ลำดับตอนที่ #6
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : *๐๔,, {Dark Fantasian เชปเตอร์ . ซีโร่ ทู}
Yu Ki
.
.
.
.
.
.
.
.
.
ยูเอาตอนที่สองของสาวๆดาร์กไซด์มาเสิร์ฟแล้วจ้า >[]<
แต่งตอนนี้แล้วเหงื่อตก -___-" ยากมาก ! ยากกว่าตอนแรกแบบสุดๆ
คิดอยู่ตั้งนานว่า . ถ้ามี NC เยอะเกินไป? คนอ่านก็จะเบื่อเอา *
เลยเอานางเอกคนที่มีสาระอยู่เยอะมาลงให้อ่านไปก่อน 55 ~ ใบ้ให้ว่าตอนนี้เป็นตอนสำคัญ!
ที่จะนำทุกคนเข้าสู่เนื้อเรื่องหลักแล้วนะคะ >///< ถ้าอ่านไม่ละเอียดเนี่ย?
จะงงในตอนต่อไปเชียวนะ !
....
เอาอีกแล้วๆ >,< มีพระเอกของใคร? กำลังไปคั่ว(?)อยู่กับนางเอกคนอื่นรึเปล่านะ?
5 5 ทำใจซะเถอะค่ะ >O< ยูบอกแล้วว่าพระเอกฝั่งความมืดของเรา มันไว้ใจไม่ได้กันซะทุกคนนั่นแหละ !
((แต่เกสท์นี่หล่อทุกตอน >//< เผลอๆ บทเยอะกว่าพระเอกอีก 55))
ขอโทษที่ตอนนี้นางเอกคนสวยได้ออกแค่ 2 คนเท่านั้นนะคะ T^T
เพราะแค่นี้มันก็ยาวไปตั้ง 8 หน้า word แล้ว ! O[]o" ยูแบบตกใจเลย..
อะไรมันจะเร็วขนาดนั้น ?
ที่เหลือก็รอตอนต่อไปจ๊ะ ^^~ ยูจะรีบปั่นให้แบบสุดความสามารถ !
แต่งานนี้ขึ้นอยู่กับเม้นนะ !!!!
เม้นน้อยออกหลัง? เม้นมากออกเยอะ?
>w< เพราะอะไรก็เกิดขึ้นได้ในดาร์กไซด์สตอรี่ โฮะๆ ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ดาร์ก วันเดอร์แลนด์. แฟนตาเชี่ยน สตอรี่
เชปเตอร์ ; ซีโร่ ทู *
Love is
When you find someone
You can tell your deepest darkest secrets to.
รักคือ..
ยามที่เธอพบใครสักคน
ที่เธอสามารถบอกความลับที่มืดดำที่สุดของเธอได้
.
.
.
โมแซงค์ อาณาจักรหนึ่งในสามที่ครอบครองพื้นที่กว้างใจกลางทวีปทริเบียนก้าไว้ได้อย่างเหนียวแน่น พวกเขาโด่งดังจากอารยธรรมด้านการทหาร ที่ทั้งทรงพลังและแข็งแกร่ง ไม่มีสักครั้งที่โมแซงค์จะยอมปล่อยให้โอกาสในการพัฒนากองทัพของตนผ่านเลยไปอย่างเสียเปล่า เสียงกระทบกันของดาบเล่มหนาหนักกับโล่ยักษ์สีเทาหม่นกลายเป็นเสียงที่ชาวโมแซงค์ทั้งหลายต่างพากันคุ้นชิน หากแต่หิมะขาวสะอาดนี่ต่างหาก ที่พวกเขาทั้งหลายไม่คุ้นเคยกับมันเลยซักนิด
อาจจะเป็นเพราะนิสัยที่รักการต่อสู้ที่ฝังแน่นลงไปในจิตใจของชาวเมืองทุกคน จึงทำให้พวกเขาหลงรักแสงแดด และอากาศร้อนอบอ้าวที่เรียกเหงื่อได้อย่างมีประสิทธิภาพ มากกว่าอากาศเย็นยะเยือกในฤดูหนาวเช่นนี้ และที่ยิ่งไปกว่านั้น ในระยะเวลาหลายร้อยหลายพันปีที่ผ่านมา โมแซงค์ก็ไม่เคยมีหิมะตกเลยซักครั้ง! แต่ในวันนี้ หิมะจำนวนมากลอยละล่องหยอกล้อกับสายลมเหนือขณะที่กำลังตกลงมาจากฟากฟ้า สร้างความตื่นตระหนกให้กับผู้คนสายเลือดโมแซงค์ได้เป็นอันมาก หรือนี่..จะเป็นลางบอกเหตุใดกันนะ?
