ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    uncanny พิสูจน์ไม่ได้(รีไรท์รอบสามแล้วโว้ย)

    ลำดับตอนที่ #6 : ลางสังหรณ์ที่V:งูกลายพันธุ์(รีไรท์4)

    • อัปเดตล่าสุด 27 เม.ย. 54


    ลางสังหรณ์ที่V:งูกลายพันธุ์(100%)

              เธอเดินกลับมาด้วยสีหน้าเศร้าสร้อย หลังจากรับรู้การจากไปของเพื่อนชายที่กลับชาติมาเกิดและต้องตายอีกครั้เพื่อช่วยชีวิตเธอ เขาต้องตายเพราะเธออีกแล้ว มันทำให้เธอรู้สึกผิดมากกว่าในครั้งเก่า เหล่าวิญญาณแถวนั้นได้เห็นดังนั้นก็เข้ามาปลอบร่างเล็ก ทุกตนล้อมหน้าล้อมหลังเธอพูดคำพูดปลอบใจของเธอสารพัดหวังว่าจะให้เธอหยุดร้อง  จู่ๆก็มีสายลมพ้ดผ่านใบหน้าของเธอเบาราวกับจะเช็ดน้ำตาแห่งความเศร้าสร้อยบนใบหน้าของเธอตอนนี้ ใบหน้าของพจน์ยามยิ้มบางๆให้กับเธอปรากฏขึ้นในห้วงความคิดของเธอเมื่อเธอมองขึ้นไปบางท้องฟ้า ทำนบก็แทบจะพังครืนลงมาอีกครั้ง

            /ไม่ต้องเสียใจไปหรอกนะจ๊ะ...ชะตาเขาถึงฆาตแล้ว...มันคงเป็นกรรมเก่าของเขา/วิญญาณสาวตนหนึ่งปลอบ อยากจะเข้ามาลูบหัวของเธอ แต่นางคิดว่านางไม่สามารถแตะต้องมนุษย์ได้จึงทำได้เพียงพูดปลอบเธอเท่านั้น วิญญาณตนอื่นต่างสนับสนุนคำพูดของวิญญาณสาวตนนั้นอย่างเซ็งแซ่ ทว่า ไม่มีวี่แววที่ลุงผีจะพูดอะไรออกมา ลุงผียืนกอดอกนิ่ง และฟังคำพูดตัดพ้อของเธอที่พูดไปมันก็ไม่ได้ทำให้พจน์ฟื้นขึ้นมา

            "กรรมของเขาหรือกรรมของฉันกันแน่!!"เธอเผลอตวาดออกไปด้วยความลืมตัวเพราะอารมณ์ที่คุกรุ่นอยู่ในขณะนี้ ทำให้วิญญาณทั้งหลายสะดุ้ง ลุงผีเองก็มีอารมณ์กรุ่นๆ ซึ่งพยายามอดทนอยู่ แต่ในเมื่อเธอเองก็ระเบิดออกมาอย่างไม่เกรงใจใครแบบนี้ ลุงผีหมดความอดทนลง ในที่สุดนั้นเองกำแพงที่ตั้งสูงได้ทลายลงมาเพียงเพราะคำพูดของเธอไม่กี่คำ

            /นี่ไอ้หนู...ร้องไห้แล้วไอ้หมอนั่นจะฟื้นขึ้นมาหรือไง!/เสียงของลุงวิญญาณตนนั้นเป็นกึ่งตวาดเชิงดุนิดๆ ไม่มีเค้าลางว่าลุงแกจะมาปลอบโยนอย่างใจดีเหมือนวิญญาณอีกตนเลยแม้แต่นิดเดียวแม้แต่น้อย แถมยังเข้ามาใช้นิ้วจิ้มหัวของเธออีกต่างหากและวิญญาณทั้งหลายก็เพิ่งได้รับรู้ว่า ร่างกายของเธอสามารถจับต้องได้ ไม่เหมือนกับมนุษย์ทั่วๆไปที่ไม่สามารถให้วิญญาณจับต้องได้ หรือพวกเขาสามารถปรากฏกายให้เห็นได้

            ร่างบางเบิกตากว้างอยู่ครู่หนึ่งไม่ดคิว่าลุงผิดจะพูดแบบนี้...จริงของลุงผี ริมฝีปากอิ่มเม้มเป็นเส้นตรง หลบตาไม่กล้าสบตาลุงผีที่จ้องหน้าเธอด้วยแววตาดุดันคำพูดของลุงผีพูดถูกต้องทุกประการอย่างหาข้อโต้แย้งไม่ได้เลยแม้แต่น้อย ก่อนที่เธอจะพ่นลมหายใจออกมาอย่างไม่ค่อยจะสบอารมณ์เท่าไร สมองคิดประมวลผลในสิ่งที่ลุงผีนั้นได้'กล่าวตักเตือน'เธอไปเมื่อสักครู่นี้ เธอรู้ว่าตัวเองผิดไปแล้ว
     
            "ไม่"ร่างเล็กตอบเสียงอ้อมแอ้ม ต้องโดนลุงผีดุอีกแล้วแน่ๆกับความไม่มีมารยามและไม่มีความอดทนของเธอ เพราะว่าเธอไปตวาดระบายอารมณ์ที่พุ่งพล่านและเต็มไปด้วยความเสียใจของเธอ เธอกำลังจมอยู่กับความผิดของตัวเอง ความผิดที่ทำให้คนอื่นต้องเดือดร้อนเพราะเธอ ความผิดที่ทำให้คนอื่น...ต้องตายจากไป

            /นั่นไง...สู้เอาเวลาที่เสียน้ำตาไปทำบุญทำทานไม่ดีกว่าเหรอ/เสียงของลุงวิญญาณอ่อนลงเมื่อเห็นว่าเธอดูจะสำนึกผิดแล้ว ในคราวนี้น้ำตาของเธอไหลออกมาอีกครั้ง มันเป็นน้ำตาแห่งความปลาบปลื้มไม่ใช่ความเศร้าโศกแบบเมื่อสักครู่ ทุกครั้งที่เธอเหงา ก็มีทุกตนอยู่ข้างๆ เพราะไม่มีใครหน้าไหนกล้าเข้าใกล้เธอ...

             ...รวมถึงพ่อกับแม่ของเธอที่ห่างออกไปทุกที...

