรู้ทันและเอาตัวมาบังอเล็กซ์เอาไว้ -_-^
“หนอยยย! ยัยเด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม! ไม่รู้ซะแล้วว่าเธอเล่นกับใคร กินฝ่ามือของเจ๊เชอร์รี่หน่อยเป็นไง!”
ฟึ่บ!
อ้อ...งั้นนี่ก็คือคนที่ชื่อว่าเชอร์รี่ที่ฉันได้ยินจากบู้ทเหล้าสินะ -O- ฉันก้มลงหลบมือของยัยเชอร์รี่ที่ฟาดลงมาอย่างหวุดหวิด ก่อนจะสวนหมัดเข้าไปที่ท้องน้อยของทันที เล่นเอาหล่อนเซถอยหลังไปหลายก้าว(เกือบล้มทับอเล็กซ์แน่ะ -_-;) คิดผิดซะแล้วที่มาแหยมกับคนอย่างต้นรัก ฉันน่ะ...เทควันโดสายดำดั้งสองเลยนะจะบอกให้!
ดูเหมือนว่าหมัดนั่นจะเบาไปสำหรับกระเทยถึกทึนอย่างเชอร์รี่ เพราะไม่นานยัยนั่นก็เดินเข้ามาหาฉันพลางเงื้อมือขึ้นสูง ฉันที่นึกว่ายัยนั่นจะเข้ามาตบก็ก้มลงเตรียมหลบอีกครั้ง แต่ปรากฎว่ายัยกระเทยกระหายเลือดนั่นกลับจับไปที่ผมของฉันแทนแล้วดึงอย่างแรง จนฉันเซล้มลงไปก้นกระแทกพื้นอีกครั้ง T^T แต่ฉันก็พลิกตัวตวัดขาทำให้ยัยนั่นล้มลงกับพื้นดังตึง! หึๆๆ สะใจโว้ยย
แล้วฉันก็หันไปเห็นผ้าคลุมสีแดงสดของใครก็ไม่รู้ตกอยู่ที่พื้น ฉันรีบคว้ามันมาแล้วสะบัดออก เพื่อล่อกระทิง เอ้ย! กระเทย -..-
“มาเล้ยเหล่ากระเทยทั้งหลาย! คัมม่อนเบบี๋ ฮี่ๆๆ”
“หนอยย! นังชะนี! วันนี้ถ้าเลือดหัวแกไม่ออก อย่าได้มาเรียกฉันว่าเชอร์รี่เลย! ลูลู่! ลาล่า! จับตัวมันไว้!”
สององครักษ์ถือแส้ที่มัวแต่ยืนตะลึงในตอนแรกเริ่มมีบทบาทอีกครั้งเมื่อยัยกระเทยเชอร์รี่ตราเสือดาว (ชื่อมันชักจะแปลกขึ้นทุกที) สั่งให้มาจับแขนฉันไว้ทั้งสองข้าง โธ่เว้ย! ยัยกระเทยพวกนี้แรงเยอะจริงๆเลย ดิ้นยังไงก็ไม่หลุด -_-^ ยัยกระเทยเชอร์รี่เดินเข้ามาหาฉันพลางยิ้มเยาะ แล้วทำท่าจะตบฉัน แต่ฉันหลบได้ทำให้ฝ่ามือหนาๆเหมือนแผ่นปูนซีเมนต์กระแทกหน้าสองสมุนโปงลางสะออนจนหน้าหันและปล่อยแขนฉันแทบจะทันที
“ยัยชะนี! แกทำเพื่อนฉันเจ็บตัวงั้นเรอะ! ตายซะเถอะ!!”
