คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : Will Love, So I love[Part 4]=ความสัมพันธ์ 120%
4
ความสัมพันธ์
บ้าชะมัด!!! ทำไมถึงเรียกชื่อหมอนั่นได้นะ
“อะไร? คิบอม? คิบอมเดจาวูน่ะหรอ หรือว่านายคือเด็กใหม่ของคิบอมที่ว่ากัน”
ร่างเล็กเงียบไม่พูดไม่จาทั้งๆที่ได้ยินคำถาม คนที่ไม่ได้รับคำตอบจึงแสยะยิ้มน้อยๆแล้วเอื้อมมือไปไล้ที่ริมฝีปากบางราวกับว่าจะทำให้มันเปิดออกได้ ทงเฮเม้มปากแน่นพลางเบี่ยงหน้าหนีเพราะรู้สึกขยะแขยงเต็มทน ให้ตายเหอะ! มือนี่ไปจับอะไรมาบ้างเนี่ย
“เล่นกับเด็กของแก๊งเดจาวูเนี่ย น่าจะเท่ไม่หยอก”
“แต่มินโฮ! เดจาวูนะ!! เดจาวู”
“แล้วทำไมล่ะแทมิน!? มันก็ดูดีไม่ใช่รึไงล่ะ”
“แต่นายก็รู้ว่าพวกนั้นน่ากลัวขนาดไหน........”
คนทางซ้ายมือของทงเฮดูตัวเล็กๆท้วงขึ้น แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้คนที่ยืนจ้องมองของเล่นชิ้นใหม่นึกกลัวแต่อย่างใด แถมยังเห็นเรื่องที่คนตัวเล็กพูดเมื่อครู่เป็นเรื่องสนุก มือที่เคยไล้อยู่บริเวณริมฝีปากเมื่อครู่ค่อยๆไล้ลงไปที่ซอกคอและหลังอย่างจงใจ ทงเฮก้มตัวลงแต่ก็ถูกพรรคพวกของคนที่ชื่อว่ามินโฮคว้าตัวไว้แล้วเหวี่ยงตัวลงบนเก้าอี้ มินโฮใช้แขนทั้งสองข้างเท้าไว้กับโต๊ะม้าหินแล้วใช้สายตามองคนที่อยู่ตรงหน้าอย่างพิจารณาอย่างครุ่นคิด ปกติแล้วเด็กแต่ละคนของคิบอมแรงกว่านี้นี่หว่า ทำไมคนนี้ถึงนี้หงิมๆได้วะ?
“ชื่ออะไร?”
“..........”
“ที่ซองจินไม่ได้สอนเรื่องมารยาทรึยังไง!?”
“นายไม่มีสิทธิ์มาว่าโรงเรียนฉันนะ! แล้วที่ฮันวองล่ะ!? ดีนักรึไงถึงได้ปล่อยให้เด็กในโรงเรียนมาเที่ยวระรานเด็กใหม่แบบนี้”
เพี๊ยะ!!!
มือหนาตวัดปะทะเข้าที่ใบหน้าขาวของร่างเล็กอย่างแรงเมื่อเอ่ยปากพูดอย่างถือดี ร่างบางยกมือขึ้นจับที่มุมปากของตัวเองเมื่อได้รสชาติคาวๆของเลือดที่ไหลเข้าปาก จากสายตาที่ตอนแรกเหมือนจะหวาดกลัว กลับกลายเป็นว่าเพราะโดนตบเมื่อครู่ทำเอาอารมณ์ปะทุเดือดขึ้นมาเสียมิได้ ร่างสูงเห็นจึงยิ้มที่มุมปากเมื่อเห็นว่าร่างเล็กเริ่มจะขัดขืนหรือมีอะไรตอบสนองบ้างแล้ว
“หึ!! ป่าเถื่อนกันดีจริงๆ เอะอะไม่พอใจอะไรก็ใช้กำลัง เนี่ยน่ะหรอสถานที่ที่คนข้างนอกใฝ่ฝันจะเข้ามา ก็ไม่ต่างอะไรกับซองจินหรอก ก็เพราะเงินเท่านั้นแหละที่ทำให้ดูสูงขึ้นมาได้ อ้อ! ดีไม่ดีนะ ซองจินจะมีมารยาทกับเด็กนักเรียนใหม่มากกว่านี้ซะด้วยนะ”
มือนั้นง้างขึ้นเตรียมจะฟาดลงมาอีกครั้ง แต่คนตัวเล็กยังคงเชิดหน้าอย่างถือดี และระหว่างที่รอให้มือนั้นฟาดลงมาสายตาของทงเฮก็เหลือบไปเห็นร่างร่างหนึ่งที่ยืนอยู่หลังต้นไม้
รุ่นพี่ยุนโฮนี่หว่า......