             "ค่ะ...ขอบคุณมากค่ะ"เธอเช็ดน้ำตาอย่างลวกๆด้วยหลังมือพลางยิ้มออกมาทั้งๆที่น้ำตายังคงไหลออกมา การได้อยู่ได้ระบายอะไรออกมาให้พวกเขาฟังทำให้เธอรู้สึกดีมากถึงดีที่สุดสำหรับเธอ ถึงแม้ทุกคนจะหวาดกลัวกับสิ่งเหนือธรรมชาติแบบนี้ นั่นคือรวมถึงเธอในอดีตที่หวาดกลัวกับทุกสิ่ง แต่ในบัดนี้มันไม่ใช่ เธอไม่รู้สึกว่าพวกเขาหน้ากลัวเลยแม้แต่นิดเดียว และดูเหมือนจะใจดีคนปกติที่มีแต่เสแสร้งไม่จริงใจกว่าด้วย

            /นั่นแหละ...ทำหน้าตาน่ารักๆแล้วกลับบ้านกัน...อย่าทำหน้าเศร้าๆไป...เจ้าที่เจ้าทางกระเจิงหมด/โดยเฉพาะลุงวิญญาณตนนี้ที่เป็นวิญญาณตนแรกที่เขามาพูดกับเธอหลังจากพจน์จากไป ตอนนี้ตบไหล่เธอดังป้าบๆพลางหัวเราะเบาๆ เธอถลึงตามองลุงผี เธอมีอำนาจให้ผีแตะต้องตัวเธอได้ และทำให้ผีมีแรงส่งผ่านมาถึงร่างกายเธอ พูดง่ายๆก็คือหากอยู่กับเธอ ผีก็เหมือนคน แตะตัวได้ เตะได้ ตบได้ ต่อยได้ และยังทำให้ผีนั้นสามารถแตะตัวคนอื่น แถมยังทำให้คนอื่นเห็นพวกวิญญาณได้อีกด้วยมันเป็นผลพลอยได้สำหรับพวกลุงๆเขาเลยล่ะ

            --3ปีก่อน--
      
            "ฮึกๆๆๆ...ฮือๆๆๆ"ร่างเล็กๆของชาช่านั่งกอดเข่าร้องไห้อยู่ข้างๆเมรุที่ กำลังลุกโชนไปด้วยเพลิงคนเดียว ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้เธอตลอดงานศพ ทุกคนมองเธอด้วยสายตารังเกียจปนหวาดกลัว เธอเลยมาหลบเพื่อร้องไห้แสดงความรู้สึกที่แท้จริงอยู่ตรงนี้คนเดียว ตอนนี้และตรงนี้คงไม่มีใครมาพบเธอเข้าอย่างแน่นอน

            /หนู...หนูเป็นอะไรหรือเปล่า/เสียงก้องๆ เหมือนไม่ใช่เสียงของคนดังขึ้น เธอรู้สึกว่ามีมือมาวางไว้บนหัวของเธอเบาๆ ร่างบางสะดุ้งเฮือก เมื่อมีใครสักคนมาพบเธอเข้า เธอกลัวว่าจะเป็นญาติของพจน์ คงจะต้องเอาเรื่องของเธอไปนินท่าอีกแน่ๆ เธอรังเกียจคนพวกนี้เหลือเกิน ร่างเล็กพยายามกลั้นเสียง

            "หา...ฮึก"เธอเงยหน้าขึ้นมา ทั้งที่ยังน้ำตานองใบหน้าจมูกและดวงตาแดงช้ำจากการร้องไห้ เมื่อเห็นว่าสิ่งตรงหน้าเป็นเพียงเงาจางๆคล้ายๆรูปลุงหน้าตาใจดีคนหนึ่งก็รู้สึกเบาใจอย่างน้อยก็ไม่ใช่คนพวกนั้นและเธอคงเห็นภาพหลอนไปเองคนที่ไหนจะเป็นตัวโปร่งแสงบางคนแสงแทบทะลุผ่านมาได้ขนาดนี้

           /ดูสิ...ร้องไห้แล้วน่ากลัวออก...ไม่น่ารักเลย/ลุงเขานั่งยองๆลงมาให้อยู่กับระดับเดียวกับเด็กน้อยพลางเอามือจะเช็ดน้ำตาให้แต่มือนั้นก็ทะลุใบหน้าของเธอไป /ขอโทษนะ/ ลุงคนนั้นทำหน้ารู้สึกผิด แต่เธอก็เอียงคอมองอย่างไม่เข้าใจ ลุงจะขอโทษเธอทำไม และทำไมลุงถึงแตะตัวเธอไม่ได้ ...ลุงเขาเป็นผีอย่างนั้นหรือ

            "ลุงไม่กลัวหนูหรือคะ"เธอถามก่อนสะอื้นถี่ๆ ปาดน้ำตาออกอย่างลวกๆเพราะเธอยังมองเห็นหน้าลุงเขาไม่ค่อยชัดเนื่องจากม่านน้ำตาบดบังการมองเห็นของเธอ แล้วขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ เธอยังคงเด็กมากในเรื่องแบบนี้เด็กเกินกว่าที่จะกลัวเรื่องแบบนี้ หรือเธอไม่มีอะไรจะกลัวอีกแล้วเพราะเธอก็น่ากลัวพออยู่แล้วอาจจะรังเกียจเธอด้วยซ้ำไป

            /ลุงจะกลัวหนูทำไม...หนูสิต้องกลัวลุง/ลุงแกย้อนเข้าให้ เธอเอียงคอมองลุงผีอย่างงงๆ เธอไม่เห็นว่าลุงแกจะน่ากลัวตรงไหนเป็นเธอสิที่น่ากลัวเพราะทำให้เพื่อนสนิทของตัวเองต้องมาตายเพราะเธอแท้ๆ

            "ทำไมล่ะ...ลุงออกจะใจดี"เธอถามงงๆ ที่น่ากลัวต้องเป็นเธอสิไม่มีใครน่ากลัวเท่าเธอและไม่มีอะไรน่ารังเกียจไปมากกว่าเธออีกแล้วเพราะเธอเป็นคนที่ทำให้เพื่อนต้องตายโดยที่เธอเป็นสาเหตุสำคัญ เขามาช่วยเธอเขาถึงต้องตายแบบนี้มันเป็นตราบาปไปชั่วชีวิตของเธอเลยทีเดียวสำหรับการตายของพจน์

            /ก็ลุงเป็นผีน่ะสิ/ลุงพูดเด็กคนนี้ไม่กลัวผีเลยหรอกหรือเนี่ย ลุงผีเลิกคิ้วอย่างงุนงงเด็กคนนี้คงจะมีสิ่งที่มนุษยืเรียกกันว่า'ของดี'หรืออะไรสักอย่างที่พิเศษแปลกไปกว่าคนอื่นเป็นน่า ชักน่าสนใจแล้วส่ะสิ ลุงผีมองอย่างพินิจพิเคราะห์ในตัวชาช่า