“มันจะผิดปกติมากเกินไปแล้วนะ หิมะตกในเมืองริมทะเลอย่างโมแซงค์ได้ เห็นทีคงจะเป็นเพราะท่านที่มาพร้อมกับความซวยด้วยแล้วกระมัง?” เสียงหวานใสพูดขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์ มือบางกอดอกไว้แน่นอย่างเอาแต่ใจ ใบหน้าสวยหวานรูปไข่ง้องุ้มด้วยความหงุดหงิด เช่นเดียวกันกับดวงตาสีส้มแวววาวของเจ้าตัว ที่ตวัดค้อนคนตัวสูงกว่าอย่างรำคาญใจ
“อะไรอีกล่ะสาวน้อย นี่เจ้าอย่ามาพาลหาเรื่องข้าง่ายๆแบบนี้สิ” คนตัวสูงที่เห็นอีกฝ่ายแขวะตนเข้าให้ ก็นึกขำอย่างคนปลงตก อาจจะเป็นเพราะเขารู้อยู่แล้วก็ได้ว่า แม่สาวปากร้ายคนนี้ขึ้นชื่อเรื่องความร้ายกาจมาตั้งแต่ยังเด็ก นั่นเองที่ทำให้คนตัวสูงผู้มีดวงตาสีเดียวกันกับเหล็กกล้า มองเมินความปากร้ายของหญิงสาวไปอย่างไม่ถือสาหาความ
“แล้วนี่จะมามัวยืนมองอะไรอยู่ล่ะ หมดธุระแล้วก็ออกไปจากห้องข้าซะสิ” เมื่อเห็นคนตัวเล็กยังหงุดหงิดไม่เลิก บวกกับอาการหมั่นไส้เจ้าของเส้นผมสีส้มดุจดั่งเปลวเพลิงนั่นเข้าเสียเต็มประดา ชายหนุ่มจึงวาดแขนแกร่งออกไปคว้าร่างบางเขามาปราบพยศในอ้อมกอดอุ่นทันที
“ปล่อยข้านะ! เจ้าหมาป่าโสโครก!! เอามือสกปรกนั่นออกไปจากตัวข้า” สตรีร่างบางดิ้นขลุกขลักอยู่ในอ้อมกอดอันร้อนระอุของชายหนุ่มผู้มีใบหน้าหล่อเหลาสะกดใจผู้พบเห็นอย่างไม่ยอมแพ้ มือบางของนางฟาดไปตามมัดกล้ามบนแขนของชายหนุ่มอย่างสุดแรงเกิด
“ลีวาเธีย เซเรเทรซ่า นิ่งซะเถอะครับ คนดี...” เสียงทุ้มกระซิบข้างใบหูเล็ก ด้วยหวังว่าจะช่วยยับยั้งความร้อนในตัวนางได้ซักนิดก็ยังดี หากแต่ผลลัพธ์กลับออกมาตรงกันข้าม เมื่อเจ้าหญิงคนสวยแห่งโมแซงค์ยิ่งทวีความเกรี้ยวกราดขึ้นมาอีกเป็นเท่าตัว!
“อย่าบังอาจมาเรียกชื่อข้านะ! ท่านมันก็แค่หมาป่ากระจอกๆ ตัวนึงเท่านั้น! ได้ยินมั๊ยดราฟท์ เรย์เรียซ? คนอย่างท่านมันก็เป็นได้แค่สัตว์กินเนื้อสกปรกๆ เท่านั้น!!!” จบประโยคของนาง ร่างสูงที่ทำใจเย็นมาตลอดก็ถึงกับควบคุมอารมณ์ไม่อยู่! งั้นรึ? เขามันเป็นแค่หมาป่ากระจอกๆ ที่เป็นได้เพียงข้ารับใช้ของราชวงศ์แห่งโมแซงค์เท่านั้นน่ะสินะ? ได้!! ถ้าหากนางพูดถึงขนาดนั้น เขาก็จะยกระดับตัวเองเสียใหม่ตั้งแต่ตอนนี้เลย!
“งั้นถ้าหมาเลวๆ เยี่ยงข้า กลายเป็นพระสวามี ของราชธิดาเช่นเจ้าแล้ว มันคงจะฟังระรื่นหูกว่านี้เป็นล้านเท่าเลยล่ะสิ!” ฉับพลัน! มือหนาของดราฟท์ก็เหวี่ยงร่างบางของลีวาเธียลงไปบนเตียงสีขาวสะอาดด้วยความหงุดหงิด เดิมทีเขาก็แค่ต้องการจะเขามาแจ้งข่าวเรื่องการเสด็จไปเยือนทรอนซ์ของเจ้าชายแห่งลาโบญ่าเพียงเท่านั้น แต่ในเมื่อจะได้อะไรเล็กๆน้อยๆ จากเจ้าหญิงคนสวยนี่ติดไม้ติดมือกลับไปด้วย มันก็นับว่าน่ายินดีเป็นอย่างยิ่งมิใช่หรือ?
“ไอ้หมาชั่ว! ปล่อยข้านะ!! ทหาร! มีใครอยู่แถวนี้บ้าง? ทหาร!!!” คนตัวเล็กกู่ร้องสุดเสียง พลางใช้แขนเรียวที่ยังพอจะหลุดรอดจากการจับกุมของชายหนุ่มได้ มาปัดป้องตัวเองอย่างสุดความสามารถ
.
หากข้าจะต้องเสียความบริสุทธิ์ให้กับใคร? อย่างน้อยก็ต้องมิใช่เจ้าหมาป่าน่ารังเกียจนี่!
.