“คิดจะทำอะไร” จู่ๆเสียงที่ดังขึ้นจากทางด้านหน้าทำให้ร่างเล็กถอนสายตาจากบริเวณหลังต้นไม้มาสนใจสถานการณ์ตรงหน้าแทน ภาพที่เห็นคือคิบอมกำลังจับข้อมือของมินโฮไว้ในขณะที่ลูกน้องอีกหลายสิบคนก็กำลังยินล้อมพวกเข้าอยู่ คนที่มาพร้อมกับมินโฮก็ยืนหน้าซีดกันเป็นแถบ ส่วนเจ้าของคำพูดที่ว่าน่าจะเท่ไม่หยอกหากเล่นกับเด็กของเดจาวูก็แอบเหงื่อตกเหมือนกัน
“หมอนี่เด็กนายจริงๆสินะคิบอม”
“ถ้าใช่แล้วนายจะทำไม”
“หึหึ ไม่รู้ว่านายมองไม่เห็นหรือว่าแกล้งทำเป็นไม่สนใจกันแน่ แต่ก็จะบอกไว้เอาบุญแล้วกันนะ กระดุมสองเม็ดบนของเจ้าตัวเล็กกับเข็มขัดฉันปลดมันเรียบร้อยแล้ว”
“พี่คังอิน พามันไปจัดการ” สิ้นคำสั่ง คนที่กำลังกวนประสาทถึงกับหน้าซีดด้วยความกลัวเพราะถ้าคิบอมพูดแบบนี้ก็คงหมายความว่าเอาจริงแน่ๆ ที่เขากล้ากวนประสาทก็เป็นเพราะว่าคิบอมไม่เคยใช้อำนาจที่มีสั่งลงโทษใครมานานแล้ว มินโฮถูกพาตัวออกไปจากสวน ส่วนร่างเล็กที่เป็นประเด็นหลักเมื่อครู่ก็ก้มสำรวจตัวเองอย่างรวดเร็วก่อนจะเห็นว่าเป็นอย่างที่มินโฮพูดไว้จริงๆ แถมเสื้อสูทของตัวเองนั้นก็ทำท่าเหมือนจะหลุดออกจากบ่าอีกด้วย
มันเอาเวลาที่ไหนมาทำวะ-*-
“ไม่ต้องจัดแล้ว! มานี่เลยมา!!!”
มือหนากระชากร่างบางให้ลุกขึ้นยืนก่อนจะฉุดกระชากลากถูพากันไปยังหอพัก ตลอดทางที่เดินไปคนถูกลากหวิดจะล้มหน้าทิ่มหลายครั้งเพราะเขาจะต้องก้าวเป็นสองเท่าของคนลาก แถมยังมีคนมองยิ่งทำให้ทำอะไรไม่ถูกเข้าไปใหญ่ นี่มันไปกินรังแตนที่ไหนมาวะเนี่ย! ผมเองก็ใช่ว่าจะอารมณ์ดีซักเท่าไหร่หรอก
เมื่อมาหยุดอยู่หน้าลิฟท์โทรศัพท์ของคนตัวเล็กก็ดังขึ้น ร่างสูงผลักเข้าไปในลิฟท์ก่อนจะกดปุ่มล็อคไม่รับใครอีกทั้งนั้นจนกว่าจะถึงชั้น 11 คนที่ถูกผลักใช้มืออีกข้างที่เป็นอิสระหยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋าแล้วกดรับอย่างไม่รีรอเมื่อพบว่าเป็นเบอร์ของซองมิน
“ซองมิน!!”
[ทงเฮ! ฉันได้ยินมาว่านายไป.......]