            "แต่เขาว่าหนูว่าเป็นปีศาจฆ่าลูกฆ่าหลานเขา"เธอพูดเสียงเรียบราวกับว่าเคยชินเสียแล้วกับพูดพวกนี้ ลุงผีดูอึ้งๆกับคำพูดของเด็กน้อย เธอดูท่าทางไม่ไร้เดียงสา เธอต้องรู้ความหมายในสิ่งที่ตัวเองพูดหรือไม่รู้กันแน่

            /หนูเป็นเด็ก...จะไปฆ่าใครเขาได้ไง/ลุงผีขมวดคิ้ว ลองถามออกไปดู เด็กสาวหน้าสลดลงอีกครั้งหนึ่งเหมือนกับว่าเพิ่งนึกได้ว่าตัวเองนั้นควรจะเศร้า ลุงผีอยากจะตบปากตัวเอง อุตส่าห์ดึงความสนใจ ทำให้เธอหยุดร้องไห้ได้แล้วแท้ๆเชียว กลับมาเบะปากจะร้องไห้ระรอกสองอีกแล้ว ทีนี้ลุงผีจะทำอย่างไรดีล่ะเนี่ย

            "ใครที่หนูอยู่ใกล้ด้วยก็ต้องตายหมดเลย"เธอพูดเสียงปนสะอื้น มือเล็กๆยกขึ้นมาปาดน้ำตาที่ไหลออกมาอีกครั้งหนึ่ง ลุงผีมองเด็กน้อยอย่างเห็นใจ คงจะบอบช้ำทางจิตใจมากสินะที่มีคนมาพูดแบบนี้ ผู้ใหญ่สมัยนี้ก็จริงๆเลย ทุกอย่างมันเป็นเรื่องบังเอิญแท้ๆ เด็กคนนี้ไม่ได้ทำอะไรผิดสักนิดเดียวกลับต้องมารับผิด ต้องมาโดนว่า นินทา เป็นความผิดที่ตรึงตราอยู่ในจิตใจเธอไปตลอดชีวิต คิดว่าตัวเองเป็นตัวอันตรายสำหรับทุกๆคน

            /ฮะ...เฮ้ย...ไม่เอาน่า...มันจะเป็นไปได้ไง...ไม่เอาน่าดูสิหน้าตาไม่น่ารักเลย/ลุงผีโบกมือ พล่างหาเศษกระจกที่แตกๆแถวนั้นมาส่องเธอ เนื่องจากวัดนั้นมีส่วนประกอบของกระจกสี และก็มักมีเด็กวัดมือบอนมาแกะเล่น มาส่องใบหน้าของเธอที่บัดนี้มีคราบน้ำตาและจมูกกับดวงตาก็แดงช้ำจนน่ากลัว และน่าใจหาย นี่เธอร้องไห้หนักขนาดนี้เลยหรือ แม้แต่่ตัวชาช่าเองยังตกใจ แล้วจะไม่ให้ลุงผีว่าเธอได้อย่างไรแต่เธอก็ไม่สนใจอีกต่อไปแล้ว...ร้องเลย ร้องให้พอ

            "แถมคนที่ตายไปเป็นเพื่อนรักของหนูด้วย...โฮ!"เธอยิ่งร้องหนักลุงผีเกาหัว ปลอบเด็กไม่เป็นก็ยังจะมาปลอบอีกหนอลุงผี ลุงผีรู้สึกแย่ที่ปลอบเด็กคนเดียวยังทำไม่ได้จึงเลิกปลอบแบบเห็นใจ เมื่อไม้อ่อนไม่ได้ผลก็ต้องใช้ไม้แข็งซะแล้ว

            /นี่!!...ร้องไห้แล้วคิดว่าหมอนั่นจะฟื้นหรือ...ถึงเขาไม่ฟื้นแต่วิญญาณของเขาก็คงไม่สบายใจไม่ได้ไปเกิดในที่ดีๆ...หนูอยากให้เขาไปเกิดในที่ดีๆไหมล่ะ/ลุงผีพูดกึ่งตวาด เมื่อใช้ไม้อ่อนไม่เป็น ผล ไม้แข็งจึงถูกนำมาใช้ในที่สุด เธอหยุดร้องด้วยความตกใจกึ่งหวาดกลัว

           "ยะ...อยาก"เธอพูดด้วยเสียงปนสะอื้น ตอนนี้เธอหยุดร้องไห้เพราะมีลุงผีนั้นดึงความสนใจด้วยการตีหน้ายักษ์เท้าสะเอวใส่เธอ คนตัวเล็กเบียดยตัวเข้าหากำแพงสีขาว ลุงผีรู้ว่าเธอเริ่มจะกลัวจึงเลิกตีหน้าดุ

           /งั้นก็เงียบซะ!!...แล้วไปทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้เขา...คนอื่นจะว่าเธอว่าเป็นตัวอะไรก็ไม่ต้องสน/ลุงผีพูดยังไม่ลดดีกรีความโหดของน้ำเสียง แต่ใบหน้านั้นหายแล้ว เขาถอนหายใจ กลอกตาขึ้นฟ้า พลางทำสีหน้าเบื่อหน่ายเสียเต็มประดา

           "ตะ...แต่"เธอทำท่าจะแย้ง เธอยังคงไม่มั่นใจ ทุกคนเกลียดเธอนี่นา จะกลับมาชอบได้อย่างไร ถ้าหากลุงผีบอกว่าจะช่วยแล้วเขาจะช่วยเธออย่างไรในเมื่อตัวเองก็เป็นผี ไม่สามารถให้ใครมองเห็นตัวตนได้

           /เพราะตัวเธอก็คือตัวเธอ...ไม่ได้ไปผูกติดกับใครและก็ไม่มีใครสามารถตัดสินเธอได้ว่าเธอเป็นตัวอะไรด้วย!!/ลุงผีพูดเสียงอ่อนลงแล้วก็ทำท่าจะโอบกอดเธอแต่ก็ต้องชะงักราวกับรู้ตัว แต่ก็ต้องแปลกใจคราวนี้มีอะไรบางอย่างแปลกไปจากเดิม และลุงผีก็ไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อนนับตั้งแต่เกิด ยันตายมาเป็นผีแบบที่เป็นอยู่นี้...