“เสียเวลาเปล่าคนดี...ไม่มีใครได้ยินเจ้าในเวลาที่พายุหิมะกำลังโหมกระหน่ำเช่นนี้หรอก ฮ่าๆๆๆ” เสียงหัวเราะด้วยความสะใจของหมาป่าสายเลือดครอมต์ดังขึ้นด้วยหมายจะเยาะเย้ยร่างบางที่นอนอาละวาดอยู่ใต้ร่างของเขาในตอนนี้
“ข้าจะทำให้เจ้าสนุกจนลืมไม่ลงเชียว ลีวาเธียที่รัก
” พูดจบเจ้าของดวงตาสีเหล็กก็เลียริมฝีปากตัวเองเบาๆ ก่อนจะหัวเราะใส่ใบหน้าสวยหวานของเจ้าหญิงจอมวีนอย่างอารมณ์ดี
“ข้าจะฆ่าเจ้า! ข้าจะฆ่าเจ้าให้ได้!!!!!!! กรี๊ ด ดดด ด ด!” เสียงหวีดร้องด้วยความตื่นตระหนกของลีวาเธียดังขึ้น เมื่อดราฟต์ลงมือกระชากเดรสสีดำตัวหวงของนางจนขาดกระจุยกระจายไม่เหลือเค้าเดิม หากแต่ดวงตาสีส้มดุจดังแสงอาทิตย์ยามบ่ายของนางกลับยิ่งต้องเบิกกว้างขึ้นอีกเป็นเท่าทวี ยามที่ริมฝีปากร้อนระอุของหมาป่าจอมเจ้าเล่ห์ลากผ่านไปตามเรือนร่างของนางอย่างเร่าร้อน
“มะ...ไม่นะ” หากแต่สุดกำลังที่นางจะหนีจากอ้อมกอดแกร่งของเขาได้พ้น ริมฝีปากบางสีแดงสดถูกริมฝีปากสีส้มอ่อนระดมจุมพิตอย่างหนักหน่วง จนหญิงสาวไร้เรี่ยวแรงที่จะขัดขืนไปหมดสิ้น
“ขอร้อง...ปล่อยข้าไปเถอะ” ไร้ประโยชน์ใด เมื่อคราวที่ความต้องการพุ่งทะยานไปยังจุดสูงสุดของชายหนุ่มซะแล้ว เส้นผมสีดำสนิทของเข้าลู่ไปตามโครงหน้าหล่อเหลาราวรูปสลักในเทพนิยาย ดวงตาคมคายกวาดมองเรือนร่างขาวเนียนของเจ้าหญิงคนสวยอย่างหื่นกระหาย หากนับว่านี่เป็นโชคดีของแวร์วูลฟ์เช่นเขาที่ต้องใช้เวลาเกือบทั้งชีวิตอยู่แต่ในป่าศักดิ์สิทธิ์นั่นแล้ว เขาก็ยินดีรับมันเป็นอย่างยิ่ง
“ไม่มีวันที่รัก...” เสียงทุ้มกระซิบข้างหูของคนตัวเล็กตามนิสัยประจำตัว ก่อนที่มือหนาจะลูบไล้ผ่านเนินอกอวบอิ่มไปอย่างน่าหวาดเสียว
“อย่างไรแล้ว...เจ้าก็ต้องเป็นของข้า!” สิ้นเสียงสุดท้าย ชายหนุ่มก็เริ่มทำตามอารมณ์ที่พุ่งพรวดทันที ในขณะที่ลีวาเธียกัดริมฝีปากด้วยความคับแค้นใจ นางสำนึกได้แล้วว่า หญิงสาวเช่นนาง ไม่มีทางสู้กับพละกำลังของแวร์วูลฟ์เช่นเขาได้เลยซักนิด เช่นนั้นนางจึงต้องยอมให้เขาย่ำยีร่างของตนเองอย่างกล้ำกลืน จนกระทั่งริมฝีปากร้อนของชายหนุ่มมอบจุมพิตหวานละมุนให้โดยที่นางไม่ได้คาดคิด
“อย่าเกร็งสิครับ ที่รัก...” สัมผัสร้อนที่ดราฟท์ทยอยส่งให้กับลีวาเธีย เป็นดั่งพายุฤดูร้อนที่โหมกระหน่ำพัดความพยศของเจ้าหญิงแห่งโมแซงค์ไปจนหมดสิ้น นางเริ่มจูบตอบร่างสูง ก่อนจะที่จะยินยอมให้เขาเชยชมนางไปตลอดทั้งค่ำคืนด้วยความเต็มใจ
ขณะเดียวกัน ความมืดยามรัตติกาลก็เริ่มโรยตัวเข้าปกคลุมอาณาจักรกว้างอย่างครอมต์ไปจวบจรดจนมหาสุทรน้ำลึกนามคิริเวน ยามปกติครอมต์เองก็เป็นประดุจดั่งอาณาเขตแห่งความน่าสะพรึงกลัวอยู่แล้ว หากแต่ยามค่ำคืนที่ไร้ซึ่งแสงไฟใดๆเช่นนี้ ยิ่งทวีความน่าหวาดหวั่นให้กับครอมต์อย่างไม่มีข้อข้องใจใดๆ ผืนดินทุกหย่อมของอาณาจักรแห่งความมืด ถูกจับจ้องจากชนเผ่าต่างๆจนแทบจะไม่เหลือพื้นที่ว่างใดๆอีก