อะไร ฉันทำอะไรที่ไหน หล่อนตบเองหรอกย่ะ ยัยมั่ว >O< ฉันเบี่ยงตัวหลบยัยเชอร์รี่น้ำดำตราเสือดาวที่กำลังวิ่งรี่เข้ามาหาไปทางด้านขวา ก่อนจะพลิกตัวถีบยัยนั่นให้ออกไปห่างๆฉัน แต่บังเอิญว่าทางที่ฉันถีบส่งยัยนั่นไปดันเป็นขอบเวทีพอดีน่ะสิ ยัยเชอร์รี่เลยหวีดร้องลั่นก่อนจะ ตุ้บ!...น็อคคาที -_-; อวสานชีวิตกระเทยน้ำดำตราเสือดาว
“กรีดร้องงง! เจ๊เชอร์รี่! พวกเรารีบไปดูอาการเจ๊เชอร์รี่เร้ววว >O<!” เสียงโวยวายของคนที่ยืนอยู่ด้านล่างร้องกันเซ็งแซ่ ก่อนที่จะหันขวับมาจ้องฉันด้วยสายตาอาฆาตแล้วทำท่าจะปีนขึ้นมาบนเวที แต่เผอิญว่าเวทีมันสูงเกินไป ยัยพวกนั้นเลยต้องเดินไปขึ้นบันไดแทน -_-; ฉันเลยรีบหันไปตะโกนเรียกอั๋นที่ยังคงยืนค้างอยู่ที่เดิมตั้งแต่เมื่อกี้ (สงสัยจะช็อคหนัก) ก่อนที่ฉันจะโดนฝูงกระเทยรุมกระถืบ
“อั๋น!!”
อั๋นสะดุ้งสุดตัว เอามือลูบหน้าลูบตาตัวเองพลางบ่นพึมพำอะไรก็ไม่รู้ -_-; ฉันเลยเรียกชื่อเขาไปอีกรอบ คราวนี้เขาหันมามองหน้าฉันแล้ว ก่อนจะกระโดดขึ้นมาบนเวทีอย่างรวดเร็ว
“นายช่วยไปแก้มัดให้อเล็กซ์ทีแล้วออกไปรอด้านนอกก่อนนะ เดี๋ยวฉันจัดการตรงนี้เสร็จแล้วจะรีบตามไปนะ >O<”
ฉันรีบบอกเขารัวเร็ว ในขณะที่เขาพยักหน้าให้แล้วเดินไปแก้มัดให้อเล็กซ์ที่เริ่มหมดสภาพเต็มทน ฉันเห็นเขากลืนน้ำลายลงคอทีหนึ่งก่อนจะเริ่มแก้เชือกให้อเล็กซ์ด้วยมือสั่นๆ สงสัยจะช็อคยังไม่หาย >_< เมื่อเห็นว่าเขาพยุงอเล็กซ์แล้วกำลังเดินออกไปด้านนอกแล้ว ฉันก็กลับมาเพ่งสมาธิไปที่กลุ่มชายหนุ่มหัวใจสีม่วงในชุดรัดติ้วตรงหน้า โหย...หุ่นน่ากลัวมากอ่ะ เห็นแล้วขนลุกเลย =_=;;
ฟิ้ววว~ เพล้ง!
ฉันหันขวับไปมองขวดแก้วที่เพิ่งถูกปาเฉียดหน้าฉันไปนิดเดียวเท่านั้นอย่างตกใจ =O=!! นี่ถ้ายัยพวกนั้นปาแม่นกว่านี้อีกนิดเดียวฉันคงเดี้ยงไปแล้ว ยังไม่ทันตั้งตัว แก้วแชมเปญเอย ขวดเหล้าเอย กระป๋องเบียร์เอย แม้แต่ขวดน้ำพลาสติกก็ถูกปามาหาฉันทันที แหมมม... ทำไมไม่ขว้างโต๊ะมาเลยล่ะยะ ยัยพวกบ้าเอ๊ย!
“ย้ากกกกกกกกกกกกกกกก!! +O+!!”
พูดยังไม่ทันขาดคำ ยัยกระเทยคนหนึ่งก็เขวี้ยงโต๊ะกระจกขึ้นมาใส่ฉันราวกับเขวี้ยงของเล่น =[]=!! กรี๊ดดดดดด! ยัยพวกนี้บ้าไปแล้ววว ฉันรีบกระโดดลงไปที่พื้นด้านล่างก่อนจะม้วนตัวหลบเศษแก้วที่กระเด็นออกมา เหล่าฝูงกระเทยรีบวิ่งตามฉันที่วิ่งหนีหน้าตั้งแบบไม่คิดชีวิตทันที ฉันยังไม่อยากตายเพราะโดนกระเทยขวิดหรอกนะ TOT
ทันทีที่ฉันออกมาด้านนอก ก็ได้ยินเสียงไซเรนตำรวจดังลั่นมาตั้งแต่หน้าปากซอย O_o ฉันรีบวิ่งไปหาอั๋นที่ประคองอเล็กซ์ไว้อยู่อย่างรวดเร็ว
“ตำรวจมา! เราต้องรีบไปแล้วนะ”
“งั้นเดี๋ยวฉันไปส่งเธอละกัน ฉันเอารถมา” อั๋นพูดในขณะที่ฉันพยักหน้า แล้วสอดตัวเข้าไปใต้แขนของอเล็กซ์เพื่อช่วยพยุงเขาอีกแรง อีตานี่ตัวหนักเป็นบ้า >_< เป็นตัวถ่วงจริงๆ ให้ตายสิ!