           "ขะ...ขอบคุณมากนะคะ"น้ำตาของเธอไหลออกมาอีกครั้งและเธอก็กระโจนเข้ากอดลุงผีเอาไว้!! แถมยังไม่ทะลุผ่านตัวลุงผี จริงๆชาช่าอาจจะกำลังลืมตัวจึงเผลอเข้ามากอดแต่ลุงผีไม่คิดว่าผลลัพธ์จะออกมาเป็นแบบนี้ไปได้

            /ดูสิ...จมูกช้ำหมดแล้ว/ลุงผีลองปาดน้ำตาที่นองหน้าเธอ ปรากฏว่ามันไม่ทะลุเหมือนครั้งแรก จึงบีบจมูกรั้นๆของเธอด้วยความมันเขี้ยว

            --ปัจจุบัน--

            "ลุงง่ะ"ร่างบางเบ้ปากอย่างงงอนๆ แต่ทว่าดูแล้วน่ารักอย่างประหลาดในสายตาของลุงผี และเพื่อนๆผี แถมหากถ้ามีใครมาเห็นเธอในเวลานี้คงจะไม่วายเข้ามาจีบเธอเป็นแน่แท้ แต่ตอนนี้ไม่สำคัญประเด็นหลักคือสิ่งที่ลุงผีพูดต่างหาก เธอไม่ได้โวยวายเรื่องเจ้าที่เจ้าทางกระเจิง แต่มีมนุษย์หน้าไหนถูกผีชมมั่งหรือเปล่าไม่รู้ว่าลุงผีชมหรืออะไรกันแน่เพราะว่าลุงผีไม่เคยชมเธอเลย...

             ...แล้วเธอควรจะดีใจไหมเนี่ย...

             "หนูกลับดีกว่า"เธอรีบเดินจ้ำกลับไปทางที่ตัวเองจากมาอย่างรวดเร็ว จริงๆแล้วเพราะว่าเธอรู้สึกเคอะเขินกับลุงผีต่างหาก ลุงผีเองก็ดูเหมือนว่าจะรู้เรื่องนี้ดียิ้มบางๆมองเธอจากที่ไกลๆ เธอไม่ได้โตขึ้นจากตอนนั้นเลยจริงๆ ถึงแม้ว่าเวลาจะผ่านไปแล้วก็ตามที

              เธอเดินมาเรื่อยๆ มองไปที่ร่องน้ำก็เจอบางสิ่งที่มนุษย์ทั้งหลายควรชอคตายตาตั้ง ตั้งแต่แรกเห็นแต่เธอกลับไม่สะทกสะท้านแถมยังด่ามันกลับไปอีกต่างหาก มันเป็นงูธรรมดาลำตัวของมันเป็นสีขมุกขมอมเหมือนกับไปเปื้อนดินโคลนมา แต่ความรู้สึกที่เธอได้รับจากมันนั้นมันสื่อออกมาว่าไม่ได้แค่มันร้องเพลงด้วยเสียงอันห่วยแตกได้แต่ทว่าเธอก็ไม่ได้ใส่ใจเพราะเธอเขินยังไม่หายกับคำพูดที่ลุงผีมาแซวเธอจึงหาที่ระบายอารมณ์

              "ไอ้งูบ้าเอ้ย...เสียงก็ไม่เพราะร้องเพลงอยู่ได้ "เธอพูดด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์เอามากๆนั่นเป็นเพราะว่าเสียงของงูนั้นน่าเกลียดมากๆ ไม่เพราะๆมากมายแต่ก็จะอุตส่าห์แหกปากร้องออกมาดังลัานไปทั่วบริเวณได้ ก็เออน่ะสิ...ไอ้งูเวรตัวนี้มันร้องเพลงได้เท่านั้นเอง...

              ...ร้องเพลง?...

              คุณเธอเพิ่งฉุกคิดขึ้นมาได้ ดวงตาเบิกกว้าง แล้วหันไปหางูตัวนั้นอย่างตกใจ  หากร้องเพลงได้มันก็ต้องฟังได้ แล้วถ้ามันฟังได้ มันจะหันมาฉกเธอไหมเนี่ย แล้วหากคิดดูดีๆอีกทีมันอาจจะพูดได้ด้วยนะเนี่ย เธอจะทำอย่างไรดีล่ะเนี่ย งูตัวนั้นมันต้องโกรธเธอมากแน่ๆแบบนี้ เธอจะทำอย่างไรดี ร่างบางทำท่าจะหันหลังวิ่งแต่ทว่าเหมือนมีรังสีบางอย่างแผ่ออกมาจากงูตัวนั้น มันเป็นความดำมืนปะปนมาด้วยความเศร้าสร้อยอย่างแปลกประหลาด เธอไม่เคยพบกับความรู้สึกแบบนี้มาก่อนเลย

           
       "เจ้าว่าอะไรนะ...นังหนู"มีสัญญาณตอบรับมาเสียด้วย คลื่นความน่ากลัวแผ่ออกมาอย่างมากมายจนเธอตกใจ เธอไม่เคยรับคลื่นความน่ากลัวมากมายขนาดนี้มาก่อนเลยในชีวิต เธอตกใจจนน่าซีดมันเป็นอย่างนั้น มันพูดได้ด้วย คราวนี้เธอโดนแน่ เธอน่าจะเชื่อคำพูดของลุงผีตั้งแต่แรก ปากพาซวยจริงเลยเธอเนี่ย เธอก้าวถอยหลังไปหนึ่งก้าว แต่ด้านหลังก็มีบ่อน้ำ

            เฮือก!!

           เอาไงดีล่ะทีนี้...ด้านหน้าก็งู ด้านหลังก็น้ำ หนีด้านข้างก็แล้วกัน ว่าแต่ว่า ทางไหนกันล่ะเนี่ย ตรงนี้มันส่วนไหนของพิพิธภัณฑ์ มันไม่ใช่ทางที่เธอจะต้องกลับไปนี่นา นี่เธอเดินเหม่อออกมานอกเส้นทางขนาดนี้เลยหรือนี่ แล้วลุงผีหายไปไหนของเขานะ แถวนี้ไม่มีไอวิญญาณของใครเลย งูนี่ก็ด้วยไม่เห็นมีไอวิญญาณเลย เป็นศพเดินได้หรืออย่างไรกันนะ

            "งะ...งานเข้า"เธอสรุปได้เพียงคำเดียวเท่านั้น หันหลังตั้งท่าจะวิ่งแต่วิ่งไปไหนไม่รู้แหละ รู้แต่ว่าจิตสำนึกมันสั่งให้ต้องไปให้ไกลจากไอ้งูตัวนี้มากที่สุด!!

             ร่างของงูเริ่มขยายออก ผิวหนังของมันซีดลงจนเป็นสีขาวฉีกขาดรุ่งริ่ง ดวงตาสีใสดุจแก้วเหมือนกับปลาพวกนั้น มันอ้าปากอวดเขี้ยวคมๆที่มีอยู่เต็มปาก ดูจากอารมณ์แล้วมันท่าทางจะโกรธมากที่เธอไปว่ามันอย่างนั้น แต่เสียงของมันก็เกินจะรับไหวจริงๆ และเธอก็ปากไวเสียด้วย คำพูดของคนพูดออกไปแล้วมันก็ไปทวงกลับมาไม่ได้ ดังนั้นที่เธอทำได้เพียงอย่างเดียวตอนนี้ก็คือ...