ทางด้านเหนือสุดของครอมต์มีอาณาเขตติดกับป่าศักดิ์สิทธิ์ หรือ ไดค์ ที่ชาวครอมต์ทุกคนรู้จักกันดี เพราะถึงแม้ครอมต์จะมีอาณาเขตติดต่อกับพื้นที่ต่างๆมากมาย แต่หนทางเดียวที่จะสามารถเข้าสู่ครอมต์ได้ โดยที่จะไม่โดนเล่นงานจากวงเวทย์ศักดิ์สิทธิ์ ก็มีแต่จะต้องเดินทางผ่านป่าไดค์เข้ามาจากทางไอเซนเบิร์กเท่านั้น เพราะฉะนั้นอาณาเขตทางเหนือของครอมต์จึงเต็มไปด้วยปีศาจมากหน้าหลายตาที่เบียดเสียดยัดเยียดกันอยู่อย่างหนาแน่น ด้วยราชินีปิศาจแห่งครอมต์หมายจะให้พวกมันเป็นปราการด่านแรกในการป้องกันผู้บุกรุกนั่นเอง
ถัดลงมาเป็นกึ่งกลางอาณาจักรที่มีเนื้อที่กว้างขวางที่สุด จึงทำให้ถูกใช้เป็นพื้นที่ตั้งพระราชวังของสตรีที่ยิ่งใหญ่และมีอำนาจมากซะจนสามารถครองบรรลังก์แห่งครอมต์ได้ตั้งแต่นางยังอายุได้เพียง 17 เท่านั้น จนบัดนี้ราชินีปีศาจผู้เกรียงไกรมีพระชันษาเข้าปีที่ 23 นางปกครองทุกพื้นที่ตามกฎเกณฑ์ข้อบังคับที่เข้มงวด และมีบทลงโทษที่รุนแรง หากแต่กลับครองใจของชาวเมืองทุกคนได้อย่างน่าอัศจรรย์ ส่วนพื้นที่รอบพระราชวังสีดำทะมึน ถูกจัดให้เป็นเขตสำหรับชนชั้นสูง เช่น พวกนักเวทย์ฝีมือดี รวมไปถึงปีศาจที่รู้จักการเข้าสังคมอย่างแวมไพร์อีกด้วย!
ตอนล่างของครอมต์เป็นเขตสำหรับชนเผ่าอิสระ โดยจะไม่เข้มงวดเท่าพื้นที่ตอนกลาง หรือแออัดเท่าอาณาเขตทางตอนเหนือ แต่จะถูกจัดแบ่งอย่างเป็นระเบียบ ตามความต้องการขององค์ราชินีเท่านั้น เนื่องจากอาณาเขตทางใต้มักจะถูกใช้เป็นที่รองรับแขกของนางอยู่เสมอๆ ทำให้มีการควบคุมดูแลอย่างเป็นระบบมากกว่าที่อื่น จนกระทั่ง...
“ว่ายังไงนะ? มังกรสีดำของข้าถูกเจ้าพวกมนุษย์หน้าโง่ฆ่าอีกแล้วงั้นรึ?” เสียงย้อนถามด้วยความตกใจของราชินีผู้สง่างามแห่งครอมต์ดังลั่นไปทั่วทั้งพระราชวัง นางกัดริมฝีปากบางอย่างแรงด้วยความโมโห ใบหน้าสวยใสทว่ากลับทรงอำนาจอย่างที่สุดบิดเบี้ยวไปตามระดับอารมณ์ที่ใกล้จะถึงขีดสุด เส้นผมสีทองซีดที่ถูกปล่อยสยายลงมาถึงกลางหลัง ไม่อาจช่วยบดบังดวงตาสีดำสนิทที่จ้องมองไปทางดินแดนฝั่งตะวันออกของเหล่ามนุษย์เดินดินด้วยความเคียดแค้นแบบเต็มเปี่ยมได้เลยซักนิด
“มันชักจะมากเกินไปแล้วนะ! ข้ามิอาจทนความงี่เง่าของพวกมันได้อีกแล้ว! แจ้งข่าวไปยังไอเซนเบิร์ก และลิเวียนว่า ข้าเอลิเดีย เพอร์เรดลิน ไม่อาจจะระงับสงครามได้อีกต่อไป!!!!!” ราชินีผู้สูงศักดิ์ตะโกนสั่งการด้วยความอัดอั้นใจ ก่อนที่นางจะผิวปากเรียกมังกรสีดำสนิทผู้มีเกล็ดมันวาวสะท้อนแสงเข้ามาหาทันที
“พาข้าไปที่เผ่าของเจ้าหน่อยเถอะ” ทว่าเพียงเสี้ยววินาทีเดียว เสียงของนางกลับแปรเปลี่ยนเป็นอ่อนหวาน และสุดแสนจะละมุนละไม เนื่องด้วยมังกรหนุ่มผู้นี้เป็นดั่งดวงใจของราชินีปีศาจแห่งครอมต์ ผู้ขึ้นชื่อเรื่องความโหดเหี้ยมเป็นที่สุด
“เชิญขึ้นหลังของข้าเถอะขอรับ” เสียงกังวานของมังกรสีนิลเอ่ยเชิญร่างอันสูงศักดิ์ของผู้ทรงอำนาจที่สุดในครอมต์ ขึ้นบนหลังของตนด้วยความยินดี ก่อนที่ร่างใหญ่โตของมังกรหัวหน้าเผ่าจะเดินตรงไปที่ระเบียงขนาดยักษ์ และเมื่อเห็นว่าผู้โดยสารกิตติมศักดิ์ของเขาทรงตัวได้ดีแล้ว ก็ทิ้งตัวลงไปเบื้องล่างทันที