“คิบอม! เอาคืนมานะ นายก็เห็นว่าฉันคุยกับซองมิน ไม่ใช่ฮยอกซะหน่อย”
นิ้วเรียวกดที่ปุ่มสีแดงก่อนจะถอดแบตออกแล้วส่งตัวเครื่องคืนให้เจ้าของ ทงเฮกระทืบเท้าอย่างหัวเสียก่อนจะระเบิดอารมณ์ใส่คนที่อยู่ตรงหน้าอย่างจัง
“เด็กของฮันวองนี่ยังไงกัน! มารยาทนี่ไม่ได้เรียนกันเลยใช่มั้ย สนุกมากงั้นสิที่ฉุดกระชากลากถูกันไปมาอย่างนี้ คิดจะเหวี่ยงก็เหวี่ยง ฉันเป็นคนนะไม่ใช่ตุ๊กตาระบายอารมณ์”
“การเล่นกับนักเรียนใหม่อย่างนี้ถือเป็นเรื่องปกติของเรา”
“รวมถึงที่นาย......บ้าเอ๊ย!!” ร่างเล็กสบถออกมาเบาๆเพราะอารมณ์โมโหเมื่อครู่ทำเอาตัวเองหลุดปากพูดเรื่องเมื่อเช้าออกไป ร่างบางมีเลือดสูบฉีดขึ้นเต็มใบหน้ามากกว่าปกติทำให้แดงก่ำด้วยความเขินก่อนจะสะบัดหนีไปอีกทางเพื่อไม่ให้อีกคนที่อยู่ร่วมกันได้เห็น
“ฮึ! พิเศษสำหรับคนปากดีอย่างนายไง”
“-O-////” พะงาบๆ
มือหนาดึงร่างเล็กออกจากลิฟท์เมื่อมาถึงชั้น 11 แล้วพาไปยังห้องห้องหนึ่ง ทั้งชั้นนี้ไม่เหมือนกับชั้นที่เขาพักแม้แต่น้อย เพราะเดินออกจากลิฟท์มาก็เหมือนกับจะเจอกับห้องโถงเลย ราวกับว่าทั้งชั้นนี้เหมือนๆกับห้องเขาห้องหนึ่ง หากแต่ว่าภายในห้องห้องนี้มีอีกหลายห้องย่อยอยู่ในนี้ ทีวีจอยักษ์และโซฟาสีแดงที่เดินผ่านมาเมื่อครู่ทำเอาทงเฮอดเหลียวหลังมองตามไม่ได้
มันจะหรูไปไหนเนี่ย!
“นี่!! พาฉันเข้ามาในห้องนี้ทำไมเนี่ย”
“นั่งลง” สิ้นเสียงสั่งร่างเล็กก็ถูกผลักให้นั่งบนโซฟาสีดำก่อนจะถูกสะกดนิ่งด้วยสายตาคู่นั้น ร่างหนาเดินไปหยุดอยู่หน้าตู้เย็นก่อนจะหาอะไรซักอย่างในนั้น ทำให้ร่างเล็กมองตามด้วยความสงสัย หมอนั่นคงไม่คิดทำอะไรแผลงๆหรอกนะ?
“เอาไปประคบซะ! แก้มนายเริ่มบวมแล้ว”
ร่างสูงโยนถุงประคบสีฟ้าใสลงบนตักของคนแก้มบวม สองมือบางหยิบขึ้นมาก่อนจะแตะเบาๆบริเวณที่โดนตบแล้วทำหน้าเบ้เล็กน้อยด้วยความเจ็บทำให้ต้องเอาถุงประคบห่างจากแก้มของตัวเอง
ไม่ไหวอ่ะ ทั้งเย็น! ทั้งเจ็บ! ทงเฮไม่ขอทน-^-
“ฮะ...เฮ้ย!! เบาๆสิ แก้มคนนะ อ๊ากกกกก หยุดๆๆๆ”
มือเล็กพยายามจะเอามือบังบริเวณที่บวมแล้วใช้อีกมือผลักไสอีกฝ่ายของอีกคนที่กำลังจะแตะถุงประคบเย็นๆลงมาอีกรอบ ด้วยความรำคาญ ร่างสูงจึงใช้มือข้างหนึ่งรวบข้อมือทั้งสองข้างของร่างเล็กไว้ในมือเดียวก่อนจะกดถุงประคบลงไปอีกครั้งอย่างเบามือ เพราะได้ยินเสียงร้องของคนตัวเล็กเมื่อครู่คงจะเจ็บไม่น้อย
“อยู่ดีไม่ว่าดี ไปนั่งเชิดหน้าให้เขาตบ”