              ...หนี!!...

             "ไม่มีลิ้น!!"เธอเบิกตากว้าง มันไม่น่าจะใช่งูแล้ว ตกลงว่าตัวเลื้อยๆร้องเพลงได้นี่มันเป็นตัวอะไรกันแน่ ใครก็ได้ช่วยบอกเธอที

             "ฟ่อ" แต่เสียงขู่นั้นใช่เลย (ว่ะ) ร่างเล็กสะดุ้งก่อนรีบวิ่งหนีร่างมหึมาที่เลื้อยตามมาอย่างรวดเร็วคงรู้สึกว่าอยากจะทับเธอจนแบบเสียให้ได้ ไม่ลดละความพยายาม หรือว่าเพื่อจะกินให้หายแค้นที่เธอบังอาจไปว่ามัน ก็เสียงมันน่าเกลียดจริงๆนี่นา(ยัง...ยังไม่เลิก)

              ตอนนี้ตัวอะไรก็ไม่สำคัญแล้ว สวมบทหลวงพ่อโกยโดยไม่มีผู้กำกับอย่างเร่งด่วน!!

             /เอาอีกแล้วไอ้หนู...หาเรื่องใส่ตัวอีกแล้ว/ลุงผีตบหน้าผากตัวเองคลาดสายตาไปเพียงนิดเดียวแท้ๆ และเธอยังตกมาอยู่ในอาณาเขตแปลกประหลาดที่ไม่มีมนุษย์อยู่เลยอีกต่างหาก อย่างนี้จะไม่ให้กลุ้มใจได้อย่างไรกัน ลุงผีส่ายหน้ามองงูก่อนจะหายตัวไปหาร่างบาง

             ร่างบางวิ่งอย่างสุดกำลังโดยที่ไม่หันไปมองด้านหลังเลยแม้แต่นิดเดียวและแล้วเธอก็สะดุดล้ม ปากของงูโฉบเกือบเขมือบเธอเข้าไปแต่ทว่าก่อนที่จะได้ทำอย่างนั้น มือบางก็กำทรายจากพื้นขึ้นมาปาใส่หน้าของงูทำให้มีเศษดินเข้าตาของงู มันดิ้นทุรนทุรายอย่างเจ็บปวดแล้วหันหน้าหนีเธอ ร่างบางอ้าปากอย่างอึ้งๆ ไม่คิดว่าตัวมหึมาจะเสียท่ากับมุขตื้นๆ แต่อึ้งได้ไม่นานเท่านั้น

             ชาช่าอาศัยจังหวะนั้น ชิงลุกขึ้นแล้ววิ่งหนีต่ออย่างรวด ภาวนาให้มันเป็นเพียงความฝันที่เธอจะต้องรีบตื่นขึ้นมาโดยเร็ว ฝ่าผู้คนโดยรอบที่มองเธออย่างงงๆว่าเธอวิ่งหนีอะไรมา แต่ก็ต้องเข้าใจแล้วพร้อมใจกันกรีดร้องดังลั่นเมื่อเห็นร่างขนาดยักษ์ของงูประหลาดตัวนั้น และในที่สุดสภาพของพิพิธภัณฑ์ก็ต้องเต็มไปด้วยความวุ่นวายอีกครั้งหลังจากที่หนีเหล่าปลาประหลาดมาได้แล้ว

             ลุงผีมองปราดเดียวก็รู้ว่าเธอสามารถออกมาจากมิติแปลกประหลาดนั่นได้แล้ว แต่ลุงแกกลัวอยู่อย่างเดียวคือชาช่าจะได้อะไรแถมมากับการที่เข้าไปด้วย และมันก็จริงงูประหลาดตามเธอออกมาจากมิตินั่นด้วย เหล่าฝูงชนแตกฮือ ความวุ่นวายที่ถูกจัดระเบียบเรีบยร้อยถูกชาช่าพังทลายในชั่วพริบตา เด็กคนนี้ชอบหาเรื่องน่าปวดหัวมาให้ลุงผีได้เสมอๆเลย

              "โอย...เจอปลาแล้วยังต้องมาเจองูอีกหรือเนี่ย...บ้าจริง!"ชาช่าไม่สลดเลยว่าตัวเองจะเป็นตัวการทำให้เกิดความวุ่นวายมากมายได้ขนาดนี้ แต่ที่รู้ๆ ตอนนี้เธอต้องเอาตัวเธอเองหนีรอดออกไปให้ได้เสียก่อน ไม่สนอะไรแล้วร่างบอบบางวิ่งราวกับไม่รู้จากเหน็ดเหนื่อย ท่ามกลางเสียงร้องของผู้คนจำนวนมากที่ต่างก็พากันวิ่งหนีเอาตัวรอดกันอย่างจ้าละหวั่น ไม่มีใครช่วยเหลือใครทั้งนั้น ตอนนี้มีแต่คนคิดว่าจะต้องเอาตัวเองให้รอดก่อนก็เป็นพอ

               /ไอ้หนู...มัวทำอะไรอยู่ทำไมถึงไม่ช่วย...ไม่คิดถึงคนอื่นล่ะหา/ลุงผีโฉบเข้ามาหาเธอ ร่างบางหันไปหาแล้วมองไปรอบๆตัว ตอนนี้ทุกอย่างดูชุลมุนวุ่นวายไปหมด คนวิ่งชนกันเอง ล้มแล้วก็ไม่มีใครช่วยเกือบจะโดนเหยียบ รถราต่างก็ชนกันโครมครามบีบแตรกันเสียงดังลั่น คลอมาด้วยเสียงด่าทอ เสียงร้องไห้ เสียงร้องเรียกหาแม่ของเด็กเล็กๆหลายคนที่โดนทอดทิ้งหรือต้องพลัดหลงกัน หรือเสียงของครอบครัวที่ต้องพลัดพรากจากความชุลมุนวุ่นวายแบบนี้

               "บ้าเหรอลุง!!...หนูยังเอาตัวไม่รอดเลย"เธอพูดอย่างไม่สำนึก พลางกัดฟันกรอดเมื่อเห็นงูอยู่ไม่ไกลจากเธอเท่าไรนัก และอาละวาดกลางกลุ่มผู้คนยกใหญ่ ลุงผีเองก็หันไปมองภาพนั้นรู้สึกแย่กับเด็กคนนี้เหลือเกิน ทำเรื่องใหญ่ออกขนาดนี้แล้วยังมามัวเห็นแก่ตัววิ่งหนีเอาตัวรอดอยู่คนเดียวอีกต่างหาก เขาไม่น่ามาอยู่กับเด็กคนนี้จริงๆ หากไม่มีคำสั่งให้ดูแลเธอล่ะก็ จ้างด้วยอะไรก็ไม่มา