เรามาถึงบ้านของฉันในอีกครึ่งชั่วโมงต่อมา โดยมีอีตาอเล็กซ์บ่นพึมพำอะไรก็ไม่รู้ตลอดทาง -_-^ อั๋นช่วยฉันพยุงร่างอีตาอเล็กซ์เข้าไปในบ้านก่อนจะขอตัวกลับแทบจะทันที เพราะนี่เกือบจะตีหนึ่งแล้ว โหย...เราเสียเวลาไปในบาร์เกย์นั่นเกือบสองชั่วโมงแน่ะ บร๊ะเจ้าา -O-!!
“ขอบใจมากนะอั๋นที่มาส่ง ถ้าไม่ได้นายฉันคงแย่” ฉันพูดขณะเดินมาส่งอั๋นหน้าบ้าน
“ไม่เป็นไรหรอก เรื่องแค่นี้เอง ฉันต่างหากที่ต้องขอโทษเธอที่ไม่ได้ช่วยอะไรเท่าไหร่เลย สงสัยฉันจะช็อคมากไปหน่อยน่ะ ^^’ แหะๆ” เขาตอบพลางเกาหัวตัวเอง ใบหูเปลี่ยนเป็นสีแดง อั๊ยยย...น่าร้ากกก
“ไม่เป็นไรหรอกจ้ะ ฉันเข้าใจ >_<” อั๋นยิ้มให้ฉันก่อนจะเดินอ้อมไปที่ฝั่งคนขับ
“ฉันไปก่อนนะ ไว้เจอกัน”
“จ้า ขับรถดีๆนะ บ๊ายบายย” ฉันยิ้มแล้วโบกมือให้อั๋นที่กำลังขับรถออกไปจนลับสายตา
เฮ้อออ =..= ฉันรู้สึกอิ่มอกอิ่มใจอย่างบอกไม่ถูก ฮี่ๆๆ ฉันเดินฮัมเพลงตลอดทางที่เดินกลับเข้าบ้าน ก่อนจะตกใจจนแทบทรุดเมื่อเห็นว่าอเล็กซ์ยืนพิงประตูเข้าบ้านอยู่
เขาเงยหน้าขึ้นมามองฉันนิ่งๆ ก่อนจะยักคิ้วให้หนึ่งที -_-^
“เฮ้ย นายออกมายืนตรงนี้ทำไมเนี่ย หายแล้วเรอะ!?”
“huh? Uh um -_-“
“หึๆ หายซ่าเลยล่ะสิทีนี้ ถ้าฉันไปไม่ทัน นายคงโดนกระเทยข่มขืนไปแล้ว >O<” ฉันเดินตามเขาไปแล้วเอานิ้วจิ้มไปที่ไหล่เขาแรงๆสองสามทีเล่นเอาเขาร้องลั่น
“Ouch! That’s hurt!” (โอ๊ย! เจ็บนะเฟ้ย!)
“ขอโทษๆๆ ฉันไม่รู้ว่านายเจ็บอะ... เฮ้ย! ทำไมแผลมันน่ากลัวแบบนี้อ่ะ ยัยกระเทยพวกนั้นฟาดนายเหรอ O_o”
“Ugh I will tell you if you stop staring at my chest for a second. I’m not so confident =_=” (ฉันจะบอกถ้าเธอเลิกจ้องหน้าอกฉันสักที ฉันรู้สึกไม่ค่อยมั่นใจอ่ะ)
เวร...ฉันไม่ได้วิตถารขนาดอยากจะจ้องหน้าอกนายนะยะ ก็แผลมันอยู่ตรงนั้นนี่ อย่าพูดเหมือนฉันเป็นคนโรคจิตได้มั้ยเล่า TOT
ฉันจัดการไล่ให้อเล็กซ์ไปนั่งรอที่โซฟา ส่วนฉันก็เดินไปหายามาทาให้เขา -_-^ ชิ อีตาบ้านั่นไม่สำนึกบุญคุณเลย ฉันอุตส่าห์ไปบู้กับยัยกระเทยพวกนั้นเพื่อช่วยนายนะยะ แม้แต่คำขอบคุณสักคำก็ไม่มี แถมยังมาพูดเหมือนว่าฉันเป็นโรคจิตอีกต่างหาก เฮอะ! อกตัญญูชะมัด ฉันคิดพลางแกล้งกดแอลกอฮอลล์ลงไปที่แผลของเขาเต็มแรงด้วยความหมั่นไส้
“Ouch! เจ้บ!”