“อะไรของนาย ก็เห็นอยู่ว่าถูกมันล็อคตัวไว้”
“ล็อคตัวแต่ไม่ได้ล็อคหน้า ก้มๆหลบมือมันไม่ได้รึไง”
“ตกลงฉันผิดหรอ-_-^ อ๊ะ! เจ็บนะ” ด้วยความหมั่นไส้กับท่าทางหยิ่งผยองของร่างเล็กตรงหน้าที่ทำปากดีเถียงได้ทุกฉอตก็เลยอดที่จะกดถุงประคบลงไปแรงๆบนหน้าไม่ได้ หึ! หน้าบวมขนาดนี้แล้วยังทำปากเก่งอยู่ได้นะหมอนี่
“แต่หมอนั่นก็เหอะ! ปลดกระดุมฉันตอนไหนก็ไม่รู้”
“ไม่ใช่ว่านายไปถอดยั่วมันหรอกนะ”
“ยั่วบ้าอะไรถูกตบกลับมาหน้าบวมขนาดนี้ โอ๊ย! พอแล้ว ฉันทำเอง”
ร่างเล็กพยายามจะสะบัดข้อมือของตัวเองให้หลุดจาการเกาะกุมแล้วเบี่ยงใบหน้าหนีถุงประคบที่คาดว่าน่าจะวกกลับมาที่เดิมอีกครั้ง
เมื่อเห็นว่าร่างสูงไม่พูดทงเฮจึงเงียบแล้วนั่งนิ่งๆ ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงพูดคุยกับคนคนนี้ได้อย่างสนิทสนม ทั้งๆที่กับฮยอกเขาเองยังไม่กล้าพูดถึงขนาดนี้ อาจจะเป็นเพราะท่าทางนิ่งๆของหมอนี่ที่มันกวนอารมณ์ผมซะเหลือเกินนี่ล่ะมั้ง?
“ทำไมเงียบไปล่ะ”
“พอฉันพูด นายก็กดแผลฉันอีก ไม่ได้โง่นะ”
“ก็เพราะว่าพูดแบบนี้ไง”
“โอ๊ย!!!” คนตัวเล็กดิ้นอีกครั้งพลางทำหน้ามุ่ย ชิ! จะยอมแค่ครั้งนี้ครั้งเดียวเท่านั้นแหละ
“เงียบอีกแล้ว”
“จะให้ฉันพูดอีกรึไง”
“พูดดีๆสิ ได้ข่าวว่าอยู่ที่ซองจินทำตัวเป็นลูกแมวเลยนี่” ก้าวร้าวแบบนี้เป็นกับนายคนเดียวเท่านั้นแหละ!!
“ก็นั่นที่ซองจิน แต่นี่ฮันวองควรค่าแก่การพูดดีๆมั้ยล่ะ”
“.........”
“ถามจริงๆเถอะคิบอม นายเป็นใคนกันแน่ ทำไมถึงรู้จักฉันได้”
“หัวหน้าแก๊งเดจาวูไง=_=”
“จะชนะใจฉันได้จะต้องไม่กวนประสาทเป็นอันดับแรกนะ นายไม่รู้หรอ”
ร่างสูงเงียบไปพักหนึ่งก่อนจะวางถุงประคบลงบนตักเล็กแล้วลุกขึ้นยืน ร่างบางมองตามก่อนจะหยิบถุงสีฟ้าที่ถูกวางไว้บนตักเมื่อครู่ขึ้นมาแตะๆแก้มตัวเองอย่างเบามือ บรรยากาศในห้องตอนนี้มีแต่เงียบกับเงียบทำเอาคนที่นั่งอยู่บนโซฟาเริ่มอึดอัดแต่ก็ไม่กล้าพูดอะไรออกไปเพราะกลัวจะทำให้คนที่ยืนอยู่อารมณ์ไม่ดี
และผมก็กลัวว่ามันจะยิ่งทำให้บรรยากาศไม่ดีไปกว่านี้ด้วยน่ะสิ
“จริงๆ เอ่อ.... ไม่ต้องตอบก็ได้นะ ฉันก็พูดไปงั้นๆแหละ จะสามทุ่มแล้ว ฉันกลับห้องดีกว่า”
แต่ด้วยนิสัยที่ไม่มีควาอมดทนเป็นทุนเดิม ทงเฮจึงลุกขึ้นยืนพูดคำพูดที่คิดว่าดูดีก่อนจะแกล้งทำเป็นมองนาฬิกาแล้วเดินไปที่ประตูห้อง คิบอมส่งเสียงรั้งตัวไว้ทำให้ร่างเล็กชะงักอยู่ที่ประตู
“เรื่องคำตอบ ขอโทษนะ”
“เอ่อ....ช่างมันเถอะ!”