                /นี่ไม่ใช่ไอ้หนูที่ลุงรู้จัก...ที่ลุงอยู่กับหนูเพราะว่าหนูจิตใจดี...รู้สึกผิดและคิดถึงคนอื่น...แต่ตอนนี้ดูสิ...ที่นี่ไอ้หนูเป็นสาเหตุแต่กับวิ่งหนีเอาตัวรอด ไม่ทำอะไรเลย...หากแกไม่ช่วยลุงไปเองก็ได้!!/ลุงผีตัดพ้ออย่างน้อยใจก่อนจะตรงไปช่วยคนที่ล้มลง คนที่ถูกช่วยก็เหมือนจะงงๆเล็กน้อยแล้วก็วิ่งต่อไป แต่เขาก็วิ่งไปฉุดมือคนที่กำลังจะล้มลงไปเช่นเดียวกับเขา

                ชาช่าหยุดวิ่งแล้วมองดูภาพนั้นอย่างอึ้งๆ จริงสินะเธอเป็นคนทำให้เรื่องนี้เกิดขึ้นทำให้ที่นี่ต้องวุ่นวายแบบนี้ แล้วเธอยังเห็นแก่ตัววิ่งหนีโดยที่ไม่ยื่นมือเข้าช่วยเหลือคนที่กำลังเดือดร้อนอีก เธอนี่มันเป็นคนเห็นแก่ตัวจริงๆ ร่างบางกัดฟันคำพูดของลุงผีและการกระทำของผีแก่ๆตนนี้ทำให้เธอคิดได้ เธอรู้แล้วว่าเธอควรจะทำอย่างไรดี  เธอต้องช่วยพวกเขาเพราะเธอเป็นตัวก่อความวุ่นวายเหล่านี้ขึ้นมา

                 "กริ๊ดดดดด...ลูก...ลูกแม่...ได้โปรดช่วยลูกของฉันด้วยเถอะค่าาาา"เสียงประหนึ่งใจจะขาดของผู้เป็นแม่ดังขึ้น ในขณะที่เจ้าหน้าที่อีก 3 คนกำลังดึงตัวเธอไม่ให้เข้าไปใกล้งูตัวนั้นที่เลื้อยเข้าไปหาเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ ซึ่งดูเธอเหมือนกับว่าจะล้มแล้วถูกเหยียบจนขาหัก ไม่สามารถช่วยตัวเองได้ เธอได้แต่ร้องตะโกนเรียกแม่พร้อมกับน้ำตาพยายามข่มความเจ็บปสดแล้วคลานไปหาแม่ของเธอ ผู้เป็นแม่ก็เอื้อมมือราวกับจะไปคว้าตัวลูกกลับมา แต่ระยะทางนั้นมันเป็นไปไม่ได้ที่ทั้งสองจะเข้าไปหากัน

                 "แม่...แม่จ๋าอย่าทิ้งหนู...อย่าปล่อยหนูไว้คนเดียว...หนูกลัว...ฮือๆๆๆๆ"เด็กน้อยร้องออกมาพลางเอามือปาดน้ำ พวกผู้ใหญ่หลายคนอยากจะช่วยแต่ก็ไม่กล้า เด็กน้อยเจ็บก็แสนเจ็บ และปวดทั้งขา ไม่สามารถทำได้แม้แต่จะคลานไปหาผู้เป็นแม่ ผู้เป็นแม่นั้นก็เจ็บปวดไปไม่ด้อยไปกว่ากัน มันต่างกันเพียงเล็กน้อยตรงที่ผู้เป็นลูกนั้นเจ็บกาย แต่ผู้เป็นแม่นั้น...เจ็บปวดใจ

               ชาช่ากัดฟันก่อนจะวิ่งตรงไปหาเด็กหญิงคนนั้นทันที นี่เธอทำเรื่องเลวร้ายแบบนี้ลงไปได้อย่างไรกันนะ ความหวาดกลัวเหรอ? มันคือความเห็นแก่ตัวที่น่ารังเกียจต่างหาก เธอไม่อยากให้ใครต้องมาตายเพราะเธอในเหตุการณ์ครั้งนี้ คนพวกนี้ไม่รู้เรื่องและไม่เกี่ยวข้องใดๆทั้งสิ้น จะมาตายไม่ได้อย่างเด็ดขาด เสียงฮือฮาดังขึ้นมาในทันทีเมื่อเธอไปถึงตัวเด็กสาวแล้วคว้าตัวเธอมาอุ้มเอาไว้แนบอก เธอเคยอุ้มเด็กอยู่เหมือนกัน น่าจะพอทำได้ แต่พอเธอกำลังวิ่งกลับมานั้น หางของงูก็ตวัดมาขวางหน้าของเธอเอาไว้ ทำให้เธอต้องหยุดชะงักและกอดเด็กหญิงผู้บาดเจ็บเอาไว้

                "เธอไม่เกี่ยว...หลีกไป...ฉันจะเอาเด็กไปหาแม่!!"ชาช่าตะโกน นั่นทำให้งูหัวเราะกึกก้อง พร้อมกับก้มหน้าลงมาหาเธอ กลิ่นเหม็นสาบราวกับศพที่ออกมาจากตัวของมันนั้นทำให้เธอย่นจมูกแล้วเบือนหน้าหนีไปอีกทางพร้อมกับกอดเด็กน้อยเอาไว้ไม่ให้มองมัน มันเอาปลายหางพลิกหน้าเธอหันกลับมามองที่ทำตาเขียวปั๊ดใส่งูอย่างไม่เกรงกลัว

                 "ลำพังตัวเองยังเอาไม่รอด...จะช่วยเหลือคนอื่นเสียแล้ว...เจ้าโง่เองที่วิ่งกลับมา"งูพูดอย่างเยาะเย้ย อ้าปากจะกินเธอเข้าไปพร้อมกับเด็กหญิงคนนั้น แต่ทว่าชาช่าก็หัวเราะออกมา ทำให้งูหยุดชะงัก เพราะกลัวว่าหากเธอสติแตกแล้วมันกินเข้าไปท้องไส้ของมันจะปั่นป่วน เสียงหัวเราะขึ้นจมูกของชาช่าทำให้งูนั้นหงุดหงิด มันส่ายหน้าอย่างหัวเสีย