“เกาะแน่นๆนะขอรับ” เสียงทุ้มกำชับอีกครั้ง พร้อมๆกับที่ปีกใหญ่สีดำดุจดั่งผืนฟ้ายามค่ำคืนกางออกจนสุด ส่งผลให้ร่างของทั้งเจ้าของปีกและราชินีปีศาจเหินทะยานขึ้นฟ้าอย่างรวดเร็ว แต่นั่นก็ไม่เป็นอุปสรรคของร่างบางบนหลังมังกรเลยซักนิด นางยังคงนั่งหลังตรงอย่างมั่นคง และสง่างามได้แม้ในยามที่มังกรสีทมิฬหมุนตัวตัดผ่านต้นไม้สูงใกล้กับอาณาเขตทางใต้ ดวงดาวบนท้องนภากระพริบแผ่วเบา ทว่ากลับงดงามยิ่งกว่าวันไหนๆ และเพียงแค่เสี้ยววินาทีหลังจากนั้น ร่างยักษ์ของมังกรหนุ่มก็ลงจอดที่ลานดินกว้างใจกลางทุ่งดอกไม้สีม่วงอันน่าสะพรึง
“ถึงแล้วขอรับนายหญิง”
“ขอบใจมากนะกอร์ดอน” เสียงหวานเอ่ยขอบคุณมังกรคู่ใจ ก่อนที่จะหรี่ตาลงเล็กน้อย เพราะแสงสีขาวสว่างที่สาดขึ้นโดยที่นางยังไม่ทันได้ตั้งตัว
“เพื่อท่านแล้ว...ข้าก็เต็มใจเป็นอย่างยิ่งขอรับ” ฉับพลัน! เมื่อแสงสีขาวแสบตาจางหายไป ก็ปรากฏร่างสูงโปร่ง เจ้าของดวงตาสีรัตติกาล ผู้มีใบหน้าหล่อเหลาเกินกว่าใครในราชอาณาจักรครอมต์ ‘เขา’ กอร์ดอน บราวน์ มังกรหนุ่มหัวหน้าเผ่าผู้ทรงพลัง ใบหน้าขาวซีดฉาบไปด้วยรอยยิ้มละมุน รับกันกับเส้นผมสีรัตติกาลตัดสั้นได้อย่างน่าประหลาดใจ มือหนาของเจ้าแห่งท้องนภาวาดผ่านอากาศเป็นวงสวย ก่อนจะค้อมตัวลงช้าๆเพื่อทำความเคารพนายแห่งตนด้วยความเทิดทูน
“ให้เกียรติข้าได้นำทางท่านเถอะขอรับ...นายหญิง”
“ตามใจเจ้าเถิด...ดวงใจแห่งข้า” ราวกับทุกสรรพสิ่งหยุดนิ่ง ไร้ซึ่งสุรเสียงใดเล็ดลอดออกมาให้สองผู้ยิ่งใหญ่ได้ระคายหู มือบางของราชินีปีศาจเอื้อมไปวางลงบนมือหนาทว่ากลับอ่อนโยนของมังกรหนุ่มคู่ใจอย่างมั่นคง นางก้าวขาเรียวผ่านพงหญ้าสูงที่ดูคล้ายกับที่กั้นอาณาเขตไปอย่างง่ายดาย และเพียงเสี้ยววินาทีต่อมา ทุกสิ่งทุกอย่างรอบกาย ก็ดูจะหมุนเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว!
“ครานี้เราเสียใครไป?” ระหว่างที่ภาพรอบตัวยังคงหมุนไม่หยุด เอลิเดียก็เอ่ยถามเรื่องที่นางรับรู้ได้ว่า คนข้างกายจะต้องเสียใจเป็นที่สุด
“ข้ากลัวว่าจะเป็นวินซ์นะขอรับ” เสียงนุ่มที่เอ่ยตอบฟังดูราบเรียบ หากแต่ดวงตาคู่สวยของ
มังกรหนุ่ม กลับสั่นระริกอย่างน่าหวั่นใจ เช่นเดียวกันกับราชินีสาวที่นิ่งอึ้งไปแทบจะในทันที
“ไม่จริง!” ชื่อของมังกรดำอีกหนึ่งตัวที่นางต้องสูญเสียไปเพราะความขลาดเขลาของพวกมนุษย์หน้าโง่นั่น เรียกอารมณ์โกรธเกรี้ยวจากราชินีแห่งครอมต์ได้เกินกว่าที่ใครจะคาดคิดถึง
“ข้าเองก็หวังให้มันไม่จริงเช่นกัน ครานี้พวกมันทำมากเกินไป มาก...มากเกินกว่าที่ชาวเราจะสามารถมองผ่านเลยไปได้” ชายหนุ่มแสนสุขุมยกมือหนาขึ้นกุมศีรษะเบาๆ ทว่ามันก็มิอาจช่วยบดบังความเจ็บปวดที่ต้องสูญเสียเพื่อนพ้องร่วมเผ่าพันธุ์ไปได้เลยซักนิด ถ้าหากเพียงแต่เขาอยู่ที่นี่ในวันนั้น.. ลูกพี่ลูกน้องของเขาก็คงจะไม่ต้องมาตายเช่นนี้! ถ้าเพียงแต่เขาจะอยู่เท่านั้น!