อเล็กซ์ร้องพลางกระเถิบหนีฉันโดยอัตโนมัติ เดี๋ยวนี้อีตานี่เริ่มพูดไทยคำอังกฤษคำแล้ว แถมบางครั้งยังฟังที่ฉันพูดออกอีกต่างหาก ถึงแม้ว่าจะไม่ค่อยคล่องนักแต่ก็ถือว่าใช้ได้เลย ชิ! ฉันเองก็เริ่มพูดอังกฤษได้บ้างแล้วเหมือนกันนะ บอกแล้วว่าแค่นี้อ่ะจิ๊บๆ อะโด่วว -O-!
“สมน้ำหน้า! เอ้านี่ ฉันไม่แกล้งแล้วก็ได้ เขยิบมานี่ดิ ฉันจะได้ทำแผลต่อ -O-“
อเล็กซ์มองหน้าฉันเคืองๆเล็กน้อยแต่ก็ยอมเดินกลับมานั่งที่เดิม แล้วเปิดเสื้อทางด้านซ้ายออกให้ฉันทำแผลต่อ -_-; ทำไมแผลอีตานี่ต้องไปอยู่ที่หน้าอกด้วยนะ รู้มั้ยว่ามันทำใจลำบากแค่ไหนกว่าจะทำแผลให้ได้เนี่ย T^T ฉันต้องเพ่งสมาธิไปที่รอยแผลที่เป็นทางยาวจากหัวไหล่ลงมาจนถึงหน้าอกเป็นสองเท่า เพื่อที่ฉันจะได้ไม่มองไปที่หน้าท้องที่มีซิกส์แพคของเขา ไม่มองหน้าอกขาวๆเฟิร์มๆ ไม่สนผิวเนียนๆน่าสัมผัส...
กรี๊ดดดด ฉันไม่ได้มองจริงๆน้า TT^TT
“เธอมองอะไร?” อเล็กซ์ถาม ทำเอาฉันสะดุ้งเฮือก
“เปล่านะ ฉันไม่ได้มองซิกซ์แพคนายนะ!!... อ๊ะ เอ่อ... =O=;;”
“หือ?”
“แฮ่ๆ เปล่าๆ ไม่มีอะไรหรอก -_-;;”
ดีนะที่อีตานี่แปลไม่ออก ไม่งั้นได้ขายหน้าตายแน่ๆ =_=เฮ้อ...แย่จริง ช่วงนี้สมองชักไม ฉันก้มหน้าก้มตาทำแผลเงียบๆ (พยายามควบคุมสติตัวเอง) ในขณะที่อีตาอเล็กซ์ก็เอนหัวไปพิงโซฟา เออดี...อยู่เงียบๆแบบนี้ฉันจะได้มีสมาธิขึ้น (และไม่วอกแวกกับสิ่งรอบข้างอีก =_=)
“เฮ้! เบาๆหน่อยสิ It’s hurt!” ฉันสะดุ้งจนเกือบเทเบตาดีนราดแผลเขา ดีนะที่ยั้งมือทัน อีตาบ้านี่...อยู่ดีๆก็ตะโกนขึ้นมา เกิดฉันช็อคตายจะทำยังไงยะ
“รู้แล้วน่า! นี่ก็เบาสุดๆแล้วนะ อย่าบ่นให้มันมากได้มั้ย”
“ชิ”
กวนจริงๆเลยยย!!! -_-^^
ฉันเลือกที่จะไม่เถียงเขากลับเพราะคิดว่าขืนเถียงไปวันนี้คงเถียงกันไม่จบ รีบทำแผลให้เสร็จๆไปดีกว่าจะได้ไปนอนซะที นี่ก็จะตีสองอยู่แล้ว ง่วงเป็นบ้า
“นี่ คราวหน้าคราวหลังจะไปไหนก็บอกก่อนนะยะ ไม่ใช่จู่ๆก็หายตัวไปเฉยๆแบบนี้ ทำเอาคนเขาวุ่นวายตามหากันไปหมด -O-!!” ฉันเริ่มบ่นในขณะที่ทายาไปที่แผลเขา
“-_- อืม” เขาตอบรับเบาๆ
“อืม? นี่นายฟังออกรึไงยะ? โอ๊ย ฉันล่ะปวดหัวกับนายจริงๆเลย ภาษาก็ยังพูดไม่เป็น ฟังก็ไม่ค่อยจะออก แล้วยังเดินดุ่มๆออกไปคนเดียวแบบนั้น เกิดฉันหานายไม่เจอขึ้นมาจะทำยังไง คิดบ้างมั้ยเนี่ย!?”