                "หากฉันสละชีวิตตัวเองแล้วคนอื่นรอดโดยที่การเสียสละของฉันไม่สูญเปล่าล่ะก็ฉันยินดี...แกต่างหากที่โง่และเห็นแก่ตัวเองอย่างถึงที่สุด!!" ชาช่าชี้หน้าของงูอย่างไม่เกรงกลัว งูยักษ์ผงะไปชั่วครู่และในจังหวะนั้นเธอก็รีบวิ่งอ้อมหลบหางงูออกมาพร้อมกับอุ้มเด็กคนนั้นออกมาด้วย แต่ก็ทุลักทุเลเต็มทน งูคำรามออกมาอย่างไม่พอใจ เธอมองงูพลางแลบลิ้นใส่อย่างไม่เกรงกลัว แล้วส่งเด็กให้กับผู้เป็นแม่

                  "ขอบคุณมากนะคะที่เสี่ยงไปช่วยลูกสาว...ฉันไม่รู้จะตอบแทนอย่างไรดี"ผู้เป็นแม่กล่าวอย่างซาบซื้งแล้วกอดลูกสาวเอาไว้แนบอก เธอมองภาพนั้นแล้วก็อดยิ้มออกมาไม่ได้ เขาสุขเราเองก็สุขด้วยเช่นกัน เธอโบกมือปฏิเสธ มันเป็นสิ่งที่เธอควรจะทำ เธอเป็นตัวต้นเหตุ เธอต้องรับผิดชอบกับเรื่องนี้ให้ถึงที่สุด ไม่ว่าเธอจะต้องสละชีวิตของตัวเองก็ตามที...

                  "นังหนู...อย่าคิดว่ามันจะจบ...แกตาย!!"เจ้างูร้องลั่นแล้วจะพุ่งเข้าใส่ฝูงชนแต่ทว่า ชาช่าก็กระโดดวิ่งไปอีกทางที่ห่างออกจากเหล่าผู้คน เหล่าผู้คนกรีดร้องและแตกฮือ เมื่องูตัวเขื่องพลิกร่างพยายามที่จะงับตัวเธอให้ได้ แต่เธอก็หลบหลีกไปมา ถึงแม้ว่าเธอจะไม่เคยทำและมันยากลำบากมากก็ตาม

              /ไอ้หนู...มานี่/ลุงผีฉุดร่างบางให้วิ่งตามไป ซอกแซกไปตามพิพิธภัณฑ์ ทั้งคู่ออกมาอีกทีก็อยุ่ลานจอดรถของพิพิธภัณฑ์เสียแล้ว เสียงเหมือนลากของหนักๆและเสียงบางอย่างใหญ่ๆล้มลงมามากมายตามทั้งคู่มาไกลๆ ระยะนี้คงจะปลอดภัยที่จะหน แต่งูก็คงยังจะอาละวาดต่อแน่ๆ หากไม่เจอตัวเธอหรือไม่ได้จ้ดการฆ่าเธอให้สมใจอยากมัน

              "แฮก...แฮก...แฮก"ร่างบางเอามือกอดเข่าหอบหายใจถี่ๆก่อนปาดเหงื่อที่ไหลย้อยลงมาถึงคาง เธอไม่เคยเหนื่อยอะไรอย่างนี้มาก่อนในชีวิต และตอนนี้เธอก็อยากจะเป็นลมล้มลงไปกองตรงนี้เสียให้ได้ แต่ลุงผีนั้นก็ดึงแขนแห้งๆของเธอไว้ ราวกับว่าลุงผีนั้นได้ล่วงรู้ความคิดของชาช่า เสียงครืนโครมดังตามหลังมาจากที่ไกลๆทำให้ทั้งคู่นั้นต้องเผลอหันไปมองพร้อมๆกันโดยมิได้นัดหมาย

               /ยอมรับเลย...ว่ามันมาความพยายามสูง...ร่วมถึงเจ้าที่พยายามหาเรื่องให้ข้าด้วย!!/ลุงผีพูดออกมาอย่างอารมณ์เสีย ลุงผีแอบกังวลเล็กน้อยในตอนที่แอบพาร่างบางหนีว่าจะพาเธอหนีพ้นหรือเปล่า แต่อย่างไรก็ดีพวกเธอก็รอดมาจนได้ แต่มันคงอีกไม่นานเพราะมันนั้นกำลังไล่หลังตามเธอมาแล้ว ลุงผีมองไปยังทางที่พวกเขาหนีมาอย่างเป็นกังวล ขอให้อย่ามีมครตายไปมากกว่านี้เลย

             "ขะ...ขอโทษค่ะ"เธอโค้งเล็กน้อยก่อนจะทำท่าเหมือนมองหาอะไรบางอย่าง ด้านหลังของลุงผี ลุงผีส่ายหน้าพลางถอนหายใจเป็นเชิงว่าไม่เป็นไร เพราะเรื่องเดือดร้อนที่เธอนำมาให้เขานั้น เขาชินเสียแล้วถึงแม้ว่าครั้งนี้จะเป็นปัญหาที่หนักมากที่สุดก็ตามที

             /พ่อแม่เธออยู่ไหนกันล่ะ...จะได้รีบๆกลับไปซะที/ลุงผีพูด แค่นี้ก็วุ่นวายมากพออยู่แล้ว ลุงผีจะจัดการเรื่องงูประหลาดที่กำลังไล่พังทุกสิ่งทุกอย่างให้ราบเป็นหน้ากลองได้อย่างไรกันเล่านี่ ชาช่าชอบหาเรื่องยุ่งๆมาให้เสียจริงๆ ลุงผีชะเง้อหาพ่อแม่ของเธอเช่นเดียวกับเธอ
             
             "ง่ะ...ค่า"ร่างบางอดน้อยใจไม่ได้ ทุกคนต้องมาเดือดร้อนเพราะความปากเสียของเธอเองแท้ๆ หากเธออยู่นิ่งๆหรือไม่พูดไว้เสียก็ดีหรอก "อ๊ะ...นั้นพ่อหนู ลงตรงนั้นเลย"เธอชี้ไปที่รถพ่อเธอ ก่อนจะหันไปมองงูที่ใช้หางของมันปัดกวาดเช็ดถู(?)เหล่าต้นไม้ในพิพิธภัณฑ์ รถบางส่วน มนุษย์บางคนที่ไปขวางเส้นทางด้วย เธอกลืนน้ำลายเฮือก

           
      "เปลี่ยนเป็นหนูแค่บอกพ่อก็พอแล้ว"เธอพึมพำก่อนออกตัววิ่งไปทางรถของพ่อเธอ ตาไวๆจริงๆเลยเด็กคนนี้ ลุงผีวิ่งตามเธอไปที่รถของพ่อชาช่าที่จอดรออยู่ไม่ไกล ดูเหมือนเพิ่งจะมาจอดเสียมากกว่าที่จอดรอนานแล้ว เพราะส่วนนี้ไม่ใช่ที่จอดรถ และก็มีพ่อชาช่ายืนชะเง้อคอรออยู่นอกรถ ดวงตาของชายวัยกลางคนฉายแววแห่งความเป็นห่วงอย่างชัดเจน