“อย่าได้กังวลเลยดวงใจของข้า...วินซ์จะต้องไม่ตายเปล่า ข้าจะไม่มีวันปล่อยให้มนุษย์ตัวใดเล็ดลอดจากเงื้อมมือของครอมต์ไปได้!” ประกาศิตจากปากของหญิงสาวผู้ทรงอำนาจจบลง พร้อมๆกับที่ทิวทัศน์เบื้องหน้าหยุดนิ่งสนิท จากภาพผืนดินโล่งกว้างที่ปกคลุมไปด้วยดอกไม้สีม่วงเข้ม กลับกลายเป็นพื้นดินสีน้ำตาลว่างเปล่า ที่ถูกใช้เป็นลานบินของเหล่ามังกรหลากหลายสายพันธุ์ ถัดจากลานบินไปเล็กน้อย ปรากฏภาพทางแยกนับสิบเส้นทางยาวออกไปจนไม่สามารถมองเห็นปลายทางได้
“เชิญนายหญิงขอรับ” กอร์ดอนค้อมตัวลงอีกครั้ง ก่อนจะกระชับมือหนาที่กุมมือเรียวเล็กของหญิงสาวข้างกายไว้แน่น เมื่อเห็นว่ารังมังกรแห่งนี้เงียบผิดปกติ จึงรีบฉุดเอลิเดียไปเส้นทางฝั่งซ้ายสุดอย่างรวดเร็ว
“หากทุกฝ่ายเงียบไปเช่นนี้ เห็นทีสถานการณ์คงจะร้ายแรงกว่าที่เรารู้เสียแล้วล่ะขอรับ ทางทีดีเราควรไปให้ถึงเผ่ามังกรทมิฬโดยเร็ว มิฉะนั้นอาจจะเกิดอันตรายกับท่าน...ผู้เป็นดั่งเพชรล้ำค่าแห่งชาวเราได้นะขอรับ” เอลิเดียไม่พูดอะไร นางเพียงพยักหน้ารับแผ่วเบา แล้วสาวเท้าก้าวตามชายหนุ่มไปให้เร็วที่สุด นี่นางเพียงแค่ไปติดต่ออะไรบางอย่างที่ลิเวียนเพียงไม่กี่วัน เหตุใดเจ้าพวกมนุษย์นั่นถึงได้หาญกล้าเข้ามาสร้างความปั่นป่วนได้มากขนาดนี้ ทั้งฆ่ามังกรของข้า ทั้งทำให้เพื่อนพ้องเผ่าพันธุ์ของพวกมันมิอาจเหินทะยานบนท้องฟ้าได้ นั่นสิ!! เหตุใดนางจึงไม่ทันได้สังเกตกันนะ? นอกจากกอร์ดอนแล้ว นางก็ยังมิเห็นมังกรตัวใดอีกเลย ทั้งๆที่ปกติแล้ว ยามค่ำคืนของครอมต์จะเต็มไปด้วยมังกรหลากเผ่าพันธุ์แท้ๆ หรือนี่จะมีสิ่งใดที่ราชินีผู้ยิ่งยงเช่นนางยังมิรู้กันแน่???
“กอร์ดอน!! อ๊ะ..นายหญิง!” เสียงเรียกอย่างดีใจดังขึ้นจากร่างสูงโปร่งผู้เป็นเจ้าของดวงตาสีน้ำเงินเข้มดุจดั่งลำธารกลางป่าศักดิ์สิทธิ์ ดวงหน้าขาวสะอาดเจือความซีดตามลักษณะอันเป็นเอกลักษณ์ของเผ่าพันธุ์มังกร ทาทาบไปด้วยรอยยิ้มที่ดูคล้ายกับว่าเจ้าตัวฝืนส่งมันออกมาเต็มที
“ลอร์ด โรเวนไลท์? นี่เจ้ามาถึงนี่ด้วยเรื่องอันใดรึ?” หัวหน้าเผ่ามังกรสีดำเอ่ยถามเพื่อนสนิทร่วมสายเลือดมังกรอย่างแปลกใจ ก็แต่ไหนแต่ไรมา...มังกรต่างสีจะไม่ล้ำถิ่นกันอยู่แล้วมิใช่หรือ? แล้วยิ่งเป็นมังกรสีน้ำเงินน้องชายของหัวหน้าเผ่าตัวนี้ด้วยแล้ว หากมิมีเรื่องหนักใจจริงๆ คงจะไม่ละเมิดกฎการอยู่ร่วมกันเข้ามาถึงเผ่าของเขาเช่นนี้
“ท่านพี่ของข้า....เขาถูกเจ้ามนุษย์สารเลวถลกหนังอย่างโหดเหี้ยม!”