“แล้วฉันจะหาคำตอบมาให้นายเร็วที่สุด”
“อ่า-O- ถ้าลำบอกมากก็ไม่ต้องก็ได้นะ”
“ฉันจะหาคำตอบที่ดีที่สุดมาให้นาย”
'นักเรียนใหม่จากมัธยมซองจิน คว้าตำแหน่ง 'แฮงบก' ของหัวหน้าแก๊งเดจาวูได้ตั้งแต่วันแรกที่เข้าเรียน....อ่านต่อหน้า 3'
“เฮ้ย! ทงเฮนายดังแล้วอ่ะ”
ซองมินวางหนังสือพิมพ์ลงบนโต๊ะก่อนจะลากเพื่อนที่ถูกกล่าวถึงในหนังสือพิมพ์มาดู ภาพของหัวข้อข่าวใหญ่เป็นรูปของคิบอมกำลังพาทงเฮกลับหอ คนตัวเล็กปรือตาเล็กน้อยก่อนจะฟุบหน้าลงบนโต๊ะต่อ เมื่อคืนกว่าจะได้นอนก็ตีหนึ่งแล้ว เพราะมัวแต่ทบทวนเรื่องที่เรียนไปเมื่อวาน หวังว่าจะเข้าใจ แต่กลับไม่ได้อะไรแถมยังนอนดึกโดยเปล่าประโยชน์อีกต่างหาก
“อ่านต่อดีกว่า.....'ส่วนหมาป่าแห่งฮันวอง คยูฮยอนก็ทำท่าจะหยุดล่าสัตว์ในโรงเรียนอีกครั้งเมื่อพบเจอกระต่ายสีชมพูตัวอวบที่ถูกใจ ถึงกับย้ายให้ไปอยู่ห้อง Z ด้วยกัน ก่อนจะเกิดกระเด็นใหญ่ของสัปดาห์นี้ คิบอมที่ไม่ได้ใช้อำนาจของตนเองสั่งลงโทษใครมานาน แต่กลับสั่งให้ลูกน้องตบหน้า 'ชเวมินโฮ' รุ่นน้องคนสนิทของเจ้าชายยุนโฮ ทางชมรมหนังสือพิมพ์จะรีบเร่งหาตัวนักเรียนใหม่ 'อีทงเฮ' มาจับเข่าคุยกันให้เร็วที่สุด'
ทำไมมีข่าวฉันกับไอ้......”
“เฮลโหล! ตัวเล็ก!!^O^”
ไม่ทันสิ้นเสียงของคนพูดก็มีอีกเสียงของอีกบุคคลหนึ่งที่คนตัวอวบกำลังจะเอ่ยถึงแทรกขึ้นมา คนที่ฟุบหน้าอยู่กับโต๊ะถึงกับสะดุ้งเพราะเสียงทุบประตูของเจ้าของฉายาหมาป่าแห่งฮันวอง สายตามองเลยไปด้านหลังก็พบรอยยิ้มของรุ่นพี่อีทึกที่ดูแล้วสบายใจกว่ารอยยิ้มของคนแรกเป็นไหนๆ ก่อนจะตามมาด้วยรุ่นพี่คังอินที่ทำหน้าตาเรียบเฉยเช่นเดิม
“เช้านี้ดูไม่ค่อยสดใสเลยนะ”
“ก็นิดหน่อยฮะ เมื่อคืนทบทวนบทเรียนดึกไปนิด แล้วก็...มีเรื่องให้คิดเล็กน้อยฮะ”
“อา....น่าเห็นใจ แล้วทำไมแก้มดูบวมๆล่ะ”
“นี่รุ่นพี่ไม่รู้เรื่องหรอฮะ?”
“อ้อใช่ ซองมิน เมื่อวานพอเลิกเรียนพี่ก็ต้องออกไปข้างนอกน่ะ ถูกคณะกรรมการเรียกตัวไปลากเด็กโดดเรียนให้กลับหอ”
“พี่อีทึกอยู่ในคณะกรรมการนักเรียนหรอ”
“ทงเฮเป็นเด็กใหม่คงยังไม่รู้ พี่รับทำมาตั้งแต่ปี 2 แล้วล่ะ ตกลงว่าเราจะบอกพี่ได้รึยังว่าทำไมแก้มบวมตุ่ยอย่างนั้น ไปถูกใครเค้าต่อยมาล่ะ?”
“อ่า-O-.....”