“...”(เลือกที่จะเงียบเพราะไม่อยากโดนด่าอีก)
“แล้วไหนจะเรื่องที่นายไปผับมาอีก นี่...ทีหลังก็ดูบ้างนะว่านั่นมันบาร์เกย์ ไม่ใช่สนามเด็กเล่น =O=!! นายไม่โดนกระเทยปล้ำก็ดีเท่าไหร่แล้ว ดีนะที่ฉันกับอั๋นไปพานายออกมาทัน ไม่งั้นป่านนี้นายคงตกเป็นของยัยเสือดาว ไฮยีน่า ยีราฟ ตัวอะไรก็ช่างที่ยัยพวกนั้นใส่มาน่ะ นึกแล้วมันขนลุกจริงๆ >O<”
ฉันทำท่าขนลุกเล็กน้อยก่อนจะเอาผ้าพันแผลมาผันรอบๆหัวไหล่ของเขา เฮ้ออ...เสร็จซะที รู้สึกโล่งใจเป็นบ้าที่ไม่ต้องทนทรมานสายตากับรูปร่างดีเกินมนุษย์ของอเล็กซ์อีก -_-;
“เสร็จแล้ว อย่าให้แผลโดนน้ำนะ เข้าใจมั้ย?”
“...”
แน่ะ...ไม่ยอมตอบ -_-^
“นี่! นายจะจ้องหน้าฉันทำไมยะ เมื่อกี้ฉันบอกว่า...”
“ขอบคุณนะ”
“ฉันบอกว่า... หือ? นายพูดอะไรนะ O_O” ฉันเบรกตัวเองแทบไม่ทันเมื่อได้ยินอเล็กซ์พูดเป็นภาษาไทยชัดแจ๋ว อะ...อะไรนะ เขาบอกว่าขอบคุณงั้นเหรอ?
แล้วทำไมฉันต้องใจเต้นไปกับคำว่าขอบคุณของเขาด้วยล่ะ >_<
“ฉันพูดว่าขอบคุณ...”
เขาพูดย้ำอีกทีแล้วสบตาฉันที่จ้องเขาตอบ ราวกับมีแรงดึงดูดบางอย่างที่ทำให้ฉันไม่สามารถละสายตาไปจากดวงตาสีเขียวของเขาได้ ทั้งๆที่รู้สึกเขินจนแทบระเบิด เอ๊ะ...นี่ฉันรู้สึกไปเองรึเปล่าว่าหน้าเราอยู่ใกล้กันมากขึ้น -_-? ฉันไม่ได้ขยับไปไหนเลยนะ สาบานได้ ฉันกระพริบตาเล็กน้อยเมื่อเห็นใบหน้าของอเล็กซ์เข้ามาใกล้ นี่มันชักจะใกล้เกินไปแล้วนะ ฉันอยากจะหนีแต่หัวสมองเหมือนหยุดทำงานไปชั่วขณะ ร่างกายของฉันไม่ตอบสนองต่ออะไรทั้งสิ้น แล้วอยู่ๆฉันก็รู้สึกหมดแรงขึ้นมาดื้อๆ...
สิ่งสุดท้ายที่ฉันเห็นและรู้สึกก่อนจะสลบไปก็คือดวงตาสีเขียวมรกตและสัมผัสแผ่วเบาที่ริมฝีปาก...
________________________TO BE CONTINUE....__________________________________________
ความคิดเห็น