“ไม่จริง!!!!!!!! เลออนของข้า! มันผู้ใดกันที่เป็นคนทำ! มันผู้ใดที่พรากดวงใจของข้าไป!!” เสียงหวีดร้องที่ดูใกล้จะถึงจุดระเบิดขององค์ราชินีสาวดังไปทั่วทั้งถ้ำมังกรอย่างน่าหวั่นเกรง นางคงมิอาจทนได้แน่ หากรู้ความจริงที่ว่า...ดวงใจทั้งแปดที่เหลือของนางถูกปลิดลมหายใจไปด้วยน้ำมือมนุษย์เดินดินเหล่านั้นเกือบหมดสิ้น ไม่มีใครในครอมต์ที่จะไม่รู้ว่า นายเหนือแห่งตนรักเจ้าแห่งมังกรทั้งแปดสีนี้มากขนาดที่ใครก็มิอาจเทียบเทียมได้
หากแต่บัดนี้เหล่ามังกรหัวหน้าเผ่าทั้งแปดของนาง เหลือเพียงกอร์ดอน บราวน์ เจ้าของเกล็ดสีดำดุจผืนฟ้ายามราตรี และเจ้าแห่งเวหาฝ่ายเหนือ มังกรสีแดง เนกาเดียน ไฟร์ เพียงเท่านั้น! ตลอดระยะเวลาเกือบหนึ่งสัปดาห์ที่องค์ราชินีเอลิเดียไปราชการลับที่ลิเวียน เจ้าพวกมนุษย์ต้อยต่ำก็แฝงกายผ่านป่าศักดิ์สิทธิ์เข้ามานับร้อยพันชีวิต เพียงเพื่อต้องการสังหารดวงใจของนางให้ตายตกไปจนหมดสิ้น! เช่นนี้แล้วนางคงจะโศกเศร้าและอ่อนแอ จนพวกเขาสามารถยึดครอมต์ได้อย่างง่ายดายเป็นแน่แท้...
หากแต่ความจริงกลับไม่เป็นเช่นนั้น เพราะแทนที่หญิงสาวเจ้าของเส้นผมสีทองสว่างจะนั่งร้องไห้สะอึกสะอื้นประหนึ่งคนที่สูญสิ้นของสำคัญไปจนหมด นางกลับยืนนิ่ง นิ่ง...เสียจนมังกรที่อยู่รอบตัวนางไม่กล้าแม้แต่จะหายใจ
“ข้าจะบดขยี้พวกมันให้แหลกยิ่งกว่าเศษฝุ่นใต้เท้าข้า!!!!!!!!” นางตะโกนกึกก้องไปทั่วทั้งถ้ำสีน้ำตาลเข้ม ดวงตาสีนิลของนางจ้องเขม็งไปยังร่างสูงของชายหนุ่มในชุดเกราะ ที่มังกรสีน้ำเงินผู้น้องจับตัวมาได้หลังโขดหินหน้าทางเข้า ชะรอยคงจะเป็นไส้ศึกที่ถือดี เข้ามาแหยมถึงอาณาเขตลับแห่งนี้ได้! นางยกมือเรียวขึ้นมาอย่างแข็งแรง ก่อนที่จะปักเล็บยาวแหลมลงไปที่หลอดลมของสายลับหนุ่มผู้โชคร้ายอย่างรวดเร็ว
“อ๊าก กก กกกก !” เสียงหวีดร้องด้วยความทุกข์ทรมานของพลทหารร่างสูงดังขึ้นอย่างสุดจะกลั้น นี่เขาลืมไปแล้วงั้นหรือ? ว่าถึงแม้ภายนอกของราชินีสาวจะดูเหมือนกับมนุษย์มากเพียงใด หากแต่นางก็เป็นปีศาจ แถมยังเป็นปีศาจที่ยิ่งใหญ่มากกว่าอมนุษย์ใดในดินแดนสยองขวัญแห่งนี้!
“เจ้าถือดีอย่างไร? ถึงได้หาญกล้าเข้ามาฆ่าดวงใจของข้าไปจนสิ้น!!!” นางตวาดใส่หน้าของเขาด้วยความโมโหเกินจะสะกดอารมณ์ใดๆได้อีก
“ขะ...ข้า...อั้ กก กก !” นายทหารหนุ่มพยายามจะตอบคำถาม หากแต่เขามิอาจจะส่งเสียงใดๆ ผ่านหลอดลมที่ใกล้จะฉีกขาดนี้ไปได้
“ทรมานงั้นสิ? ดี! ข้าจะไม่ให้เจ้าตาย แต่จะเจาะตัวเจ้าให้พรุน! หึ!! ไอ้พวกปลวกชั้นต่ำ! ใยจึงไม่หัดเจียมกะลาหัวกลวงๆของเจ้าไว้บ้าง!” เล็บยาวของเอลิเดียถูกถอนออกมาจากคอของเหยื่อเคราะห์ร้ายอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้เลือดสีแดงสดไหลออกมาเยอะเกินความคาดคิดของเหล่ามังกรที่ยืนมองอยู่
“อ๊าก กกกกก!”