คนถูกถามถึงกับตอบไม่ถูกเพราะรุ่นพี่พูดซะตรงประเด็น ซองมินจึงยื่นหนังสือพิมพ์ของสัปดาห์นี้ให้อีทึกดู ส่วนคนที่ถูกลืมอย่างคยูฮยอนก็เกิดอาการหงุดหงิดเล็กน้อย
“ไม่สนใจฉันเลยนะ”
“สวัสดี^^”
“ว่าไงฮันคยอง คืบหน้าบ้างมั้ย”
“ขั้นที่ 1 เรียบร้อยแล้วฮะพี่อีทึก” เมื่อทงเฮได้ยินชื่อฮันคยองก็หันไปมองอย่างรวดเร็ว ตอนแรกตั้งใจจะมองหน้าคนที่ชื่อฮันคยองแค่แวบเดียว แต่กลายเป็นว่าต้องส่งยิ้มแหยๆให้เมื่อเจอสายตาของเจ้าตัวมองมาอยู่แล้ว หนุ่มหน้าตี๋ผละจากรุ่นพี่หน้าสวยมาหยุดอยู่ตรงหน้าคนตัวเล็กที่นั่งปั้นหน้าไม่ถูกอยู่บนเก้าอี้ ทงเฮเงยหน้าขึ้นมองก่อนจะตัดสินใจได้ว่าการปั้นหน้านิ่งน่าจะดีที่สุดสำหรับเขา
“ขอโทษด้วยนะที่เมื่อวานไม่ได้มาเรียน^^ แต่คาดว่าเราน่าจะเคยคุยกัน”
ก็แหงล่ะเจ้าตี๋! นายเป็นคนรับโทรศัพท์ฮยอกเมื่อวานนี้ไง-O-^^
“อืม”
“งั้นผมจะแนะนำตัวอีกครั้งอย่างเป็นทางการ ฉันชื่อฮันคยอง เป็นเพื่อนสนิทของคิบอม”
ร่างเล็กนิ่งไม่มีปฏิกิริยาตอบสนอง แต่รอยยิ้มยังคงประดับอยู่บนใบหน้าของฮันคยอง ซองมินเห็นท่าไม่ดีจึงรีบเข้ามาสะกิดเพื่อนให้โต้ตอบอะไรบ้าง แต่ไม่มีเลย....ทงเฮยังคงนิ่งเหมือนเดิ
เมื่อวานทำไว้แสบนักนะฮันคยอง!!
“แต่นายคงไม่ต้องแนะนำตัวหรอก รู้จักกันดีอยู่แล้วล่ะ^^ อ้า! ใช่แล้ว เมื่อวานฉันไปหาฮยอกแจมา หมอนั่นฝากอะไรมาให้นายกันนะ”
“ฮยอกฝากของมาให้ฉันหรอ?”
“ใช่แล้วล่ะ แต่ว่านายคงไม่อยากได้เท่าไหร่หรอก เพราะว่าฉันเป็นคนให้ของนายนี่....ไม่ต้องบอกก็รู้ดูก็รู้กันหมดอยู่แล้ว หน้าฉันนายยังไม่อยากมองเลย”
เพราะคำพูดกระแทกจิตทำเอาคนตัวเล็กต้องหันไปมองหน้าคนที่ยิ้มแฉ่งจนได้ สายตาของร่างบางเหลือบไปเห็นถุงกระดาษสีแดงแปะโลโก้ห้างดังไว้ และทำสายตาสนอกสนใจเมื่อร่างสูงหยิบ 'ของ' ที่ฮยอกฝากมาให้ออกจากถุง เป็นตุ๊กตาชิคเก้นลิตเติ้ลขนาดกลางที่ตนเองเคยบ่นไว้ว่าอยากได้กับฮยอกแจเมื่อเดือนที่แล้ว แต่ก็ถูกปฏิเสธกลับมาทำเอางอนตุ๊บป่องไปหลายวัน คนตัวเล็กคว้าตุ๊กตามาแนบอกด้วยความดีใจเมื่อมือหนายื่นมาให้
“ขอบใจนะ”
ทงเฮพูดด้วยรอยยิ้มก่อนจะนั่งลงแล้วทุบหัวตุ๊กตาเล่น ฮันคยองกระตุกยิ้มที่มุมปากราวกับพอใจปฏิกิริยาที่ร่างเล็กตบอสนองเมื่อได้เห็นตุ๊กตาทั้งๆที่คนถูกกล่าวถึงอย่างฮยอกแจยังคงนั่งเรียนไม่รู้เรื่อง ใครจะโง่บอกเจ้าตัวเล็กกันล่ะว่าเขาเองน่ะซื้อมาเพื่อผูกมิตรเพราะเท่าที่ฟังคยูฮยอนเล่าผ่านทางโทรศัพท์เมื่อวานนี้ ทงเฮดูเหมือนจะไม่ค่อยชอบขี้หน้าเขาเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน โชคดีที่จำได้ว่าเมื่อเดือนที่แล้วที่คอยจับตามองสองคนนี้เลยได้รู้อะไรหลายๆอย่างที่พอจะทำให้คนตัวเล็กตรงหน้าพอใจได้ไม่ยาก
“เอ้อ! ทงเฮ”
“ว่าไง”
“ฮยอกฝากมาบอกอีกด้วยล่ะ คงได้เจอกันนะ”
“ฉันมีเบอร์หรอกน่ะ”
“...........”