            "พ่อคะ...หนู...หนู"เธอพูดด้วยเสียงตื่นๆ ปนหอบ ผู้เป็นบิดาเห็นสภาพมอมแมมไม่ต่างจากลูกหมาคลุกโคลนของผู้เป็นลูกสาวก็ตกใจ ยิ่งเมื่อเห็นลุงผีด้วยแล้วพ่อ ยิ่งตกใจมากกว่าเดิมหลายเท่าแต่ก็พยายามเก็บอาการเอาไว้ด้วยความหวาดกลัว กลัวว่าลุงผีจะมาบีบคอหรือกินตับตนเข้า ลุงผีมองปราดเดียวลึกเข้าไปในดวงตาของพ่อชาช่าก็รู้ได้ทันทีว่ากำลังกลัวตนอยู่ และก็มีสีหน้ากังวลปะปนมาด้วย

            /อยากจะช่วย...อย่างนั้นสินะ/ลุงผีหันมามองหน้าเธอพลางพูด แล้วหันไปมองหน้าของพ่อที่เต็มไปด้วยความกังวล เพราะคนเป็นพ่อ ถึงแม้จะหวาดกลัวแต่ยังไงเธอก็เป็นลูกในไส้ไม่มีทางทิ้งหรือปล่อยให้ตายไป หรือปล่อยให้ไปเสี่ยงอันตรายอย่างแน่นอน

            "หากอยากจะช่วย...เอ้านี่"พ่อหยิบมีดพก 3 เล่มออกมาให้เธอ ทั้งคนทั้งผีเบิกตากว้างอย่างเหลือเชื่อ โดยเฉพาะผู้เป็นลูกสาว เธอไม่คิดว่าพ่อจะสนับสนุนเธอและให้ยืมมีดพกเหล่านี้ด้วยความเต็มใจ ถึงแม้ว่ามีดเหล่านี้อาจจะทำอะไรได้เพียงเล็กน้อย แต่ก็ยังดีกว่าไม่มีอาวุธชิ้นใดติดตัวไปเลย

            "จะ...จริงหรือพ่อ"เธอถามพ่ออย่างกุกกัก มองหน้าพ่อด้วยสีหน้าไม่เชื่อปนซาบซึ้ง "พ่อไม่ห้ามหนูหรือ"เธอถามเน้นย้ำอีกครั้งหนึ่ง หวังว่าพ่อของเธอคงจะไม่ปล่อยให้เธอไปตาย โดนงูประหลาดตัวนั้นกินหรอกนะ ชาช่ามองหน้าผู้เป็นบิดาเป็นเชิงถามเป็นนัยๆ ว่าเขาต้องการจะทิ้งเธอหรือเปล่า พ่อสบสายตาของลูกสาวอย่างตรงไปตรงมาไม่หลบหน้าเหมือนกับทุกครั้ง

            "อย่าคิดว่าพ่อจะส่งหนูไปไกลๆนะ...แต่เห็นหนูอยากจะช่วย"พ่อบอกด้วยเสียงอ่อนโยน แล้วดึงร่างเล็กของลูกสาวมากอดเอาไว้อย่างหวงแหน ความอบอุ่นจากพ่อ วันนี้ได้สัมผัสอีกครั้งหนึ่ง วันนี้คงจะเป็นวันที่โชคดีที่สุดแล้วสำหรับเธอ ได้ทั้งกอดพ่อและแม่ หลังจากที่พวกท่านทำตัวห่างเหินจากเธอไปนานเสียเหลือเกิน มันตื้นตันอยู่ในอกจนเธออยากจะร้องไห้

            /ซึ้ง...ซึ้ง/ลุงผีแอบแซวเด็กสาวเข้าให้ ช่วงนี้รู้สึกว่าแซวบ่อยเสียเหลือเกินนะลุงผี พ่อของชาช่าพยายามฝืนยิ้มให้กับสิ่งเหนือธรรมชาติตนนี้ ลุงผีเองก็ยิ้มตอบเป็นเชิงรู้ว่าพ่อของชาช่านั้นกลัวเขามากเพียงใด จนพ่อต้องแอบลอบกลืนน้ำลายโดยไม่ให้ลูกสาวเห็น

            "ฝากเจ้าตัวยุ่งนี่ด้วยนะ"พ่อเอามือขยี้หัวผู้เป็นลูกสาว พลางยิ้มแหยๆให้ลุงผีราวกับจะตัดบทว่าให้เธอพาลุงผีออกไปไกลๆได้เสียที ลุงผีนั้นรู้ความหมายที่แฝงมาก็หัวเราะเบาๆในลำคอเป็นเชิงยั่วอีกฝ่ายว่า ถึงจะซ่อนยังไงก็ไม่พ้นสายตาลุงแกไปได้หรอก

            "หัวยุ่งล่ะสิ...พ่ออ้ะ"เธอใช้มือสางผมให้เรียบดังเดิม เมื่อพ่อขยี้ผมเธอทีไร ผมของเธอจะต้องชี้เด่ขึ้นมาเป็นหนวดแมลงสาบทุกทีไป เธอจึงไม่ชอบให้ใครมายุ่งกับหัวของเธอเสียสักเท่าไหร่นัก เพราะธรรมดาก็ดูแย่อยู่แล้ว ยิ่งหัวยุ่งคนเขาว่าเหมือนเพิ่งจะตื่นนอน "ขอมือถือด้วยค่ะ" คราวนี้พ่อเริ่มโยนให้ แต่เธอก็ยังคงรับได้อย่างแม่นยำ ฝีมือไม่มีตกเลยสักครั้ง

            "กลับมาไวๆล่ะ"พ่อบอก พลางชูสองนิ้วให้กำลังใจผู้เป็นลูกสาวที่หัวเราะร่าอย่างอารมณ์ดี จากนั้นก็หันไปหาลุงผีส่งสายตาเป็นเชิงว่าให้ดูแลเด็กคนนี้ให้ด้วย

            "เจ้าค่า~"เธอตอบรับอย่างทะเล้นพลางแลบลิ้นให้พ่อ หันไปสบสายตาลุงผีเป็นอันว่ารู้กัน ก่อนวิ่งไปหางูซอมบี้ตัวนั้นซึ่งเธอเป็นตัวต้นเหตุที่ทำให้เกิดเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น...

            ...เธอขอรับผิดชอบเรื่องราวทั้งหมดด้วยการจัดการงูตัวนี้เอง!!...

    ___________________________

    I want comment



    เครดิตจากC:\Documents and Settings\User\Desktop\คลังคุมิ  ปิดเทอมโปรเจคใหม่ 'ดอกฟ้ากับหมาวัด' [ถามความเห็น] (หน้า 40) w.htm

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×