“ดี! ร้องมันเข้าไปสิ! สวะอย่างเจ้า ตายพันครั้งก็ยังเทียบไม่ได้กับดวงใจของข้าเหล่านั้น!” เมื่อเสียเลือดมากเข้า ร่างหนาของชายหนุ่มก็เริ่มโซเซจนมิอาจทรงตัวได้อีกต่อไป เขาล้มลงมาแทบเท้าของเอลิเดียในเสี้ยงวินาทีให้หลัง
“ข้าจะฆ่าเจ้า! ฆ่าคนรักของเจ้า! ให้สมกับที่เจ้าฆ่าดวงใจแห่งข้า!!!!”
ปึ้ก!!!!!!
เสียงส้นสูงแหลมเฟี้ยวของราชินีสาวผู้กำลังโกรธจัด ปักทะลุเข้าไปบนกะโหลกแข็งของสายลับโชคร้ายอย่างรวดเร็ว นางกัดริมฝีปากอิ่มสีแดงสดด้วยความเคียดแค้นใจ จนไม่ลังเลที่จะหมุนส้นเท้า เพื่อขยี้หัวของเศษสวะที่ถือดีมารุกรานครอมต์ให้แหลกละเอียดคาเท้าของนางเอง!!!
“ลอร์ด! เจ้าจงไปส่งข่าวให้เนกาเดียนเดินทางเข้ามาหาข้าโดยเร็ว ส่วนเจ้า..กอร์ดอน จงเร่งรวมพลทัพใหญ่แห่งชาวเราให้เสร็จสิ้นภายในเจ็ดวันนี้ และดวงใจแห่งข้า...เจ้าจงอย่าทำการอันใด ที่จะทำให้ข้าต้องสูญเสียเจ้าไปอีกคนเลย....” ท้ายเสียงของนางแผ่วลงด้วยความเศร้า ก่อนที่ร่างสูงผู้มีดวงตาสีดำจะเข้ามาโอบกอดร่างบางของนางไว้
“หากท่านอยากร้อง ข้าจะช่วยกำบังให้ขอรับ” เสียงนุ่มกระซิบแผ่วเบาที่ข้างหู ในขณะที่เขารู้สึกได้ว่า หญิงสาวที่ภายนอกดูเหี้ยมโหดเช่นเอลิเดีย ก็อ่อนแอไม่แพ้หญิงสาวนางใดบนโลกใบนี้เช่นเดียวกัน ร่างบางของนางสั่นระริกในอ้อมกอดอุ่นของเขา เพื่อพี่น้องร่วมเผ่าพันธุ์ที่ตายไป เพื่อดวงใจแห่งนางอันเป็นที่รักยิ่ง ‘เขา’ กอร์ดอน บราวน์ ผู้นี้...จักขอนำหัวของเหล่ามนุษย์โสโครกมาถวายแทบเท้านางผู้ยิ่งยงนี้ด้วยตัวของเขาเอง!!!
.
.
.
.
‘ราตรีกาลเคลื่อนคลาดผ่านตะวัน
จันทราลัดพิลาศล้ำเคลื่อนครองฟ้า
ดุจดั่งองค์ราชินีคู่ขัตติยา
เคลื่อนยาตราครองพสุธาด้วยชีวิน’
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
ยูเอาตอนที่สองของสาวๆดาร์กไซด์มาเสิร์ฟแล้วจ้า >[]<
แต่งตอนนี้แล้วเหงื่อตก -___-" ยากมาก ! ยากกว่าตอนแรกแบบสุดๆ
คิดอยู่ตั้งนานว่า . ถ้ามี NC เยอะเกินไป? คนอ่านก็จะเบื่อเอา *
เลยเอานางเอกคนที่มีสาระอยู่เยอะมาลงให้อ่านไปก่อน 55 ~ ใบ้ให้ว่าตอนนี้เป็นตอนสำคัญ!
ที่จะนำทุกคนเข้าสู่เนื้อเรื่องหลักแล้วนะคะ >///< ถ้าอ่านไม่ละเอียดเนี่ย?
จะงงในตอนต่อไปเชียวนะ !
....
เอาอีกแล้วๆ >,< มีพระเอกของใคร? กำลังไปคั่ว(?)อยู่กับนางเอกคนอื่นรึเปล่านะ?
5 5 ทำใจซะเถอะค่ะ >O< ยูบอกแล้วว่าพระเอกฝั่งความมืดของเรา มันไว้ใจไม่ได้กันซะทุกคนนั่นแหละ !
((แต่เกสท์นี่หล่อทุกตอน >//< เผลอๆ บทเยอะกว่าพระเอกอีก 55))
ขอโทษที่ตอนนี้นางเอกคนสวยได้ออกแค่ 2 คนเท่านั้นนะคะ T^T
เพราะแค่นี้มันก็ยาวไปตั้ง 8 หน้า word แล้ว ! O[]o" ยูแบบตกใจเลย..
อะไรมันจะเร็วขนาดนั้น ?
ที่เหลือก็รอตอนต่อไปจ๊ะ ^^~ ยูจะรีบปั่นให้แบบสุดความสามารถ !
แต่งานนี้ขึ้นอยู่กับเม้นนะ !!!!
เม้นน้อยออกหลัง? เม้นมากออกเยอะ?
>w< เพราะอะไรก็เกิดขึ้นได้ในดาร์กไซด์สตอรี่ โฮะๆ ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น