“นายยังไม่ได้ทำอะไรฮยอกใช่มั้ย?”
“ฮ่าฮ่า! ฉันจะทำอะไรได้ล่ะ ฉันเพิ่งรู้จักเขาเองนะ”
“แล้ว.....ที่คิบอมบอกว่าฮยอกเป็นของนายล่ะ..”
“คิดมากไปได้! หมอนั่นคงอยากให้นายเลิกพูดถึงฮยอกล่ะมั้ง”
เมื่อได้ยินเช่นนั้นร่างเล็กก็ยิ้มกว้างพร้อมกับทัศนคติต่อคนตรงหน้าก็ดีขึ้นตามลำดับ หนุ่มหน้าตี๋ยิ้มรับก่อนจะเดินไปนั่งที่ของตัวเอง แล้วประตูบานเดิมก็ถูกเปิดออกโดยเจ้าของมือที่ถูกพูดถึงเมื่อสักครู่
“แก้มยังบวมอยู่เลย”
“ก็แหงล่ะ-O- หน้าคนนะไม่ใช่หนังหมา”
“..........”
“โอเค ขอโทษครับคิบอม”
“พูดเพราะๆก็ดีแล้ว”
“แล้วแบตโทรศัพท์ของฉัน....ผมล่ะครับ”
“อยู่ที่ห้องของฉัน ถ้าอยากได้ วันนี้ก็ขึ้นไปเอาล่ะกัน”
ร่างเล็กทำหน้าเบ้เล็กน้อยเมื่อได้ยินว่าต้องขึ้นไปเอาบนห้อง ก่อนจะเงยหน้าขึ้นไปมองคนที่ยืนพูดเมื่อครู่เพราะยังไม่ไป แถมสายตาของหมอนั่นยังจับจ้องอยู่ที่ตุ๊กตาชิคเก้นลิตเติ้ลของเขาอีกต่างหาก!
“มองอะไรน่ะ”
“ตุ๊กตานั่น...ใครให้มา”
“จิ๊! ยุ่งไม่เข้าเรื่องเลยจริงๆ”
“..............”
“โอเค! ฮยอกฝากฮันคยองมาให้ผม เพราะตุ๊กตาตัวนี้ผมเคยบ่นว่าอยากได้ แต่ฮยอกไม่ยอมตามใจซื้อให้”
“ทำไมถึงอยากได้”
“ก็มันเป็นชิคเก้นลิตเติ้ล ฮยอกเองก็เหมือนไก่ ผมเลยอยากได้ไว้เป็นตัวแทนไง”
ทางด้านฮยอก
“ฮัดเช้ยยยยย!!!”
“นั่งด้วยคนนะ^^” หนุ่มร่างสูงหน้าตี๋เดินถือชามมาหยุดอยู่ข้างๆซองมินแต่สายตากลับมองเลยไปยังทงเฮที่ตอนนี้เงยหน้าขึ้นมาพยักหน้าตอบรับแทนพูดเรียบร้อยแล้ว ทำเอาซีวอนที่เดินตามมาบ่นกระปอดกระแปดเล็กน้อย เพราะปกติไม่ต่อยได้ลงมากินข้าวที่โรงอาหาร แต่ไม่รู้ว่าทำไมวันนี้ฮันคยองเกิดนึกคึกบ้าอะไรลงมากินข้าวข้างล่าง รู้งี้อยู่กับไอ้คิบอมบนห้องอาหารก็ดีอ่ะ
“ทำไมวันนี้ลงมากินข้าวข้างล่างได้ล่ะซีวอน^^ ปกติเท้าเหยียบพื้นโรงอาหารไม่ได้นี่ มันสกปรกนะ”
“พี่อีทึกไม่ต้องมาประชดผมหรอกน่ะ! ให้ตายเหอะ ถ้าไม่ติดว่ามันเป็นคนทำให้ผมได้เจอกับพี่ชายหน้าสวยนั่นอีกครั้งนะ ต่อให้มันเอาปืนมาจี้ผมก็ไม่ลงมานั่งร้อนๆที่นี่หรอก”
“คิบอมนั่งแกร่วคนเดียวอีกแล้วอ่ะดิ” รุ่นพี่หน้าสวยขำกิ๊กเมื่อนึกถึงภาพที่คิบอมต้องนั่งกินข้าวคนเดียวอยู่บนห้องอาหารโดยที่มีเชฟสองคนขนาบข้างราวกับเป็นบอดี้การ์ด
“ผมไม่เห็นคิบอมลงมากินข้าวเลย เค้าไม่กินข้าวเย็นหรอ”
“อ๋อ! ปกติมันกินอยู่ที่ห้องน่ะ เอาไว้พรุ่งนี้ลองกินข้าวข้างบนดูแล้วกัน เผื่อจะถูกใจ”
Talk กันก่อนจาก
ตอนนี้ยาว=[]=!! ถือว่าชดเชยในตอนที่แล้วที่มันแอบสั้นอยู่เหมือนกันอ่ะนะ
บ่อมบ๊อมตอนนี้น่ารักเกินห้ามใจ>O<
แต่งเองก็เขินเองอ่ะ!!!
ส่วนฮันคยอง-_-^ แต่งเองก็หมั่นไส้ซะเอง
ทำไมป๋าแหลได้ขนาดเน้!!(ขออนุญาตวิบัติค่ะ- -)
Talk 10 / 01 /10(เลขสวย)
ไหนๆก็ไหนๆละเลขเป็นมงคลซะเหลือเกินขอคุยวันนี้หน่อยละกัน
ช่วงนี้มีติดทำโครงงานฯ อาจจะทำให้มาอัพไม่ได้ซักพักในช่วงอาทิตย์นี้และอาทิตย์หน้า
แต่จะแอบๆมาอัพถ้าสามารถจริงๆ
คนดูเยอะมาก Viewer ปัจจุบันทั้งหมด 691 แต่คอมเม้นต์ 55
เห็นแล้วช็อคมาก=[]=!! (แอบท้อนิดๆด้วย)
ตอนนี้ก็เริ่มปลงและกัดฟันตั้งหน้าตั้งตาแต่งต่อไป
ขอบคุณ
DunkSmash
KeNgIIZ
elmon
popeyecg
: Minny_Pooh
: ภรรยาคิมฮี
Love_Only13
: พรีม
คู่หู'ปอ-ปลา
momomiya
ple_129
และอีกหลายๆคนที่อาจจะตกในหน้าแรกไปแล้ว ขอบคุณมากจริงๆค่ะ^^
แล้วก็.......ขอเลยจริงๆ
คือตังค์ไม่ชอบเลยนะพวกนักอ่านเงาอ่ะ
ตังค์ย้ำทุกตอนในตอนท้ายเลยว่า ขอร้องเหอะอย่าทำตัวเป็นนักอ่านเงา
เห็นกันใช่มั้ยคะ? ตัวอักษรในตอนท้าย
แต่ทำไม?? ทำไมยังทำอย่างนั้นกันอยู่อีก
สำหรับคนที่เม้นต์ก็น่ารักนะคะ เพราะบางคนก็เม้นต์กันทุกตอนเลย ขอบคุณมากจริงๆค่ะ
ตังค์ดูคนที่เข้าชมทั้งหมดกับคอมเม้นต์ มันไม่ค่อยสมดุลกันเท่าไหร่นะ^^ว่ามั้ย?
คนที่แต่งนิยายด้วยกันคงเข้าใจใช่มั้ยคะว่าคอมเม้นต์น่ะสำคัญสำหรับไรเตอร์มากขนาดไหน
เพราะอย่างนั้น นิยายที่ตังค์เข้าไปอ่านทุกเรื่อง
ถ้าตังค์ไม่เม้นต์ทุกตอน ตังค์ก็จะเม้นต์ในตอนท้ายของทุกเรื่องเสมอ
ฉะนั้น ขอความกรุณาด้วยค่ะ
ดิทชื่อตอน 4/05/53
ไม่ต้อนรับนักอ่านเงา!!!!!
ความคิดเห็น